คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : Yagyuu Hiroshi & Haku Hakuno Series 5 part 3 : ห้องอาหาร
Yagyuu Hiroshi & Haku Hakuno
Series 5 part 3 : ห้องอาหาร
ยางิวมาซ้อมรอบเย็นที่ชมรมเหมือนอย่างเคยและหลังจากที่เขาซ้อมตีโต้กับนิโอที่คอร์ดเสร็จร่างสูงก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำที่หลังชมรมเพื่อล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นรับการซ้อมครั้งต่อไป
ร่างสูงยกมือใหญ่ถอดแว่นที่ตาของตนเองออกวางไว้บนขอบอ่างล้างหน้าก่อนจะเปิดก๊อกน้ำแล้ววักเอาน้ำสีใสลูบหน้าเพื่อดับความร้อนในอุณหภูมิร่างกายของตน
ซ่า … แกร๊ก
เมื่อล้างหน้าของตนเองเสร็จ ยางิวก็เอื้อมมือไปปิดก๊อกน้ำ เด็กหนุ่มใช้ผ้าขนหนูสีขาวที่พาดคออยู่ขึ้นมาเช็ดหน้าแล้วไม่ลืมหยิบแว่นมาเช็ดสะเก็ดน้ำที่กระจกสีใสนั่นออกก่อนสวมแว่นเข้าที่ตาอีกครา
“หืม .. คู่นั้นใกล้จบแล้วหรอ”
“เกมว้อนท์บายยูคิมูระ 6-4!!”
มารุอิประกาศคะแนนแล้วกระโดดลงมาจากเก้าอี้ของกรรมการ ยางิวได้ยินดังนั้นจึงเดินมานั่งบนเก้าอี้ยาวตัวเดิมหากแต่คนละตัวกับนิโอเพราะจอมหลอกลวงเล่นนอนเหยียดยาวครอบครองเก้าอี้ตัวนั้นตัวเดียวนี่นา …
“กัปตันครับ!!ผมขอไปเอาของที่โรงเรียนก่อนนะครับ!”
คิริฮาระโพล่งขึ้นแล้ววิ่งออกไปทันที ยางิวตกใจเล็กน้อยกับน้ำเสียงของเจ้าเด็กแสบพลันเจ้าตัวก็วิ่งหายออกไปจากชมรมก่อนเสนาธิการของชมรมจะเดินมาเก็บของแล้วเดินออกไปจากชมรมในเวลาไล่เลี่ยกัน … พักนี้เขาได้ยินมาว่ายานางิต้องสอนพิเศษเลยต้องกลับเร็วกว่าเดิมถึงหนึ่งชม.เลยทีเดียว
“ยางิว ~ ฉันขี้เกียจซ้อมแล้วอ่ะ”
จอมหลอกลวงพลิกตัวจากที่นอนหงายบนเก้าอี้ยาวกลับมานอนคว่ำเท้าคางมองคู่หูของตนที่กำลังกระดกน้ำในขวดอยู่ด้วยความกระหาย ยางิวลดขวดน้ำลงแล้ววางข้างตัวก่อนหันกลับไปมองคู่หูของตนที่นอนยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ตรงเก้าอี้ด้านข้าง
“แก้มนาย … โดนใครตบมาอีกแล้วล่ะนิโอคุง”
ยางิวขมวดคิ้วพลางขยับแว่นมองไปทางแก้มใสของนิโอที่มีรอยมือแดงจางๆประทับอยู่ นี่ถ้าหากไม่สังเกตดีๆล่ะก็ไม่มีทางเห็นแน่ … นี่เป็นรอยที่สองที่ยางิวสังเกตเห็นมาแล้วนะ
“ปุริ ~ นายเห็นด้วยหรอน่ะ คนอื่นไม่ยักเห็นแฮะ”
“ก่อเรื่องมาอีกแล้วสินะ”
สุภาพบุรุษหันหน้ากลับไปก่อนหยิบแร็กเก็ตมาไว้ในมือแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทันที นิโอเงยมองตามเพื่อนคู่หูของตนก่อนจอมหลอกลวงจะลุกขึ้นนั่งแทน
“เฮ้ยางิว ก็บอกว่าขี้เกียจซ้อมไงเล่า ….”
“ฉันไม่ได้บอกว่าจะซ้อมกับนายซักหน่อย”
“ปุริ ?”
นิโออุทานออกมาตามฉบับของตนก่อนเด็กหนุ่มจะทอดสายตามองแผ่นหลังของยางิวที่เดินออกไปหายูคิมูระที่คอร์ดเทนนิสด้านหน้าโดยคอร์ดหลังมีมารุอิกับแจ็กกัลป์พากันซ้อมอยู่
“ยูคิมูระคุง ไปซ้อมกับฉันหน่อยสิ”
“หืม … ได้สิ”
ยูคิมูระเผยยิ้มบางให้ยางิวก่อนเดินออกไปฝั่งตรงข้ามที่ถูกกั้นเขตแดนโดยเนตตาข่ายสีขาวอยู่ การซ้อมตอนเย็นผ่านไปอย่างราบรื่นโดยไร้เงาหัวของจักพรรดิ … แน่สิ ก็เขาไปเฝ้าจักพรรดินีนี่นา
…………………………………………………………………………………………………………………
ต่อมา …
หลังจากยางิวกลับถึงบ้านเขาก็พบว่าวันนี้ญาติทางฝ่ายพ่อมาเยี่ยมครอบครัวถึงบ้านไม่ว่าจะเป็นคุณปู่ คุณย่า คุณน้า คุณอา … ยางิวรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยหากแต่ก็ไม่ได้ตื่นตระหนกอะไรมากมายนัก
“แหมๆ ฮิโรชิเองก็เป็นหนุ่มแล้วเนี่ยดูซิหล่อเชียว”
น้าสาวพูดขึ้นก่อนเอื้อมมือไปดึงแก้มของหลานชายซึ่งนั่งอยู่ข้างตน ยางิวหน้าแหยตามแรงดึงเล็กน้อยพลางมือใหญ่ก็ดันแว่นของตนขึ้นสันจมูก … เขาเพียงแต่เผยยิ้มบางๆออกไปเท่านั้นหากแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“เมื่อตอนนั้นยังเห็นวิ่งเล่นกับน้องอยู่เลยตอนนี้มานั่งขรึมเป็นผู้ใหญ่เชียวนะพ่อหลานชาย”
คนเป็นอาพูดพลางหัวเราะก่อนมือใหญ่ของชายหนุ่มจะเอื้อมมือไปยีหัวของยางิวบ้าง เด็กหนุ่มรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยที่ถูกกระทำเหมือนตัวเองเป็นเด็ก แต่ก็ทำได้เพียงพยักหน้าแล้วเผยยิ้มบางรับ
“พี่คะ พูดอะไรหน่อยสิ”
ฮิโรโกะเผยยิ้มกว้างออกไปบ้างก่อนหันไปกระซิบให้พี่ชายของตน … ยางิวหันมองหน้าน้องสาวของตนเล็กน้อย
“ฮาคุโนะไปไหน?”
เด็กหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน
“พี่สาวอยู่ ……”
“เอ้าๆ กระซิบอะไรกันล่ะนั่นน่ะ”
คนเป็นพ่อเอ่ยถามออกมาเมื่อเห็นลูกทั้งสองสุมหัวซุบซิบกันอยู่ ฮิโรโกะหันไปยิ้มแหยให้พ่อของตนทันทีก่อนลุกขึ้นไปยืนบังหน้าพี่ชายของตนไว้แล้วทำสัญลักษณ์เป็นเชิงว่าเด็กสาวที่เขาถามหาอยู่ข้างบน
ยางิวพยักหน้าก่อนดันแว่นขึ้นสันจมูกพลันร่างสูงใหญ่ก็ลุกขึ้นจากโซฟาสีครีมนี่ทันที
“ผมขอตัวนะครับพ่อ .. ”
“จะไปไหนเล่าหลานชาย ปู่กับย่าอุตส่าห์มาหา”
“ใช่ น้ากับอาก็ด้วยเนี่ย”
“ต้องไปทำการบ้านครับ”
เด็กหนุ่มหันกลับมาตอบบรรดาครหาญาติวงศ์ของตนพลางเผยยิ้มบางไปด้วยก่อนร่างสูงจะเดินออกไปจากห้องนั่งเล่น
“ฮิโรชิมันโลกส่วนตัวสูงแบบนี้นั่นแหละค่ะ อย่าไปถือสาเลยเด็กมันกำลังโต”
ผู้เป็นแม่เผยยิ้มแห้งๆก่อนมองค้อนแผ่นหลังลูกชายของตน … รู้หรอกน่าว่าจะไปไหนน่ะ
ตึก ตึก ตึก ตึก
“ฮาคุโนะ”
เด็กหนุ่มร่างสูงเดินขึ้นบันไดพลางออกปากเรียกหาเด็กสาวไปด้วย … ทำไมพักนี้เขาถึงได้ติดเธอจังเลยนะ
“ฮิโรชิคุง ทางนี้จ้า > <”
ร่างบางโผล่หน้าออกมาจากห้องครัวก่อนวิ่งไปยืนหน้าบันไดแล้วเรียกชื่อของเด็กหนุ่ม เธอไม่ได้ตะโกนหรอกนะก็เกรงใจญาติของร่างสูงนี่นา
“หืม .. เธอไปทำอะไรในห้องครัวน่ะ”
“ฉันแค่อยากมาทำ … อ๊ะ! ฮ .. ฮิโรชิคุง”
ยางิวหันหน้ากลับมามองทางเด็กสาวทันใดฉับพลันแววตาคมคายก็เหลือบไปเห็นว่าที่หัวเข่าของฮาคุโนะมีผ้าพันแผลพันอยู่ด้วย เด็กหนุ่มไม่รอช้าเขาตรงรี่ไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าร่างบางแล้วแตะผ้าพันแผลที่มีรอยยาแดงซึมออกมาเล็กน้อยก่อนใบหน้าคมคายจะเงยหน้ามองขึ้นไปหาเด็กสาว
ฮาคุโนะหน้าแดงระเรื่อกับการกระทำของเด็กหนุ่มเธอรีบหันหลังให้ร่างสูงพลางสะบัดหน้ารัวๆเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไรแทนการพูดออกไป
“หันกลับมา จะหันหนีทำไม”
ยางิวเอ่ยปากดุเด็กสาวตรงหน้า … แหม ก็เธอเขินนี่นา …
“ม … ไม่เป็นไรหรอก”
“หันกลับมา”
เด็กหนุ่มยังคงยืนยันคำเดิมกับร่างบางตรงหน้า ฮาคุโนะนิ่งไปก่อนสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่แล้วทำใจกล้าหันกลับไปหาร่างสูงพร้อมทั้งหลับตาปี๋
ยางิวเผยยิ้มบางมองการกระทำของเด็กสาวก่อนเขาจะสำรวจรอยแผลบนหัวเข่าของเธอที่ถูกผ้าพันแผลบดบังไว้ … มือใหญ่เอื้อมไปแตะที่ผ้านั่นอีกคราอย่างเบามือแต่มันก็ทำเอาเธอสะดุ้ง
“ค … คือว่า … ฉันหกล้มตอนคาบพละน่ะจ้ะ”
“งั้นหรอ”
จู่ๆฮาคุโนะก็โพล่งขึ้นมาแก้เก้อ ใบหน้าหวานของเธอยังคงแดงซ่านด้วยความเขิน ยางิวเอ่ยรับหากแต่เขาก็ยังไม่ผละสายตาจากบาดแผลของเธออยู่ดี
“ล … แล้ว … แล้วผู้ชายที่ชื่อยูคิมูระก็อุ้มฉันไปส่งห้องพยาบาล …”
“ยูคิมูระคุง ? ฮึ … ไม่แปลกหรอก”
ยางิวเอ่ยพลางเผยยิ้มอีกครั้งแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มือใหญ่เอื้อมไปยีหัวของเด็กสาวเบาๆอย่างอ่อนโยนก่อนเขาจะเดินนำเธอกลับเข้าไปในห้องครัวอีกครั้ง
“ฮิโรชิคุงกลับมาเหนื่อยๆเดี๋ยวฉันทำเองดีกว่า”
เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มเดินไปหยิบบรรดาผักสดบนโต๊ะอาหารที่เธอเตรียมไว้ออกมาล้างที่อ่างล้างจาน ฮาคุโนะจึงถลาไปดึงมือของเขาไว้ทันที เธอขมวดคิ้วมองเด็กหนุ่มเล็กน้อยอย่างน่ารัก
เพราะแบบนี้ไง … ยางิวถึงได้อยากแกล้งเธอนักน่ะ
“ฉันเห็นผู้หญิงลำบากไม่ได้หรอก”
“ผู้หญิงทุกคนเลยหรอ?”
คำถามของเด็กสาวทำเอายางิวต้องหันหน้ากลับไปมองเธออีกครั้ง ฮาคุโนะมองค้อนเขาเล็กๆ
“อืม … ทุกคนเลยน่ะสิ”
“… ฮิโรชิคุงใจดีนี่นา … ไม่แปลกหรอก”
“แปลกสิ”
เด็กสาวก้มหน้างุดๆพลางบ่นมุบมิบหากแต่คำพูดของยางิวอีกประโยคนึงทำให้เธอต้องหันกลับไปมองเขาอีกครั้งอย่างอดไม่ได้ ยางิวเผยยิ้มปริศนาออกมา
“เพราะฉันใจดีเป็นพิเศษกับผู้หญิงที่ชื่อฮาคุโนะเท่านั้น”
เด็กหนุ่มโพล่งออกมาดื้อๆพลางมือใหญ่ก็ล้างกระหล่ำปลีในอ่างล้างจานไปด้วย … เขาทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ว่าพูดอะไรไปแต่คนฟังนี่สิหน้าแดงเถือก ใจเต้นระรัวจนแทบจะเป็นบ้าตาย
เพียะ!
“ฮิโรชิคุงบ้า!”
“อะไรล่ะ ฮึ?”
มือบางตีเข้าที่แขนของร่างสูงอย่างหมั่นไส้ก่อนเธอจะหันกลับไปที่โต๊ะอาหารเพื่อหันแคทรอทต่อทันที ยางิวขำออกมาก่อนเอ่ยปากถามออกไปพลางเหลือบสายตามองเด็กสาวที่มุ่ยหน้าอมยิ้มอยู่
“ป … เปล่านี่นา”
ฮาคุโนะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แลดูเลิ่กลั่กเล็กน้อยทำเอาร่างสูงอดจะยิ้มออกมาอีกครั้งไม่ได้ …
“แหม หนีมาจีบกันอยู่นี่เอง”
จู่ๆน้ำเสียงใหญ่ของผู้เป็นพ่อก็ดังขึ้นที่หน้าประตู เพราะแม่กับฮิโรโกะออกไปซื้อของมาช่วยกันทำอาหารหลังฝากงานในห้องครัวให้เด็กสาวและบรรดาญาติที่มาเยี่ยมต่างก็นั่งเล่นกันอยู่ในห้องรับแขก เขาจึงใช้โอกาสนี้ดอดออกมาแซวลูกชายของตน
ยางิวหันกลับมามองพ่อของตนก่อนดันแว่นแล้วหันกลับไปล้างผักที่เหลือต่อ .. เด็กหนุ่มทำทีว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผิดกับเด็กสาวที่ส่งยิ้มแหยให้พ่อของเขาพลางหน้าแดงระเรื่อ
“วันนี้อากับน้าขอนอนห้องฮิโรโกะส่วนปู่กับย่าจะนอนห้องฉันกับแม่แก”
“……………………………….”
“เพราะงั้นให้ฮาคุโนะจังเค้านอนห้องแกละกันนะฮิโรชิ”
“ !! … / อ เอ๋?!”
ฮาคุโนะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ยางิวหันกลับมามองพ่อของตนเองทันที
“อะไรเล่าไอ้ลูกชายหน้าตาแบบนั้น”
ผู้เป็นพ่อเผยยิ้มกวนให้ลูกชายคนโตของบ้าน … ถ้าไม่บอกเขาก็ไม่รู้เลยนะว่าพ่อของตนเป็นหมอประจำตัวผู้จัดการสาวของชมรมเขาน่ะ … ท่าทางกวนโอ้ยซะไม่มี
“ให้คุณน้ากับคุณอามานอนห้องผมก็ได้ … ผมไม่ว่า”
“เขาตกลงกันแล้วแบบนั้นนี่หว่า นอนๆไปเถอะน่าแค่อาทิตย์เดียวเอง”
“พ่อครับแต่ว่า ….!!”
“ไปอาบน้ำดีกว่าว่ะ พ่อง่วงละ ฮ้าว ~”
ผู้นำของครอบครัวทำทีว่าง่วงนอน ชายหนุ่มเอามือใหญ่ปิดปากตนเองก่อนเดินบิดขี้เกียจออกไปทันที ยางิวได้แต่มองค้อนตามหลังพ่อของตนอย่างอดไม่ได้ถึงแม้เขาจะไม่ใช่พวกฉวยโอกาสก็เถอะ
‘แต่แบบนี้มันก็ไม่เข้าท่าเหมือนกันไม่ใช่รึไงนะ’ ยางิวครุ่นคิดอยู่ในหัว ..
“เอ่อ …. เดี๋ยวฉันนอนข้างล่างก็ได้นะ”
“หืม ?”
คำพูดของเด็กสาวเรียกสายตาจากยางิวได้ทันที …
“ก็ …. มันดูไม่ดีนี่นา”
“ฮึ … ไม่เป็นไรหรอกน่า …”
หากแต่ยางิวกลับส่ายหน้าเบาๆแล้วเผยยิ้มบางให้เธอแทน … ฮาคุโนะหน้าแดงจางๆกับรอยยิ้มนั่น
“ … แต่ว่า ….”
“ทำไมล่ะ นอนกับฉันมันแย่ขนาดนั้นเลยรึไง”
“…ป เปล่านะ ไม่แย่เลย!”
ฮาคุโนะรีบแย้งประโยคล่าสุดที่ยางิวเอ่ยออกมา … เธอแค่อายต่างหากถึงจะรู้ว่ายางิวเป็นสุภาพบุรุษก็เถอะ แต่เธอก็อดที่จะคิดถึงใจเขาไม่ได้นี่นา
“งั้นก็เลิกคิดมากได้แล้ว”
ยางิวเอื้อมมือที่เปียกน้ำไปยีหัวเธออย่างลืมตัว .. เมื่อเห็นดังนั้นเด็กหนุ่มจึงรีบชักมือกลับทันที
“ขอโทษนะ เผลอไปน่ะ”
เผลออะไรท่านสุภาพบุรุษ … เผลอใจไปรึยัง ?
To be continued
.......................…………………………………………………………………………………………………………………
ทำไมพักนี้เหนื่อยเหลือเกิน พล็อตเรื่องไม่ค่อยลื่นไหลเลยค่ะ T^T
ถ้าแต่งออกมาไม่ดียังไงก็ขอโทษด้วยนะคะ คำผิดอาจจะเยอะหน่อยเพราะในหัวตีกัน
มึน เบลอ งง ต้องทำงานด้วยแต่งฟิคไปด้วย แอร๊ย ชีวิตต้องสู้ต่อไปป >O<!!
ความคิดเห็น