คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2 ที่พัก (แก้บทพูด)
บทที่ 2 ที่พัก
หลังจากที่ผมได้เดินแยกกับอาโอโกะแล้วก็ยังคงไม่ได้เดินกับบ้านในทันทีเพราะต้องไปซื้อของกับการเดินทางในวันพรุ่งนี้อีกและถ้าจากที่ผมคิดถ้าไม่โทรไปจองห้องไวคงได้ไม่มีที่อยู่แน่จึงคิดว่าถ้าซื้อของเสร็จแล้วคงต้องมานั่งโทรหาโรงแรมอีกตอนนี้เลยต้องซื่อของให้เสร็จโดยไวแต่ผมก็หิวสะก่อนได้กับจึงต้องเดินหาอะไรกินต่ออีก
.
.
“กินไรดีละ” ผมที่เดินเขามาในร้านอาหารร้านนึ่งเมื่อซื้อของทุกอย่างที่ต้องการแล้ว
“นี้แกจะเอาอะไรก็รีบสั่งสิเดียวก็กับถึงบ้านช้าพอดี” เสียงของลุกหนวดจิ้มคนหนึ่งพูดกับเด็กผู้ชายที่ผมรู้จักดีเพราะเขาเป็นเด็กที่ทำให้ผมลำบากทุกที “เอโดงาวะ โคนัน”
“ไม่ละครับผมไม่หิว” เสียงหวานของโคนันตอบตาลุงโมริไปเสียงแข็ง
“อะไรกันนี้ฉันพาออกมากินข้างนอกทังที....แกกินข้าวน้อยยารันเลยคิดมากรู้ไหมกินๆเข้าไปสะ” ตาลุงโมริยังคงพยายามให้เด็กน้อย(แสนน่ารัก)สั่งอาหารอยู่แต่ร่างเล็กก็ยังคงตอบเสียงแข็ง
“ก็ผมไม่หิวนี้” ร่างเล็กไม่สนใจสิ่งที่ตาลุงโมริพูดจึงทำให้ตาลุงโมริได้แต่มองด้วยสายตายอมแพ้
“ไม่กินก็ไม่กินฉันกินคนเดียวก็ได้” เมื่ออาหารมาแล้วตาลุงนั้นก็ไม่สนใจโคนันแล้วไปสนใจอาหารแทนเพราะดูแล้วไงโคนันก็ไม่ยอมกินแน่ๆและเมื่อตาโมริเริ่มเกิดไปสักพักดูเหมือนว่าโคนันจะรู้ตัวแล้วว่าผมมองดูอยู่เลยหันมาทางผมแต่ผมก็ทำเป็นไม่สนใจแล้วสั่งอาหารแทนเพราะโคนันมองผมอยู่เลยไม่มีเวลาให้ผมคิดมาเลยต้องสั่งๆไปเพื่อให้ไม่ตกเป็นที่สงสัย
.
.
.
“ของที่สั่งมาแล้วครับ”
เมื่ออาหารมาผมก็เริ่มลงมีกินและเป็นเวลาเดียวกันที่ตาลุงนั้นกับโคนันคุงออกจากร้านไปพอดีจึงทำให้ผมไม่เกร็งเท่าไรแล้วใช้ความคิดได้สะดวกสักที
และสิ่งที่ผมคิดก็ไม่ใช้อะไรจากเรื่องของเด็กชายที่ออกจากร้านไปเมื่อกี้
‘ไม่ยอมกินข้าวหรอ….’ เมื่อผมกินถึงสิ่งที่ตาลุงนั้นพูดก็คิดถึงร่างเล็กที่ดูไงก็ไม่สูงขึ้นเลย
‘เป็นเด็กไม่ดีจริงๆ...เดียวก็ไม่โตกันพอดี....เดียวๆนี้เราคิดอะไร’ เมื่อผมรู้ว่าตัวเองกำลังคิดถึงร่างเล็กนั้นด้วยความรู้สึกแปลกๆเลยต้องเตียนสติตัวเองให้หยุดคิดแล้วรีบกินอาหารให้หมดแล้วกับบ้าน
เมื่อผมกินข้าวเสร็จก็ตรงกับบ้านทันทีเพราะจะไม่มีเวลาให้ผมได้นอนแล้วจึงทำให้เมื่อผมกับถึงบ้านก็นอนลงกับเตียงทันที
“เราลืมทำอะไรหรือเปล่านะ....แต่ก็ช่างมันละกันนอนดีกว่า” เมื่อพูดจบชายหนุ่มก็หลับทันทีโดยที่ลืมว่าตนจะต้องโทรจองโรงแรม
.
.
.
เสียงของน้ำที่ออกจากฝักบัวมากระทบกับร่างกายของชายหนุ่มที่ยังดูไม่ตื่นเท่าไรแต่เมื่อสายน้ำโดนตัวไปไม่เท่าไรก็ตื่นจนเต็มตาแล้วจึงรีบอาบน้ำและแต่งตัว
“ยังมีเวลาอีกนิดสินะ....ดูทีวีแล้วกัน” ร่างของชายหนุ่มที่กำลังจะเดินไปเปิดทีวีดูเพราะเห็นว่าเวลาที่นัดกับเพื่อนสาวเอาไวยังไม่ถึงแต่แล้วก็ต้องหยุดความคิดที่จะดูทีวีลง
“ไคโตะ....ไปกันได้แล้วนะ” เสียงของเพื่อนสาวที่นัดกันไปตอนเจ๊กโมงกำลังตะโกนเรียกชายหนุ่มทังที่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่นักกันเลยจึงทำให้ไคโตะต้องยิบของแล้วเดินออกจากบ้านไปในที่สุด
“นี้อาโอโกะมันยังไม่ถึงเวลาที่นัดกันไวเลยนิ” เมื่อไคโตะเดินลงมาถึงหน้าแล้วปิดประตูบ้านแล้วเดินไปหาอาโอโกะก็เปิดประเด็นคำถามทันที
“ออกก่อนเวลาก็ไม่เป็นไรนิ” อาโอโกะตอบคำถามสบายๆต่างกับไคโตะเมื่อได้ยินความตอบ
เพราะว่าด้วยอาโอโกะอยากออกเดินทางก่อนเวลาจึงทำให้ไคโตะและอาโอโกะมาถึงที่เมืองเบกะก่อนเวลาที่ตกลงกันไวจึงทำให้มีเวลาเดินเล่นมากขึ้นโดยที่ดูทั้งคู่ยังคงลืมเรื่องสำคัญไป
“มาถึงแล้วจะทำอะไรละ” ไคโตะที่เดินลงมาจากรถไฟแล้วถามอาโอโกะที่อยากมาก่อนเวลา
“ถึงแล้วก็ต้อง....” อาโอโกะพูดขึ้นแล้วเงียบลงพร้อมกับหันมายิ้มให้กับไคโตะไคโตะที่รู้สึกสังหอนไม่ดีเมื่อเห็นรอยยิ้มของอาโอโกะจึงได้แต่เงียบเพื่อฟังที่อาโอโกะจะพูดต่อ
“ไปซื่อของสินายมาช่วยฉันเลือกหน่อย” เมื่อไคโตะก็รู้ทันที่ว่าที่อาโอโกะพูดว่าช่วยเลือกก็คือการไปช่วยจ่ายเงินกับยกของให้
“ไม่ไปได้ไหมละ” ไคโตะถามออกไปทังที่รู้คำตอบอยู่แล้ว
“ไม่ได้” และแล้วคำตอบก็เป็นแบบที่ไคโตะคิดไว
หลังจากที่พวกไคโตะลงมาจากรถไฟก็ไปซื่อของต่างๆที่อาโอโกะต้องการจนจะเย็นอยู่แล้วพวกเขาจึงเขามาหาอะไรกินกันและคุยอะไรกันไปจนถึงบทสนทนานึ่ง
“นี้ไคโตะเราพักกันที่ไหนหรอ” คำพูดที่เล่นเอาไคโตะคิดขึ้นได้ว่าตนลืมคำสิ่งนึ่งก่อนนอน
“ตายละสิอาโอโกะฉันลืมโทรไปจองที่พัก”
“หา....แล้วจะทำไงดีละตอนนี้คงไม่มีห้องว่างแล้วมั่ง” อาโอโกะพูดขึ้นอย่างคิดหนัก
“เดียวฉันไปหาก่อนแล้วกัน…อาจยังพอมีห้องอยู่ก็ได้” ไคโตะลุกขึ้นแล้ววิ่งออกจากร้านอาหารไป
“ดะ...เดียวสิ”
“ไปสะแล้ว” อาโอโกะที่เห็นไคโตะออกไปโดยที่ไม่ฟังที่ตนเรียกเลยจึงได้แต่ทำใจแล้วเตรียมตัวจะเดินไปจ่ายเงินค่าอาหารแต่ก่อนที่จะได้จ่ายเงินอาโอโกะก็เห็นหญิงสาวคนนึ่งที่อยู่ด้านหน้าเธอกำลังพยายามหาบางอย่างจากกระเป๋าสะพายอยู่
“คือว่าไม่ได้เอากระเป๋าเงินมาหรอ” อาโอโกะที่พอจะคิดได้ว่าเธอลืมเอาอะไรมาจึงถามขึ้น
“ค่ะ” หญิงสาวหันมาตอบอาโอโกะ
“งั้นจ่ายรวมกับฉันเลยค่ะ” อาโอโกะหันไปพูดกับคนเก็บเงินและเมื่อพนักงานได้ยินจึงบอกยอดรวมใหม่แล้วอาโอโกะจึงจ่ายเงินแล้วเดินออกจากร้านมาพร้อมกับหญิงสาวอีกคนที่อาโอโกะจ่ายค่าอาหารให้
“ขอบคุณมาเลยค่ะเดียวฉันจะเอาเงินมาคืนให้นะค่ะ” หญิงสาวบอกขอบคุณยิ้มๆให้กับอาโอโกะ
“ไม่เป็นไรๆ...”
“แต่อย่างไงก็ต้องขอขอบคุณจริงๆค่ะไม่รู้ว่ากระเป๋าตังหายไปตอนไหนกัน” หญิงสาวพูดด้วยหน้าตาสงสัย
“แล้วคุณอะ....” อาโอโกะที่จะพูดบางอย่างแต่ด้วยที่เธอไม่รู้ชื่อของหญิงสาวจึงไม่รู้จะเรียกว่าอย่างไรและดูเธอจะรู้จึง
“ฉันชื่อ โมริ รัน ค่ะ” เมื่อรันเห็นว่าอาโอโกะไม่รู้จะเรียกตนว่าไงจึงพูดแนะนำตัวเองขึ้น
“ฉันชื่อ นาคาโมริ อาโอโกะ ยินดีที่ได้รู้จัก” อาโอโกะเมื่อฟังคำแนะนำตัวของรันจึงแนะนำตัวเองบางแล้วจึงพูดสิ่งที่ยังพูดไม่จบต่อ
“แล้วโมริจะกับยังไงละ” เมื่อรันหากระเป๋าตังไม่เจอจึงทำให้อาโอโกะอดสงสัยไม่ได้
“เรียกรันก็ได้นะ...แล้วก็บ้านฉันอยู่ใกล้ๆนี้นะ” รันพูดตอบยิ้มๆ
“บ้านรันจังอยู่แถวนี้หรองั้นพอจะรู้จักที่พักที่มีห้องเหลือไหม” อาโอโกะที่เห็นว่ารันเป็นคนในพื้นทีจึงคิดว่าน่าจะรู้เรื่องที่พักบางจึงทำขึ้น
“อาโอโกะจังไม่มีที่พักหรอ?” รันถามด้วยความงงเพราะคิดว่าถ้าเป็นคนที่มาเทียวก็น่าจะหาที่พักไวแล้ว
“อือ...พอดีมันมีหลายๆเรื่อง”
“’งั้นเดินไปคุยไปกันดีกว่านะอาโอโกะจังเพื่อจะเจอที่ยังมีห้องว่างก็ได้” รันที่เห็นว่าคงคุยกันอีกนานเลยบอกให้อาโอโกะเดินไปหาที่คุย
.
.
.
อีกด้านของไคโตะ
ร่างที่วิ่งหาถามห้องว่างไปทั้งแต่จนแล้วจนรอดก็ยังหาไม่ได้จนตอนนี้ร่างเต็มไปด้วยเหงื่อแล้วจึงคิดที่จะเดินกับไปยังร้านอาหารที่อาโอดกะรออยู่แต่แล้วตอนที่กำลังจะกับก็ได้ยินเสียงของคนที่เขารู้จัก
“พี่รันกำลังกับบ้านรอครับ...แล้วพี่สาวคนนี้ใครหรอครับ” เสียงของเด็กน้อยที่เขาพึงเจอไปไม่นานนี้กำลังคุยกับหญิงสาวที่ชื่อรันอยู่และคนอีกคนที่ยืนอยู่ขางๆของรันก็เป็นคนที่เขารู้จกดีเช่นกัน
“เธอคนนี้ชื่อ นาคาโมริ อาโอโกะ เขาช่วยพี่ตอนกำลังลำบากเลยรู้จักกัน” รันพูดแนะนำตัวหญิงสาวที่ยืนอยู่ขางๆพร้อมบอกว่าเจอกันได้อย่างไร
“ครับ ผมชื่อเอโดงาวะ โคนัน ครับยินดีที่ได้รู้จัก” โคนันแนะนำตัวเองแล้วโครงเป็นการทําความเคารพ
“นี้อาโอโกะฉันบอกให้รออยู่ที่ร้านอาหารไม่ใช้หรอ” ไคโตะแอดดูอยู่สักพักเดินออกมา
“ไคโตะนี้นายไปไหนมากัน”อาโอโกะที่เห็นไคโตะเดินเขามาก็ยิงคำถามใส่ทันที่
“ก็ไปหาที่พักไง” ไคโตะพูดตอบตาจริงเพราะเขาวิ่งหาที่พักจริงๆก็ไม่อยากมานอนใต้สะพานลอยอะไรแบบนี้ละนะ
“ชินอิจิ” รันที่เมื่อเห็นไคโตะที่หน้าเหมือนกับเพื่อนสมัยเด็กของตนจึงเรียกชื่อขึ้นมาและโดยที่อยู่ๆรันก็พูดขึ้นมาพร้อมน้ำตาจึงทำให้คนทั้งสองตกใจพอสมควรแต่โคนันกับมองรันด้วยสายตาเศร้าๆ
“รันจังเป็นอะไรหรอ” อาโอโกะที่เห็นว่าอยู่ๆรันก็ร้องไห้จึงตรงเข้าไปถามอาการทันทีต่างจากไคโตะที่ทำหน้างงอละโคนันที่ได้แต่มองด้วยสายตารู้สึกผิด
“ไม่เป็นไรแต่คือเขาคือใครหรอ” รันตอบอาโอโกะพร้อมกับเช็ดน้ำตาแล้วจึงถามถึงไคโตะ
“อ่อ...ตานี้ชื่อ คุโรบะ ไคโตะเป็นเพื่อนของฉันเอง”
“ไม่ใช้ชินอิจิจริงๆด้วย” รันที่ได้ยินที่อาโอโกะแนะนำไคโตะก็เขาใจว่าไม่ใช้ คุโด ชินอิจิ เพื่อนสมัยเด็กของตน
“นี้รันจังชินอิจินี้ใครหรอ” อาโอโกะที่ได้ยินที่รันพูดจึงถามขึ้นด้วยความสงสัย
“นี้อาโอโกะจะยุ่งเรื่องคนอื่นมากไปแล้วนะ” ไคโตะที่เห็นว่าอาโอโกะถามถึงเรื่องส่วนตัวของคนอื่นจึงพูดให้หยุดแต่รันกับสายหน้าเป็นในว่าไม่เป็นไร
“ชินอิจิเป็นเพื่อนสมัยเด็กของฉันแต่เขาไปทำคดีอยู่ไม่ได้กับมาเลย......แล้วก็” เมื่อรันเริ่มพูดทุกคนก็ตกสู่ความเงียบเพื่อฟังที่รันจะพูด
“ชินอิจิหร้าเหมือนไคโตะคุงมากเลยฉันเลยตอนที่เห็นไคโตะคุงเลยคิดว่าเป็นชินอิจิ” เมื่อรันพูดจบลงก็ยังคงไม่มีใครพูดอะไรขึ้นจนในที่สุดก็มีคนพูดอะไรขึ้น
“นี้พี่รันครับผมยังไม่รู้จักใครเลยนะ” โคนันที่เห็นท่าไม่ดีจึงพูดถามรันขึ้นเพื่อเปลี่ยนอารมณ์ของทุกคนและดูจะได้ผล
“อือนั้นสินะงั้นเดียวฉันแนะนำก่อนแล้วกัน...ฉันชื่อ นาคาโมริ อาโอโกะ ” เมื่ออาโอโกะแนะนำตัวเสร็จโคนันก็คิดถึงหน้าของสารวัตรที่ตามจับคิดแต่ก็ไม่เคยจับได้สักครั้งขึ้นมา
“พี่เป็นลูกสาวของสารวัตรนาคาโมริเองหรอครับ” โคนันที่พูดขึ้นมาเหมือนรู้จักพ่อของอาโอโกะจึงทำให้อาโอโกะสงสัยว่าโคนันไปรู้จักได้อย่างไร
“อือ...โคนันคุงรู้จักพ่อฉันด้วยหรอ”
“ครับ...ก็นิดนึง” โคนันตองพอยิ้มให้กับอาโอโกะแล้วจึงเริ่มแนะนำตัวกันต่อ
“ถึงอาโอโกะจะบอกแล้วแต่พูดใหม่ละกัน...ฉันชื่อคุโรบะ ไคโตะ”
“งั้นต่อไปก็ฉันสินะฉันชื่อ โมริ รัน”
“ผมชื่อ เอโดงาวะ โคนัน ครับ” เมื่อโคนันเห็นว่าทุกคนแนะนำตัวกันครบแล้วจึงเริ่มเปิดประเด็นต่อไปทันที
“แล้วพอพี่ไคโตะมาทำอะไรที่นี้หรอครับ” เมื่อโคนันถามขึ้นจึงทำให้ทั้งคู่จำได้ทันทีว่าต้องหาที่พักกันต่อ
“ตายละสิไคโตะนายได้ที่พักหรือยัง” อาโอโกะที่เห็นว่าไคโตะออกไปหามาอาจได้ทีพักแล้วก็ได้จึงถามขึ้น
“ไม่ได้”
“ทำไงดีละ” โคนันที่พอจะเขาใจรู้การแล้วแต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรจึงคงเงียบไว
“ถ้าใช้บ้านชินอิจิได้ก็ดีสิ” เมื่อรันพูดขึ้นทั้งอาโอโกะและไคโตะจึงหันไปทางรันทันทีเมื่อจะถามว่าใช้ได้หรอ
“นี้รันจังใช้ได้หรอ”
“คือชินอิจิก็ไม่อยู่บ้านแต่ฉันก็ไม่มีกุญแจด้วยสิแล้วก็ไม่รู้ว่าชินอิจิจะให้ไหมด้วยละ” รันพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าใช้ความคิด
“ถ้ามานอนบ้านฉันก่อนละแล้วเดียวหาทีพักอีกทีดีไหม” รันพูดขึ้นเมื่อคิดว่าให้ทั้งสองมาอยู่บ้านตนก่อนก็ได้แต่โคนันกับมองไปยังไคโตะทันทีแล้วคิดว่าไคโตะไม่น่าเชื่อใจจึงพูดขึ้น
“งั้นให้พี่ไคโตะไปนอนบ้านพี่ชินอิจิกับผมแล้วให้พี่อาโอโกะไปนอนที่บ้านพี่รันดีไหมครับ” โคนันพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าทุกคนกับลังเห็นด้วยกับความคิดของรัน
“แต่ชินอิจิจะให้หรอแล้วกุญแจอีกละ” รันถามขึ้นทันทีเมื่อโคนันพูดขึ้น
“เดียวผมไปบอกพี่ชินอิจิเองแล้วกุญแจผมก็มีด้วย” โคนันพูดขึ้นพร้อมกับทำท่าจะเดินไปคุยโทรศัพท์แล้วหายไปสักพัก
“ไปไงมั่งโคนันคุง” รันถามขึ้นทันทีที่เห็นโคนันเดินกับมา
“ครับพี่ชินอิจิบอกว่าได้แต่ให้ผมไปอยู่ด้วย”
“งั้นเดียวฉันไปนอนที่บ้านของคุณชินอิจิกับไคโตะก็ได้จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนรันจัง”
“ไม่เดือดร้อนอะไรเลย” รันตอบยิ้มๆ
“อ่อ...พี่ชินอิจิบอกว่าจะให้ผู้ชายกับผู้หญิงนอนบ้านเดียวกับจะดีหรอครับ” เมื่อโคนันพูดจบอาโอโกะและรันก็หน้าแดงทันที
“อาโอโกะจังมานอนบ้านฉันดีกว่านะให้โคนันคุงไปนอนกับไคโตะคุงดีกว่านะ” รันพูดขึ้นทันทีพี้อมกับอาโอโกะที่พยักหน้ารับ
“งั้นฉันก็ไปอยู่กับโคนันคุงสินะ...” ไคโตะที่เห็นว่าเรื่องที่พักลงตัวแล้วจึงพูดถามอีกทีว่าตรงลงแบบนี้ใช้ไหม
“อือ” รันและอาโอโกะตอบพร้อมกันและเมื่อรันคิดเรื่องสำคัญขึ้นได้จึงออกปากถามทันที
“โคนันคุงเรื่องอาหารเอาไงดีจะมากินกับพี่หรือให้เอาไปให้ดี” รันที่เห็นว่ามีแต่ผู้ชายจึงคิดว่าอาจไม่ได้กินข้าวและยิ่งพักนี้โคนันกินข้าวน้อยลงอีกจึงทำให้รันเป็นห่วงเอามากแต่ก่อนที่โคนันจะตอบก็โดนไคโตะตอบให้สะก่อน
“ฉันทำเป็นไม่เป็นไรเดียวฉันทำให้กินเอง”
“อืองั้นเดียวฉันเอาของที่ใช้ทำอาหารมาให้ละกัน”
“ฝากด้วยนะ....ไปกันดีกว่าโคนันคุง”
มุมห้องกับคนแต่ง
มาแก้บทพูดของรันนิกนึง
แล้วก็มีเรื่องจะบอกก็คือในฟิกนี้จะเอาเนื้อเรื่องของโคนันมาแต่ก็ไม่หมด
เพราะบางจุดมาเอามาใช้ไม่ได้เพราะจะไม่เขากับเรื่องที่โซยุคิดไว
เพราะงั้นถ้าตรงไหนไม่ตรงก็ไม่ต้องสงสัยนะเพราะเราอาจไม่เอามาใช้เองไม่ก็ไม่รู้จริงๆ
ความคิดเห็น