ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : องค์ที่ 15 พายุที่กำลังก่อตัว
คอพิอุสที่นอนอยู่บนเตียง มือก่ายหน้าผาก ดวงตาเบิกโพลงเหม่อลอยจับจ้องไปยังความมืดมิดเบื้องหน้าราวกันมันสามารถสบตากลับมาที่เขาได้ ปล่อยให้หลายสิ่งหลายอย่างผ่านเข้ามาในห้วงความคำนึ่ง จนกระทั่งเสียงเคาะประตูดังขึ้น ดึงให้สติของเขากลับมาจากห้วงห้วงภวังค์
“เกรนเดลรึ เข้ามาชิ”
คอพิอุสกล่าวพร้อมกลับลุกขึ้นนั่งที่ขอบเตียง เกรนเดลก้าวเท้าเข้ามา พร้อมกับปิดประตูตามหลัง
“นายท่านข้ามีเหตุจำเป็นที่ต้องปลุก ท่านจากการหลับใหล"
“ข้ามิได้หลับ แต่เรื่องสำคัญซินะ มิเช่นนั้นเจ้าคงรอรุ่งอรุณ มิเข้ามายามวิกาลเช่นนี้"
เกรนเดลดีดนิ้ว พร้อมกับประกายไฟได้ก่อกำเนิดเปลวเพลิงที่แยกตัวออกจากกัน แล้วลอยอยู่กลางอากาศราวกับหิ่งห้อยที่ส่อสว่างในความมืด
“ขอรับ ข้ามีสิ่งที่จำต้องให้ท่านได้นิจ นี้คือชุดไพรเวทที่ถูกชโลมไปด้วยโลหิตของปีศาจ หกปักษ์ที่ผ่านมามันเริ่มมิอาจชำระล้างได้ขอรับ"
เกรนเดลกล่าวพร้อมกับยื่นชุดนั้นในมือให้กับคอพิอุส
“ข้าเกรงว่า เราจะมิทันได้สังเหตุถึงพายุที่กำลังก่อต่อขึ้นขอรับ หากการคาดการณ์ของข้ามิผิดพลาด โลหิตนี้ถูกร่ายเวทย์กำกับเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง แต่ละจุดที่โลหิตนี้ต้องพื้น ก็หมายจะสร้างวงแหวนเวทย์ เพื่อโจมตีแอสโทรเฟีย"
ดวงตาที่เบิกกว้างของคอพิอุสบ่งบอกได้ถึงความตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นภายใน
“เจ้าได้ตรวจทุกอย่างแล้วใช่หรือไม่”
“ขอรับ พื้นที่แต่ละจุดที่มีการปรากฏของศัตรู หากพินิจอย่างถี่ถ้วน และโยงเข้าหากัน ก็จะปรากฏอักขระ ที่สามารถร่ายอาคมได้ขอรับ"
“แต่งตัวให้ข้าที่ ถ้าเป็นจริงดังที่เจ้าว่า มิว่าเราจะต้องการมันหรือไม่ หายนะครั้งใหญ่ก็กำลังมาเยือน"
เสียงเจื้อยแจ้วของปักษาเวทย์ที่ขับขานพ้องกันดุจเสียงดนตรี ที่กำลังบรรเลงตอนรับวันใหม่
หลังจากเติมเชื้อเพลิงในท้องจนอิ่มแล้ว ราฟาเอลโร่ก็ออกจากบ้าน ไปยังจุดหมายเพื้อร่วมตัวกับสมาชิกคนอื่นในกลุ่ม เพื่อทำภารกิจ เมื่อพร้อมหน้าสมาชิกทุกคนในกลุ่มก็ทักทายกันอย่างสนิทสนม แม้ทุกคนจะมีการเวียนกลุ่มแต่ก็วนหลับมาเจอกัน และการเสี่ยงภัยร่วมกันหลายต่อหลายครั้ง ก็ก่อให้เกิดสายใยแห่งมิตรภาพ
“สายัณห์สวัสดิ์เอลฟี่พ่อหนุ่มน้อย เจ้านี้ นับวันก็ยิ่งน่ารักนะ น่าเอ็นดู"
โดโลวีนเป็นเอลฟ์สาวใบหน้างดงาม รูปร่างกะทัดรัด เรือนผมสีบลอนด์ทองยาวประบ่า และมีนินัยที่ชอบหยอกเย้าราฟาเอลโร่อยู่เสมอๆ
“อรุณสวสดิ์ขอรับ ท่านโดโลวีน ท่านเองก็งดงามอยู่เสมอเลยนะขอรับ"
โดโลวีนจ้องมองราฟาเอลโร่พร้อมกับรอยยิ้มปลื้มปิติ แต่ก่อนที่เธอจะได้กล่าวอะไรต่อ
“เจ้ามองดีแล้วหรือราฟาเอล ดวงตาเจ้าคงมิได้ฝ้าฟางใช่หรือไม่"
"โอโดลาส เจ้านี้ช่างไร้ซึ่งมารยาท"
โอโดลาสที่เดินเข้ามาร่วมสนทนากล่าวขึ้น อย่างอย่างไม่สนสายตาค้อนเคืองของโดโลวีน ก่อนที่เสียงเรียกร่วมตัวจะดังขึ้น
“ทุกคนหากพร้อมแล้ว ก็ร่วมกลุ่มกันเบื้องหน้าข้าด้วย"
น้ำเสียงที่ดังขึ้นนั้นเป็นของเอลฟ์รูปงามนามว่า ธีโอลัส เขาเป็นเอลฟ์ที่มี รูปร่างสูงใหญ่ที่กำยำงดงาม และผมสั้นสีน้ำตาลอ่อน
“อรุณสวัสดิ์ ออดูลัส โอโดลาส โดโลวีน ราฟาเอลโร่ และโมดูลาส ทุกคนคงรู้จักข้าแล้ว ข้าธีโอลัส เป็นผู้นำกลุ่มของพวกเจ้า ภูมิศาสตร์ในการต่อสู้เพลานี้ คือถ้ำนอกเขตบาเรียของแอสโทรเฟียที่ทอดยาวเข้าไปในหุบเขา ศัตรูของเราคือปีศาจที่มาเยื้อนผ่านประตูมิติ ซึ่งก็คงจะปิดตัวลงแล้วอย่างที่เคย เราจะตั้งวงแหวนเวทย์ เพื่อผลนึกปากทางเข้า จากนั้นก็จะเข้าโจมตี โดยให้โดโลวีนที่เป็นอาร์เชอร์โจมตีเป็นบริเวณกว้าง ทำให้แนวหน้าของศัตรูตื่นตระหนก และอ่อนแอลง จากนั้นข้าและโอโดลาสวอริเออร์ของกลุ่ม จะเป็นแนวหน้าบุกโจมตีเปิดทางให้ ในขณะที่ศัตรูยังมิทันได้ตั้งรับ ให้ ออดูลัส และโมดูลาสที่เป็น……”
ธีโอลัสชะงักทันทีเมื่อกระดาษใบหนึ่งที่มีตราประทับราชวงศ์พุ่งแวกอากาศ และหยุดลงอยู่เบื้องหน้าเขา ธีโอลาสคว้ามันมาเปิดออกอ่านสารนั้นในทันที เมื่อเงยหน้าขึ้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
“เราจะเปลี่ยนการวางกลยุทธ วีธีที่ใช้ต้องเป็นวิธีที่ไร้ซึ่งการหลั่งเลือด"
สมาชิกในกลุ่มเลือบมองกันและกันด้วนความสงสัย
“ด้วยเหตุอันใดเราซึ่งต้องใช้วิธีที่ซับซ๊อนเช่นนั้นด้วยขอรับ"
โอโอลาสกล่าวขึ้นไขข้อข้องใจของทุกคน
“เพราะศัตรูได้วางอุบายไว้ ทุกจุดที่โลหิตทมิฬของพวกมันหลั่งลงบนผืนดิน ก็สร้างอักขระเวทย์ที่โยงเข้าด้วยกัน กำเนิดเป็นวงแหวนเวทย์ มีคาดการจากเบื้องบนที่คำนวนจากจุดการออกล่าไม่กี่จุด วงแหวนคงใกล้สมบูรณ์แล้ว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเลี่ยงการหลั่งเลือด มีผู้ใด ณ ที่นี้แนะวิธีได้บ้างหรือไม่”
หลังจากจบการกล่าว ธีโอลัสก็กวาดสายตามองสมาชิกในกลุ่มของเขา ก่อนที่โดโลวีนจะยกมือขึ้นเพื่อเป็นการขออนุญาต ซึ่งธีโอลัสก็พยักหน้าให้เธอ
“หากใช้พิษที่ทำให้หลับ และหยุดการทำงานของอวัยวะภายใน"
“การตายก็จะเป็นเหมือนกับหลับไปเฉยๆ เป็นความคิดที่ดี"
“ แต่ภูมิศาตสร์เป็นถ้ำที่ทอดยาวเข้าในหุบเขา การใช้พิษให้ผลสำริดที่ดีเยี่ยม จำต้องจำกัดบริเวณนะขอรับ"
เสียงแย้งของออดูลัสแสดงให้เห็นจุดอ่อนในแผนการ
“ดังนั้นหากมีคนต้อนศัตรูอีกด้าน ให้มาร่วมตัวกันที่ปากถ้ำที่เราผนึกไว้ พื้นก็จะถูกจำกัดให้แคบลงปัญหาเรื่องพื้นที่ก็จะสิ้นไปขอรับ”
โอโดลาสเสนอการแก้ไขปัญหา ที่ดูเหมือนจะเป็นหนทางเดียวแต่ก็เสี่ยง
“เป็นความคิดที่ใช้การได้ แต่ผู้ใดจะเสี่ยงเข้าไปในนั้นเพื่อต้อนศัตรู”
เกิดความนิ่งเงียบขึ้นครู่ ก่อนที่ราฟาเอลโร่จะยกมือขึ้น
“ข้าเองขอรับ"
“เจ้าคิดว่าจะต้อนศัตรู ไปพร้อมกับบาเรียป้องกันไม่ให้ตัวเจ้าเองโดนพิษได้หรือ"
ธีโอลัสหันมาตั้งคำถามกับราฟาเอลโร่ที่เสนอตัว โดโลวีนมีทีท่าที่จะแย้ง แต่โอโดลาสคว้าแขนของเธอก่อนที่โดโลวีนจะทันได้ทำเช่นนั้น
“เรื่องนั้นจะมิใช่ปัญหาเลยขอรับท่านธีโอลัส หากมีข้าเข้าไปพร้อมกับราฟาเอล"
ธีโอลัสหรี่ตาจ้องมองพวกเขาทั้งคู่ชั่วขณะ ในหัวกำลังช่างใจกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ก่อนที่จะให้คำตอบ
“ได้งั้นตกลงตามนั้น"
ณ ปราสาทหลวงแอสโทรเฟีย เมื่อข่าวร้ายมาเยือนในยามวิกาล ความวุ่นวายของข้าราชบริพารและเหล่าขุนนางก็บังเกิดขึ้น การประชุมโต๊ะกลางยังเกิดขึ้นในทันทีที่ข่าวร้ายมาเยือน เหล่าขุนนางต่างอกสั่งขวัญแขวนกระนั่นก็เลี่ยงไม่ได้ ทุกอย่างต่างพุดขึ้นอย่างรวดเร็ว สารการเปลี่ยกบยุทธของกลุ่มผู้ใช้เวทย์ที่ออกทำภารกิจเพียงไม่กี่กลุ่มของวันนี้ ได้ทำการส่งออกอย่างรวดเร็วเมื่อมีการลงมติเป็นเอกฉันท์ ตามด้วยนักรบและนักเวทย์กว่า 700 ชีวิตที่ถูกเรียกให้ร่วมพลอย่างรีบเร่ง และถูกกระจายออกไปตามพื้นที่ต่างๆ เป็นกลุ่ม เป้าหมายคือการทำลายวงแหวนเวทย์ที่ถูกสร้างขึ้นจากศัตรู สายตาของคอโดลาสนั้นจับจ้องไปยังเหล่านักรบ 700 คนที่กระจ่ายตัวกันออกไป ณ ระเบียงกว้างของหอคอยหินอ่อน พร้อมกับบุตรโอรสที่ยืนอยู่เคียงข้าง
“ทุกอย่างเป็นไปตามกลยุทธที่ได้วางเอาไว้ฝ่าบาท"
คอพิอุสที่เป็นดังหางเสื้อในครั้งนี้กล่าวรายงาน
“ดี ขอให้ดวงวิญญาณของเหล่าบรรพบุรุษอวยชัย"
คอโดลาสกล่าวก่อนที่จะหันกลับมา แต่ก่อนที่พระองค์จะได้ดำเนินเข้าด้านในตัวปราสาทก็เกิดการสั่นไหวขึ้น ท่ามกลางดวงสุริยะที่ทอแสงในยามเช้า บัดนี้กลับมีลำแสงดำทมิฬพุ่งฝ่าอากาศขึ้นไปบนฟากฟ้า ก่อให้เกิดเมฆาสีเทาดำบดบังแสงของรุ่งอรุณเหนือแอสโทรเฟีย ทั่วเมืองหลวงมืดมิดลงไร้และซึ่งแสงสว่าง นอกจากแสงของของซิวเวอร์และต้นไม้แห่งชีวิต คอโดลาสหันกลับมามองสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอย่างวิตก
“พวกเราช้าไปซินะ พายุได้เริ่มก่อตัวก่อนที่จะโหมกระหน่ำแล้ว"
“เกรนเดลรึ เข้ามาชิ”
คอพิอุสกล่าวพร้อมกลับลุกขึ้นนั่งที่ขอบเตียง เกรนเดลก้าวเท้าเข้ามา พร้อมกับปิดประตูตามหลัง
“นายท่านข้ามีเหตุจำเป็นที่ต้องปลุก ท่านจากการหลับใหล"
“ข้ามิได้หลับ แต่เรื่องสำคัญซินะ มิเช่นนั้นเจ้าคงรอรุ่งอรุณ มิเข้ามายามวิกาลเช่นนี้"
เกรนเดลดีดนิ้ว พร้อมกับประกายไฟได้ก่อกำเนิดเปลวเพลิงที่แยกตัวออกจากกัน แล้วลอยอยู่กลางอากาศราวกับหิ่งห้อยที่ส่อสว่างในความมืด
“ขอรับ ข้ามีสิ่งที่จำต้องให้ท่านได้นิจ นี้คือชุดไพรเวทที่ถูกชโลมไปด้วยโลหิตของปีศาจ หกปักษ์ที่ผ่านมามันเริ่มมิอาจชำระล้างได้ขอรับ"
เกรนเดลกล่าวพร้อมกับยื่นชุดนั้นในมือให้กับคอพิอุส
“ข้าเกรงว่า เราจะมิทันได้สังเหตุถึงพายุที่กำลังก่อต่อขึ้นขอรับ หากการคาดการณ์ของข้ามิผิดพลาด โลหิตนี้ถูกร่ายเวทย์กำกับเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง แต่ละจุดที่โลหิตนี้ต้องพื้น ก็หมายจะสร้างวงแหวนเวทย์ เพื่อโจมตีแอสโทรเฟีย"
ดวงตาที่เบิกกว้างของคอพิอุสบ่งบอกได้ถึงความตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นภายใน
“เจ้าได้ตรวจทุกอย่างแล้วใช่หรือไม่”
“ขอรับ พื้นที่แต่ละจุดที่มีการปรากฏของศัตรู หากพินิจอย่างถี่ถ้วน และโยงเข้าหากัน ก็จะปรากฏอักขระ ที่สามารถร่ายอาคมได้ขอรับ"
“แต่งตัวให้ข้าที่ ถ้าเป็นจริงดังที่เจ้าว่า มิว่าเราจะต้องการมันหรือไม่ หายนะครั้งใหญ่ก็กำลังมาเยือน"
เสียงเจื้อยแจ้วของปักษาเวทย์ที่ขับขานพ้องกันดุจเสียงดนตรี ที่กำลังบรรเลงตอนรับวันใหม่
หลังจากเติมเชื้อเพลิงในท้องจนอิ่มแล้ว ราฟาเอลโร่ก็ออกจากบ้าน ไปยังจุดหมายเพื้อร่วมตัวกับสมาชิกคนอื่นในกลุ่ม เพื่อทำภารกิจ เมื่อพร้อมหน้าสมาชิกทุกคนในกลุ่มก็ทักทายกันอย่างสนิทสนม แม้ทุกคนจะมีการเวียนกลุ่มแต่ก็วนหลับมาเจอกัน และการเสี่ยงภัยร่วมกันหลายต่อหลายครั้ง ก็ก่อให้เกิดสายใยแห่งมิตรภาพ
“สายัณห์สวัสดิ์เอลฟี่พ่อหนุ่มน้อย เจ้านี้ นับวันก็ยิ่งน่ารักนะ น่าเอ็นดู"
โดโลวีนเป็นเอลฟ์สาวใบหน้างดงาม รูปร่างกะทัดรัด เรือนผมสีบลอนด์ทองยาวประบ่า และมีนินัยที่ชอบหยอกเย้าราฟาเอลโร่อยู่เสมอๆ
“อรุณสวสดิ์ขอรับ ท่านโดโลวีน ท่านเองก็งดงามอยู่เสมอเลยนะขอรับ"
โดโลวีนจ้องมองราฟาเอลโร่พร้อมกับรอยยิ้มปลื้มปิติ แต่ก่อนที่เธอจะได้กล่าวอะไรต่อ
“เจ้ามองดีแล้วหรือราฟาเอล ดวงตาเจ้าคงมิได้ฝ้าฟางใช่หรือไม่"
"โอโดลาส เจ้านี้ช่างไร้ซึ่งมารยาท"
โอโดลาสที่เดินเข้ามาร่วมสนทนากล่าวขึ้น อย่างอย่างไม่สนสายตาค้อนเคืองของโดโลวีน ก่อนที่เสียงเรียกร่วมตัวจะดังขึ้น
“ทุกคนหากพร้อมแล้ว ก็ร่วมกลุ่มกันเบื้องหน้าข้าด้วย"
น้ำเสียงที่ดังขึ้นนั้นเป็นของเอลฟ์รูปงามนามว่า ธีโอลัส เขาเป็นเอลฟ์ที่มี รูปร่างสูงใหญ่ที่กำยำงดงาม และผมสั้นสีน้ำตาลอ่อน
“อรุณสวัสดิ์ ออดูลัส โอโดลาส โดโลวีน ราฟาเอลโร่ และโมดูลาส ทุกคนคงรู้จักข้าแล้ว ข้าธีโอลัส เป็นผู้นำกลุ่มของพวกเจ้า ภูมิศาสตร์ในการต่อสู้เพลานี้ คือถ้ำนอกเขตบาเรียของแอสโทรเฟียที่ทอดยาวเข้าไปในหุบเขา ศัตรูของเราคือปีศาจที่มาเยื้อนผ่านประตูมิติ ซึ่งก็คงจะปิดตัวลงแล้วอย่างที่เคย เราจะตั้งวงแหวนเวทย์ เพื่อผลนึกปากทางเข้า จากนั้นก็จะเข้าโจมตี โดยให้โดโลวีนที่เป็นอาร์เชอร์โจมตีเป็นบริเวณกว้าง ทำให้แนวหน้าของศัตรูตื่นตระหนก และอ่อนแอลง จากนั้นข้าและโอโดลาสวอริเออร์ของกลุ่ม จะเป็นแนวหน้าบุกโจมตีเปิดทางให้ ในขณะที่ศัตรูยังมิทันได้ตั้งรับ ให้ ออดูลัส และโมดูลาสที่เป็น……”
ธีโอลัสชะงักทันทีเมื่อกระดาษใบหนึ่งที่มีตราประทับราชวงศ์พุ่งแวกอากาศ และหยุดลงอยู่เบื้องหน้าเขา ธีโอลาสคว้ามันมาเปิดออกอ่านสารนั้นในทันที เมื่อเงยหน้าขึ้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
“เราจะเปลี่ยนการวางกลยุทธ วีธีที่ใช้ต้องเป็นวิธีที่ไร้ซึ่งการหลั่งเลือด"
สมาชิกในกลุ่มเลือบมองกันและกันด้วนความสงสัย
“ด้วยเหตุอันใดเราซึ่งต้องใช้วิธีที่ซับซ๊อนเช่นนั้นด้วยขอรับ"
โอโอลาสกล่าวขึ้นไขข้อข้องใจของทุกคน
“เพราะศัตรูได้วางอุบายไว้ ทุกจุดที่โลหิตทมิฬของพวกมันหลั่งลงบนผืนดิน ก็สร้างอักขระเวทย์ที่โยงเข้าด้วยกัน กำเนิดเป็นวงแหวนเวทย์ มีคาดการจากเบื้องบนที่คำนวนจากจุดการออกล่าไม่กี่จุด วงแหวนคงใกล้สมบูรณ์แล้ว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเลี่ยงการหลั่งเลือด มีผู้ใด ณ ที่นี้แนะวิธีได้บ้างหรือไม่”
หลังจากจบการกล่าว ธีโอลัสก็กวาดสายตามองสมาชิกในกลุ่มของเขา ก่อนที่โดโลวีนจะยกมือขึ้นเพื่อเป็นการขออนุญาต ซึ่งธีโอลัสก็พยักหน้าให้เธอ
“หากใช้พิษที่ทำให้หลับ และหยุดการทำงานของอวัยวะภายใน"
“การตายก็จะเป็นเหมือนกับหลับไปเฉยๆ เป็นความคิดที่ดี"
“ แต่ภูมิศาตสร์เป็นถ้ำที่ทอดยาวเข้าในหุบเขา การใช้พิษให้ผลสำริดที่ดีเยี่ยม จำต้องจำกัดบริเวณนะขอรับ"
เสียงแย้งของออดูลัสแสดงให้เห็นจุดอ่อนในแผนการ
“ดังนั้นหากมีคนต้อนศัตรูอีกด้าน ให้มาร่วมตัวกันที่ปากถ้ำที่เราผนึกไว้ พื้นก็จะถูกจำกัดให้แคบลงปัญหาเรื่องพื้นที่ก็จะสิ้นไปขอรับ”
โอโดลาสเสนอการแก้ไขปัญหา ที่ดูเหมือนจะเป็นหนทางเดียวแต่ก็เสี่ยง
“เป็นความคิดที่ใช้การได้ แต่ผู้ใดจะเสี่ยงเข้าไปในนั้นเพื่อต้อนศัตรู”
เกิดความนิ่งเงียบขึ้นครู่ ก่อนที่ราฟาเอลโร่จะยกมือขึ้น
“ข้าเองขอรับ"
“เจ้าคิดว่าจะต้อนศัตรู ไปพร้อมกับบาเรียป้องกันไม่ให้ตัวเจ้าเองโดนพิษได้หรือ"
ธีโอลัสหันมาตั้งคำถามกับราฟาเอลโร่ที่เสนอตัว โดโลวีนมีทีท่าที่จะแย้ง แต่โอโดลาสคว้าแขนของเธอก่อนที่โดโลวีนจะทันได้ทำเช่นนั้น
“เรื่องนั้นจะมิใช่ปัญหาเลยขอรับท่านธีโอลัส หากมีข้าเข้าไปพร้อมกับราฟาเอล"
ธีโอลัสหรี่ตาจ้องมองพวกเขาทั้งคู่ชั่วขณะ ในหัวกำลังช่างใจกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ก่อนที่จะให้คำตอบ
“ได้งั้นตกลงตามนั้น"
ณ ปราสาทหลวงแอสโทรเฟีย เมื่อข่าวร้ายมาเยือนในยามวิกาล ความวุ่นวายของข้าราชบริพารและเหล่าขุนนางก็บังเกิดขึ้น การประชุมโต๊ะกลางยังเกิดขึ้นในทันทีที่ข่าวร้ายมาเยือน เหล่าขุนนางต่างอกสั่งขวัญแขวนกระนั่นก็เลี่ยงไม่ได้ ทุกอย่างต่างพุดขึ้นอย่างรวดเร็ว สารการเปลี่ยกบยุทธของกลุ่มผู้ใช้เวทย์ที่ออกทำภารกิจเพียงไม่กี่กลุ่มของวันนี้ ได้ทำการส่งออกอย่างรวดเร็วเมื่อมีการลงมติเป็นเอกฉันท์ ตามด้วยนักรบและนักเวทย์กว่า 700 ชีวิตที่ถูกเรียกให้ร่วมพลอย่างรีบเร่ง และถูกกระจายออกไปตามพื้นที่ต่างๆ เป็นกลุ่ม เป้าหมายคือการทำลายวงแหวนเวทย์ที่ถูกสร้างขึ้นจากศัตรู สายตาของคอโดลาสนั้นจับจ้องไปยังเหล่านักรบ 700 คนที่กระจ่ายตัวกันออกไป ณ ระเบียงกว้างของหอคอยหินอ่อน พร้อมกับบุตรโอรสที่ยืนอยู่เคียงข้าง
“ทุกอย่างเป็นไปตามกลยุทธที่ได้วางเอาไว้ฝ่าบาท"
คอพิอุสที่เป็นดังหางเสื้อในครั้งนี้กล่าวรายงาน
“ดี ขอให้ดวงวิญญาณของเหล่าบรรพบุรุษอวยชัย"
คอโดลาสกล่าวก่อนที่จะหันกลับมา แต่ก่อนที่พระองค์จะได้ดำเนินเข้าด้านในตัวปราสาทก็เกิดการสั่นไหวขึ้น ท่ามกลางดวงสุริยะที่ทอแสงในยามเช้า บัดนี้กลับมีลำแสงดำทมิฬพุ่งฝ่าอากาศขึ้นไปบนฟากฟ้า ก่อให้เกิดเมฆาสีเทาดำบดบังแสงของรุ่งอรุณเหนือแอสโทรเฟีย ทั่วเมืองหลวงมืดมิดลงไร้และซึ่งแสงสว่าง นอกจากแสงของของซิวเวอร์และต้นไม้แห่งชีวิต คอโดลาสหันกลับมามองสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอย่างวิตก
“พวกเราช้าไปซินะ พายุได้เริ่มก่อตัวก่อนที่จะโหมกระหน่ำแล้ว"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น