คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : Sanada Genichirou & Akimoto Pinku Series 2 part 10 : เสียงปรบมือ (end)
Sanada Genichirou & Akimoto Pinku
Series 2 part 10 : เสียงปรบมือ (end)
‘พิธีจบการศึกษานักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่สามโรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยริคไค’
ป้ายผ้าใบใหญ่ยังคงถูกติดอยู่หน้าโรงเรียนสาธิตริคไคแม้พิธีจบการศึกษาจะถูกปิดลงอย่างสมบูรณ์แล้วก็ตาม และหลังจากเข้าพิธีจบการศึกษาตามที่โรงเรียนกำหนดไว้ให้เรียบร้อยแล้วบรรดานักเรียนมัธยมปีที่สามก็ยังไม่มีใครคิดกลับซักคน กลับพากันไปถ่ายรูปฟรีสไตล์ บ้างก็ร้องไห้ บ้างก็ตั้งวงคุยกัน เล่นกันอีกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะแยกจากันแม้บางคนยังคงจะเรียนต่อแผนกม.ปลายที่นี่ก็ตาม
สมาชิกทั้งหมดของชมรมเทนนิสชายสาธิตริคไคต่างมารวมตัวกันที่สนามของชมรมโดยไม่ได้นัดหมายกันและเมื่อทุกคนต่างมาถึงนั้นกลับมองหน้ากันอย่างงุนงงสงสัย
“อ้าว พวกนายก็มาด้วยงั้นหรอ”
“กัปตันกับพวกรุ่นพี่จะเรียนจบกันแล้วนี่ครับ พวกเราก็เลยอยากจะมาส่ง”
เมื่อได้ยินสมาชิกคนนึงพูดขึ้น ยูคิมูระก็เผยยิ้มบางขึ้นมาทันทีก่อนหันมองจักพรรดิหนุ่มที่ยืนกอดอกไม่ยอมพูดอะไรอยู่ข้างตน
“ซานาดะ นายไปหาอากุจังเถอะ”
“อะไรนะ”
คำพูดของยูคิมูระทำเอาซานาดะต้องทวนคำซ้ำทันที กัปตันหนุ่มหัวเราะเบาๆ
“ไปเถอะ ตอนนี้ก็มีแต่พวกนายนะที่ไม่ยอมลงรอยกันซักที”
ยูคิมูระเผยยิ้มบาง ซานาดะดูตกใจไม่น้อยก่อนสายตาเฉียบคมจะหันกลับไปมองสมาชิกตัวจริงทุกคนที่ยืนเรียงตัวกันอยู่ด้านหลังเขาและยูคิมูระ
“สายตาแบบนั้นหมายความว่าไง ฮึเก็นอิจิโร่?” ยานางิ
“ปุริ ~ คิดว่าพวกเราเป็นใครกัน” นิโอ
“ไม่ต้องสนใจเรื่องของพวกเราหรอกน่า” ยางิว
“ไปเด้ ไม่ว่าเรื่องอะไรพวกเราต้องก้าวไปด้วยกันไม่ใช่หรอท่านจักพรรดิ” มารุอิ
“มัวแต่อ้ำอึ้งไปมากันแบบนี้ ฉันเบื่อแทนนะเฟ้ย” แจ็กกัลป์
“อย่างน้อยผมก็เอาชนะกัปตันเรื่องนี้ได้สินะ เยส!” คิริฮาระ
เจ้าตัวจริงทั้งหลายต่างส่งยิ้มให้ซานาดะกันเป็นพัลวัน ซานาดะหันไปขมวดคิ้วเข้มมองคิริฮาระทำเอาเจ้าเด็กแสบหงอลงไปทันใด
“ถ้างั้น … ฝากด้วยนะยูคิมูระ”
“ฝากอะไรล่ะ? ต้องคนนั้นต่างหากนะ”
ยูคิมูระเผยยิ้มบางให้เพื่อนของตนก่อนกัปตันหนุ่มจะพยักเพยิดหน้าไปทางคิริฮาระแทน ซานาดะเห็นดังนั้นจึงทอดสายตาหันไปมองทางเจ้าเด็กปีสอง เด็กหนุ่มก้าวขายาวๆไปหาคิริฮาระทันที เจ้าเด็กหัวหยิกเหงื่อตกเล็กน้อย … นี่เขาจะโดนรองกัปตันตบกบาลอีกมั้ยเนี่ย
ฟึ่บ
“ต่อจากนี้ฉันฝากชมรมด้วยล่ะคิริฮาระ อาคายะ”
ซานาดะง้างมือขึ้น … คิริฮาระหลับตาหนีด้วยความหวาดหากแต่มือนั่นกลับตบลงที่บ่าของเด็กหนุ่มหัวหยิกแทน คิริฮาระค่อยๆปรือตาขึ้นมาก่อนเงยหน้ามองรองกัปตันของตนที่เผยยิ้มบางให้เขาอยู่
“ค … ครับ เชื่อใจผมคิริฮาระ อาคายะได้เลยครับ!!”
“เชื่อใจผมคิริฮาระ อาคายะได้เลยครับ … ผมติดแฟนน่าดูเลยครับเนี่ย ~”
คิริฮาระยกนิ้วโป้งขึ้นมาก่อนเผยยิ้มร่าหากแต่นิโอกลับเอ่ยวาจากวนประสาทขึ้นมาซะก่อนทำเอาคนทั้งชมรมหัวเราะกันลั่นพวกเขาไม่ได้เยาะเย้ยนะแต่มันตลกจริงๆ คิริฮาระหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกก่อนจะวิ่งออกไปหานิโอทันใด จอมหลอกลวงเห็นดังนั้นก็รีบเผ่นแน่บออกจากที่ที่ตนเองยืนอยู่
“ย๊ากกกก หยุดนะไอ้รุ่นพี่เฮงซวย!!”
“ปุริ ~ ฉันมีขานี่ ฉันมีอิสระที่จะวิ่งหนีคนโง่แบบนายนะ”
“หุบปากไปเลยไอ้รุ่นพี่นิโอ!!จะฆ่าให้ตายเลยโว้ย!!”
“ยางิว ช่วยฉันด้วย ~”
“นิโอคุงนายนี่มัน …”
คิริฮาระแผดเสียงดังลั่นชมรมก่อนจะเร่งฝีเท้าไล่ตามเด็กหนุ่มร่างสูงรุ่นพี่ของตนเต็มที่ ยางิวเมื่อได้ยินดังนั้นก็อดจะส่ายหัวระอาไม่ได้ สุภาพบุรุษบ่นพึมพำก่อนวิ่งตามไป ‘บางทีรีแล็กซ์ก่อนเข้าค่ายก็ดีนะ’
“ไล่จับกันหรอ ขอเล่นบ้างเด่ะ”
มารุอิมองตามหลังทั้งสองคนไปก่อนจะเริ่มออกวิ่งตามไปบ้าง
“เฮ้ย มารุอิรอฉันด้วยเฟ้ย!”
แจ็กกัลป์เผยยิ้มอย่างนึกสนุกก่อนจะวิ่งตามออกไปบ้าง ซานาดะที่ยืนกอดอกมองอยู่นานเริ่มแผ่ออร่ามาคุจนสมาชิกคนอื่นในชมรมเริ่มรู้สึกได้
“อยากวิ่งมากสินะ … ทุกคนไปวิ่งรอบสนาม 40 รอบ!!”
จักพรรดิแผดเสียงลั่นชมรม … สมาชิกตัวจริงที่วิ่งไล่กันอยู่หยุดชะงักในทันใด พวกสมาชิกที่เหลือผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ได้แต่อ้าปากค้างด้วยความตกใจ
“เอ่อ … ซานาดะ”
“ฉันไปก่อนนะยูคิมูระ ฝากคุมเจ้าพวกที่เหลือด้วย”
รองกัปตันหนุ่มเอ่ยขึ้นก่อนเดินออกไปจากชมรมทันที วันนี้พวกเขามาเข้าพิธีจบการศึกษาเพียงอย่างเดียวไม่ได้คิดจะมาซ้อมกันหรอกเพราะยังไงเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ต้องมาเริ่มเก็บตัวซ้อมก่อนเข้าค่าย U-17 อยู่แล้ว
“โหย ไรอ่ะรองกัปตันก็รุ่นพี่นิโอเค้าแกล้งผมอ่ะ!!”
“โหย ไรอ่ะรองกัปตันก็รุ่นพี่นิโอเค้าแกล้งผมอ่ะ …..”
“ฮึ่ย รุ่นพี่นิโอ!!!”
ซานาดะแยกตัวออกมาจากความวุ่นวายที่ก่อตัวขึ้นทันที … เด็กหนุ่มส่ายหัวระอาแต่เขาก็เผยยิ้มบางออกมาพลางทอดสายตามองไปทางชมรมของตน พวกสมาชิกตัวจริงที่ต่างฝ่าฟันอุปสรรคมากมายมาพร้อมกับตัวเขาและยังมีผู้หญิงอีกหนึ่งคนที่เป็นแรงผลักดันให้ชมรมเข้ามาถึงจุดสูงสุดตรงนี้ได้ … แม้ตอนนี้เธอจะไม่ได้อยู่ตรงนี้แต่ตอนนี้ซานาดะกำลังจะออกไปหาเธอแล้วล่ะ!
ตึก ตึก ตึก ตึก
ใช้เวลาไม่นานร่างสูงก็พาตนเองมาถึงหน้าบ้านที่แสนคุ้นเคย เด็กหนุ่มเอื้อมมือไปกดกริ่งตามมารยาทหากแต่ฉับพลันสายตากลับเหลือบไปเห็นแม่กุญแจดอกใหญ่ล็อกประตูบ้านอยู่ … ที่เขาไม่ได้ไปหาพิงกุตั้งแต่ปิดพิธีเพราะเธอหายไปแล้วครั้นพอจะตามไปก็ดันถูกรุ่นน้องขอร้องให้ไปเข้าชมรมก่อน
“ขอโทษนะครับ บ้านอากิโมโตะออกไปไหนกันหรอครับ”
ซานาดะตัดสินใจออกปากถามชายชราผู้กำลังตัดแต่งสวนอยู่ในบ้านของตนซึ่งอยู่ติดกับบ้านของเด็กสาว
“อ๋อ บ้านหนูพิงกุเขาเพิ่งย้ายออกไปเมื่อสักพักนี่เองพ่อหนุ่ม ตัวน่ะไปแล้วเหลือแต่ของที่จะให้รถมาขนไปอีกสองวันนี่แหละ เห็นว่าจะไปอยู่ฮอกไกโดกันน่ะ ทำไมเรอะ?”
“ไปแล้วหรอครับ?!คุณตารู้มั้ยครับว่าเขาจะไปทางเครื่องบินหรือว่ารถยนตร์”
“ได้ยินว่าจะไปทางรถไฟนะ เห็นพูดเรื่องสถานีกันอยู่”
“ขอบคุณมากนะครับ”
ซานาดะได้ยินดังนั้นก็รีบรุดวิ่งออกไปสถานีคานางาวะที่ตนเองคุ้นเคยทันที สถานีที่ห้าวันที่แล้วทั้งเขาและเธอเดินลงมาด้วยกัน เส้นทางนี้ที่เขาและเธอเคยเดินจับมือกลับบ้านด้วยกัน
‘ฉันไม่ยอมให้มันกลายเป็นอดีตหรอกโว้ย!’
จักพรรดิคำรามขึ้นในใจ ยังไงเขาก็ไม่มีทางปล่อยให้จักพรรดินีหลุดมือไปเด็ดขาด!
…………………………………………………………………………………………………………………
สถานีรถไฟคานางาวะ
“เอ่อ … แม่คะ … ทำไมรถไฟยังไม่มาอีกล่ะ”
“เอ …นั่นสิแม่ก็ว่างั้นแหละ”
พิงกุเอ่ยถามแม่ของตนหลังจากนั่งรอรถไฟสายที่จะไปสถานีฮอกไกโดนานแล้ว
“แม่ว่าแม่ไปถามเจ้าหน้าที่ดีกว่า ลูกรออยู่ที่นี่นะพิงกุ”
หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขุ่นๆเล็กน้อยกับความช้าของรถไฟ เธอจึงลุกขึ้นก่อนเผยยิ้มบางให้ลูกสาวแล้วเดินออกไปที่เคาท์เตอร์ทันที พิงกุมองตามแม่ของตนก่อนถอนหายใจ
“เก็นอิจิโร่ ….”
“อากิโมโตะ!!!”
“ให้ตายสิ …จนถึงตอนนี้เสียงนายก็ยังดังอยู่ในหัวฉันอีกหรอ”
พิงกุสะบัดหัวของตนเองไล่ความคิดที่มีต่อซานาดะออกไป ก็เธออยากลืมนี่นา …
“เธออยู่ตรงไหนห๊ะอากิโมโตะออกมาเดี๋ยวนี้!!!”
“โอ้ย ออกไปจากหัวฉันนะตาบ้า ….”
“อากิโมโตะออกมาสิโว้ย!!!”
เด็กสาวเริ่มแปลกใจกับน้ำเสียงอันหนักแน่นและทรงพลัง … เธอค่อยๆผละมือที่กุมหัวของตนเองออกก่อนหันหลังกลับไปมองทางต้นเสียงทันใด... แววตาทั้งสองของเด็กสาวเบิกกว้างกับภาพตรงหน้า
“ก … เก็นอิจิโร่!!”
พิงกุลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพลันสายตาไม่ผละจากร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอไม่ไกลตาเท่าไหร่นัก ผู้คนทั่วทั้งสถานีต่างหันมามองเด็กทั้งสองด้วยตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซานาดะเมื่อเห็นว่าจักพรรดินีที่ตนตามหาอยู่ตรงหน้าร่างสูงก็ไม่รอช้ารีบดึงเธอเข้ามากอดแนบอกตนเองทันที
หมับ!
“ยัยบ้า!! … ทำไมเธอถึงไม่บอกฉันก่อนจะไปน่ะห๊ะ!”
“น … นี่ … นาย”
“ฉันจะเป็นบ้าตายเพราะเธอรู้ตัวรึเปล่า!”
ซานาดะกดหัวของเด็กสาวแนบอกตนเองพลางอ้อมแขนแกร่งก็โอบกอดร่างบางไว้แน่นราวกับถ้าปล่อยไปเธอจะเลือนหายจากเขาไป … พิงกุน้ำตาคลอ … เธอไม่นึกว่าซานาดะจะยอมลงทุนถึงขั้นวิ่งตามเธอมาที่สถานีรถไฟคานางาวะแบบนี้ … แถมยังมาตะโกนโหวกเหวกไม่อายใครเพื่อหาตัวเธออีกด้วย
พิงกุอ้าแขนกอดตอบร่างสูง … ไม่มีความอายอะไรต่อสายตาผู้คนรอบข้างอีกแล้ว …
“เก็นอิจิโร่ … ฉัน … ฉันขอโทษ”
“อย่าไปได้มั้ย …”
“อ … เอ้ะ?”
“อย่าไปจากฉัน”
ร่างสูงผละกอดออกมือใหญ่จับไหล่มนของร่างบางไว้แน่น ใบหน้าคมคายแสดงความขอร้องออกมาอย่างสุดหัวใจ … เขาไม่เคยออดอ้อนขอร้องใครมาก่อน เธอคือคนแรกที่จักพรรดิซานาดะคนนี้ยอมสยบด้วยแล้วทุกอย่าง … ยอมหมดแล้ว … แค่อย่าไปจากเขา
“ฉัน ….”
“พิงกุ ..”
“… !! …”
จู่ๆซานาดะก็เรียกชื่อจริงของเธอออกมาทำเอาร่างเล็กสะดุ้ง ก็ซานาดะไม่เคยเรียกชื่อเธอซักครั้งเลยนี่นา เอาแต่เรียกนามสกุลอยู่ได้
“แต่ถ้าเธอต้องไปจริงๆ … เธอช่วยฟังฉันก่อนได้มั้ย”
“………………”
เด็กสาวเลือกที่จะพยักหน้าแทนคำตอบ … ผู้คนรอบข้างบางคนหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูป บ้างก็อัดวิดีโอ … บ้างก็น้ำตาไหลหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเป็นพัลวัน นานๆทีจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นนี่นา
“… ขอโทษ... ที่ฉันมันปากแข็ง”
“………………………….”
“ขอโทษ … ที่ฉันมันโง่ …”
“…………………………”
“แต่ตอนนี้ฉันรู้ตัวแล้วว่า … ฉันชอบเธอ ...”
“……………!! ………”
“ฉันรู้ว่าความรู้สึกที่ฉันมีให้เธอไม่มากเท่ากับความรู้สึกที่เธอให้ฉัน”
“…………………………”
“แต่ …….”
“ม … ไม่ต้องพูดแล้ว … ตาบ้า!!”
พิงกุตวาดใส่หน้าเด็กหนุ่ม … น้ำตาสีใสไหลอาบแก้มของเธอเป็นสายน้ำ ซานาดะเห็นดังนั้นก็เผยยิ้มบางก่อนมือใหญ่จะเกลี่ยน้ำตาให้ร่างบางเบาๆอย่างปลอบโยน … พิงกุโผกอดเข้าที่ร่างสูงตรงหน้าอีกครั้ง
“ฉันรู้ … ฉันรู้แล้ว …ฮึก … ฉันได้ยินแล้ว … ฮึก … พูดมาก … ฮึก … มันเขินนะยะ!”
“งั้นหรอ …ถ้างั้นก็ดีแล้วล่ะ...”
เด็กสาวกำเสื้อตัวใหญ่แน่น … ใบหน้าหวานซุกอกกว้างพลันน้ำตาก็ไหลรินอาบแก้มไปด้วย ซานาดะลูบปอยผมปลอบโยนเธอเบาๆ … แค่นี้ก็ได้ แค่ได้พูดออกไปก็ได้ … แม้ต้องแยกจากกันแต่แค่ได้พูดความรู้สึกที่มีออกไป … แค่นั้นจักพรรดิก็พอจะทำใจได้ล่ะนะ
แปะ แปะ แปะ แปะ
จู่ๆก็มีเสียงปรบมือดังมารอบตัว พิงกุเงยหน้าขึ้นมาจากอกของเด็กหนุ่มก่อนจะกวาดสายตาไปมองไปรอบๆทันที ซานาดะเองก็รู้สึกแปลกใจเช่นกันที่ผู้คนรอบข้างต่างเผยยิ้มแล้วปรบมือให้ … บางคนร้องไห้ซุกคนข้างๆไปเลยก็มี
“เจ๋งมากน้องชาย!!”
“น่าอิจฉาจังวู้ว ~”
แปะ แปะ แปะ
ถ้อยคำมากมายราวกับสรรเสริญรับกับเสียงปรบมือทำเอาซานาดะและพิงกุหน้าแดงอ่อนๆจนเผลอผละออกจากกันแล้วหันหน้าหนี … ทั้งคู่เผลอลืมตัวไปเลยว่าอยู่ที่สถานี
“พิงกุ … ลูกมีผู้ชายที่ดีขนาดนี้ทำไมไม่บอกแม่”
“อ … เอ๋?”
หญิงสาวผู้เป็นแม่เดินแหวกผู้คนที่รายล้อมออกมาก่อนดึงแขนลูกสาวมาแล้วขมวดคิ้วดุทันที
“ลูกโกหกแม่ว่าเหงางั้นหรอห๊า?!”
“พ … พิงกุเปล่านะคะ”
“ไม่ต้องย้ายไปที่ไหนทั้งนั้นครับคุณแม่ ผมจะดูแลทั้งพิงกุทั้งคุณแม่เองครับ”
“ก … เก็นอิจิโร่!!”
เด็กสาวตีแขนของร่างสูงแรงๆทันทีเมื่อซานาดะพูดอะไรไม่เข้าท่าใส่แม่ของตน หากแต่ดูเหมือนหญิงสาวจะดูปลาบปลื้มกับคำพูดของเด็กหนุ่มตรงหน้ามาก เธอตรงรี่เข้าไปดึงแก้มของซานาดะทันที
“น่ารักซะจริงนะเรา อนาคตไกลนะเนี่ย”
“เอ่อ … ข... ขอบคุณครับ”
ซานาดะแหยหน้าตามแรงดึงที่แก้มก่อนมือใหญ่จะคว้ามือบางของเด็กสาวข้างตนไปแล้วจับไว้แน่น ผู้เป็นแม่เห็นดังนั้นจึงผละมือของตนออกจากแก้มของเด็กหนุ่มก่อนหันสายตามามองทั้งคู่แทน
“คุณแม่ครับ! ….”
“แม่อนุญาตจ้ะ”
ยังไม่ทันที่ซานาดะจะเอ่ยอะไรออกไปได้เต็มประโยค หญิงสาวก็กอดอกพลางเอ่ยคำตอบออกมาแล้วเผยยิ้มบางรับทันที
พิงกุได้ยินดังนั้นก็เบิกตากว้าง เธอหันกลับไปยิ้มกว้างให้เด็กหนุ่มข้างตนทันทีซึ่งเขาก็ยิ้มรับอยู่แล้ว
“เก็นอิจิโร่ … เพลงนี้ฉันให้นายนะ”
เด็กสาวเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม ซานาดะได้ยินดังนั้นก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
จุ๊บ ~
ร่างบางเขยิบไปใกล้ร่างสูงก่อนเขย่งตัวเองขึ้นไปหอมแก้มของซานาดะแล้วผละออกมา ซานาดะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ พลันใบหน้าคมคายก็ขึ้นสีแดงเล็กน้อยด้วยความเขิน
“น … นี่เธอ!”
“ก็ถ้าบอกว่าจะจูบนายก็ไม่ให้อ่ะ ฉันเลยบอกว่าเป็นเพลงไง >O<”
“หนอย … ยัยแสบนี่!!”
“ว๊ากกก อย่านะอย่าฆ่าฉันน้า >[ ]<;;;”
พิงกุวิ่งหนีซานาดะออกไปนอกสถานีทันใด ร่างสูงเห็นดังนั้นก็วิ่งตามร่างบางออกไปหมายจะรวบตัวไว้ให้ได้ … การไล่ล่าแห่งความสุขเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งแล้วสินะ
ไม่มีการจากลาอะไรเกิดขึ้นอีกแล้ว
THE END .
...................................................................................................................................................................................
เย้ ! ปิดไปแล้วหนึ่งเรื่อง(จุดพลุ)ทะเลาะกันมานานพ่อแง่แม่งอนสุดท้ายก็รักกัน > <
ขอบคุณทุกคอมเม้นทุกกำลังใจจ้า ตอนนี้รุ่นพี่ซานาดะเข้าค่ายด้วยความสบายใจละ(?)
อย่าลืมไปติดตามเรื่องคนอื่นด้วยน้า รักรีดเดอร์ทุกคน kiss ~
Special Talk
ก่อนจากกันกับเรื่องนี้เรามาถามความรู้สึกของจักพรรดิกันดีกว่าว่าทำไมบอกรักซะยาวเหยียด(?)
Michiyo : นี่รุ่นพี่ซานาดะ ทำไมรุ่นพี่ถึงบอกรักพิงกุจังเค้าซะยาวเหยียดเลยล่ะ ‘ ‘
Sanada : ……. (กระแอมไอ) … เพราะฉันวิ่งมาเหนื่อยน่ะสิ (จริงๆเพราะทำตัวไม่ถูกต่างหากในหัวมันตีกันไปหมด : ในใจ)
Michiyo : ไม่เห็นจะเกี่ยวซักหน่อย … เมื่อคืนก็เตรียมตัวหน้ากระจกไม่ใช่หรอ >___<
Sanada : นี่เธอรู้ได้ยังไงน่ะห๊ะ?!!
Michiyo : ก … ก็บังเอิญเมื่อคืนมุดดินไปโผล่บ้านรุ่นพี่พอดี ‘ ‘;;
Sanada : ถ้างั้น…ฉันจะฝังเธอลงดินซะตอนนี้เลยละกัน!! (หยิบแร็กเก็ต)
Michiyo : อร๊ายยย รีดเดอร์จ๋าช่วยไรท์ด้วย T[]T (วิ่งหนีสุดตีน)
ความคิดเห็น