คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Round 5 (100%)
เมื่อวานนี้เหนื่อยเป็นบ้า!!
ลุชเชอร์กับฉันต้องเคลียร์ของเกือบสองร้อยชิ้นที่ส่งมาจากแดนเหนือตลอดจนเกือบสี่ทุุ่ม มันไม่ใช่งานง่ายเลยที่ต้องใช้เวทเคลื่อนย้ายติดต่อกันห้าชั่วโมงแบบไม่ได้หยุดพัก ดังนั้นวันนี้ฉันจึงนัดกับเพื่อนตัวอ้วนของฉันว่าจะหนีเที่ยวกันซักหน่อยหลังเที่ยง
ด้วยความที่ว่าเลิกงานดึก ฉันเลยพักค้างคืนที่บ้านของเจ้าเทย่ามันซะเลย ซึ่งก็ดีที่เจ้านั่นไม่ปฏิเสธ มีลูกน้องดีแบบนี้ก็สบายล่ะฉัน
เอี๊ยด โครม!
อายุยืนจริงวุ้ย นอนหลับตาบ่นถึงก็ยังจะมาหาได้ถูกเวลาซะนี่
“ตื่นได้แล้วเจ๊พะยูน! จะนอนกินบ้านกินเมื-”
ผัวะ! หมอนในมือฉันถูกปาใส่คนปากสุนัขโดยแรง มันโดนเข้าเต็มๆเลยล่ะ
“ใครให้เรียกชั้นว่าพะยูนกันยะ!? เสียมารยาทที่สุด” ปากสุนัขสมกับเผ่าพันธุ์ของมันดีจริงๆ
เอไม่สิ… นี่ขนาดเป็นแค่ฮาล์ฟบลัดนา
แต่จะว่ามันก็ไม่ผิด เพราะฉันบอกให้เขามาปลุกฉันเองนั่นแหละ ฉันจึงลุกขึ้นเก็บที่นอนและเดินไปแต่งตัว
ทำงานแค่ครึ่งเช้าก็ต้องแต่งสวยให้มากไว้หน่อย!
“ลุชเชอร์ให้ข้ามาปลุกเจ๊ตั้งแต่แปดโมงเช้าแล้วคราหนึ่งแหละ เเต่ข้าเห็นเจ๊หลับสบายก็เลย…”
เห… มารอบแรกแปดโมงเช้างั้นรึ
“เดี๋ยวๆๆๆๆ แล้วตอนนี้กี่โมง” โดยไม่รอฟังคำตอบของเทย่าฉันลุกพรวดไปดูนาฬิกาก็ต้องแทบช็อค
สิบโมงสิบห้า! นี่ฉันนอนกินบ้านกินเมืองจริงๆอย่างที่มันว่าด้วย ไม่นะ!
“สิบโมงสิบห้าแล้วเจ๊” เจ้าตัวดีพูดเสียงเนือย “ลุชเชอร์ก็เลยไม่รอเจ๊แล้ว ไม่งั้นเดี๋ยวไปส่งของไม่ทันออเดอร์ เลยฝากบอกข้าว่าเจ๊ตื่นเมื่อไหร่ หลังกินข้าวเสร็จฝากจัดการสัมภาระที่ไซท์สามก่อนเที่ยงด้วย”
เยี่ยม… โดนเพื่อนทิ้ง เข้างานสาย มีงานเข้าอีก ครบสูตรวันทำงานที่ไม่น่าจดจำซักเท่าไหร่
“รู้แล้วน่า” ทำใจได้ฉันจึงเดินคอตกกลับไปแต่งหน้าต่อ ระหว่างนั้นก็สอบถามข้อมูลของงานที่ต้องทำไปด้วย “สัมภาระแบบไหน หนักมากมั้ยเทย่า”
“สามสิบปอนน่า แปะป้ายวัตถุอันตรายด้วยเจ๊ อีกหนึ่งเก้าสิบเจ็ดปอนน่า เป็นสัมภาระปกติ” เสียงรายงานร่าเริงเป็นนิจของเขาทำให้ฉันมีสมาธิกับงานมากขึ้นด้วยเช่นทุกวัน “ให้ข้าลงไปเตรียมมื้อเช้าให้เลยมั้ย?”
อีกหนึ่งเหตุผลที่ฉันชอบเบ๊คนนี้เอามากๆๆๆๆๆ เป็นฮาล์ฟบลัดที่ทำอาหารได้อร่อยอย่าบอกใคร วันไหนที่ฉันไมไ่ด้ไปบาร์ เขาก็ทำกับแกล้มให้ฉันกินกับเจ้าอ้วนที่ห้องก็ได้ บางครั้งนั่งกินกันที่ไซท์เลยก็มี
“เอางั้นก็ดี” ฉันว่า หลังป้ายรองพื้นกลบรอยเหงือกที่ใบหน้าให้เป็นธรรมชาติก็เป็นอันเสร็จการแต่งหน้าของฉัน “วันนี้ก็คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงเท่าไหร่”
เดินตรงไปที่ประตูห้องแต่เทย่ายังคงมองหน้าฉันด้วงสีหน้างงๆ หน้าฉันมันมีอะไรตลกขนาดนั้นเลยรึไง รึนายไม่ชินกับเหงือกคู่หน้าบนหน้าฉัน?
“เอ่อ…. เจ๊ไม่เอาคทาไปด้วยรึ?”
เวรกรรม ดันลืมอุปกรณ์สำคัญไปซะได้ นึกได้แล้วฉันจึงไม่รอช้าหันหลังก้าวฉับๆเดินไปหยิบมันมา “เอ้อ ขอบคุณที่เตือน ไปรอฉันที่ไซท์ได้เลย ฉันใช้เวลากินข้าวไม่นานเท่าไหร่หรอก”
ปีนี้เป็นปีที่สี่แล้วที่ฉันมาทำงานประจำที่วิสเทลเทีย
ฉันจำบ้านเกิดของตัวเองไม่ได้ แต่ผู้เลี้ยงดูฉันพาฉันมาอยู่ที่มหาสมุทรแอนโกตาทางตอนใต้ ฉันจึงเติบโตมาจากที่นั่น
อ้อ.. ฉันลืมแนะนำตัวเองกับผู้อ่านสินะ ฉันชื่อบลูม่า เพิร์ล เผ่าเงือก อายุยี่สิบหกปี
ใครที่กำลังคิดว่าฉันแก่… รีบลบมันออกไปจากหัวซะเดี๋ยวนี้เลยนะยะ!
เผ่าเงือกนั้นไม่ได้ใช้เวทมนตร์ได้ทุกคน มีเพียงอิสตรีที่ได้รับพลังจากท้องทะเลเท่านั้นที่สัมผัสมาน่าจากผืนน้ำและท้องฟ้าได้ เราขนาดนามเหล่าจอมเวทเผ่าเงือกทั้งหลายว่า “เมอร์เมจ (Mermage)”
และฉัน… ก็เป็นเพียงเมอร์เมจธรรมดาๆ ที่ทำงานขนส่งของจากบนบกสู่ใต้ทะเล (หรือแม้แต่จากบนบกสู่บนบก แต่ส่งไปทางใต้ทะเลนะ)โดยที่ไม่ทำให้สิ่งของเหล่านั้นเสียหายหรือชุ่มไปด้วยน้ำเสียก่อน
ด้วยคุณสมบัติของฉัน ฉันสอบผ่านและได้งานอย่างง่ายดาย พลังเวทที่มีทำให้ฉันก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานฉันก็มีทีมเป็นของตัวเองและประจำไซท์งานถึงสามไซท์
พูดถึงเรื่องงาน… เหมือนว่าฉันนัดกับเทย่าไว้นี่นา ต้องรีบไปแล้วล่ะ
“ไม่นานของเจ๊นี่เกือบชั่วโมงครึ่งเลยนะเจ๊” เสียงกวนๆแว่วมาตามลม หันไปมองตามเสียงก็เห็นจิ้งจอกหนุ่มเพื่อนร่วมงานตัวดีของฉันนั่งอยู่บนตู้คอนเทนเนอร์ตู้ใหญ่
“แหม่ รู้จักรอมั่งมั้ยยะ สุภาพสตรีน่ะเขาไม่ได้กินข้าวแบบจ้ำเอาๆแบบเจ้าหรอกนะ” เอาจริงๆคือมัวคุยกับผู้อ่านอยู่นั่นแหละถึงสาย ดังนั้นผู้อ่านน่ะผิด!
เอาล่ะๆๆ ฉันไม่นอกเรื่องก็ได้
“อยู่ข้างในทั้งสองชิ้น?” ฉันถาม แกว่งคทาในมือควงเล่นไปมา
“ช่ายยยยยเลย” เทย่าผงกศีรษะ “ไม่เกินมือเจ๊หรอก แต่เจ๊อย่าลืมนะว่าต้องเสร็จก่อนเที่ยง”
“ไม่ลืมหรอกน่า ลงมาเปิดตู้ได้แล้ว” มัวแต่เล่นลิ้นก็งานไม่เดินกันพอดี รีบทำให้เสร็จดีกว่า ได้ยินตามนั้นเจเนรัลเบ๊ก็โดดลงมาไขกุญแจเปิดตู้ให้ฉันอย่างรวดเร็ว
ฝาตู้เปิดออกให้เห็นของที่อยู่ภายในสองชิ้นถูกรัดอย่างแน่นหนา บางทีก็น่าจะแน่นเกินไปหน่อย แต่จากข้อมูลของเทย่าที่บอกว่าหนึ่งชิ้นเป็นวัตถุอันตราย บางทีมันก็ดูปลอดภัยดี
“ส่งไปที่ใด?” ฉันถามสถานที่ปลายทางของพัสดุเหล่านี้ขณะที่เริ่มรวบรวมพลังมาน่าไปที่ลูกแก้วปลายคทา ไม่นานเทย่าก็รายงาน “เขตสี่ ดีฟซีเมาท์เทนทั้งสองชิ้น วัสดุที่ห่อมาไม่กันน้ำ”
ไม่กันน้ำ… งั้นก็ต้องร่ายมนต์บทนั้นก่อน
“อืม ไกลใช้ได้เหมือนกันนะ แต่แค่สองอย่างนี้ไม่เกินมือฉันหรอก…. บับเบิ้ลแพ็กเกจ!!”
ฟองสบู่ถูกสร้างขึ้นห่อหุ้มสิ่งของทั้งสองชิ้น มันช่วยในเรื่องของกันน้ำจนกว่าจะถึงมือผู้รับ นอกจากนั้นยังกันแรงกระแทกได้ดีมากพอที่จะไม่โดนตัวอะไรก็ตามในใต้น้ำชนกระเด็น
เอ่อ… ไม่รวมกรณีโดนฮุบเข้าปากไปทั้งฟองนะ
ฉันหลับตานิ่งใช้พลังเวทยกของทั้งสองอย่างขึ้นช้าๆ น้ำหนักของทั้งสองชิ้นถูกต้องตามที่รายงาน มันเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องระบุน้ำหนักให้ถูกต้อง เพราะยิ่งพัสดุที่ส่งมีน้ำหนักมาก พลังเวทที่ฉันต้องใช้ในการขนย้ายก็ยิ่งใช้มากขึ้น
“น้ำหนักสิ่งของถูกต้อง ดำเนินการเคลื่อนย้าย… โลโคบับเบิ้ลโฟลว์!!”
ความมืดตรงหน้าถูกทดแทนด้วยผืนน้ำถาโถมเข้ามาทั้งใบหน้า ฉันเคลื่อนที่ไปในสายชลอย่างรวดเร็วคล้ายฟองอากาศฟองหนึ่ง
เขตสี่อยู่ไกลออกไปจากที่นี่สองร้อยไมล์ทะเลและลึกลงไปเกือบแปดร้อยฟุต แม้จะดูเหมือนห่างไกลแต่ประสบการณ์การทำงานสี่ปีของฉันการันตีแล้วว่าระยะทางแค่นีไม่ใช่อุปสรรค เพียงห้านาทีฉันและฟองสบู่ทั้งสองฟองนั้นก็ล่องลอยไปจอดอยู่ตามสถานที่ที่จ่าหน้า
ไม่มีผู้รับ… แปลก ปกติถ้าส่งของทางไกลก็น่าจะมีการติดต่อกันก่อนที่ของจะมาถึงนี่ ไม่อย่างนั้นของอาจจะสูญหายหรือถูกพัดพาไปตามกระแสน้ำลึกได้
แต่คิดมากไปก็เท่านั้น ฉันมีหน้าที่แค่ส่งของ เวทฟองสบู่ของฉันยังคงสภาพได้อีกสองถึงสามชั่วโมง ก็ได้แต่หวังว่าจะมีคนมารับมันไปก่อนเป็นขยะใต้น้ำล่ะนะ
ฉันลืมตาขึ้นมาก็พบว่าเทย่ากำลังตีสีหน้าเคร่งเครียด
“มีอะไรไม่ปกติรึเทย่า”
แทบจะพร้อมๆกับที่ถามคำถามนั้นออกไป ฉันคล้ายกับนึกอะไรออกบางอย่าง…
“ข้าว่าข้าเห็นเงาคนแถวๆไซท์สอง ว่าแต่เจ๊เถอะส่งของเรียบร้อยดีหนา?”
“ก็ส่งถูกตามที่ระบุนะ….” ฉันพูดออกไปได้แค่นั้นก็ต้องกระทุ้งคทาลงพื้นในทันใด บาเรียสีฟ้าใสกางล้อมรอบเราสองคน แทบจะพร้อมกับที่เกิดบาเรีย เสียงวัตถุบางสิ่งกระทบกับบาเรียดังก๊องแก๊งให้ได้ยินอย่างต่อเนื่อง
พวกเรากำลังถูกลอบโจมตี!
“สามคน! บนตู้คอนเทนเนอร์สอง เจ๊ไล่ตามไปเล-”
ตูม!!
ภาพสุดท้ายที่ฉันเห็นคือทั้งไซท์ลุกเป็นไฟ วินาทีต่อมาเปลวเพลิงก็ลุกลามไปทั้งร่างของฉัน
...และฉันก็ตาย
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มีเพียงบทแรกเท่านั้นนะครับที่กล่าวในมุมมองบุคคลที่สาม ตอนต่อๆไปจะเป็นมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (บลูม่า) คนเดียวยาวๆทั้งเรื่องเลยครับ
ความคิดเห็น