คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 6
ย้อนเรื่อง...
ตอนที่ฉันกำลังกลับบ้านหลังจากที่ฉันไปส่งลินยองแล้ว พอดีว่าขับผ่านร้านเหล้าร้านหนึ่ง แล้วของมันขึ้น แบบว่ามันอยากง่ะ
“อยากกินเหล้าเว้ย ไอ้ข้าว มรึงไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นเลย”
ฉันเลยจอดรถ ตอนเดินผ่านหน้าร้านเห็นรถมอ’ไซค์มันคุ้นๆ พอเดินเข้าไปในร้านก็ถึงบางอ้อ
“โอ้ว เฮียมันอยู่ตรงไหนง่ะ บางอ้อ วันหลังพาไปบ้างนะ”
“ไอ้ข้าว มรึงอยากฟังมั้ย งั้นมรึงนั่งให้เฉยเลย”
เออ แล้วฉันเห็นไอ้ทีนั่งกินเหล้า กำลังเมาได้ที่เลย เที่ยวจีบเด็กเสริฟไปเรื่อย แล้วเรื่องก็เกิดขึ้น พอดีว่ามันคงครึ้มอกครึ้มใจ มันเลยแซวเด็กคนนึง พอดีว่าเด็กคนนั้นเป็นเด็กของเสี่ยที่มาบ่อยๆ เรื่องเลยเกิด
“เฮ้ยน้องซ่านักรึไง รู้มั้ยว่านี้เป็นของใคร” พวกลูกน้องของเสี่ยคนนั้นเข้ามาถามไอ้ที
“ฮะๆ พวกมรึงยังไม่รู้ แล้วกรูจะรู้หรอ” ไอ้ทีอยู่ในสภาพที่เมามากตอบ
“อ้าวมรึง วอนซะแล้ว เด็กนี้ของเสี่ยกรูเอง มรึงกลับบ้านไปดูดนมแม่เถอะว่ะ”
“มันก็เรื่องของกรู อ่ะนี้เด็กของเจ้านายมรึง งั้นเอาไปเลย กรูไม่อยากได้”
“อ้าวเฮีย แล้วมันมีเรื่องชกต่อยกันป่าวง่ะ”
“มรึงอย่าเพิ่งขัดได้มั้ย กรูจะได้เล่าให้มรึงฟังต่อ”
“ฮะๆ ไม่มีสาวๆให้จูนรึไง ถึงไปจูบพื้นแข็งๆน่ะ ฮะๆๆๆๆๆๆๆ” ไอ้ทีมันดักขาของพวกลูกน้องเสี่ย ล้มลงไปกองกับพื้น พวกมันก็เข้ามาชกไอ้ที แต่เจ้านายของพวกมันมาห้ามไว้ก่อน
“เฮ้ย พวกมรึงหยุด รู้มั้ยว่าคนที่มรึงจะต่อยด้วยเขาเป็นใคร”
“ไม่รู้ครับนาย”
“มันลูกของเพื่อนกรูเอง แต่กรูยังสงสัยอยู่เลยว่าเพื่อนกรูคนนี้มันมีเมียตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ” เสี่ยคนนั้นพูดกับลูกน้องแล้วหันมาพูดกับไอ้ทีว่า
“ไอ้หลานชายมันไม่ได้โชคดีอย่างนี้เสมอไปนะ ลุงไปก่อน ไว้มีอะไรก็บอกลุงได้ ไปเว้ย” แล้วเสี่ยคนนั้นก็เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ
“เฮีย แล้วพ่อนายหน้าจืดเป็นเพื่อนของเสี่ยคนนั้นจริงหรอ”
“กรูก็ไม่รู้เหมือนกัน ไอ้ทีมันก็คงไม่รู้เหมือนกัน”
“ไหงเป็นงั้นอ่ะเฮีย”
“ก็กรูเป็นคนบอกไอ้เสี่ยหน้าโง่มันเอง ว่าได้คนที่แย่งเด็กไปเป็นลูกของเพื่อนเสี่ยเอง”
“แล้วเสี่ยคนนั้นเชื่อเฮียเลยหรอ ไหงโง่เงี้ยะอ่ะ”
“กรูก็ว่างั้นแหละ เอามาฟังกันต่อ...”
แล้วฉันก็พาไอ่ทีออกมาจาดร้านนั้นโดยด่วน แล้วก็พามันมานั่งกินต่อที่สวนสาธารณะ มันเมามากเลย มันยังไม่รู้เลยว่าฉันพามันมา นั่งไปได้ซักพัก มันก็เพ้อถึงผู้หญิงคนนึง ผู้หญิงคนนี้ฉันรู้จักดี
“อ้าว เฮียมันเพ้อถึงเจ๊ลินยองหรอ มันเลวจริงๆ”
“ไอ้ข้าว กรูว่ามรึงหุบปากไปเลยดีกว่านะ กรูชักรำคาญมรึงแล้ว”
คนนั้นเป็นน้องสาวฝาแฝดฉันเอง มันเพ้อถึงไอ้ข้าวอยู่นั้นแหละ จนฉันเองยังรำคาญ เพราะไม่รู้ว่ามันพูเรื่องอะไร ก็เลยถามมัน
“เฮ้ยไอ้ที มรึงอกหักจากน้องสาวกรูหรอ”
“ก็ไม่เชิงหรอกค้าบเฮีย ผมยังไม่ทันบอกฟามในใจเลย”
“อ้าว นี้มรึงรู้หรอว่าเป็นกรู”
“ค้าบ ถึงผมเมาแต่ผมยังมีสตินะ ผมยังมีสติคิดถึงคนที่ผมรักอยู่ด้วย หน้าแบบเนี้ยะเลย”
“มรึงชอบน้องสาวกรู แล้วทำไมมรึงไม่บอกมันฟ่ะ”
“ฮะๆๆๆๆ ผมกลัวว่าข้าวปุ่นจะไม่รับรักผมเซ่ ผมกลัวการผิดหวัง”
“แต่ตอนนี้ไอ่ข้าวมันเป็นแฟนของพี่มรึงนี่นา”
“ค้าบ เขาเป็นแฟนกัน ผมเจ็บใจมากเลย ไอ้พีมันแย่งคนรักของผมไปอีกแล้ว คนที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ มันชอบแย่งคนที่ผมรักไป”
“อ๋อ ที่มรึงมานั้งเสียใจ ก็เพราะว่ามรึงเจ็บใจพี่มรึง มรึงไม่ได้เจ็บใจที่เขาแย่งข้าวไปหรอ”
“เปล่า ผมเสียใจที่ถูกเขาแย่งข้าวไป ผมไม่มีข้าวกินเลย ฮือๆๆๆๆ”
“อ้าวไอ้เวง งั้นมรึงเตรียมตัวเป็นผีเฝ้าตรงนี้เลยล่ะกัน”
“เฮียค้าบ ผมล้อเล่น ผมเสียใจที่ข้าวตกลงเป็นแฟนกับไอ้พี ผมไม่รู้จะทำยังไงถึงจะได้ข้าวคืนมาเป็นของผม ผมรักข้าวจริง ผมกลัวว่าไอ้พีมันจะทำให้ข้าวของผมเสียใจ มันไม่อยากเห็นข้าวต้องเสียใจ ไม่อยากเห็นข้าวต้องเจ็บ ผมรักข้าวจริงๆนะเฮีย ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆ ผมรักข้าวปุ่น” มันพูดจบมันก็ซดเบียร์หมดกระป๋องเลย แถมยังเปิดกระป๋องต่อไปด้วย ฉันล่ะสงสารมันจริงๆเลย
“ผมรักข้าวมากเลยค้าบ แต่ข้าวคงไม่รู้ว่าผมรักเธอมากขนาดไหน เธอคงไม่ชอบหน้าผมเท่าไหร่ เพราะผมชอบกวนโมโหเธอ ผมแค่อยากใกล้ชิดเธอเท่านั้นเอง” แล้วมันก็ซดเบียร์เข้าไปอีก ไอ้ข้าวมันคงไม่รู้เลยว่ามีคนที่รักมันนั่งเสียใจอยู่ตรงนี้ มันคงไม่รับรู้เลย มันไม่รู้เลย
“ผมต้องการตัดใจจากข้าว ผมเลยต้องออกห่างข้าวไปซักพัก ผมไม่เข้าเรียน ผมคืนตราห้อง ผมเที่ยวจีบผู้หญิงไปเรื่อยเพื่อหวังว่ามันคงแทนกันได้ แต่มันก็ไม่อาจทำให้ผมลืมเธอได้เลย ผมยังต้องการเธออยู่ ยังไงผมก็ยังตัดใจจากข้าวไม่ได้ ผมยอมที่จะรักเธอฝ่ายเดียวก็ได้” นี่หนอความรัก น่าสงสารมันจริงๆเลย ฉันจะช่วยมันยังไงดีฟ่ะ
“ถ้าใครทำให้ข้าวปุ่นของผมเจ็บ มันคนนั้นต้องเจ็บกว่าเป็นล้านเท่า แม้ว่ามันคนนั้นจะเป็นพี่ชายผมก็ตาม” มันพูดน่ากลัวแฮะ มันคงรักข้าวจริงๆ แล้วกรูจะช่วยมัยยังไงดีฟ่ะเนี้ยะ
“ ” ตอนนี้ยังคิดไม่ออก งั้นพามันกลับบ้านก่อนดีกว่า
จบเรื่อง....
“เป็นไงไอ้ข้าว ไอ้ทีมันรักมรึงมากเลยนะ มันแค่ยังไม่บอกมรึงเท่านั้นเอง”
“แล้วนี้มรึงร้องหรอเนี้ยะ ไอ้ทีคงดีใจนะที่ฟังเรื่องของมันแล้วมรึงซึ้ง”
“เปล่า เฮีย ก็เฮียนั่งทับมือฉันอยู่ โอ๊ย กระดูกจะหักมั้ยเนี๊ยะ เฮียตัวเบาซะที่ไหนกัน”
“อ้าว เวง กรูขอโทษ แหมนึกว่ามรึงร้องเรื่องไอ้ทีเสียอีก” เฮียต้นพูดจบก็ลูบหัวฉันเบาๆแล้วเดินออกจากห้องไป แล้วอันที่จรืงฉันร้องเพราะเรื่องนายหน้าจืดนั้นแหละ ไอ้ที่บอกว่าเจ็บมือน่ะ ไม่เลย แต่ใครจะบอกเฮียล่ะ มีหวังได้ล้อกันตาย นายหน้าจืดได้รู้กันพอดี
หลังจากที่เฮียต้นมาพูดกับฉันวันนั้นดูเหมือนมันจะไม่มีความหมายอะไร เพราะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ฉันยังเป็นแฟนกับพีคุงเหมือนเดิม นายหน้าจืดยังคงไม่พูดกับฉันเหมือนเดิม แต่เขามาเรียนแล้วล่ะ แล้วก็เลิกจีบผู้หญิงไปทั่วแล้วด้วย
“หนูข้าววันนี้อร่อยไหมลูก หม่าม้าให้แม่ครัวทำแต่อาหารที่หนูชอบทั้งน้านเลยลูก” แม่ของพีคุงพูดกับฉันขณะที่เรากำลังทานข้าวเย็นกันอยู่
“หนูทานเยอะๆซิลูก ของชอบทั้งน้าน ป๋าเห็นหนูทานน้อยลงนะ” พ่องของพีคุงนี้ช่างสังเกตเสียนี้กระไร ใครจะไปกินลงในเมื่อ มันขาดสมาชิกไปอีกหนึ่ง
“เฮ้อ ข้าวไม่เห็นว่าทีจะลงมากินข้าวกับเราเลย เขาคงไม่ชอบข้าวแน่เลย” ฉันพูดกับพีคุงตอนที่กำลังกลับบ้าน
“ช่างมันเถอะ เจ้าหมอนั้นมันก็เป็นงี้ทุกที มันไม่ค่อยลงมากินข้าวหรอก ข้าวอย่าไปคิดมากเลยนะ พรุ่งนี้อยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ย จะได้ให้แม่ครัวทำให้”
“ไม่ดีกว่าค่ะ พรุ่งนี้ข้าวขอกลับไปกินที่บ้านของตัวเองนะค่ะ”
“นี่ข้าวเครียดเรื่องของเจ้าทีจนไม่อยากมากินข้าวบ้านผมเลยหรอ”
“เปล่าค่ะ คือว่า ป๊ากะม้าข้าวจะจำไม่ได้แล้วว่ามีลูกสาวอีกคนนึงนะค่ะ ยังไงพีคุงก็ไปกินข้าวที่บ้านข้าวได้นี่ค่ะ” อันที่จริงก็คิดเรื่องนายหน้าจืดด้วยนั้นแหละ
ฉันไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย ตั้งแต่คบกับพีคุงรู้สึกว่ามันไม่เป็นส่วนตัวยังไงพิกล พีคุงคอยตามติดทั้งวัน ขี้หึงก็ที่หนึ่ง ใจร้อนยังกะพระอาทิตย์ ไม่มีความเป็นส่วนตัวเลย ขนาดเฮียต้นจะมาคุยยังต้องนั่งเฝ้า จนเฮียรำคาญ เวลาอยู่ที่โรงเรียนเฮียเลยไม่คุยด้วยเลย ไปคุยกันที่บ้านจะดีกว่า แล้วไหนจะยังมีนายหน้าจืดที่ไม่พูดด้วยมาหลายอาทิตย์อีก
“ทำไมนายไม่มาพูดกับฉันซักทีนะนายหน้าจืด ฉันรอให้นายมาพูดกับฉันอยู่นะ มาพูดกับฉันซักทีเซ่” ฉันยืนตะโกนอยู่ที่ดาดฟ้าของโรงเรียน วันนี้ฉันหนีพีคุงมาได้แหละ ฮิๆๆๆ
“โอ๊ย หนวกหูเฟ้ย คนจะนอน มายืนตะโกนอยู่ได้” ไอหย่า มีใครรู้มานอนอยู่ตรงนี้ ใครจะไปรู้ล่ะฟ่ะว่ามีคนมานอนอยู่ตรงนี้ แล้วยังมากล้าขึ้นเสียงกับฉันอีก ฉันเป็นรองประธานนักเรียนนะ แล้วคนนั้นก็ลุกขึ้นพร่อมกับฉันที่ทันหลังมาพอดี
“เฮ้ย นาย/เธอ”
ความคิดเห็น