ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ฉันนี่แหละทายาทหญิงแห่งตระกูลอาเบะ
12 ขุนพลเทพ เป็นเทพนักรบที่ถือได้ว่าเก่งกาจที่สุด แต่ก็มีกฎสำคัญอยู่ข้อหนึ่งว่า ขุนพลเทพห้ามทำร้ายมนุษย์ เพราะซะนั้น ถึงขุนพลเทพบางคนจะน่ากลัวไปบ้าง ก็ไม่ต้องกังวลที่จะถูกทำร้าย เวลาไปทำอะไรให้ไม่พอใจเข้า
นั้นน่ะ โกหกชัดๆ!!!!!
โครม
“โอ๊ย!!”
เด็กสาวร้องครางเมื่อตกจากเตียงนอนตามแรงกระชากผ้าห่มที่เจ้าตัวจับไว้แน่นเมื่อครู่ โดยคนกระชากทำหน้าไม่รู้สึกรู้สา
“โซรันทำอะไรของเจ้านี่!!!!!” เด็กสาวอายุราวๆ 13 ปี หันไปตวาดใส่ชายหนุ่มร่างสูง ผมสีฟ้ายาว ซึ่งก็เข้ากับผิวขาวๆของเขาได้ดี ดูเผินๆน่าจะ อายุราวๆ 20 ปี ทั้งที่ความจริงอยู่มานานกว่า 1,000 ปีด้วยซ้ำ บางทีอาจจะมากกว่านั้น จึงไม่แปลกใจเลยที่การแต่งกายของเขาออกจะแปลกประหลาด เพราะเขาไม่ใช่มนุษย์
“ข้าปลุกเจ้าตั้งหลายรอบแล้ว เจ้าก็ไม่ยอมตื่นนี่”
“ถึงงั้นก็เถอะมันยังเช้าอยู่เลยนะ” เด็กสาวทำหน้าบูดเมื่อเห็นเวลาที่นาฬิกาบนหัวเตียง แสดงเวลา 7 โมง 45 นาที
“เจ้าจำไม่ได้เหรอว่า วันนี้วันอะไร” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
“วันอะไรล่ะ”
“วันเปิดเทอมเจ้าไง” ประโยคสั้นๆ แต่ก็ทำให้เด็กสาวร้องลั่นบ้านก่อนที่จะรีบหยิบชุดนักเรียนที่คาซาเนะ เทพรับใช้ของเธอเตรียมไว้ให้ตั้งแต่เมื่อวาน กับผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ แต่ก็ไม่วายโวยวายออกมา
“ทำไมเจ้าไม่ปลุกให้เร็วๆกว่านี้ล่ะ”
“อย่ามาโทษคนอื่นได้ไหม เจ้าไม่ยอมตื่นเองนะ”
“ตาเคะซึนหัวฟ้า!!!!!!” เด็กสาวตะโกนด้วยความไม่พอใจ
“อย่ามาเรียกข้าแบบนั้นนะ ยัยเด็กแก่แดด!!!!!”
“ข้าไม่ได้แก่แดดนะ!!!!” เสียงทะเลาะซ้ำซากดังลั่นทั่วบ้าน ทำให้ผู้ที่เป็นมนุษย์และไม่ใช่มนุษย์ถอนหายใจไปตามๆกัน
“ให้ตายเถอะ นางาโกะ กับเจ้าเซย์ริวทะเลาะกันเรื่องไม่เป็นเรื่องอีกแล้ว” สัตว์อสูรสีขาวตัวขนาดเท่าหมาหรือแมวขนาดหย่อม บ่นอย่างเซ็งๆ
“ช่วยไม่ได้นิ สองคนนั้น ทะเลาะกันบ่อยกว่าทะเลาะกับเจ้าหรือไทโจวซะอีกนี่” หญิงสาวผมดำคนหนึ่งโผล่เข้ามาพูดกับสัตว์อสูร
“มันก็จริงนะ โค”
“ถ้ารอพี่นางาโกะ คงไปไม่ทันแน่ เบียโกะซัง ช่วยไปส่งผมหน่อยได้ไหมครับ” เด็กชายหน้าหวานราวกับเด็กผู้หญิงอายุราวๆ 10 ปี พูดกับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ผมเขียว ด้วยสรรนามที่แตกต่างจากคนที่อยู่ในห้องน้ำอย่างเห็นได้ชัด
“ได้สิ” ชายหนุ่มยิ้มอ่อนโยนให้เด็กชาย แล้วเดินไปที่สวน พลางกวักมือเรียก
“งั้นไปก่อนนะครับ อ๋อ พี่คาซาเนะ พี่เทนโค ขอบคุณสำหรับอาหารนะครับ อร่อยมากเลย” เด็กชายคว้ากระเป๋านักเรียนกับข้าวกล่องวิ่งไปที่สวน แต่ก็ไม่ลืมขอบคุณหญิงสาวทั้งสองที่ไร้เค้าไอมนุษย์ แต่เป็นของเทพ
“ขอบใจจ๊ะ” คาซาเนะพูดขณะมองพายุขนาดเล็กที่เบียโกะเป็นคนสร้างขึ้นไปจนลับตา
“แฮก แฮก ฮิเดโยชิ ล่ะ” เด็กสาววิ่งกระหืดกระหอบ มาที่ห้องอาหาร ทั้งที่แต่งตัวยังไม่เรียบร้อยดีด้วยซ้ำ
“ไปเมื่อกี๊เองเจ้าค่ะ” หญิงผมทองตาสีฟ้าเหมือนชาวต่างชาติ แต่ทรงผมกับการแต่งตัวเป็นญี่ปุ่น พูดกับเด็กสาวที่รีบกินข้าวเช้าอย่างเร่งรีบ จนสำลัก
“แคก แคก เอ๋ โกหกน่า เทนอิสึ” เด็กสาวรับแก้วน้ำจากเทนโคมาดื่มแล้วรีบหยิบกระเป๋านักเรียนวิ่งไปที่ประตู
“ขอบคุณสำหรับอาหารค่ะ ข้าไปก่อนนะ”
“ดะ เดี๋ยวสิ นางาโกะเดี๋ยวข้าไป..” ไม่ทันที่เด็กหญิงเกล้าแกละสีน้ำตาลจะพูดจบ เด็กสาวก็วิ่งออกไปเรียบร้อยแล้ว
“ส่งให้นะ”
“พูดช้าแบบนั้น ไม่ทันนางาโกะหรอก ไทอิน” เด็กชายผมดำที่ไร้เค้าไอมนุษย์เช่นเดียวกับเด็กหญิงพูดเสียงเรียบ
“ก็จริงล่ะ เกมบุ”
“แฮก แฮก”
ฉันชื่อว่า อาเบะ นางาโกะ เฮ้ย อย่าได้นึกถึง พวกอาเบะประเภทยาราไนก้า อะไรนั่นเด็ดขาดนะ ไม่งั้นเจอคำสาปแน่ นามสกุลอาเบะของฉันมันมีที่มานะ เพราะบรรพบุรุษของฉัน คือ อาเบะ โนะ เซย์เมไงล่ะ ใช่แล้ว มหาอนเนียวจิแห่งยุคเฮฮันนะแหละ เอาน่า ถึงจะผ่านมาตั้ง 1000 กว่าปีแล้ว แต่ก็ขออวดบรรพบุรุษของตัวเองหน่อยล่ะกัน ปู่ของฉันก็เป็นอนเนียวจิ ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน อนเนียวจิจะมีหน้าที่แค่ผู้ทำพิธีในศาสนาชินโตก็เถอะ แต่ว่าฉันใช้เวทมนตร์ได้นะ ปู่ไม่ได้สอนหรอก เพราะเห็นว่าฉันเป็นผู้หญิงเลยไม่สมควร และปู่ก็ไม่เห็นความสำคัญอะไรมากนั้นที่เด็กรุ่นใหม่อย่างพวกฉันจะรู้เกี่ยวกับคาถาโบราณ แต่ฉันก็แอบอ่านตำรามาตั้งแต่อ่านหนังสือออกแล้วล่ะ ต่อมาปู่ก็เริ่มยอมสอนฉัน เพราะพี่ยูเฮย์ขอร้อง เพราะพี่ยูเฮย์ก็เข้าวงการมายาเต็มตัว ส่วนฮิเดโยชิก็บอกกับปู่ชัดเจนว่า “ผมจะเป็นนักเบสบอลมืออาชีพของโลกให้ได้เลยฮ่ะ!!!” ตอนนั้นปู่ฉันลมจับเลย 555+ เอ๊ะ พวกคนประหลาดๆเมื่อกี๊เหรอ 12 ขุนพลเทพไงล่ะ ไม่ได้เป็นข้ารับใช้ของปู่ฉันเหรอ น่าจะเรียกว่าแค่อยู่บ้านเดียวกันเฉยๆมากกว่า เพราะไม่เคยเคารพปู่ฉันเลย ไม่ฟังคำสั่งอะไรทั้งนั้นด้วย ทำไมนะเหรอ เพรานายจริงๆของพวกเขาคือฉันไงล่ะ!!! เอาน่าจะว่านายก็ไม่ถูกนัก เหมือนกับคนในครอบครัวกันมากกว่า แต่อย่างน้อยพวกนั้นก็ฟังฉันตามสมควรล่ะน่า ฉันไปถามไทโจวแล้ว รายนั้นบอกว่า ไว้เป็นผู้ใหญ่ทั้งกายและใจเมื่อไร ก็จะฟังเอง แต่ฉันก็ชอบความสัมพันธ์แบบครอบครัวมากกวานายบ่าวล่ะนะ แล้วฉันก็พยายามที่จะเป็นผู้ใหญ่เร็วๆ แต่โซรันชอบว่าฉันว่าแก่แดดอยู่เรื่อยเลย บางครั้งฉันก็รู้ว่าไม่สมควร แต่หน้าโซรันตอนโมโห เห็นแล้วสนุกจะตาย เบียโกะบอกว่า ”ตรงนั้นแหละที่ต้องปรับปรุง” รับทราบ คุณพ่อคุณแม่เหรอ ท่านทำงานที่ต่างประเทศ นานๆจะกลับมาที ส่วนคุณปู่ก็เสียไปเมื่อ 3 ปีก่อนแล้ว มีพี่ยูเฮย์ที่แก่กว่าฉัน 11 ปีเป็นผู้ปกครองนะ เอ๊ะ คุยเพลินไปหน่อย อีก 3 นาทีจะเข้าเรียนแล้ว ตายแล้วๆๆๆ งั้นเดี๋ยวมาคุยกันใหม่นะ
2 นาทีผ่านไป
“1..2..3..4..5..6..7..8..9” เสียงจากลำโพงเหมือนเป็นตัวสร้างความเครียดแก่เหล่านักเรียนที่มาสายอย่างยิ่ง
“ขอโทษนะค่ะที่มาสาย!!!” เด็กสาววิ่งเข้ามาที่ห้องเรียนแบบชิวเฉียด
“มาทันพอดีเลยนะ นางาโกะ” เด็กหนุ่มผมทอง ตาสีฟ้า ท่าทางเหมือนคุณหนูลูกผู้ดีของอังกฤษพูดพลางโชว์นาฬิกาที่แขวนเป็นสร้อยคอไว้กับตัว ให้เด็กสาวดู
“อย่ามาประชดได้ไหม รอย”
“ไม่ได้ประชดนะ แต่เป็นห่วงต่างหากล่ะ คนอื่นน่าจะมาทันเหมือนกัน”
“แต่ดูเหมือนว่าจะมีพวกที่มาไม่ทันแบบเฉียดฉิวเหมือนกันนะ” เด็กสาวผมดำยาวถึงกลางหลัง ตาสีแดง นาม ฮานาโกะ พูดน้ำเสียงเย็นชาพลางเหลือบมองกลุ่มคนที่มาสายไปแค่ 1 วิ แล้วโดนสายฟ้าขนาดหย่อมจากคนที่เรียกตนเองว่าอาจารย์ใส่ที่หน้าประตู
“พวกเธอมาสายนะ!!!!!”
“โถ่ อาจารย์ฟาเนีย พวกผมมาสายแค่หนึ่งวิเองนะ” เด็กหนุ่มผิวสีแทนสองคนลุกขึ้นมาโวยวายก่อนเพื่อนอย่างทุลักทุเล
“แต่ก็มาสายอยู่ดีล่ะ เลโอ ลีโอ เอ้า ไปเข้าห้องเรียนได้แล้ว ถ้าทำอีกพวกเธอโดนวิ่งรอบสนาน100รอบแน่”
“ครับ/ค่า”
โครม
“โอ๊ย” เด็กสาวผมสีชมพูออกแดงครางหลังจากที่ได้พุ่งเข้ามาทางหน้าต่างห้องเรียนที่เปิดเอาไว้โดยแฟนหนุ่ม ปีกสีขาวของเธอได้ส่งเสียงดังกร๊อบอย่างน่ากลัว ก่อนที่จะได้หดกลับไปในหลัง อย่างน่าพิศวง
“อ้าว เนวา เธอไม่ได้โดนสายฟ้าของอาจารย์ฟาเนียเหรอ” เด็กสาวหน้าตาน่ารัก ตาสีดำ ผมสีน้ำตาลยาวสลวย ผมหยักศกแบบธรรมชาติ ติดกิ๊บสีทองที่แสกผมข้างขวา พูดอย่างแปลกใจ เพราะเป็นธรรมดาที่นักเรียนที่มาสายจะโดนสายฟ้ามหาบรรลัยของอาจารย์ฝ่ายปกครองสุดเฮี้ยบ แต่ก็แฝงด้วยความเป็นห่วง
“ถ้าฉันไม่ได้กางม่านเวทกำบังไว้ เนวาก็โดนไปแล้วละ นิจิ” ทานากะ อิชิยะพูดพลางประคองแฟนสาวให้ลุกขึ้น การสนทนา และการกระทำของคนในโรงเรียนสำหรับคนภายนอกอาจจะแปลกประหลาด แต่สำหรับคนในโรงเรียนนี้แล้ว ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะโรงเรียนนี้ คือ โรงเรียนเอกชนชินกูรุ
ฉันจะขอพูดถึงโรงเรียนของฉันหน่อยนะ โรงเรียนเอกชนชินกูรุ ถึงจะเป็นโรงเรียนเอกชน แต่เด็กนักเรียนที่นี้หนึ่งในสามเป็นนักเรียนทุน แล้วก็มีนักเรียนประมาณครึ่งหนึ่งที่เป็นนักเรียนหอ แน่นอนฉันไม่ได้รวมอยู่ในนั้นด้วย มีนักเรียนทั้งหมดประมาณ 5300 คน อาจารย์ประมาณ 300 คน สถิตินี้ไม่น่าสนใจนักหรอก แต่ที่น่าสนใจคือ
นักเรียนราว 25.45% มีพลังเวทอยู่ในตัวทั้งที่เป็นมนุษย์
21.25% เป็นเทวทูต เอ่อ ความจริงก็เป็นเผ่าพันธ์จากดินแดนฮอลี่ ดินแดนหน้าด่านสวรรค์ที่เป็นโลกคู่ขนานกับโลกเรานี่แหละนะ แต่เพราะพวกเขามีปีกเหมือนนางฟ้า และพวกที่เป็นระดับสูงๆจะมีหน้าที่รับใช้พระเจ้าต่างๆ เลยเรียกว่าเทวทูต เรื่องพลังไม่ต้องพูดถึงเลย แต่บางทีก็สู้กับปีศาจไม่ได้ แต่พออยู่ที่โรงเรียนนี้ ก็ดีกับเผ่าพันธ์ปีศาจดี แต่บางทีก็ทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องอย่างเเย่งจีบสาว หรือหมั่นไส้
21.25% เป็นปีศาจ
20.15% เป็นเผ่าพันธ์อื่น อย่างเอลฟ์ ยมทูต เงือก พ่อมด แม่มด มนุษย์ต่างดาว(?) ฯลฯ
5.95% เป็นครึ่งอสูร ซึ่่งก็คือพ่อแม่เป็นปีศาจและมนุษย์
5.85% เป็นลูกครึ่งเทวทูตกับมนุษย์
อีก 0.1% นั้นคือพวกที่มีแค่สัมผัสที่ 6 หรือไร้พลัง
20.15% เป็นเผ่าพันธ์อื่น อย่างเอลฟ์ ยมทูต เงือก พ่อมด แม่มด มนุษย์ต่างดาว(?) ฯลฯ
5.95% เป็นครึ่งอสูร ซึ่่งก็คือพ่อแม่เป็นปีศาจและมนุษย์
5.85% เป็นลูกครึ่งเทวทูตกับมนุษย์
อีก 0.1% นั้นคือพวกที่มีแค่สัมผัสที่ 6 หรือไร้พลัง
ฉันไม่ได้บ้านะ!!! ฉันพูดจริงๆ แต่ทำไมถึงอยู่ร่วมกันได้นะเหรอ เพราะโรงเรียนนี้ คือโรงเรียนเอกชนชินกูรุ (หนึ่งเดียว) ไงล่ะ โรงเรียนนี้เมื่อมาอยู่ด้วยกันแล้วต้องทำตามกฎระเบียบที่วางไว้เหมือนโรงเรียนทั่วไป การเรียนการสอนก็เหมือนโรงเรียนปกติ แต่กฎเหล็กของโรงเรียน คือ ห้ามใช้พลังพิเศษที่ตัวเองมีอยู่โดยไม่จำเป็นเด็ดขาด ไม่งั้นจะโดนทำโทษอย่างหนักจากอารย์สุดเฮี้ยบฝ่ายปกครองประจำโรงเรียน อาจารย์ฟาเนีย อ๋อ ฉันยังไม่ได้บอกใช่ไหมว่าเธอเป็นแม่มดน่ะ และห้ามเปิดเผยความลับของคนในโรงเรียนนี้ด้วย คนนอกที่รู้โดยไม่ได้รับอนุญาตก็แก้ความทรงจำใหม่ น่ากลัวนิดหน่อยฮ่ะ ทุกคนที่อยู่ในโรงเรียนนี้ขอให้มีชีวิตจิตใจมีความรู้สึก ก็ถือว่าเป็นพวกเดียวกันแล้ว การดูถูกเหยียดหยามหรือ การแบ่งแยกถือเป็นความผิดร้ายแรงของโรงเรียนนี้ โรงเรียนนี้ถูกก่อตั้งโดนคนในตระกูลฟูจิวาระ และตระกูลไอโซะโนะ ลูกหลานสองตระกูลนี้ที่มาเรียนที่นี้ก็ไม่ได้รับการปฎิบัติจากพวกอาจาร์ยแตกต่างจากคนอื่นอะไรนัก เพียงแต่มนุษย์สัมพันธ์ บวกกับ หน้าตาดีมากเลยเป็นที่รู้จักทั่วโรงเรียนก็เท่านั้น รู้สึกในรุ่นหลานทั้งหมดจะมี 6 sense และพลังเวทหมดเลยนะ แต่ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็เรียกพวกเขาว่าคุณหนู คุณท่าน คุณนายอยู่ดีนะแหละ ก็เป็นผู้มีพระคุณนี่นา และมีหลายคนที่สาบานกับตัวเองว่าจะภักดีกับสองตระกูลนีไป โดยที่ทั้ง 2 ตระกูลก็ไม่ได้เห็นด้วยเรื่องพวกนี้เลย แถมจะรู้สึกไม่ชอบด้วยช้ำ สอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงปริญญาเอกน่ะ เจ๋งไหมล่ะ!!!! แต่มหาวิทยาลัยจะตั้งอยู่ที่โตเกียวแทน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมโรงเรียนมหัศจรรย์แบบบนี้ถึงได้อยู่ในเมืองใหญ่อย่างเกียวโตโดยไม่มีใครสงสัย
ตายแล้วได้เวลาปฐมนิเทศแล้ว ฉันต้องไปก่อนนะ ว่าแต่เหมือนลืมอะไรอย่างหนึ่งฮ่ะ
“ให้ตายสิ นางาโกะลืมข้าวกล่องไปโรงเรียนได้ไงนี่” เทพที่อยู่ในร่างชายชรารำพึงอย่างเบื่อหน่ายกับนายหญิงของเขา ที่ลืมข้าวกล่องไว้บนโต๊ะกินข้าวอยู่เลย (- -; )
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น