ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Prince OF Tennis [mix 8 series]

    ลำดับตอนที่ #19 : Sanada Genichirou & Akimoto Pinku Series 2 part 10 : เสียงปรบมือ (end)

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 56


    Sanada Genichirou &  Akimoto Pinku

    Series 2 part 10 :  เสียงปรบมือ (end)

          พิธีจบการศึกษานักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่สามโรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยริคไค

          ป้ายผ้าใบใหญ่ยังคงถูกติดอยู่หน้าโรงเรียนสาธิตริคไคแม้พิธีจบการศึกษาจะถูกปิดลงอย่างสมบูรณ์แล้วก็ตาม และหลังจากเข้าพิธีจบการศึกษาตามที่โรงเรียนกำหนดไว้ให้เรียบร้อยแล้วบรรดานักเรียนมัธยมปีที่สามก็ยังไม่มีใครคิดกลับซักคน กลับพากันไปถ่ายรูปฟรีสไตล์ บ้างก็ร้องไห้ บ้างก็ตั้งวงคุยกัน เล่นกันอีกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะแยกจากันแม้บางคนยังคงจะเรียนต่อแผนกม.ปลายที่นี่ก็ตาม

          สมาชิกทั้งหมดของชมรมเทนนิสชายสาธิตริคไคต่างมารวมตัวกันที่สนามของชมรมโดยไม่ได้นัดหมายกันและเมื่อทุกคนต่างมาถึงนั้นกลับมองหน้ากันอย่างงุนงงสงสัย

          “อ้าว พวกนายก็มาด้วยงั้นหรอ”

          “กัปตันกับพวกรุ่นพี่จะเรียนจบกันแล้วนี่ครับ พวกเราก็เลยอยากจะมาส่ง”

          เมื่อได้ยินสมาชิกคนนึงพูดขึ้น ยูคิมูระก็เผยยิ้มบางขึ้นมาทันทีก่อนหันมองจักพรรดิหนุ่มที่ยืนกอดอกไม่ยอมพูดอะไรอยู่ข้างตน

          “ซานาดะ นายไปหาอากุจังเถอะ”

          “อะไรนะ”

          คำพูดของยูคิมูระทำเอาซานาดะต้องทวนคำซ้ำทันที กัปตันหนุ่มหัวเราะเบาๆ

          “ไปเถอะ ตอนนี้ก็มีแต่พวกนายนะที่ไม่ยอมลงรอยกันซักที”

          ยูคิมูระเผยยิ้มบาง ซานาดะดูตกใจไม่น้อยก่อนสายตาเฉียบคมจะหันกลับไปมองสมาชิกตัวจริงทุกคนที่ยืนเรียงตัวกันอยู่ด้านหลังเขาและยูคิมูระ

          “สายตาแบบนั้นหมายความว่าไง ฮึเก็นอิจิโร่?” ยานางิ

          “ปุริ ~ คิดว่าพวกเราเป็นใครกัน” นิโอ

          “ไม่ต้องสนใจเรื่องของพวกเราหรอกน่า” ยางิว

          “ไปเด้ ไม่ว่าเรื่องอะไรพวกเราต้องก้าวไปด้วยกันไม่ใช่หรอท่านจักพรรดิ” มารุอิ

          “มัวแต่อ้ำอึ้งไปมากันแบบนี้ ฉันเบื่อแทนนะเฟ้ย” แจ็กกัลป์

          “อย่างน้อยผมก็เอาชนะกัปตันเรื่องนี้ได้สินะ เยส!” คิริฮาระ

          เจ้าตัวจริงทั้งหลายต่างส่งยิ้มให้ซานาดะกันเป็นพัลวัน ซานาดะหันไปขมวดคิ้วเข้มมองคิริฮาระทำเอาเจ้าเด็กแสบหงอลงไปทันใด

          “ถ้างั้น ฝากด้วยนะยูคิมูระ”

          “ฝากอะไรล่ะ? ต้องคนนั้นต่างหากนะ”

          ยูคิมูระเผยยิ้มบางให้เพื่อนของตนก่อนกัปตันหนุ่มจะพยักเพยิดหน้าไปทางคิริฮาระแทน ซานาดะเห็นดังนั้นจึงทอดสายตาหันไปมองทางเจ้าเด็กปีสอง เด็กหนุ่มก้าวขายาวๆไปหาคิริฮาระทันที เจ้าเด็กหัวหยิกเหงื่อตกเล็กน้อย นี่เขาจะโดนรองกัปตันตบกบาลอีกมั้ยเนี่ย

          ฟึ่บ

          “ต่อจากนี้ฉันฝากชมรมด้วยล่ะคิริฮาระ อาคายะ”

          ซานาดะง้างมือขึ้น คิริฮาระหลับตาหนีด้วยความหวาดหากแต่มือนั่นกลับตบลงที่บ่าของเด็กหนุ่มหัวหยิกแทน คิริฮาระค่อยๆปรือตาขึ้นมาก่อนเงยหน้ามองรองกัปตันของตนที่เผยยิ้มบางให้เขาอยู่

          “ค ครับ เชื่อใจผมคิริฮาระ อาคายะได้เลยครับ!!

          “เชื่อใจผมคิริฮาระ อาคายะได้เลยครับ ผมติดแฟนน่าดูเลยครับเนี่ย ~

          คิริฮาระยกนิ้วโป้งขึ้นมาก่อนเผยยิ้มร่าหากแต่นิโอกลับเอ่ยวาจากวนประสาทขึ้นมาซะก่อนทำเอาคนทั้งชมรมหัวเราะกันลั่นพวกเขาไม่ได้เยาะเย้ยนะแต่มันตลกจริงๆ คิริฮาระหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกก่อนจะวิ่งออกไปหานิโอทันใด จอมหลอกลวงเห็นดังนั้นก็รีบเผ่นแน่บออกจากที่ที่ตนเองยืนอยู่

          “ย๊ากกกก หยุดนะไอ้รุ่นพี่เฮงซวย!!

          “ปุริ ~ ฉันมีขานี่ ฉันมีอิสระที่จะวิ่งหนีคนโง่แบบนายนะ”

          “หุบปากไปเลยไอ้รุ่นพี่นิโอ!!จะฆ่าให้ตายเลยโว้ย!!

          “ยางิว ช่วยฉันด้วย ~

          “นิโอคุงนายนี่มัน

          คิริฮาระแผดเสียงดังลั่นชมรมก่อนจะเร่งฝีเท้าไล่ตามเด็กหนุ่มร่างสูงรุ่นพี่ของตนเต็มที่ ยางิวเมื่อได้ยินดังนั้นก็อดจะส่ายหัวระอาไม่ได้ สุภาพบุรุษบ่นพึมพำก่อนวิ่งตามไป  บางทีรีแล็กซ์ก่อนเข้าค่ายก็ดีนะ

          “ไล่จับกันหรอ ขอเล่นบ้างเด่ะ”

          มารุอิมองตามหลังทั้งสองคนไปก่อนจะเริ่มออกวิ่งตามไปบ้าง

          “เฮ้ย มารุอิรอฉันด้วยเฟ้ย!

          แจ็กกัลป์เผยยิ้มอย่างนึกสนุกก่อนจะวิ่งตามออกไปบ้าง ซานาดะที่ยืนกอดอกมองอยู่นานเริ่มแผ่ออร่ามาคุจนสมาชิกคนอื่นในชมรมเริ่มรู้สึกได้

          “อยากวิ่งมากสินะ ทุกคนไปวิ่งรอบสนาม 40 รอบ!!

          จักพรรดิแผดเสียงลั่นชมรม สมาชิกตัวจริงที่วิ่งไล่กันอยู่หยุดชะงักในทันใด พวกสมาชิกที่เหลือผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ได้แต่อ้าปากค้างด้วยความตกใจ

          “เอ่อ ซานาดะ”

          “ฉันไปก่อนนะยูคิมูระ ฝากคุมเจ้าพวกที่เหลือด้วย”

          รองกัปตันหนุ่มเอ่ยขึ้นก่อนเดินออกไปจากชมรมทันที วันนี้พวกเขามาเข้าพิธีจบการศึกษาเพียงอย่างเดียวไม่ได้คิดจะมาซ้อมกันหรอกเพราะยังไงเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ต้องมาเริ่มเก็บตัวซ้อมก่อนเข้าค่าย U-17 อยู่แล้ว

           “โหย ไรอ่ะรองกัปตันก็รุ่นพี่นิโอเค้าแกล้งผมอ่ะ!!

          “โหย ไรอ่ะรองกัปตันก็รุ่นพี่นิโอเค้าแกล้งผมอ่ะ …..

          “ฮึ่ย รุ่นพี่นิโอ!!!

          ซานาดะแยกตัวออกมาจากความวุ่นวายที่ก่อตัวขึ้นทันที เด็กหนุ่มส่ายหัวระอาแต่เขาก็เผยยิ้มบางออกมาพลางทอดสายตามองไปทางชมรมของตน พวกสมาชิกตัวจริงที่ต่างฝ่าฟันอุปสรรคมากมายมาพร้อมกับตัวเขาและยังมีผู้หญิงอีกหนึ่งคนที่เป็นแรงผลักดันให้ชมรมเข้ามาถึงจุดสูงสุดตรงนี้ได้ แม้ตอนนี้เธอจะไม่ได้อยู่ตรงนี้แต่ตอนนี้ซานาดะกำลังจะออกไปหาเธอแล้วล่ะ!

          ตึก ตึก ตึก ตึก

          ใช้เวลาไม่นานร่างสูงก็พาตนเองมาถึงหน้าบ้านที่แสนคุ้นเคย เด็กหนุ่มเอื้อมมือไปกดกริ่งตามมารยาทหากแต่ฉับพลันสายตากลับเหลือบไปเห็นแม่กุญแจดอกใหญ่ล็อกประตูบ้านอยู่ ที่เขาไม่ได้ไปหาพิงกุตั้งแต่ปิดพิธีเพราะเธอหายไปแล้วครั้นพอจะตามไปก็ดันถูกรุ่นน้องขอร้องให้ไปเข้าชมรมก่อน

          “ขอโทษนะครับ บ้านอากิโมโตะออกไปไหนกันหรอครับ”

          ซานาดะตัดสินใจออกปากถามชายชราผู้กำลังตัดแต่งสวนอยู่ในบ้านของตนซึ่งอยู่ติดกับบ้านของเด็กสาว

          “อ๋อ บ้านหนูพิงกุเขาเพิ่งย้ายออกไปเมื่อสักพักนี่เองพ่อหนุ่ม ตัวน่ะไปแล้วเหลือแต่ของที่จะให้รถมาขนไปอีกสองวันนี่แหละ เห็นว่าจะไปอยู่ฮอกไกโดกันน่ะ ทำไมเรอะ?”

          “ไปแล้วหรอครับ?!คุณตารู้มั้ยครับว่าเขาจะไปทางเครื่องบินหรือว่ารถยนตร์”

          “ได้ยินว่าจะไปทางรถไฟนะ เห็นพูดเรื่องสถานีกันอยู่”

           “ขอบคุณมากนะครับ”

            ซานาดะได้ยินดังนั้นก็รีบรุดวิ่งออกไปสถานีคานางาวะที่ตนเองคุ้นเคยทันที สถานีที่ห้าวันที่แล้วทั้งเขาและเธอเดินลงมาด้วยกัน เส้นทางนี้ที่เขาและเธอเคยเดินจับมือกลับบ้านด้วยกัน

           ฉันไม่ยอมให้มันกลายเป็นอดีตหรอกโว้ย!

           จักพรรดิคำรามขึ้นในใจ ยังไงเขาก็ไม่มีทางปล่อยให้จักพรรดินีหลุดมือไปเด็ดขาด!

    …………………………………………………………………………………………………………………

           สถานีรถไฟคานางาวะ

           “เอ่อ แม่คะ ทำไมรถไฟยังไม่มาอีกล่ะ”

           “เอ นั่นสิแม่ก็ว่างั้นแหละ”

           พิงกุเอ่ยถามแม่ของตนหลังจากนั่งรอรถไฟสายที่จะไปสถานีฮอกไกโดนานแล้ว

           “แม่ว่าแม่ไปถามเจ้าหน้าที่ดีกว่า ลูกรออยู่ที่นี่นะพิงกุ”

           หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขุ่นๆเล็กน้อยกับความช้าของรถไฟ เธอจึงลุกขึ้นก่อนเผยยิ้มบางให้ลูกสาวแล้วเดินออกไปที่เคาท์เตอร์ทันที พิงกุมองตามแม่ของตนก่อนถอนหายใจ

           “เก็นอิจิโร่ ….

           “อากิโมโตะ!!!

           “ให้ตายสิ จนถึงตอนนี้เสียงนายก็ยังดังอยู่ในหัวฉันอีกหรอ”

           พิงกุสะบัดหัวของตนเองไล่ความคิดที่มีต่อซานาดะออกไป ก็เธออยากลืมนี่นา

           “เธออยู่ตรงไหนห๊ะอากิโมโตะออกมาเดี๋ยวนี้!!!

           “โอ้ย ออกไปจากหัวฉันนะตาบ้า ….

           “อากิโมโตะออกมาสิโว้ย!!!

           เด็กสาวเริ่มแปลกใจกับน้ำเสียงอันหนักแน่นและทรงพลัง เธอค่อยๆผละมือที่กุมหัวของตนเองออกก่อนหันหลังกลับไปมองทางต้นเสียงทันใด... แววตาทั้งสองของเด็กสาวเบิกกว้างกับภาพตรงหน้า

           “ก เก็นอิจิโร่!!

           พิงกุลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพลันสายตาไม่ผละจากร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอไม่ไกลตาเท่าไหร่นัก ผู้คนทั่วทั้งสถานีต่างหันมามองเด็กทั้งสองด้วยตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซานาดะเมื่อเห็นว่าจักพรรดินีที่ตนตามหาอยู่ตรงหน้าร่างสูงก็ไม่รอช้ารีบดึงเธอเข้ามากอดแนบอกตนเองทันที

           หมับ!

           “ยัยบ้า!! … ทำไมเธอถึงไม่บอกฉันก่อนจะไปน่ะห๊ะ!

           “น นี่ นาย”

           “ฉันจะเป็นบ้าตายเพราะเธอรู้ตัวรึเปล่า!

           ซานาดะกดหัวของเด็กสาวแนบอกตนเองพลางอ้อมแขนแกร่งก็โอบกอดร่างบางไว้แน่นราวกับถ้าปล่อยไปเธอจะเลือนหายจากเขาไป พิงกุน้ำตาคลอ เธอไม่นึกว่าซานาดะจะยอมลงทุนถึงขั้นวิ่งตามเธอมาที่สถานีรถไฟคานางาวะแบบนี้ แถมยังมาตะโกนโหวกเหวกไม่อายใครเพื่อหาตัวเธออีกด้วย

           พิงกุอ้าแขนกอดตอบร่างสูง ไม่มีความอายอะไรต่อสายตาผู้คนรอบข้างอีกแล้ว

           “เก็นอิจิโร่ ฉัน ฉันขอโทษ”

           “อย่าไปได้มั้ย

           “อ เอ้ะ?”

           “อย่าไปจากฉัน”

           ร่างสูงผละกอดออกมือใหญ่จับไหล่มนของร่างบางไว้แน่น ใบหน้าคมคายแสดงความขอร้องออกมาอย่างสุดหัวใจ เขาไม่เคยออดอ้อนขอร้องใครมาก่อน เธอคือคนแรกที่จักพรรดิซานาดะคนนี้ยอมสยบด้วยแล้วทุกอย่าง ยอมหมดแล้ว แค่อย่าไปจากเขา

           “ฉัน ….

           “พิงกุ ..

           … !! …

           จู่ๆซานาดะก็เรียกชื่อจริงของเธอออกมาทำเอาร่างเล็กสะดุ้ง ก็ซานาดะไม่เคยเรียกชื่อเธอซักครั้งเลยนี่นา เอาแต่เรียกนามสกุลอยู่ได้

           “แต่ถ้าเธอต้องไปจริงๆ เธอช่วยฟังฉันก่อนได้มั้ย”

           ………………

           เด็กสาวเลือกที่จะพยักหน้าแทนคำตอบ ผู้คนรอบข้างบางคนหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูป บ้างก็อัดวิดีโอ บ้างก็น้ำตาไหลหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเป็นพัลวัน นานๆทีจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นนี่นา

            ขอโทษ... ที่ฉันมันปากแข็ง”

           ………………………….

           “ขอโทษ ที่ฉันมันโง่

           …………………………

           “แต่ตอนนี้ฉันรู้ตัวแล้วว่า ฉันชอบเธอ  ...

           ……………!! ………

           “ฉันรู้ว่าความรู้สึกที่ฉันมีให้เธอไม่มากเท่ากับความรู้สึกที่เธอให้ฉัน”

           …………………………

           “แต่ …….

           “ม ไม่ต้องพูดแล้ว ตาบ้า!!

           พิงกุตวาดใส่หน้าเด็กหนุ่ม น้ำตาสีใสไหลอาบแก้มของเธอเป็นสายน้ำ ซานาดะเห็นดังนั้นก็เผยยิ้มบางก่อนมือใหญ่จะเกลี่ยน้ำตาให้ร่างบางเบาๆอย่างปลอบโยน พิงกุโผกอดเข้าที่ร่างสูงตรงหน้าอีกครั้ง

            “ฉันรู้ ฉันรู้แล้ว ฮึก ฉันได้ยินแล้ว ฮึก พูดมาก ฮึก มันเขินนะยะ!

             “งั้นหรอ ถ้างั้นก็ดีแล้วล่ะ...

           เด็กสาวกำเสื้อตัวใหญ่แน่น ใบหน้าหวานซุกอกกว้างพลันน้ำตาก็ไหลรินอาบแก้มไปด้วย ซานาดะลูบปอยผมปลอบโยนเธอเบาๆ แค่นี้ก็ได้ แค่ได้พูดออกไปก็ได้ แม้ต้องแยกจากกันแต่แค่ได้พูดความรู้สึกที่มีออกไป แค่นั้นจักพรรดิก็พอจะทำใจได้ล่ะนะ     

           แปะ แปะ แปะ แปะ

           จู่ๆก็มีเสียงปรบมือดังมารอบตัว พิงกุเงยหน้าขึ้นมาจากอกของเด็กหนุ่มก่อนจะกวาดสายตาไปมองไปรอบๆทันที ซานาดะเองก็รู้สึกแปลกใจเช่นกันที่ผู้คนรอบข้างต่างเผยยิ้มแล้วปรบมือให้ บางคนร้องไห้ซุกคนข้างๆไปเลยก็มี

           “เจ๋งมากน้องชาย!!

           “น่าอิจฉาจังวู้ว ~

           แปะ แปะ แปะ

           ถ้อยคำมากมายราวกับสรรเสริญรับกับเสียงปรบมือทำเอาซานาดะและพิงกุหน้าแดงอ่อนๆจนเผลอผละออกจากกันแล้วหันหน้าหนี ทั้งคู่เผลอลืมตัวไปเลยว่าอยู่ที่สถานี

           “พิงกุ ลูกมีผู้ชายที่ดีขนาดนี้ทำไมไม่บอกแม่”

           “อ เอ๋?”

           หญิงสาวผู้เป็นแม่เดินแหวกผู้คนที่รายล้อมออกมาก่อนดึงแขนลูกสาวมาแล้วขมวดคิ้วดุทันที

           “ลูกโกหกแม่ว่าเหงางั้นหรอห๊า?!

           “พ พิงกุเปล่านะคะ”

           “ไม่ต้องย้ายไปที่ไหนทั้งนั้นครับคุณแม่ ผมจะดูแลทั้งพิงกุทั้งคุณแม่เองครับ”

           “ก เก็นอิจิโร่!!

           เด็กสาวตีแขนของร่างสูงแรงๆทันทีเมื่อซานาดะพูดอะไรไม่เข้าท่าใส่แม่ของตน หากแต่ดูเหมือนหญิงสาวจะดูปลาบปลื้มกับคำพูดของเด็กหนุ่มตรงหน้ามาก เธอตรงรี่เข้าไปดึงแก้มของซานาดะทันที

           “น่ารักซะจริงนะเรา อนาคตไกลนะเนี่ย”

           “เอ่อ ... ขอบคุณครับ”

           ซานาดะแหยหน้าตามแรงดึงที่แก้มก่อนมือใหญ่จะคว้ามือบางของเด็กสาวข้างตนไปแล้วจับไว้แน่น ผู้เป็นแม่เห็นดังนั้นจึงผละมือของตนออกจากแก้มของเด็กหนุ่มก่อนหันสายตามามองทั้งคู่แทน

           “คุณแม่ครับ! ….

           “แม่อนุญาตจ้ะ”

           ยังไม่ทันที่ซานาดะจะเอ่ยอะไรออกไปได้เต็มประโยค หญิงสาวก็กอดอกพลางเอ่ยคำตอบออกมาแล้วเผยยิ้มบางรับทันที

           พิงกุได้ยินดังนั้นก็เบิกตากว้าง เธอหันกลับไปยิ้มกว้างให้เด็กหนุ่มข้างตนทันทีซึ่งเขาก็ยิ้มรับอยู่แล้ว

           “เก็นอิจิโร่ เพลงนี้ฉันให้นายนะ”

           เด็กสาวเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม ซานาดะได้ยินดังนั้นก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

           จุ๊บ ~

           ร่างบางเขยิบไปใกล้ร่างสูงก่อนเขย่งตัวเองขึ้นไปหอมแก้มของซานาดะแล้วผละออกมา ซานาดะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ พลันใบหน้าคมคายก็ขึ้นสีแดงเล็กน้อยด้วยความเขิน

           “น นี่เธอ!

           “ก็ถ้าบอกว่าจะจูบนายก็ไม่ให้อ่ะ ฉันเลยบอกว่าเป็นเพลงไง >O<

           “หนอย ยัยแสบนี่!!

           “ว๊ากกก อย่านะอย่าฆ่าฉันน้า >[ ]<;;;

           พิงกุวิ่งหนีซานาดะออกไปนอกสถานีทันใด ร่างสูงเห็นดังนั้นก็วิ่งตามร่างบางออกไปหมายจะรวบตัวไว้ให้ได้ การไล่ล่าแห่งความสุขเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งแล้วสินะ

    ไม่มีการจากลาอะไรเกิดขึ้นอีกแล้ว

     

    THE END .
    ...................................................................................................................................................................................

     

    เย้ ! ปิดไปแล้วหนึ่งเรื่อง(จุดพลุ)ทะเลาะกันมานานพ่อแง่แม่งอนสุดท้ายก็รักกัน > <

    ขอบคุณทุกคอมเม้นทุกกำลังใจจ้า ตอนนี้รุ่นพี่ซานาดะเข้าค่ายด้วยความสบายใจละ(?)

    อย่าลืมไปติดตามเรื่องคนอื่นด้วยน้า รักรีดเดอร์ทุกคน kiss ~

    Special Talk

           ก่อนจากกันกับเรื่องนี้เรามาถามความรู้สึกของจักพรรดิกันดีกว่าว่าทำไมบอกรักซะยาวเหยียด(?)

           Michiyo : นี่รุ่นพี่ซานาดะ ทำไมรุ่นพี่ถึงบอกรักพิงกุจังเค้าซะยาวเหยียดเลยล่ะ ‘ ‘

           Sanada : ……. (กระแอมไอ) เพราะฉันวิ่งมาเหนื่อยน่ะสิ (จริงๆเพราะทำตัวไม่ถูกต่างหากในหัวมันตีกันไปหมด : ในใจ)

           Michiyo : ไม่เห็นจะเกี่ยวซักหน่อย เมื่อคืนก็เตรียมตัวหน้ากระจกไม่ใช่หรอ >___<

           Sanada : นี่เธอรู้ได้ยังไงน่ะห๊ะ?!!

           Michiyo : ก็บังเอิญเมื่อคืนมุดดินไปโผล่บ้านรุ่นพี่พอดี ‘ ‘;;

           Sanada : ถ้างั้นฉันจะฝังเธอลงดินซะตอนนี้เลยละกัน!! (หยิบแร็กเก็ต)

           Michiyo : อร๊ายยย รีดเดอร์จ๋าช่วยไรท์ด้วย T[]T (วิ่งหนีสุดตีน)

     

    THE★ FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×