คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : องค์ที่ 2 การลาจาก และการพบพาน
ที่นี่คือสถานที่ ที่วิญญาณที่หมดห่วงแล้วจะเดินทางไปสู่โลกหน้า เด็กน้อยมองประตูสีขาวเรืองๆ บานใหญ่ที่ลอยขว้างอยู่กลางอากาศ พร้อมกับเหล่าดวงวิญญานที่ผ่านบานประตูนั้น และหายไปในทันที
(เมื่อวิญญาณเข้าใกล้ประตูมากเท่าไหร่ ร่างกายก็จะยิ่งโปร่งใสขึ้นเรื่อยๆ) เขาวิ่งจนสุดกำลังจนในที่สุดก็เห็นแผ่นหลังของแม่
แม้จะเป็นร่างกายที่โปร่งแสง แต่เขาก็ยังคงจำได้ดี แผ่นหลังที่เขาเคยวิ่งไปกอด ทุกความอบอุ่นที่แค่มองเห็นก็สัมผัสได้ เด็กน้อยที่มีแค่แม่คอยบอกเล่าทุกประสบการณ์มาจนถึงตอนนี้ และนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้เห็น
“ท่านแม่ครับ ท่านแม่”
เขาร้องเรียก ในขณะที่เห็นร่างโปร่งแสงของแม่ ลอยขึ้นจากพื้น แม่ของเด็กชายหันตามเสียงของเขาด้วยสีหน้าแปลกใจ ปนดีใจ
เด็กน้อยที่วิ่งสุดฝีเท้า แต่กลับสะดุดก้อนหินล้มเขาเงยหน้าขึ้นพร้อมน้ำตา ใช่เพราะความเจ็บกาย แต่มันเป็นเพราะความเจ็บใจ
ที่มาถึงขนาดนี้กลับเข้าไปกอดแม่ไม่ได้ ชั่วอึดใจนั้นสิ่งที่เค้าเห็นตรงหน้าคือผีเสื้อที่มีปีกสีดำเหลือบแดง ที่สามารถปล่อยละอองสีแดง
บินผ่านหน้าเขาไป เขามองตามผีเสื้อนั้นไป และเห็นหญิงสาวที่เขาได้ทำพันธะสัญญาด้วย ในมือคือโคมไฟรูปทรงคล้ายดอกไม้วิญญาณดอกใหญ่
ที่ปล่อยละอองเกสรสีทองออกมา เธอกวาดละอองทั้งหมดเข้ามาไว้ในมือ และปล่อยละอองเกสรพวกนั้น มาทางเด็กชาย
ในขณะที่มันพุ่งมาทางเด็กชาย ละอองสีทองเหล่านั้นก็กลายเป็นผีเสื้อจำนวนหนึ่ง ที่บินตรงเข้าโอบล้อมรอบตัวเด็กชาย
และพาร่างของเด็กชายลอยพุ่งขึ้นไป หาดวงวิญญาณของผู้เป็นมารดา เด็กชายอ้าแขนออก รัดรอบร่างกายโปร่งแสงของแม่ทันทีที่ถึงตัวเธอ
“ท่านแม่ ครับผมทางานเก็บเงินซื้อมาให้”
เด็กชายเอ่ย พรางหยิบชุดที่ตั้งใจจะมอบให้เธอออกจากกระเป๋า ดวงตาที่มองไปที่แม่เริ่มมีน้ำตาคลออีกครั้ง
“แม่ครับ ผมขอโทษ ผมน่าจะอยู่ด้วยผม……”
คำพูดในหัวตอนนี้ตีกันไปหมด มันทำให้เขาแทบจะพูดไม่รู้เรื่อง
“ราฟาเอลโล แม่รู้ลูกเป็นเด็กดีฉลาด และจิตใจดี จะมีเรื่องราวอีกมากมายในอนาคต จงมีเหตุผล มีความคิดที่ยืดหยุ่น อย่ายึดติดให้มากเกินไป และจงยอมรับความจริงในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จงรักษาตัวตนของตัวเองนะลูก ราฟาเอลโร่ แม่รักลูกมากนะ"
แม่ของเด็กชายกล่าวด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้า
"แม่ต้องไปแล้ว แม่เชื่อว่าลูกดูแลตัวเองได้”
แม่ของเด็กชายใช้มือที่กำลังจะเลือนหายลูบหน้าของเขา เด็กน้อยมองดูดวงวิญญาณของแม่ ที่กลายเป็นละอองล่องลอยเข้าไปในประตูวิญญาณ พร้อมกับรอยยิ้มสุดท้ายบนใบหน้า
เด็กชายปาดน้ำตาที่อาบแก้ม ออกจากใบหน้าพร้อมกับรอยยิ้มส่งกลับให้แม่
_________________________________________________
พระอาทิตย์ที่โผล่พ้นขอบฟ้า เป็นแสงแรกในยามเช้าที่ช่างอบอุ่นเหลือเกิน เด็กชายยังคงจำภาพที่เขากับแม่เคยนั่งมองแสงอาทิตย์ด้วยกัน
ภาพเรื่องราวมากมาย ของเขากับแม่ผุดขึ้นมาในหัวมันช่างเป็นความทรงจำที่งดงาม เช่นเดียวกับรอยยิ้มที่อยู่บนหน้าของเขาตอนนี้ ้้้้
ก่อนที่เขาจะเห็นผีเสื้อที่คุ้นเคยบินผ่านหน้าไป และนั้นทำให้เขารู้ในทันทีว่าใครกำลังนั่งลงข้างๆ
“ขอบคุณมากนะครับ ถ้าไม่ได้คุณช่วยผมคงไม่มีโอกาสได้กอดแม่อีกครั้ง"
“ข้านึกว่าเจ้าจะเศร้ามากกว่านี้ซะอีก แต่เจ้ากลับนิ่งเฉย มากกว่าที่คาดคิด”
นั่นเป็นความประหลาดใจ ที่เธอมีให้แก่เด็กชายซึ่งอายุเพียง 8 ขวบ
“จงมีเหตุผล มีความคิดที่ยืดหยุ่น อย่ายึดติดให้มากเกินไป ฉันพร้อมรับความจริง นั่นเป็นสิ่งที่ท่านแม่พูดกับผมเสมอครับ และอีกข้อที่ผมคิดได้เองผมจะไม่โกหกอีกแล้วด้วย”
"เจ้าไม่ได้เหมือนเด็กเลยนะ ข้าหมายถึงรูปร่างนะใช่ แต่อย่างอื่นนะไม่”
ประโยคนั้นทำให้เด็กชายหัวเราะร่า
“ผมชื่อราฟาเอลโร่ครับ จะรังเกลียดไหมครับ ถ้าผมจะขอถามชื่อ”
เธอมองเด็กชายที่แต่งตัวมอซออย่างฉงน บาดแผลที่ได้จากตอนปีนหน้าผา หายไปแล้วช่างน่าแปลก เด็กนี่สามารถดึงผู้คนเข้าหา ได้อย่างน่าประหลาด เขามีอะไรที่แตกต่างอย่างที่เธออธิบายไม่ได้
“งั้นหรอครับ ดอกไม้วิญญาณนี่ ผมคงไม่ได้ใช้มันแล้วผมขอคืนให้นะครับ”
เด็กชายยื่นดอกไม้สีทองเรืองแสง แม้จะอยู่ท่ามกลางแสงแดดให้เธอ มันแตกต่างจากดอกไม้วิญญาณดอกอื่นที่เด็กชายไม่ได้เด็ดเธอรู้เรื่องนั้นดีว่าเพราะอะไร
และนั่นยิ่งเป็นสาเหตุให้เธออยากรู้จักเด็กคนนี้ เธอยื่นมือไปรับดอกไม้วิญญาณจากเด็กน้อยพร้อมกับเศษเสี้ยวพลังวิญญาณที่ออกจากร่าง #เต็มใจงั้นรึ# หญิงสาวคิด
เศษเสี้ยวพลังวิญญาณของเด็กชายแล้วพุ่งเข้ามาในโคมไฟ ที่มีรูปทรงคล้ายกับดอกไม้วิญญาณดอกใหญ่ กลีบของมันบานออก เพื่อรับพลังวิญญาณของเด็กน้อยตรงหน้า และหดเล็กกลับไปอยู่ในมือของหญิงสาว
“อ้าวมันหายไปแล้ว สัญลักษณ์พันธสัญญานะครับ”
เด็กชายกล่าวเมื่อสังเกตุเห็นว่าปานสีแดงบนข้อแรกของนิ้วชี้นั้นหายไป
“ไม่เป็นไร ถ้าได้รับมันแล้ว”
หญิงสาวลุกขึ้นยืนพร้อมกับกล่าวว่า
“อะโทรนิตี้"
“อะไรนะครับ”
เด็กชายพูดเมื่อไม่แน่ใจว่าตัวเองได้ยินอะไร
“ชื่อของข้าน่ะ อะโทรนิตี้ และนี่ กล่าวชื่อข้ากับมัน แล้วข้าจะไปพบ”
เธอยื่นเข็มกลัดรูปผีเสื้อให้เด็กชาย เข็มกลัดที่วัสดุที่ใช้คล้ายลวดสีเงิน แต่มันช่างแข็งแรง และไม่มีที่ท่าว่าจะบิดง้อ พร้อมกับมีลวดลายที่อ่อนช้อย อัญมณีสีแดงกับดำประดับอยู่นั้นก็ช่างเปล่งประกาย
“ขอบคุณครับ ผมจะรักษาไว้อย่างดีเลยครับ”
เด็กชายกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
“ดี งั้นไปข้าจะไปส่งเจ้าที่บ้าน หลับตาลงซะ”
เด็กชายทำตามอย่างว่าง่ายในทันที เค้าหลับตาลงพร้อมกับสติที่เริ่มหลุดลอย
_________________________________________________
ราฟาเอลโร่ลืมตาขึ้น และพบว่าตัวเขาเองตื่นขึ้นบนเตียงในบ้านของเขา เด็กชายมองไปรอบๆ หวังว่าทุกอย่างจะเป็นเพียงความฝัน
“แม่ครับ”
ราฟาเอลโร่เรียกหาแม่ ด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือพร้อมความหวังว่าจะมีเสียงขานรับ
แต่ทุกอย่างกลับเงียบงั้น เขาดึงชุดสีฟ้าที่ตั้งใจจะมอบให้กับแม่ ออกมาจากกระเป๋า และดึงมันขึ้นมากอดอย่างคิดถึง
ขณะเดียวกันนั้นทุกอย่างรอบตัวเด็กชาย ก็เกิดการสั่นไหวขึ้นอย่างเฉียบพลัน จนเขาต้องมองไปรอบๆด้วยความตกใจ แสงสว่างปนเขียวเล็ดลอดผ่านช่องประตูเข้ามาในบ้าน
เด็กชายมองตามแสงที่ผ่านเข้ามา พร้อมกับเห็นเถาวัลย์ที่มีมอสปกคลุมเลื้อยผ่านช่องว่างทั้ง 4 ด้านของประตูเข้ามา ก่อนการสั่นไหวจะหยุดลง พร้อมกับแสงที่รอดผ่านช่องประตูเข้ามานั้นค่อยๆ จางหายไป
แต่ก็ตามด้วยเสียงเคาะประตู 3 ครั้ง ราฟาเอลโร่ก้าวลงจากเตียง และก้าวไปยังประตูอย่างช้าๆ ด้วยความไม่แน่ใจว่าจะเปิดประตูตรงหน้าดีไหม จนเสียงเคาะดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับเสียงของชายคนหนึ่งที่น่าจะมีอายุสัก 40 หรือ 50 ปี
“มีคนอยู่หรือเปล่าเอ่ย”
มันช่างฟังดูนุ่มนวล และเป็นกันเอง
“มีครับ”
เด็กชายกล่าวก่อนที่จะตัดสินใจเปิดประตู
“สวัสดีเด็กน้อย”
ชายตรงหน้ากล่าว ด้วยสายตาที่มองเขาอย่างอ่อนโยน ราฟาเอลโร่มองชายที่อยู่ตรงหน้า ด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่จะโผล่เข้ากอดเขา เขาเกือบลืมน้ำเสียงนี้ไปแล้ว
#คอพิอุส ดิ กลาเดียร์# เป็นเพื่อนกับแม่ของราฟาเอลโร่ แม่ของเขามักจะรับงานหาสมุนไพรที่หายากอยู่เรื่อยๆ และหลายครั้ง ที่จะต้องเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากคอพิอุส
ทำให้ราฟาเอลได้มีโอกาศ และคุ้นเคยกับเอลฟ์ชราผู้นี้ คลอพิอุส ดิ กลาเดีย เป็นเอลฟ์ชราที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปีแต่รูปร่างหน้าตาของเขา กลับดูเหมือนเป็นเพียงชายอายุ 30 หรือ 40 ต้นๆ เท่านั้นเอง
เขาสวมเสื้อคลุมเอลฟ์ ที่มีเนื้อผ้าชั้นดีมีแขนยาวหลวมๆ ปกปิดตั้งแต่คอ คลุมลงมาจนถึงข้อเท้า พร้อมด้วยเสื้อคลุมอำพรางของเอลฟ์เป็นตัวนอก เรือนผมสีเงินปนเขียว ที่เป็นประกาย
ความคิดเห็น