คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : Marui Bunta & Nakatani Keki Series 6 part 2 : เรื่องที่คาดไม่ถึง
Marui Bunta & Nakatani Keki
Series 6 part 2 : เรื่องที่คาดไม่ถึง
เมื่อวานนี้ที่เด็กหนุ่มกลับบ้านเร็วไม่ได้มีอะไรพิเศษเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย หากแต่มีหญิงสาววัยราวๆเดียวกับแม่ของตนมาที่บ้านด้วย เมื่อมารุอิไปถึงแม่ของเขาก็เอ่ยแนะนำเสียจนมารุอิเบื่อที่จะฟัง วันนี้หลังจากเลิกชมรมเด็กหนุ่มจึงเลือกไปนั่งเล่นที่สนามหญ้าแทนการกลับบ้านทั้งยังปิดโทรศัพท์มือถือกันคนอื่นโทรมารบกวนอีกด้วย
มารุอินอนเหยียดตัวอยู่ที่สนามหญ้าซึ่งด้านล่างเป็นแม่น้ำสายใหญ่ เด็กหนุ่มเรือนผมสีแดงหลับตาพริ้มรับกับลมที่กระทบใบหน้าคมคายนั่นพลันริมฝีปากก็เป่าหมากฝรั่งไปด้วย
“เดี๋ยววันหยุดเธอบอกว่าจะชวนคนคนนึงไปด้วยหรอเคกิ”
“ตื่นเต้นจังเลย ใครกันน้า > <”
“อื้ม หมอนั่นน่ะ … อ๊ะ!!”
จังหวะที่เด็กหนุ่มกำลังเคลิ้มหลับก็พลันปรากฏเสียงของนักเรียนหญิงกลุ่มนึงดังกระทบโสตประสาทของเขาซะก่อน มารุอิเบะปากแต่ก็ไม่ได้สนใจจะหันกลับไปมอง
แซ่ก แซ่ก แซ่ก
“บุนตะ!นายจริงๆด้วย”
“หืม ? …”
เมื่อรู้สึกถึงฝีเท้านึงที่เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงสนามหญ้าด้านข้างตนเด็กหนุ่มก็เหลือบตาไปมองทันใด ฉับพลันในหัวก็ประมวลว่าเด็กสาวตรงหน้าคือคนคนเดียวกับที่เปิดศึกชิงเค้กกับเขาเมื่อเช้าวานนี้
“นายมาทำอะไรตรงนี้น่ะ”
“ก็นอนเล่นแก้เบื่อ”
มารุอิยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งแล้วเอ่ยตอบเด็กสาวไปอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก
“ไหนๆขอดูหน้าหน่อยซิ”
“ฉันไปด้วย ~!”
แซ่ก แซ่ก แซ่ก
จู่ๆเด็กสาวทั้งสองซึ่งมากับเคกิก็จรลีเดินเข้ามาในสนามหญ้าทันทีแต่ยังไม่ทันไรที่มารุอิหันหน้ากลับไปมองพวกเธอสาวเจ้าพวกนั้นก็หน้าแดงระเรื่อขึ้นมา
“หล่อจังเลย > <”
“นายชื่ออะไรหรอ *O*”
น้ำเสียงใสหากแต่แหลมปรี๊ดถูกเอ่ยถามออกมาอย่างกระดี๊กระด๊า มารุอิยกมือขึ้นปิดหูข้างที่ได้ยินชัดกว่าแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทันที มือใหญ่คว้ากระเป๋าแร็กเก็ตขึ้นมาสะพายบ่าพลางเป่าหมากฝรั่งไปด้วย
“อัจฉริยะ ฉันขอตัวล่ะ”
เด็กหนุ่มตอบออกไปแค่นั้นก่อนเดินออกไปทันทีด้วยความรำคาญ อุตส่าห์จะมาหาที่พักผ่อนแต่กลับโดนรบกวนแทนซะได้ เขาควรจะไปหาเคาท์เตอร์อาหารของโรงแรมแล้วไปนอนงีบเอาแถวนั้นแทนสินะ
หมับ!
“น .. นี่บุนตะ … นายอย่าลืมเรื่องวันหยุดนะ”
มือบางของเคกิดึงแขนของร่างสูงไว้ มารุอิหยุดชะงักก่อนหันไปมองร่างบางด้านข้างตนทันที
“รู้แล้วน่า ไม่ลืมหรอก”
มารุอิเอ่ยตอบกลับไปก่อนเอื้อมมือไปยีหัวของเด็กสาวเบาๆพลางเผยยิ้มบางไปด้วย
“ส … สิบเอ็ดโมงนะบุนตะ!”
เมื่อเห็นว่าร่างสูงเดินออกไปไกลมากขึ้นเด็กสาวจึงเอ่ยเตือนออกไปอีกครั้งซึ่งมารุอิก็ทำสัญลักษณ์โอเคแทนคำพูดตอบรับเรียกรอยยิ้มบางบนหน้าของเด็กสาวทันที
“ดูเหมือนเธอจะสนิทกับบุนตะคุงมากเลยนะเคกิ”
น้ำเสียงแหลมถูกกระทบเข้าโสตประสาทของเด็กสาวอีกครา หากแต่มันกลับเป็นประโยคที่แลดูไม่เป็นมิตรเท่าไหร่นัก และเมื่อเด็กสาวหันกลับไปก็พบว่าเพื่อนทั้งสองของตนกำลังเหยียดสายตาเย็นชาใส่อยู่
“เราไม่ยกให้หรอกนะถึงเธอจะมาก่อนก็เถอะ”
“พวกเราเองก็ชอบบุนคุงเหมือนกันนะยะน้อยๆหน่อย”
เคกิรู้สึกราวกับถูกตบ ? … นี่เพื่อนทั้งสองของเธอทรยศเธอเพียงเพราะแค่เธอสนิทกับมารุอิน่ะหรอ เรียกว่าสนิทก็ไม่ได้เต็มปากเท่าไหร่นัก เพราะเธอรู้จักกับเด็กหนุ่มเมื่อวานนี้เอง
แม้เขาจะเป็นรักแรกของเธอก็เถอะนะ …
“ฉ … ฉันไม่ได้สนิทกับบุนตะขนาดนั้นนะ”
“ก็ดีแล้วนี่!เธอน่ะมีคู่หมั้นแล้วนะอย่าลืมสิ!”
“ใช่!!เพราะฉะนั้นเลิกยุ่งกับบุนคุงซะนะยัยบ้า!!”
พลั่ก!
มือบางของเพื่อนคนนึงในกลุ่มผลักอกของเคกิอย่างแรงทำเอาเธอถลาลงกับพื้นเนื่องด้วยเพราะตัวเล็กกว่า เด็กสาวสองคนเหยียดสายตาเย็นชาใส่เธอก่อนเผยยิ้มสะใจแล้วเดินออกไปทันที
เคกิน้ำตาคลอ … แล้วเรื่องวันหยุดเธอจะเอายังไงดีนะ? จะมาดีรึเปล่า
“ทำไมล่ะ … ฉันเองก็ชอบบุนตะเหมือนกันนะ…”
เด็กสาวพึมพำกับตนเองเบาๆก่อนยันตัวเองลุกขึ้นมาพลันมือบางก็ยกขึ้นปาดน้ำตาของตนออก เคกิทอดสายตามองแผ่นหลังของอดีตเพื่อนสาวซึ่งตั้งตัวเป็นศัตรูกับเธอเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้ว …
‘ฉัน … จะทำยังไงดีล่ะบุนตะ’
…………………………………………………………………………………………………………………
“กลับมาแล้วครับ”
เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงเนือยๆก่อนถอดรองเท้าไว้หน้าประตูบ้านสะเปะสะปะด้วยความขี้เกียจและอ่อนเพลียที่มีอยู่เต็มหัว
“พี่บุนตะกลับมาแล้ว > <”
“มาเล่นกับพวกผมเหอะน้า *O*”
“ไม่เอา เหนื่อย”
มือใหญ่ดันหน้าผากของน้องทั้งสองให้ออกไปจากตรงหน้าตนก่อนเด็กหนุ่มจะเดินเข้าครัวไปทันที
“แม่ครับ วันนี้มีไรกินบ้างอ่ะ”
มารุอิเอ่ยถามแม่ของตนก่อนเอื้อมมือไปเปิดตู้เย็นหาของกินมารองท้องทันที วันนี้ทั้งเหนื่อย ทั้งหิวเลยล่ะนะเด็กหนุ่มคนนี้น่ะ ผู้เป็นแม่ซึ่งกำลังทำอาหารอยู่หันกลับมากอดอกมองลูกชายตัวดีทันที
“ทำไมวันนี้แม่โทรไปถึงปิดเครื่องห๊ะบุนตะ?!”
“ไรเล่า แบตหมดบ้างไม่ได้หรอแม่”
หากแต่เจ้าลูกชายตัวดีก็ยังคงเอ่ยตอบไปด้วยน้ำเสียงเนื่อยๆ … แม่เขาก็พอจะรู้หรอกนะว่าลูกตัวเองเป็นนักเทนนิสคงจะอยากพักบ้างแหละแต่ทำไงได้ล่ะมันเล่นปิดเครื่องหนีแบบนี้ก็อดโมโหไม่ได้นี่นา
“พี่บุนตะโดนด่าแล้ว ‘O’”
“สมน้ำหน้าพี่บุนตะ ‘^’”
เจ้าเด็กแฝดนรกเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วกันที่หน้าประตู ผู้เป็นพี่คนโตหันไปขมวดคิ้วมองดุใส่ทันทีก่อนใบหน้าคมคายจะหันกลับมามองทางแม่ตนเองอีกครั้ง
“ก็วันนี้มีแขกมาหาแต่แกกลับไม่อยู่บ้านแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนล่ะ!”
“แล้วไมเค้าไม่รอผมล่ะ ผมเหนื่อยนะแม่อยากพักบ้าง”
“เพราะแกเอาแต่ซ้อมเทนนิสบ้าๆบอๆแบบนี้นี่ไง!”
“โว้ะ!อย่ามาพาลไปถึงเทนนิสได้มั้ยแม่ มันเป็นความชอบของผม!”
เด็กหนุ่มขึ้นเสียงใส่ด้วยความโกรธเมื่อได้ยินแม่ของตนกล่าวว่าเทนนิสอันเป็นที่รักของเขา มารุอิลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินออกไปอย่างหัวเสียด้วยความโกรธ ผู้เป็นแม่ได้แต่ขมวดคิ้วมองตามหลังลูกชายของตนไปด้วยความโมโหที่ครุกรุ่นไม่แพ้กัน … พ่อที่คอยห้ามศึกออกไปทำงานจึงไม่มีใครกล้าห้ามศึกโต้วาทีนี้
แอ๊ด ปึง!!
มือใหญ่ปิดประตูห้องของตัวเองลงอย่างหัวเสียก่อนจะเดินไปวางกระเป๋าแร็กเก็ตลงข้างประตู นี่ถ้าไม้แร็กเก็ตไม่ได้อยู่ข้างในนะมารุอิคงโยนมันสะเปะสะปะบนพื้นไปแล้ว
โครก ~
เสียงท้องร้องโอดครวญลั่น … มารุอิยกมือขึ้นกุมท้องของตนทันใด วันนี้เขาเอาแต่นอนเพลินเลยไม่ได้ไปกินข้าวเที่ยง ตอนเย็นก็ดันมาทะเลาะกับแม่แบบนี้เท่ากับว่าจะไม่ได้กินอะไรเลยรึไงนะ
“โอ้ย … หิวเป็นบ้า”
เด็กหนุ่มนอนกลิ้งอยู่บนเตียงพลันปากก็บ่นไปด้วย
“ปีนหน้าต่างออกไปก็ได้วะ…”
มารุอิพึมพำกับตนเองก่อนเด็กหนุ่มจะลุกขึ้นจากเตียง … น้ำท่าก็ยังไม่ได้อาบ เสื้อผ้าก็ไม่ได้เปลี่ยน มารุอิยังคงสวมเครื่องแบบนักเรียนชายของโรงเรียนสาธิตริคไคอยู่สมบูรณ์ยกเว้นเนคไทที่ถูกถอดออกไปแล้ว
ครืด …
เด็กหนุ่มเอื้อมมือไปเปิดหน้าต่างออกแล้วกระโจนออกไปโดยใช้มือยึดขอบหน้าต่างแล้วทิ้งตัวลงไป เขาตั้งใจจะกระโดดลงไปด้วยท่วงท่าที่สุดอัจฉริยะของตน
“เหอ?...”
ด้วยเพราะไม่ระวังตัว มือที่จับขอบหน้าต่างซึ่งเป็นแกนหลักยึดตัวของเขาไว้กลับลื่นพรืดส่งผลให้ร่างของมารุอิร่วงลงตามแรงโน้มถ่วงของโลกทันใด
“ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!!”
เด็กหนุ่มแหกปากลั่นทำเอาคนในบ้านสะดุ้งกันเป็นแถว
ฟุ่บ !
“โอ้ย … เจ็บชิบ …”
มือใหญ่คลำไปที่ด้านหลังของตนเอง โชคดีที่บ้านของเขาปลูกไม้ประเภทที่เป็นพุ่มใหญ่ไว้รอบบ้านจึงไม่เจ็บเท่าไหร่นัก นี่ถ้าไม่มีพุ่มไม้นี่รองรับไว้ละก็เขาคงตายไปแล้วหรือไม่ก็พิการไปชั่วชีวิตแน่ๆ
ครืด
“บุนตะ นั่นลูกหรอ?!”
หญิงสาวซึ่งเป็นแม่ของบ้านนี้เปิดหน้าต่างออกมามองหาลูกชายที่พุ่มไม้ทันใด … เธอมั่นใจว่านั่นเป็นเสียงของลูกชายตัวเองไม่ผิดแน่หากแต่มารุอิกลับปิดปากเงียบ … ‘เดี๋ยวก็โดนด่าอีกถ้าออกไปน่ะ’
“รึว่าเราหูฝาดนะ …”
ครืด
เมื่อไร้น้ำเสียงการตอบรับกลับมา เธอจึงปิดหน้าต่างแล้วกลับเข้าไปในบ้านแทน มารุอิถอนหายใจอยู่ในพุ่มไม้แล้วค่อยๆคลานออกมาจากพุ่มไม้ให้เงียบที่สุด …
“อัจฉริยะบุนตะ … เตรียมออกวิ่งได้ …”
ฟึ่บ ! ตึก ตึก ตึก ตึก
เด็กหนุ่มบ่นพึมพำกับตัวเองแล้วกระโจนวิ่งออกไปนอกตัวบ้านอย่างรวดเร็วทันใด และเมื่อวิ่งออกมาไกลจากตัวบ้านมากแล้วเขาจึงหยุดชะงักเพราะฉุกคิดอะไรได้อย่างนึงขึ้นมาในหัว
“ชิบหาย … ลืมหยิบกระเป๋าตังค์มา …”
มารุอิล้วงทั้งกระเป๋านักเรียน กระเป๋าเสื้อ … จะออกมาซื้อของแต่ดันไม่มีตังค์ซะได้
ฟุ่บ
“อะไรเนี่ย … มีติดตัวแค่ 50 เยนเองหรอ” (50 เยนประมาณ 15-20 บาทจ้า : มิจจี้)
มารุอิถอนหายใจก่อนดีดเหรียญ 50 เยนเล่นอย่างสนุกมือ ถึงแม้จะมีแค่ 50 เยนแต่มันก็สามารถซื้อน้ำผลไม้ได้กระป๋องนึงล่ะนะ
เมื่อเดินมาถึงตู้กดน้ำเด็กหนุ่มก็ไม่รอช้าหยอดเหรียญลงไปพลันกดเลือกน้ำผลไม้ที่ตนเองต้องการ
ครึ่ก!
ทันทีที่เครื่องส่งน้ำผลไม้กระป๋องน้อยมาให้ที่ช่องรับของด้านล่างมารุอิก็เอื้อมมือไปหยิบมันมาเปิด … และจังหวะที่เขากำลังจะยกมันขึ้นดื่มสายตาก็เหลือบไปเห็นคนบางคนที่แสนคุ้นตา
“นั่นมันยัยจุกนี่นา …”
มารุอิมองร่างบางที่เดินผ่านเขาไปด้วยเพราะเธอไม่เห็นเนื่องจากร่างของเขาอยู่ตรงผ้าใบสีส้มอันใหญ่ที่กางอยู่บนหัวซึ่งเมื่อดูจากท่าทางที่เธอก้มหน้าอยู่แล้วต้องไม่เห็นเขาแน่นอน แต่สายตาคมของเด็กหนุ่มประมวลผลได้ว่าเด็กสาวตาบวมเป่ง … ? เธอร้องไห้งั้นหรอ ? แล้วทำไมกลับบ้านเอาป่านนี้กันนะ
“ว่าไงยัยจุก”
“เอ๋ … ?”
เด็กหนุ่มกระโจนเข้าไปขวางทางของเด็กสาวไว้ เคกิที่เดินก้มหน้าอยู่หยุดชะงักก่อนเงยหน้ามองร่างสูงตรงหน้าที่แสนคุ้นตายิ่งนักแม้จะเพิ่งรู้จักกันก็ตาม
“ไปส่งบ้านป่าว ? ไม่คิดตังค์ด้วย”
มารุอิเอ่ยปากถามพลางยกน้ำผลไม้กระป๋องนั้นขึ้นดื่มไปด้วย เด็กสาวหน้าแดงระเรื่อ … น้ำตาพาลจะไหลออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นคนตรงหน้าที่เธออยากเจอมากที่สุดในตอนนี้
“บุน … ตะ …”
“ก็เออ …เฮ้ย ร้องไห้ทำไม?”
จังหวะที่เด็กหนุ่มกำลังจะเอ่ยตอบกลับไปนั้นเคกิก็ก้มหน้าหนีเขาทันที น้ำตาสีใสใหลอาบแก้มของเธอดุจสายน้ำที่ไหลเชี่ยว ร่างสูงได้แต่งุนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้าที่เกิดขึ้น
“ป … เปล่านะ .. ฮึก … ฉัน … ฮึก .. ไม่ได้ร้องไห้นะ …”
“สะอื้นฮึกๆเป็นชุดขนาดนี้ยังจะมาปากแข็ง”
มารุอิยกกระป๋องน้ำอันเย็นเฉียบแนบแก้มเนียนใสของเด็กสาวตรงหน้าทันทีทำเอาเธอสะดุ้ง เคกิเงยหน้ามองร่างสูงตรงหน้าทั้งที่แววตายังเปียกแฉะไปด้วยน้ำตาที่ไหลอาบแก้มอยู่
“เอ้า กินซะจะได้สบายใจขึ้น”
เด็กหนุ่มผละกระป๋องน้ำจากแก้มของเด็กสาวก่อนจะยัดเยียดส่งมันเข้าไปที่มือบาง เคกิรับกระป๋องน้ำผลไม้อันน้อยนั่นมาไว้ในมืออย่างงุนงง
“น … นาย”
“เอาหมากฝรั่งด้วยมั้ยล่ะ?”
มารุอิเอ่ยถามพลางแกะหมากฝรั่งออกมาแล้วโยนมันเข้าปากของตนก่อนเด็กหนุ่มจะเป่ามันออกมาเป็นลูกโป่งสีเขียวที่ชอบทำเล่นบ่อยๆ
“ฮึ … ต … ตาบ้า ….”
“อะไรเล่ายัยจุก”
เคกิกลั้นขำกับท่าทีของคนตรงหน้าก่อนเธอจะขมวดคิ้วค้อนใส่เขาแทนเมื่อมารุอิเอ่ยเรียกเธอด้วยชื่อไม่น่าฟังแบบนั้นอีกครั้ง
“เอาของเหลือมาให้ผู้หญิงกินแถมยังเรียกชื่อผิดๆแบบนั้นคิดว่ามันเท่นักรึไงยะ!”
“ก็ฉันไม่ใช่ยางิวนี่หว่าอีกอย่างนะมันเท่แน่อยู่แล้วเพราะฉันคืออัจฉริยะ”
เด็กหนุ่มเอ่ยพลางยักคิ้วไปด้วย เคกิได้ยินดังนั้นก็อดจะเผยยิ้มออกมาไม่ได้ … นี่ล่ะมั้งเสน่ห์ของมารุอิที่ทำให้เธอหลงรักเขาตั้งแต่แรกพบแบบนี้น่ะ … แต่เธอยังไม่คิดจะบอกตอนนี้หรอกนะ
“เอ้า นำทางดิจะไปส่งบ้าน”
“อ .. เอาจริงหรอ?”
“เออ … เล่าให้ฟังด้วยว่าร้องไห้ทำไม”
มารุอิเอ่ยตอบแต่กลับยื่นเงื่อนไขด้วย เคกิได้ยินดังนั้นจึงเงยมองร่างสูงด้านหน้าตนอีกครั้ง … เธออยากให้เขาไปส่งนะ แต่ถ้าจะให้เล่าแบบนี้น่ะเธอก็ไม่เอาด้วยหรอก
“งั้นฉันกลับเองก็ได้”
เด็กสาวตั้งท่าจะเดินออกไปพลันมือของเธอก็ถือกระป๋องน้ำผลไม้ที่เด็กหนุ่มให้ไว้ด้วย
“ยัยนี่ … ปั๊ด ! เดี๋ยวไปส่งเฉยๆก็ได้ฟะ”
มารุอิดึงมือของเคกิไปจับไว้ทันที เด็กสาวก้มมองการกระทำของเด็กหนุ่มด้วยความตกใจ ใบหน้าหวานเริ่มเจือสีแดงอ่อนๆไว้
“เอ้า นำทางไปสิ”
มือใหญ่กระตุกมือบางราวกับเรียกสติเจ้าของมัน เคกิผงกหัวหงึกหงักก่อนออกแรงเดินนำหน้าเด็กหนุ่มไปทั้งๆที่มือใหญ่ของร่างสูงก็ยังคงจับมือของเธอแน่นไม่ปล่อย
มารุอิ บุนตะ … ผู้ชายคนนี้คิดอะไรอยู่กันแน่ถึงได้ทำแบบนี้เนี่ย …
To be continued
.......................…………………………………………………………………………………………………………………
แต่งไป ... แต่งมา .. กลับรู้สึกว่าตัวเองหลงเสน่ห์รุ่นพี่มารุอิแทนซะเอง!! >O< อ๊ากกก ผู้ชายอะไรน่ารักชะมัด
ด้วยเหตุนี้ ... ไรท์จึงแต่งเพลินเอาซะยาวเหยียดขนาดนี้เลยค่ะ 5555 ไม่ว่ากันเน้อ T^T
ฝากติดตามต่อด้วยจ้า ไปนอนละ บ๊ายบาย >___<
ความคิดเห็น