ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Prince OF Tennis [mix 8 series]

    ลำดับตอนที่ #14 : Sanada Genichirou & Akimoto Pinku Series 2 part 7 : ไม่ต่างกัน(เท่าไหร่)

    • อัปเดตล่าสุด 10 มี.ค. 56


    Sanada Genichirou &  Akimoto Pinku

    Series 2 part 7 :  ไม่ต่างกัน(เท่าไหร่)

          (ถ้าแบบนั้นฉันว่าซานาดะคุงคงชอบเธอแล้วล่ะมั้ง ~)

          “จะบ้าหรอมิซึอิ!

          (ไม่บ้านะ คุนิมิสึที่ฟังอยู่ยังคิดแบบฉันเลย)

          “อ เอ๋ ?! เทะสึกะคุงก็อยู่กับเธอด้วยหรอ?!

          พิงกุหน้าแดงระเรื่อทันทีเมื่อได้ยินคำตอบจากปลายสาย ตั้งแต่กลับมาจากโรงพยาบาลเมื่อคืนก่อนนี่ก็สองวันแล้วที่เธอเอาแต่คิดถึงคำพูดและท่าทางของซานาดะจนแทบไม่ได้หลับได้นอนและเมื่อเห็นว่าตนเองจิตใจไม่สงบสุขแบบนี้พิงกุจึงอดไม่ได้ที่จะโทรไปหาพี่สาวของตนเองทันทีหลังจากตื่นมาวันนี้

          (อื้ม วันนี้คุนิมิสึมาติวแนวข้อสอบให้ฉันน่ะ)

          “เอ่อ …. นี่ฉันมารบกวนเวลาของพวกเธอรึเปล่าน่ะ

          ใจจริงพิงกุอยากจะถามว่า นี่ฉันมารบกวนเวลาหวานชื่นของพวกเธอรึเปล่าน่ะ ต่างหากล่ะ

          (ไม่เป็นไรหรอก เรื่องของน้องสาวสำคัญกว่าอยู่แล้วล่ะ เนอะคุนิมิสึ)

          ปลายสายที่แลดูท่าจะหันกลับไปพูดกับหวานใจของตนทำเอาพิงกุอดหมั่นไส้ในใจลึกๆไม่ได้ ถึงแม้เทะสึกะจะเป็นผู้ชายที่ภายนอกแลดูเย็นชาไม่น้อยแต่พออยู่กับมิซึอิแล้วกลับกลายเป็นผู้ชายอ่อนโยน น่ารักไปแทนซะได้

          “ว่าแต่ทำไมเทะสึกะคุงถึงได้มาติวให้เธอเร็วจังฤดูสอบปลายภาคมันเดือนหน้าไม่ใช่หรอ”

          (อ้าวนี่เธอไม่รู้หรอว่าเซชุนถูกคัดเลือกให้เข้าค่าย U-17 น่ะ เลยต้องรีบติวแล้วเก็บตัวซ้อมเดือนนึงไง)

          “ห๊า ? ค่าย U-17 หรอ?!

          (อื้ม ก็พอแข่งระดับประเทศจบเซชุนก็ได้รับคัดเลือก นี่หรือว่าสาธิตริคไคไม่ได้ถูกเลือก?)

          “ไม่รู้สิ ฉันยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย พึ่งมารู้ก็ตอนที่เธอบอกเมื่อกี้นี่แหละ”

          (ลองถามกัปตันชมรมดูสิ ระดับสาธิตริคไคน่ะต้องได้อยู่แล้ว)

          อ่า .. งั้นเอาไว้คุยกันทีหลังนะมิซึอิ ปิดเทอมฉันจะไปหา บอกพ่อด้วยนะ”

          (โอเค ฉันจะรอนะพิงกุ)

          ติ๊ด

          พิงกุกดตัดสนทนาปลายสายไปก่อนลุกขึ้นจากเตียงทันที เรื่องที่เธอไม่ได้เข้าชมรมหลายวันนี่อาจจะทำให้เธอพลาดข่าวสารก็ได้ แม้เธอจะต้องเจอหน้าซานาดะแต่ก็ต้องไปให้ได้ล่ะ!

          ต่อมา

          หลังจัดแจงธุระอาบน้ำแต่งตัวให้ตนเองเรียบร้อยแล้วเด็กสาวร่างน้อยก็ตรงรี่มาสถานที่ฝึกซ้อมของชมรมเทนนิสชายโรงเรียนสาธิตริคไคอันแสนคุ้นตาทันที

          แอ๊ด

          “อ้าวอากุจัง มาด้วยหรอวันนี้”

          และไม่ทันไรก็เป็นเด็กหนุ่มเรือนผมสีแดงผู้เป่าหมากฝรั่งสีเขียวเป็นเอกลักษณ์อัจฉริยะแห่งริคไคนั่นเองที่เอ่ยทักทายเธอเป็นคนแรกก่อนจะหันกลับไปโต้ลูกสักหลาดกลับไปหาแจ็กกัลป์ต่อ

          “มารุอิคุง ยูคิมูระคุงไม่อยู่หรอ?เก็นอิจิโร่ก็ได้”

          “วันนี้ยูคิมูระไม่ ……

          “ผู้จัดการรรร ~ !!

          จังหวะที่มารุอิกำลังจะตอบผู้จัดการสาวกลับไปนั้นเจ้าเด็กปีสองตัวแสบก็ดันแผดเสียงซะดังลั่นจนอัจฉริยะเผลอสะดุ้งสุดตัวจังหวะที่กระโจนรับลูกทำให้เขาล้มลงหน้าคะมำทันที

          โครม !!

          “มารุอิ!! / มารุอิคุง!

          และเสียงตะโกนดังลั่นทำเอาคู่หูนิโอและยางิวที่ซ้อมอยู่อีกคอร์ดต้องหันกลับมามอง แจ็กกัลป์รีบกระโดดข้ามตาข่ายตรงหน้าไปฝั่งเพื่อนของตนทันทีเมื่อเห็นมารุอิล้มลงไป พิงกุเองก็รีบวิ่งไปหาเด็กหนุ่มที่คอร์ดทันทีก่อนเด็กสาวจะหันมากอดอกมองเจ้าเด็กตัวต้นเหตุที่ยืนทำหน้าจ๋อยอยู่

          “เจ้าเด็กบ้าสร้างเรื่องอีกแล้วสิน่ะ” นิโอ

          “ไม่เป็นอะไรมากหรอก ซ้อมต่อกันเถอะ” ยางิว

          “เป็นอะไรรึเปล่าวะมารุอิ” แจ็กกัลป์

          “ไม่เป็นไร ยังเล่นไหวอยู่” มารุอิ

          “ขอโทษนะครับรุ่นพี่มารุอิ” คิริฮาระ

          “ช่างเหอะ คิดมาก ซ้อมต่อกันแจ็กกัลป์” มารุอิ

          มารุอิดันตัวเองลุกขึ้นแล้วผลักแจ็กกัลป์ให้ออกไปจากคอร์ดของตน เด็กหนุ่มคู่หูเห็นดังนั้นจึงพยักหน้าแล้วกระโดดข้ามตาข่ายเข้าคอร์ดของตนเองไปอีกครั้งนึงเพื่อซ้อมต่อ

          พิงกุเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มอัจฉริยะไม่เป็นไรเธอจึงเดินมาดึงหูคิริฮาระไปข้างสนามทันที

          “โอ้ยผู้จัดการผมเจ็บนะเนี่ย T^T

          “มีธุระอะไรถึงได้ตะโกนซะคนอื่นเค้าเสียสมาธิแบบนั้นน่ะ -*-

          คิริฮาระเบะปากใส่เด็กสาวตรงหน้าก่อนยื่นแผ่นกระดาษสีขาวขนาดเท่า A4 ให้จักพรรดินีของชมรม พิงกุมองกระดาษแผ่นนั้นอย่างงุนงงสงสัยเล็กน้อยก่อนรับมา

          “ก็ผมดีใจนี่นาที่โรงเรียนเราได้รับคัดเลือกให้เข้าค่าย U-17 ด้วย ~

          “เอ๋ ? ค่าย U-17 หรอ”

          “ครับ!

          พิงกุเงยหน้ามองเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มร่าก่อนเด็กสาวจะพยักหน้ารับเบาๆ

          “แล้วนี่ยูคิมูระคุงกับเก็นอิจิโร่รู้รึยัง”

          “วันนี้ผมไม่เห็นรองกัปตันเลยอ่ะแต่ที่แน่ๆวันนี้กัปตันป่วยเลยไม่มาซ้อมน่ะครับ”

          “อะไรกัน ทั้งกัปตันทั้งรองกัปตันไม่อยู่ซักคนเลยงั้นหรอ”

          “ผมโทรไปบอกกัปตันแล้วแต่รองกัปตันเค้าไม่รับสายผม T^T

          “งั้นหรอ เดี๋ยวเก็นอิจิโร่ฉันบอกเองก็ได้แต่ก็ขอบใจนายมากนะฮายะ”

          “ฮะ ?”

          พิงกุเผยยิ้มบางพลางเอื้อมมือไปยีผมหยิกๆของเด็กรุ่นน้องตรงหน้าเบาๆด้วยความเอ็นดูก่อนเธอจะเดินออกไปจากวงสนทนาทันที คนถูกยีผมหน้าแดงอ่อนๆแล้วหันกลับไปมองตามแผ่นหลังบางของผู้จัดการสาว ก็แหม นานๆทีพิงกุจะเอ็นดูคิริฮาระนี่นา ไม่ให้เขินได้ไงล่ะ

          “อ้าว กลับแล้วหรออากุจัง”

          “อื้ม ฉันกะว่าจะแวะไปหาเก็นอิจิโร่ซักหน่อยน่ะ”

          นิโอเอ่ยถามทันทีที่เห็นผู้จัดการสาวเดินออกไปที่ประตูทางออกชมรมซึ่งเธอก็หันมาพยักหน้ารับ ยางิวเห็นดังนั้นจึงดันแว่นขึ้นสันจมูก .. เขารู้อยู่แล้วน่าว่าเธอกลับไปด้วยเหตุผลอะไร

          “เรื่องค่าย U-17 สินะ”

          สุภาพบุรุษเอ่ยขึ้นมาบ้าง

          “ใช่ หลังสอบปลายภาคเสร็จก็ให้เก็บตัวซ้อมเพื่อเตรียมตัวได้เลยนะ”

          “รับทราบผู้จัดการ”

          หลังพิงกุเอ่ยประโยคที่ดูเหมือนกับคำสั่งเสร็จทั้งยานางิ ยางิว นิโอ แจ็กกัลป์ คิริฮาระและมารุอิก็ประสานเสียงตอบรับกันทันทีก่อนต่างคนจะหันกลับไปซ้อมตามฉบับของตนเองต่อ เด็กสาวได้ยินดังนั้นก็เผยยิ้มบางรับก่อนเปิดประตูชมรมเดินออกไปทันที

          อีตาบ้าเก็นอิจิโร่ หายไปไหนของเค้ากันนะ

          เด็กสาวครุ่นคิดมาตลอดระหว่างที่เธอไปบ้านของซานาดะ เธอชักไม่แน่ใจเท่าไหร่แล้วสิว่าเด็กหนุ่มจะอยู่ที่บ้านน่ะ ร่างบางเริ่มลังเลว่าจะโผล่หน้าไปที่บ้านของซานาดะเอาดื้อๆหรือว่าบ้านของกัปตันดีนะ?

          จังหวะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้นฉับพลันเธอก็เหลือบไปเห็นเด็กสาวเรือนผมสีน้ำตาลหยิกลอนสวยเป็นธรรมชาติ พิงกุจำได้ดีกว่าเธอเป็นคนเดียวกันกับที่มานั่งรอยูคิมูระในชมรมวันนั้น ไม่รอช้าจักพรรดินีตรงเข้าไปหาเด็กสาวคนนั้นทันทีเพื่อหวังว่าจะได้คำตอบดีๆจากเธอมาบ้าง

          “นี่เธอ เรย์มุจังสินะ”

          “อ อื้ม อ๊ะ เธอคือพิงกุผู้จัดการของชมรมเทนนิชายนี่นา”

          พิงกุสะกิดไหล่เด็กสาวและเมื่อเรย์มุหันมาเธอก็ไม่รอช้าจะเอ่ยปากถามทันที คนถูกถามหน้าเหวอเล็กน้อยก่อนจะสะกิดใจได้ว่าคนถามตรงหน้าคือผู้จัดการชมรมของยูคิมูระที่เธอรู้จักอยู่เป็นอย่างดี

          “ยินดีที่ได้รู้จักนะ ว่าแต่เธอได้ไปเยี่ยมยูคิมูระคุงรึยัง”

          “เซอิจิน่ะหรอ กะว่าจะไปอยู่นี่แหละ ไปด้วยกันมั้ยล่ะ”

          “คือฉันแค่อยากจะฝากนี่ไปให้ยูคิมูระคุงหน่อย”

          พิงกุกล่าวก่อนยื่นกระดาษสีขาวซีดส่งให้เด็กสาวตรงหน้า เรย์มุก้มมองมันเล็กน้อยก่อนพยักหน้าแล้วยื่นมือออกไปรับมันมาถือไว้

          “แล้วจะไม่ไปเยี่ยมด้วยกันหรอ”

          “ฉันว่าจะไปทำธุระต่อน่ะ ยังไงก็ฝากเธอด้วยละกันนะเรย์มุจัง”

          จักพรรดินีเอ่ยไว้แค่นั้นก่อนเผยยิ้มบางให้เรย์มุแล้วเดินออกมาทันที เรย์มุโบกมือให้เธอพลางยิ้มน่ารักตอบให้ก่อนทั้งคู่จะแยกย้ายกันเดินออกไป

          หลังฝากใบคัดเลือกตัวแทนในการเข้าค่าย U-17 เรียบร้อยแล้วพิงกุก็หยิบโทรศัพท์ออกมากดหาเบอร์โทรรายชื่อของจักพรรดิหนุ่มทันใด ทำไมเธอถึงได้เป็นห่วงเขาแบบนี้นะ

          ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด

          “รับสิเก็นอิจิโร่ …. รับสายฉันทีเถอะ”

          ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด

          ติ๊ด ตู๊ดๆๆ

          หลังจากรอเสียงปลายสายอยู่นาน เมื่อได้ยินเสียงที่เหมือนกับจะตอบรับก็ทำเอาเด็กสาวใจชื้นขึ้นมาเป็นกองหากแต่กลับกลายเป็นว่าสายถูกตัดทิ้งแทนไม่ได้เป็นการรับสายอย่างที่เธอเข้าใจ

          พิงกุยกโทรศัพท์ออกจากหูพลางมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์ของตนอย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง แต่ไหนแต่ไรซานาดะไม่เคยตัดสายใส่เธอแบบนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาตัดสายใส่เธอซะได้?

          นายตัดสายฉันทำไมเนี่ยตาบ้า

          เด็กสาวได้แต่ฉุนอยู่ในใจ เธอไม่ได้เอะใจอะไรมากนักเพราะคิดว่าจักพรรดิหนุ่มคงกำลังวุ่นวายกับกิจวัตรประจำวันของตนเองอยู่แต่กิจวัตรหลักของซานาดะก็คือการมาซ้อม หากแต่วันนี้เขากลับไม่ได้มาซ้อม แล้วเขาทำอะไรอยู่กันนะ ? พิงกุเริ่มไม่สบายใจอีกครั้ง

          “เอ๊ะ ?”

          ฉับพลันแววตาคู่สวยก็เหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มร่างสูงในชุดนักกีฬาตัวจริงของสาธิตริคไคแสนคุ้นตายืนอยู่ตรงต้นไม้ใหญ่ พิงกุเผยยิ้มกว้าง เธอรู้สึกอุ่นใจ โล่งใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเห็นคนตรงหน้ายังปกติดีไม่บาดเจ็บตรงไหนแต่อย่างใด

          “เก็นอิจิ ….

          จังหวะที่เธอกำลังจะเดินเข้าไปทักทายร่างสูงนั้นเธอก็เหลือบไปเห็นเด็กสาวคนนึงกำลังยืนก้มหน้างุดๆอยู่ตรงหน้าเขา พิงกุรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจราวกับถูกไฟช็อต เธอเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อในสายตาของตนเอง ที่ซานาดะมาซ้อมช้าวันนี้เพราะออกมาหาเด็กผู้หญิงคนนี้งั้นหรอ?

          “เก็นอิจิโร่ ….

          พิงกุพึมพำเสียงแผ่วเบา หยาดน้ำตาสีใสคลอที่เบ้าตาของเธอโดยที่ร่างบางไม่รู้ตัว พิงกุตกใจเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังร้องไห้ ? เด็กสาวรีบยกมือปาดน้ำตาแล้วเดินออกมาจากสถานที่ตรงนั้นทันที

          นี่ฉัน ร้องไห้งั้นหรอ

          เด็กสาวเดินออกมาด้วยหัวใจที่เต้นส่ำรั้นด้วยความเจ็บปวด เธอไม่เคยรู้สึกทรมาณแบบนี้มาก่อน ความรู้สึกหึงหวง ความรู้สึกเสียใจผสมปนเปในหัวของพิงกุอยู่เต็มไปหมดจนหยาดน้ำตาสีใสต้องร่วงเผาะอาบแก้มใสของร่างเล็ก …. นี่เป็นเพราะเธอดันปากแข็งไม่ยอมบอกความรู้สึกที่แท้จริงออกไปสินะถึงได้ต้องมาเจ็บปวดแบบนี้ ?

          “อากุอยู่ที่นี่เองหรอ กำลังจะไปหาที่บ้านพอดีเลย”

          จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งเรียกชื่อของเธอขึ้น พิงกุรีบยกมือปาดน้ำตาแล้วหันกลับไปสู้หน้ามองร่างสูงทันใด

          “ย ยางิวคุง มีอะไรหรอ”

          “เธอร้องไห้ทำไม ใครทำอะไรเธอ”

          “ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ ยางิวคุงไม่ได้ซ้อมอยู่ที่ชมรม

          “ซานาดะโทรมาบอกว่าวันนี้จะเข้าชมรมสายหน่อย ไม่ต้องเป็นห่วง”

          สิ้นคำพูดของยางิวพิงกุก็รู้สึกเจ็บแปลบในหัวใจขึ้นมาอีกครา เด็กสาวฝืนยิ้มแหยออกไปแล้วพยักหน้ารับคำของยางิว คงเพราะซานาดะเห็นว่าเธอโทรไปแล้วตัวเองดันตัดสายทิ้งจึงโทรมาบอกยางิวให้มาบอกเธออีกทีนึง แล้วทำไมเจ้าตัวถึงไม่โทรมาเองนะ?

           ที่เข้าชมรมสายเพราะต้องไปหาเด็กคนนั้นมากกว่าล่ะสิ เธอครุ่นคิดในหัวอย่างน้อยใจ

          “อากุ ?”

          หือ อะไรหรอ?”

          “เธอไปเห็นซานาดะกับฮาคุโนะมาใช่มั้ย”

          คำพูดของเด็กหนุ่มตรงหน้าทำเอาพิงกุเบิกตากว้าง เธอเงยหน้ามองยางิวด้วยความแปลกใจ ถึงเธอจะไม่รู้จักว่าฮาคุโนะที่ว่านั่นเป็นใคร แต่ก็พอเดาออกว่าเป็นเด็กผู้หญิงคนเดียวกันกับที่ซานาดะอยู่ด้วยตอนนั้น

          “ท ทำไมยางิวคุงถึง

          “ฉันเองก็เห็นเหมือนกัน”

          … !!! ….

          …. ฉันเอง ก็รู้สึกไม่ต่างจากเธอหรอกนะ”

          “นี่อย่าบอกนะว่านาย ?”

          “อืม .. ใช่

          ยางิวคุง”

          “ไปบอกกันดีมั้ย”

          ………………..

          “ก่อนที่มันจะสายเกินไป มากกว่านี้”

    To be continued

    ......................…………………………………………………………………………………………………………………
    ตัดฉับฉับฉับ !! ไม่ค้างเท่าไหร่หรอกจ้า ไรท์รู้ตัวดีว่าตัดตอนไม่เก่ง T^T
    ทำไมตอนนี้ไรท์เกิดสงสารรุ่นพี่ยางิวมากกว่าจะเป็นพิงกุจังนะ ทั้งที่ก็แค่ผ่านมาเหมือนกัน(?) = A =;;
    แจ้งข่าวจ้า พล็อตเรื่องทั้งหมดเปลี่ยนเป็นเกิดขึ้นก่อนเข้าค่าย U-17 นะจ๊ะ จะได้มีภาคพิเศษหลังเข้าค่ายเลย > <

     

    THE★ FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×