ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โจชัวXอันเซียร์ ฟิกคะ! =..=

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนพิเศษ เกรน:เมย์ ความปรารถนาที่ไม่ใช่หน้าที่(re write)

    • อัปเดตล่าสุด 23 เม.ย. 58




    แฮะๆๆๆๆ =..= ไม่มีอะไรจะแก้ตัวค่ะเพราะ ว่าหายเฮดไปนานเกิ้นนนน

    นานจนถึงขั้นว่า เกิดเหตุการณ์ประมาณว่าเล่นคอนพิมงานไปเรื่อยๆ แล้วจู่ๆเครื่องก็ดับวูบ

    พร้อมกับผลที่ออกมาให้ช็อกหลังจากที่ช่างซ่อมเดินออกมาบอกว่า  วินโดว์หายครับ

    อยากถามจังว่ามันหายไปตอนหนายยยย นัง S_AKU ยังไม่ได้ทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อคอมรุ่นคุณปู่เลยนะ=[]=! และหลังจากนั้นประมาณสองอาทิตย์คุณแม่ก็เดินมาบอกว่า วันนี้อยู่บ้านใช่ไหม ไปซื้อโน้ตบุกกัน

    ตอนนั้น S_AKU มีสีหน้าที่ประมาณO[]O! โอ้แม่ผู้ที่เป็นเหมือนดั่งมหาสมุทรชวนไปซื้อคอม! เป็นไปได้ด้วยเรอะ และนี่เองตอนนี้ นัง S_AKU จึงมีโอกาสที่จะมาลงนิยาย และในขณะที่

    ตอนนี้ว่างๆเลยมาลองฟิกต่อดู แฮ่มๆๆๆ เอาละพูดมากจนคนอ่านคงรำคาญเอาละไปก่อนก็แล้วกันนะคะ

    ขอให้สนุกกับฟิกตอนนี้นะคะ!!!!

    แร้วก็เหมือนเดิมนะคะ คอมเม้นคือยาชูกำลังที่ดีที่สุด สำหรับ S_AKU และ ไรเตอร์คนอื่นๆ เพราะงั้นถึงบางที S_AKU จะมาอัพช้าแต่ขอแค่ เห็นคอมเม้นมาอยู่ในหน้าต่าง มันก็ทำให้S_AKU มีแรงและสปีด

    ที่จะพยายามมาอับต่อแล้วละคะ>o<!

    ---------------------------------------------------------------------         

     






     

    ถ้าถามว่าหน้าที่ของบอร์ดีการด คืออะไร ผมคงตอบได้ทันทีว่าเพื่อดูแลเจ้านาย





    ถ้าถามว่ากลัวไหมถ้าต้องเผชิญหน้ากับความตายทั้งๆที่เราไม่เกี่ยวข้องเลย

    ผมคงตอบอย่างเบาๆพร้อมกับมองซ้ายขวาว่า กลัวเหมือนกัน





    ถ้าถามว่าการดูแลเจ้านายทำยังไง ผมคงตอบอย่างสบายๆว่า ทำตามคำสั่งเจ้านาย





    แต่





    ถ้าถามว่าใครที่อยากดูแลที่สุด ผมคงมองไปที่ คน คนนั้นอย่างเงียบๆ

     

     


     ถ้าจะให้พูดถึงว่าขณะนี้เกิดอะไรขึ้น ผมคงตอบได้ว่า


    เหนื่อย!จะไม่ให้ผมเหนื่อยได้ไงละ จ้องหน้าจอกล้องวงจรปิดเป็นร้อยๆตัวมา วันครึ่งโดนไม่ได้พักเลยนะ

    เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว นี่ถ้าผมหลับตาละก็ คงได้หลับทันทีแน่




    “นี่





    เอาเถอะถึงยังไงๆ มันก็เป็นหน้าที่ของผมนี่เนอะ





    “เกรน”





    แต่ว่ามันเหนื่อยใช้ได้เลยนะฮือ... เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว





    แต่แล้วเสียงตะโกนว่า “เกรน!” ก็ทำให้ผมแทบสะดุ้งเฮือกตื่นเต็มตาทันที





    “เหอ...ทำไม มีอะไร” ผมหันไปหาเจ้าของเสียง พร้อมกับถามคำถาม





    “...” อ่าวเรียกแล้วมองหน้า ทำไม มีปัญหาอะไรรึเปล่านะผมก็ได้แต่จ้องตากลับพื่อจะได้รู้ว้าตกสงเจ้าคนที่นั่งอยู่ข้างๆนี่ต้องการจะพูดอะไรกันแน่  และเป็นจริงดังคาดเมื่อผมจ้องต่อซักพัก เจ้านั่นก็ถองหายใจ เฮ้อ ออกมา มีอะไร ทำไมต้องถอนหายใจด้วยหะ ผมทำอะไรผิดหรือไง





    “นาย...หน้าซีดมาก ไม่สบายเหรอ”





    “อาคิดว่าคนที่ไม่ได้นอนมาวันครึ่งเนี่ยจะสบายไหมละ” ถามมาได้นะว่าเป็นอะไรหรือเปล่า





    ทันมีมี่ความคิดผมผ่านไปเมย์ก็พูดกับผมว่า “นายไปพักก่อนเถอะนอนซักงีบ เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง” เจ้านั่นพูดพร้อมกับช่วยเก็บเสื้อแจ้กเก็ตบนพื้นให้ผม ว่าแต่





    “นายเพิ่งกินยาแก้ปวดหัวมาไม่ใช่เหรอ” ผมพูดพลางมองหน้าซีดๆหมองๆเพราะพิษของอาการปวดหัวของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า





    “ไม่เป็นไรหรอกน่ากินยาแล้วและฉันก็ดีขึ้นแล้วด้วย” เมย์พูดพร้อมกับคิ้วที่ขมวดข้นด้วยที่ทางไม่พอใจ ผมเลย





    “ห่วงรึไง” ผมเลยอดไม่ได้ที่จะถามออกไป





    “เพื่อนร่วมงานก็ต้องห่วงเพื่อนร่วมงานด้วยกันอยู่แล้ว อีกอย่างถ้านายเกิดเดี้ยงขึ้นมาฉันคนนี้จะเป็นคนที่ทำงานหนัก”





    จริงแฮะ” เออ...นี่ผมไม่ได้คิดไปเองใช่ปะทำไมตรงหน้ามันมัวๆ แถมเหมือนหัวมันลอยๆ นะ





    “เกรนนาย ไปพักเดี๋ยวนี้เลยนะ!





    “อะไร” ผมแทบสะดุ้งทำไมเจ้านั่นต้องตวาดซะเสียงดังขนาดนั้นเล่า





    “นายเลือด เลือดนายออกทางจมูกแล้ว!

     




    “เหอ?” เลือดออกเหรอ





    “นาย! ยังมาเหออะไรอีก รีบเข้าไปพักข้างในเดี๋ยวนี้เลยนะ”





    “เออๆๆ รู้แล้วๆ จะเข้าไปเดี๋ยวนี้แหละ” ผมตอบพลางลุกขึ้นเดิน  เออ...ทำไมโลกมันเอียงละ





    “เกรน!







    ...







    นั่นคือเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินก่อนที่ทุกอย่างจะมืดสนิท...อ่า...แอบรู้สึกดีนิดๆแฮะที่เจ้านั่นเป็นห่วง

     

     



    “หนักชะมัด” เสียงบ่นดันขึ้นเมื่อชายหนุ่มร่างเล็กพาคนป่วยมาถึงห้องรับแขก และทันทีที่ถึงโซฟาตัวใหญ่กลาห้อง เมย์ ก็ทุ้มเกรนลงโซฟาทันที “เฮอะ ทำเป็นห่วงชาวบ้านแต่ตัวเองดันไม่ห่วง ชิ น่าหงุดหงิดชะมัด” และก็ทันทีเช่นกันที่เดินออกมาด้านนอกเสียงบ่นอุบอิบเบาๆ ก็ดังขึ้น แต่ถึงจะบ่นแต่ก็กลับเดินไปหากล่องพยาบาลมาช่วยเหลือผู้ป่วยที่นอนซมอยู่บนโซฟา





    และขณะที่ เมย์ กำลังถือกล่องพยาบาลอยู่นั่นเอง





    ตุบ





    ผู้ป่วยที่เพิ่งถูกทุ่มงโซฟาก็กลิ้งตกลงมาช่างมีคามพยายายมให้คนอื่นลำบากซะจริง





    “ตกลงมาได้ไงเนี่ย” เสีงบ่นพึมพำเบาๆเพราะหงุดหงิดก็ดังขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นคนที่ตัวเองพิ่งจับนอนบนโซฟากลิ้งตกลงมาบนพื้น





    กึก...





    เมื่อเห็นว่าคงต้องพยุงขึ้นบนโซฟาอีกครั้ง เมย์ ก็วางกล่องพยาบาลลงบนโต้ะตัวเตี้ยข้างๆ





    ฟึบ...





    เสียงกระแทกดังอีกครั้งเมื่อเมยจับเกรนนั่งลงบนโซฟา





    ...





    ...





    ...เงียบชะมัด เงียบเกินไปแล้วนะ





    ความเงียบที่ดูคุ้นชินแต่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ถ้ามีตรงหน้านี้อยู่แต่ตอนนี้คนตรงหน้านี้กลับหลับสนิท...คงเป็นไข้แน่เลย เมย์ ขมวดคิ้วอีกครั้งโดยไม่รูตัวแต่ถ้าสังเกตดี ภายใต้คิ้วที่ขมวดในดวงตากลัวไหววูบแวบหนึ่ง...





    กลิ่นเหงื่อที่ผสมกับโคโลญอ่อนๆทำให้เกิดกลายเป็นกลิ่นเฉพาะตัว...





    ไม่ชอบเลยแฮะ...





    ไม่ชอบเลย...





    ชิ เสียงหัวใจดังชะมัด...





    ในความคิดที่สะท้อนไปมาในหัว เมย์เอื้อมือไปตรงหน้าอย่างไม่รู้ตัวมือที่สัมผัสไปที่เส้นผมนั้นรับรู้ถึงเส้นผมที่สากมือไม่ไดอ่อนนุ่มแต่ก็ไม่ถึงกับหยาบกระด้าง...





    นี่ช่างแตกต่างจากเขา ผมของเขานั้นทั้งนุ่มทั้งมันวาว...กระทั่งรูปร่าง เขายังดูนุ่มนวลกว่าเสียอีก เพราะอย่างนั้นเขาถึงชอบถูกล้ออยู่เลื่อยว่า เสี่ยวเหมย... ถึงจะบอกว่าไม่ชอบแต่ก็แอบรู้สึกดีแบบลึกๆ เพราะว่า... เสี่ยวเหมย คือคำที่มีแต่เกรนเท่านั้นที่ชอบเรียกเขาแบบนี้





    ถ้าเกิด...





    ถ้าเกิดว่านายยังหลับอยู่อย่างนี้...ฉันคงมีโอกาสสินะ...





    สิ้นเสียงกังวานของความคิด มือเรียวบงขาวสะอาดที่ลูบอย่างแผ่วเบาข้างแก้มก็ประคองขึ้นมา...ถ้าตอนนี้คงไม่เป็นไร...





    ขอร้อง...ขอร้องละ...อย่าเพิ่ง อย่าเพิ่งตื่นเลยนะ





    ริมฝีปากบางไร้การเอื้อนเอ่ย หากเพียงแต่เม้มสนิทแล้วเคลื่อนอย่างช้าๆ ไปด้านหน้า เพื่อหาริมฝีปากของบุคคลที่เขา...ปรารถนา...





    ...





    ชิ...





    ยัง...ไม่กล้าพอแฮะ แต่ว่า... คิก ...แค่หน้าผาก...คงไม่ยากไปหรอกมั้ง





    ถ้าถามว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นคงตอบได้ว่า จากตอนแรกที่ใช้เพียงริมฝีปากตอนนี้คงใช้จมูก





    และจากตอนแรก เป้าหมายคือริมฝีปากของคนข้างหน้า ส่วนตอนนี้ เปลี่ยนเป็นหน้าผากที่มีปอยผมบางๆปรกอยู่ด้านหน้า





    ...





    อา...หอม ดีแฮะ กลิ่นแชมพูอ่อนๆเหรอ... หรือว่า กลิ่นเหงื่อที่ผสมกับแชมพูกันนะ...





    กลิ่นหอมพลิ้วติดจมูกบางเบาที่เริ่มจางหายเมื่อร่างเล็กผละออก เมย์หันหลังเพื่อที่จะเดินไปหยิบยาที่วางอยู่บนโต๊ะ เพียงแต่มือแกร่งข้างหนึ่งก็ได้รังเขาไว้แล้ว...





    “เดี๋ยว...อย่าเพิ่งไป...”





    “...!





    เสียงดังก้องกังวานภายในหัวอย่างห้ามไม่อยู่เสีงที่ทำให้เขาตองหยุดนิ่งทันทีที่ด้ยิน...เกรน

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×