คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอน 1
นมเอียดเป็นหญิงชราวัยย่างเข้าสู่ 60 ปีในวันนี้ สีหน้าของนางแทนที่จะเกลื่อนไปด้วยความสุขกลับมีรอยอมทุกข์เคลื่อนเข้ามาทาบทับจนหมดสิ้น หลังมือปูดปูดโปน เพราะทำงานมาตลอดทั้งชีวิตลูบไปบนเนื้อผ้าสะอาดหอมไปด้วยไอแดด อีกทั้งกรุ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นหอมละมุนราวกับอยู่ในสวนดอกไม้ซึ่งเจ้านายคนเล็กของบ้านอย่างพุดน้ำบุษย์ เอกชัยโชติบดินทร์ เด็กสาววัย 18 ปี โปรดปราณก็ยิ่งลงน้ำหนักไล้มากขึ้นตามอารมณ์
วันพรุ่งนี้จะเป็นวันสำคัญของน้องเล็กสุดของตระกูล ทว่าวันนี้กลับไร้ซึ่งเงาของเธอ เพราะเจ้าตัวหนีหายออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้ามืด และบัดนี้ได้แฝงกายอยู่ในคอนโดชนิดห้องเดี่ยวแบบสตูดิโอของครูฝึกสอนยิงปืนดีกรีระดับเยาวชนทีมชาตินามพุทธพสุธา กรณ์กฤษณา ซึ่งเดินขวักไขว่ไปมาราว 10 นาทีแล้ว เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรดีต่อการที่น้องสาวอันเป็นที่รักยิ่งของอชิตพล เจ้าพ่อวงการน้ำเมาและเครื่องดื่มชูกำลัง ผู้ที่กำลังสนุกอยู่กับการเทคโอเวอร์บริษัทต่างๆ มาอยู่ในเครือบริษัทที่ปู่ของเขาเป็นผู้ปลุกปั้นมันขึ้นมาด้วยความเหนื่อยยาก
“คุณเพลิน”
“..........”
พุดน้ำบุษย์ในชุดลูกไม้สีม่วงอ่อนหวานละมุนตา ยืนกอดอกเหม่อมองไปยังรถไฟฟ้าที่แล่นผ่านหน้าไปสักครู่ คอนโดแห่งนี้อยู่ใกล้ การเดินทางสะดวกสบายเสียเหลือเกิน ต่างจากคฤหาสน์หลังงามที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ดงต้นไม้ใหญ่ขึ้นหนาแน่น รั้วบ้านสูงท่วมหัว แม้จะดูปลอดภัยในปราการธรรมชาติหากอึดอัดราวกับอยู่ถูกมันเป็นคุกกั้นขวางกับโลกภายนอกอันแสนวุ่นวายนั้น ตั้งอยู่ชานเมืองที่เดินทางมาร่ำเรียนต้องอาศัยทางด่วนพิเศษจึงจะคล่องตัวมากมายกว่า
“คุณเพลิน”
พุทธพสุธาออกเสียงดังกระตุ้นให้เด็กสาวหันมาหา
“ค่ะ”
“หิวรึยัง...ผมอุ่นอาหารไว้ให้แล้ว ไปทานกันเถอะ”
“เพลินขอโทษที่รบกวนครูเอิร์ท”
เด็กสาวยกมือไหว้พร้อมก้มศีรษะจรดปลายนิ้วอย่างมีมารยาท พร้อมน้ำเสียงเศร้าเสียใจเช่นเดียวกับสีหน้า
“แล้วก็คงจะต้องเดือดร้อนตามมาอีกแน่ๆ”
“ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว”
เขาตอบพลางยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาววาววับตัดกับผิวสีดำแดง
“อาชาติก็คงโดนหางเลขจากเฮียพอร์ชด้วย...เพลินรู้”
“คุณเพลินตัดสินใจทำแบบนี้ลงไปแล้ว จะมาเสียใจตอนนี้...ผมว่าเสียเวลา หยุดคิดถึงมันแล้วไปหาอะไรรองท้องสักหน่อยแล้วกัน จากนั้นไปอาบน้ำพักผ่อน พรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางกันแต่เช้าอีก”
“ค่ะ”
ชายหนุ่มเองก็มีอายุมากกว่าเด็กสาวเพียง 3 ปี ใกล้จะจบมหาวิทยาลัยในเทอมหน้านี้แล้วนั้น เป็นฝ่ายเดินนำหล่อนไปยังโต๊ะอาหาร 2 ที่นั่ง บริเวณห้องเอนกประสงค์ บริเวณผนังมีภาพวาดสีน้ำมันสวยสะดุดตาเสียจนหล่อนมองตาแทบไม่กระพริบ แม้ว่าจะทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้สีดำพนักสูงแล้วก็ตามที
“วาดเองหรือคะครู”
“หือ?”
“ภาพนี้...สวยเป็นธรรมชาติดีจัง ดูแล้วอบอุ่นมากกว่าที่บ้านของเพลิน ทั้งที่มีต้นไม้เยอะเหมือนกัน”
เด็กสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ที่บ้านดูเหน็บหนาวเหลือเกิน”
เสียงตัดพ้อดูจะมีอารมณ์ความรู้สึกไม่ต่างจากคำพูด
“อาจเพราะบ้านคุณเพลินมีคนน้อยเกินไป คฤหาสน์หลังใหญ่โตอย่างที่เคยเล่าให้ฟัง ถ้าเอาคนงานที่ไร่อัดเข้าไปสัก 10 คนก็ไม่พออยู่แล้ว พวกนั้นมันชอบเอะอะมะเทิ่ง แค่นี้ตะโกนลั่นกันก้องจนน่ารำคาญแน่นอน”
สีหน้าของพุทธพสุธาดูมีความสุขยามเอ่ยถึงคนที่ไร่ ทำให้พุดน้ำบุษย์พลอยปรีดาไปด้วย
“บ้านของผม อย่างที่เล่ามีพี่น้องท้องเดียวกัน 4 คน”
“น้ำ...หิน...ดิน แล้วก็ฟ้า”
“ใช่”
เจ้าของคอนโดห้องเดี่ยวนี้ยิ้มกว้าง เมื่อผู้มาพักกายพักใจจำเรื่องที่เคยเล่าให้ฟังได้
“นีรนาราเป็นสายธารรินหลั่งเอื่อยเฉื่อยให้ความฉ่ำเย็นแก่พุทธพสุธา ผืนดินแห้งผากให้ชุ่มชื้นหรือโหมกระหน่ำซัดสาดใส่หินผาแสนกระด้างเช่นศิลาพัชรให้อดทนยืนหยัดอยู่ได้ และถูกพัดหวนพากลับสู่ผืนฟ้าครามนามนภัณตี อันแสนกว้างใหญ่...นี่คือครอบครัวของผม”
“ครูเอิร์ทโรแมนติกจัง”
“เปล่าเลย”
พุดน้ำบุษย์นิ่วหน้า ขณะเอื้อมมือรับจานสปาเก็ตตี้ที่ได้รับการอุ่นด้วยไมโครเวฟจนกลิ่นหอมฉุย
“เน่าจะตายไป”
“เพลินชอบ”
“ยายฟ้าคราม น้องคนเล็กที่บ้านผมได้ยินคงกรี๊ดสลบด้วยความดีใจ...ที่มีคนชอบคอนเซ็ปส์เน่าๆ ของเขา”
ชายหนุ่มหัวเราะร่วนพลางส่ายหน้าระอาใส่บุคคลที่พูดถึง นภัณตีเป็นเด็กสาววัยเดียวกันกับร่างระหงตรงหน้า ช่างคิดช่างเพ้อฝันไม่ต่างกัน หากได้เข้าคู่แล้วล่ะก็ คงจะเพลิดเพลินกันไม่น้อย
“พี่สาวครูเอิร์ทคงจะไม่ค่อยดุเท่าไหร่ ถ้าเพลิน...”
“ไม่ครับ”
“เพลินทำให้ครูเอิร์ทลำบากไม่พอ ยังจะทำให้ครอบครัวพลอยเดือดร้อนไปด้วย”
เด็กสาวยังคงไม่สบายใจต่อสิ่งที่กระทำลงไป บอกกับตัวเองว่ายากจะคลายความกังวลปนหวั่นกลัวได้ เพราะในเมื่ออีกสองอาทิตย์ หล่อนจะต้องเข้าพิธีหมั้นกับลูกชายเจ้าสัวลี ราชาสวนสนุกแห่งเกาะสิงคโปร์ ที่เพียงเห็นใบหน้าก็รู้สึกถูกชะตา อีกทั้งต้องใจให้โหวงเฮ้งที่ดี จนออกปากของวันเวลาตกฟากจากอชิตพลซึ่งได้ทำธุรกิจร่วมกันร่วม 10 ปีแล้วนั้น ให้ซินแสประจำตระกูลดู ปรากฏว่าหากได้สมรสกับลูกชายจะช่วยส่งเสริมบารมีให้ร่ำรวยเงินทองและชื่อเสียงขจรกระจายไปกว้างไกล เวลาเท่านี้หากลูกน้องของพี่ชายจะระดมกันตามหา รับรองได้ว่าเจอตัวอย่างแน่นอน และถ้ารู้ว่าไปหลบอยู่กับใคร รับรองว่าคนที่ให้ความช่วยเหลือจะต้องเดือดร้อนเป็นที่สุด
“เอาไว้ผมเดือดร้อน จะขอพึ่งพาบารมีของคุณเพลินบ้าง”
“ถ้าเพลินมีโอกาส จะตอบแทน...เต็มที่ค่ะ”
“ครับ”
“ไม่ต้องเกรงใจนะคะ เพราะที่ตอนนี้เพลินรบกวนครูเอิร์ทก็ไม่รู้ว่าจะตอบแทนยังไงหมด ทั้งให้ช่วยคิดหาทางออกเรื่องยุ่งๆ ของตัวเอง ทั้งที่ไม่เกี่ยวเลย แถมยังจะไปพักหลบซ่อนที่บ้าน คนของเฮียพอร์ชกับพี่รอยซ์ที่หูตายิ่งกว่าสับปะรด แถมร้ายกาจจะตายไป จริงๆ เพลินก็กลัวเหลือเกินว่า...”
พุดน้ำบุษย์กัดกลีบปากอิ่มตึงไว้แน่น
“เอาน่า...อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด อีกอย่าง...ผมเองก็เบื่อๆ ชีวิตประจำวันแบบธรรมด้าธรรมดา ขอเพิ่มสีสรรให้ชีวิตได้มันส์ซะบ้าง คงสนุกไม่น้อย”
“ครูก็”
เด็กสาวที่แม้จะมีเพื่อนสนิท ทว่ามีแต่เพศเดียวกัน ด้วยศึกษาโรงเรียนหญิงล้วนมาตั้งแต่อนุบาล ไม่ใคร่จะได้พบหรือมีเพื่อนชายเลย นอกจากบรรดาญาติ ส่วนคนอื่นที่เจนตาคงเป็นเหล่าบอดี้การ์ดของพี่ชายทั้งสองที่อยู่ประจำภายในคฤหาสน์หลังงาม เพิ่งจะได้ใกล้ชิดกับผู้ชายอย่างจริงจังก็เมื่อมาร่ำเรียนการยิงปืนเพื่อป้องกันตัวไม่กี่เดือนนี้เอง
และก็ทราบว่าชายหนุ่มผู้นี้กรุณาต่อหล่อนมากที่สุด รับฟังพร้อมเป็นที่ปรึกษาในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหมั้นหมายในครั้งนี้ ซึ่งทำให้เป็นทุกข์อย่างยิ่ง จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ท้ายที่สุดหาทางออกด้วยการเสนอให้หนีไปตั้งหลักยังไร่ของเขา แล้วค่อยกลับมาอีกครั้ง เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเช่นอารมณ์ขุ่นเคืองของพี่ชายเป็นต้นนั้น ทำเสียงตัดพ้อคล้ายต่อว่า
“น่าจะรู้นะคะว่าพี่ชายทั้งสองของเพลิน...ดุจะตายไป”
“มีน้องสาวสวยก็ต้องดุเป็นธรรมดา”
“ครูอ่ะ”
พุดน้ำบุษย์กัดกลีบปากล่าง ทำหน้าง้ำหน้างอใส่พุทธพสุธาที่ก้มหน้าก้มตาม้วนเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปาก มิได้จะชวนพูดคุยสิ่งใดให้เด็กสาวเป็นกังวลอีก นอกจากจะตักอาหารอย่างอื่นลงในจานของหล่อน พลางเอ่ยปากให้รับประทานเสียบ้าง จะได้มีเรี่ยวมีแรงสำหรับเดินทางต่อไปในวันพรุ่งนี้แต่เช้ามืด กระทั่งอิ่มหมีพีมัน เด็กสาวอาสาจัดการล้างจานชามให้ ท่าทีของหล่อนเงอะงะจนน่าขัน จะหยิบจับอะไรแต่ล่ะอย่างเก้กัง จนชายหนุ่มอยากจะเข้าไปช่วย ทว่าหล่อนกลับส่ายหน้าดิก พร้อมกับสั่งห้ามว่าจะจัดการด้วยตัวเอง
และแล้วก็ได้เรื่องจนได้...
เพล้ง!!
“ตายแล้ว...อกอีแป้นจะแตก”
เสียงแก้วกระแทกกับพื้นหาใช่ เกิดขึ้น ณ คอนโดเท่านั้น บัดนี้ ณ ห้องดูหนังฟังเพลงที่ส่วนหนึ่งถูกดัดแปลงเป็นเลาจน์เครื่องดื่มเล็กๆ ก็มีเศษเล็กเศษน้อยเกลื่อนพื้นห้องที่ปูด้วยหินอ่อนอย่างดีจากประเทศอิตาลี
“มันแตกไปแล้ว”
อชิตพลคือคนที่ตอบกลับนมเอียดที่ถลาเข้าไปหมายจะช่วยประคองเจ้านายหนุ่มวัยฉกรรจ์ ใบหน้าคมคายด้วยชาติพันธุ์ตะวันตกผสมอยู่นั้น แดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด นี่คงจะดื่มเพื่อคลายเครียดจากการหายตัวไปของพุดน้ำบุษย์กระมัง
“อย่าเข้ามาครับนม...แก้วจะบาดเอาได้”
น้ำเสียงอ้อแอ้ไม่น้อย
“โถ...คุณพอร์ช จะดื่มเหล้าทำไมคะ ค่อยๆ คิด ค่อยๆ แก้ปัญหาด้วยสติสัมปชัญญะเหมือนทุกคราวเถอะ อย่าทำแบบนี้เลย นมเอียดเป็นห่วง”
“ผมดื่มเพราะอยากดื่ม”
ชายหนุ่มตอบคืนด้วยวาจากำปั้นทุบดินจนแม่นมค้อนควั่กใส่
“พ่อคุณ”
“ผมมีสติ 100 เปอร์เซ็นต์ครับนม แต่ผมอยากดื่มก็แค่นั้น...ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง”
“อย่ามาปิดนมเลย”
“ไม่...”
“นั่นสิ...เครียดมากจนอยากดื่มย้อมใจก็บอกมาเหอะ ไม่เห็นต้องปิดบังอะไรสักนิดนี่เฮียพอร์ช...เก็บไว้มากๆ เกิดเส้นเลือดในสมองแตก พิการขึ้นมาใครจะช่วยดูแลไหว...นมเอียดก็แก่แล้ว ให้แกได้พักผ่อนบ้างเหอะ”
ร่างสูงใหญ่เทียมกันของนฤบดินทร์ ผู้เป็นน้องชาย อายุห่างกันราว 3 ปี ที่มาพร้อมร่างอวบอิ่มด้วยตั้งครรภ์ได้เกือบ 7 เดือนอย่างกานต์กวีนั้นเอ่ยขึ้นถ้วยถ้อยคำเสียดแทงความรู้สึก จะถนอมรักษาน้ำใจชายผู้พี่ใหญ่ของบ้านสักหน่อยก็มิได้
“ถึงเป็นแบบนั้น...นมเอียดก็ยังไหว”
“อย่าเลยครับ”
นฤบดินทร์โบกมือห้ามขณะทรุดตัวลงพร้อมประคองภรรยาให้นั่งลงเคียงกันบนโซฟาตัวหนานุ่ม
“ให้เจ็บให้ป่วยเสียบ้าง เผื่อจะสำนึกได้”
“ไอ้รอยซ์!!”
คนเป็นน้องเลิกคิ้วขึ้น ทำสีหน้าท้าทายใส่คนเป็นพี่ และแม้ว่าจะโดนหยิกด้วยมือของภรรยาอย่างแรงเพื่อปรามมิให้พูดจาห่ามเกินไปจนอาจทำร้ายน้ำใจกันได้ ทว่ามีหรือที่สามีจะยินยอม
“อะไรเฮีย”
“พูดมาก!!”
“หงุดหงิดหรือครับ”
กวีกานต์ตีหน้าบึ้งใส่อีก แต่คนกำลังเพลินกลับลอยหน้าใส่หญิงสาว พร้อมกับก้มกระซิบที่ใบหูเล็กๆ
“ขอพ่อแกล้งเฮียสักหน่อยเถอะ”
“โธ่”
“รับรองน่า...นิดเดียว จุ๊บ”
นอกจากจะอ้อนเสียงวานแล้ว ยังถือโอกาสหอมแก้มอวบอิ่มเสียงดังอวดนมเอียดที่มองมาด้วยสายตาเปี่ยมความสุขแทนหมองเศร้าก่อนหน้านี้อีกต่างหาก
“นมเอียดครับ”
“ทำเสียงหวานอ้อนนมแบบนี้ จะเอาอะไรคะคุณรอยซ์”
“แหม...นมเอียดนี่รู้ใจผมเป็นที่สุด แต่รองจากเฮียพอร์ชนะฮะ รายนี้รู้ใจผมเป็นที่สุด ส่งเมียมาให้ก็ถูกใจเสียจนไม่คิดจะมีใหม่อีกแล้ว”
ภรรยาอดหัวเราะด้วยความสุขไม่ได้ ในยามนี้ทุกอย่างคลี่คลายลงไปแล้ว แต่ก่อนหน้านี้สิ คนข้างตัวออกฤทธิ์ออกเดชมากแค่ไหนต่อการไม่ยอมรับตัวเธอ ที่ถูกจับคลุมถุงชนด้วยความไม่เต็มใจ
“กล้าพูดนะคะ”
“ก็มันจริงนี่ครับ”
“ฮึ!”
คราวนี้เสียงเยาะมิได้มาจากร่างอวบอิ่ม กลับลอยจากคนเมาที่เบะปากใส่ไอ้คนอ้อนเมียนั่นเอง
“แม่จ๋า...ไหนแม่บ่นว่าหิวไง”
“บ่นเมื่อไหรคะ...เมื่อกี้นั่งรถมา พ่อก็ป้อนขนมแม่ลูกจุกไปหมดแล้วเนี่ย”
กวีกานต์ครวญประท้วงด้วยความจริง แต่สามีไม่สนใจจะฟัง
“แม่เนี่ย”
“พ่อนั่นแหละ”
“งั้นเอางี้ แม่ไปช่วยนมเอียดทำกับแกล้มให้พ่อดีกว่า...ดื่มตั้งแต่ตอนกลางวันยันหัวค่ำ เอาสักห้าหรือสิบอย่างก็พอนะคร๊าบนมเอียด”
สามีอ้อนด้วยสีหน้าอ้อล้อพลางดันร่างอวบให้ลุกขึ้นตามหญิงชราที่พาเดินอ้อมเด็กรับใช้ที่ง่วนเก็บกวาดเศษแก้วแตกอย่างขมีขมัน กระทั่งทั้งห้องนี้เหลือเพียงสองคน ถึงได้เดินไปรินสุราชั้นดี ซึ่งจัดเตรียมไว้พร้อมเสมอทุกยี่ห้อที่ได้ชื่อว่าเลิศที่สุด ลงในแก้วใหม่สองใบ ก่อนจะเดินอาดๆ มายื่นให้กับพี่ชายที่นั่งจมจ่อมอยู่กับความคิดของตัวเอง รับรองได้ว่าต้องมีแผนร้อยแปดเรื่องวิ่งวุ่นอยู่ในนั้นไม่หยุดแน่นอน
“เฮียพอร์ช”
“..........”
“ผมดื่มเป็นเพื่อน มา...ชนกันหน่อย แบบไลท์แอลอย่างนี้ ผมอยู่ยาวได้”
มือหนาขาวไม่แพ้คนเป็นพี่ยื่นแก้วมาให้ ซึ่งอีกฝ่ายก็รับไปกระดกลงคอแต่โดยดี
“ละเลียดช้าๆ สิเฮีย เล่นสาดแบบนี้...คออนุบาลแบบผม น๊อคก่อนแน่”
“คิดจะอยู่วงการนี้ ต้องหัดให้ได้ทุกรูปแบบ เช่น...ดื่มด่ำอย่างละเมียดละไมกับสุราระดับล่างที่เต็มไปด้วยดีกรีร้อนแรง แต่ต่อสู้โรมรันกับรสชาติละมุนของสุราชั้นยอดได้ หรือฝึกปรือให้หวานฉ่ำกับสุราพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร นี่แหละสิ่งที่ต้องหัดไว้”
“แปลก? เฮียสอนผมผิดรึเปล่า”
อชิตพลเลิกคิ้วใส่คนถาม พร้อมกับผินหน้าที่มองไปยังต้นไม้ใบหญ้านอกคฤหาสน์กลับมายังนฤบดินทร์ ดวงตาคมกริบนั้นแดงก่ำ บ่งบอกว่าคงแทบไม่ได้หลับได้นอน นับตั้งแต่ลงเครื่องบินมาเมื่อสองวันก่อน ภายหลังจากเจรจาต่อสัญญาผลิตน้ำอัดลมยี่ห้อดัง
“คนอย่างฉัน...เคยสอนอะไรพวกแกผิดๆ ด้วยรึ”
“เฮีย”
“แล้วเคยให้สิ่งไม่ดีกับพวกแกด้วยรึ”
นฤบดินทร์เถียงไม่ออก ยอมรับว่าพี่ชายคนโตของบ้านตรงหน้านี้ อาจจะเจ้ากี้เจ้าการแทบจะทุกเรื่องในชีวิตของน้องๆ ทั้งสอง แม้จะอึดอัดคับข้องใจ หากผลที่ได้รับในกาลต่อมากลับมีแต่สิ่งดีๆ คืนมาให้ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาที่ส่งเสริมให้สูงสุดเท่าที่จะสามารถร่ำเรียนได้ จากนั้นส่งไปฝึกงานยังบริษัทชื่อดังหลายต่อหลายแห่งตามคอนเน็คชั่นที่มีกับบรรดานักธุรกิจชื่อดัง
และแม้กระทั่งชีวิตครอบครัวยังคัดสรรหญิงสาวดีๆ เช่นกานต์กวีมาเป็นคู่เคียงกาย กระนั้นเพราะภรรยาเป็นคนหัวอ่อน รักเขาด้วยความเต็มใจตามวันเวลาที่ผันผ่าน ทว่าพุดน้ำบุษย์สิ รายนั้นไม่มีทางจะยอมง่ายดาย และก็คิดไม่ผิดเมื่อได้รับโทรศัพท์จากนมเอียดว่าน้องสาวหายตัวไปก่อนวันงาน
ความคิดเห็น