คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Sanada Genichirou & Akimoto Pinku Series 2 part 1 : RUN RUN RUN
Sanada Genichirou & Akimoto Pinku
Series 2 part 1 : RUN RUN RUN
“ว๊ากกกกกกกกกกกกกก”
หลังจากเจ้าเด็กปีสองปากพล่อยหลุดคำต้องห้ามออกมา แม่สิงห์สาวก็อาละวาดเอาซะชมรมแทบแตก น้ำเสียงโหยหวนของคิริฮาระดังสนั่นไปทั่วทำเอาพวกตัวจริงไม่ได้ซ้อมกันเป็นจริงเป็นจัง
“อากิโมโตะหยุดทำเรื่องไร้สาระซักที!!”
ซานาดะที่นั่งทนอยู่กับเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่นานจนทนไม่ไหวลุกขึ้นยืนก่อนเดินดุ่มๆไปยืนขวางทางการไล่ล่าของผู้จัดการสาวไว้ คิริฮาระเห็นดังนั้นจึงรุดไปอยู่ด้านหลังของซานาดะทันที
“ถอยไปนะตาลุงอย่ามายืนทำหน้าแก่แถวนี้จะได้มั้ย!”
“นี่เธอ!เธอว่าใครเป็นตาลุงหน้าแก่กันหะ?!”
สงครามย่อยระหว่างจักพรรดิและจักพรรดินีเริ่มขึ้นอย่างกะทันหัน ทั่วทั้งชมรมดังก้องไปด้วยคำต่อว่าที่ดูเหมือนจะไม่มีใครยอมใคร คิริฮาระเห็นช่องทางรอดของตัวเอง เจ้าเด็กแสบจึงย่องหนีจากหลังซานาดะออกไปทันที
หมับ !
“ไปวิ่งรอบสนาม 20 รอบ!”
“โห รองกัปตันปล่อยผมไป …”
“เพิ่มเป็น 2 เท่า!”
ซานาดะคว้าคอเสื้อน้องเล็กของชมรมไว้แล้วตะโกนออกคำสั่งใส่ทันที คิริฮาระเบ้ปากแล้วเอ่ยปากเถียงหากแต่กลับโดนทำโทษเพิ่ม เด็กหนุ่มได้ยินดังนั้นจึงกุลีกุจอออกไปวิ่งทันทีหลังจากซานาดะปล่อยคอเสื้อตนแม้ปากจะบ่นมุบมิบไปตลอดก็ตาม
“นี่เก็นอิจิโร่นายจะบ้าหรอทำแบบนี้ได้ยังไงกันน่ะ?!”
“ถ้าอย่างนั้นแล้วจะทำไม”
“เอาน่าซานาดะ ยอมผู้หญิงหน่อยเถอะ”
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครยอมใคร ยางิวจึงเดินเข้ามาออกปากห้ามเพื่อนของตนแล้วขยับแว่นมองไปทางผู้จัดการสาวซึ่งยืนกอดอกหน้าบอกไม่รับบุญอยู่
“นั่นสิ ถ้าไม่มีอากุจังชมรมเราก็คงไม่มาได้ขนาดนี้หรอก”
“อากุจัง แร็กเก็ตฉัน”
ยูคิมูระว่าพลางเดินเข้ามาร่วมวงด้วย นิโอไหวไหล่เบาๆอย่างไม่สนใจตามประสาเจ้าตัวก่อนเด็กหนุ่มจะเดินไปยืนด้านข้างผู้จัดการสาวแล้วแบมือไปตรงหน้าเธอเพื่อขอแร็กเก็ตคืน
“อ๊ะ นั่นสิ ขอบใจนะนิโอคุง”
“ปุริ ~”
เด็กสาวดูเหลอหลาเล็กน้อยก่อนมือบางจะส่งแร็กเก็ตคืนให้เด็กหนุ่มจอมหลอกลวงพลางเผยยิ้มน่ารักให้ นิโอพยักหน้ารับก่อนเดินไปกระตุกแขนยานางิที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ข้างสนามให้ลุกขึ้นมาเล่นกับตนแทน
“โห … หกโมงครึ่งแล้วหรอเนี่ยสงสัยฉันต้องกลับแล้วล่ะ”
“งั้นหรอ ให้ซานาดะไปส่งมั้ย”
ยูคิมูระเอ่ยพลางมองพิงกุอย่างเป็นห่วงก็ผู้จัดการชมรมเทนนิสตนหน้าตาน่ารักซะขนาดนี้เกิดระหว่างทางกลับบ้านโดนฉุดไปจะทำยังไง ? ยางิวได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าเห็นด้วยกับความเห็นของยูคิมูระที่มองไปทางคนโดนพาดพิง
“ไม่เป็นไรหรอกยูคิมูระคุงฉันยอมให้ฮายะไปส่งยังจะดีกว่าอีก” (‘ฮายะ’ หมายถึงคิริฮาระจ้า : มิจจี้)
พิงกุเอ่ยขึ้นพลางมองซานาดะด้วยความหมั่นไส้ เด็กสาวเดินไปหยิบกระเป๋านักเรียนของตนที่วางไว้ข้างสนามหลังจากไล่ตามคิริฮาระที่ยังคงวิ่งรอบสนามอยู่ก่อนเธอจะยกมือโบกลาให้เด็กหนุ่มในชมรม
“ฉันจะไปส่งอากิโมโตะ ฝากดูคิริฮาระด้วยล่ะยูคิมูระ”
“โอ๊ะ … ได้สิ ฉันเต็มใจอยู่แล้ว”
จักพรรดิหนุ่มเอ่ยเสียงเย็นก่อนทอดสายตามองไปทางน้องเล็กของชมรมที่วิ่งรอบสนามแล้วไปหยุดสายตาตรงเด็กสาวที่ยืนผงะอยู่ทางประตูชมรม ยูคิมูระพยักหน้ารับคำเพื่อนของตนก่อนเผยยิ้มบางให้ซานาดะตามนิสัยของเจ้าตัว
“ซานาดะ … อากุไม่อยู่แล้วนะ”
“หืม ?… เฮ้ย!!หยุดเดี๋ยวนี้นะอากิโมโตะ!!!”
สิ้นคำบอกของยางิวซานาดะก็มองไปที่ประตูชมรมทันที ซึ่งเด็กหนุ่มก็พบว่าเด็กสาวร่างบางวิ่งหนีเขาออกไปอย่างเร็วเรียบร้อยแล้ว จักพรรดิหนุ่มตะโกนก้องกังวานลั่นอย่างราชสีห์คำรามก่อนร่างสูงจะคว้ากระเป๋าแร็กเก็ตที่เปรียบดังกระเป๋านักเรียนของตนแล้ววิ่งตามออกไปทั้งที่ยังสวมชุดยูนิฟอร์มของตัวจริงริคไคอยู่ ยูคิมูระเห็นดังนั้นจึงได้แต่ส่ายหัวระอา
“ทั้งสองคนนี่น้า …”
ตึก ตึก ตึก ตึก !
“อากิโมโตะ!ฉันบอกให้เธอหยุดไงล่ะ! หูหนวกรึไง!”
“หยุดให้โง่สิตาลุงบ้าหน้าแก่ เก่งจริงก็จับฉันให้ได้สิ ~”
เด็กสาวหัวเราะร่าพลางซอยเท้าหนีร่างสูงสุดชีวิตแต่อย่างซานาดะน่ะไม่ต้องวิ่งสุดชีวิตไม่นานเดี๋ยวก็ตามทันถ้าพิงกุไม่ถึงบ้านซะก่อน งานนี้คงต้องเสี่ยงดูซะแล้วว่าเธอจะโดนซานาดะจับได้ก่อนหรือว่าจะถึงวิมาณสวรรค์ก่อนกันแน่
“ก็บอกให้หยุดไงฉันไม่มีเวลามาเล่นกับเธอหรอกนะ-_-*!”
“นายก็กลับบ้านไปสิจะมาไล่ตามฉันทำไมเล่า >^<!!”
“ฉันบอกยูคิมูระไว้แล้วว่าจะมาส่งเธอ - -+!”
“นายไม่มาส่งฉันยูคิมูระคุงก็ไม่รู้หรอก -3-!!”
“เลิกเถียงฉันแล้วหยุดวิ่งสิโว้ย!! -___-***!!!”
“กรี๊ดดดดด อย่าฆ่าฉันนะตาปีศาจหน้าแก่ >[ ]<;;!!!!”
จักพรรดิพิโรธวาทังขั้นสูงสุด ร่างสูงออกแรงวิ่งลบระยะห่างระหว่างเขาและเธอเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ เด็กสาวซอยเท้าถี่ยิบไม่เคยรู้สึกต้องวิ่งเร็วขนาดนี้มาก่อน
ครืน ครืน
เมฆดำครึ้มเริ่มก่อตัวขึ้น … เป็นสัญญาณว่าอีกไม่ถึงชั่วโมงห่าฝนเม็ดใหญ่ต้องตกลงมาแน่ พิงกุเงยหน้ามองท้องฟ้าแล้วหันหลังมองซานาดะที่วิ่งตามเธออย่างไม่มีท่าจะลดละ
“เก็นอิจิโร่ HELP ME ฉันหยุดวิ่งไม่ได้ T^T!!”
“- -* อะไรนะ?!”
“หูหนวกรึไงยะ ฉันบอกว่าฉันหยุดวิ่งไม่ได้ไง T[ ]T!”
พิงกุเบะปากราวกับจะร้องไห้ ไม่เคยวิ่งหนีอะไรเร็วขนาดนี้มาก่อนทำให้ขาของเธอซอยยิกอย่างไม่คิดชีวิต ซานาดะออกอาการงงกับคนตรงหน้าเล็กน้อยจะวิ่งหนีอะไรเร็วขนาดถึงขั้นหยุดวิ่งไม่ได้กัน
“แล้วจะให้ฉันทำยังไง - -;”
“ม … ไม่รู้เหมือนกัน (;´д`)”
เด็กหนุ่มเริ่มคิดหนัก … จะให้เขาวิ่งรอบเมืองนี้ซัก 10 รอบก็ยังไหว หากแต่ร่างเล็กนี่ถึงแม้จะเล่นเทนนิสได้ถึงขั้นเก่งแต่เธอก็ไม่เคยได้รับการฝึกหนักอย่างพวกเขามาก่อน ถ้าให้วิ่งแบบนี้ต่อไปคงไม่ไหวแน่
“เก็นอิจิโร่ววว ฉันเหนื่อย ไม่ไหวแล้ว T^T”
พิงกุเริ่มส่งเสียงโอดครวญอีกคราเมื่อหยาดเหงื่อพรั่งพรูออกมานับไม่ถ้วนเป็นสัญญาณว่าผู้จัดการสาวแห่งริคไคเริ่มจะเหนื่อยจากการวิ่งมามากพอแล้ว และนั่นทำเอาซานาดะเริ่มไปต่อไม่ถูกถ้าเกิดว่าพิงกุเป็นอะไรไปเขาต้องโดนยูคิมูระและยานางิโกรธแน่นอน
“ข้างหน้ามัน … รางรถไฟ”
“……….. (O [ ] O ) !!!! ….”
ซานาดะเริ่มคิดหนักเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นรถไฟขบวนหนึ่งกำลังวิ่งมาทางที่เขาและเธอจำต้องวิ่งผ่าน ซึ่งเป็นทางกลับบ้านของพิงกุ เด็กหนุ่มตัดสินใจใช้ความคิดสุดท้ายในหัวที่ผุดขึ้น
“บัดซบเอ้ย … ยัยตัวปัญหา!!!”
จักพรรดิคำรามใส่เด็กสาวก่อนร่างสูงจะวิ่งเข้าใกล้เธอในระยะประชิด จักพรรดินีเหลือบสายตามองทางด้านหลังตนเล็กน้อย … เนื่องด้วยเป็นคนฉลาดเธอจึงรู้แน่ว่าร่างสูงคิดจะทำอะไร
“นี่อย่าบอกนะว่านาย อ๊ะ !! …”
ฟุ่บ !
ซานาดะกระโดดเข้ารวบร่างบางไว้แน่นแนบอกก่อนจะพาเธอกลิ้งล้มลงไปที่ทุ่งหญ้าด้านข้างแทนโดยใช้ตัวเองเป็นเบาะรองรับเด็กสาวไว้ แน่สิ.. เพราะมันคือหน้าที่ของลูกผู้ชายนี่นา
“เป็นอะไรรึเปล่า ?”
“….ก เก็นอิจิโร่ .. นี่นาย …”
พิงกุเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อร่างสูงใหญ่ของซานาดะยอมใช้ตัวเองเป็นเบาะรองรับเธอไว้ เด็กสาวดันตัวเองลุกขึ้นจากอกกว้างทันที หัวใจเต้นระรัวที่ไม่รู้ว่าเพราะความเหนื่อยหรือเพราะคนตรงหน้ากันแน่ ซานาดะยันตัวเองลุกขึ้นนั่งตามร่างบางซึ่งได้แต่ก้มหน้างุดๆอยู่ข้างๆราวกับสำนึกผิด
“ขอโทษนะ … ขอโทษที่ทำให้ลำบาก”
“………………..”
“นาย … เจ็บมากรึเปล่า ?”
“ถ้าฉันบอกว่าไม่เป็นไร ?”
“ไม่จริง!เมื่อกี้หลังนายกระแทกพื้นเต็มๆเลยนะ!”
“แล้วเธอว่าฉันจะเจ็บมั้ยล่ะ”
คำถามของเด็กหนุ่มทำเอาเด็กสาวหน้าเหวอ ใบหน้าหวานแดงเถือกด้วยความอายในความบ๊องของตัวเอง ร่างบางผลักแขนแกร่งของร่างสูงอย่างหมั่นไส้แล้วลุกขึ้นทันที
ครืน … ซ่า !
ยังไม่ทันที่จะต่อสนทนา เม็ดฝนเจ้ากรรมก็เทกระหน่ำลงมาสาดใส่ทั้งคู่จนเปียกปอน ซานาดะขมวดคิ้วเข้มอีกครา .. วันนี้มันวันซวยอะไรกันนะ
“ชิ … ไอ้ฝนบ้านี่”
“ตกหนักซะด้วยสิเนี่ย”
“มัวยืนทำบ้าอะไรอยู่ล่ะรีบเข้าไปในกระท่อมสิ!!”
“ก … กระท่อมอะไรของนาย”
“ฮึ่ย!! ….”
เมื่อเห็นว่าบอกธรรมดาคงไม่ได้ผลกับเด็กสาว มือใหญ่ก็ตรงเข้าไปกระชากข้อแขนของเธอแล้วดึงพาร่างบางตามไปทันที พิงกุเหลอหลาเล็กน้อยแต่ก็ยอมเดินตามซานาดะไป
แอ๊ด …
ฟุ่บ
ประตูกระท่อมหลังเล็กถูกเปิดออก … ด้านในรกร้างฝุ่นเกาะตามสภาพของมันเล็กน้อย หากแต่ก็สามารถเป็นที่หลบฝนได้ ซานาดะวางกระเป๋าแร็กเก็ตก่อนถอดหมวกสีดำของตนออกแล้วหันมองเด็กสาวที่ตัวเปียกโชกไม่แพ้กัน
“ฝนมันตกหนัก … วันนี้นอนที่นี่แล้วกัน”
“ห๊า ? ! ให้ฉันนอนกับนายเนี่ยนะ ? !”
พิงกุร้องเสียงหลงทันทีพลางชี้นิ้วระหว่างตนกับซานาดะประกอบการถาม
“เธอก็เห็นไม่ใช่รึไงว่าฝนมันตกหนักแค่ไหน”
ซานาดะเอ่ยพลางถอดเสื้อยืดสีเหลืองประจำชมรมออกก่อนจะเสยผมตัวเองพลางสะบัดไล่น้ำออกเบาๆทำเอาพิงกุหน้าแดงขึ้นมาอีกครา … ‘ตอนปี1หมอนี่ยังไม่แมนขนาดนี้เลยนะ’ เด็กสาวคิดพลางวางกระเป๋านักเรียนตัวเองลงบ้างก่อนจะนั่งหันหลังพลางกอดตัวเองไปด้วย
“หนาวชะมัด …”
เด็กสาวบ่นพึมพำ … ซานาดะคว้าเสื้อนักเรียนตนมาสวมแทนเสื้อยืดริคไคที่เปียกชื้นก่อนเด็กหนุ่มจะโยนเสื้อแจ็กเก็ตสีเหลืองแขนยาวซึ่งเป็นของริคไคโปะหัวเด็กสาว
“อ๊ะ … ?!”
พิงกุหยิบเสื้อตัวใหญ่ออกจากหัวตนเองก่อนหันมองซานาดะที่นั่งหันหลังให้เธออยู่
“…. ถอดเสื้อผ้าเธอออกแล้วใส่เสื้อฉันแทน … จะได้ไม่เป็นหวัด”
“… ( o/////////////o) !!!! ……”
ซานาดะพูดเสียงแผ่ว … ใบหน้าคมคายขึ้นสีแดงเล็กน้อยหากแต่เขานั่งหันหลังอยู่เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรับรู้ อย่างน้อยเขาก็สุภาพบุรุษพอที่จะเสียสละแจ็กเก็ตอุ่นๆเพื่อเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึงล่ะน่า
“…………ขอบ……….ใจนะ……”
พิงกุผงกหัวรับคำพลางเอ่ยขอบคุณ … เธอหันหลังให้เด็กหนุ่มแล้วทำตามที่ซานาดะบอกทุกอย่าง ดีนะที่เสื้อยาวพอจะปิดโคนขาของเธอบ้างแม้เธอจะรู้ว่าอย่างซานาดะไม่ใช่พวกฉวยโอกาสแต่ก็อยากจะรักษาสิทธิ์ของตัวเองเอาไว้ก่อน … ก็แหม … ไม่ได้หยิบเสื้อแจ็กเก็ตชมรมตัวเองมานี่นา
“เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จรึยัง”
“อ … อื้ม”
“งั้นก็นอนซะ …”
“แต่นี่มันเพิ่งทุ่มกว่าเองนะ”
“เธออยากดูฉันเปลี่ยนเสื้อผ้ารึไง”
สิ้นคำของซานาดะ … พิงกุก็กุลีกุจอไปนอนชิดติดกำแพงกระท่อมทันใด
‘ดีนะที่แถวนี้เป็นทุ่งหญ้าเลยมีกระท่อม .. ไม่งั้นคงขลุกกันที่ตู้โทรศัพท์ซักที่แน่ๆ’
เด็กสาวหลับตาปี๋ทันใด ซานาดะเห็นดังนั้นก็เผยยิ้มพอใจ …
‘น่าแกล้งเป็นบ้า … ’
ความคิดชั่วร้าย … ผุดเข้ามาในหัวของจักพรรดิซะแล้ว …
To be continued
.......................…………………………………………………………………………………………………………………
ความคิดเห็น