ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Prince OF Tennis [mix 8 series]

    ลำดับตอนที่ #15 : Yanagi Renji & Shiroyume Rinko Series 3 part 3 : งานเข้า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 236
      1
      10 มี.ค. 56

    Yanagi Renji & Shiroyume Rinko

    Series 3 part 3 : งานเข้า

           วันนี้ยานางิก็มาซ้อมตอนเย็นที่ชมรมอีกตามเคยหากแต่วันนี้ซานาดะและพิงกุก็ไม่ได้อยู่ที่ชมรมเป็นเพราะว่าพิงกุตกบันไดจนต้องนอนที่โรงพยาบาลและคนที่อาสาไปเฝ้าเธอก็คือจักพรรดิแห่งชมรมของเขานั่นเอง คงเป็นเดือนหน้าสินะที่จักพรรดิหนุ่มจะกลับมาซ้อมตามปกติอีกครั้งนึงน่ะ?

           “รุ่นพี่ยานางิๆๆ!!

           “หืม มีอะไรอาคายะ?”

           “พี่ว่าผมจะเก่งภาษาอังกฤษได้มั้ยอ่ะ!

            จู่ๆเจ้าเด็กปีสองซึ่งเป็นคู่หูของเขาก็ตะโกนเสียงดังแล้ววิ่งตรงรี่มาทางยานางิก่อนจะเอ่ยถามคำถามที่เสนาธิการไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้ยินจากปากเจ้าเด็กคนนี้ขึ้นมา เด็กหนุ่มรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยก่อนผละมือจากสมุดโน้ตตรงหน้าแล้วหันไปมองรุ่นน้องของตนแทน

           “ไม่รู้สิ”

           “โห!ตอบผมมาหน่อยเด้ นะนะนะ”

           “กลับไปซ้อมไป”

           “นะรุ่นพี่ยานางิ บอกผมมาหน่อยเหอะนะ น้า *^*

           เมื่อเห็นว่ายังไงคิริฮาระก็ไม่ยอมแพ้แน่แล้ว ยานางิที่กำลังไล้ปากกาจดอะไรบางอย่างในสมุดจึงเงยหน้ามองเจ้าเด็กแสบที่ยืนค้ำหัวออดอ้อนเขาด้วยสายตาเป็นประกายราวกับลูกหมานั่นอยู่

           “ถ้านายมีความพยายาม .. มันก็ต้องได้อยู่แล้วล่ะ”

           “จริงอ่ะ?!รุ่นพี่พูดจริงใช่มั้ย!

           “แต่จากการคำนวณของฉัน ความเป็นไปได้ 25เปอร์เซ็นต์ที่จะสำเร็จ”

           “เชอะ ผมจะทำให้ได้เลยไอ้แค่ 25 เปอร์เซ็นต์ที่รุ่นพี่บอกน่ะ!

           คิริฮาระมุ่ยหน้าก่อนหยิบลูกสักหลาดบนพื้นสนามขว้างใส่รุ่นพี่ของตนทันทีแต่ยานางิกลับรับมันไว้ได้แล้วปาคืนใส่มือรุ่นน้องจอมดื้อของชมรม ร่างสูงปิดสมุดโน้ตเก็บใส่กระเป๋าแล้วลุกขึ้นหยิบแร็กเก็ตมาไว้ในมือก่อนเดินนำคิริฮาระที่ยืนมุ่ยหน้าใส่เขาอยู่ไปยังคอร์ดเทนนิสที่ว่างอยู่

           “เริ่มซ้อมกันได้แล้ว”

           “ทำมาเป็นปากดี ตาตี๋เอ้ย”

           เด็กหนุ่มปีสองแลบลิ้นใส่รุ่นพี่ของตนจังหวะที่ร่างสูงหันหลังให้อยู่ก่อนคิริฮาระจะเดินเข้าคอร์ดไปโดยมีนิโอมองตามอย่างหมั่นไส้อยู่ที่อีกคอร์ดนึง วันนี้ต่างคนต่างซ้อมโดยมียูคิมูระยืนคุมอยู่ที่ข้างสนาม

           ต่อมา

           “อ๊ากกก กระดาษคำศัพท์อยู่ไหนฟะเนี่ยยยย!!

           น้ำเสียงแผดลั่นดังมาจากเด็กปีศาจของชมรม คิริฮาระรื้อกระเป๋าแร็กเก็ตของตนเองอย่างเอาเป็นเอาตายพลันข้าวของก็ระเนระนาดอยู่ข้างตัวเขา แต่เจ้าตัวกลับไม่พบเจอของที่ต้องการเลย?

           “โอ้ยหนวกหูเฟ้ย หุบปากได้มั้ย”

           นิโอทำท่าแคะขี้หูประกอบว่าตนเองรำคาญแค่ไหนก่อนจะยกขวดน้ำขึ้นดื่มหลังจากซ้อมกับยางิวที่เดินไปล้างหน้าในห้องน้ำเสร็จ

           “รุ่นพี่นิโอไม่เข้าใจผมก็อย่ามาทำปากดีหน่อยเลย แบร่”

           คิริฮาระแลบลิ้นใส่นิโอที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวก่อนมุดหัวเข้าไปในกระเป๋าแร็กเก็ตแทนเพราะยังเชื่อว่าตัวเองต้องเอากระดาษคำศัพท์ซุกไว้ที่ไหนซักแห่งของกระเป๋าเป็นแน่ ตอนนี้เจ้าเด็กหัวหยิกเหมือนคนบ้าที่นั่งอยู่บนพื้นสนามกับข้าวของระเนระนาดข้างกายก็ไม่เชิง

           “ดูมันทำเข้าไอ้เจ้าคิริฮาระ ตูละหน่าย”

           แจ็กกัลป์กอดอกมองน้องเล็กของชมรมอย่างรู้สึกระอาในความบ้าบอติ๊งต๊องของมันไม่ได้

           “ช่างหัวมันปะไร ปัญญาอ่อนเป็นบ้า

           นิโอเอ่ยตอบเสียงเนือยก่อนเอนตัวนอนลงบนเก้าอี้ยาวไม่เกรงใจใคร คิริฮาระได้ยินดังนั้นก็มุดหัวออกมาจากกระเป๋าแล้วขมวดคิ้วใส่นิโอทันที

           “รุ่นพี่นิโอ!!เมื่อกี้ว่าใครห๊ะ?!

           “ปุริ โง่ถึงขั้นไม่รู้เลยหรอว่าฉันกำลังว่าใครน่ะ”

           “หนอยแน่ะไอ้รุ่นพี่บ้านี่!!

           “เฮ้ย ใจเย็นน่าอย่าทะเลาะกันสิฟะไอ้พวกนี้”

           เมื่อเห็นว่าสงครามกำลังจะเริ่มขึ้นแจ็กกัลป์จึงต้องเดินมาคั่นกลางระหว่างนิโอและคิริฮาระเป็นจังหวะเดียวกับที่ยางิวเดินออกมาจากห้องน้ำพลางใช้ผ้าขนหนูผืนน้อยซับหยดน้ำบนหน้าของตนไปด้วยพลางสายตาใต้กระจกแว่นก็มองออกไปยังคอร์ดที่มียานางิและยูคิมูระกำลังซ้อมแข่งกันอยู่โดยมีมารุอิเป็นกรรมการคอยนับคะแนนให้

           “หืม .. คู่นั้นใกล้จบแล้วหรอ”

           “เกมว้อนท์บายยูคิมูระ 6-4!!

           มารุอิประกาศตอนจบของเกมดังลั่นสนามก่อนเจ้าตัวจะกระโดดลงมาจากเก้าอี้ของฝ่ายกรรมการ ยูคิมูระและยานางิเดินขึ้นหน้าเนตตาข่ายเพื่อจับมือก่อนทั้งคู่จะเผยยิ้มบางให้กัน

           “สุดท้ายนายก็ชนะจนได้นะเซอิจิ”

           “นายเองก็ไล่จี้ฉันมาติดๆเหมือนกันนะยานางิ”

           “กัปตันครับ!!ผมขอไปเอาของที่โรงเรียนก่อนนะครับ!

           ระหว่างที่ยูคิมูระและยานางิกำลังเดินออกมาจากคอร์ดคิริฮาระก็โพล่งขึ้นมาแล้ววิ่งออกนอกชมรมไปทันทีเมื่อนั่งทบทวนอยู่นานถึงสิ่งของที่ตนเองหาอยู่ กัปตันหนุ่มได้แต่มองตามหลังพลันนึกระอาในใจกับความบุ่มบ่ามและไม่รอบคอบของเด็กคนนี้

           “ฉันกลับก่อนนะเซอิจิ ห้าโมงกว่าแล้ว”

           ยานางิเอ่ยขึ้นก่อนหยิบกระเป๋าแร็กเก็ตของตนขึ้นสะพายบ่า เขาไม่คิดจะเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วล่ะก็ดันแข่งเพลินจนลืมเวลาไปสอนพิเศษเลยน่ะสิ

           “อื้ม พรุ่งนี้เจอกันนะ”

           ยูคิมูระพยักหน้ารับก่อนเผยยิ้มบางให้เพื่อนของตนซึ่งยานางิเองก็พยักหน้าตอบก่อนจะเดินออกไปจากชมรมทันที รู้ตัวว่าสายนะแต่ไม่รีบให้เสียเหงื่อหรอก

    …………………………………………………………………………………………………………………

           ติ๊งหน่อง ~   

           ………………………………เงียบ……………………………

           ร่างสูงเริ่มรู้สึกเอะใจแปลกๆเมื่อเห็นว่าไม่มีใครออกมาต้อนรับเหมือนอย่างเคย เด็กหนุ่มจึงถือวิสาสะผลักประตูบ้านที่ไม่ได้ล็อกเข้ามาทันใด

           แอ๊ด ปัง

           “ริงโกะ ? อยู่รึเปล่าน่ะ”

           เมื่อเปิดประตูไม้เข้ามาในตัวบ้านได้เสนาธิการหนุ่มก็เอ่ยปากถามหาลูกสาวเจ้าของบ้านทันที รู้สึกตงิดใจแปลกๆแฮะ เธอยิ่งเป็นคนใสซื่อเอ๋อเร๋ออยู่ด้วย เป็นอะไรรึเปล่านะ เขาครุ่นคิดอยู่ในหัว

           “ริงโกะ”

           ยานางิเริ่มเดินขึ้นไปบนชั้นสองเพื่อตามหาตัวร่างเล็ก แต่กลับไม่พบร่องรอยใดๆทั้งสิ้น

           ตึก  ตึก  ตึก  ตึก !!

           “ป่านนี้เร็นจิคงมารอแย่แล้วมั้งคะแม่ เพราะแม่ช้าอ่ะ!

           “ได้ไงล่ะ ก็พี่เราอุตส่าห์กลับมาทั้งที่นี่นา”

           “ฮ่ะๆ เร็นจินี่หมายถึงแฟนของริงโกะงั้นหรอ?”

           เมื่อได้ยินเสียงเอะอะที่ดังกรูตรงมาที่บ้านของริงโกะร่างสูงก็เดินลงบันไดมาที่ชั้นหนึ่งแทน ไม่ใช่ไม่ได้ยินไอ้ประโยคสุดท้ายของวงสนทนานั้นหรอกนะแต่แปลกใจที่ว่าทำไมริงโกะถึงไม่แย้งซะล่ะ

           แอ๊ด

           “อ้าวเร็นจิคุง มารอนานมั้ยจ๊ะ ~

           “ไม่นานหรอกครับ .. แต่วันหลังไม่ควรจะลืมล็อกบ้านนะครับคุณน้า”

           “แหม ก็แม่จงใจให้เร็นจิคุงเข้ามาก่อนนี่แหละว่าแต่เรียกแม่แทนเถอะจ้ะ^^

           “เอ่อ …...

           เด็กหนุ่มรู้สึกประหม่าเล็กน้อยกับประโยคที่หญิงสาวตรงหน้าเอ่ยขึ้น ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนของแม่ตนและเป็นแม่ของริงโกะล่ะก็เขาคงจะเดินหนีไปแล้วแน่ๆเชียว

           “แม่คะ!ไปพูดกับเร็นจิแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ”

           “หืม นี่น่ะหรอแฟนของริงโกะน่ะหน้าตาดีใช่ย่อยนี่ สาวติดตรึมเลยสิท่า”

           “ไม่ใช่แฟนครับ / ไม่ใช่แฟนริงโกะซักหน่อยนะพี่!

           ทั้งยานางิและริงโกะต่างแย้งขึ้นพร้อมกันทันทีทันใด ผู้เป็นพี่ชายถึงกลับหน้าเหวอเล็กน้อยก่อนจะกลับมาหัวเราะแล้วเอื้อมไปยีหัวน้องสาวของตนแทน

           “ไม่ใช่ตอนนี้สินะ พี่ไปอาบน้ำดีกว่าว่ะ ร้อนเป็นบ้า ~

           “อุ้ย เก็นริวพูดถูกใจแม่จริงๆ โฮ่ะๆๆ แม่ไปทำอาหารไว้รอพ่อเลยดีกว่า ~

           พี่ชายโพล่งขึ้นก่อนเดินขึ้นชั้นสองของบ้านไปทันที ผู้เป็นแม่ได้ยินดังนั้นก็หัวเราะชอบใจแล้วปลีกตัวเดินเข้าห้องครัวไปแทน

           ที่ตรงนี้จึงเหลือเพียงยานางิและริงโกะเท่านั้น

           “เอ่อ ขอโทษแทนแม่กับพี่ด้วยนะเร็นจิ นายคงลำบากใจ ใช่ป่าว”

           “ช่างเถอะ นี่มันเลยเวลามามากแล้วเดี๋ยวก็สอนไม่ทันพอดี”

           ร่างสูงตัดบทสนทนาโดยการเดินเข้าไปในห้องรับแขกทันที ริงโกะหน้าจ๋อยลงเล็กน้อย เธอเงยหน้ามองร่างสูงแล้วเดินตามเขาเข้าไปบ้าง

           “เอาล่ะ ที่ฉันสอนไปพอจะจำได้บ้างมั้ย”

           “ฮ้า!วันนี้นายใส่เสื้อชมรมมาหรอ! *O*

           เมื่อทั้งคู่นั่งลงตามเดิมเร็นจิก็เริ่มเปิดประเด็นขึ้นมาอีกทันที หากแต่ริงโกะกลับหันเหความสนใจไปที่เสื้อชมรมสีเหลืองสดนั่นแทน แววตาของเธอดูเป็นประกายราวกับเด็กเห็นของเล่นที่ถูกใจก็ไม่เชิง

           เร็นจิก้มมองเสื้อของตนเล็กน้อยก่อนพยักหน้ารับ นี่ริงโกะเพิ่งสังเกตเห็นรึไงนะ?

           “อืม ใช่”

           “โหว นี่ขนาดตัวจริงของชมรมยังขนาดนี้แล้วราชันย์ของชมรมจะขนาดไหนนะ *O*

           “ก็เหมือนของฉันนี่แหละ”

           “เอ๋ ?

           “หืม ?”

           คำตอบของเร็นจิทำเอาริงโกะหน้าเหวอขึ้นมาอีกครั้ง .. นี่เขากำลังจะบอกว่าตนเองเป็น 1 ในราชันย์ปีศาจทั้ง 3 ตนของชมรมเทนนิสชายโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยริคไคงั้นหรอ?!

           “น นี่นาย เป็น 1 ใน 3 ราชันย์ปีศาจของชมรมที่เขาร่ำลืองั้นหรอ?!

           “อืม ? อย่านอกเรื่อง มาเรียนต่อได้แล้ว”

           “ว๊ากกก เท่ระเบิดเลยเร็นจิจ๋า >[ ]<!! ฉันน่ะชอบเสื้อของนายมากเลยนะสีส๊วยสวย!

           “หัดสนใจที่คนอื่นพูดมั่งสิ - -;

           “ฉันขอลองใส่เสื้อนายได้มั้ยอ่ะ?! นะนะนะ *O*

           “นี่มันเวลาเรียน”

           “น้า นะนะนะนะ >^<

           ริงโกะยังคงคะยั้นคะยอ ก็เธอชอบสีเหลืองนี่นา แถมเสื้อของตัวจริงชมรมเทนนิสริคไคยังเป็นสีเหลืองอยู่แล้วด้วยยิ่งทำให้เธออยากใส่ไปใหญ่ และที่สำคัญคือ …. มันเป็นเสื้อของยานางิ เร็นจิหนึ่งในสามราชันย์ปีศาจแห่งริคไคอีกด้วย!

           “เธอทำโจทย์ข้อนี้ให้ได้ก่อนสิแล้วฉันจะให้ใส่”

           “โจทย์ โจทย์ไหนอ่ะ ? = A =

           ยานางิหยิบสมุดโน้ตเล่มเดิมของตนขึ้นมาแล้วกางมันลงตรงหน้าของริงโกะเพื่อเป็นข้อเสนอ เด็กสาวเห็นดังนั้นจึงหยิบสมุดโน้ตตรงหน้ามาถือไว้ในมือแล้วกวาดสายตาอ่านโจทย์อย่างสนใจ

           ถ้าเพื่อเสื้อสีเหลืองนั่นละก็ ไม่มีอะไรมาหยุดเธอคนนี้ได้หรอก!(?)

           แอมโมเนียซัลเฟต (NH4)2SO4 ใช้เป็นวัตถุดิบผลิตปุ๋ย เตรียมได้โดยการผ่านแก๊สแอมโมเนีย (NH3) ลงในสารละลาย 65% ของกรดซัลฟิวริกที่มีความหนาแน่น 1.55 g/mL ต้องใช้กรดซัลฟิวริก (H2SO4) ปริมาตรเท่าไรในการทำปฏิกิริยากับ 1.00 กิโลกรัมของแก๊สแอมโมเนีย เพื่อให้เกิดปฏิกิริยาพอดี

           เมื่ออ่านโจทย์จบ เหงื่อเม็ดน้อยก็ผุดขึ้นมาบนหน้าใสของเด็กสาวทันใด

           “ว่าไง ฮึ ?”

           เด็กหนุ่มเอ่ยปากถามร่างบางตรงหน้าอีกคราพลางกลั้นขำใบหน้าหวานของเธอที่ดูตกใจไม่น้อยอีกด้วย เขาไม่ได้จะเยาะเย้ยเธอนะ แต่พยายามกลั้นขำหน้าเหวอๆของริงโกะตอนนี้ต่างหาก

           “ร เร็นจิ ชี้แนะให้ฉันหน่อยไม่ได้หรอ T^T

           “แนวคิดของโจทย์ข้อนี้ เธอต้องเขียนสมการเคมีและดุลสมการขึ้นมาก่อน”

           “อ๊ากกก ฉันทำไม่ได้หรอก ฮืออ !! T[ ]T

           ริงโกะแผดเสียงก่อนสะบัดหน้ารัวพลางเบะปากราวกับจะร้องไห้ ยานางิเห็นดังนั้นจึงหยิบปากกาขึ้นมาแล้วไล้หัวปากกาไปที่โจทย์ทันที เขาไม่ใช่ผู้ชายใจร้ายขนาดที่จะปล่อยให้เด็กสาวที่เพิ่งเรียนสูตรไปกว่าครึ่งนึงของเขาต้องทำโจทย์นี่ด้วยตัวเองตั้งแต่แรกหรอก

           “สมการที่ได้ก็จะเป็นแบบนี้ไงล่ะ”

           “อ อื้อ แล้วยังไงต่ออ่ะ?”

           “เฮ้อ งั้นฉันจะเฉลยให้เลยละกันวิธีทำคือแบบนี้”

           เด็กหนุ่มถอนหายใจ ห้าวันมานี้ที่เขามาสอนพิเศษเธอ ดูเหมือนเธอจะได้รับความรู้ไปไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์จากที่ให้ไป 40 เปอร์เซ็นต์เลยนะ       

           ยานางิจรดปากกาเขียนวิธีทำลงบนสมุดโน้ตตรงหน้าริงโกะเสร็จจึงดันมันไปตรงหน้าเด็กสาวที่จ้องมันมาตลอดทุกบรรทัดที่เขาเขียน

           “เพราะฉะนั้นคำตอบข้อนี้คือต้องใช้สารละลายกรดซัลฟิวริก 2.9 ลิตรในการทำปฏิกิริยา”

           “ห โห ทำไมวิธีทำมันเยอะแยะขนาดนี้อ่ะเร็นจิ T^T

           “ไม่งั้นจะเป็นสมการเคมีได้ยังไงล่ะ”

           ริงโกะเบะปากเมื่อไล้สายตาอ่านวิธีทำของเด็กหนุ่มตรงหน้า ยานางิเหลือบมองเธอเล็กน้อยก่อนเอ่ยตอบออกไปอย่างหน่ายๆ เขาได้ยินมาว่าริงโกะเก่งคณิตมากแต่ทำไมถึงได้มาอ่อนสมการเคมีขนาดนี้นะ

           “นี่ๆ เสื้อนายอ่ะกะจะเก็บไว้ให้แฟนนายใส่อย่างเดียวเลยใช่มั้ย =[ ]=!

           นี่ยังไม่จบเรื่องเสื้ออีกรึไงนะ เด็กหนุ่มครุ่นคิด...

           “งั้นมั้ง”

           และเพราะความหน่ายบวกกับความอยากแกล้งที่มีอยู่ในหัวก่อนหน้านี้แล้วเร็นจิจึงพยักหน้ารับไปแบบส่งๆอย่างไม่สนใจเท่าไหร่นัก

           “ถ้างั้นฉันจะเป็นแฟนนายให้ได้เลยเร็นจิ >[ ]<!!!

           ..! .. อะไรนะ”

           “ฉันบอกแล้วไง!ฉันจะเป็นแฟนนายให้ได้ *O*!!

           ท่านเสนาธิการสุดหล่อ งานเข้าแล้ว ~

    To be continued

    .....................…………………………………………………………………………………………………………………
    แอ้กกก ... แต่งมาคู่นี้ลื่นหัวสุดละ 555 แอบสงสารริงโกะจังเบาๆ รุ่นพี่ยานางิช่างทำได้ลงคอ(?)
    เอาเฉลยที่รุ่นพี่เขาทำให้ริงโกะจังมาฝากจ้า - v - จริงๆไปก็อปหาจากในเว็บนี่แหละ 5555

    สมการที่ได้ 

    วิธีทำ   
     
    คำตอบบรรทัดสุดท้ายจ้า
     

    THE★ FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×