ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม

    ลำดับตอนที่ #1 : องค์ที่ 1 บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ค. 67


    มีจริงไหม? ดอกไม้วิญญาณ

    ดอกไม้ที่กลีบดอกเรียวเล็กซ้อนกันหลายชั้น มีสีแดงสดเช่นเดียวกับเลือด พร้อมกับละอองเกสรที่ฟุ้งออกมาในอากาศราวกับกลิตเตอร์สีทอง


    ช่างน่าเย้ายวนใจ สรรพคุณที่ถูกขนานนามนั้นช่างมากมาย แต่สิ่งเดียวที่เด็กชายคนนึ่งต้องการจากมัน คือการได้ใกล้ชิดกับผู้ที่จากไปอีกสักครั้ง


    การสูญเสียผู้เป็นที่รัก นั้นช่างเจ็บปวด ยิ่งหากเป็นมารดาผู้ให้กำเนิด ที่หาใครแทนไม่ได้ จะยิ่งรวดร้าวขนาดไหนกันนะ เป็นความผิดของเขา เขาโทษตัวเองซ๊ำแล้วซ๊ำ


    โทษตัวเองที่แอบออกไปข้างนอกนานๆ โทษตัวเองเรื่องที่โกหกหาข้ออ้างออกมานอกบ้าน แต่ก็ใช่จะไร้ซึ่งเหตุผล 


    ในทางกลับกัน เด็กชายออกไปขอรับงานจากใครก็ได้ที่เมตตาเขา ไม่ว่าจะเป็นงานอะไร เขาก็ยินดีทำ เพื่อเก็บหอมรอมริบทุกบาททุกสตางค์     


    เด็กชายตั้งใจอย่างเป็นที่สุด ว่าจะมอบของขวัญสักชิ้นให้กับแม่ของเขา เพราะเขามีแค่แม่คนเดียว แม่ที่ทำให้เขาได้ทุกอย่าง แม่ที่คอยอยู่เคียงข้าง อ่อนโยนกับเขาเสมอมา และรักเขายิ่งกว่าสิ่งใด


    และในที่สุดเด็กชายก็ได้มันมา ชุดสีฟ้าปักลิ่มทองเนื้อผ้านุ่มนวล แลดูใส่สบาย ที่เขาคอยมองเสมอเมื่อเดินผ่าน เด็กชายซื้อ และนำมันกลับมาบ้านเพื่อที่จะมอบให้กับแม่ หวังความชื่นชม และความประหลาดเล็กๆ จากผู้รับ


    แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจยิ่งกว่า คือเมื่อก้าวพ้นผ่านประตูธรณีเข้าไปเขากลับเห็น ร่างของแม่ที่นอนกองอยู่กับพื้นพร้อมกับลมหายใจที่แผ่วเบา


    “แม่ครับ” 

    เด็กชายร้องเสียงหลง พร้อมกับถลาเข้าหาร่างที่กองอยู่บนพื้น


    “ราฟาเอลโร่ กลับมาแล้วหรอลูก สนุกไหม” ประโยคเดิมที่ได้ยินทุกครั้งเมื่อกลับถึงบ้าน แต่ในวันนี้มันกลับทำให้เขาหยุดร้องไห้ไม่ได้

    “นี้กุญแจ ช่วยแม่หยิบของในกล่องให้ที” เด็กชายรับกุญแจจากแม่ เขาตรงไปยังมุมห้อง ยกแผ่นไม้ที่ปูพื้นขึ้น เผยให้เห็นช่องลับใต้พื้นไม้

    กล่องไม้ที่เก็บไว้เป็นอย่างดี เขายกกล่องนั้นขึ้นมา และกลับมาหาแม่ พร้อมกับไขกุญแจกล่องไม้นั้น เสียงที่รวยริมของแม่เอ่ยออกมาข้างๆ เขา 

    “ช่วยแม่หยิบของออกมาจากถุงสีน้ำเงินนั้นที”

     เด็กน้อยทำตามอย่างว่าง่าย และสิ่งที่เขาพบก็คือ แหวน1 วงค์ ที่ราวกับมีสองเส้น แต่บิดเป็นเกียวจนกลายเป็นแหวนหนึ่งวง เส้นหนึ่งเป็นสีเงินปนทอง ส่วนอีกเส้นเป็นสีดำสนิทราวกับถูกจองมองจากความตาย โอบล้อมรอบกันและกัน ส่องประกายแวววาว หากแต่ดูแปลกตา  

    “เก็บติดตัวไว้นะลูก อย่าให้ห่างจากตัว มันเป็นของลูก ทุกอย่างในกล่องนั้นใช้ให้ดี แม่.....” ยังไม่ทันที่จะจบประโยคดี ความตายก็พรากเธอจากไป ความรู้สึกเสียใจที่พรั่งพรูราวกับสายฝน การร้องไห้ปนกับคำพูดคร่ำครวญที่ฟังไม่เป็นศัพท์ มันช่างเจ็บปวด

    ___________________________________

     ยามค่ำคืนแถวแนวเขาแห่งนึ่ง ที่บรรยากาศอึมครึมและเย็นยะเยือก ยอดเขาหนึ่งในนั้น กลับมีต้นไม้แผ่กิ่งก้านใบสีม่วงเรืองแสงจันทร์อย่างไม่น่าเป็นไปได้ แต่สิ่งที่แปลกกว่าคือ ผีเสื้อที่มีปีกสีแดงเหลือบดำจำนวนมาก ที่บินพร้อมกับปล่อยละอองสีแดงเรืองแสงออกมา

    แปลกแต่ก็น่าหลงใหลไปพร้อมๆกัน มันบินวนไปที่สิ่งมีชีวิตที่ไม่สมควรจะอยู่ที่นั่นอย่างที่สุด หญิงสาวผมยาวดำขลับ หน้าม้าบางๆที่ยิ่งขับให้ผิวขาวผ่องนั้นดูเด่นขึ้น เธอยื่นมือออกไป เพื่อให้ผีเสื้อตัวหนึ่งมาเกาะที่มือ พร้อมกับขยับริมฝีปากอวบอิ่มสีแดง

    “ใช่ฉันก็ได้กลิ่น ทรงพลังและหอมหวาน เรามาดูกันซิว่า มาจากที่ไหน” 

    สิ้นเสียงยังยะเยือกนั้น ผีเสื้อที่เกาะอยู่บนมือก็กระพือปีกไปเกาะบนผิวน้ำที่เกิดการกระเพื่อมเป็นวงกว้างออก 


    เผยให้เห็นเงาสะท้อนเป็นภาพมือน้อยๆของเด็กผู้ชายตัวเล็กที่เต็มไปด้วยบาดแผล มือเล็กๆที่เกาะกับแนวหิน ดึงร่างที่เต็มไปด้วยแผลไม่ต่างจากมือของเขาขึ้นสู่หน้าผาเบื้องหน้า ท่ามกลางความมืด และแววตามากมายที่จองมองเขา 


    แต่เหมือนเขาจะไม่ได้สนใจมัน ดวงตาสีแดงเข้มช่างมุ่งมั่นอย่างน่าประหลาด

    แต่แล้วเด็กชายกลับคว้าก้อนหินที่เหมือนจะแตกอยู่แล้ว เมื่อเขาดึง มันจึงแตกออก และทำให้ร่างกายของเขาร่วงลงสู่เบื้องล่าง

    “ไม่นะ” เป็นเสียงที่ดังกังวานท่ามกลางหินผา เสียงนั้นสะท้อนกลับไปมา พร้อมกับมือที่พยายามไขว้คว้าไปมากลางอากาศ แต่หน้าผาตรงหน้ามันกับห่างไกลออกไปเรื่อยๆ

    เด็กน้อยหลับตาและภาวนา #แม่ครับ ผมอยากเจอแม่อีกสักครั้งจริงๆนะครับ#  แม้จะรู้ส่าเป็นไปไม่ได้


    ในขณะที่ภาวนา เขาก็เริ่มเอะใจ กับร่างกายที่หยุดร่วงหล่น พร้อมกับเสียงกระพือปีกเล็กๆ  ที่อยู่รอบตัว ในขณะที่ลืมตาขึ้นสายตาของเขาก็มองเห็นผีเสื้อที่มีปีกสีดำเหลือบแดง 


    จำนวนมากที่บินวนอยู่รอบตัว ยังไม่ทันที่เด็กชายจะได้ประหลาดใจ  เขาก็รู้สึกได้ว่าร่างกายนั้นเริ่มเบาวิว  พร้อมๆ กับการพุ่งทะยานฝ่าความมืดขึ้นไปบนยอดเขา


    เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง เท้าของเขาก็สัมผัสเข้ากับพื้นหญ้าเขียวชอุ่ม ที่มีดอกตูมสีแดงเข้มของดอกไม้ชนิดหนึ่ง กระจายทั่วยอดเขานั้น เขามองทิวทัศน์รอบตัว อย่างตกตะลึง ก่อนที่จะหันตามเสียงๆ นึ่ง

    “เจ้าปรารถนาสิ่งใดเด็กน้อย” 

    น้ำเสียงที่นุ่มนวลแต่ช่างเหน็บหนาว

    “ดอกไม้วิญญาณครับ”

    เด็กชายกล่าวขึ้นอย่างไม่ทันได้รู้ตัว

    “ระวังสิ่งที่เจ้าเรียกร้อง เพราะมันมีราคาที่ต้องจ่าย”

    “อันนี้ได้ไหมครับ”

    เด็กน้อยยื่นของที่อยู่ในมือออกไป ให้กับสตรีที่อยู่ตรงหน้า เขาเองก็ก้มมองมัน พร้อมกับรอยยิ้มจางๆ

    “แม้ท่านแม่จะบอกว่า ให้เก็บไว้ให้ดี แต่ถ้าแลกได้”          

    เขาต้องหยุดประโยคกะทันหันเมื่อเห็นสีหน้าประหลาดใจของคนตรงหน้า เธอหันหน้าหนีทันทีเมื่อรู้ว่าเด็กชายมองมาที่เธอ

    “มันไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการ”

    ความสงสัยหายลับไปจากสมองทันที

    “อะไรก็ได้ครับ ถ้าผมมี”

    ในตาสีฟ้าของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า เปล่งประกายอย่างมีเลศนัย  พร้อมกับรอยยิ้มที่ยกตรงมุมปาก

    “เจ้ามีแน่เด็กน้อย แต่ขอถามเจ้าสักขอ แม่ของเจ้าสิ้นลมไปกี่วันแล้ว”

    “3 วันครับ”

    “งั้นเราควรรีบจะดีกว่า ก่อนที่นางจะไปสู่สุคติก่อน สิ่งที่ข้าต้องการคือ เศษเสี้ยวเล็กๆ ของวิญญาณเจ้า หากทำพันธสัญญาแล้ว เจ้าจะต้องมอบมันให้กับข้า ไม่ว่าเจ้าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม”         

    เด็กชายตกใจเล็กน้อยกับสิ่งที่ได้ยิน เขาชั่งใจตัวเอง คว้ากระเป๋าขาดรุ่งริ่งที่เอามาด้วย มาไว้ในอ้อมแขน และกอดมันแน่นขึ้นพร้อมกับก้มลงมองมัน เด็กชายเงยหน้าขึ้น พร้อมกับน้ำเสียงแสนราบเรียบ แต่หนักแน่น

    “ทำกันเลยไหมครับ”

    หญิงสาวมองกลับมาที่เด็กชาย ชอบใจกับความเด็ดเดี่ยวของเขา ที่มีมากกว่าชายชาตรีหลายคนเสียอีก


    เธอยื่นมือขว้าผีเสื้อตัวนึงกลางอากาศ พร้อมกับที่มันกลายเป็นละอองสีแดงเลือด หมุนวนรอบมือเธอ หญิงสาวยื่นนิ้วชี้มาทางเด็กชาย เขารู้โดยสัญชาตญาณว่าจะต้องแตะนิ้วของเธอ  เด็กชายยื่นนิ้วชี้ออกไป และแตะนิ้วชี้ของเธอโดยไม่ลังเล


    ละอองสีแดงที่หมุนวนรอบมือของหญิงสาว เลื่อนมาอยู่ที่นิ้วของทั้งคู่ ก่อนที่จะซึมลงบนข้อแรกของนิ้วชี้ และกลายเป็นปานสีแดงบนนิ้วมือของทั้งคู่ พันธสัญญาเสร็จสิ้น พร้อมกับดอกไม้ตูมสีแดงเข้มบนยอดเขาทุกดอกที่เบ่งบาน คายลองเกษรสีทองออกมา

    ____________________________________

     เสียงหัวใจของเขานั้นเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกมา มันอาจเป็นเพราะว่า เขาจะได้เจอกับแม่อีกครั้ง หรือว่าเป็นเพราะเขาวิ่งกันแน่ เด็กชายวิ่งจนแทบไม่ได้นับว่าชนใครไปบ้าง

    “ขอโทษครับ”                             

    เด็กชายเอ่ย จะเรียกว่า #คน# ก็ไม่ถูกเสียทีเดียว  มันเป็นผลของดอกไม้วิญญาณ ซึ่งตอนนี้เด็กชายกำมันไว้ในมือแน่น ดอกไม้วิญญาณสีทองที่เปล่งประกายต่างจากดอกอื่นที่เขาไม่ได้เด็ด 


    มันทำให้เขาสามารถสัมผัส และมองเห็นวิญญาณได้ ยิ่งเข้าใกล้ประตูส่งวิญญาณ สถานที่ที่เป็นซึ่งดังทางเชื่อมระหว่างโลกคนเป็น และโลกคนวิญญาณ การที่จะหาคนเป็นๆ มาเดินเล่นบอกได้เลยว่าเป็นไปแทบไม่ได้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×