ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Prince OF Tennis [mix 8 series]

    ลำดับตอนที่ #12 : Sanada Genichirou & Akimoto Pinku Series 2 part 6 : เพราะเป็นเธอ

    • อัปเดตล่าสุด 10 มี.ค. 56


    Sanada Genichirou &  Akimoto Pinku

    Series 2 part 6 : เพราะเป็นเธอ

          “ส่วนอากุ เธอลองคิดทบทวนดูซิ ว่าเธอถามเก็นอิจิโร่แบบนั้นเพราะอะไร”

          คำพูดของเสนาธิการชมรมดังก้องวนเวียนอยู่ในหัวของจักพรรดินีไปมาไม่หยุดหย่อน เด็กสาวนั่งกอดเข่าอยู่ที่สนามหญ้าข้างทางติดกับแม่น้ำ ตลอดวันนี้เธอเอาแต่คิดมาตลอด เธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงได้เรียกร้องสิ่งต่างๆมากมายจากจักพรรดิผู้นี้นัก

          “นี่เรา รู้สึกแบบนั้นกับเก็นอิจิโร่จริงๆหรอ

          พิงกุพึมพำพลางซบหน้าลงกับเข่าของตนเอง เพียงแค่เดือนกว่าที่เธอได้ใกล้ชิดกับซานาดะมากขึ้นมันทำให้ความรู้สึกของเธอเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เชียวงั้นหรือ

          ติ๊ง ~

          จู่ๆเสียงข้อความเข้าจากโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงก็ดังขึ้น พิงกุเงยหน้าขึ้นจากเข่าก่อนเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์เครื่องน้อยออกมาทันที นิ้วเรียวกดเปิดข้อความอ่านอย่างไม่มีกระจิตกระใจเท่าไหร่นัก

          พิงกุเป็นยังไงบ้าง? ใกล้สอบปลายภาคแล้วสินะ ตอนนี้เซชุนก็ใกล้สอบแล้วเหมือนกัน อย่าลืมอ่านหนังสือด้วยล่ะ ปิดเทอมก็แวะมาเที่ยวหาฉันกับพ่อหน่อยก็ได้ มิซึอิ

         “จริงสิ มิซึอิกับเทะสึกะคุงยังคบกันอยู่รึเปล่านะ”

         พิงกุเผยยิ้มบางให้ข้อความในโทรศัพท์ของตน มิซึอิเป็นพี่สาวฝาแฝดของพิงกุแต่หลังจากพ่อกับแม่แยกทางกันมิซึอิก็อยู่กับพ่อมาตลอดและมิซึอิยังเป็นแฟนกับเทะสึกะกัปตันชมรมเทนนิสของเซชุนซึ่งทั้งคู่คบกันมาตั้งแต่ปี 1 แล้ว บางทีเธอก็แอบอิจฉาพี่สาวเหมือนกันนะที่คบกับเทะสึกะนานตั้ง 3 ปีโดยที่ความรักของทั้งคู่ก็ไม่ได้จืดจางลงเลยแม้แต่น้อย

         ติ๊ด

         หลังจากพิมพ์ข้อความตอบกลับไปเสร็จ เด็กสาวก็กดส่งไปในทันที บางทีเธอน่าจะคุยกับพี่สาวบางก็ดีนะเผื่อมิซึอิอาจจะให้คำแนะนำดีๆกับเธอก็เป็นได้

    ………………………………………………………………………………………………………………

          ณ คฤหาสน์ซานาดะ

          หลังจากเลิกชมรมตามเวลาปกติซานาดะก็ตรงกลับบ้านในทันที วันนี้พิงกุไม่ได้มาที่ชมรมเหมือนอย่างเคยพวกสมาชิกบางคนที่ไม่รู้เรื่องจึงโวยวายกันเป็นแถว แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยคำก่นด่าออกไปหรอกนะเพราะสาเหตุที่พิงกุไม่ได้มาที่ชมรมมันก็เป็นเพราะตัวเขาเองนี่นา

          ครืด

          เมื่อถึงบ้านร่างสูงก็ไม่รอช้าจะเปิดประตูเข้าไปในห้องของตัวเอง เพราะบ้านของเขาเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ทรงญี่ปุ่นโบราณจึงสามารถเปิดประตูเข้าไปในห้องของตัวเองได้โดยไม่ต้องผ่านครอบครัว อีกสาเหตุที่เขาเลือกห้องด้านนอกสุดของบ้านเพราะมันสามารถชมวิวทิวทัศน์ได้ถนัดตาที่สุด

          ซานาดะวางกระเป๋าแร็กเก็ตของตนเองลงบนโต๊ะไม้สีน้ำตาลตัวเตี้ยก่อนร่างสูงจะนั่งลงไปตาม มือใหญ่เท้าคางของตนไว้พลางเหม่อมองออกไปที่หน้าต่าง

          นี่เราเป็นอะไร เพราะอากิโมโตะงั้นหรอ

          เด็กหนุ่มคิดพลางถอนหายใจ เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่รู้สึกเข้าใจตัวเองซักนิด ร่างสูงลุกขึ้นไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาพาดบ่าแล้วเดินออกไปจากห้องเพื่อไปอาบน้ำทันที บางทีถ้าเขาลองไปอาบน้ำอาจจะทำให้ใจเย็นลงหรือรู้สึกสบายใจขึ้นก็ได้นะ

          ต่อมา

          หลังจากซานาดะอาบน้ำ ทานอาหารเย็น ฝึกกล้ามเนื้อและดาบอิไอโด้ตามตารางที่เขาต้องปฏิบัติทุกวันก็เลยเวลาเป็นสองทุ่มพอดิบพอดี เด็กหนุ่มจึงเปิดประเป๋าแร็กเก็ตแล้วควานหาสมุดเลกเชอร์ที่ตนเองสรุปแนวข้อสอบไว้ทันที หากแต่ว่าเขาหามันไม่เจอ!?

          ร่างสูงขมวดคิ้วแน่นพลางรื้อเอาหนังสือ ไม้เทนนิสและลูกเทนนิสออกมาจนภายในกระเป๋ามีเพียงความว่างเปล่า แต่เขากลับไม่พบสมุดเลกเชอร์เล่มนั้นเลย ที่ผ่านมาเขาเอาแต่เคลียงานเพื่อเตรียมสอบจึงไม่ได้เอะใจเรื่องสมุดเลยแม้แต่น้อย

          สมุดเลกเชอร์ เราให้อากิโมโตะยืมไปนี่นา

          เมื่อฉุกคิดได้ว่าสมุดเลกเชอร์ของตนอยู่ที่ใครร่างสูงก็เบาใจไปได้ว่าตนไม่ได้ทำหาย แต่มันอยู่ที่พิงกุ เด็กสาวที่ตอนนี้ความรู้สึกยังคลุมเครือกันอยู่ แล้วเขาจะกล้าไปขอคืนได้ยังไงล่ะ?

          ซานาดะนั่งครุ่นคิดกับตัวเองอยู่นานก่อนเขาจะตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดหารายชื่อเบอร์โทรของจักพรรดินีตัวแสบทันที

          ติ๊ด

          เมื่อกดโทรออกไป อวัยวะในอกข้างซ้ายก็เต้นส่ำไม่เป็นท่า มือใหญ่เผลอยกขึ้นมาทาบมันไว้ด้วยความแปลกใจ ปกติเขาไม่เคยเป็นแบบนี้นี่นา?

          (โมชิโมชิ ? )

          อากิโมโตะ”

          น้ำเสียงใสถูกส่งมาจากปลายสาย น้ำเสียงของพิงกุดูแปลกใจเล็กน้อยที่เขาโทรไปหาเธอในเวลาแบบนี้ หากแต่ซานาดะกลับเริ่มเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูกทั้งที่ก็แค่ต้องพูดขอเลกเชอร์คืนแท้ๆ?

          (มีอะไรหรอ ?)

          “เลกเชอร์ฉันน่ะ”

          (ห๊า ล เลกเชอร์อะไรอ่ะ)

          “เลกเชอร์ที่ฉันให้เธอยืมเมื่อสามอาทิตย์ก่อน”

          (………………………………………)

          “เฮ้ย ? ฟังอยู่รึเปล่าอากิ ….

          (ฉันลืมเลกเชอร์นายไว้ที่โรงพยาบาลอ่ะ!!)

          เมื่อเห็นว่าร่างเล็กเงียบไป ซานาดะจึงเอ่ยเรียกเธออีกครั้งหากแต่ยังไม่ทันพูดจบประโยคน้ำเสียงใสก็ตะโกนออกมาดังลั่นจนเขาต้องยกโทรศัพท์ออกจากหูตนเอง แต่คำตอบของเด็กสาวกลับทำให้ซานาดะต้องเบิกตากว้างแทน

          “นี่เธอว่ายังไงนะ?!

          (ฉันขอโทษน้าเก็นอิจิโร่ T^T ~)

          “ยัยบ้าเอ้ยแล้วฉันจะเอาอะไรอ่านสอบห๊ะ!!

          (ฉันขอโทษ ฉันจะไปเอาให้นายเดี๋ยวนี้แหละจะเอาไปให้ถึงบ้านเลย รอแปปนะ ; [ ] ;)

          ติ๊ด

          “เฮ้ย เดี๋ยวสิอากิโมโตะ!!

          ยังไม่ทันที่จะเอ่ยห้ามจบเด็กสาวจอมแสบก็ตัดสายเขาทิ้งไปแล้ว นี่อย่าบอกนะว่าเธอคิดจะบุกไปโรงพยาบาลตอนดึกๆดื่นๆแบบนี้น่ะ ? !

          “ยัยบ้าเอ้ย ชิ ..

          ซานาดะสบถก่อนลุกขึ้นแล้วเปิดประตูวิ่งออกไปนอกตัวบ้านทันที เขาไม่มีทางปล่อยให้เด็กสาวตัวคนเดียวทำเรื่องบ้าบอแบบนั้นเพราะมีตัวเองเป็นตนเหตุหรอกนะ

          ต่อมา

          ตึก ตึก ตึก ตึก !

          “เฮ้ย อากิโมโตะ!!

          “อ๊ะ เก็นอิจิโร่ ?!

          ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงร่างสูงก็พาตัวเองมาถึงโรงพยาบาลที่ไม่ได้มาเหยียบนานกว่าสามอาทิตย์ได้ฉับพลันสายตาคมกริบก็เหลือบไปเห็นเด็กสาวร่างบางยืนอยู่พอดี เด็กหนุ่มจึงตะโกนเรียกเธออย่างไม่ลังเลซึ่งพิงกุก็หันกลับมาตามเสียงเรียกแล้วตะโกนตอบเสียงหลงเช่นกัน เธอก็ดีใจนะที่ซานาดะออกมาเป็นเพื่อนด้วยน่ะอย่างน้อยก็ไม่ต้องบุกเดี่ยวแล้ว ~

          “เธอคิดจะเข้าไปเอาสมุดของฉันตอนนี้เนี่ยนะ”

          “ก ก็ฉันไม่อยากให้นายลำบากอ่ะ T^T

          พิงกุเบะปากใส่ซานาดะก่อนตวัดสายตามองเข้าไปในโรงพยาบาล ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้วถึงแม้มันจะไม่ดึกมากนักแต่บรรยากาศตรงหน้าก็วังเวงน่าดู เหงื่อเริ่มผุดตามใบหน้าเด็กสาวเล็กน้อยก่อนเธอจะกลืนน้ำลาย ทำไงได้ก็เธอเกลียดความมืด เกลียดความเงียบเหงาและการอยู่คนเดียวนี่นา

          หมับ

          “อ .. เอ๋?”

          จู่ๆมือใหญ่ก็จับหมับเข้าที่มือบางของเธอกะทันหัน พิงกุตกใจเล็กน้อย เธอก้มมองมือใหญ่ของร่างสูงก่อนเงยหน้ามองใบหน้าคมคายที่ยังคงมองตรงไปด้านหน้าอยู่ จักพรรดิแห่งริคไคจะหลบหน้าจักพรรดินีทุกทีแหละ เฉพาะเวลาเขินน่ะ

          “กลัวอะไรไม่เข้าท่าเธอไม่ได้อยู่คนเดียวซักหน่อย”

          “เก็นอิจิโร่ ….

          “เอ้า เข้าไปกันได้แล้ว”

          ซานาดะกระชับมือบางที่ตนเองกุมอยู่ไว้แน่นก่อนจะดึงพาร่างเล็กเข้าไปในโรงพยาบาลทันที พิงกุพยักหน้ารับก่อนเผยยิ้มบางแล้วก้าวเดินตามแรงดึงของร่างสูงพลางทอดสายตามองแผ่นหลังกว้างของซานาดะที่นำหน้าตนอยู่

          “ผมจะมาเอาของที่ลืมไว้เมื่อสามอาทิตย์ก่อนครับ”

          ไม่รอช้าเมื่อเข้าไปในตัวของโรงพยาบาล .. เด็กหนุ่มก็ตรงรี่เข้าไปที่เคาท์เตอร์พยาบาลทันที วันนี้รีบมากเขาจึงไม่ได้เอาหมวกมาใส่ข่ม(?)ซะได้

          “อ เอ่อ ที่ห้องอะไรคะ”

          “ห้อง 511 ค่ะ!

          เด็กสาวเอ่ยตอบกลับไปบ้าง ก็ไม่อยากให้ซานาดะได้ซีนอยู่คนเดียวนี่นา

          “มีคนไข้พักอยู่นะคะ”

          “เราก็แค่อยากจะไปเอาของครับ!/ค่ะ!

          ทั้งสองคนแย่งพูดพร้อมกันก่อนร่างสูงจะหันหน้าไปมองร่างบางทันที ซึ่งเธอเองก็หันมามองหน้าเขาเช่นกัน สีหน้าของทั้งคู่ตอนนี้ไม่มีใครยอมใครเลยแม้แต่น้อย

          “ก ก็ได้ค่ะ นี่ค่ะบัตรเยี่ยมผู้ป่วย”

          พยาบาลสาวพยักหน้าอย่างงุนงงก่อนส่งยื่นบัตรเยี่ยมให้เด็กทั้งสอง มือใหญ่รีบคว้าบัตรกระดาษนั่นมาไว้ในมือก่อนดึงพาร่างบางออกไปจากเคาท์เตอร์ในทันที

          หลังจากทั้งคู่พากันขึ้นลิฟต์มาถึงชั้น 5 แล้ว แววตาก็พลางมองหาเลขห้องไปด้วย ท่ามกลางความเงียบสงัดมือของพิงกุเริ่มจับมือของซานาดะแน่นขึ้นอย่างไม่รู้ตัวหากแต่คนที่รู้สึกตัวเป็นร่างสูงแทน ซานาดะก้มมองร่างเล็กข้างตนเล็กน้อย … ‘ยัยบ้านี่กลัวขนาดนั้นเลยงั้นเรอะ …’

          แอ๊ด ปัง

          แต่แล้วเสียงของประตูห้องที่ถูกเปิดออกก็เรียกสติของเด็กทั้งสองเอาไว้ก่อนจะปรากฏบุรุษพยาบาลหนุ่มคนหนึ่งกำลังเข็นเตียงคนไข้สีขาวออกมาจากห้องพักผู้ป่วยที่ถูกเปิดขึ้นเมื่อกี้ เป็นจังหวะเดียวกับที่ทั้งซานาดะและพิงกุเดินมาถึงหน้าห้องนั้นพอดีและเมื่อเงยหน้ามองก็พบกว่าเลขห้องนั้นเป็นเลขเดียวกับห้องที่พิงกุเข้าพักตัวเมื่อสามอาทิตย์ก่อน

          “อ เอ่อ ขอโทษนะคะ คุณคนนี้เค้าเป็นอะไรหรอคะ”

          “อ๋อ ยายคนนี้แกเพิ่งตายเมื่อไม่นานเองครับทางโรงพยาบาลว่าจะโทรไปแจ้งญาติอยู่”

          “ร หรอคะ ขอบคุณนะคะ ^^;”

          สิ้นคำตอบของบุรุษพยาบาลทั้งสองคนก็มองหน้ากันทันใด และเมื่อชายคนนั้นเข็นเตียงคนไข้ผู้ไร้ลมหายใจขึ้นลิฟต์ไปแล้ว ซานาดะและพิงกุที่ยืนเงียบกันมานานจึงต้องทำใจกล้าพากันเดินเข้าไป

          แอ๊ด

          “ก เก็นอิจิโร่

         เมื่อร่างสูงเปิดประตูห้อง 511 ออก พิงกุก็เริ่มใช้มืออีกข้างเกาะแขนแกร่งเอาไว้แน่น ใบหน้าของเธอดูเครียดมาก เขาก็พอรู้มาหรอกนะว่าพิงกุเกลียดความมืดและความรู้สึกวังเวงแบบนี้แต่ไม่นึกว่าเธอจะกลัวถึงขั้นยอมเกาะแขนของร่างสูง ก็พิงกุน่ะหวงศักดิ์ศรีของตัวเองจะตายไป

          “ไม่มีอะไรหรอกน่า ไปเอาสมุดมาสิเธอเอาไว้ไหน”

          “ฉันเอาไว้ใต้หมอนอ่ะ อ เอาไว้ใต้หมอน!!

          “ห๊า ?!

          “หมอนบนเตียงอ่ะเก็นอิจิโร่!!

          “แสดงว่า หมอนก็อยู่กับเตียงที่บุรุษพยาบาลเข็นไป”

          “มันก็เท่ากับว่า …. ยายคนนั้นนอนทับอยู่”

          สิ้นประโยคของพิงกุทั้งสองคนก็มองหน้ากันอีกครา หากแต่คราวนี้พิงกุกลับเป็นฝ่ายหลบหนีใบหน้าคมคายด้วยความรู้สึกผิดที่ประดังเข้าเล่นงานเธอไม่ยั้ง

          “ฉันขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ”

          ……… ช่างมันเถอะ”

          พิงกุเอ่ยเสียงแผ่ว .. เธอบีบมือใหญ่ที่กุมมือของตนไว้ ซานาดะนิ่งไป ไม่ใช่ไม่รู้หรอกว่าเธอรู้สึกแย่แค่ไหนแต่เขาก็ไม่รู้สึกโกรธหรอกนะ ทั้งที่ถ้าเป็นคนอื่นจะไล่ให้ไปเอามาแทบทุกคนซะแล้วเชียว

          และคำตอบของซานาดะทำเอาเด็กสาวต้องเงยหน้ามองเขาด้วยความแปลกใจอีกครั้ง

          “น นาย ไม่โกรธหรอ?”

          …. จะโกรธได้ยังไงล่ะ”

          ….. ? …..

          “ก็คนทำมันเป็นเธอนี่ไง”

          ! ? ….

          “กลับบ้านกันเถอะ ดึกแล้ว”

          ปัง

          ร่างสูงดึงร่างเล็กให้ก้าวออกมาจากห้องกว้างก่อนเขาจะปิดประตูไม้สีสวยนั่นลง พิงกุก้าวเดินตามแรงของคนตรงหน้าที่ไม่ยอมพูดอะไรออกมาอีกตลอดระยะทางที่เดินออกมา ทำไมนับวันเธอกับซานาดะถึงได้มีแต่คำพูดแปลกๆให้ฟังกันได้บ่อยนักนะ …?

          หรือว่า ….. ความรู้สึกมันเหลือล้นจนไม่สามารถเก็บไว้ได้ ?

          แล้วเมื่อไหร่ เมื่อไหร่จะพูดออกไปซักที?!

          มิซึอิ ฉันว่าฉันคงต้องโทรหาเธอแล้วล่ะนะ …..

     

    To be continued

    ......................…………………………………………………………………………………………………………………
    ตอนนี้ลบหลายรอบมากค่ะ ผลสุดท้ายก็ได้ออกมาแบบนี้ 555 T^T!
    ถ้าไม่สนุกก็ขอโทษนะคะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามจ้า มีกำลังใจอัพเยอะแยะเลย เย้ ! >O<

     

    THE★ FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×