ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอน 3
กลิ่นอาหารเตะจมูกลอยออกมาจากครัวของบ้านสองชั้นรั้วติดกันในหมู่บ้านจัดสรรทำให้คนที่เพิ่งกลับมาจากทำงานถึงกับลอบกลืนน้ำลายดังเอื๊อก แอบยืนมองผ่านหน้าต่างบานเกล็ดไปยังที่มาของกลิ่นอย่างสนใจใคร่รู้ว่าเจ้าของบ้านคนใหม่ ที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่นานนัก ทว่ากลับเคยเห็นหน้าค่าตาไม่ชัดเจนนัก หากที่เดาได้ก็สัมผัสตัวตนจากอาหารที่ทำอยู่ก็เท่านั้นว่าควรจะเป็นเช่นไร
ดุจหทัยเดินย้อนออกจากครัว หลังจากล้างมือจนสะอาดเรียบร้อยแล้ว และวางกระเป๋าลงบนโซฟารับแขกตัวเดี่ยวที่ดูเหมือนจะเล็กลงไปเรื่อยๆ สำหรับเธอที่หย่อนสะโพกผายขยายใหญ่ลงนั่งจุ้มปุ๊กอย่างเหนื่อยอ่อน ดวงตาสีดำสนิทราวกับยามวิกาลไร้แสงดาวมองหน้าขาของตัวเองอย่างละเหี่ยใจ แม้ว่ายามอยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ จะทำเป็นร่าเริงแจ่มใส ไม่สนใจรูปร่างที่เปลี่ยนไปชนิดหน้ามือเป็นหลังเท้าเช่นนี้ แต่พออยู่คนเดียวเหงาๆ ก็วนกลับมาคิดถึงต้นเหตุที่ทำให้กลายเป็นอย่างนี้ไปได้
แฟนหนุ่มชื่อฮุย ที่คบหากันมากว่าสี่ปี นับตั้งแต่เริ่มทำงานในบริษัทผลิตและจำหน่ายโดนัทชื่อดัง ชายหนุ่มอยู่แผนกการตลาด แต่เธออยู่แผนกบัญชี แรกๆ ก็จีบกันไปมาผ่านขนมที่แผนกพัฒนาสร้างสรรค์ผลิตขนมหน้าใหม่ๆ มาให้ชิมอยู่บ่อยครั้ง กระทั่งยอมตกลงคบกัน แฟนหนุ่มเป็นคนคุยสนุก เฮฮา แถมยังคอยดูแลเอาอกเอาใจเป็นที่ประทับใจของเธอ
หากสุดท้ายกลับกลายเป็นว่าต้องกินแห้ว ซดน้ำใบบัวบกแก้อกช้ำเลือดช้ำหนอง เมื่ออยู่ๆ ก็ได้ข่าวร้ายว่าแฟนหนุ่มเข้าห้องหอกับคู่หมั้นที่ถูกจัดหาไปเรียบร้อยแล้วในช่วงที่เธอไปตรวจนับสต๊อกยังต่างจังหวัดร่วมอาทิตย์ พอกลับมาก็เจอข่าวช็อคเข้าพอดี
แต่คนอย่างเธอ แทนที่จะเศร้าเคล้าน้ำตา ทว่าที่ไหนได้กลับชวนเพื่อนๆ ในกลุ่มไปดริ้งค์ ไปกิน แล้วก็ไปเที่ยวจนแทบจะติดเป็นนิสัย จากนั้นพอหายเศร้าก็ค่อยเพลาลง แถมเงินเก็บที่มีอยู่ก็ค่อยๆ หายไปทีละนิดเพราะใช้อย่างไม่คิดนั่นเอง จึงกลับมาเป็นผู้เป็นคนกับเขาบ้าง อีกอย่างขืนยังเพลินอยู่ เงินลงทุนบริษัทนกยูงแคตเตอริ่งก็พลอยจะหดหายไปด้วยแน่ๆ
ปิ้งป่อง!
เจ้าของบ้านที่กำลังเวิ่นเว้ออยู่กับอดีตของตัวเองไม่ได้สนใจ จนคนกดกริ่งจำต้องรัวซ้ำอีกสามครั้ง คราวนี้เรียกสติของร่างอ้วนได้มากเลยทีเดียว ดังนั้นจึงลุกขึ้นแต่ยังไม่วายบิดขี้เกียจแล้วออกไปเปิดประตูให้ แต่พอไปถึงกลับไม่เห็นมีใคร จนต้องเปิดประตูบ้านไปเยี่ยมๆ มองๆ ผ่านบรรยากาศยามโพล้เพล้ของช่วงฤดูร้อน ก็ไม่เจอใคร จึงหันหลังกลับ แต่อยู่ๆ ก็ร้องสะดุ้ง เมื่อมีอะไรบางอย่างสีน้ำตาลเคลื่อนผ่านช่วงแก้ม
หญิงสาวหันขวับไปมองด้านข้างขวา ก็อ้าปากค้าง เพราะไก่ทอดสีสวยวางอยู่ในตะกร้าหวายรูปแม่ไก่รองด้วยผักสลัด มีหอมแดงทอดโรยอยู่ด้านบนจำนวนมากอีก บอกได้เลยว่าจากแสงไฟนีออนเสารั้วส่องให้เห็นว่ามันรูปสวยแถมกลิ่นหอมเสียจนต้องเผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างช่วยไม่ได้ แต่พอรู้สึกตัวกลับทำเฉย ไม่สนใจมัน นอกจากมองชายหนุ่มเบื้องหน้าเพราะไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกครั้ง
“คุณ”
“คัตซึโมะโตะ...หรือจะเรียกผมว่า...พระนายก็ได้”
ร่างอ้วนได้แต่เงียบกริบ เพราะคราวนี้เขาเพิ่มเติมให้อีกชื่อหนึ่ง ซึ่งเป็นชี่อภาษาไทยของเขา
“แล้วนี่อะไรล่ะ?”
คัตซึโมะโตะมองอาหารในมือ ซึ่งได้ลงมือทดลองทำมาสี่วันแล้ว เพิ่งจะได้รสชาติเข้าท่าก็เย็นวันนี้เอง
“คุณชื่ออะไรไม่เห็นบอกผมบ้าง”
“อยากรู้ไปทำไม”
“ผมจะตอบ...ถ้าคุณรับนี่ไปก่อน”
ชายหนุ่มทำลีลาไม่ตอบ และยังยื่นตะกร้าให้หญิงสาว ซึ่งคนที่ไม่อยากจะรับจำต้องเอามันไปอุ้มถือไว้อย่างช่วยไม่ได้ เมื่อเห็นคนมาเยือนยิ้มมุมปากก็อดหมั่นไส้ไม่ได้
“วันก่อนที่เรานั่งรถมาด้วยกัน จำได้รึเปล่า? ว่าคุณพูดกับผมว่ายังไง”
“ไม่ได้! เพราะไม่อยากจำ”
“แน่ใจ?”
ร่างสูงโปร่งที่เห็นใบหน้าตึงๆ จากหญิงสาวแสร้งเย้าถาม คนตรงหน้านี้น่ารักน่าแกล้งดีเหมือนกัน
“ย่ะ!”
“งั้นก็แล้วไป ลองชิมนี่หน่อยสิคุณดุจหทัย”
สิ่งที่ได้ยินทำให้หญิงสาวถึงกับเบิ่งตามองเขา
“หรือจะให้เรียกว่านกยูงดีล่ะ”
คราวนี้กลับโตกว่าเดิมอีก
“คุณรู้ชื่อของฉันได้ยังไงกัน”
“ผมเป็นเพื่อนบ้านของคุณนะครับ...คุณป้านกยูง”
“ที่แท้ก็รู้จากปากเจ้าหมูหยองนี่เอง”
เจ้าของบ้านหลังนี้ที่อยู่มานานตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อแม่รู้สาเหตุแล้วว่าใครที่ปากโป้งบอก และคิดว่าคงต้องปรามดวงชีวากับสามีที่ปล่อยให้ลูกชายไปเพ่นพ่านคนแปลกหน้าได้ยังไง แม้ว่าจะเป็นเพื่อนบ้านกันก็ตามที
“หลานชายคุณน่ารัก”
“แต่ตอนนี้ไม่แล้วล่ะ...ว่าแต่คุณจะกลับได้รึยัง? ฉันจะเข้าบ้านแล้ว”
“ลองชิมนี่ดูก่อนสิ”
“ไม่! ฉัน...ยังไม่หิว”
ดุจหทัยปฏิเสธ ใครจะกล้ากินของคนแปลกหน้า เกิดเขาวางยาจะปล้ำเธอขึ้นมาจะว่ายังไงกันเล่า? ผู้ชายบางคนเช่นน้องเขยเคยบอกบ่อยๆ ว่าชอบคนอวบอั๋น แล้วถ้าเกิดคนตรงหน้าคิดแบบนั้นบ้าง มันคงไม่คุ้มแน่นอนกับความสาวที่รักษามาเนิ่นนานจนจะ 30 ปีอยู่รอมร่อนี้แล้ว
“แต่ฉันกินแน่ๆ ไม่ต้องห่วง...พรุ่งนี้เอาตะกร้าไปคืนนะ”
“อืม”
“เข้าบ้านแล้ว”
เธอบอกเขาแค่นั้น ก็รีบเดินเข้าบ้านพลางปิดประตูรั้วอย่างรวดเร็ว คิดในใจว่าจะกินหรือไม่กินของที่โอบอุ้มไว้เป็นอย่างดี เมื่อเดินจนจะถึงชานหน้าบ้านซึ่งจุดที่คุยกันแค่สิบเมตร ก็มองย้อนไปดู ปรากฏว่าร่างสูงโปร่งหายไปแล้ว และแล้วก็ตามมาด้วยแสงไฟนีออนเปิดสว่างโร่แถมเสียงเพลงเพราะๆ ดังขึ้นมาดังเช่นทุกเย็นของวันก่อนหน้านี้ โดยไม่รู้เลยว่าตัวเธอเองได้กลายเป็นหัวข้อสนทนาไปเสียแล้ว
“จะให้ออกปักษ์นี้เลยเหรอพระนาย”
เสียงหวานแต่สมวัยจากปลายสายถามขึ้น
“พี่พะแพง...คิวนี้ผมขอก่อนนะ ปักษ์หน้าเอาอาหารสเปนลงก็แล้วกัน”
คัตสึโมะโตะที่ถอดเสื้อยืดตัวโคร่งออกรีบบอก แล้วหยิบเสื้อกล้ามมาสวมใส่แทน อีกสักพักเขาจะไปออกกำลังกายด้วยการเตะกระสอบทรายตรงหน้าบ้านเรียกเหงื่อสักหน่อย แม้ว่าจะเสียไปไม่น้อยกับการทดลองทอดไก่หาดใหญ่ที่เคยไปชิมถึงถิ่น ครั้งไปเที่ยวกับพี่สาวคู่แฝดชื่อเอริกะ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
“แต่ฉันโปรยไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วว่าครัวทัวร์เมินของเธอน่ะ...จะพาไปกินหอยทากเอสคาโด้แบบบ้านๆ ที่ร้านแถวถนนปั้นตัดสาธรอ่ะ...เนี่ยคนอ่านเค้ารอรีวิวอยู่”
“คราวนี้ผมขอ”
“เพราะ...”
“ไม่มีอะไร แค่เปลี่ยนบรรยากาศ...หลายฉบับแล้วที่พี่ลงแต่อาหารฝรั่ง”
น้องชายฝาแฝดให้เหตุผล ซึ่งก็ฟังขึ้นอยู่ ทว่าพี่สาวกลับไม่เห็นด้วย เพราะวางแผนรายการกับทีมงานมานานแล้วถึงร้านอาหารเด็ดๆ ที่ต่างก็ไปตระเวนชิมมาเป็นร้อยแห่งเกือบทั่วประเทศ เพื่อลงในนิตยสารดาราที่มียอดขายติดอันดับหนึ่งในห้า นอกจากนี้ยังมีคนติดตามทางอีบุ๊คสำหรับคอลัมภ์นี้ โดยดูได้จากยอดโหลดในจำนวนสร้างความพอใจให้แก่เจ้าของสำนักพิมพ์ไม่น้อยเลยทีเดียว
“สรุปฉันจะเอาลงก่อน...ส่วนของเธอฉบับหน้านะ”
“เดี๋ยวสิพี่!”
เอริกะที่มักจะเผด็จการกับน้องชายหัวเราะร่วน เมื่อรู้สึกเหมือนกับว่าจะได้ยินเสียงตะโกนทักท้วง หญิงสาวซึ่งเคยเป็นนางแบบชั้นนำของญี่ปุ่นอยู่หลายปี กระทั่งอิ่มตัวในวัย 30 ปี จึงแต่งงานแล้วย้ายกลับมาอยู่ยังบ้านเกิดของบิดาเพื่อสืบทอดกิจการผลิตสิ่งพิมพ์ต่อไป
“อะไรอีก”
“ผมเจอคนที่จะมาเป็นนางแบบแล้ว”
ชายหนุ่มรีบบอก
“ทำไม? สวยกว่าที่ฉันหาให้งั้นเหรอ...เทพธิดาช้างสวยๆ ทั้งนั้น แถมแต่ละคนก็ดูดี...มีหน้ามีตาในสังคมทั้งหมอ...พยาบาล...นักธุรกิจ...หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เธออย่างได้นะพระนาย”
“พวกนั้นดังแล้ว”
“แต่คนโนเนมมันจะทำให้หุ้นส่วนของเราเขาไม่ปลื้ม”
พี่สาวที่เก่งกาจ และปราดเปรื่องทางธุรกิจมากกว่าเขา พูดจาภาษาไทยได้ฉะฉานกว่า เพราะรู้ว่าต้องมาสืบทอดงาน อีกทั้งมีความชื่นชอบทางด้านนี้อยู่เป็นทุน ทำเสียงจิ๊จ๊ะออกมาให้ได้รู้
“รับรองน่า”
“แต่ฉันไม่เชื่อเธอ เอางี้...พบกันครึ่งทาง เธอก็ยุ่งกับคนของเธอ...แต่พี่จะปลุกปั้นคนของพี่ แล้วเราค่อยมาคุยกันเรื่องนี้วันนี้เอเย่นส์ของนิตยสารฉบับนั้นมาคุยกับทางเรา”
“ทำไมพี่ถึงได้กระโดดลงมาจับงานนี้ ทั้งที่...”
“พี่คิดว่ามันน่าสนใจ”
คนที่ดีลงานนี้ตั้งแต่เริ่มต้น ถึงกับทำหน้าเซ็ง ขณะเดินกระแทกเท้าออกมารับลมนอกบ้าน
“ผมเป็นคนจับงานนี้”
“ฉันรู้”
“โปรเจ็คส์นี้มันเป็นของผม”
น้องชายพยายามย้ำชัด แม้จะรู้ดีว่าพี่สาวฝาแฝดถ้าคิดจะทำสิ่งไหนก็จะลงมือเต็มที่ และยิ่งแสดงตัวชัดเจนแบบนี้ เขาก็คงต้องพยายามให้มากกว่าเดิมเสียแล้วกระมัง
“แล้วใครบอกไม่ใช่”
“โอเคๆ...ตามใจพี่แล้วกัน แต่ถ้าคนของผมผ่าน...พี่ต้องหยุด”
“เออน่า”
“ผมอัดคลิปเสียงไว้แล้วกันพี่กลับคำ”
ปลายสายถึงกับล้งเล้งเมื่อโดนดัดหลัง ฮึ่มฮ่ำคาดโทษ แต่ชายหนุ่มไม่สนใจตัดสายทิ้ง พลางถอนหายใจด้วยสาเหตุที่เคยโดนฉกงานไปต่อยอดอยู่บ่อยครั้ง แม้ว่าทุกอย่างที่ทำจะเพื่อช่วยให้งานของเขาสำเร็จลุล่วงก็ตาม หากคนที่ลงมือทำแต่แรกไม่ปรารถนาความภาคภูมิใจที่สามารถคว้าชัยมาได้ด้วยตัวเองมากกว่า
ร่างสูงโปร่งวางโทรศัพท์ลงกับโต๊ะกลางของชุดรับแขกทำจากหวายสีน้ำตาลค่อนข้างเข้ม ก่อนจะทรุดตัวลงเพื่อสวมรองเท้ากีฬา ทว่ากลับชะงักเมื่อได้ยินเสียงกริ่งมาพร้อมๆ กับเสียงเล็กๆ ตะโกนเรียกชื่ออยู่อย่างดีใจว่าวันนี้เพื่อนบ้านคนใหม่ก็ไม่ได้ไปทำธุระที่ไหนเช่นเมื่อวาน
“หมูหยองนั่นเอง”
มือเรียวข้างที่ไม่ได้เปิดประตูรั้วเอื้อมไปขยี้เส้นผมหยิกหยอย แต่ทำให้เด็กชายดูน่ารักมากในสายตาใครต่อใครที่ได้มอง จนอดที่จะอมยิ้มไปตามๆ กัน
“หวัดดีคับอาพระนาย”
“ครับผม”
“คิดถึงอาพระนายจัง”
เด็กชายภควัฒน์รีบบอกอ้อนเอาใจ พร้อมกับยื่นตะกร้าแม่ไก่คืนให้
“หือ?”
คัตสึโมะโตะที่จะเดินนำเข้าไปในรั้วบ้านถึงกับเลิกคิ้วมอง พร้อมกับส่งเสียงราวกับจะถามเพราะแปลกใจว่ายังมีชิ้นไก่ทอดอยู่ในนั้น
“ป้านกยูงบอกว่าให้หมูหยองเอาตะกร้ามาคืนให้”
“อ้าว”
“ส่วนไก่ต๊อดนี่...หมูหยองรับอาฉาจัดการเองคับ เพราะว่าป้านกยูงกินข้าวเย็นมาจากข้างนอกแย้วคับ”
ร่างกลมรีบอธิบายตามที่ดุจหทัยบอก ขณะที่ยืนรอส่งหลานเมื่อครู่
“งั้นเหรอ”
ชายหนุ่มจูงเพื่อนบ้านตัวเล็กเข้าไปด้านใน ก่อนจะปิดประตูให้เรียบร้อย เขารู้ดีว่าหญิงสาวนั้นเมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็จะทานอาหารเย็นกับเด็กชายคนนี้ แล้วปล่อยให้เล่นซนสักพักหลังจากนั้นก็พาไปอาบน้ำ ก่อนจะมานอนดูทีวีบริเวณห้องรับแขกเพื่อรอน้องสาวและสามีกลับมาจากร้าน
“แต่หมูหยองไม่เชื่อป้านกยูงหยอก”
“ทำไมล่ะครับ”
ตอนนี้ทั้งคู่ต่างก็เดินเลยเข้ามาในครัวแล้ว
“ก็เหล่มองไก่ตอนที่ส่งให้หมูหยองไง...หมูหยองแค่มองตาป้านกยูงก็ยู้แย้วว่าน้ำลายฉออ่ะ”
เด็กชายภควัฒน์ได้ทีโม้เต็มที่ ขณะมองเจ้าของบ้านหยิบชิ้นไก่จากในตู้กับข้าว แล้วก็พะโล้ขาหมูไข่กับผัดเห็ดสามอย่างลงบนถาด จากนั้นเดินนำร่างกลมไปที่โต๊ะอาหาร ซึ่งมีชั้นเตี้ยๆ วางคั่นไว้
“อาพระนายทำเองเหยอ?”
“ใช่”
คัตสึโมะโตะตอบ แล้วเข้าไปตักข้าวมาสองจานด้วยปริมาณมากพอควร เพราะวันนี้เขามัวแต่สนใจปั่นต้นฉบับ พร้อมกับเคลียรงานที่บริษัทจนละเลยที่จะเติมพลังงานให้กับร่างกาย แถมเมื่อกี้ยังกังวลว่าจะไม่ได้ออกกำลังกายอีกต่างหาก จึงรีบเปลี่ยนเครื่องแต่งกายไปซ้อมชกกระสอบทราย
“เก่งเหมือนป้านกยูงเยย”
“อาเดาได้ เพราะป้านกยูงตัวอ้วนแบบนั้น...คงทั้งทำทั้งกินตลอดเวลาเลยสิ”
ร่างกลมพยักหน้าเร็วจี๋
“แถมยังงกด้วย”
“นี่เขาเรียกว่านินทาใช่รึเปล่า”
“ใครบอก! เรียกว่าพูดถึงด้วยฟามรักตะหาก”
ร่างสูงโปร่งตักไข่ใส่จาน แล้วตัดแบ่งครึ่งหนึ่งให้เพื่อนใหม่วัยเด็ก เพื่อจะได้หั่นง่ายขึ้น ไม่กลิ้งไปกลิ้งมาจนบางทีหล่นลงพื้น อย่างที่เขาเคยโดนมาตอนเด็กๆ แถมยังโดนพี่สาวล้อเลียนกับความซุ่มซ่ามอยู่นานพอควรอีกด้วย
“กินเห็ดได้มั้ย”
“ชอบคับ”
“มีอะไรที่เราไม่ชอบบ้าง”
คนถูกถามส่ายหน้า ขยับปากเคี้ยวตุ้ยๆ อย่างเอร็ดอร่อย แต่ก็โชว์แมนตักกับข้าวคืนให้บ้าง
“กินได้ทุกอย่าง...ถึงได้ตัวอ้วนกลมแบบนี้”
“คับ”
“ถ้าอาจะชวนหมูหยองลดความอ้วนเอามั้ย”
เด็กน้อยที่อยู่ในวัยเจริญอาหารทำสีหน้าคล้ายจะเข้าใจ เพราะเคยได้ยินผู้เป็นแม่พูดบ่อยๆ ตอนที่กินอาหารเข้าไปมากๆ จนอิ่มตื้อ
“แล้วมันเป็นไง”
ไข่ครึ่งของครึ่งลูกที่โดนจิ้มเข้าปากหลังจากออกปากถาม ส่งผลให้คนมองถึงกับอมยิ้มในความน่ารักไร้เดียงสา
“ก็ลดอาหารให้น้อยลงนิดหน่อย แล้วก็ออกกำลังกายให้มากขึ้นหน่อยนึง”
“นิดเดียวแน่เหรอ”
“ครับ”
“แย้วทำไมเวลาแม่ลดฟามอ้วนถึงไม่กิน’ไยเยย นอกจากชาเขียว...แม่บอกว่าช่วยเผาผลาญไขมันด้วย แต่ป้านกยูงนี่ไม่หวาย...กินทั้งวันเลยคับ อ้วนเป็นหมูเหมือนเพื่อนของหมูหยองหลายคน รู้ปะว่าไม่มีผู้ชายที่ไหนสนใจหรอกเนอะอาพระนาย”
ชายหนุ่มถึงกับพ่นหัวเราะว่าอีกฝ่ายไม่ได้นินทาแต่พูดถึงด้วยความรักต่อคนเป็นป้าด้วยสีหน้าระรื่น โดยเขาก็ไม่ได้ถามคุยอะไรอีก นอกจากรับประทานอาหารพลางตักกับข้าวใส่จานให้เด็กชายให้ไม่ขาดมือ กระทั่งอิ่มหมีพีมันทั้งสองหนุ่มจึงช่วยกันล้างจาน ทว่าแขกประจำเกือบทั้งอาทิตย์นั้นอาสาเป็นฮีโร่จัดการเอง ซึ่งเจ้าของบ้านมีหน้าที่แค่รับเอาจานไปเก็บเท่านั้นเอง
“อาพระนาย”
“ว่าไง”
ร่างสูงโปร่งที่อิ่มตื้อ ถามเสียงทุ้ม ขณะที่ร่างกลมนั่งเบียดบนโซฟาราวกับขี้เกียจหนักหนา แต่ที่ไหนได้มือป้อมขยับเครื่องไอแพด บังคับเกมส์แข่งรถได้อย่างคล่องแคล่ว ดวงตาก็ไม่มีแววจะง่วงงุนสักนิด ทั้งที่ปรกติแล้วหลังทานข้าวเย็นเสร็จจะนั่งเล่นกับเขาสักครึ่งชั่วโมงแล้วก็รีบกลับบ้านไปนอน
“วันอาทิตย์นี้...อาพระนายไปกินข้าวเย็นบ้านหมูหยองนะ”
“ได้”
“แล้ววันนี้ขอยืมไอแพดไปเล่นที่บ้านได้ป่าวคับ”
ใบหน้ากลมใสเงยขึ้นมองอย่างมีความหวัง
“แล้วหมูหยองมีอะไรมาแลกกับอาบ้างล่ะ”
“เลี้ยงข้าวอาพระนายไง”
“เฮ้ย! ได้ไง? อันนั้นเราหายกันสิ...หมูหยองมากินข้าวบ้านอา แล้วเลี้ยงคืนก็เสมอกันแล้วจริงมั้ย...เอาอย่างนี้วันอาทิตย์อาจะไปห้างฯ หมูหยองชวนป้านกยูงไปเที่ยวด้วยกันมั้ยล่ะ”
เด็กชายภควัฒน์เลิกคิ้วชั่วครู่ ก่อนจะทำปากจู๋สั่นไปมาเหมือนคิดอะไรบางอย่างไม่ตก
“พอดีอาจะไปซื้อเครื่องเขียน เอ...ตอนนี้เด็กผู้ชายกำลังฮิตการ์ตูนเบนเทนใช่มั้ย”
“เบ็นเทน!”
เพียงเท่านี้ร่างกลมก็ตัดสินใจได้ไม่ยาก แม้ว่าที่บ้านจะข้าวของเครื่องใช้หลายชิ้นอย่างเครื่องนอน ชุดนอน หรือผ้าเช็ดตัว ยังไม่นับจักรยานอีกต่างหาก แต่ถ้าได้เพิ่มมาอีกก็ไม่น่าจะเป็นอะไรนี่นา
“ไปมั้ย?”
“คับ”
“งั้นหมูหยองคงไม่ลืมที่อาบอก”
คัตสึโมะโตะไม่วายย้ำอีกครั้ง โดยแพลนว่าจะพาดุจหทัยไปลองเสื้อผ้า พร้อมกับถ่ายรูปในอิริยาบถต่างๆ เพื่อทำเป็นฟอร์ทพอลิโอเสนอให้เอเย่นส์จากนิตยสารที่เป็นคู่ค้ากัน เวลาเกือบสองอาทิตย์ที่เสียไปเพราะตระเวนหานางแบบร่างอ้วนเพื่อเข้าร่วมโปรเจ็คส์นี้ แต่สุดท้ายก็พบว่าคุ้มค่าเมื่อหญิงสาวที่เขาพบเจอคนล่าสุดนั้น นับได้ว่ามีเค้าสวยหวานราวกับดาราละครหญิงคนหนึ่งเลยทีเดียว และเพราะเหตุนี้ทำให้เขาทนรอแทบไม่ไหวว่าพอครบ 100 วันในการเข้าโปรแกรมลดความอ้วน แล้วเธอจะเป็นอย่างที่คิดไว้หรือไม่
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น