คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Yukimura Seiichi & Fubuki Reiimu Series 1 part 1 : ชื่อของเธอคนนั้น ?
Yukimura Seiichi & Fubuki Reiimu
Series 1 part 1 : ชื่อของเธอคนนั้น ?
เด็กหนุ่มเรือนผมสีน้ำเงินร่างสูงในชุดยูนิฟอร์มชายของโรงเรียนสาธิตริคไคก้าวเดินไปตามระยะทางที่แสนคุ้นเคยตามเดิม ใบหน้าคมคายเผยรอยยิ้มรับอากาศยามเช้าที่เต็มไปด้วยออกซิเจนอย่างสดชื่น
“บรรยากาศตอนเช้าเนี่ยดีจังเลยนะ”
ยูคิมูระแหงนหน้ามองท้องฟ้าพลางเผยรอยยิ้มอีกคราก่อนร่างสูงจะก้าวเดินเข้าไปในร้านขายของชำที่ตนแวะซื้อประจำตอนเช้าอยู่แล้ว … ‘อืม รู้สึกปวดหัวตงิดแฮะ … ‘ ยูคิมูระนึกคิดเมื่อจู่ๆอาการปวดหัวคล้ายกับจะเป็นลมแล่นเข้าใส่ตนโดยไม่ทันตั้งตัว แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนักใบหน้าคมคายเผยยิ้มพลางผงกหัวให้คุณป้าซึ่งเป็นเจ้าของร้านเป็นการเคารพก่อนจะเปิดตู้เย็นหยิบเอาชากลิ่นซากุระขวดน้อยที่เขาซื้อเป็นประจำทุกเช้าออกมา
“ค .. คุณยายคะ คุณยาย ~ ! แฮ่ก … แฮ่ก”
“อ้าวๆ ฟุบุคิจัง…ทำไมถึงได้วิ่งมาซะหอบแฮ่กขนาดนี้ล่ะจ๊ะ”
“อ่ะ … แห่ะๆ”
น้ำเสียงใสแจ๋วดังขึ้นก่อนจะปรากฏร่างบางในชุดยูนิฟอร์มหญิงโรงเรียนสาธิตริคไคของสาวน้อยเรือนผมสีน้ำตาลหยิกลอนถูกรวบเป็นหางม้าบางส่วนด้วยโบว์สีแดงกับแววตาสีแดงที่ดูยังไงก็ไม่น่ากลัวเลยซักนิด ใบหน้าหวานหอบแฮ่กผุดไปด้วยหยาดเหงื่อก่อนจะเผยยิ้มแห้งออกมา ยูคิมูระหันมองเธอเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก ‘น่ารักดีแฮะ’ เขาคิดพลางหยิบเงินในกระเป๋าออกมาจ่ายเงินค่าชานี่
“คือจริงๆแล้วหนูอยากได้ …”
วืด ….
“อ๊ะ นี่นาย ! เป็นอะไรรึเปล่า ?!”
จู่ๆร่างสูงของยูคิมูระก็ล้มฟุบลงไปกับพื้นร้านขายของ เด็กสาวซึ่งกำลังเปิดบทสนทนากับหญิงชรารีบเอาตัวเข้ามารับเด็กหนุ่มไว้ทันที มือบางเขย่าร่างของยูคิมูระที่แน่นิ่งไปก่อนเธอจะเอามือทาบหน้าผากของเด็กหนุ่มไว้แล้วหันไปหาหญิงชราที่ดูท่าจะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากจนทำอะไรไม่ถูก
“เดี๋ยวหนูกลับมาซื้อนะคะคุณยาย”
เด็กสาวเผยยิ้มบางให้หญิงชราก่อนจะค่อยๆแบกพาเด็กหนุ่มผู้ซึ่งไร้สติเดินกระหยงกระแหยงออกไป … ดีนะที่ร่างกายของเธอแข็งแรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่งั้นคงแบกผู้ชายตัวสูงขนาดนี้ไม่ไหวหรอก
“หมอนี่ยูคิมูระ เซอิจิกัปตันชมรมเทนนิสชายโรงเรียนเราสินะตัวหนักชะมัดเลยแฮะ”
ร่างบางบ่นมุบมิบกับตัวเองก่อนแบกพาร่างสูงของยูคิมูระมาจนถึงชมรมเทนนิสชายที่เป็นจุดหมายจนได้ เด็กสาวหอบแฮ่กกระชับวงแขนแกร่งของร่างสูงที่โอบรอบคอตนแน่นก่อนถีบประตูชมรมเข้าไปเรียกสายตาจากสมาชิกในชมรมทั้งหมดในทันที
“ยูคิมูระ!!”
“เซอิจิ เป็นอะไรไปน่ะ?!”
สองในสามปีศาจแห่งริคไครีบวิ่งกรูมาที่เด็กสาวทันใดทำเอาเธอหน้าเหวอ ซานาดะรีบดึงร่างของยูคิมูระมาก่อนขมวดคิ้วเอาความกับเด็กสาวผู้ร่วมเหตุการณ์ทันที
“เกิดอะไรขึ้นกับยูคิมูระ?”
“ก็จู่ๆกัปตันนายเป็นลมไปน่ะสิฉันเลยแบกมาส่งให้”
คำตอบของเด็กสาวทำเอาทั้งซานาดะและยานางิมองหน้ากันก่อนทั้งสองจะพยักหน้ารับให้กันราวกับเป็นการส่งซิกส์บางอย่างแล้วซานาดะก็แบกร่างเพื่อนของตนเข้าห้องชมรมไปโดยมีเจ้าเด็กปีสองจอมแสบอย่างคิริฮาระคอยตามพัดให้ไม่ห่าง
“ขอชื่อเธอกับห้องเรียนเอาไว้ด้วย …”
“น … นายจะเอาไปทำไมอ่ะ?”
“ความเป็นไปได้ 98 เปอร์เซ็นต์ที่เซอิจิฟื้นแล้วจะต้องถามหาคนที่ช่วย”
ยานางิมองหน้าเด็กสาวนิ่งราวกับเป็นการเค้นเอาคำตอบ ร่างบางงุนงงสงสัยเล็กน้อยแต่ก็พยักหน้าเข้าใจคำพูดของเขาแต่โดยดี
“ฟุบุคิ เรย์มุ ม.ต้นปี 3 ห้อง B”
“ห้องเดียวกับบุนตะสินะ”
“อื้ม นั่นแหละ ฉันไปนะ บ๊ายบาย!”
เด็กสาวเจ้าของชื่อผงกหัวรับก่อนกระชับกระเป๋านักเรียนที่บ่าขวาของตนเอง เธอเผยยิ้มบางแล้วโบกมือให้เด็กหนุ่มอย่างเป็นมิตรก่อนจะวิ่งออกไป ยานางิพยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนเดินเข้าไปในชมรม
………….. ต่อมา
“อืม …..”
เปลือกตาอันแสนหนักอึ้งถูกปรือขึ้นมา … ยูคิมูระรู้สึกหนักที่หัวเป็นอย่างมาก เขาพยายามลุกขึ้นนั่งโดยใช้แขนข้างซ้ายยันตัวเองไว้แล้วยกแขนขวากุมขมับ … แม้จะดีขึ้นแต่ก็ยังรู้สึกปวดตุบๆอยู่ดี
“นี่กี่โมงแล้วเนี่ย”
เด็กหนุ่มพึมพำกับตัวเองก่อนจะมองหานาฬิกาที่แขวนไว้กับผนังด้านข้างที่เข็มยาวชี้ไปที่เลขหนึ่งและเข็มสั้นชี้ไปที่เลขสี่ตีความหมายได้ว่าตอนนี้เป็นเวลาสี่โมงกว่าแล้ว … คงเป็นเพราะร่างกายที่หักโหมและเหนื่อยล้ามากเกินไปจึงทำให้เขาสลบไปนานได้ถึงขนาดนี้
ยูคิมูระสะบัดหัวเบาๆไล่ความปวดตุบในหัวออกไปก่อนเด็กหนุ่มจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเปิดประตูชมรมออกมาก็พบว่าเพื่อนๆของตนกำลังซ้อมเทนนิสกันอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่
“ปุริ ไงยูคิมูระนอนเพลินเลยสิท่าน่ะ”
“ดีขึ้นบ้างมั้ย ?”
นิโอที่อยู่ระหว่างพักกับยางิวเอ่ยทักทายยูคิมูระทันที กัปตันหนุ่มแห่งริคไคได้ยินดังนั้นจึงเผยยิ้มบางให้คนทั้งสอง
“ฉันไม่เป็นไรแล้วล่ะขอบใจนะ”
ยูคิมูระให้คำตอบไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกไปหาคิริฮาระที่นั่งเดาะลูกอยู่ที่ข้างสนามด้วยสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก … 'ต้องถูกรุ่นพี่ในชมรมซักคนแกล้งมาอีกแน่'
“คิริฮาระคุง ทำไมมานั่งตรงนี้ล่ะ”
“กัปตันนนน T^T รุ่นพี่ยานางิเค้าแกล้งผมอ่ะ!”
เจ้าเด็กปีสองเมื่อเห็นว่าผู้มีอำนาจสูงสุดในชมรมเป็นห่วงเป็นใยจึงเบะปากทำตีสีหน้าราวกับจะร้องไห้เป็นเด็กอนุบาลใส่ยูคิมูระทันใด เด็กหนุ่มเห็นดังนั้นจึงอดหัวเราะเบาๆไม่ได้
“ทำไมล่ะ ? ยานางิแกล้งอะไรหรอ”
“รุ่นพี่ยานางิเค้าไม่ยอมซ้อมคู่กับผมเอาแต่ซ้อมกับรองกัปตันซานาดะอยู่ได้ T^T”
คิริฮาระตะโกนงอแงเสียงดังก่อนชี้ไม้ชี้มือไปที่ยานางิซึ่งกำลังซ้อมอยู่กับซานาดะที่คอร์ดเทนนิส ยูคิมูระทอดสายตามองตามนิ้วของเด็กหนุ่มก่อนหันกลับมาลูบหัวของคิริฮาระเบาๆ
“ไม่เป็นไรหรอกนะคิริฮาระคุง แล้วทำไมถึงไม่ไปซ้อมกับมารุอิล่ะ”
“ก็รุ่นพี่มารุอิเค้ามีธุระด่วนเลยกลับบ้านไปก่อนนี่ครับ”
“แล้วแจ็กกัลล่ะ?”
“รุ่นพี่แจ็กกัลอยู่ตรงโน้นนั่นน่ะฮะ”
เด็กหนุ่มอายุน้อยกว่าเหยียดนิ้วชี้ออกมาอีกคราหากแต่เป้าหมายนั้นคือเด็กหนุ่มผิวคล้ำเชื้อชาติบราซิล มีทรงผมหัวโล้น(?)เป็นเอกลักษณ์และเขากำลังตะโกนคุยกับเด็กสาวคนนึงซึ่งอยู่บนต้นไม้แม้ฟังไม่ได้ศัพท์แต่ก็พอจับใจความได้ว่าแจ็กกัลกำลังห้ามเด็กสาวที่พยายามช่วยลูกแมวบนต้นไม้อยู่
“งั้นเองสิ …”
“อ้าว แล้วกัปตันจะไปไหนอ่ะ?”
ยูคิมูระเผยยิ้มพลางมองภาพที่แววตาของตนกำลังจับจ้องอยู่ก่อนเด็กหนุ่มจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง คิริฮาระเห็นดังนั้นจึงเอ่ยปากถามทันที
“ฉันจะไปถามเรื่องคนที่ช่วยฉันไว้น่ะ … ยานางิรู้ใช่มั้ยล่ะ”
ยูคิมูระว่าไว้แค่นั้นก่อนเด็กหนุ่มหัวหยิกจะพยักหน้ารับ กัปตันร่างสูงจึงเดินออกไปที่คอร์ดทันทีที่เห็นว่าทั้งซานาดะและยานางิเริ่มพักยกกันบ้างแล้ว โดยที่ซานาดะเดินเข้าไปนั่งพักสวนทางกับนิโอและยางิวที่ลุกขึ้นมาใช้คอร์ดซ้อมต่อโดยมีคิริฮาระแย้งอยู่กลายๆเหมือนเด็กเอาแต่ใจ
“ยานางิ อ่ะนี่”
“… ขอบใจนะเซอิจิ”
คนถูกเรียกหันมาพลางหอบเหนื่อยพร้อมเหงื่อที่ชุ่มโชกไปทั้งตัว ยูคิมูระเห็นดังนั้นจึงยื่นผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กให้เพื่อนของตนซึ่งยานางิเองก็พยักหน้าแล้วรับมาแต่โดยดี
“นี่ยานางิ นายรู้มั้ยว่าใครช่วยฉันไว้น่ะ”
ไม่รอช้าเด็กหนุ่มเรือนผมสีน้ำเงินจึงเอ่ยปากถามเสนาธิการชมรมทันที คนถูกถามได้ยินดังนั้นจึงพยักหน้ารับเบาๆก่อนส่งผ้าคืนให้เจ้าของของมันซึ่งยูคิมูระก็รับคืนมา
“รู้สิ … เธอชื่อฟุบุคิ เรย์มุน่ะ”
“เห .. งั้นหรอ ไม่คุ้นชื่อเลยแฮะ”
“เป็นเพื่อนร่วมห้องของบุนตะกับมาซาฮารุที่ห้อง B ลองถามดูสิ”
ยานางิเอ่ยทิ้งไว้ก่อนเดินไปนั่งพักข้างซานาดะที่ยกขวดน้ำดื่มเป็นพัลวันอยู่ที่เก้าอี้ยาวข้างคอร์ดสนาม แต่แล้วจู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาจากกระเป๋านักเรียน(ก็กระเป๋าแร็กเก็ตนั่นแหละ)ของยานางิ … นี่ถ้าไม่ได้นั่งอยู่ข้างกระเป๋านี่คงไม่ได้ยินแน่ เสนาธิการหนุ่มจึงหยิบโทรศัพท์เครื่องน้อยออกมาก่อนเขาจะกดรับแล้วลุกเดินหายเข้าไปในห้องชมรมทันที
แอ๊ด ! ปัง !
“ขอโทษที่มาสายนะยูคิมูระคุง !”
จังหวะที่ยูคิมูระกำลังยืนคิดอะไรอยู่นั้นฉับพลันประตูเหล็กของชมรมก็ถูกเปิดออกปรากฏร่างบางของเด็กสาวซึ่งมีดีกรีเป็นผู้จัดการและจักพรรดินีของชมรมเขา ยูคิมูระส่ายหน้าเบาๆก่อนเผยยิ้มบางให้เธอ
“ไม่เป็นไรหรอกอากุจัง”
“ผู้จัดการรร มาซ้อมเทนนิสคู่กับผมหน่อยเด่ะ”
คิริฮาระเมื่อเห็นคุณแม่(?)ประจำตัวมาถึงก็รีบปรี่ไปออดอ้อนทันที เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ยานางิเดินออกมาพอดี
เด็กสาวเห็นดังนั้นจึงบีบจมูกอาคายะก่อนยกมือตบหัวเด็กหนุ่มเบาๆ ยูคิมูระจึงหัวเราะออกมาเนื่องด้วยเพราะความน่ารักน่าเอ็นดู
“นี่แน่ะเจ้าเด็กบ้า หาเรื่องอู้จะซ้อมกับฉันเพราะตอนแรกขี้เกียจซ้อมใช่มั้ย”
“เปล่าซักหน่อยนะผู้จัดการก็รุ่นพี่ยานางิอ่ะไม่ยอมซ้อมกับผม T^T”
“ไม่ต้องมาโทษยานางิคุงเลยนะ ถ้ายานางิคุงไม่ซ้อมด้วยแล้วทำไมนายถึงไม่ไปซ้อมกับกำแพงล่ะ”
“โหยยย ทำไมใจร้ายใจยักษ์กันแบบนี้อ่ะยัยม้าเต่อ!? โถ่วุ้ย”
“เอ่อ …. คิริฮาระคุง…”
“ความเป็นไปได้ 98 เปอร์เซ็นต์ที่อาคายะ…จะโดนเก็บ”
เมื่อคำต้องห้ามถูกหลุดพูดออกมาจากปากของเจ้าเด็กปีสองตัวแสบ ยูคิมูระจึงเรียกเตือนสติทันทีพลางทอดสายตามองผู้จัดการสาวซึ่งยืนเขม็งตามองคิริฮาระควันออกหู เสนาธิการชมรมเสมองทางผู้โดนอาฆาตอย่างเวทนาก่อนเอ่ยเปรยๆออกมาให้รุ่นน้องตัวดีเสียวสันหลังวูบ
“นิโอคุง … ขอยืมแร็กเก็ตหน่อย…”
“ปุริ ~ เผื่อฉันด้วยนะอากุจัง”
มือบางแบออกไปหาแร็กเก็ตของนิโอซึ่งยืนอยู่ใกล้มือที่สุดและจอมหลอกลวงก็ส่งให้ด้วยความเต็มใจที่มีอยู่เต็มอกไม่วายยังแลบลิ้นใส่คิริฮาระอีกด้วย ยูคิมูระเห็นท่าไม่ดีจึงหลบหลีกภัยมานั่งอยู่กับซานาดะและยานางิทันที
“ม้าเต่อสินะเจ้าหนู ….”
“อ .. เอ่อ … ผมถอนคำพูดครับผู้จัดการ ผมขอโทษน้า นะนะนะนะ”
“…หุบปากเดี๋ยวนี้….ไอ้เด็กบ้า!!!”
“ว๊ากกกกกกกกกกกกกก”
สิ้นคำสั่งตายจากผู้จัดการสาวการไล่ล่าก็เกิดขึ้นภายในชมรมทันใด คิริฮาระวิ่งหนีสิงห์สาวหูดับตับไหม้ซึ่งแม่สิงห์สาวก็ดูท่าว่ายังไงวันนี้ก็ต้องเขมือบไอ้เด็กปากเสียคนนี้ให้ได้
“อากุจัง ~ เขวี้ยงแร็กเก็ตฉันใส่หัวเจ้าเด็กบ้านั่นเลยก็ได้นะ ~ !”
“ไม่เอาน่านิโอคุง … นั่นอาคายะนะ”
“ปุริ ก็ฉันไม่ชอบหน้าไอ้เด็กนั่นเท่าไหร่นี่นา”
นิโอยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจก่อนตะโกนเชียร์ยุยงการไล่ล่าของผู้จัดการสาวต่อโดยที่ยางิวได้แต่ส่ายหัวระอาอย่างเหลืออดกับความเอาแต่ใจของคู่หูตน
“อากิโมโตะหยุดทำเรื่องไร้สาระซักที!”
ซานาดะที่นั่งทนอยู่นานตะโกนออกไปก่อนเด็กหนุ่มร่างสูงจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปหวังจะหยุดเหตุการณ์ไร้สาระในสายตาเขาทันที ที่นั่งตรงนี้จึงเหลือเพียงยานางิและยูคิมูระเท่านั้น
‘จะทำยังไงดีนะถึงจะได้เจอกับเธอคนนั้น … อยากรู้จักเธอจริงๆเลย’
‘เรย์มุจัง …’
“เซอิจิ .. เหม่ออะไรอยู่น่ะ”
ยานางิเอ่ยปากถามเพื่อนของตนเมื่อเห็นว่ายูคิมูระเอาแต่เหม่อมองออกไปบนฟ้าอย่างไม่ละสายตา คนถูกถามดูเหลอหลาเล็กน้อยก่อนเผยยิ้มให้เจ้าของคำถาม
“อ๋อ เปล่าหรอก แค่คิดอะไรนิดหน่อยน่ะ”
“หืม … งั้นหรอ”
“อื้ม ~”
To be continued
…………………………………………………………………………………………………………………......................
ความคิดเห็น