คุณแม่ที่รัก - คุณแม่ที่รัก นิยาย คุณแม่ที่รัก : Dek-D.com - Writer

    คุณแม่ที่รัก

    ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะแค่อยากเขียนเพื่อแม่เท่านั้นเองเนื่องในโอกาสวันแม่ค่ะ พอเขียนแล้วก็รู้สึกอยากแบ่งบันความรู้สึกนี้ให้คนอื่นได้รับรู้ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคนที่เข้ามาอ่านนะคะ

    ผู้เข้าชมรวม

    345

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    345

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 ส.ค. 49 / 23:32 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      แม่...

      ตั้งแต่จำความได้ฉันก็มีแม่คอยโอบอุ้มประคองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะหกล้ม ท้อแท้ หรือแม้แต่ยามเจ็บป่วย ยามนั้นจะมีแม่คอยอยู่ข้างๆให้กำลังใจอยู่เสมอๆ ใบหน้านั้นคอยยิ้มแย้ม อ่อนโยน และให้ความรู้สึกปลอบประโลมอย่างไม่สามารถ อธิบายได้ แม่ยิ่งใหญ่สำหรับฉันเสมอ แม่ไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้ฉันหรือพี่ได้เห็นเลย


                          แต่มาวันนี้แผ่นหลังเบื้องหน้าไม่ได้ดูยิ่งใหญ่เหมือนเก่า ไหล่แม่เล็กบาง และ สั่นไหว  แม่แสดงความอ่อนแอให้เห็น แม่กำลังมีความทุกข์แต่ฉัน ลูกสาวคนนี้ไม่สามารถช่วยอะไรแม่ได้ นอกจากกอดไหล่เล็กบางนั้นไว้ด้วยความทุกข์ที่มีไม่แพ้กับแม่ และกอดแน่นขึ้นเรื่อยๆเมื่อแม่สะอื้นหนักขึ้น ปากไร้สิ้นซึ่งคำปลอบประโลมใดๆ ทั้งๆที่ในหัวสมองมีคำพูดมากมายที่อยากจะบอก แต่ก็ไม่สามารถพูดมันออกมาได้........


                            วันนี้เป็นวันที่
      12 สิงหาคม เป็น วันแม่ เป็นวันที่ลูกๆที่ดีควรจะกลับบ้านไปกราบเท้าแม่แต่ลูกคนนี้ก็ไม่ได้ทำ กลับต้องให้แม่มาเยี่ยมแทนถึงแม้จะเอาอะไรมาอ้างก็ไม่พอสำหรับความเห็นแก่ตัวของลูก......ขอโทษ นะคะ


                            ฉันไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าครอบครัวของตนเองมีฐานะปานกลางแต่ก็ไม่ได้ร่ำรวยด้วยเช่นกันเพราะฉะนั้นแม่จึงไม่จำเป็นจะต้องทำงานก็ได้ พ่อก็ไม่อยากให้แม่ทำงาน แต่แม่ก็อยากทำ แม่ได้งานเป็นบรรณารักษ์ที่ห้องสมุดวัดแห่งหนึ่ง อยู่ในตัวเมืองใกล้ๆกับโรงเรียนของฉันและถึงแม้ว่าจะไม่ได้เงินเดือนมากนักแต่แม่ก็อยากจะทำ แม่บอกว่าอยู่บ้านมันว่าง อีกอย่างเวลาลูกเลิกเรียนก็เดินมาหาแม่เราจะได้กลับบ้านพร้อมกัน พ่อจะได้ไม่ต้องปลีกตัวจากงานมารับฉันหรือไม่ก็ ฉันไม่ต้องขึ้นรถสองแถวกลับบ้านเอง


                             วันเสาร์อาทิตย์ที่แม่ว่างจากงาน แม่มักจะไปนั่งอยู่ในออฟฟิสของพ่อนั่งฟังเรื่องราวต่างๆ ที่บรรดาพนักงานนินทากัน หากฉันได้คิดสักนิดและ ใส่ใจแม่ให้มากกว่านี้ละก็ เรื่องทุกอย่างคงไม่เป็นเช่นวันนี้  ทั้งๆที่รู้ว่าแม่ตนเองเป็นคนหัวอ่อน ถึงแม้จะดูเข้มแข็ง แต่ฉันก็ไม่ได้ทำอะไร


                             เรื่องเริ่มจากการที่แม่ไปนั่งฟังคนอื่นเค้านินทากัน ว่าไม่ชอบคนนู้น คนนี้ พนักงาน คนนู้นไม่ดีอย่างนี้ และด้วยความที่แม่ฉันเป็นภรรยาท่านผู้จัดการ พนักงานคนอื่นจึงมาประจบ และนินทาว่าร้ายพนักงานคนหนึ่งให้แม่ฟัง  แรกๆแม่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร แต่นานๆเข้าน้ำน้อยก็ย่อมแพ้ไฟ การนินทาเป็นผล แม่เริ่มไม่ชอบพนักงานคนนั้นขึ้นมา จากไม่ชอบเริ่มกลายเป็นเกลียด แม่จึงพยายามบอกให้พ่อไล่พนักงานคนนั้นออก แต่พ่อเป็นผู้จัดการคงไล่คนออกด้วยเหตุผลว่า เมียผมเกลียดคุณ ไม่ได้หรอก พ่อพยายามพูดกับแม่อย่างมีเหตุผลแต่ดูเหมือนว่าแม่จะไม่ฟังเสียแล้ว  จากเรื่องเกลียดคนนี้ ลามไปถึงอีกคนนึง และปัญหาอื่นๆก็ตามมา ทั้งๆที่เรื่องทำนองนี้เคยเกิดขึ้นมาครั้งหนึ่งแล้วและแม่ถึงขั้นต้องไปพบจิตแพทย์ แต่ฉันก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะเห็นว่าแม่ดีขึ้นมากแล้ว  แล้วฉันก็มารับรู้เมื่อเรื่องมันสายเกินไปแล้ว


                              วันนี้แม่มาเยี่ยมเราไปซื้อของด้วยกันกลับมาแม่บอกว่าง่วงอยากจะนอน ฉันจึงให้แม่นอนเตียงของฉัน แล้วฉันก็นอนตามแม่ลงไปอีกที ฉันพยายามพูดถึงปัญหาของแม่ปลอบโยนแม่ บอกให้แม่ปล่อยวางและทำใจให้สงบ แต่เมื่อแม่ร้องไห้ ฉันพูดอะไรไม่ออกทั้งนั้น ได้แต่กอดแม่เอาไว้แล้วบอกให้แม่หยุดร้องไห้และพักผ่อนเสีย เมื่อแน่ใจว่าแม่หลับแล้วฉันจึงลุกออกมาปล่อยให้แม่ได้พักผ่อนสบายๆ แต่เหมือนมีความกังวล ฉันจึงกลับไปดูแม่อีกที แม่นอนตะแคงและแอบร้องไห้ฉันทำอะไรไม่ถูกเลย ได้แต่คุกเข้าลงและกอดแม่เอาไว้นานเท่านานกับที่แม่จะหยุดร้อง  แม่ลุกขึ้นนั่ง และเริ่มเล่าปัญหาของแม่ แม่รู้สึกว่าตนเองไม่มีความสำคัญต่อพ่อ แม่รู้สึกโดดเดี่ยว ฉันจึงปลอบแม่ว่าไม่จริงหรอกแม่คิดไปเอง แม่น่ะไม่ว่าเมื่อไรก็มีความสำคัญสำหรับพ่อเสมอ  แล้วแม่ก็เริ่มพูดถึงว่าสักวันแม่คงต้องจากไปและเริ่มร้องไห้หนักขึ้น แม่สะอื้นจนตัวโยน เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกว่าแม่ของฉันดูอ่อนแอเหลือเกินในยามนี้ แต่ฉันก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการกอดแม่ไว้แน่นๆ จนแม่หยุดร้องไห้ 


                            สักพักหลังจากนั้นพ่อก็มารับเราไปทานข้าวด้วยกันหลังจากทานข้าวเสร็จเราก็แวะไปดูของตกแต่งบ้าน บ้านของเรากำลังสร้างใหม่ แม่ดูอารมณ์ดีขึ้น ยิ้มแย้มขึ้น ฉันก็รู้สึกโล่งใจขึ้น เมื่อพ่อพาฉันกลับมาส่งที่หอพักฉันก็ลาท่านทั้งสองด้วยการหอมแก้มฟอดใหญ่ๆสองฟอด สวัสดีท่านและเราจากกันด้วยรอยยิ้ม ฉันรู้สึกดีที่เห็นแม่ดีขึ้น แต่อีกใจก็ยังคงกังวลว่าแม่ดีขึ้นแน่จริงหรือ  หรือว่าแม่แค่ต้องการให้ฉันสบายใจกันแน่  แต่ยังไงๆ ฉันก็รู้สึกแน่ใจว่าฉันรักแม่คนนี้และแม่จะยังอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ฉันไปอีกนานทีเดียว

                                                     

          ด้วยรัก    จากลูกสาวที่ยังไม่สามารถทำอะไรเพื่อตอบแทนบุญคุณอันใหญ่หลวงของท่านได้เลย

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×