ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Mr.&Mrs. Terachi

    ลำดับตอนที่ #1 : ผมโดนเขาจับคลุมถุงชน!

    • อัปเดตล่าสุด 31 ต.ค. 50


     

                    เสียงกระพือปีกพึ่บพั่บของนกพิราบสีขาวดังสะท้อนท่ามกลางเสียงพูดคุยจอแจของบรรดาแขกผู้มาร่วมงาน เหล่าปักษาสีพิสุทธิ์พากันโบยบินผ่านหลังคาทรงสูงสีเข้มไปสู่ท้องนภากว้างใหญ่ ดูงดงามราวกับภาพวาดก็มิปาน

                    ชายหนุ่มยืนอยู่เพียงลำพังบนแท่นปะรำพิธี สีหน้าดูเคร่งขรึมและตึงเครียดจนน่าแปลกใจ ทว่าไม่มีผู้ใดสังเกตถึงเรื่องนี้เลย...ไม่สิ จะพูดให้ถูกก็คือไม่มีใครสนใจว่าเขาจะเป็นเช่นไรอยู่แล้ว เพราะบรรดาแขกเหรื่อล้วนแต่รอคอยผู้ที่กำลังจะเดินทางผ่านลาดพรมสีแดงเส้นนี้อยู่ต่างหาก...

                    เขาอยู่ในชุดทักซิโด้สีดำ เส้นผมสีแดงเพลิงที่เคยยาวเหยียดถึงเอวนั้นโดนหั่นจนเหลือแค่บริเวณลำคอ ทั้งยังถูกย้อมให้เป็นสีดำสนิทเหมือนพวกพนักงานบริษัทที่คร่ำเคร่งกับการทำงาน สิ่งนี้ทำเอาเขารู้สึกอึดอัดจนเกินจะบรรยาย ชายที่เคยได้ชื่อว่าเป็นเด็กเกหมายเลขหนึ่งของโรงเรียนกลับต้องมาทำผมเรียบแปล้แบบนี้น่ะ!

                    นี่ไม่ใช่ความปรารถนาของเขาเลยแม้แต่นิด ทั้งไอ้ชุดบ้าๆน่าอึดอัดนี่ ทั้งผมทรงที่เขาเคยล้อเลียนว่าเป็นทรงคุณหนู ซึ่งชาตินี้ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาทำ...แถมสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้อีก...

                    เขายืนอยู่บนแท่นปะรำพิธีในโบสถ์คริสต์ที่ตัวเองไม่ได้นับถือ อยู่ท่ามกลางบรรยากาศแสนทุเรศที่เหล่าคุณหญิงคุณนายซึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้ของแขกผู้มาร่วมงานพากันชะเง้อคอเตรียมเมาท์เรื่อง เจ้าสาวของเขา

     

                    ใช่! เขากำลังจะแต่งงาน กำลังอยู่ในคราบของเจ้าบ่าว แต่ปัญหาคือเขาเป็น เจ้าบ่าวจอมปลอมนี่สิ!

    การแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความรักนี้มีต้นสายปลายเหตุมาจากสัญญาบ้าๆบอๆระหว่างพ่อของเขากับประธานกลุ่มธุรกิจผู้ทรงอำนาจ หรือจะพูดให้ถูกก็คือพ่อของเขาโดนฝ่ายนั้นกดดันมาจนต้องยอมตกปากรับคำอย่างไม่มีทางบิดพลิ้ว และไม่ทันได้ถามความเห็นของเขาสักคำ!

                    ใครจะไปคิดว่าเขาที่เป็นมือกีตาร์วงร็อค ฉายาลูกไฟบรรลัยกัลป์จอมอาละวาดคนนี้ ต้องมาโดนจับคลุมถุงชนแต่งงานเอาตอนอายุ24แบบนี้เล่า!

     

                    แถมอีกฝ่ายยังเป็นผู้ชายเหมือนกันซะอีก นี่มันบ้าชัดๆ!!!

     

                    อยากจะลุกขึ้นอาละวาด กระทืบเก้าอี้ที่บรรดาซือเจ๊ช่างเมาท์ทั้งหลายนั่งอยู่ให้ล้มกลิ้งจนสาแก่ใจ แล้วตบท้ายด้วยบิดมอเตอร์ไซค์คู่ใจให้เสียงกระหึ่มแล้วจากไปด้วยสีหน้าของผู้ชนะจริงว้อย!

     

                    แต่มันทำไม่ได้นี่สิ!

     

                    เผอิญว่าหน้าที่การงานของท่านพ่อมันแขวนอยู่บนการตัดสินใจ(จำใจ)ยอมรับของเขา ซึ่งหากเกิดอะไรขึ้นมา เงินเก็บกระจ้อยร่อยของเขาคงไม่พอส่งเสียน้องๆอีก3คนให้เรียนจบสมดังที่แม่ของเขาต้องการ แถมบ้านที่อยู่ก็ยังเหลือผ่อนอีกตั้งหลายปี...ตกลงว่าเขาถูกขายขัดดอกแบบในนิยายน้ำเน่าที่ยัยผู้จัดการวงชอบอ่านเหรอวะเนี่ย?

                    กำลังฟุ้งซ่านเพลินๆ เสียงบรรเลงออร์แกนเพลงเวดดิ้ง มาร์ช อันสุดแสนจะคุ้นหูก็ดังขึ้น เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขาหลีกหนีชะตากรรมสุดพิลึกนี้ไม่พ้นแน่แล้ว...ชายหนุ่มหลับตาฟังเสียงนกกระจิบนกกระจอกที่เริ่มต้นบทสนทนากันอย่างมันส์ปาก จนกระทั่งเสียงรองเท้าหนักๆก้าวเดินขึ้นมาบนเวอร์จิ้นโร้ด...ขนาดเดินบนพรมยังมีเสียงดังแบบนี้อีกเหรอ?

                    เขาเลิกเก็บความสงสัยไว้ในใจ แล้วลืมตาหันกลับไปมองว่าที่ เจ้าสาวของเขาให้เต็มๆตา แล้วเป็นอันต้องนึกประหลาดใจเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เขาควรจะต้องร่วมหอลงโลงด้วยมาในมาดชุดเจ้าสาวเต็มยศจริงๆ กระทั่งรองเท้ายังเป็นรองเท้าส้นสูงปรี๊ดเลย

     

                    รึว่าจะเป็นกะเทย?

     

                    เขานึกสงสัยแบบนี้ไม่รู้เป็นหนที่เท่าไหร่ จนมาเห็นตัวจริงของอีกฝ่ายนี่ล่ะ ใช่แน่ๆ ล้านเปอร์เซ็นต์!

                    ถึงเพ่งดูแล้วฝ่ายนั้นจะดูผอมเพรียวบางจนไม่น่าเชื่อก็เถอะ...จะว่าไปก็ผอมจริงๆแฮะ ไม่มีกล้ามเนื้ออย่างที่ผู้ชายควรจะมีเลย เอวก็บางซะขนาดนั้น ถึงจะไม่มีหน้าอกก็เถอะ...ชายหนุ่มไล่สายตาเรื่อยขึ้นไป ลำคอระหงขาวเนียนถูกประดับประดาด้วยสร้อยไข่มุกสีนวล รับกับชุดเดรสสีขาวเข้ารูปกับกระโปรงลูกไม้ไล่ระดับเป็นชั้นๆ เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนถูกรวบไว้แล้วประดับด้วยดอกลิลลี่สีขาว ใบหน้านั้นเขามองเห็นไม่ชัด เพราะถูกคลุมไว้ด้วยเวลล์ชายลูกไม้...จะว่าไปเขาก็รูสึกใจเต้นขึ้นมาหน่อยนึงทีเดียว เพราะมองเผินๆแล้วอีกฝ่ายเหมือนเจ้าสาวคนสวยที่จะมายืนเคียงข้างเขาจริงๆ...ยกเว้นไอ้การเดินสไตล์ลงส้นแบบนั้นนะ

     

                    ไม่สิ!คิดบ้าอะไรของเราวะ ยังไงข่าวที่ว่าฝ่ายนั้นเป็นผู้ชายทั้งแท่งก็ไม่ผิดแน่ๆ!

     

                    ชายหนุ่มหันหน้ากลับไปทางด้านหน้าอีกครั้งเมื่ออีกฝ่ายมายืนนิ่งอยู่ข้างๆ พลางนึกสงสัยว่าปกติฝ่ายพ่อตาน่าจะเดินมาส่งเจ้าสาวไม่ใช่รึไง...ก็พอดีกับที่บาทหลวงแก่งั่กเริ่มพูดคำพูดสุดฮิตด้วยน้ำเสียงแบบชายชราอันน่าเลื่อมใส

     

                    อันโด ไดสุเกะ เจ้ายินดีที่จะยอมรับเจ้าสาวเป็นคู่ทุกข์คู่ยาก ยามเจ็บไข้ได้ป่วยเจ้าจะดูแลรักษา ยามมีทุกข์เจ้าจะช่วยคลาย ยามสุขเจ้าจะร่วมแบ่งปันกับอีกฝ่ายหรือไม่

     

                    ..........รับครับ หลังจากเงียบพอให้บาทหลวงเงยหน้าขึ้นมาสบตาได้แล้ว เขาก็ตอบรับอย่างเสียมิได้

     

                    เทราจิ ชินยะ เจ้ายินดีที่จะยอมรับเจ้าบ่าวเป็นคู่ครอง คอยปรนนิบัติรับใช้ ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันหรือไม่

     

                    ความเงียบอันยาวนานกว่าของชายหนุ่มบังเกิดขึ้น คราวนี้ไม่ใช่แค่บาทหลวง แต่บรรดาแขกเหรื่อก็พากันเริ่มส่งเสียงวิจารณ์ว่าว่าที่เจ้าสาวหลับในอยู่หรือไม่ บ้างก็คิดไปว่าลูกชายของไฮโซคนดังท่าจะเป็นใบ้เสียล่ะมัง...แม้แต่ชายหนุ่มเองก็เริ่มรู้สึกแคลงใจขึ้นมา ไม่แน่ใจว่าคนข้างๆมีแผนการอะไรกันแน่ เขาหันไปมอง กำลังจะเอื้อมมือไปสะกิด เผื่ออีกฝ่ายกำลังตื่นเต้นไปกับบรรยากาศจนลืมไปว่าตัวเองเป็นฝ่ายที่ถูกถามอยู่...

                    ก็พอดีกับที่ชายร่างบางข้างๆเขายกขาขึ้นมายันที่กั้นระหว่างพวกเขากับบาทหลวงพอดี!

     

                    เฮ้ย!! ไอ้คุณป๋า อยู่ไหนวะ รีบไสศรีษะออกมาเดี๋ยวนี้นะว้อย!!! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ออกมาอธิบายซะ!!! ไม่งั้นพ่อจะอาละวาดให้ยับกันหมดนี่ล่ะ!!!!!!!”

     

                    ...และนี่ก็คือครั้งแรกที่เขา อันโด ไดสุเกะ ได้ยินเสียงของว่าที่เจ้าสาวของเขา เทราจิ ชินยะ นั่นเอง...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×