ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หวงรัก

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอน 2

    • อัปเดตล่าสุด 16 ม.ค. 54




    กลิ่นอาหารหอมกรุ่นลอยโชยกระทบจมูกโด่งของมหิศร คุณานุรักษ์ ชายหนุ่มซึ่งมีรูปร่างสูงใหญ่ อีกทั้งบึกบึนแข็งแรงเพราะเคยเป็นหน่วยนาวิกโยธินมาก่อน เพียงแค่ย่างเท้าเข้าสู่ตัวบ้านไม่กี่ก้าว เสียงทักด้วยความดีใจจากแม่บ้านดังขึ้น พร้อมกับเสียงเห่าขรมของลูกหมาสามตัวที่วิ่งพรวดเข้ามาแย่งงับขากางเกง ราวกับรู้จักกันมาก่อนกระนั้น ก็ทำให้เขาถึงกับขมวดคิ้วสงสัย

    อะไรกัน...เจ้าหมาพวกนี้

    น้ำเสียงฉุนเฉียวเมื่อพวกมันไม่ยอมล่าถอยให้เขาได้เดิน

    ใจเย็นๆ ค่ะ พวกมันก็แค่อยากเล่นด้วยเท่านั้น

    ป้าวรรณ

    แม่บ้านเก่าแก่รีบเข้ามาหา พลางไล่หนึ่งในตัวกลมเหล่านั้นให้ออกไปจากเจ้านายหนุ่มแต่ดูท่ามันจะดื้อเหลือเกิน ยิ่งห้ามมันยิ่งงับแน่นขึ้นอีก จะให้สะบัดขาหนีจนมันลมกลิ้งก็ให้นึกสงสาร

    คุณมาศสั่งป้าว่า...คุณหมิงเดินทางกลับมาเหนื่อยๆ ให้ไปอาบน้ำอาบท่าก่อน ท่านรอทานอาหารเย็นตอนสองทุ่มค่ะ

    ทานเลยก็ได้ คุณแม่จะได้ไม่ต้องรอ

    ถ้าอย่างนั้นก็ เชิญที่ห้องอาหารเลยค่ะ...อุ๊ย! หนูครีม ปล่อยคุณหมิงก่อนเหอะ

    หนูครีม? ชื่อหมาเหรอเนี่ย

    มหิศรเหยียดปากก่อนจะหัวเราะขำ ขณะเลิกคิ้วถามคล้ายไม่อยากจะเชื่อหู ก้มลงช้อนหมาตัวเมียสีขาวครีมไว้มือเดียว จ้องตามันไม่กระพริบ ก่อนจะวางมันลงพื้นตามเดิม หมดความสนใจโดยไม่รู้ว่าเดือนเสี้ยวซึ่งแอบอยู่หลังเสารีบก้าวมาคว้ามันไว้ในอ้อมอกอย่างรวดเร็ว ขณะที่อีกสองตัวพยายามตะเกียกตะกายขึ้นหน้าตักบ้างเช่นกัน

    ร้ายจังพวกแกเนี่ย...ซนดีนัก ถ้าเขาจับไปทำหมาหัน พี่แตงโมช่วยไม่ได้หรอกนะจะบอกให้

    งี๊ดๆๆๆ

    เจ้าโกโก้ พี่ใหญ่สุดร้องหงิงๆ ซุกหน้ากับอกคล้ายจะออดอ้อนจนหญิงสาวต้องใจอ่อน โอบลูกหมาทั้งหมดไว้ในอ้อมแขนแล้วรีบพาลงไปขังไว้ในกรงพร้อมกับชามนมใบโตให้กินกันอิ่มหนำ ก่อนจะรีบย้อนกลับขึ้นตึกเพราะมารดาของมหิศรสั่งไว้ให้ไปทำความรู้จักกับลูกชายที่กลับจากต่างประเทศในวันนี้

    +++++

                    สองสามีภรรยาสูงวัยกำลังนั่งละเลียดสลัดผัก พลางพูดคุยกันเรื่องข่าวเด่นประจำวันหลายต่อหลายเรื่องต่างหันมองผู้มาใหม่ ผกามาศนั้นถึงกับวางส้อมโดยไว ลุกขึ้นรวดเร็วแล้วอ้าแขนกว้างรับร่างกำยำเข้าอ้อมกอดด้วยความคิดถึงเป็นอย่างมาก

                    แต่แล้ว...กลับทำจมูกฟุดฟิด ขณะจะหอมแก้มสากของลูกชาย

    นี่ตาหมิง! ไปตกถังน้ำหอมมารึไง?”

    คุณแม่ครับ”

    มหิศรท้วงเบาๆ พลางถอนตัวออกห่าง ประคองให้ท่านนั่งลงที่เดิม แล้วร่างสูงนั้นยกมือไหว้อรรถ ซึ่งตบเบาะเก้าอี้ข้างตัวเป็นเชิงเชื้อเชิญให้ลูกเลี้ยงนั่งข้างๆ...กว่าจะจีบแม่ของชายหนุ่มคนนี้ได้ ก็ใช้เวลาเทียวไล้เทียวขื่อกว่า 10 ปี นั่นคงเพราะลูกชายที่ห่วงคนเป็นแม่ว่าจะโดนผู้ชายหลอก จึงไม่ยอมให้มีรักใหม่สักที

    เป็นยังไงเรา...เที่ยวสนุกรึเปล่า”

    ครับ…ผมเองยังอยากให้คุณลุงกับคุณแม่ไปด้วย เวนิสที่มาเก๊าก็ไม่เลวนัก เผลอๆ อาจจะชวนกันไปสวีทต่อที่อิตาลีเลยก็ได้”

    อืม...น่าสนใจ ไปมั๊ย...คุณมาศ”

    มารดาค้อนใส่ เพราะยังเคืองไม่หายที่ลูกชายไม่ยอมฟังคำขอร้องเรื่องคู่ครองสักนิดเดียว

    กลัวติดใจจนไม่อยากกลับ...ทีนี้ตาหมิงคงดีใจจนเนื้อเต้นที่ไม่ต้องมีแม่มาคอยบ่น คอยว่า คุณเองก็เห็น...ขนาดลองวีคเอ็นด์อย่างนี้ ลูกชายของมาศยังไม่คิดจะโผล่ไปเยี่ยมที่เมืองจันท์เลย ปล่อยให้สองตายายขับรถปุเลงๆ มาหาถึงกรุงเทพฯ”

    แม่เรา...น้อยใจจนกินอะไรแทบไม่ได้ หมิง...ดูสิ ผอมไปเกือบสองขีดได้มั๊ง”

    อรรถแหย่ภรรยาที่บ่นยืดยาว ตอนนี้ทำหน้าตูมค้อนส่งใส่สามีด้วยอีกคน

    ไม่เอาน่า นานๆ ได้เจอลูกทีหนึ่ง อย่าไปบ่นเรื่องสาวๆ ของเขาเลย”

    ใช่สิ! พูดถึงสาวๆ ฉันเพิ่งนึกออก...วรรณ ไปดูสิ...ยายแตงโมอยู่ไหนเนี่ย”

    สิ้นเสียงสั่ง ร่างตุ้มตุ้ยของแม่บ้านสูงวัยรีบขยับไปตามหญิงสาวที่เจ้านายเอ่ยถึง ทว่าแค่ขยับออกจากห้องก็พบร่างอวบกลมรีบเร่งเดินมาหาอยู่แล้ว

    เอ้า! มาแล้ว นั่งข้างป้าเลย”

    สวัสดีค่ะ”

    เดือนเสี้ยวมิได้รอให้มหิศรได้เอ่ยปากถามว่าเป็นใคร เมื่อนั่งลงแล้วจึงรีบยกมือไหว้พร้อมทักทายเพื่อแสดงความเคารพบวก ในฐานะที่เขาอาวุโสกว่ารวมถึงเป็นลูกชายของผกามาศ

    ชื่อแตงโมรึเรา”

    ใช่ แกมีปัญหาอะไร...ตาหมิง”

    เปล่าครับ”

    ถ้างั้นก็ทานข้าวก่อนแล้วกัน อิ่มแล้วค่อยคุยกันก็ได้”

                อาหารตรงหน้านอกจากต้มขาหมูแล้วยังมีรสชาติจัดจ้านจำพวก ปลาเก๋าราดพริก ปลกดุกทะเลผัดฉ่า แกงป่าเนื้อ และที่สำคัญของโปรดที่ลูกชายของผกามาศชอบมากเป็นพิเศษคือยำปูม้าดอง ทุกอย่างถูกลิ้มชิมรสจนชายหนุ่มถึงกับเติมข้าวสวยเป็นจานที่สอง

    ไปมาเก๊ามา อาหารที่นั่นรสชาดคงจืดชืดไม่ถูกใจล่ะสิ”

    คุณแม่รู้ใจผม”

    ย่ะ...แค่อ้าปากแม่ก็เห็นลิ้นไก่”

                    คนเป็นแม่ย้อนเข้าให้ เพราะรู้ว่าไอ้ที่ทำหน้ายิ้มๆ นั่นคงนึกถึงอะไรบางอย่างที่มันคงจะร้อนแรงจนลืมแม่ลืมเชื้อได้

     

    เป็นลูกผู้ชาย แถมหนุ่มแน่นอย่างนี้ มันก็ต้องมีบ้างใช่มั๊ยล่ะหมิง”

    บิดาเลี้ยงแกล้งแซวอีกทั้งตักขาหมูลงบนจานให้อีกด้วย

    ในเมื่อแข็งแรงขนาดนี้...เอ้า กินขาหมูตุ๋นเห็ดหอมเพิ่มไปอีกหน่อยแล้วกัน ฝีมือหนูแตงโม...ลุงเองติดใจจนต้องให้ทำให้กินบ่อยๆ”

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ มหิศรเองก็ไม่แปลกใจเพราะหุ่นอันแสนอวบอั๋นของสาวน้อยที่นั่งละเลียดยำวุ้นเส้น น่าขำนัก หากตอนนี้จะมาลดความอ้วนคงจะไม่ทันแล้วกระมัง เขาละสายตาจากเธอแล้วเลื่อนจานให้กับอรรถที่ตักอาหารชนิดนั้นให้

    คุณลุงไม่อ้วน  ยังไงก็สบายๆ อยู่แล้ว”

    ใครบอก แม่เรากำชับให้เลาะไอ้ตรงที่เป็นไขมันออก เหลือแต่เนื้อแดงแบบนี้มันจะไปอร่อยเหมือนต้นตำรับเท่าไหร่เชียว”

    น้อยๆ หน่อยเถอะค่ะ ไอ้อาหารอิ่มไขมันพวกนี้”

    โทษยายแตงโมดีกว่าที่ทำอาหารอร่อยเกินไป จนลุงนิสัยเสีย”

    เดือนเสี้ยวหัวเราะเบาๆ ก่อนจะย่นคอเมื่ออรรถชี้นิ้วคาดโทษอย่างเอ็นดู เด็กสาวตัวน้อยเมื่อ 17 ปีก่อน ตอนนั้นเธอยังอายุแค่ 4 ขวบ ใบหน้าเกรอะกรังด้วยหยาดน้ำตา ขี้มูกย้อยถูกปาดถูไปมาด้วยมือป้อมๆ ส่วนอีกข้างเขย่าร่างของผู้เป็นพ่อที่นอนจมกองเลือดอยู่ในสวนผลไม้ของเขา หากคนงานไม่ไปเจอเข้า ไม่รู้ว่าป่านนี้ชะตากรรมของสองพ่อลูกจะเป็นอย่างไรบ้าง

    หมิงอิ่มแล้วเหรอลูก...ถ้างั้นก็ทานสละลอยแก้วปิดท้ายแล้วกัน ไม่หวานหรอกน่า...เชื่อแม่”

    ผกามาศรีบสั่งให้แม่บ้านรีบเสริ์ฟของหวานให้ลูกชายโดยไว เมื่อเห็นว่าเขารับประทานได้มากก็นึกชอบใจ กระทั่งทั้งหมดย้ายมานั่งในห้องโฮมเธียเตอร์ที่สองชายหญิงสูงวัยมักจะมานั่งชมรายการสารคดีรวมถึงข่าวเป็นประจำ หากวันนี้กลับมีเรื่องต้องพูดคุยกันมากกว่า

    อิ่มเหลือเกินคุณมาศ สงสัยว่าพรุ่งนี้ต้องเริ่มไดเอ็ดอีกแล้วสิเนี่ย”

    คงงั้นแหละค่ะ สงสัยป้าต้องกำชับพ่อธีร์ของเราให้ทำแต่น้ำพริกผักลวกให้ลุงอรรถทานทุกมื้อซะแล้ว”

                    ชายหนุ่มยกแก้วชาร้อนขึ้นจิบ กวาดสายตามองหญิงสาวที่มารดากำลังเอื้อมมือไปลูบต้นแขนอวบโผล่เสื้อแขนกุดสีฟ้าสด ราวเอ็นดูหนักหนา ไม่อยากจะเชื่อว่าท่านจะเอ็นดูใครเป็นพิเศษ เพราะกับรุ่งอรุณ ที่เคยพบเจอกันครั้งหนึ่งในงานแต่งของลูกสาวคนกลาง พูดจากันแทบนับคำได้

    เอาล่ะ...เข้าเรื่องของเราดีกว่า ตาหมิง...แม่จะให้หนูแตงโมมาเป็นผู้ดูแลส่วนตัวของลูก”

    ห๊า! คุณแม่พูดอะไรนะครับ”

    คราวนี้เขาถึงกับสำลัก พ่นน้ำชาจนหกเลอะเทอะ

    อะไรกัน...เรานี่ ไม่รู้จักสำรวมซะบ้าง”

    ผกามาศแสร้งดุก่อนจะทำเฉไฉ เพื่อลอบสบตาเต้นระริกกับเดือนเสี้ยวซึ่งเอี้ยวตัวช่วยรับชามขาหมูพะโล้เพื่อวางตรงหน้าชายหนุ่ม ที่มองเห็นเล็บมือทาสีฟ้าปลายเล็บ ส่วนด้านล่างวาดลวดลายเป็นดอกไม้สีขาวกระจุ๋มกระจิ๋มดูน่ารัก แต่สำหรับเขากลับเหยียดยิ้ม ทำนองดูถูกว่าร่างอวบตรงหน้านี้ช่างแต่งตัวเก่งเหลือเกินก็แค่นั้น

    ขอโทษครับ...ผมตกใจ

    แค่ตกใจ แต่แหกปากร้องซะลั่นบ้านแบบนี้นะเหรอ แม่ว่าหมิงตั้งใจจะโวยวายใส่แม่มากกว่ามั๊ง

    คุณมาศไม่น่าเอาน่า

    สามีปราม แต่ทว่ากลับกลั้วหัวเราะเมื่อภรรยาทำหน้างอใส่เขา อีกทั้งลูกชายที่ส่งยิ้มแหยคืนไปให้ หากไม่กี่วิ ร่างสูงนั้นขยับนั่งตัวตรง ไม่มีท่าทางสบายๆ ให้เห็นเช่นก่อนหน้า

    ตกลงว่าเด็กของคุณแม่นี่...จบโภชนากรมาหรือครับ

    เปล่า

    มหิศรขมวดคิ้วมุ่น แต่แล้วก็คลายลง ยิ้มคล้ายจะเยาะเดือนเสี้ยว ตั้งใจจะหาเรื่องเหน็บให้ฝ่อไปเลย

    ผมก็คิดว่าไม่ใช่เหมือนกัน เพราะไม่งั้นคงไม่อ้วนตุ๊ต๊ะแบบนี้หรอก สงสารคนสอนที่ลูกศิษย์กลายเป็นหมูเด้ง

    เอ๊ะ! หมิงนี่

    คนเป็นแม่โน้มกายจากโซฟาตัวใหญ่ ไปตีแขนกำยำสุดแรง นึกอายแถมโกรธแทนเดือนเสี้ยวที่อ้าปากค้างก่อนจะหุบฉับเมื่อรู้สึกตัว เผลอสะบัดค้อนใส่สายตาคมเข้มที่มองไม่หลบเช่นกัน

    ผมพูดความจริง คุณแม่ไม่น่าเก็บมาเป็นอารมณ์

    ย่ะ! พ่อคนมีเหตุผล

    แต่จะว่าไปก็ดีเหมือนกัน เพราะรู้สึกพักนี้ผมเองก็ไม่มีเวลาดูแลตัวเองเท่าไหร่

    แน่ใจเรอะเราที่พูดแบบนี้

    มหิศรยิ้มมุมปาก ขณะที่ตบเบาะข้างตัว เรียกให้ร่างอวบขึ้นนั่ง แต่ดูเหมือนเธอจะสนใจแต่บีบนวดให้มารดาซึ่งหรี่ตามองลูกชายคนโตด้วยไม่ไว้วางใจ

    เธอ...ตุ๊ต๊ะ มานั่งตรงข้างๆ ฉันนี่สิ

    หมิง...น้องชื่อแตงโม

    คราวนี้อรรถเป็นคนแก้ไขให้ แต่ชายหนุ่มกลับไม่จำ เรียกย้ำและซ้ำกันสองครั้งซ้อนจนร่างอวบจำใจลุกขึ้นมานั่ง แต่ยังรักษาระยะห่างเกือบสองช่วงตัวจนแทบจะเกยพนักโซฟาอีกด้าน

    จบอะไรมานะเรา ถึงได้อาสาจะมาดูแลฉัน

    การโรงแรมค่ะ

    คำตอบนี้ทำให้คนที่เดือนเสี้ยวต้องมาดูแลถึงกับเคาะนิ้วกับพนักโซฟาอย่างต้องการใช้ความคิด พร้อมกับใช้สายตาพิศมองร่างอวบว่าอย่างน้อยคงจะอดทนกับอารมณ์ของเขาได้ไม่มากก็น้อยล่ะน่า

    การโรงแรม...ไอ้ที่เข็นรถใส่สบู่แชมพูจำพวกนั้นนะเรอะ เออดี...นี่แสดงว่าปูเตียงให้ตึงก็ได้ หรือขัดห้องน้ำก็เก่งใช่มั้ย

    ก็...

    ได้ยินคำถามปนดูถูกในอาชีพทำให้เดือนเสี้ยวถึงกับอึ้ง พูดเถียงไม่ออกเลยทีเดียว ร้อนถึงผกามาศต้องเอื้อมมือมาบีบแขนของหญิงสาวเบาๆ ให้ขวัญและกำลังใจ

    หมิง!”

    คุณแม่ ทนเห็นลูกรักโดนผมต้อนไม่ได้หรือไงครับ

    ลูกชายแกล้งยียวนใส่มารดา จนนางค้อนตาคว่ำ แต่ในเมื่อเขาบอกว่าเป็นลูก ก็รับสมอ้างเอาเสียเลยจะเป็นอะไรไป

    ลูกรัก...อ๋อ...แตงโมนะรึ หมิงนี่รู้ใจแม่จริงๆ ถ้าใครมาว่า แม้แต่ลูกชายตัวดี แม่ก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน

    ผมก็ว่างั้นล่ะครับ ไม่งั้นคุณแม่คงไม่มีท่าทีเอ็นดูกันมากขนาดนี้

    แน่นอนย่ะ รู้แล้วก็ยั้งๆ ไว้บ้างสิ

    ประโยคนี้เรียกเสียงหัวเราะจากอรรถที่ละสายตาจากจอทีวีมามองมหิศรที่เบ้หน้าใส่เดือนเสี้ยวซึ่งทำหน้าปุเลี่ยนๆ และคิดเอ่ยปากตอบเขาให้ไวดีกว่า เพราะไม่อย่างนั้นแม่ลูกต้องมามีปากเสียงเพราะเธอเป็นแน่

    คุณหมิงคะ

    อะไร?”

    คนตัวอวบลอบกลืนน้ำลายกับน้ำเสียงเข้ม

    วิชาการโรงแรม...คือการเรียนเกี่ยวกับทุกด้านที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการบริหาร การให้บริการ โภชนาการ หรือแม้แต่การดูแลทำความสะอาดห้องพักแขก อย่างเติมสบู่แชมพูอะไรอย่างที่คุณหมิงคิด

    แล้วไง?”

    ก็ไม่แล้วไงค่ะ แตงโมแค่จะบอกให้เข้าใจแค่นั้นเอง

    ชายหนุ่มเลิกคิ้ว ท่าทางคล้ายไม่ใส่ใจอยู่ดี อากัปกิริยานี้ทำให้เดือนเสี้ยวที่เอี้ยวตัวไปทางเขา นั่งหลังตรงสองมือไขว้ทับกันบนตัก ดูเป็นการเป็นงานนั้น ถึงกับนึกโมโหอยู่ในใจ อยากจะย้อนให้มากกว่านี้อีก หากยังเกรงเพราะอย่างไรเขาก็เป็นลูกชายของผกามาศ ถ้าเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ทำยียวน แล้วไม่มีผู้ใหญ่สองคนคอยขนาบแบบนี้แล้วล่ะก็

    คงจะได้เห็นดีกันไปข้างหนึ่ง...

    คุณแม่จะให้ตุ๊ต๊ะมาดูแลผมเมื่อไหร่ครับ

    น้องพร้อมตลอดแหละ อยู่ที่หมิง...ว่าจะให้ดูแลได้เมื่อไหร่

    ร่างสูงเคาะปลายนิ้วกับพนักโซฟา พร้อมกับกวาดสายตามองร่างอวบที่ยังทำท่าเหมือนคอแข็งใส่เขาอยู่ และอยู่ดีๆ มือเรียวยาวคว้าหมับข้อแขนซ้ายของเธออย่างเร็ว กำมือไปให้รอบไว้หลวมๆ ไม่รับรู้อาการดิ้นขัดขืนเพื่อจะชักหนีให้พ้นการเกาะกุม

    คุณหมิง! จะทำอะไรคะ

    นี่! ถามหน่อยเหอะ...วันๆ กินอะไรเข้าไป ทำไมมันถึงได้อวบแบบนี้

    หมิง! ถามบ้าๆ นะแก

    และก็เป็นผกามาศนั่นแหละที่แว๊ดเสียงเขียวใส่ลูกชาย ทว่าสามีกลับปรามด้วยสายตาก่อนที่จะเป็นฝ่ายเอ่ยปากชวนภรรยาให้ขึ้นไปพักผ่อน เพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกัน เพราะดูรูปการแล้วคงจะสมน้ำสมเนื้อกันพอดู แม้ว่าเดือนเสี้ยวจะดูอ่อนด้อยกว่าไปสักนิดก็ตาม

    ว๊า...ตัวช่วยไปซะแล้ว

                    สุ้มเสียงดัดให้ดูน่าหมั่นไส้เหลือเกินในความคิดของหญิงสาวที่ฝืนบิดข้อมือ หากอีกฝ่ายไม่ยอมจนเกิดการยื้อยุดฉุดกระชากนานสองนาน จนท้ายที่สุดลืมตัวก้มลงไปกัดหลังมือแกร่งสุดเขี้ยวจนเขาร้องจ๊าก อาการนี้ทำให้ร่างอวบที่ไม่ยอมเงยหน้าถึงกับตาเต้นระริกชอบใจ แม้จะโดนอีกมือผลักใสศีรษะแรงๆ ก็ตาม

    เฮ้ย! ยายตุ๊ต๊ะ...ปล่อยเดี๋ยวนี้!”

    ไม่...ใช่มั้ย?”

    ประโยคที่สองตามมาติดๆ พร้อมทั้งเพิ่มแรงจนเดือนเสี้ยวหน้าหงาย ตัวเลื่อนไปด้านหลังจนก้นกระแทกพนักโซฟา แม้จะตกใจไปสักหน่อยกับวิธีตอบโต้ของเขาก็ตาม ร่างอวบใช้สันมือด้านในปาดมุมปากแล้วนวดเบาๆ ให้หายปวดจากการเกร็งค้างเป็นเวลานาน โดยไม่รู้ว่ากิริยานั้นกระตุ้นให้เขากรุ่นโมโหขึ้นมาเป็นระลอกสอง ทั้งๆ ที่พายุลูกแรกยังไม่แผลงฤทธิ์ด้วยซ้ำ!

    แสบนักนะ!! นี่นะรึที่ว่าจะมาดูแลฉัน...ไอ้ที่ทำอยู่นี่...เขาเรียกว่าอะไร?”

    รอยเขี้ยวคือหลักฐานที่เดือนเสี้ยวปฏิเสธไม่ออก เธอไม่น่าทำเกินกว่าเหตุจริงๆ

    เอ่อคือ...

    ลองไปนอนคิดดูสักคืนสิว่าควรจะประพฤติตัวยังไง ถึงจะได้ชื่อว่ามาดูแล...ไม่ใช่มา...

    ชายหนุ่มหยุดพูด พร้อมกับเลิกคิ้วเป็นเชิงถามนำหมายให้ร่างอวบถาม ทว่าเธอกลับนั่งมองเขานิ่ง ไม่มีทีท่าจะตอบสนองให้รู้สึกสมใจว่าหวั่นกลัวกับท่าทางดุดันที่ทำอยู่นี้สักนิดเดียว

    เธอ!”

    คะ?”

    เมื่อเห็นเดือนเสี้ยวเอียงคอ ทำหน้าตาบ้องแบ๊วใส่ก็ต้องพ่นลมหายใจออกจากปาก ระบายความไม่พึงพอใจโดยไม่อยากหักคออวบๆ ให้สะบั้นคามือเสียก่อน

    เมื่อกี้เธอทำอะไร?”

    กัดค่ะ

    คำตอบนี้ ทำให้มหิศรที่ลุกขึ้นยืนถึงกับยกฝ่ามือตบหน้าผากของตัวเอง ส่ายหน้ากับคำตอบพาซื่อ ก่อนจะเดินหนีขึ้นห้องนอน ไม่หันมองเดือนเสี้ยวที่หัวเราะคิกชอบใจโดยยกสองมือปิดปากกั้นมิให้เสียงเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินอย่างเด็ดขาด ก่อนที่เธอจะลดมันลงแล้วเอ่ยตามหลังไป...

    คุณหมิง...ลูกชายของคุณป้าที่ชอบตีหน้ายักษ์ แถมพูดจาไม่ค่อยรักษาน้ำใจ โดนย้อนซะบ้าง สมน้ำหน้า! เชอะ!”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×