คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : my master dear - Chapter 2
02
เงื่อไขและวันเริ่มงาน
ฉันเดินออกมาจากห้องครัวไปหยิบกระเป๋านักเรียนที่วางอยู่บนโซฟาในห้องรับแขกแล้วตรงเข้าไปหาแม่ที่นั่งอยู่บนโซฟาข้างๆกับกระเป๋าเพื่อกอดท่านก่อนไปโรงเรียนอย่างทุกๆวัน
“เนไปโรงเรียนแล้วนะคะ”
“ไปดีมาดีนะลูก” แม่พูดพร้อมกับกอดตอบ
“อะไรกันๆ สองแม่ลูกกอดกันแต่เช้าเลยนะ ลืมนิวไปแล้วหรอกอดนิวด้วยสิ”เสียงที่คุ้นหูของบุคคลที่สามดังขึ้นมาทำให้ฉันกับแม่หันไปมองพี่นิวตั้นที่รีบวิ่งลงบันไดมาจากชั้นบนอย่ารีบร้อนเพราะกลัวว่าจะสาย แน่นอนว่าสาเหตุคือพี่นิวตั้นตื่นสายอีกแล้ว
“เห็นด้วย นันยืนตรงนี้เป็นอากาศมานานแล้วไม่มีใครสนใจเลย น่าน้อยใจที่สุด” นันตาที่เดินตามหลังฉันออกมาจากห้องครัวพูดขึ้นแต่ในมือยังถือขนมปังแผ่นจำนวนหนึ่งแผ่นอยู่เลย
“ไม่ต้องมาพูดดีเลยนะพวกลูกๆน่ะ คนนึงก็ตื่นสาย นอนก้นโด่งไก่ขันตั้งหลายรอบแล้วยังไม่ตื่น ลำบากแม่ขึ้นไปตะเบงเสียงปลุกเราได้ทุกวี่ทุกวัน ส่วนอีกคนก่อเรื่องได้ไม่เว้นแต่ละวัน ต้องคอยให้พวกพี่ๆเค้าไปคอยแก้ให้ตลอด +%(฿?*#(@)&!฿+ ฉอดๆๆ” แม่พูด(บ่น)ขึ้นมาอย่างเหลืออด
“แม่อย่าเพิ่งงงง >_< อย่าเพิ่งบ่นแต่เช้า ทำน่านิ่วคิ้วขมวดแต่เช้าเดี๋ยวหน้าก็เหี่วยหรอก ตอนเย็นๆค่อยบ่นนู่น” พี่นิวรีบพูดเบรกแม่
“หน้าเหี่ยว -O-!” แม่พูดอย่างตกใจ คือแม่ค่อนค่างจะเคร่งกับเรื่องใบหน้ามาก จะดูแลให้เป๊ะตลอดเวลา เห็นว่าเผื่อซักวันในชีวิตจะได้เจอเร็นก่อนตาย
“ใช่ค่ะ! อีกอย่าแถวบ้านเราไม่มีไก่นะแม่ เสียงไก่ขันมันจะมาจากไหน” พี่นิวตั้น
“ไม่มีเสียงจริงๆนะนันไม่เคยได้ยินเลยซักครั้ง ส่วนเรื่องนันไปก่อเรื่องก็ถือว่ามันเป็นสีสันกับครอบครัวเราแล้วกันเนอะ จะได้สนิทสนรักกันแน่นแฟ้น” นันตาพูด ว่าแต่มันเกี่ยวกันกับสนิทสนมรักกันด้วยหรอ -_-;
“แท็กซี่มาแล้วนะสาวๆ” กอนที่แม่จะได้พูดอะไรต่อไปก็ถูกขัดด้วยเสียงของพ่อที่ตะโกนดังเข้ามาในบ้านก่อน
“งั้นนิวไปก่อนนะแม่” พี่นิวตั้น
“เจอกันตอนเย็นนะคะ” นันตา
“เนไปแล้วนะคะ สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้แม่ก่อนจะวิ่งตามสองสาวพี่น้องออกไปขึ้นแท็กซี่และไม่ลืมที่จะไหว้สวัสดีพ่อที่ยืนอยู่หน้าบ้าน
“ไปโรงเรียนเซนต์คริสเตียนค่ะ” หลังจากที่ขึ้นมาบนรถเรียบร้อยแล้วพี่นิวตั้นที่นั่งอยู่ด้านหน้าข้างคนขับก็จัดการบอกจุดหมายปลายทางกับคนขับรถ
รอรถเคลื่อนที่ได้ซักพักฉันที่นั่งคู่กับนันตาที่เบาะหลังก็เปิดกระเป๋าแล้วหยิบหนังสือธรรมมะขึ้นมานั่งอ่านจะได้ไม่เสียเวลา แต่ขณะที่ฉันกำลังหยิบหนังสือยัยน้องสาวตัวดีก็เกิดอาการตาดีขึ้นมากระทันหัน
“ทำไมวันนี้พี่เนเอาหนังสือธรรมมะมาสองเล่มอ่ะ แถมยังแบบเดียวกันอีก”
“หือ?”หลังจากที่นันตาพูดจบพี่นิวตั้นก็หันมามองหน้าฉันอย่างแปลกใจ “ปกติก็พกติดตัวแค่เล่มเดียวตลอดนี่ เล่มนี้จะเอาไปให้ใครหรอ”
“เพื่อนน่ะค่ะ คนนี้พี่นิวกับนันไม่รู้จักหรอก” รู้ได้ไงว่าจะต้องเอาไปให้ใคร ฉันอาจจะเอาไปอ่านเองก็ได้
แต่จริงๆแล้วคือฉันจะเอาไปให้คิมหันต์น่ะ เป็นเหมือนกับของขวัญการรู้จักกันครั้งแรกถึงจะในฐานะลูกจ้างและนายจ้าง ส่วนที่บอดพี่นิวตั้นไปว่าเอาไปให้เพื่อนก็ไมาได้โกหกนะ เอทไปให้เพื่อนจริงๆแต่เป็นเพื่อนมนุษย์นะ เพราะถ้าบอกว่าเอาไปให้เจ้านายที่อายุเท่าตัวเองและต้องแทบไปสิงอยู่กับเจ้านายคนนั้นล่ะก็....บ้านแตกแน่ๆ
เพราะพี่นิวตั้นและนันตาถามทำให้ฉันนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ขึ้นมา
ย้อนอดีต
เมื่อวาน ห้องวิทย์โรงเรียนนานาชาติวิลตัน
“ตกลงเธอเป็นใคร แล้วรู้ชื่อฉันได้ยังไง”
“ฉันชื่อเนเธอร์ค่ะ เป็นเพื่อนกับใยไหมที่มาทำงานใช้หนี้แทน” ฉันตอบอย่ากล้าๆกลัวๆเนื่องจากเดาอารมณ์คนตรงหน้าไม่ออกเลยซักนิด
“อ๋อ เธอนี่เอง ว่าแต่เธอหน้าตาคุ้นๆนะ” ขอบอกก่อนว่านี่ไม่ใช่มุกจีบสาวนะ แต่ว่าเราเคยเจอกันจริงๆ ผ่านมาไม่กี่ชั่วโมง ยังไม่ข้ามวันเลยด้วยซ้ำจำฉันไม่ได้แล้วเหรอ T^T
“คือ...คุณช่วยฉันเอาไว้เมื่อเช้าตอนตกต้นไม้”
“...” เขาทำหน้าคิดหนักเหมือนกับจำไม่ได้ เอาเถอะจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร “คุ้นๆนะ แต่ช่างเถอะเพราะยังไงตอนนี้ฉันก็คือเจ้านายของเธอ”
“…อ่า”
“ฉันจะให้เธอมาทำหน้าที่คอยดูแลฉัน เป็นคนสนิทที่ต้องติดตามเป็นคนคอยรับใช้ฉันตลอดเวลา” ตลอดเวลา! แล้วฉันจะเอาเวลาไหนไปเรียนล่ะ เวลาอยู่ทั่บ้านด้วย ขอคำจำกัดความของคำว่าตลอดเวลาของคุณหนูคิมหันต์ด้วยเถอะค่ะ U_U!
“แล้วฉันจะเอาเวลาไหนไปเรียนล่ะค่ะ -O-”
“ก็เรียนปกตินั่นล่ะ เวลากลับบ้านก็กลับบ้าน แต่ตอนเลิกเรียนและวันเสาร์อาทิตย์เธอต้องมททำงานให้ฉัน เข้าใจมั้ย” แล้วมันตลอดเวลาตรงไหนหรอ
“เข้าใจค่ะ”
“แล้วเวลาที่ฉันเรียก ไม่ว่าเธอจะทำอะไรอยู่หรืออยู่ที่ไหนก็ตามเธอจะต้องรีบมาหาฉันทันที” งานหนักเหมือนกันนะ แต่เพื่อใยไหมฉันสู้! “ว่าแล้วก็เอาเบอร์มือถือกับไลน์เธอมา เวลาติดต่อจะได้ไม่ยุ่งยาก”
ฉันจัดการบอกเบอร์มือถือและไอดีไลน์กับคุณหนูคิมหันต์ไป ฉันไม่เคยคิดแบบนี้เลยนะ แล้วก็ไม่เคยคิดจะคิดด้วย แต่ทำไมฉันรู้สึกเหมือนจะมีเรื่องที่ยุ่งยากเกิดขึ้นกับชีวิตฉัน
“แล้วคุณหนูจะให้ฉันเริ่มงานวันไหนดีคะ”
“พรุ่งนี้ก็แล้วกัน เธอจะได้มีเวลาเตรียมตัว และอีกเรื่อง”
“…”
“คิมหันต์…”
“คะ? คุณหนูหมายความว่า?” คือฉันงงว่าเขาจะเรียกชื่อตัวเองทำไม
“เรียกฉันว่าคิมหันต์ คุณหนงคุณหนูอะไรนั่นไม่ต้อง แค่นี้ไม่เข้าใจหรือไงยัยโง่!” ก็ไม่เข้าใจไงถึงถาม เรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องด่ากันว่าโง่เลย ._. อันที่จริงเขาเป็นคนแรกเลยที่ด่าฉันว่าโง่
“เมื่อกี้ไม่เข้าใจแต่ตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะ”
จบการย้อนอดีต
ฉันนั่งคิดถึงเรื่องเมื่อวานไปเรื่อยพลางมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ฉันจะรับมือกับคิมหันต์ยังไงดีนะ เพราะเมื่อวานตอนเย็นหลังจากกลับถึงบ้านฉันก็โทรไปหาใยไหมและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เธอฟัง ก็ได้รับคำตอบว่าให้เตรียมตัวหาทางรับมือให้ดีเนื่องจากคิมหันต์เอาแต่ใจมาก ขี้โมโหมาก แถมยังชอบมีเรื่องเตะต่อยด้วยฝีมือร้ายกาจมากๆอีกตางหาก ฟังจากที่ใยไหมเล่ามาก็สุดๆไปเลย
~ไลน์~
เสียงไลน์ดังขึ้นขัดความคิดของฉัน พอฉันหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นคิมหันต์นั่นเอง แน่นอนว่าการกระทำทุกอย่าของฉันอยู่ในสายตาของสองพี่น้องนิวตั้นและนันตา
HOT_SEASON(kimhan) : เย็นนี้มาหาฉันที่โรงเรียน
HOT_SEASON(kimhan) : เลิกเรียนแล้วรีบมา ห้ามสาย!
ฉันอ่านข้อความในมือถือและส่งสติกเกอร์ไลน์เป็นคำว่าโอเคกลับไป รอซักพักก็ขึ้นคำว่าอ่านแล้ว เห็นอย่างนั้นฉันจึงเก็บมือถือใส่ในกระเป๋าเหมือนเดิม แน่นอนว่าสองพี่น้องยังจ้องอยู่เหมือนเดิม
“ใครอ่ะชื่อไม่คุ้นเลย” นันตาถามขึ้นอย่างสงสัย แอบอ่านงั้นหรอ
“เพื่อนใหม่ที่จะเอาหนังสือธรรมมะไปให้ไง”
“อ้อ”
นันตาไม่ได้พูดอะไรต่อเราสามคนก็มาถึงโรงเรียนพี่นิวตั้นเลยควักเงินจ่ายกะบแท็กซี่ไปและเราทั้งหมดก็ลงมาจากรถ ค่าแท็กซี่เราจะผัดกันจ่ายตามเวรที่จัดเอาไว้ในกรณีที่ขึ้นด้วยกันสามคน หลังจากนั้นจึงแยกย้านกันไปเข้าห้องเรียนก่อนจะถึงเวลาเคารพธงชาติ
“เนธ! อรุณสวัสดิ์” ใยไหมวิ่งมาแตะไหล่ฉันจากทางด้านหลังขณะที่กำลังจะเข้าห้องเรียน ฉันก็อรุณสวัสดิ์ใยไหมกลับก่อนจะพากันเดินเข้าห้องเรียนไปวางกระเป๋าและเตรียมตัวไปเคารพธงชาติด้านล่าง
“แล้ววันนี้เนธจะไปหาคุณหนูคิมหันต์มั้ย?”
“ไปจ๊ะ เริ่มงานวันนี้ไงอย่างที่บอก” ฉันกับใยไหมเดินลงบันไดไปสนามด้านล่างเพราะอีกประมาณสิบห้านาทีก็จะแปดโมงแล้ว ระหว่างทางก็คุยกันเรื่องการทำงานของฉันในครั้งนี้ไปด้วย
“เมื่อวานนี้ฉันยังไม่ได้บอกเธอใช่มั้ย เกี่ยวกับรายละเอียดของคุณหนู”
“ยังเลย” ฉันส่ายหน้า
“คุณหนูอยู่บ้านกับพ่อบ้านและคนรับใช้ ส่วนคุณท่านคุณพ่อของคุณหนูกับคุณนายคุณแม่ของคุณหนูไปดูงานที่อังกฤษสองเดือน อีกประมาณเดือนครึ่งถึงจะกลับไทย แต่ก็ไปๆมาๆไม่ค่อยได้อยู่บ้านานๆหรอก” อยู่บ้านคนเดียวกับพ่อบ้านอีกคน เหงาแย่เลยแฮะ “จริงๆแล้วคุณหนูมีน้องสาวอยู่หนึ่งคน แต่ว่าฉันไม่เคยเจอหรอกนะคิดว่าคงจะไปอยู่อังกฤษกับคุณๆทั้งสองล่ะมั้ง"
“งั้นคิมหันต์ก็อยู่บ้านคนเดียวน่ะสิ"
“อืม ประมาณนั้น แต่เห็นว่าคุณหนูรักน้องสาวคนนี้มากๆเลยนะ แล้วฉันก็เคนเห็นรูปแล้วด้วยสวยแล้วก็น่ารักมากๆดูแล้วน่าถนุดถนอมสุดๆ เสียอย่างเดียวว่าร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง"
น่าสงสารคิมหันต์อยู่บ้านคนเดียงคงเหงาถึงจะมีพ่อบ้านแม่บ้านแต่จะสู้ได้อยู่กับพ่อแม่จริงๆได้ยังไง ไหนจะน้องสาวที่เขารักมากคนนั้นอีก น่าจะได้อยู่ด้วยกันแทนที่จะแยกจากกันนะ หลังจากนั้นใยไหมก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับคิมหันต์เท่าที่รู้มาจนถึงเวลาเคารพธงชาติ
เลิกเรียน
15.30 น.
ตอนนี้ฉันกำลังนั่งอยู่บนรถแท็กซี่ที่กำลังมุ่งหน้าไปโรงเรียนนานาชาติวิลตันตามคำสั่งของคิมหันต์ ฉันหยิบมือถือมาจากกระเป๋ากดเบอร์ของนันตาอพื่อนที่จะโทรไปบอกว่าจะกลับบ้านช้าหน่อย
[ว่าไงพี่เน]
“นันวันนี้พี่จะกลับบ้านช้าหน่อยนะ นันกับพี่นิวกลับกันไปก่อนได้เลย”
[ว่าไงนะ!!!!!]
ฟังจากเสียงตอบรับจากปลายสายก็ไม่ค่อยต่างจากที่คิดซักเท่าไหร่เนื่องจากชีวิตนี้ฉันแทบจะไม่เคยกลับบ้านช้าเลย อาจจะเคยมีบ้างแต่นานๆครั้ง ขอย้ำคำว่านานหลายๆรอบนะเพระว่านานจริงๆ ปกติเลิกเรียนก็จะนั่งรถกลับบ้านพร้อมกับพี่น้องเลย
“พี่ว่านันน่าจะนั่งสมาธิหน่อยนะ ตอนนี้นันดูไม่ค่อยมีสติเลยอพราะพี่ว่าพี่พูดเสียงดังฟังชัดแล้วแน่ๆ อีกทีนะ วันนี้พี่จะกล้บช้าเพราะติดธุระ นันกับพี่นิวกลับกันไปก่อนได้เลยไม่ต้องเป็นห่วง”
[โถ่ พี่เนอ่ะ นันแค่อุทานเฉยๆไม่เห็นต้องเทศกลับซะยาวเลย แต่ธุระของพี่เนสำคัญขนาดนั้นเลยหรอ ถึงกับยอมกลับบ้านช้า]
“สำคัญมาก เพราะมันเกี่ยวกับความอยู่รอดของชีวิตเพื่อนพี่และครอบครัว” ตอบความจริงไป เพราะถ้าฉันไม่ทำครอบครัวใยไหมอดตายแน่ ในฐานะเพื่อนสนิทฉันต้องช่วยเธอ ส่วนเรื่องงานพาร์ททามใยไหมผ่านแล้ว พี่ที่ฉันรู้จักเขาให้ใยไหมผ่านและเริ่มงานได้วันพรุ่งนี้
[แต่พี่เนแทบไม่เคยกลับบ้านช้าเลยนะ! มันเป็นอะไรที่เป็นไปไม่ได้!!]
“นันตาน้องรัก พี่ขอให้น้องอยู่ในความสงบและท่องศีลห้าไปพลางๆนะ จะได้ใจเย็นลง”
[โถ่พี่…TOT]
“งั้นแค่นี้ก่อนนะนัน”
[เดี๋ยวสิพี่...]
ฉันกดวางสายเพราะมาถึงหน้าโรงเรียนนานาชาติวิลตันแล้ว จัดการจ่ายเงินค่ารถแท็กซี่และลงมาจากรถ โรงเรียนของฉันกับคิมหันต์ไม่ไกลจากกันซักเท่าไหร่ประมาณสิบห้านาทีก็ถึง ค่าแท็กซี่เลยไม่ค่อยเป็นที่ปวดใจซักเท่าไหร่
เนื่องจากที่ฉันไม่รู้ว่าคิมหันต์จะให้ไปหาที่ไหน พอไลน์ไปถามก็ไม่อ่าน หรือฉันควรจะขึ้นไปห้องเรียนชั้น m5/1 แล้วสอบถามว่าคิมหันต์อยู่ที่ไหนอีกดีมั้ยนะ แต่ถึงแม้ว่ามันจะไม่ดีฉันก็ต้องทำ เพราะมันไม่มีทางอื่นแล้วนี่
พอตัดสินใจได้ฉันก็เดินไปตึกเรียนของพวกมอห้าและเดินขึ้นไปชั้นสาม แต่พอฉันอยู่หน้าห้องกำลังจะเข้าไปก็ต้องชะงักเพราะอยู่ๆก็มีคนเปิดประตูออกมา แน่นอนว่าคนคนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากสีน้ำเงิน พอเขาเห็นฉันเขาก็ทักทายพร้อมรอยยิ้มแสนอ่อนโยน
“อ้าวเนเธอร์ สวัสครับ มาหาคิมหันต์หรอ?”
“สวัสดีจ๊ะ” ฉันพูดพร้อมกับพยักหน้าให้สีน้ำเงิน “ว่าแต่คิมหันต์อยู่ในห้องเรียนมั้ย?”
“ไม่อยู่หรอก มันอยู่ที่ชมรมน่ะ”
“แล้วชมรมที่ว่าเนี่ยอยู่ที่ไหนหรอ” ฉันถามเนื่องจากไม่รู้จริงๆ จะอยู่ที่ห้องชมรมก็ไม่บอกกันบ้านเลยฉันจะได้ไม่ต้องขึ้นมาที่นี่ให้เสียเวลา
“เดี๋ยวฉันนำทางเอง ^^” เขาว่าพร้อมกับเดินนำฉันไปอีกแล้ว ช้างเป็นคนที่มีน้ำใจจริงๆนะ รู้จักกันไม่เท่าไหร่แต่ให้ความช่วยเหลือฉันตลอดเลย เหมือนเจ้าชาย ฮีโร่ ผู้พดุงความยุติธรรม
ใช้เวลาไม่นานเราสองคนก็มาถึงหน้าโรงยิมสอง(มีหลายยิม)อันเป็นที่ตั้งของชมรมเทควันโด ฟังจากที่สีน้ำเงินเล่ามาคิมหันต์อยู่ชมรมเทควันโด เป็นสายดำด้วยนะ เห็นว่าเก่งสุดๆไปเลย นอกจากนี้ก็ยังชอบเล่นกีฬาอีกหลายชนิดและเล่นได้ดีด้วยนะ เช่น บาสเกทบอล แทนนิส ฟุตบอล
“สีน้ำเงินเข้าไปด้วยกันมั้ย” ฉันถามเพราะเขากับคิมหันต์น่าจะเป็นเพื่อนกัน
“ไม่ล่ะ แล้วไม่ต้องบอกมันนะว่าฉันมาส่ง สัญญานะ” ดูมันไม่ค่อยจะธรรมดาแล้ว ทำไมรูปประโยคมันดูแปลกๆ
“อืม สัญญาก็ได้” แต่สุดท้ายฉันก็สัญญาออกไป เพราะฉันก็ไม่ค่อยอยากจะเข้าไแยุ่งเรื่องส่วนตัวของใครซักเท่าไหร่ “งั้นฉันไปแล้วนะ ขอบคุณมากที่มาส่ง”
สีน้ำเงินยิ้มนิดๆและเดินกลับไปทางเดิม ฉันเลยค่อยๆเดินเขาไปในโรงยิม แน่นอนว่ามันก็เหมือนกับโรงยิมทั่วไปเพัยงแต่กว้างและดูสะอาดมาก ด้านในมีสมาชิกของชมรมกำลังฝึกซ้อม มีเสียงตะโกนบางทีก็มีเสียงทุ่มคนลงพื้น -_-; และสายตาฉันก็ไปประทะเข้ากับคนคนหนึ่งที่กำลังฝึกซ้อมกับคนในชมรมอีกคน แน่นอนว่าคิมหันต์นั่นเอง ตอนนี้เขาอยู่ในชุดที่ใส่เล่นกีฬาเทควันโดโดยที่เอวมีสายคาดสีดำคาดอยู่ ฉันยินมองอยู่ซักพักก็เห็นว่าเขาทั้งเตะ เตะสูง สุดท้ายก็จับทุ่ม
เมื่อคิมหันต์ชนะคู่ต่อสู้เขาก็หันมามองหน้าฉัน คุยกับคู่ฝึกซ้อมอีกซักหน่อยและเดินมาหาฉันที่ยืนรออยู่ที่มุมหนึ่งของยิม
“มาถูกด้วย?” ทำไมถามเหมือนไม่อยากให้ฉันมาถูกเลยล่ะ -O-
“ถามคนในโรงเรียนมาน่ะ ว่าแต่นายจะให้ฉันเริ่มทำงานอะไรหรอ” ฉันถามอย่างขยัน ให้เขารู้หน่อยว่าฉันทำงานได้แน่ๆ
“ไฟแรงดีนะ รออยู่ตรงนี้ก่อนก็แล้วกัน ฉันไปเปลี่ยนชุดก่อนแล้วค่อยไปบ้านจะได้เริ่มงานกันซักที” คิมหันต์ว่าแล้วเดินไปทางประตูทางออกของโรงยิม เดินออกไปเงียบโดยทีามีสายตาของฉันและคนอื่นๆมองอยู่ พอคิมหันต์ออกไปแล้วคนอื่นๆในยิมก็หันมามองฉันแทน มองเสร็จแล้วทำไมต้องซุบซิบด้วยนะ -_-;
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
มาอีกตอนแล้วววววจ้า ผลของการซุบซิบนินทาของคุณๆ
จะปรากฏออกมาตอนมะรืนนะคะ~มีการวีดว้ายกรี๊ดกร๊าด(?)เกิดขึ้น
จะพยายามลดทอนคำด่าให้น้อยที่สุด ^^; ทำไมแลดูสปอยเนอะ
ถ้าสั้นไปขอโทษน้า ตอนนึงจะเริ่มยาวประมาณนอนที่สิบขึ้น
แต่ถ้าใครอยากได้สั้นๆขอให้บอกจะจัดให้ไม่อยากขัดสัธรา
1คอมเม้น+1แฟบ+1โหวด = กำลังใจเกินร้อยของไรท์เตอร์
ความคิดเห็น