คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 1 . Intro : Begining
tyae
1 . Intro : Begining
เคยรู้ไหม? ทุกการเริ่มต้นในเรื่องหนึ่ง
มันก็คือการจบอีกเรื่องหนึ่งเหมือนกัน...
ในราตรีที่มืดมิด
หากสถานที่นี้แทบจะกลายเป็นตรงกันข้าม
ถ้าจะบอกว่าค่ำคืนคือห้วงเวลาแห่งการหลับใหล
แต่ ณ ที่แห่งนี้มันช่างแตกต่าง แทบสิ้นเชิง...
ถ้าจะหากเกริ่นเรื่องละก็ เรื่องนี้ก็คงเกริ่นคล้ายเรื่องราวเริ่มต้นแบบทั่วไป...
ใช่แล้ว...ก็....เหมือเรื่องอื่นๆ ทั่วไป...นั่นแหละ...
สถานที่ไร้การหลับใหลเมื่อยามราตรีมาเยือน สถานที่ที่ทุกคนคุ้นเคยหากเป็นนักท่องราตรี เสียงดนตรีประกอบดังสนั่นหากก็ไม่ได้ทำให้คน ณ บริเวณนี้ต้องอุดหูหรือขมวดคิ้วเพราะรำคาญ เสียงเพลงที่ฟังดูนุ่มละมุนแต่ก็หนักแน่นและเร่งเร้าราวกับเร่งให้นักท่องราตรีโยกตามมนต์แห่งเสียงดนตรี...
ไม่จำเป็นต้องทักทาย แค่ยิ้มให้และชนแก้วก็พอ...
ไม่จำเป็นต้องคุ้นเคยแค่สบตาแล้วเดินไปที่ใจกลางที่นี่ก็พอ...
ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าคนตรงหน้านี้คือใคร แค่โน้มคอเขามาใกล้พร้อมกับโยกไปตามดนตรีดังใจปรารถนาก็พอ...
อา...
นี่แหละราตรี ที่แสนหวานและหลอกลวง...
แต่ถ้าเทียบแล้ว ต่อให้ แสงของสปอดไลด์สลับแสงสีสักเท่าไร หรือ ผู้คนมากมายล้วนแต่งตัวโดดเด่นเพียงใด ก็ไม่สามารถกลบกลิ่นอายของร่างหนึ่งที่นั่งอยู่บนโซฟาสีขาวสะอาด ซึ่งตัดจากสถานที่โดยสิ้นเชิงได้ ถ้าสังเกตให้ดี ก็คงเห็นได้ ร่างที่นั่งอย่างสงบยิ้มบางๆอยู่ที่มุมปาก ถึงจะมีรูปร่างเพรียวบางแต่ก็ดูปราดเปรียว ดวงตาที่ไม่ได้คมกริบจนหน้ากลัวแต่กลับเรียวรี ซึ่งแฝงความเจ้าเล่ห์อยู่ภายในดวงตาสีน้ำเงินอันบริสุทธิ์ แน่นอนว่าบุคคลที่ดูดีขนาดนี้ถ้านั่งอยู่เพียงคนเดียวคงแปลกมากและก็ดังที่ว่า หากบอกว่ามีคนที่ดูดีแล้วก็ต้องมีสาวสวยเคียงข้าง ใบหน้าคมคายที่ทั้งริมฝีปากอิ่มหวาน รูปร่างที่ไม่ถึงกับเย้ายวน แต่ก็แฝงความเซ็กซี่ ดวงตาที่กลมโตหวานเยิ้มด้วยพิษของแอลกอฮอล์และคมเข้มด้วยการแต่งแต้มด้วยเรื่องสำอางสีดำที่เน้นเฉพาะดวงตา ทำให้เธอสวยจนผู้ชายหลายต่อหลายคนต้องแอบชำเลืองมองหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ต้องสำเหนียก ว่าคนที่เธอซบอยู่นั้นตัวของเขาเทียบไม่ติดแม้แต่น้อย
“ขอโทษครับ” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยทักพลางส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ถ้าจะเรียกว่าหนุ่มรูปงานมก็คงจะฟังดูพิลึก แต่ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าร่างสูงที่ยืนอยู่นั้นดูดีขนาดไหน รอยิ้มที่ประดับบางๆ อย่างเป็นมิตร นัยน์ตาสีฟ้ากระจ่างคล้ายชาวตะวันตก ผิวขาวนวลละเอียด ผมยาวกลางหลังสีดำสนิท รูปร่างสูงโปร่งสง่า ถ้าจะไม่ให้พูดว่าดูดีแล้วละก็ คงผิดต่อผู้หญิงที่เอาแต่จ้องเขาไม่วางตาแล้วละ
“...?” แต่ก็อย่างว่า ต่อให้คนตรงหน้าดูดีแค่ไหนแต่คนที่นั่งอยู่ก็ไม่รู้สึกอะไรอยู่แล้ว คนถูกเอ่ยทักที่นั่งอยู่จึงได้แต่เงยหน้าขึ้นเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“ที่ตรงนี้ว่าหรือเปล่าครับ” เสียงพลิ้วร้องถามหลังจากเห็นว่าคนตรงหน้าแสดงสีหน้าสงสัย
“ว่าง” คนที่นั่งอยู่หลังจากได้ยินคำถามก็ตอบพลางยิ้มที่มุมบางๆ ราวยั่วยุสายตาที่มองมาราวกับจะบอกว่า...
ถ้ากล้าพอ...ละก็นะ...
“ผมจะนั่งที่นี่ได้ไหมครับ” ชายหนุ่มที่มองเห็นแววตาของคนตรงหน้าก็รับรู้ได้ทันทีว่าคนตรงหน้านั้นรู้แล้วว่าตัวเขาเองนั้นต้องการอะไร... แต่ว่า รู้แล้ว แล้วไงละถ้าเขาต้องการอะไรละก็ ใครก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้นแหละ
“เชิญ...ยังไงซะคุณก็นั่งได้อยู่แล้ว” ราวกับได้รับการตอบรับคำท้าจากสายตา และทันทีที่รู้ว่าคนตรงหน้ารับคำท้าที่ตนเสนอ จากรอยยิ้มที่แต่งแต้มเพียงบางๆที่มุมปาก กับแววตาเรียวยาวนุ่มนวล ก็เปลี่ยนไปทันที ริมฝีปากถูกแต้มแต่งด้วยรอยยิ้มนุ่มนวลแววตาหรี่โค้งเจ้าเล่ห์ราวหมาป่าที่ซ่อนบางอย่างไว้เบื้องหลัง
“ฮะๆ จริงด้วย อืม...ว่าแต่คุณคนสวยชื่อว่า...”
อา...ไม่ถึงนาที ก็ยุ่งกับคนของฉันซะแล้ว...
ดวงตาหรี่โค้งมากขึ้นราวกับรู้สึกสนุกกับเหตุการณ์ที่เกิดเหมือนกับไม่รู้สึกว่าตัวเองเสียหน้าเลยแม้แต่น้อยที่ผู้หญิงข้างกายเขาถูกมองด้วยสายตาต้องการจากชายที่นั่งตรงข้าม กลับกันริมฝีปากที่เพิ่งคลี่ยิ้มบางๆ กลับคลี่ยิ้มนุ่มลึกกว่าครั้งก่อนอีก
น่าสนุกจริง...กล้าแย่งกันซึ่งๆ หน้าเลย...
เสียงคำพูดในหัวพูดอย่าง นึกสนุกอีกครั้งนั้น ดังพร้อมกับคำพูดที่เอ่ยออกมาอย่างท้าทายและกลั่นแกล้งคนตรงหน้า....
“ไม่จำเป็นต้องรู้ชื่อ เพราะว่าเลยคืนนี้ไปคุณและเธอคนนี้ก็จะกลายเป็นแค่ คนแปลกหน้า”
ถ้านายต้องการแค่นั้นก็ไม่จำเป็นต้องถามชื่อหรอก...
เมื่อคำพูดในสมอสั่งการเสร็จ เสียงที่เปล่งออกมาก็แทบจะคล้องจองกับประโยคก่อนหน้าเลยทีเดียว
“ไม่จำเป็นต้องทักทาย แค่สบตา ยิ้มให้ แล้วชนแก้วก็พอ...” จบประโยค รอยยิ้มนุ่มลึกแสนสุภาพที่แฝงอะไรบางอย่างก็เผยออกมา
“อา...รู้สึกว่าเหมือนจะเป็นคำร้องของเพลงๆ หนึ่งเลยนะครับ” ชายหนุ่มผู้มาใหม่พูดพร้อมรอยยิ้มพลางดื่มค็อกเทลสีแดงสดในแก้วเว้นจังหวะเล็กน้อยแล้วพูดคำพูดที่ฟังดูแล้ว...เหมือนกำลังท้าทายว่า “ แต่ว่าที่คุณบอกผมนะผมคิดว่าควรถามคนที่นั่งข้างๆ คุณนะครับว่าเขาอยากบอกหรือไม่อยากบอกชื่อเขาแก่ผม” สายตาคนพูดจ้องไปยังร่างเล็กที่กำลังทอดสายตามองดูน้ำเข็งที่กลิ้งไปมาในแก้วที่ตัวเองเขย่าเล่น อย่างมีความหมาย...
...แต่ ทั้งๆที่ถูกมองด้วยสายตาที่แทบจะละลายนั้น เธอกลับไม่สนใจแม้แต่น้อย...
“...นั่นสินะ ว่าไงละเธอจะบอกเขาไหม?” ร่างเพรียวสูงผู้ถูกท้าทายพึมพำเบาๆ พลางหันมากระซิบร่างเล็กข้างๆ เป็นเชิงถาม ราวกับว่าไม่สนใจคนของตัวเอง...
โดยไม่รู้เลยว่าคนที่เพิ่งท้าทายเบิกตากว้างแทบจะทันทีที่คนที่นั่งตรงข้ามเขาเอ่ยถามคำถามนั้นออกมากับคนของเขา
และทันทีที่คำถามของคนตรงข้ามจบลงร่างเล็กข้างๆ ก็พูดขึ้นด้วยใบหน้าไร้เดียงสาราวกับว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่า...
“เอ...นั่นสินะ ต้องเสียใจด้วยแล้วกันนะตอนนี้ฉันเป็นของเขา” คำพูดที่ฟังดูล่อแหลมมากในสถานที่แบบนี้แต่เธอกลับพูดด้วยสีหน้าไม่รู้สึกอะไร แถมถ้าดูดีๆ การแต่งตัวของเธอก็เข้ากับสถานที่ได้ดีเดรสสายเดี่ยวเรียบๆ สีม่วงเข้มออกดำ สร้อยคอสี ไวโอเลต ที่เข้ากับกำไลก็ด้วย แต่ทำไม รอบตัวเธอคนนี้ถึงมีแต่ความรู้สึงไร้เดียงสาที่ไม่เข้ากับบรรยากาศแบบสุดๆ
...แต่ถึงยังไง เขาก็ไม่สนใจอยู่แล้ว รอยยิ้มบางๆ เหมือนยอมแพ้และไม่ยอมแพ้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายเจ้าของดาวตาสีฟ้า พลาง
พูดคำพูเบาๆ เพื่อเชิญชวน
“ว้า...นี่ผมเสน่ห์ไม่แรงเท่าคุณเลยนะ เอาเป็นว่าแค่ชนแก้ว...ได้ใช่ไหมครับ” เจ้าของคำเชิญชวนพูดพลางแกว่งแก้วค็อกเทลสีแดงสดไปมา
“หึ...แน่นอน” เสียงตอบรับของเจ้าของดวงตาสีน้ำเงิน พูดพลางหยิบค็อกเทลสีดำสนิทของตนขึ้นมาเช่นกัน
“เชียส>.<!” สิ้นเสี่ยงเจ้าของค็อกเทลสีใสราวน้ำเปล่าแก้วสุดท้ายที่มีนำแข็งเพียงเล็กน้อยในนั้นเสียงกระทบของแก้วเบาๆก็ดังขึ้นพร้อมกัน
กริ้ง...
“อืม...แล้วคุณละชื่ออะไรเหรอ” เจ้าของแก้วค็อกเทลสีแดงสดพูดขึ้นพลางวางแก้วของตนที่ว่างเปล่าบนโต๊ะ พลางมองไปที่คนตรงหน้าเจ้าของดวงตาสีน้ำเงิน
“ฮะ นี่พลาดหวังจากผู้หญิงข้างๆ ฉันเลยต้องมาถามชื่อฉันงั้นสิ?” คนถูกถามชื่อพูดพลางหัวเราะเบาๆ เหมือนกับเยาะเย้ย
เฮ้อ...ทั้งๆที่ชนะ แต่ก็เหมือนแพ้เลยแฮะ ไม่สนุกเลย...
“ว้า โดนรู้ทันซะแล้ว...แต่ว่านะผมเองก็อยากรู้จักคุณจริงๆนะ” แต่ถึงยังไงคนถูกามก็ไม่ละความพยายาม ถ้าเป็นคนอื่นละก็...เขาไม่อยากทำความรู้จักขนาดนี้หรอก และสิ่งที่ทำให้เขาอยากรู้จักคนๆ นี้นั้นก็คือ ความน่าสนใจ ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ถึงจะเป็น ผู้ชาย แล้วไงละเขาแค่อยากทำความรูจักไว้นี่
“อืม...เอาไงดีนะ จะบอกดีรึเปล่าละเนี่ย...” คนถูกถามเอียงคอเล็กน้อยพลางคิดราวกับเล่นตัว
“^^” และ...รอยยิ้มของการรอคอยจากคนถาม
“เฮ้อเอาเป็นเรียกฉันว่า...” เมื่อรู้สึกว่าจะบอกก็ได้ไม่ทันไร...
...
“ใครคือ ไอริยะ มินิน!!!!!!!!!!!!”
เสียงแทรกที่ดังแสบหูลั่นผับก็เฉลยชื่อของ ร่างเพรียวสูงเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำเงินทันที
...ใบหน้าเจ้าของชื่อแข็งค้าแวบหนึ่ง...พร้อมกับนัยน์ตาที่เบิกกว้างเพียงชั่วขณะ...
แต่ก็สิ้นสุดลงอย่างรวดเร็วราวกับเสกไว้ และแทนที่ด้วยรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์...
ยิ่งกว่าหมาป่า
ยิ่งกว่าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์
ยิ่งกว่าสัตว์ร้าย
...ใช่...
ราวกับ...ปีศาจร้ายเลยละ...
“หึ...หี มีเรื่องสนุก...ให้ทำอีแล้วสิ”
ความคิดเห็น