คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : Yanagi Renji & Shiroyume Rinko Series 3 part 3 : งานเข้า
Yanagi Renji & Shiroyume Rinko
Series 3 part 3 : งานเข้า
วันนี้ยานางิก็มาซ้อมตอนเย็นที่ชมรมอีกตามเคยหากแต่วันนี้ซานาดะและพิงกุก็ไม่ได้อยู่ที่ชมรมเป็นเพราะว่าพิงกุตกบันไดจนต้องนอนที่โรงพยาบาลและคนที่อาสาไปเฝ้าเธอก็คือจักพรรดิแห่งชมรมของเขานั่นเอง คงเป็นเดือนหน้าสินะที่จักพรรดิหนุ่มจะกลับมาซ้อมตามปกติอีกครั้งนึงน่ะ?
“รุ่นพี่ยานางิๆๆ!!”
“หืม มีอะไรอาคายะ?”
“พี่ว่าผมจะเก่งภาษาอังกฤษได้มั้ยอ่ะ!”
จู่ๆเจ้าเด็กปีสองซึ่งเป็นคู่หูของเขาก็ตะโกนเสียงดังแล้ววิ่งตรงรี่มาทางยานางิก่อนจะเอ่ยถามคำถามที่เสนาธิการไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้ยินจากปากเจ้าเด็กคนนี้ขึ้นมา … เด็กหนุ่มรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยก่อนผละมือจากสมุดโน้ตตรงหน้าแล้วหันไปมองรุ่นน้องของตนแทน
“ไม่รู้สิ”
“โห!ตอบผมมาหน่อยเด้ นะนะนะ”
“กลับไปซ้อมไป”
“นะรุ่นพี่ยานางิ บอกผมมาหน่อยเหอะนะ น้า *^*”
เมื่อเห็นว่ายังไงคิริฮาระก็ไม่ยอมแพ้แน่แล้ว ยานางิที่กำลังไล้ปากกาจดอะไรบางอย่างในสมุดจึงเงยหน้ามองเจ้าเด็กแสบที่ยืนค้ำหัวออดอ้อนเขาด้วยสายตาเป็นประกายราวกับลูกหมานั่นอยู่
“ถ้านายมีความพยายาม .. มันก็ต้องได้อยู่แล้วล่ะ”
“จริงอ่ะ?!รุ่นพี่พูดจริงใช่มั้ย!”
“แต่จากการคำนวณของฉัน ความเป็นไปได้ 25เปอร์เซ็นต์ที่จะสำเร็จ”
“เชอะ … ผมจะทำให้ได้เลยไอ้แค่ 25 เปอร์เซ็นต์ที่รุ่นพี่บอกน่ะ!”
คิริฮาระมุ่ยหน้าก่อนหยิบลูกสักหลาดบนพื้นสนามขว้างใส่รุ่นพี่ของตนทันทีแต่ยานางิกลับรับมันไว้ได้แล้วปาคืนใส่มือรุ่นน้องจอมดื้อของชมรม ร่างสูงปิดสมุดโน้ตเก็บใส่กระเป๋าแล้วลุกขึ้นหยิบแร็กเก็ตมาไว้ในมือก่อนเดินนำคิริฮาระที่ยืนมุ่ยหน้าใส่เขาอยู่ไปยังคอร์ดเทนนิสที่ว่างอยู่
“เริ่มซ้อมกันได้แล้ว”
“ทำมาเป็นปากดี ตาตี๋เอ้ย”
เด็กหนุ่มปีสองแลบลิ้นใส่รุ่นพี่ของตนจังหวะที่ร่างสูงหันหลังให้อยู่ก่อนคิริฮาระจะเดินเข้าคอร์ดไปโดยมีนิโอมองตามอย่างหมั่นไส้อยู่ที่อีกคอร์ดนึง … วันนี้ต่างคนต่างซ้อมโดยมียูคิมูระยืนคุมอยู่ที่ข้างสนาม
ต่อมา
“อ๊ากกก กระดาษคำศัพท์อยู่ไหนฟะเนี่ยยยย!!”
น้ำเสียงแผดลั่นดังมาจากเด็กปีศาจของชมรม คิริฮาระรื้อกระเป๋าแร็กเก็ตของตนเองอย่างเอาเป็นเอาตายพลันข้าวของก็ระเนระนาดอยู่ข้างตัวเขา … แต่เจ้าตัวกลับไม่พบเจอของที่ต้องการเลย?
“โอ้ยหนวกหูเฟ้ย หุบปากได้มั้ย”
นิโอทำท่าแคะขี้หูประกอบว่าตนเองรำคาญแค่ไหนก่อนจะยกขวดน้ำขึ้นดื่มหลังจากซ้อมกับยางิวที่เดินไปล้างหน้าในห้องน้ำเสร็จ
“รุ่นพี่นิโอไม่เข้าใจผมก็อย่ามาทำปากดีหน่อยเลย แบร่”
คิริฮาระแลบลิ้นใส่นิโอที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวก่อนมุดหัวเข้าไปในกระเป๋าแร็กเก็ตแทนเพราะยังเชื่อว่าตัวเองต้องเอากระดาษคำศัพท์ซุกไว้ที่ไหนซักแห่งของกระเป๋าเป็นแน่ … ตอนนี้เจ้าเด็กหัวหยิกเหมือนคนบ้าที่นั่งอยู่บนพื้นสนามกับข้าวของระเนระนาดข้างกายก็ไม่เชิง …
“ดูมันทำเข้าไอ้เจ้าคิริฮาระ ตูละหน่าย”
แจ็กกัลป์กอดอกมองน้องเล็กของชมรมอย่างรู้สึกระอาในความบ้าบอติ๊งต๊องของมันไม่ได้
“ช่างหัวมันปะไร ปัญญาอ่อนเป็นบ้า …”
นิโอเอ่ยตอบเสียงเนือยก่อนเอนตัวนอนลงบนเก้าอี้ยาวไม่เกรงใจใคร คิริฮาระได้ยินดังนั้นก็มุดหัวออกมาจากกระเป๋าแล้วขมวดคิ้วใส่นิโอทันที
“รุ่นพี่นิโอ!!เมื่อกี้ว่าใครห๊ะ?!”
“ปุริ … โง่ถึงขั้นไม่รู้เลยหรอว่าฉันกำลังว่าใครน่ะ”
“หนอยแน่ะไอ้รุ่นพี่บ้านี่!!”
“เฮ้ย ใจเย็นน่าอย่าทะเลาะกันสิฟะไอ้พวกนี้”
เมื่อเห็นว่าสงครามกำลังจะเริ่มขึ้นแจ็กกัลป์จึงต้องเดินมาคั่นกลางระหว่างนิโอและคิริฮาระเป็นจังหวะเดียวกับที่ยางิวเดินออกมาจากห้องน้ำพลางใช้ผ้าขนหนูผืนน้อยซับหยดน้ำบนหน้าของตนไปด้วยพลางสายตาใต้กระจกแว่นก็มองออกไปยังคอร์ดที่มียานางิและยูคิมูระกำลังซ้อมแข่งกันอยู่โดยมีมารุอิเป็นกรรมการคอยนับคะแนนให้
“หืม .. คู่นั้นใกล้จบแล้วหรอ”
“เกมว้อนท์บายยูคิมูระ 6-4!!”
มารุอิประกาศตอนจบของเกมดังลั่นสนามก่อนเจ้าตัวจะกระโดดลงมาจากเก้าอี้ของฝ่ายกรรมการ ยูคิมูระและยานางิเดินขึ้นหน้าเนตตาข่ายเพื่อจับมือก่อนทั้งคู่จะเผยยิ้มบางให้กัน
“สุดท้ายนายก็ชนะจนได้นะเซอิจิ”
“นายเองก็ไล่จี้ฉันมาติดๆเหมือนกันนะยานางิ”
“กัปตันครับ!!ผมขอไปเอาของที่โรงเรียนก่อนนะครับ!”
ระหว่างที่ยูคิมูระและยานางิกำลังเดินออกมาจากคอร์ดคิริฮาระก็โพล่งขึ้นมาแล้ววิ่งออกนอกชมรมไปทันทีเมื่อนั่งทบทวนอยู่นานถึงสิ่งของที่ตนเองหาอยู่ กัปตันหนุ่มได้แต่มองตามหลังพลันนึกระอาในใจกับความบุ่มบ่ามและไม่รอบคอบของเด็กคนนี้
“ฉันกลับก่อนนะเซอิจิ ห้าโมงกว่าแล้ว”
ยานางิเอ่ยขึ้นก่อนหยิบกระเป๋าแร็กเก็ตของตนขึ้นสะพายบ่า … เขาไม่คิดจะเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วล่ะก็ดันแข่งเพลินจนลืมเวลาไปสอนพิเศษเลยน่ะสิ
“อื้ม พรุ่งนี้เจอกันนะ”
ยูคิมูระพยักหน้ารับก่อนเผยยิ้มบางให้เพื่อนของตนซึ่งยานางิเองก็พยักหน้าตอบก่อนจะเดินออกไปจากชมรมทันที รู้ตัวว่าสายนะแต่ไม่รีบให้เสียเหงื่อหรอก
…………………………………………………………………………………………………………………
ติ๊งหน่อง ~
………………………………เงียบ……………………………
ร่างสูงเริ่มรู้สึกเอะใจแปลกๆเมื่อเห็นว่าไม่มีใครออกมาต้อนรับเหมือนอย่างเคย เด็กหนุ่มจึงถือวิสาสะผลักประตูบ้านที่ไม่ได้ล็อกเข้ามาทันใด
แอ๊ด … ปัง
“ริงโกะ ? อยู่รึเปล่าน่ะ”
เมื่อเปิดประตูไม้เข้ามาในตัวบ้านได้เสนาธิการหนุ่มก็เอ่ยปากถามหาลูกสาวเจ้าของบ้านทันที รู้สึกตงิดใจแปลกๆแฮะ เธอยิ่งเป็นคนใสซื่อเอ๋อเร๋ออยู่ด้วย … ‘เป็นอะไรรึเปล่านะ’ เขาครุ่นคิดอยู่ในหัว
“ริงโกะ”
ยานางิเริ่มเดินขึ้นไปบนชั้นสองเพื่อตามหาตัวร่างเล็ก แต่กลับไม่พบร่องรอยใดๆทั้งสิ้น
ตึก ตึก ตึก ตึก !!
“ป่านนี้เร็นจิคงมารอแย่แล้วมั้งคะแม่ เพราะแม่ช้าอ่ะ!”
“ได้ไงล่ะ ก็พี่เราอุตส่าห์กลับมาทั้งที่นี่นา”
“ฮ่ะๆ เร็นจินี่หมายถึงแฟนของริงโกะงั้นหรอ?”
เมื่อได้ยินเสียงเอะอะที่ดังกรูตรงมาที่บ้านของริงโกะร่างสูงก็เดินลงบันไดมาที่ชั้นหนึ่งแทน ไม่ใช่ไม่ได้ยินไอ้ประโยคสุดท้ายของวงสนทนานั้นหรอกนะแต่แปลกใจที่ว่าทำไมริงโกะถึงไม่แย้งซะล่ะ
แอ๊ด
“อ้าวเร็นจิคุง มารอนานมั้ยจ๊ะ ~”
“ไม่นานหรอกครับ .. แต่วันหลังไม่ควรจะลืมล็อกบ้านนะครับคุณน้า”
“แหม ก็แม่จงใจให้เร็นจิคุงเข้ามาก่อนนี่แหละว่าแต่เรียกแม่แทนเถอะจ้ะ^^”
“เอ่อ …...”
เด็กหนุ่มรู้สึกประหม่าเล็กน้อยกับประโยคที่หญิงสาวตรงหน้าเอ่ยขึ้น ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนของแม่ตนและเป็นแม่ของริงโกะล่ะก็เขาคงจะเดินหนีไปแล้วแน่ๆเชียว
“แม่คะ!ไปพูดกับเร็นจิแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ”
“หืม นี่น่ะหรอแฟนของริงโกะน่ะหน้าตาดีใช่ย่อยนี่ สาวติดตรึมเลยสิท่า”
“ไม่ใช่แฟนครับ / ไม่ใช่แฟนริงโกะซักหน่อยนะพี่!”
ทั้งยานางิและริงโกะต่างแย้งขึ้นพร้อมกันทันทีทันใด ผู้เป็นพี่ชายถึงกลับหน้าเหวอเล็กน้อยก่อนจะกลับมาหัวเราะแล้วเอื้อมไปยีหัวน้องสาวของตนแทน
“ไม่ใช่ตอนนี้สินะ พี่ไปอาบน้ำดีกว่าว่ะ ร้อนเป็นบ้า ~”
“อุ้ย เก็นริวพูดถูกใจแม่จริงๆ โฮ่ะๆๆ แม่ไปทำอาหารไว้รอพ่อเลยดีกว่า ~”
พี่ชายโพล่งขึ้นก่อนเดินขึ้นชั้นสองของบ้านไปทันที ผู้เป็นแม่ได้ยินดังนั้นก็หัวเราะชอบใจแล้วปลีกตัวเดินเข้าห้องครัวไปแทน
ที่ตรงนี้จึงเหลือเพียงยานางิและริงโกะเท่านั้น …
“เอ่อ … ขอโทษแทนแม่กับพี่ด้วยนะเร็นจิ นายคงลำบากใจ … ใช่ป่าว”
“ช่างเถอะ นี่มันเลยเวลามามากแล้วเดี๋ยวก็สอนไม่ทันพอดี”
ร่างสูงตัดบทสนทนาโดยการเดินเข้าไปในห้องรับแขกทันที ริงโกะหน้าจ๋อยลงเล็กน้อย เธอเงยหน้ามองร่างสูงแล้วเดินตามเขาเข้าไปบ้าง
“เอาล่ะ … ที่ฉันสอนไปพอจะจำได้บ้างมั้ย”
“ฮ้า!วันนี้นายใส่เสื้อชมรมมาหรอ! *O*”
เมื่อทั้งคู่นั่งลงตามเดิมเร็นจิก็เริ่มเปิดประเด็นขึ้นมาอีกทันที หากแต่ริงโกะกลับหันเหความสนใจไปที่เสื้อชมรมสีเหลืองสดนั่นแทน แววตาของเธอดูเป็นประกายราวกับเด็กเห็นของเล่นที่ถูกใจก็ไม่เชิง
เร็นจิก้มมองเสื้อของตนเล็กน้อยก่อนพยักหน้ารับ … นี่ริงโกะเพิ่งสังเกตเห็นรึไงนะ?
“อืม ใช่”
“โหว นี่ขนาดตัวจริงของชมรมยังขนาดนี้แล้วราชันย์ของชมรมจะขนาดไหนนะ *O*”
“ก็เหมือนของฉันนี่แหละ”
“เอ๋ ? …”
“หืม ?”
คำตอบของเร็นจิทำเอาริงโกะหน้าเหวอขึ้นมาอีกครั้ง .. นี่เขากำลังจะบอกว่าตนเองเป็น 1 ในราชันย์ปีศาจทั้ง 3 ตนของชมรมเทนนิสชายโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยริคไคงั้นหรอ?!
“น … นี่นาย เป็น 1 ใน 3 ราชันย์ปีศาจของชมรมที่เขาร่ำลืองั้นหรอ?!”
“อืม ? อย่านอกเรื่อง มาเรียนต่อได้แล้ว”
“ว๊ากกก เท่ระเบิดเลยเร็นจิจ๋า >[ ]<!! ฉันน่ะชอบเสื้อของนายมากเลยนะสีส๊วยสวย!”
“หัดสนใจที่คนอื่นพูดมั่งสิ - -;”
“ฉันขอลองใส่เสื้อนายได้มั้ยอ่ะ?! นะนะนะ *O*”
“นี่มันเวลาเรียน”
“น้า นะนะนะนะ >^<”
ริงโกะยังคงคะยั้นคะยอ ก็เธอชอบสีเหลืองนี่นา แถมเสื้อของตัวจริงชมรมเทนนิสริคไคยังเป็นสีเหลืองอยู่แล้วด้วยยิ่งทำให้เธออยากใส่ไปใหญ่ และที่สำคัญคือ …. มันเป็นเสื้อของยานางิ เร็นจิหนึ่งในสามราชันย์ปีศาจแห่งริคไคอีกด้วย!
“เธอทำโจทย์ข้อนี้ให้ได้ก่อนสิแล้วฉันจะให้ใส่”
“โจทย์ … โจทย์ไหนอ่ะ ? … = A =”
ยานางิหยิบสมุดโน้ตเล่มเดิมของตนขึ้นมาแล้วกางมันลงตรงหน้าของริงโกะเพื่อเป็นข้อเสนอ เด็กสาวเห็นดังนั้นจึงหยิบสมุดโน้ตตรงหน้ามาถือไว้ในมือแล้วกวาดสายตาอ่านโจทย์อย่างสนใจ
ถ้าเพื่อเสื้อสีเหลืองนั่นละก็ … ไม่มีอะไรมาหยุดเธอคนนี้ได้หรอก!(?)
‘แอมโมเนียซัลเฟต (NH4)2SO4 ใช้เป็นวัตถุดิบผลิตปุ๋ย เตรียมได้โดยการผ่านแก๊สแอมโมเนีย (NH3) ลงในสารละลาย 65% ของกรดซัลฟิวริกที่มีความหนาแน่น 1.55 g/mL ต้องใช้กรดซัลฟิวริก (H2SO4) ปริมาตรเท่าไรในการทำปฏิกิริยากับ 1.00 กิโลกรัมของแก๊สแอมโมเนีย เพื่อให้เกิดปฏิกิริยาพอดี’
เมื่ออ่านโจทย์จบ … เหงื่อเม็ดน้อยก็ผุดขึ้นมาบนหน้าใสของเด็กสาวทันใด
“ว่าไง ฮึ ?”
เด็กหนุ่มเอ่ยปากถามร่างบางตรงหน้าอีกคราพลางกลั้นขำใบหน้าหวานของเธอที่ดูตกใจไม่น้อยอีกด้วย เขาไม่ได้จะเยาะเย้ยเธอนะ … แต่พยายามกลั้นขำหน้าเหวอๆของริงโกะตอนนี้ต่างหาก
“ร … เร็นจิ … ชี้แนะให้ฉันหน่อยไม่ได้หรอ T^T”
“แนวคิดของโจทย์ข้อนี้ เธอต้องเขียนสมการเคมีและดุลสมการขึ้นมาก่อน”
“อ๊ากกก ฉันทำไม่ได้หรอก ฮืออ !! T[ ]T”
ริงโกะแผดเสียงก่อนสะบัดหน้ารัวพลางเบะปากราวกับจะร้องไห้ ยานางิเห็นดังนั้นจึงหยิบปากกาขึ้นมาแล้วไล้หัวปากกาไปที่โจทย์ทันที … เขาไม่ใช่ผู้ชายใจร้ายขนาดที่จะปล่อยให้เด็กสาวที่เพิ่งเรียนสูตรไปกว่าครึ่งนึงของเขาต้องทำโจทย์นี่ด้วยตัวเองตั้งแต่แรกหรอก
“สมการที่ได้ก็จะเป็นแบบนี้ไงล่ะ”
“อ … อื้อ แล้วยังไงต่ออ่ะ?”
“เฮ้อ … งั้นฉันจะเฉลยให้เลยละกันวิธีทำคือแบบนี้”
เด็กหนุ่มถอนหายใจ … ห้าวันมานี้ที่เขามาสอนพิเศษเธอ ดูเหมือนเธอจะได้รับความรู้ไปไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์จากที่ให้ไป 40 เปอร์เซ็นต์เลยนะ
ยานางิจรดปากกาเขียนวิธีทำลงบนสมุดโน้ตตรงหน้าริงโกะเสร็จจึงดันมันไปตรงหน้าเด็กสาวที่จ้องมันมาตลอดทุกบรรทัดที่เขาเขียน
“เพราะฉะนั้นคำตอบข้อนี้คือต้องใช้สารละลายกรดซัลฟิวริก 2.9 ลิตรในการทำปฏิกิริยา”
“ห … โห ทำไมวิธีทำมันเยอะแยะขนาดนี้อ่ะเร็นจิ T^T”
“ไม่งั้นจะเป็นสมการเคมีได้ยังไงล่ะ”
ริงโกะเบะปากเมื่อไล้สายตาอ่านวิธีทำของเด็กหนุ่มตรงหน้า ยานางิเหลือบมองเธอเล็กน้อยก่อนเอ่ยตอบออกไปอย่างหน่ายๆ … เขาได้ยินมาว่าริงโกะเก่งคณิตมากแต่ทำไมถึงได้มาอ่อนสมการเคมีขนาดนี้นะ
“นี่ๆ เสื้อนายอ่ะกะจะเก็บไว้ให้แฟนนายใส่อย่างเดียวเลยใช่มั้ย =[ ]=!”
‘นี่ยังไม่จบเรื่องเสื้ออีกรึไงนะ …’ เด็กหนุ่มครุ่นคิด...
“งั้นมั้ง”
และเพราะความหน่ายบวกกับความอยากแกล้งที่มีอยู่ในหัวก่อนหน้านี้แล้วเร็นจิจึงพยักหน้ารับไปแบบส่งๆอย่างไม่สนใจเท่าไหร่นัก
“ถ้างั้นฉันจะเป็นแฟนนายให้ได้เลยเร็นจิ >[ ]<!!!”
“..! .. อะไรนะ”
“ฉันบอกแล้วไง!ฉันจะเป็นแฟนนายให้ได้ *O*!!”
ท่านเสนาธิการสุดหล่อ … งานเข้าแล้ว ~
To be continued
.....................…………………………………………………………………………………………………………………
แอ้กกก ... แต่งมาคู่นี้ลื่นหัวสุดละ 555 แอบสงสารริงโกะจังเบาๆ รุ่นพี่ยานางิช่างทำได้ลงคอ(?)
เอาเฉลยที่รุ่นพี่เขาทำให้ริงโกะจังมาฝากจ้า - v - จริงๆไปก็อปหาจากในเว็บนี่แหละ 5555
สมการที่ได้
วิธีทำ
คำตอบบรรทัดสุดท้ายจ้า
ความคิดเห็น