ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    finalblade(อภินิหารตำนานดาบศักดิ์สิทธิ์)

    ลำดับตอนที่ #2 : ตำนานบทที่ 1- ดาบมรกต(อาวุธแห่งผืนปฐพี)

    • อัปเดตล่าสุด 21 มิ.ย. 51


            ตำนานที่ได้เล่าขานมานานแสนนาน ตำนานของดาบศักดิ์สิทธิ์นั้น ได้แยกกระจายไปหลายสถานที่ บนโลกเหลือไว้แต่เพียงชื่อเท่านั้น ธาตุแห่งโลกนั้นได้แบ่งทั้งหมด 5 ธาตุ คือ วารี(น้ำ) อัคคี(ไฟ) วายุ(ลม) ปฐพี(ดิน) และอัสนี(สายฟ้า)อาวุธก็เช่นเดียวกัน อาวุธบางชนิดที่มีการหลอมรวมเข้ากับหินแร่แห่งธาตุ ก็จะสามารถใช้อาวุธธาตุได้เช่นกัน แต่การใช้นั้นต้องขึ้นอยู่กับพลังจิตของคนใช้อีกด้วย ถ้าบุคคลที่ใช้อาวุธธาตุนั้นมีพลังจิตน้อยก็จะดึงความสามารถของธาตุออกมาไม่ได้เท่ากับคนที่มีพลังจิตอันกล้าแกร่ง......ส่วนระดับของอาวุธธาตุนั้นจะขึ้นกับแร่ที่นำมาตี แต่อาวุธที่ไม่มีการเปรียบให้เข้ากับระดับเหล่านี้คืออาวุธที่ไม่มีใครสามารถตีขึ้นมาอีกได้ นั่นก็คือ......ดาบศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 5 แห่งโลก......
            และตอนนี้ ดาบเล่มแรกได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากซากโบราณสถานแห่งปฐพีแล้ว.........
           -ตอนกลางของForeras Country เมือง Kerada-
            ฟุ่บ....!! สภาพของเด็กทั้งสองคนที่ใช้วาร์ปบอล โผล่มาที่ฝากฟ้าเหนือเมือง Kerada หนึ่งเด็กชาย และหนึ่งเด็กสาวที่กำลังทะเลาะกันเหนือเมืองแห่งนี้กำลังร่วงหล่นลงมาสู้พื้นด้านล่าง
                 "แว๊ก...............เธอจะจับฉันทำไมเนี่ย ห๊า!!!" ไลก้าเด็กหนุ่มที่ได้ดาบที่ถูกกักเก็บไว้ในซากโบาราณสถานแห่งปฐพีพูดออกมาใส่เด็กสาวที่เกาะขาเค้าเอาไว้ทันที
                 "แทนที่จะมาว่าฉันน่ะ.....หาทางลงที่ทำให้เรา 2 คนไม่เป็นอะไรก่อนดีไหม...." เด็กสาวพูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ เล็กน้อย ส่วนเด็กหนุ่มก็ค่อยๆมองลงมาด้านล่างอย่างช้าๆ.......

                 "เหวอ......................................." เด็กหนุ่มร้องเสียงหลงทันที
                 "ตั้งสติหน่อยสิ.......ใช้ดาบนั่นเลย...." เด็กสาวชี้นิ้งสั่งไปทางดาบสีมรกตนั้นทันที เด็กหนุ่มทำหน้างงๆ เล็กน้อยแต่ก็พยักหน้าและดึงตัวเด็กสาวมาไว้ในอ้อมอกก่อนที่จะหลับตาลง........วูบ........ไลก้าลืมตาขึ้นและตวัดดาบออกไปทันที

            ตูมมมมมมมมมมมมม..........................
             รอยแสงสีเขียวถูกตวัดออกมาพร้อมกับตอนที่ดาบถูกตวัดออกมา และเข้ากระแทกกับพื้นดินก่อนที่ ทั้งสองคนจะลงสู่พื้นอย่างปลอดภัย

                  "ฟู่............รอดไปที" ไลก้าถอนหายใจเฮือกใหญ่ และปักดาบลงกับพื้นก่อนที่จะปาดเหงื่อแต่ดันลืมบางอย่างไปสิ่งหนึ่ง
                  "นี่...ปล่อยนะ ไอ้บ้าาาาาาาาาา" เด็กสาวผลักไลก้าออกไปทันที พร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำของเธอ ทำให้ไลก้างงไปทันที ว่าเค้าทำอะไรผิด.....

                  "เฮ้ย...!! พวกแกห้ามขยับ นี่คือทหารของเมืองนี้ ถ้าขยับพวกแกตายแน่......." เสียงของทหารนายหนึ่งตะโกนขึ้นมาท่ามกลางหมอกควันที่เกิดจากการโจมตีของไลก้า
                  "ง่ะ...ทำไมมีพวกมาตามรังควาญอีกแล้ว......นี่เธอ สู้เก่งไหม...." ไลก้าทำเสียงรำคาญเล็กน้อยก่อนที่จะหันไปมองเด็กสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังเค้า
                  "นี่...ฉันก็มีชื่อของฉันนะ ฉันชื่อ ซิเธีย ถ้าถามว่าสู้เก่งไหมงั้นเหรอ งั้นเดี๋ยวฉันจะแสดงให้ดู....." ซิเธียยื่นหอกของเธอมาด้านหน้า และทันใดนั้นพลังจิตในตัวเธอก็เพิ่มขึ้นทันที (อ่านะ......ไม่ได้ถามชื่อสักหน่อย แต่ก็ช่างเหอะ- -) ไลก้าคิดในใจและมองไปทางพวกทหารที่เริ่มเห็นแล้ว
                  "จงแปรธาตุอัลเบเนียน....................Fire Albenion(ไฟเออร์ อัลเบเนียน)" หอกของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงราวเปลวเพลิงทันที และเธอมองไปยังทหารที่อยูาข้างหน้าด้วยจิตอันกล้าแข็งทันที
                  "Fire Halk......" เปลวไฟพุ่งออกจากหอกของเธอเป็นรูปนกอินทรี เข้าใส่ทหารด้านหน้าของทั้งคู่ทันที
            อ๊ากกกก....!!! เสียงร้องโหยหวนของทหาร 5 นายที่โดนไฟครอกล้มลงไปในทันที ส่วนสาวน้อยก็วิ่งและข้ามกองไฟที่ตนสร้างเอาไว้ไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ไลก้ายังยืนงงอยู่คนเดียว

                  "เฮ้ย.... รอด้วยสิ" ไลก้าวิ่งตามไปทันที และตามด้วยพวกทหารอีกประมาณ 20 นาย เข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว
                  "ใครจะไปอืดอาดให้พวกทหารจับได้ล่ะ...ไอ้บ้า" ซิเธียหันมาว่าไลก้า
                  "โว้ย.........นี่คิดจะเรียก ว่า ไอ้บ้าๆ อย่างเดียวหรือไงวะ.....ฉันชื่อ ไลก้านะเว้ย ยัยนี้นี่......." ไลก้าโวยวายใส่เด็กสาวทันที และเพิ่มความเร็วจนถึงซิเธียในก้าวเดียว "ไงล่ะ  ตามทันแล้วนะ ซิเธียจัง......"
                  "หยุดนะเว้ย ไอ้พวกเด็กบ้า........" เสียงของพวกทหารที่ไล่ตามเด็กทั้งคู่มาอย่างติดๆ ทันใดนั้นไลก้าก็หันหลังไปมองพวกทหารและ......"Emerald Wave" ไลก้าตวัดดาบออก ลำแสงสีเขียวพุ่งเข้าใส่พวกทหารอย่างรวดเร็ว และ.........

             ตูม................!!! ลำแสงมรกตนั้นพุ่งเข้าไปที่ต้นไม้ด้านหน้าของพวกทหาร เศษไม้ที่โดนฟันร่วงหล่นใส่พวกทหารปิดทางไปทันที

                  "เป็นไง.....ฮิฮิ" ไลก้าวิ่งมายิ้มให้เด็กสาวทันที และค่อยๆลงมาที่พื้น
                  "พักกันได้แล้วล่ะมั่ง....." เด็กสาวก็ยิ้มให้ชายหนุ่มเช่นกัน "แต่...นายไปหาอาหารด้วย เพราะนายทำให้ฉันต้องมาอยู่ในสภาพนี้..." ซิเธียชี้นิ้วสั่งไลก้าทันที และนั่งพิงกับต้นไม้ "ฉันจะรออยู่ที่นี่......นายไปหามาซะ"
                  "หนอย.....ก็ได้ฟ่ะ" ไลก้าเดินหายไปทันที

             ส่วนพระอาทิตย์ก็ค่อยๆคล้อยต่ำลงเรื่อยๆ หลังจากที่ไลก้าหายเข้าไปในป่า ที่เงียบงันแห่งนี้ ส่วนซิเธียก็นั่งพักผ่อนอยู่ที่ต้นไม้ต้นใหญ่กลางป่า
                  "ว้า....ทำไมป่านี้ มันมีสัตว์น้อยจังอะ ได้หมูป่ามาแค่ตัวเดียวเอง จะโดยยัยนั่นบ่นเปล่าว้าเนี่ย....." ไลก้าเดินลากหมูป่าไปส่วนอีกมือหนึ่งวางดาบไว้บนไหล่

                  "หึ หึ หึ..." ทันใดนั้นเสียงบางเสียงดังขึ้นบนต้นไม้ "ใครน่ะ....." เด็กหนุ่มตะโกนขึ้นและหันขึ้นไปมองบนต้นไม้ที่มืดสนิทราวป่าช้า
                  "อื้ม..........นั่นน่ะเหรอ 1 ในดาบศักดิ์สิทธิ์สินะ ลักษณะดาบแบบนี้ก็ ดาบมรกต อาวุธแห่งผืนปฐพีแห่งนี้สินะเนี่ย....." เสียงประหลาดเข้าใกล้ตัวของไลก้าขึ้นมาเรื่อยๆ
                  "ฉันถามว่าใคร....." ไลก้าเริ่มตวาดเสียงขึ้นเรื่อยๆ และวางหมูป่าลง และค่อยๆหันไปมองรอบๆด้าน เสียงฝีเท้าที่เหยียบลงบนใบไม้บนต้นไม้ดังขึ้นเรื่อยๆ และ ทันใดนั้นเงาบางอย่างได้ลงมาด้านหลังของไลก้าทันที
                  "คิดว่าเจ้าจะสู้ข้าได้เหรอ ข้าชื่อคาลิก แห่งความตาย ข้ามาที่นี่เพื่อที่จะนำดาบมรกตไป......" ชายร่างสูงใหญ่ประมาณ 190 cm ชุดสีดำสนิทและถือคทาสีเทาและมีลูกแก้วตรงกลางดั่งก้อนลาวา อันน่ากลัว............
                   (อะไรกัน.....ดาบนี้อีกแล้วเหรอ) ร่างของคาลิกหายตัวไปจากตรงหน้าของไลก้าทันที และไปโผล่ไปด้านหลังของไลก้าอย่างรวดเร็ว 

                    "ลาล่ะ...เจ้าหนู" คาลิกฟาดคทาเข้าใสไลก้าทันที..........

            ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!! ทันใดนั้นระเบิดควันก็ระเบิดบังตาของคาลิกทันที และมีบางอย่างดึงตัวของไลก้าออกจากม่านควันไป

                  "แค่ก...แค่ก... อะไรน่ะ" คาลิกคำรามออกมาและค่อยๆเดินออกจากม่านควัน (กลับมาได้แล้ว...คาลิด ดาบมรกตค่อยเอาวันหลัง ตอนนี้มีงานที่สำคัญกว่ามาแล้ว) เสียงบางเสียงเข้ามาในหูของชายร่างยักษ์ราวเสียงกระซิบ
                  "ครับ.....ท่านลาซิอุส" คาลิกสงบลงและหายตัวไป.................
            ส่วนทางด้านของไลก้า ที่หนีรอดออกมาจากคาลิกได้อย่างหวุดหวิด "เฮ้อ...ทำไมชอบให้ทำบุญทำคุณนักนะ......" เสียงของเด็กสาวที่มาช่วยไลก้าเอาไว้พูดออกมา ส่วนไลก้าที่ถูกซิเธียดึงมานั้น ก็ยังนั่งคิดอยู่เล็กน้อย ก่อนที่จะวิ่งเอง
                  "เออ...ถ้าพูดงี้ก้อไม่ต้องช่วยก็ได้ทีหลังน่ะ......แต่ว่าเธอใช้ระเบิดอะไรอะเมื่อกี้นี้น่ะ..." ไลก้าทำหน้าครุ่งคิดอะไรอยู่เล็กน้อยแต่น้ำเสียงของเขานั้นมองประชดซิเธียเล็กน้อย
                  "โอ้...ล้อเล่นน่ะ....ระเบิดเมื่อกี้เหรอก็เห็นอยู่ในกระเป๋าที่นายทิ้งเอาไว้น่ะ....." ซิเธียทำท่าทางแกล้งๆไลก้าเล็กน้อยก่อนที่จะชี้มาที่กระเป๋าของไลก้า....
                  "อ่อ....เฮ้ย!! นั่นมันระเบิดยาสลบนะเฟ้ย...." ไลก้าตวาดออกมา และหยุดเดินลงและ.....
                  "คร่อก....." ชายหนุ่มล้มลงไปนอนกับพื้นทันที ส่วนเด็กสาวก็ได้แต่ยืนอึ้งเล็กน้อย ที่เขาหลับไป
                  "จะทำยังไงล่ะเนี่ย.......พักที่นี่ก่อนก็ได้ว้า........" ซิเธียส่ายหน้าอย่างช้าๆ และลงไปนั่งพิงต้นไม้เพื่อพักผ่อนเช่นกัน................

          ....................................................................................

                  "เพี๊ยะ...เพี๊ยะ..." เสียงตบหน้าดังขึ้นในห้องเล็กๆห้องหนึ่งในเมืองแห่งหนึ่ง ภายในห้องนั้นมีชาย 3 คนยืนอยู่ด้วยกัน ชาย2คน ที่ยืนอยู่นั้นคือ ชายที่ไลก้าตามไปในป่านั่นเอง
                  "ขอโทษครับ บอส....." ชายคนหนึ่งคน 2 คนนั้นพูดขึ้นมาและมองหน้าของหัวหน้าเขาอย่างช้าๆ
                  "ฮึ่ม......รู้ไหมว่าฉันต้องเอาเวลามาอยู่กับพวกแกเนี่ย แล้วพวกแกยังมาทำให้พวกฉันผิดหวังอีก ฐานลับแห่งนี้มันสกปรกฉันจะกลับล่ะ......." เสียงของหัวหน้าของชายทั้งสองคนพูดขึ้นและเดินออกไป
                  "เออ....งานใหม่น่ะ ให้พวกแกไปรวมกลุ่มกับหน่วย 2 และเตรียมบุกงานชิ้นหนึ่งได้แล้ว" บอสของเขาพูดสั่งทันที
                  "ครับ บอส......"

                  "จงจำเอาไว้ว่า ข้าคือ โกโลมา เจ้าของกิจการด้านมืดเรื่องสิ่งของล้ำค่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ และผู้ครอบครอง ดาบเทพวารี ที่มีความสามารถเข้าใกล้กับดาบศักดิ์สิทธิ์ เล่มนี้เอาไว้ด้วย" โกโลมาหันมาทำท่าทีเคร่งขรึมใส่ลูกน้องทันที ส่วนลูกน้องทั้งสองนั้นก็นั่งคุกเข่าลงกับพื้นทันที ก่อนที่โกโลมาจะเดินออกไป......................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×