ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Prince OF Tennis [mix 8 series]

    ลำดับตอนที่ #8 : Yagyuu Hiroshi & Haku Hakuno Series 5 part 1 : เรื่องในสถานี

    • อัปเดตล่าสุด 4 มี.ค. 56


    Yagyuu Hiroshi & Haku Hakuno

    Series 5 part 1 : เรื่องในสถานี

           “สถานีต่อไปสถานีคานางาวะขอให้ผู้โดยสารทุกท่านเตรียมตัวด้วยค่ะ”

           A … Arrive!” (ถึงแล้ว)

           สิ้นคำประกาศของเจ้าหน้าที่รถไฟฟ้าเด็กสาวเรือนผมสีครีมทองก็สะดุ้งโหยงแล้วรีบเด้งตัวลุกขึ้นทันที มือบางกอดซองเอกสารสีน้ำตาลไว้แนบอกก่อนกระชับกระเป๋าเป้บนหลังแล้วรีบกุลีกุจอไปที่หน้าประตูรถไฟฟ้าอย่างเร่งรีบ

           ครืด

           เมื่อประตูรถไฟฟ้าถูกเปิดออกเด็กสาวก็ก้าวออกมาทันใด ร่างผอมบางสูดอากาศบริสุทธิ์ของเขตชนบทเต็มปอดอย่างชื่นใจ ไม่ได้สัมผัสอากาศแบบนี้มานานแล้วนะเนี่ยเธอคิดก่อนเผยยิ้มบางออกมาอย่างอดไม่ได้

           ตึก ตึก ตึก

           เรียวขาสวยก้าวเดินตามหลังเด็กหนุ่มร่างสูงที่อยู่ในชุดยูนิฟอร์มนักเรียนอย่างไม่ตั้งใจเนื่องจากเส้นทางที่จะไปเป็นที่เดียวกัน แววตาสีเขียวมรกตเหลียวมองแผ่นหลังกว้างนั่นเล็กน้อยอย่างฉงนใจกับกระเป๋าแร็กเก็ตเทนนิสใบใหญ่ที่เขาสะพายไว้ที่ไหล่ขวา

           กึก โครม !

           “โอ้ย ache.. T^T” (โอ้ย เจ็บ)

           จู่ๆเด็กหนุ่มร่างสูงตรงหน้าก็หยุดชะงักราวกับพึ่งนึกอะไรออกแต่มันทำให้เด็กสาวที่เดินตามหลังเขามาชนเข้ากับแผ่นหลังแกร่งนั่นอย่างจัง ร่างบางล้มลงด้วยเพราะเธอถอยหลังออกมากะทันหันจึงทำให้เป้ใบใหญ่ดึงหลังของเธอให้ล้มลงกระแทกพื้นอย่างจังจนเผลออุทานภาษาต่างชาติออกมา ซองเอกสารหล่นลงพื้นกระจัดกระจาย

           “ขอโทษครับ.. เป็นอะไรรึเปล่า ?”

           เด็กหนุ่มร่างสูงหันกลับมาทางต้นเสียงภาษาอังกฤษเมื่อกี้ เขาดูตกใจไม่น้อยจึงพลั้งปากถามภาษาญี่ปุ่นออกมาก่อนจะรีบเก็บกระดาษเอกสารสีซีทให้เข้าซองสีน้ำตาลตามเดิมแล้วส่งคืนให้เด็กสาว

           Am sorry … Are you ok lady ?” (ขอโทษครับ คุณโอเคมั้ยคุณผู้หญิง?)

           ร่างสูงเรือนผมสีม่วง สวมแว่นสายตา ผิวขาวแบบเชื้อชาติของตนเอ่ยถามเด็กสาวอย่างรู้สึกเป็นห่วงเนื่องด้วยเพราะนิสัยความเป็นสุภาพบุรุษซึ่งติดตัวเขามาตั้งแต่เด็ก หากแต่เด็กสาวกลับส่ายหน้าเบาๆแล้วเผยยิ้มบางให้ก่อนจะรับซองเอกสารสีน้ำตาลมาจากมือใหญ่ตรงหน้า

           Am fine. Thank you. And I can speak Japanese” (ฉันไม่เป็นไรขอบคุณค่ะและฉันสามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้นะคะ)

           “งั้นหรอครับ

           เด็กหนุ่มดันแว่นขึ้นสันจมูก รู้สึกเสียหน้านิดๆหากแต่ก็ไม่ได้แสดงออกอะไรมากนัก ก่อนที่จะตกเป็นเป้าสายตาผู้คนมากกว่านี้ร่างสูงจึงลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วพยุงร่างบางให้ลุกขึ้นตามก่อนเขาจะหยิบกระเป๋าเป้ของเธอมาแล้วส่งยื่นคืนให้เจ้าของของมัน

           “ขอบคุณนะคะ”

            “ไม่เป็นไรครับ ..ผมขอตัวก่อน”

           เด็กสาวเอ่ยขอบคุณเด็กหนุ่มตามมารยาทซึ่งเขาก็พยักหน้ารับก่อนทำท่าจะเดินออกไปหากแต่ร่างบางกลับดึงแขนของร่างสูงเอาไว้ก่อน ใบหน้าคมคายจึงหันมามองด้วยความสงสัย

           “ด .. เดี๋ยวค่ะ !! เอ่อ คุณ รู้จักทางไปโรงเรียนสาธิตริคไคมั้ยคะ”

           “รู้ครับ ผมเรียนอยู่ที่นั่นพอดี”

           คำตอบของร่างสูงทำเอาเด็กสาวเผยยิ้มดีใจออกมา

           “ง งั้น ! รบกวนพาไปหน่อยได้มั้ยคะ?”

           “ด้วยความยินดีครับ”

           เด็กหนุ่มพยักหน้ารับแล้วเดินนำเด็กสาวออกมาซึ่งเธอก็เดินตามไปแต่โดยดี

           “กระเป๋านั่น ผมจะถือให้”

           “อ๊ะ ไม่เป็นไรค่ะ!มันค่อนข้างหนักน่ะฉันถือเองดีกว่า”

           “ไม่เป็นไร เอามาให้ผมเถอะ”

           “เอ่อ .. ขอบคุณนะคะ”

           เมื่อเห็นว่ายังไงร่างสูงข้างๆยังคงยืนกรานจะถือให้ เด็กสาวจึงค่อยๆดึงกระเป๋าเป้ออกมาจากไหล่ตนแล้วส่งให้เด็กหนุ่มแทนซึ่งเขาก็รับมาแล้วสะพายมันเข้าที่ไหล่ซ้ายอีกข้าง เป็นนักกีฬาซะอย่างของแค่นี้สบายมากอยู่แล้ว

           ….. ฉัน ฉันชื่อฮาคุ ฮาคุโนะค่ะยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”

           “ยางิว ฮิโรชิครับ .. ผมนึกว่าคุณเป็นคนต่างชาติซะอีก”

           เด็กสาวแนะนำตัวให้กับเด็กหนุ่มข้างๆเมื่อไม่รู้จะพูดอะไร ซึ่งเขาก็พยักหน้าตอบรับแล้วเอ่ยแนะนำตัวเช่นกัน ยางิวทอดสายตามองเด็กสาวที่ไม่ว่ามองยังไงก็เป็นชาวยุโรปชัดๆถึงแม้รูปร่างจะผอมบางก็ตามที

           “แม่ของฉันเป็นชาวญี่ปุ่นน่ะค่ะเลยตั้งชื่อฉันเป็นภาษาญี่ปุ่นแต่ว่าพ่อเป็นชาวอังกฤษพอแม่แต่งงานเลยต้องไปอยู่กับพ่อที่ลอนดอน ฉันก็เลยเกิดที่นั่นแทนแต่ฉันใช้นามสกุลแม่

           “งั้นหรอครับ

           “ค่ะ แต่ว่าพอแม่ตรอมใจตายไปเพราะพ่อเป็นคนเจ้าชู้มากแล้วฉันก็ทะเลาะกับพ่อทุกวัน ฉันเลยหนีพ่อมาอยู่ที่ญี่ปุ่นแทน ที่กระเป๋าใบนั้นหนักก็เพราะแบบนั้นแหละค่ะ แฮ่ะๆ”

           อืม .. งั้นหรอครับ

           “ค .. ค่ะ ..

           ยางิวไม่รู้จะตอบอะไรกับปัญหาครอบครัวที่เกิดขึ้นของฮาคุโนะ เด็กหนุ่มจึงทำได้เพียงเอ่ยตอบซ้ำๆพลางพยักหน้ารับอย่างเดียวเท่านั้น เด็กสาวเริ่มรู้สึกว่าตนเองพูดมากเกินไปจึงเริ่มเงียบ พลางน้ำตาใสก็คลอเบ้าตาของเธออย่างอดไม่ได้กับเรื่องในอดีต ยางิวที่เห็นว่าเด็กสาวแปลกไปจึงหันไปมอง

           อย่าร้องไห้สิ ผมน่ะไม่ชอบเห็นผู้หญิงร้องไห้หรอกนะ”

           “ข ขอโทษค่ะ

           เด็กหนุ่มหยุดชะงักการเดินก่อนเอื้อมมือไปยีเส้นผมสีครีมทองของเด็กสาวอย่างอ่อนโยนพลันมือใหญ่ก็ไล้เกลี่ยน้ำตาที่แก้มใสเบาๆเป็นการปลอบใจ

           “เธอมาที่นี่คนเดียว งั้นฉันจะอยู่เป็นเพื่อน”

           “อ .. เอ๋ ?

           เมื่อเห็นว่าคำแทนตนเปลี่ยนไป เด็กสาวจึงเงยหน้ามองเด็กหนุ่มร่างสูง

           “ตั้งแต่นี้ไปเราสนิทกันแล้วนะ ฮาคุโนะ”

           ยางิวเผยยิ้มบางให้เด็กสาวทำเอาน้ำตาของเธอไหลอาบแก้ม ฮาคุโนะพยักหน้ารับก่อนเผยยิ้มบางตอบให้ยางิว วันนี้ยางิวทำหน้าที่สุภาพบุรุษได้ดีมากกว่าทุกวันเลยนะ

    …………………………………………………………………………………………………………………

           ตอนเที่ยง

           “ยางิวคุงมีคนฝากนี่ให้แน่ะ”

           ผู้จัดการสาวหน้าตาน่ารักเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของทุกคนในชมรมเทนนิสชายซึ่งอยู่ห้องเดียวกับซานาดะและเขาเดินเข้ามาหายางิวก่อนยื่นซองจดหมายสีขาวซึ่งติดโบว์สีแดงเล็กๆที่มุมซองให้เด็กหนุ่ม

           “ขอบใจนะอากุ”

           “ไม่เป็นไรหรอก ฉันไปก่อนนะ”

           พิงกุเผยยิ้มให้ยางิวหลังจากเขาขอบคุณเธอก่อนเด็กสาวจะบอกลาแล้วเดินออกไปจากโต๊ะของเด็กหนุ่มซึ่งเขาก็พยักหน้าตอบรับเป็นเวลาเดียวกับที่อาจารย์หนุ่มมีอายุเดินเข้ามาในห้องเรียนหลังจากหมดคาบพักเที่ยงไปแล้วกว่า 5 นาที ยางิวจึงเก็บจดหมายน้อยเข้ากระเป๋ากางเกงนักเรียนโดยไม่ได้เปิดอ่านแม้แต่จ่าหน้าซอง

           ค่อยอ่านละกัน คงไม่มีอะไรหรอก

           เด็กหนุ่มครุ่นคิดกับตนเองเบาๆแล้วจึงหยิบหนังสือเรียนขึ้นมา

    …………………………………………………………………………………………………………………

           ตกเย็น ที่ชมรมเทนนิสชายของโรงเรียนสาธิตริคไค

          “นี่เก็นอิจิโร่นายจะบ้าหรอทำแบบนี้ได้ยังไงกันน่ะ?!

          “ถ้าอย่างนั้นแล้วจะทำไม”

          “เอาน่าซานาดะ ยอมผู้หญิงหน่อยเถอะ”

           หลังจากคิริฮาระถูกผู้จัดการสาวของชมรมอาละวาดใส่ซานาดะก็สั่งให้น้องเล็กไปวิ่งรอบสนามเพื่อเป็นการทำโทษ พิงกุที่ไม่เห็นด้วยจึงเปิดศึกกับซานาดะ ยางิวจึงต้องห้ามทัพอีกครั้งก่อนเดินลี้ภัยมาสนใจจดหมายที่พึ่งนึกขึ้นได้แทน มือใหญ่เปิดกระเป๋าแร็กเก็ตแล้วหยิบมันออกมาดูอีกครั้ง

           “ถึงฮิโรชิคุง

           ยางิวอ่านจ่าหน้าซองเบาๆอย่างสนใจ .. ใครกันนะกล้าเรียกชื่อจริงเขาทั้งที่น้อยคนจะเรียกแท้ๆ

           “ปุริ ~ จดหมายรักหรอยางิว”

           …!! … นิโอคุง!จะมาก็ให้ซุ่มให้เสียงหน่อยได้มั้ย!

           “อะไรเล่าแค่นี้ต้องปิดบังกันด้วย แสดงว่าใช่ล่ะซี่ ~

           จอมหลอกลวงที่ตอนแรกยังเห็นไปทวงแร็กเก็ตจากผู้จัดการสาวไม่รู้โผล่พรวดมาจากไหนทำเอายางิวแทบจะยกขาถีบด้วยเพราะสุดจะทน หากแต่เพราะเขาเป็นคนใจเย็นเลยข่มอารมณ์นี้ได้ไม่งั้นจะเป็นคู่หูกันได้ไงกับเจ้าของรอยยิ้มกวนประสาทนั่น

           “นี่ไม่ใช่เรื่องของนายนะนิโอคุงไปซ้อมกันได้แล้ว”

           ยางิวดันแว่นขึ้นก่อนเดินไปเก็บจดหมายปริศนาใส่กระเป๋าแร็กเก็ตของตนซึ่งก็มีนิโอเดินตามมาด้วยติดๆ หากแต่แก้มด้านซ้ายของจอมหลอกลวงกลับมีรอยมือเล็กๆแดงจางๆประทับอยู่ ถ้าไม่สังเกตดีๆไม่มีทางมองเห็นแน่

           “ก่อเรื่องอะไรมาอีกล่ะนายน่ะ

           “นี่ไม่ใช่เรื่องของนายนะยางิวไปซ้อมกันได้แล้ว ~

           หากแต่เมื่อเอ่ยถามไปกลับโดนเด็กหนุ่มเรือนผมสีฟ้าออกเงินกวนประสาทกลับมาพร้อมรอยยิ้มชวนหงุดหงิด ยางิวขมวดคิ้วนิ่งกับท่าทีของคู่หูตน หมั่นไส้จริงๆกับคนพรรค์นี้เนี่ย

          “โห หกโมงครึ่งแล้วหรอเนี่ยสงสัยฉันต้องกลับแล้วล่ะ”

          “งั้นหรอ ให้ซานาดะไปส่งมั้ย”

          น้ำเสียงใสของผู้จัดการสาวดังขึ้นอีกครั้ง ยูคิมูระที่ออกความเห็นให้ซานาดะไปส่งจึงทำให้ยางิวต้องพยักหน้าเห็นด้วย ก็พิงกุเป็นผู้หญิงนี่นากลับบ้านคนเดียวได้ไงกัน

          “ไม่เป็นไรหรอกยูคิมูระคุงฉันยอมให้ฮายะไปส่งยังจะดีกว่าอีก” พิงกุ

          “ฉันจะไปส่งอากิโมโตะ ฝากดูคิริฮาระด้วยล่ะยูคิมูระ” ซานาดะ

          “โอ๊ะ ได้สิ ฉันเต็มใจอยู่แล้ว” ยูคิมูระ

          “ซานาดะ อากุไม่อยู่แล้วนะ” ยางิว

           “หืม ? เฮ้ย!!หยุดเดี๋ยวนี้นะอากิโมโตะ!!!” ซานาดะ

          “ทั้งสองคนนี่น้า ” ยูคิมูระ

          ยางิวมองตามซานาดะที่วิ่งตามพิงกุไปก่อนจะหันไปพูดกับเพื่อนคู่หูของตนแทน

          “กลับกันเถอะนิโอคุง”

    …………………………………………………………………………………………………………………

           ต่อมา

           “กลับมาแล้วครับ”

           เมื่อการซ้อมในชมรมสิ้นสุดลง เด็กหนุ่มร่างสูงก็ตรงกลับบ้านทันใดและเหมือนฟ้าเป็นใจเมื่อถึงบ้านได้ไม่นานฝนเม็ดใหญ่ก็ตกลงมาทันทีทันใด ยางิวจึงมองออกไปนอกหน้าต่าง

           ป่านนี้ซานาดะกับอากุยังวิ่งไล่กันอยู่รึเปล่านะ …’

           เขาคิดพลางก้มเก็บรองเท้าของตนขึ้นบนชั้นแล้วเดินเข้าไปในตัวบ้านทันที

           “กลับมาแล้วหรอฮิโรชิ จะทานข้าวเย็นเลยมั้ย”

           “ไม่เป็นไรครับ ผมจะขึ้นไปอาบน้ำก่อน”

           คนเป็นแม่เดินออกมาจากห้องครัวก่อนเผยยิ้มบางเอ่ยทักทายลูกชายของตน ยางิวดันแว่นขึ้นก่อนส่ายหน้าเบาๆแล้วเดินขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน หญิงสาวมองตามร่างสูงของลูกชายก่อนเดินกลับเข้าไปในห้องครัวเพื่อทำอาหารต่อ

           “อ๊ะ! พี่ฮิโรชิ”

           “ไงฮิโรโกะ”

           “วันนี้พี่ช่วยสอนการบ้านให้หนูหน่อยได้มั้ยคะ”

           ..อืม ได้สิ”

           เมื่อเดินขึ้นไปถึงชั้นสองก็พบกับน้องสาวของตนกำลังเผยยิ้มให้พลางเอ่ยขอร้องพี่ชายสุดเก่งของตนให้สอนการบ้านซึ่งยางิวก็พยักหน้าตอบเบาๆผู้เป็นน้องสาวจึงเผยยิ้มน่ารักให้อีกคราแล้วเดินลงไปชั้นล่างแทน

           แอ๊ด

           เด็กหนุ่มร่างสูงเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของตนก่อนวางกระเป๋าแร็กเก็ตบนเตียง มือใหญ่ดึงเนคไทที่คอออกก่อนวางมันลงบนโต๊ะไม้ตัวเล็ก

           จดหมายนั่น ค่อยอ่านละกัน

           คิดพลางถอดเสื้อผ้าของตนไปด้วย มือใหญ่คว้าผ้าเช็ดตัวมาพันรอบเอวตนแล้วหอบเสื้อผ้านักเรียนไปแขวนไว้ที่เดิมก่อนเดินเข้าห้องน้ำไป

           ต่อมา …. เมื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จยางิวก็เปิดประเป๋าแร็กเก็ตควานหาซองจดหมายน้อยทันที และเมื่อหาเจอเขาก็ไม่รอช้าจะเปิดมันอ่าน

           แซ่ก ฟึ่บ

           ถึงฮิโรชิคุง ฉันเองนะฮาคุโนะน่ะจ้ะ ตอนนี้ฉันมาสมัครเรียนเข้าที่สาธิตริคไคได้แล้วนะแต่ไม่รู้จะได้เจอฮิโรชิคุงมั้ย อีกอย่างตอนนี้ฉันไม่รู้จะไปพักที่ไหนดีเพราะฉันถูกนักเลงในโรงเรียนไถ่เงินไปหมดเลยจ้ะ ตอนนี้ฉันหมดหนทางแล้วถ้าไม่รบกวนจะขอพักที่บ้านฮิโรชิคุงได้มั้ย ฉันจะรออยู่ที่สวนสาธารณะที่ฮิโรชิคุงพาฉันเดินผ่านเมื่อตอนเช้านะ จาก ฮาคุ ฮาคุโนะ

           “ฮาคุโนะ …!

           เมื่ออ่านจบแววตาใต้กระจกแว่นสีใสก็เบิกกว้างทันใด .. ยางิววางจดหมายน้อยบนเตียงก่อนคว้าร่มสีเขียวของตนแล้ววิ่งลงไปชั้นสองทันที

           “อ้าว จะไปไหนล่ะนั่นน่ะไอ้หนุ่ม”

           ยางิวได้ยินเสียงของพ่อตนที่เดินสวนกันที่บันได หากแต่เขาไม่ได้ตอบอะไร จิตใจห่วงแต่ฮาคุโนะที่กำลังรอเขาอย่างไร้จุดหมายเท่านั้น

           แอ๊ด ปัง !!

           “ไอ้บ้าฮิโรชิ .. โถ่เอ้ย!

           ยางิวได้แต่ต่อว่าตนเอง ร่างสูงกางร่มขึ้นแล้ววิ่งฝ่าสายฝนที่โหมกระหน่ำไม่ยั้งออกไปทันที

           ตอนนี้ยางิวไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นแล้วโว้ย ลุยอย่างเดียวแล้ว!

    To be continued

    .......................…………………………………………………………………………………………………………………
    น้องสาวของรุ่นพี่ยางิวเนี่ยไรเตอร์ตู่มั่วเอาเองนะคะเห็นในประวัติบอกมี T^T
    แต่น้องสาวรุ่นพี่ยางิวมีคู่แน่นอนจ้าแต่ไม่ใช่โรงเรียนริคไคก็เท่านั้นเอง xD

     

    THE★ FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×