คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : องค์ที่ 3 การพบพานและ การจากลา 2
นั้นได้ถูกรวบด้วยเครื่องประดับหูของเอลฟ์ ที่รู้กันดีว่าชั่งวิจิตรบรรจง มันถูกทัดจากหูข้างหนึ่งไปยังหูอีกข้างหนึ่งจากด้านหลัง ใบหูของเขาลู่ลงเล็กน้อยมันเป็นการแสดงถึงความโศกเศร้า
ชายที่ราฟาเอลโผล่เข้ากอดนั้น กอดเขากลับอย่างอ่อนโยน ราฟาเอลโร่ผลัดออกจากอ้อมกอดนั้น ก่อนที่เขาจะร้องไห้
คอพิอุสนั่งคุกเข่าลง ให้มีระดับไม่ต่างจากราฟาเอลโร่มากนัก และใกล้จนเห็นผิวพรรณที่เนียนเรียบละเอียดของเขา แต่แสดงอารมณ์ที่ชั่งจริงจัง
“เสียใจด้วยนะ เด็กน้อย”
ราฟาเอลโร่รู้สึกว่าสายตาที่เขาจองมองอยู่ตอนนี้บอกเขานัยๅ ว่า “ไม่เป็นไรนะ ” เด็กน้อยพยักหน้ารับพร้อมกับรอยยิ้ม
“คุณอา ทราบได้อย่างไรหรือครับ”
“คลอเลียกับข้าติดต่อกันอยู่เป็นระยะ และเหมือนว่าเธอจะรู้ตัวอยู่แล้วด้วย”
แววตาของราฟาเอลโร่เศร้าขึ้นเล็กน้อย คอพิอุสยกมือลูบที่ศรีษะของเด็กชายอย่างปลอบโยน ก่อนที่จะกล่าวกับเขาว่า
“ต่อแต่นี้ไปเธอจะอยู่กับฉันนะ ราฟาเอลโร่ ไปเก็บของเถอะ เราจะได้ออกเดินทางกันเลยดีไหม และก่อนที่สตูเนื้อของข้าจะไหม้”
คอพิอุสกล่าว พร้อมกับขยิบตาข้างนึ่งให้ราฟาเอลโร่ รอยยิ้นเผยขึ้นมาบนใบหน้าของเด็กชาย ราฟาเอลโร่ ยังไม่ได้กลืนอะไรลงท้องเลย ตั้งแต่ปีนขึ้นไปบนยอดเขาวิญญาณ เมื่อได้ยินเช่นนั้น ก็อดหิวไม่ได้
“สตูเนื้อหรอครับ”
"ใช่ หิวแล้วละสิ"
คอพิอุสกล่าวอย่างยิ้มแย้ม เพราะรู้ว่านั้นเป็นของที่เด็กชายโปรดปราน
คลอเลีย ไบร์ แม่ของราฟาเอลโร่ อยู่อาศัยด้วยกันกับราฟาเอลโร่ในบ้านหลังเล็ก ที่แม้จะเก่าทรุดโทรม แต่ก็ยังแลดูแข็งแรง ถึงคลอเลียจะสามารถหาเงินได้เป็นจำนวนมาก
จากการเก็บสมุนไพรหายาก ที่น้อยคนนักจะสามารถเก็บมาได้ ให้กับผู้ว่าจ้าง แต่เธอก็ไม่เคยเลย ที่จะใช้เงินจำนวนเหล่านั้น ไปกับเรื่องส่วนตัว หรือของที่ฟุ่มเฟือย
หลังจากแบ่งเงินส่วนหนึ่ง เพื่อไว้ใช้ซื้อวัตถุดิบในการประกอบอาหารประจำวัน เธอก็เลือกที่จะเปลี่ยนจำนวนเงินส่วนที่เหลือ เป็นเหรียญทอง และเก็บมันไว้ในกล่องไม้ที่ยกให้ราฟาเอลก่อนสิ้นใจ
คลอเลียเป็นคนที่ประหยัด อดออม ไม่เคยจำอวดเรื่องเงินที่มีอยู่ ขนาดเสื้อผ้าน้อยตัวที่มีไว้สวมใส่ ยังเลือกที่จะปะแล้วปะอีก แทนการซื้อใหม่ ดังนั้นบ้านหลังนี้ที่เขาอาศัยอยู่กับคลอเลีย
จึงเป็นเพียงกระท่อมหลังเล็ก ที่ปูพื้นด้วยหินจากภูเขาไฟยกสูงจากพื้นเพียงแค่ 5 นิ้ว เมื่อเปิดประตู แล้วมองไปซ้ายมือก็จะเจอเตียงไว้นอน ของเขาและแม่ กลางบ้านจะมีเพียงโต๊ะเล็ก (เหมือนโต๊ะญี่ปุ่น) ที่ทำจากไม้ และเบาะรองนั่งที่เต็มไปด้วยรอยปะ ไว้ทานอาหาร
ขวามือของประตูจะเป็น ประตูอีกบานที่แยกออกไปปเป็นห้องครัว การอาศัยอยู่แบบนั้น ้ จึงทำให้น้อยครั้งนักที่ราฟาเอลโร่ จะได้กินอาหารประเภทเนื้อ จึงไม่แปลกเลยที่เนื้อจะกลายเป็นของกินประเภทที่เข้าโปรดปราน
หลังจากเก็บของที่จำเป็นที่มีเพียงไม่กี่ชิ้น ซึ่งนั้นก็คือ #กล่องไม้#หนักๆ ที่แม่มอบให้กับเค้า #แหวน# ที่คลอเลียบอกให้ราฟาเอลเก็บรักษาให้ดี ซึ่งตอนนี้ ้้ก็อยู่ในกล่องไม้ เช่นเดียวกันกับ #เข็มกลัด# ที่มีรูปลักษณ์คล้ายผีเสื้อที่อะโทรนิตี้มอบให้กับเขา
#เสื้อผ้า# ที่แลดูแล้วเก่ามาก และเต็มไปด้วยรอยปะ ไม่กี่ตัวที่คอพิอุสบังคับให้ราฟาเอลโร่โยนทิ้ง ด้วยเหตุผลที่ว่า มันไม่ใช่สิ่งที่เขาควรจะใส่แล้ว
และแน่นอนสิ่งสุดท้าย ชุดที่ราฟาเอลโร่ตั้งใจที่จะมอบให้กับแม่ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นของดูต่างหน้าแสนสำคัญสำหรับราฟาเอลโร่ไปแล้ว
ราฟาเอลโร่หันกลับไปมองบ้านที่เขาเคยอาศัยอยู่กับแม่เป็นครั้งสุดท้าย ชั่งมากมายเหลือเกิน ความทรงจำอันแสนจะสำคัญ
การเดินทางของราฟาเอลโร่และคอพิอสนั้นใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำ ้้ ทั้งที่เมื่อครั้งก่อนที่ราฟาเอลโร่ได้เดินทางมากับคลอเลียนั้นต้องใช้เวลาในการเดินทางถึงสามสัปดาห์เลยทีเดียว
การเดินทางที่ทั้งสั้น ทั้งรวดเร็วของคอพิอุส และราฟาเอลโร่ นั้นคือการเดินทางผ่านประตูเคลื่อนย้ายของชนเผ่าเอลฟ์ ที่เชื่อมต่อชั่วคราวไปยังพื้นที่เป้าหมายที่ต้องการ โดยใช้พลังผ่าน
แกนอัญมณีโบราณที่มีชื่อเรียกว่า #ซิวเวอร์ซัน# อัญมณีที่กำเนิดจากโลก ถูกโอบรัดด้วยรากของต้นไม้ต้นใหญ่ใบสีทองปนเงิน ต้นไม้แหล่งชีวิตที่ลอยตระง่านอยู่กลางอากาศ เหนือปราสาทแอสโทรเฟีย ที่เหล่าราชวงศ์ของเอลฟ์อาศัยอยู่
ซิวเวอร์ชั่นเป็นแหล่งพลังงานบริสุทธิ์ที่กระแสพลังงานธรรมชาติมาร่วมตัวกัน และมันก็ค่อยหล่อเลี้ยงทุกสรรพชีวิตใน #แอสโทรเฟีย# นครหลวงอันยิ่งใหญ่ของชนเผ่าเอลฟ์ ที่เหลือไม่กี่แหล่ง ใน #ยูนิเวิลด์#
เกาะอำพรางขนาดใหญ่ที่ครอบทับนครหลวงแอสโทรเฟีย ที่ทำให้เมืองขนาดใหญ่อย่างแอสโทรเฟียสามารถซ้อนเร้นตัวเองจากสายตาของผู้คน และศัตรูมาหลายชั่วอายุ ก็ได้แหล่งพลังงานมาจากซิวเวอร์ซัน
การจะเข้าไปในพื้นที่ของแอสโทรเฟียนั้น มีเพียงไม่กี่วิธี แม้กระทั้งสัตว์ที่มาส่งสาร ยังต้องมีตราประทับเวทของแอสโทรเฟียเท่านั้น จึงจะสามารถผ่าเกาะอำพรางเข้าไปได้
ดังนั้นประตูเคลื่อนย้ายที่ได้ส่งฟาราเอล และคอพิอุส ที่หน้าประตูรั่วบ้านของคอพิอุส จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะผ่านเกาะอำพรางเข้ามาได้
น้ำตกสูงที่อยู่ห่างจากหลังบ้านของเอลฟ์ชราไม่ไกลนัก สามารถมองเห็นได้จากจุดที่ราฟาเอลฟ์ยืนอยู่นั้น เมื่อน้ำกระทบกัน รวมถึงตกจากที่สูง ก็จะทำให้เกิดละอองน้ำฟุ้งไปทั่วราวกับอยู่ในความฝัน จริงๆ เเล้วบ้านของคอพิอุส เมื่อดูเพินๆ แทบจะดูกลืนไปกับแมกไม้รอบตัวบ้านด้วยซ้ำ ระบบนิเวศแถวชานเมืองรอบนอกเมืองแอสโทรเฟีย เต็มไปด้วยป่าไม้ ขุนเขา ช่างดูร่มรื่นดีจริง
ภายนอกบ้านของคอพิอุสนั้นเป็นเพียงบ้านหลังเล็กๆ ที่หลังคาบ้านนั้นปกคลุมไปด้วยเถาวัลย์ไม้นานาชนิด ซึ่งออกผลและดอก ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่ว พร้อมด้วยต้นแอปเปิ้ลขนาดใหญ่ ที่น่าาจะมีอายุหลายร้อยปี แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงา เหนือโต๊ะเถาวัลย์ไม้ตัวใหญ่ที่มีลวดลายสวยงาม รายล้อมตัวเก้าอีห้าถึงหกตัว
ที่ตังเยื้องไปทางขวาของตัวบ้าน จากตรงที่ราฟาเอลโร่ยืน จะสามารถได้ยินเสียงของนก และสัตว์ตัวเล็กๆ ในระบบนิเวศที่แวดล้อมตัวบ้านชั่งขัดเกลาจิตวิญญาณ ให้รู้สึกเงียบสงบเสียจริง
“เร็วเข้าราฟาเอล ข้ารู้ว่าเจ้าหิวแล้ว”
คอพิอุสที่เดินนำไปเปิดประตูบ้าน กวักมือเรียกเขาให้เข้าไปภายในบ้าน แม้มองจากด้านนอก บ้านจะเล็กเกินความเป็นจริงหากเปรียบเทียบกันกับในตัวบ้าน แต่เมื่อก้าวพ้นประตูธรณีเข้าไปด้านในจริงๆ ก็ชวนให้ราฟาเอลโร่ตลึงทุกครั้งไปที่มาเยือน
ทางเดินที่นำไปสู่ห้องโถงที่โอ่อ่าโคมไฟระย้าตัวใหญ่ที่สามารถลอยได้เองห้อยลงมาจากเพดานห้องโถง บันไดสองฝั่งที่มีทั้งซ้ายและขวาของห้องโถง บันไดที่ขึ้นไปสู่ห้องนอนที่อยู่ชั้นบน
“ยินดีต้อนรับกลับขอรับ”
โนมที่ขนาดตัวเท่ากับเด็กอายุสิบสามถึงสิบสี่ปี กล่าวพร้อมกับยืนผ้าเปือกให้ทั้งสองคนเช็ดหน้า ก่อนที่อีกคนจะตามเก็บรองเท้าของพวกเขาทั้งคู่ และถอดเสื้อนอกของคอพิอุสไปเก็บเข้าที่
จริงๆ แล้วโนมเมื่อดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้วนั้นไม่ได้มีอะไรที่ต่างจากมนุษย์เลย นอกจากหูแหลมๆที่ใหญ่กว่าเอลฟ์เล็กน้อย อย่างอื่นก็แทบจะไม่ได้ต่างเลย ออกจะดูน่ารักเสียด้วยซ๊ำ
ราฟาเอลโร่เดินตามคอพิอุสไปยังโต๊ะรับประทานอาหารที่ทำจากไม้โอ๊คตัวยาว และก็ได้พบกับ #เกรนเดล# พ่อบ้านเอลฟ์ ที่หน้าตาสุดแสนจะน่ารัก (ห้ามถามอายุ) ได้ยืนอยู่ก่อนแล้ว เกรนเดล แต่งกายสบายๆ ดูแล้วไม่ได้ต่างจาก คอพิอุสเท่าไรนัก หากแต่ไร้ซึ่งเครื่องประดับผมใดๆ
ความคิดเห็น