ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม

    ลำดับตอนที่ #8 : องค์ที่ 8 ฆ่าหรือถูกฆ่า

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ค. 67


    ราฟาเอลโร่นึกในใจพลางใช้มือซ๊ายประคองกำแพงวายุหิมะตรงหน้า มือขวาที่ปลดเปลื้องจากภาระ และกำลังเริ่มร่ายเวทย์น้ำแข็งเหนือตัวของวิหคเพลิงที่กำลังบินอยู่

    ร่างของวิหคเพลิงที่อยู่ตรงหน้าของเขาได้ทอแสงสว่างออกมา ราฟาเอลโร่พร้อมแล้วที่จะโต้กลับ

    แต่แล้วแสงรอบตัวของวิหคเพลิงก็หายไป ร่างของมันร่วงลงสู่พื้น พร้อมกับขนาดที่เล็กลงเท่านกกระตั้ว ราฟาเอลโร่คลายเวทย์ที่ร่ายไว้ทันที และพุ่งตัวคว้าวิหคเพลิงที่ตอนนี้ไร้ซึ่งสติ

    ทันทีที่แตะพื้นราฟาเอลโร่ประคองวิหคเพลิงไว้อย่างเบามือ ในระยะเท่านี้ เขาสามารถมองเห็นแผลที่ตัวของวิหคเพลิงหลายจุด ราฟาเอลโร่วางมือไว้เหนือสัตว์เวทย์ที่บาดเจ็บสาหัส  มือของเขาเริ่มเรืองแสงขึ้น

    “ท่านราฟาเอล ระหว่าง!!!”

     ราฟาเอลโร่ที่กำลังจะรักษาวิหคเพลิง หันตามเสียงที่ดังขึ้นจากด้านหลัง ซึ่งพบว่าเกรนเดลได้รับการโจมตีแทนเขา  และล้มลงต่อหน้า  ลูกธนูสีเงินปักอยู่ที่กลางหลัง  แม้จะไม่ตรงจุดตาย  แต่ลูกธนูนั้นก็แทงทะลุเข้าไปในปอดอย่างแน่นอน  ภาพของเกรนเดลตรงหน้า  ทำให้ความคิดในหัวของราฟาเอลโร่นั้นว่างเปล่า  พร้อมกับร่างกายที่ชาไปทั้งตัว  ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงทุ่มต่ำของใครบ้างคน  ที่ทำให้ความโกรธในตัวปะทุขึ้นราวกับพลุไฟ

        “ไม่มีใครบอกเจ้ารึไง ว่าในสนามรบ ต้องฆ่าศัตรูในตายก่อนจะหันหลังให้”

    วอร์ริเออร์รูปร่างสูงใหญ่  ในมือถือคว้านขนาดไม่ต่างจากขนาดตัวมากนัก พาดไปที่บ่า กล่าวพร้อมเดินตรงมาทที่ราฟาเอลโร่

        “5555 ก็แค่เด็กเมื่อวานซืน  คงยังไม่เคยฆ่าใคร  พวกเอลฟ์เนี่ยส่งคนมาไม่ดูเลย”

    เสียงหัวเราะแหลมสูงจนตัวง้อ ดังมาจากอีกคน อาร์เชอร์รูปร่างผอมสูงที่อยู่เยื้องไปทางขวามือของวอร์ริเออร์

    ราฟาเอลโร่ย่อตัวลงวางวิหคเพลิงที่บาดเจ็บไว้ข้างๆ เกรนเดล ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นและจ้องมองศัตรูเบื้องหน้าด้วยแรงอาฆาต  พร้อมกับจิตสังหารที่แผ่ออกมา

     “ใช่ ข้าน่าจะฆ่าพวกเจ้าไปซะ”

    “ 555555”

    ทั้งคู่หัวเราะประสานเสียงกันอย่างเย้ยหยั่น ก่อนที่เสียงหัวเราะนั้นจะหยุดกลางอากาศ  เมื่อราฟาเอลโร่หายไปจากจุดที่เขายืนอยู่

        “เฮ้อ อาร์เชอร์ หาไอ้เด็กเปรตนั้นสิ  ว่ามันหายไปไหน”

    แต่เมื่อหันไปมองเพื่อน วอร์ริเออร์ตัวโต ก็ต้องถึงกับอึ้ง  เมื่อพบมีดพกที่ปักคอหอยของอาร์เชอร์  วอร์ริเออร์ที่ยืนมองเพื่อนร่วมทีมกระอักเลือด  เพราะพยายามจะหายใจ  และล้มลง 

    ก่อนที่ตัวเขาเองจะสัมผัสได้ถึงเลือดอุ่นๆ  ที่กำลังไหลลงมาตามลำคอ  เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าโดนคมดาบเข้าตั้งแต่เมื่อไหร่ มือทั้งสองข้างกุมไปที่บาดแผลหมายจะห้ามเลือดที่ไหลออกมา 

    แต่สายไปแล้วบาดแผลนั้นถูกเฉือนจนลึกเกินไป ภาพตรงหน้าที่หมุนคว้าง  เพราะการขาดอากาศหายใจ  ไม่ช้าชายร่างใหญ่ที่สูงเกือบสองเมตรห้าสิบก็ล้มลง  เด็กชายซึ่งถือดาบเปื้อนเลือดเดินผ่านหน้าเขาไป  คือภาพสุดท้ายที่เขาได้เห็นก่อนสิ้นใจ

    ราฟาเอลโร่ปล่อนดาบเปื้อนเลือด ในมือลงสู่พื้น ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งคุกเข่าข้างกายที่หายใจด้วยความเจ็บปวดของเกรนเดล

     “ต้องรีบรักษา”

    ราฟาเอลโร่บ่นพึมพำกับตัวเอง  อวัยวะทั้ง 32 สั่นสะทานอย่างบ้างคลั่ง  น้ำตาที่ไหลออกมาเองจากดวงตาทั้งสองข้าง  ทำให้ทุกอย่างตรงหน้าดูพล่าเลือน 

    เสียงและสัมผัสของเนื้อที่แยกออกจากกันตามแนวกรีดของใบดาบยังคงติดอยู่ในหัว  กลิ่นและความอุ่นของเลือดที่สัมผัสโดนมือ  แทบทำให้อยากอาเจียนออกมา  การฆ่าคนเป็นครั้งแรกสร้างบาดแผลที่จะไม่มีวันหาย  แม้กระทั่งผู้ใหญ่ดีๆ สักคน  ยังรับมือได้ยาก  แต่ราฟาเอลโร่เป็นเพียงเด็กอายุ 11 ปี

    _________________________________________________


     เมื่อรวบร่วมนักรบแนวหน้าของชนเผ่าเอลฟ์ที่มีจำนวนทั้งหมด 15 คน คอพิอุสก็ใช้ประตูเคลื่อนย้ายมายังสถานที่เกิดเหตุในทันที  เมื่อมาถึงทุกอย่างก็จบลงแล้ว  เอลฟ์ทั้งทีมเริ่มจัดการกับผู้บุกรุก  พวกที่กลายเป็นศพก็เผาทำลาย  พวกที่ยังมีลมหายใจก็คุ้มตัวไว้เพื่อเค้นความจริง  ทันทีที่คอพิอุสออกจากประตูเคลื่อนย้าย  สิ่งแรกที่เขาทำคือการมองหาราฟาเอลโร่ซึ่งก็พบได้แทบจะในทันที

    เมื่อคอพิอุสเห็นราฟาเอลโร่ที่นั่งคุกกลางสนามรบข้างกายของเกรนเดลด้วยลักษณะเช่นนั้น เขาก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น  และรีบตรงเข้าไปหา

     “ราฟาเอล ราฟาเอลโร่”

    ราฟาเอลโร่ที่ตกอยู่ในภวังค์หันมาหาคอพิอุสที่เรียกเขา พร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง เมื่อพบว่าเป็นคอพิอุสเขาก็ไม่รีรอที่จะโผลเขากอดทันที  คอพิอุสสัมผัสได้ถึงร่างกายอันสั่นเทาในอ้อมแขนเขา 

    ดาบและมือเปื้อนเลือดที่ตกอยู่ข้างๆ  ศพที่อยู่ในระยะที่ไม่ไกลมากนัก  และรอยแผลของศพที่เกิดจากคมดาบ  ทำให้คอพิอุสสามารถเดาสถานะการณ์ออกได้ไม่ยาก  เขาคุกเข่าลงให้มีระกับเดียวราฟาเอลโร่ พลางกล่าวอย่างหนักแน่นกับเขา

     “ฟังข้านะ  ราฟาเอล  เจ้าทำถูกแล้ว  ถ้าไม่ฆ่าก็ต้องถูกฆ่า  ในสถานการณ์นี้มันเลี่ยงไม่ได้”

    คอพิอุสรู้ว่าราฟาเอลโร่เป็นเด็กที่อ่อนโยน  แต่เขาเลือกที่จะบอกความจริงกับกับลูกศิษย์ตรงหน้ามากกว่าที่จะปลอบโยนลมๆ  แล้งๆ 

    คอพิอุสเองก็ทราบดีว่าการฆ่าครั้งแรก  มักจะเหมือนการเปิดประตูเพื่อเชื้อเชิญปีศาจให้เข้ามา ส่วนต่อจากนั้นก็จะอยู่ที่ตัวคนแต่ละคน  ว่าจะปล่อยให้ปีศาจนั้นกลืนกิน  หรือจะเป็นฝ่ายควบคุมมัน

    _________________________________________________


    หลังจากกลับมาถึงบ้าน  อาการน่าวิตกของราฟาเอลโร่ก็ดีขึ้นอย่างน่าตกใจ  คอพิอุสเองก็ไม่ได้อยากที่จะเอ่ยถึงเรื่องดังกล่าวให้ทุกอย่างแย่ลง 

    สัตว์เวทย์ที่ควรจะต้องนำส่งให้กับสัตวแพทย์หลวงดูอาการ  หลังจัดการเรื่องบุกรุกเสร็จตั้งแต่อยู่ในถ้ำ  ราฟาเอลโร่ก็เอาแต่กอดมันไว้แนบอก  คอพิอุสเลยไม่มีกะจิตกะใจจะแยกทั้งสองออกจากกัน 

    แต่จริงๆ แล้วเขาก็ไม่อยากให้อาการของราฟาเอลโร่ติ่งลงเหว  เพราะการมีเพื่อนเพิ่มก็น่าจะเป็นเรื่องดีสำหรับราฟาเอลโร่ในตอนนี้ 

    เกรนเดลที่ได้รับการรักษาเบื้องต้นจากทีมแพทย์  แต่เมื่อถึงบ้านเขาก็เร่งเร้าให้ฟาราเอลโร่ฝึกปรือฝีมือโดยการรักษาตัวเขาเอง  ซึ่งก็หายเป็นปลิดทิ้งในเวลาต่อมา

     “อาจารย์ครับ ถ้าผมจะรักษามันด้วยได้ไหมครับ”

    ราฟาฟเอลโร่ที่คอยจ้องมองอาการบาดเจ็บของวิหคเพลิง กล่าวด้วยความเป็นห่วง

     “อย่าเลยราฟาเอล เพราะเราไม่รู้ ว่ามันจะมีปฏิกิริยายังไงกับพลังเวทย์ของมนุษย์วิหคเพลิงตัวนี้เป็นสัตว์เวทย์ที่เก่าแก่ และโบราณมาก น่าจะเหลือแบบนับได้ไม่เกิน 1 มือ สืบเชื้อสายมาจากฟีนิกซ์หรืออาจจะเป็นฟินิกเสียเอง  สายเลือดใกล้เคียงกับเผ่ามังกรซึ่งสาบสูญไปแล้ว  และมีพลังเวทย์ที่ทรงพลานุภาพในการทำลายล้างพอๆกัน  ดังนั้นพลังเวทย์ที่วิหคเพลิงตัวนี้มีจึงบริสุทธิ์มาก  การใส่พลังเวทย์ของมนุษย์ที่เจือปน  และไม่บริสุทธิ์เท่า อาจจะทำให้อาการของมันแย่ลงหรือตายได้”

    ไม่ช้าทีมแพทย์หลวงก็ส่งคนมาดูอาการของเจ้าวิหคเพลิง ทำแผลเพิ่มให้ บอกวิธีการดูแล และวิธีสังเกตอาการต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ราฟาเอลโร่ขอเป็นคนรับผิดชอบ

    คอพิอุสที่เป็นห่วงเรื่องอาการของราฟาเอลโร่ คอยให้ทุกคนในบ้านช่วยกันสอดส่อง ทั้งยามหลับและยามตื่น แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรผิดสังเกตุ จึงทำให้คอพิอุสเบาใจขึ้นมาก

     และวัฏจักรการดำเนินชีวิตของทุกคนก็กลับมาราบเรียบอย่างที่ควรจะเป็น เกรนเดลรับผิดชอบดูแล เรื่องการอ่าเขียน  เรื่องการฝึกซ้อมต่างๆ ของราฟาเอลโร่  ร่วมทั้งการจัดการที่ทุกอย่างในบ้าน อาจจะมีคอพิอุสเข้ามาร่วมบ้าง แต่ก็ไม่ได้โหดน้อยลง 


    ในส่วนของคอพิอุสเขาจะเน้นหนักเรื่องการสอนใช้พลังเวทย์เป็นหลัก  ส่วนฝีมือของราฟาเอลโร่ก็พัฒนาเป็นอย่างมาก  แต่ก็ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ

    _________________________________________________


    สวัสดีคะผู้อ่านทุกท่านหวังว่า  จะสนุกกับไปเนื้อเรื่องนะคะ  ไรท์อยากจะมาขอโทษผู้อ่านทุกท่านล่วงหน้าคะ  เพราะไรท์ติดงานศพคุณแม่ที่เสียเมื่อวาน  แล้วก็มีไข้ตัวร้อนปวดหัวหนักมาก  เพราะต้องจัดงานศพด้วย  ไรท์จะยังไม่ได้ลงเนื้อเรื่องต่อราวๆ  นึ่งสัปดาห์นะคะ  ต้องขอโทษผู้ทุกท่านจริงๆ คะ  อย่าพึ่งหายกันไปไหนนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×