ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sorova - เมื่อประเทศฉันมันบัดซบ

    ลำดับตอนที่ #23 : ตอนที่ 20 : ขีปนาวุธ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 59
      1
      7 มี.ค. 64

    เฮลิคอปเตอร์ของซิลลินเรียได้พาพวกของเนวิสเดินทางข้ามเขต 2 มายังชายแดนระหว่างเขต 5 กับเขต 7 ซึ่งในขณะนี้ กองกำลังของลูซิน่าและวาลิน่าก็ได้เดินหน้าเข้าสู่เขต 2 อย่างต่อเนื่อง พวกเขาจอดเฮลิคอปเตอร์ไว้ที่บริเวณลานกว้างแห่งหนึ่ง จากนั้นพวกเขาก็เดินลงมาจากฮอ แล้วไปรวมตัวกับทหารคนอื่นๆที่กำลังเดินหน้าโจมตี และในตอนนั้น ทหารคนหนึ่งก็วิ่งมารายงานสถานการณ์กับลูซิน่าในทันที

    “คุณลูซิน่า ผมชื่อจาวิส รายงานตัวครับ!!”

    “สถานการณ์เป็นยังไงบ้างหล่ะ จาวิส??” ลูซิน่าถามไป

    “มีกองกำลังของข้าศึกตั้งแนวรับไว้ตลอดทาง และพวกมันติดตั้งอาวุธหนักไว้ด้วยครับ!!”

    “ถ้าบุกไปตรงๆ พวกเราคงตายกันเป็นเบือแน่ๆเลย” วาลิน่าพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง พวกเขาก็ได้ยินเสียงปืนดังมาแต่ไกล

    “ปัง!!”

    “ข้าศึก!!”

    กองกำลังของลูซิน่าพากันหาที่หลบให้วุ่น บางส่วนก็พยายามยิงตอบโต้กลับ พวกของเนวิสพยายามฝ่ากระสุนปืนไปยังแนวหน้า ซึ่งด้านหน้าเป็นสนามเพลาะธรรมดาๆ ซึ่งพวกมันตั้งปืนกลดักทางพวกเขาไว้มากมาย และยิงกดอย่างต่อเนื่อง ทำเอาทหารออกไปไหนไม่ได้เลย

    “บ้าเอ้ย ปืนกลของพวกมันเต็มไปหมดเลย!!” เรนิต้าตะโกนออกมา

    “ถ้าเราจัดการปืนกลของพวกมันไม่ได้ เราบุกเข้าไปไม่ได้แน่ๆ” เมเดอลีนพูดขึ้น

    “เรามีปืนครกไม่ใช่เหรอ ยิงกดพวกมันไว้สิ แล้วหาช่องที่พวกมันอ่อนแอ บุกเข้าไปเลย!!” เด็กซ์เตอร์พูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็เอาปืนครกของพวกเขามาติดตั้ง จากนั้นก็ระดมยิงใส่แนวรับของพวกนั้นในทันที ส่วนฟรอนเทียร์ก็ใช้สไนเปอร์ของเขาเล็งและส่องหาพื้นที่ที่อ่อนแอมากที่สุดของพวกมัน

    “ยิงสกัดไว้ก่อนนะ ฉันจะลองหาทางดู!!” ฟรอนเทียร์พูดขึ้น

    “นี่ ดูเหมือนว่าพวกมันจะมีกำลังมาเสริมนะ” รอนนี่พูดขึ้น ในขณะที่ใช้กล้องส่องทางไกลมองไป

    “กำลังของพวกมันน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 500 ได้ ใช้เฮลิคอปเตอร์เถอะ” ซิลลินเรียพูดขึ้น

    “ผมว่านะ มันน่าจะตั้งปืน ปตอ. ดักเราไว้แล้วหล่ะ” เนวิสพูดขึ้น จากนั้นเขาก็พยายามจะแอบออกจากสนามเพลาะ แต่ปืนกลของพวกมันก็ยังยิงอย่างต่อเนื่อง และในตอนนั้นเอง ฟรอนเทียร์ก็เหลือบไปเห็นจุดอับจุดหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนว่าปืนกลของพวกมันจะยิงไม่ถึง และไม่มีลวดหนามกั้นไว้ด้วย

    “ฉันเจอแล้ว มาทางนี้เร็ว!!” ฟรอนเทียร์พูดขึ้น จากนั้นเขาก็แบกสไนเปอร์วิ่งมาตามสนามเพลาะ และจัดการวิ่งมายังทางที่จะไปจุดอับของแนวรบในทันที

    “ถอยไปก่อน ฉันจะตัดลวดหนามเอง!!” เด็กซ์เตอร์พูดขึ้น จากนั้นก็ค่อยๆออกไปตัดลวดหนามที่ขวางทางไว้ โดยการใช้เลเซอร์พกพาค่อยๆตัดมันไป จากนั้นลวดหนามก็ค่อยๆคลายตัวออก เมื่อลวดหนามคลาย พวกเขาก็ค่อยๆคลานผ่านลวดหนามไปเรื่อยๆ ในขณะที่ทหารคนอื่นๆยังคงหลบอยู่ในสนามเพลาะเพื่อหลบปืนกลไปด้วย

    “ตายแล้ว ชุดฉันเปื้อนหมดเลย” เรนิต้าพูดขึ้น

    “ช่างเรื่องชุดมันก่อนเถอะ กลับไปค่อยซักก็ได้” เมเดอลีนปรามไป

    “ตรงนั้นมีสันเนิน แต่ดูแล้วมันเป็นดินแห้งๆหน่ะ” รอนนี่พูดขึ้น

    “ถ้าอย่างงั้น คงต้องใช้ระเบิดยัดเข้าไปแล้วหล่ะ” ซิลลินเรียพูดขึ้น จากนั้นไม่นาน พวกเขาก็มาหยุดอยู่ที่หน้าสนามเพลาะบริเวณนั้น

    “เอาหล่ะ เราต้องวางระเบิด ตรงนั้น และตรงนั้น สันเนินจะถล่มเอง” วาลิน่าพูดขึ้น

    “ระเบิดตรงกลางด้วย เพื่อเปิดทางให้พวกเราหน่ะ” ลูซิน่าพูดไป 

    “เอาหล่ะ ถ้างั้นก็ลุยกันเลยดีกว่า” เนวิสพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็รีบวางระเบิด C4 ไว้ทั้งสามจุด จากนั้นก็ตั้งเวลาเอาไว้ จากนั้นพวกเขาก็ค่อยๆคลานออกมาจากสนามเพลาะก่อนเพื่อรอให้ระเบิดทำงาน

    “ตู้ม!!”

    ระเบิดทั้งสามลูกทำงาน สนามเพลาะซึ่งเป็นดินแห้งระเบิดออก ทำให้เกิดรอยกว้างขึ้นมา และในตอนนั้นเอง ทหารคนอื่นๆของลูซิน่าก็รีบมาที่นั่นทันที ส่วนพวกของเนวิสก็วิ่งเข้าไปในช่องที่เพิ่งจะถูกระเบิดในทันที

    “ทางนี้ เลาะสนามเพลาะไปเลย!!” ลูซิน่าตะโกนออกมา จากนั้นเธอก็ใช้ปืนกลไล่ยิงพวกมันที่อยู่สนามเพลาะในทันที

    “ปังๆๆๆๆๆ”

    พวกเขาไล่สังหารกลุ่ม Khorne ที่อยู่ในสนามเพลาะอย่างต่อเนื่อง ทำเอาแนวรับของพวกมันเสียขบวน และต้องแบ่งคนมาจัดการกับพวกของลูซิน่า

    “พวกมันมากันเยอะเลย!!” วาลิน่าตะโกนออกมา

    “ไม่หรอก พวกมันมีกำลังไม่เท่าไหร่ บุกเข้าไปเลย!!” เนวิสพูดขึ้น จากนั้นก็ยิงพวกมันที่บุกเข้ามา

    “เฮ้!!”

    กองกำลังของวาลิน่าและลูซิน่าที่บุกเข้ามาทางช่องสนามเพลาะ และเริ่มการกวาดล้างกลุ่ม Khorne ในสนามเพลาะ จนตอนนี้พวกมันก็เริ่มจะออกจากสนามเพลาะไปแล้ว เพราะทนการกดดันไม่ไหว

    “พวกมันกำลังถอยไปแล้ว!!” ฟรอนเทียร์พูดขึ้น

    “หนีไปซะไอ้พวกเวรเอ้ย!!” เด็กซ์เตอร์ตะโกนและไล่ยงพวกมันที่กำลังถอย

    “ระวังนะ พวกมันอาจมีแนวรับที่สองก็ได้” เมเดอลีนพูดขึ้น

    “ทุกคน อย่าเพิ่งรีบหล่ะ รอดูไปก่อน” เรนิต้าตะโกนออกไป แต่ในตอนนั้นเอง พวกนั้นก็รีบทิ้งอาวุธและหนีออกจากแนวรบ รถบรรทุกของพวกมันค่อยๆขับหนีออกไป บางส่วนที่ขึ้นรถไม่ทันก็พยายามวิ่งหนีออกไป

    “พวกมันถอยไปแล้ว อย่าให้พวกมันหนีไปได้!!” รอนนี่พูดขึ้น จากนั้นเขาก็สั่งให้โดรนอัตโนมัติของเขาบินตามไล่ล่าพวกมันที่เหลือในทันที ทำให้การถอนทัพของพวกมันทำได้ยากขึ้น

    “คุณซิลลินเรีย เราจะเอายังไงกับพวกเชลยพวกนี้ดีเนี่ย??” เนวิสถามอย่างสงสัย

    “จับพวกมันไปก่อน ปลดอาวุธพวกมันให้หมด!!” ซิลลินเรียนพูดขึ้น และในขณะเดียวกันนั้นเอง ทหารที่เหลือของวาลิน่าและลูซิน่าก็เข้ายึดพื้นที่ได้ทั้งหมด พวกเขายึดอาวุธและจับเชลยมาได้มากมาย และไม่นานนัก พวกเขาก็มารวมตัวกันที่ลานกว้างแห่งหนึ่งในค่าย แล้วก็มาคุยกันถึงแผนการต่อไปในทันที

    “เอาหล่ะ ตอนนี้เราก็ยึดที่นี่ได้แล้ว แต่ที่นี่มันที่ไหนหล่ะ??” เนวิสถามอย่างสงสัย จากนั้นรอนนี่ก้หยิบเอาแท็บแล็ตของเขาออกมาแล้วเปิด GPS ดูในทันที

    “เราอยู่ที่แนวนี้ 100 กิโลเมตรจากเมืองหลวงเขต 2 มีเมืองใหญ่คาวัสเป็นเมืองหน้าด่าน ถ้าเรายึดเมืองนี้ได้ โอกาสที่จะเข้าล้อมเมืองหลวงและกระจายไปที่ส่วนอื่นก็ไม่ยาก” รอนนี่พูดขึ้น

    “แสดงว่า พวกมันต้องตั้งกำลังดักรอเราที่เมืองนี้สินะ” เรนิต้าออกความเห็นไป

    “ถ้าเข้าปะทะตรงๆ งานนี้ได้ตายกันมากมายแน่ๆ” ฟรอนเทียร์พูดไป

    “ถ้าอย่างงั้น ฉันจะใช้กลุ่มโดรนสำรวจก่อน ได้ข่าวอะไรจะรีบมารายงานแล้วกัน” เด็กซ์เตอร์พูดขึ้น

    “เราต้องรีบจบสงครามนี้ให้เร็ว ถ้ายื้อเยื้อมันจะไม่เป็นผลดีนะ” เมเดอลีนพูดขึ้น

    “เอาอย่างงี้ เราจะเดินทัพไปที่เมืองคาวัส แล้วให้เด็กซ์เตอร์หาข้อมูลของเมืองนั้นมา แล้วรีบจัดการเลย” วาลิน่าพูดขึ้น

    “อืม ตอนนี้ฉันกำลังสั่งโดรนทิ้งระเบิดระยะไกลจากคอสตาริก้ามา คิดว่าจะมาถึงเย็นนี้” ซิลลินเรียพูดไป

    “งานนี้คงต้องรีบจัดการ ไม่อย่างงั้นก็มีแต่จะเสียเวลาสินะ” ลูซิน่าพูดขึ้น

    “ว่าแต่ ที่เขต 7 ล่ะ เราจะไม่พูดถึงหน่อยเหรอ??” เนวิสถามอย่างสงสัย

    “เออ จริงด้วย ป่านนี้ที่นั่นจะเป็นยังไงบ้างเนี่ย??” ฟรอนเทียร์ถามอย่างสงสัย

    “เขต 7 ก็ค่อนข้างสำคัญนะ เราคงไม่อยากทำศึก 2 ด้านหรอก” รอนนี่พูดขึ้น

    “หรือว่าจะแบ่งคนกันไปหล่ะ??” เรนิต้าออกความเห็นไป

    “เอาแบบนี้ ฉัน รอนนี่ เด็กซ์เตอร์ เมเดอลีน จะไปจัดการที่เขต 7 ที่เหลือบุกเมืองหลวง ที่ไหนจบก่อน ให้ไปสมทบกับคนที่เหลือ” ซิลลินเรียพูดไป

    “โอเค ได้ยินว่าที่นั่นมีทหารจีนด้วยนี่หว่า” เด็กซ์เตอร์พูดขึ้น

    “นายพลจางหน่ะเหรอ รอนนี่ นายส่งข้อมูลเขาให้ฉันด้วยสิ” เมเดอลีนพูดขึ้น จากนั้นรอนนี่ก็ส่งข้อมูลให้เธอผ่านแท็บแล็ตไป

    “โอเค ถ้าอย่างงั้นก็โชคดีหล่ะ” ลูซิน่าพูดขึ้น

    “เนวิส นายจะว่ายังไงหล่ะ??” วาลิน่าถามเขาไป

    “ตอนนี้ผมจะจัดการเรื่องพวก Khorne ก่อน เพราะผมอยากจะรู้ว่าหัวหน้ามันเป็นใคร ตอนนี้เราก็แยกย้ายกันแล้วเดินทัพต่อเถอะครับ” เนวิสพูดกับทุกคนไป

     

    ณ ที่ไหนซักแห่งในเขตชายแดนเมืองหลวงกับเขต 3 หมู่บ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่บริเวณชายแดน ชาวบ้านบางส่วนก็เดินไปเดินมาแถวๆนั้น และที่บาร์แห่งหนึ่งในหมู่บ้าน ชายผิวขาวคนหนึ่งก็เดินออกมาจากบาร์ เดินไปเรื่อยๆในซอยแห่งหนึ่ง แต่ในตอนนั้นเอง

    “ตุ๊บ!!”

    จู่ๆก็มีคนเอาไม้มาตีเขาที่ด้านหลัง เมื่อเขาล้มลง คนที่ตีก็ลากตัวชายคนนั้นมาในทันที ลากเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง จากนั้นก็จับมัดไว้กับเก้าอี้ตัวหนึ่งอย่างแน่นหนา พร้อมกับล้วงอะไรบางอย่างในตัวมันมาด้วย ก็พบว่ามียาพ่นสำหรับคนที่เป็นโรคหอบหืด เธอคนนั้นหยิบมาในทันที และชายคนนั้นก็ตื่นขึ้นมาพบกับหญิงสาวที่จับเขามัดไว้

    “หือ นี่เธอ ใช่เจซซินหรือเปล่า??”

    “ขอบใจที่ยังจำฉันได้นะ บาร์คอฟ” เจซซินตอบไป และในตอนนั้นเอง บาร์คอฟก็เกิดอาการหายใจติดขัดอย่างเห็นได้ชัด

    “หานี่อยู่เหรอ??” เจซซินโชว์ยาพ่นให้กับบาร์คอฟได้ดู

    “ได้โปรด ฉันหายใจไม่ออก...”

    “งั้นเหรอ ทำตัวให้มันน่ารักษาหน่อยสิ!!”

    “ก็ได้ๆ รถบรรทุกในเขต 4 เป็นการจัดฉาก ความจริงพวกมันกำลังจะไปที่ฐานยิงจรวดร้างในเขต 3” 

    “เฮ้ย ที่ฉันได้ยินมา ที่นั่นมันใช้การไม่ได้แล้วไม่ใช่เหรอ??” เจซซินถามไป

    “มีคนแอบลักลอบไปซ่อมระบบตั้งนานแล้ว ตอนนี้ฐานยิงกลับมาใช้ได้ เหลือแค่รอบรรจุจรวดเข้าไป มันจะพร้อมยิงทันที” บาร์คอฟตอบไป

    “เอ้า มานี่!!” เจซซินพูดและพ่นยาให้กับบาร์คอฟไป ทำให้บาร์คอฟหายใจสะดวกขึ้นมาหน่อย

    “เจอกันชาติหน้าแล้วกัน!!” เจซซินพูดขึ้น จากนั้นก็ชักปืนออกมายิงหมอนั่นในทันที

    “ปัง!!” 

    เมื่อเธอยิงเสร็จ เธอก็โทรศัพท์หาใครคนหนึ่งในทันที

    “ฮัลโหล เจซซินเหรอ??”

    “ใช่ ส่งคนไปสำรวจที่นั่นเลย ไอ้บาร์คอฟมันคายแล้ว!!”

    “เออๆ เธอเองก็รีบมาแล้วกัน”

     

    ณ แนวรบชายแดนของเขต 4 และเขต 2 กองกำลังของบาร์มามัสเดินทางมาเรื่อยๆ ผ่านแนวป่าหนาทึบ พวกเขาโชคดีที่บริเวณนั้นเป็นป่า ซึ่งง่ายต่อการเดินทางอย่างลับๆและข้าศึกมองไม่เห็น พวกเขาเดินลัดเลาะไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงค่ายแห่งหนึ่งซึ่งเป็นค่ายของพวก Khorne แต่มันดูเงียบเหงาเกินไป บาร์มามัสสั่งให้คนซ่อนตัวตามพุ่มไม้ไว้ จากนั้นก็ค่อยๆแอบเข้าไปในทันที

    “อืม ที่นี่มันเงียบแปลกๆแหะ??” บาร์มามัสเกิดความสงสัย

    “นั่นสิพี่ ผมว่ามันเงียบเกินไป เหมือนไม่มีใครอยู่เลย” โอเมอร์พูดขึ้น

    “หรือว่า พวกมันถอยทัพกลับไปกันหมดแล้วหล่ะ??” เคนโนช่าถามอย่างสงสัย

    “ไม่น่าจะใช่นะ มันอาจจะดักรอเราอยู่ก็ได้” แองเจลิก้าพูดขึ้น

    “ก็มีอยู่ทางเดียวที่จะรู้” บาร์มามัสพูดขึ้น จากนั้นตัวเขาก็ค่อยๆพาคนอื่นๆเดินเลาะเข้าไปตามพื้นที่ เขาเดินอย่างระมัดระวังเพราะกลัวว่าจะมีกับดัก จนกระทั่งพวกเขาก็มาถึงริมหน้าประตูรั้วไม้ จากนั้นเขาก็เดินเปิดประตูรั้วไม้ในทันที แล้วก็เหลือบไปมองด้านในทันที

    “ให้ผมเข้าไปดูหรือเปล่าครับ??” โอเมอร์ถามไป จากนั้นเขาก็ใช้ความรวดเร็วของเขาย่องเข้าไปในค่ายในทันที

    “โห เด็กนี่มันห้าวจริงๆหว่ะ” แองเจลิก้าพูดขึ้น

    “บ้าเอ้ย รีบออกมาซะทีโอเมอร์!!” เคนโนช่าบ่นไป และในตอนนั้นเอง โอเมอร์ก็เดินกลับมาหาพวกเขา จากนั้นก็บอกอะไรบางอย่างกับพวกเขา

    “พี่ ที่นี่แม่งเละแล้วหว่ะ ให้คนของเรามาดูเถอะพี่!!”

    “งั้นเหรอ งั้นส่งคนของเราไปเคลียร์เลย!!” บาร์มามัสพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็ส่งคนเข้าไปในค่ายเพื่อตรวจตราเพิ่มเติม และในโรงเรือน พวกเขาก็พบกับร่างของทหาร Khorne มากมายนอนเรียงรายกันอยู่บนเตียง สภาพดูน่าเวทนา บางส่วนถึงแม้จะลุกขึ้นได้แต่ก็ไม่มี่เรี่ยวแรงมากพอจะถือปืน แถมสภาพในโรงเรือนเหม็นเน่าสุดขีด ทำเอาบาร์มามัสถึงกับต้องปิดจมูกในทันที

    “นี่มันบ้าอะไรวะเนี่ย??” บาร์มามัสถามไป และในตอนนั้น แองเจลิก้าก็ไปตรวจอาการของทหารแต่ละคนในทันที

    “พวกนี้เป็นไข้ป่านี่ ไข้มาลาเรีย เกิดจากยุงหน่ะ” แองเจลิก้าพูดขึ้น และในตอนนั้น โอเมอร์ก็ตกใจกับซากศพร่างหนึ่งซึ่งนอนแขนขาขาดอยู่ด้านใน และข้างๆก็มีเศษกระดูกส่วนแขนวางไว้ด้วย

    “นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย??” โอเมอร์ตะโกนถามอย่างสงสัย

    “พวกเราไม่มีอะไรกินมา 3 วันแล้ว พวกเขาไม่ส่งเสบียงมาให้เรา..” ทหาร Khorne ที่นอนอยู่บนเตียงคนหนึ่งพูดขึ้น

    “บ้าเอ้ย บาร์มามัส นายจะเอายังไงต่อหล่ะ??” เคนโนช่าถามอย่างสงสัย

    “ให้อาหารกับยากับพวกมัน ใครรักษาไม่ไหวเอาไปเผาทิ้ง เพื่อไม่ให้โรคมันระบาด เก็บอาวุธทุกอย่างไปให้หมด ใครขัดขืน ยิงทิ้งได้เลย!!” บาร์มามัสสั่งออกไป

     

    ณ เมืองหลวงของโซโรวา รัฐสภาของประเทศ หลังจากที่พวกเขาต่อต้านการโจมตีของพวก Khorne ได้สำเร็จ ในวันนั้นโดนาทอร์และคณะรัฐบาลของเขาก็ได้จัดตั้งคณะผู้พิพากษาเพื่อพิจารณาคดีของคณะนายพลปราฟยาฟ และในขณะเดียวกันนั้นเอง ปาโบลที่จัดการด้านกลาโหมก็เข้ามาคุยกับโดนาทอร์ถึงเรื่องอะไรบางอย่าง

    “คุณโดนาทอร์ครับ เกิดเรื่องแล้วครับ!!”

    “หือ มีอะไรงั้นเหรอ??” โดนาทอร์ถามในขณะที่จัดการเรื่องเอกสารไป

    “ไอ้พวกปราฟยาฟที่ถูกขังในเรือนจำพยายามจะก่อความวุ่นวายครับ!!”

    “งั้นเหรอ แล้วตอนนี้เป็นยังไงบ้างหล่ะ??” โดนาทอร์ถามต่อไป

    “ตอนนี้เราให้ตำรวจและอาสาทั้งหมดไปล้อมพวกนั้นแล้วครับ ผมจะปราบพวกนั้นเอง ถ้าคุณไฟเขียวให้ผม” ปาโบลตอบไป

    “ก็ได้ แต่อย่าให้ถึงตายหล่ะ เราต้องเอาพวกเขามาขึ้นศาลอีก” 

    “ครับผม เรื่องนั้นผมจัดการเอง” ปาโบลตอบไป

    “แล้วเรื่องสงครามเป็นยังไงบ้างหล่ะ??” โดนาทอร์ถามต่อไป

    “ตอนนี้ทหารของเรากำลังรุกเข้าไปในเขต 2 ครับ คาดว่าไม่เกิน 3 วัน เราจะปราบพวกมันราบคาบครับ แล้วอีกอย่าง มีข่าวไม่ค่อยดี เขาลือกันว่ารัสเซียแอบขนขีปนาวุธเข้ามาประเทศเรา” ปาโบลพูดขึ้น

    “หือ แย่หล่ะ ถ้าพวกเขาติดตั้งมัน งานนี้ภูมิภาคนี้ได้พังเป็นแถบๆแน่ คุณต้องหยุดเรื่องนี้ให้ได้” โดนาทอร์พูดขึ้น

    “ผมกำลังให้ตำรวจและสายข่าวของผมตามความเคลื่อนไหวอยู่ครับ!!”

    “ผมว่าป่านนี้มันคงจะเตรียมตั้งจรวดไว้แล้วหล่ะ รีบหน่อยนะครับ!!” โดนาทอร์พูดขึ้น

    “ครับผม!!”

     

    กลับมายังฐานที่มั่นใหญ่ของกลุ่ม Khorne ซึ่งในตอนนี้พวกเขาพยายามระดมกำลังชาวบ้านจากทุกเมือง ทุกหมู่บ้านในละแวกนั้นมาเพื่อป้องกัน ในตอนนี้เรดเดวิลเริ่มจะเหงื่อตกเพราะพวกเขากำลังโดนล้อมอย่างหนัก เขาเรียกให้สูราจา ลูกน้องคนโปรดมาอัพเดทสถานการณ์เพิ่มเติมไปด้วย

    “สูราจา ตอนนี้พวกมันอยู่ที่ไหนแล้ว??” 

    “ครับ ตอนนี้ทางใต้ พวกเมืองหลวงกำลังรุกคืบเข้ามาถึงเขตนี้แล้ว ทางเหนือ กองกำลังไม่ทราบฝ่ายเพิ่งจะยึดแนวรบเราได้ และกำลังเดินทัพมาที่คาวิสครับ!!” สูราจาตอบไป

    “หะ พวกมันจะมาคาวิสแล้วเหรอ ถ้าพวกมันยึดไปได้ พวกมันจะสามารถโจมตีที่เหลือได้ทุกที่เลย” เรดเดวิลพูดขึ้น

    “ครับ และทางตะวันตก ได้ข่าวมาว่าพวกกบฏในพื้นที่กำลังเดินหน้ามาครับ!!”

    “บ้าเอ้ย พวกมันกำลังบีบวงล้อมเราสินะ!!” เรดเดวิลพูดขึ้น

    “นั่นสิครับท่าน แล้วจะเอายังไงต่อดีครับ??”

    “ส่งคนไปคุ้มกันที่เมืองคาวิสให้เยอะหน่อย เพราะถ้าพวกมันยึดที่นั่นได้ พวกเราก็แพ้ไวขึ้น ที่เหลือเอาลงใต้และตะวันตก ยันพวกมันไว้ให้ได้” เรดเดวิลพูดขึ้น

    “ผมว่า เราน่าจะลองหาทางหนีไว้ด้วยนะครับ” สูราจาออกความเห็นไป

    “จะให้ฉันหนีไปไหน ฉันจะไม่ยอมหนีอีกแล้ว ฉันขอยอมตาย!!” เรดเดวิลพูดพลางทุบโต๊ะปัง

    “ครับท่าน ตามแต่ท่านจะประสงค์ครับ!!”

    “เตรียมเสื้อเกราะของฉันให้พร้อม ฉันจะต้อนรับมัน ถ้ามันมาที่นี่” เรดเดวิลพูดขึ้น

    “รับทราบครับท่าน!!” สูราจาพูดขึ้น จากนั้นก็เดินออกไปด้านนอกในทันที และไปคุยกับชายคนหนึ่งซึ่งกำลังยืนรอสูราจาอยู่ที่หน้าห้อง สูราจาไปพูดกับชายคนนั้นในทันที

    “นี่ หาคนฝีมือดีๆมาให้ฉันซัก 500 คอยคุ้มกันฉันด้วย เผื่อฉันจะไป”

    “หือ แล้วท่านจะไปยังไงครับ??” ลูกน้องของเขาถามไป

    “ฉันคิดว่า เราจะตีฝ่าไปทางเขต 3 ไปที่ท่าเรือ หาเรือซักลำ แล้วก็ขนเงินหนีไปอเมริกา” สูราจาพูดขึ้น

    “เดี๋ยวจัดให้ครับผม!!” ลูกน้องของเขาตอบไป

     

    ณ ที่ไหนซักแห่งในชายแดนระหว่างเขต 4 กับเขตเมืองหลวง ซึ่งเป็นเขตปลอดภัย เพราะใกล้กับเขตสหประชาชาติ กลุ่มของปีเตอร์มารวมตัวกันเพื่ออัพเดทภารกิจของพวกเขาใหม่ โดยในวันนี้พวกเขาก็ได้ข่าวมาใหม่จากสายข่าวในพื้นที่ ทำให้พวกเขามาคุยกันในทันที

    “เอาหล่ะ ทุกคน ตอนนี้เราเหลือกันอยู่แค่นี้ เราจะปฏิบัติงานร่วมกับหน่วย Delta force 12 ซาโตะ อัพเดทภารกิจหน่อย!!” ปีเตอร์พูดไป จากนั้นซาโตะก็เอาข้อมูลมาเปิดผ่านโปรเจ็กต์เตอร์ในทันที

    “เอาหล่ะ สายข่าวของเราบอกมาว่า พวกรัสเซียกำลังพาขบวนขนขีปนาวุธเดินทางไปยังเขต 3 โดยพยายามหลบหลีกสายตาจากรัฐบาลโซโรวา และจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่ในท้องที่ โดยพวกเราสงสัยว่าพวกมันจะไปที่นี่ ฐานยิงขีปนาวุธเก่า” ซาโตะพูดไป

    “แต่ว่า พื้นที่ตรงนั้น อยู่ใกล้กับค่ายหลักของกองกำลังโซโรวาเลยนะครับ” เมสันพูดขึ้น

    “ใช่ เพราะแบบนี้ พวกเราจึงนำกำลังบุกไปตรงๆไม่ได้ หากโซโรวาจับได้ จะเป็นการยั่วยุเพิ่มขึ้นหน่ะ” ซาโตะพูดขึ้น

    “คงเพราะแบบนี้ พวกมันถึงเลือกที่นั่น ป้องกันก็ง่าย แถมสามารถโดนล้อมได้ทุกทาง” เจสันพูดขึ้น

    “แล้วแผนการคืออะไรคะท่าน??” การ์เซียถามอย่างสงสัย

    “เรากับหน่วย Delta จะลักลอบผ่านค่ายทหารโซโรวา ไปทำลายจรวดทุกลูกของพวกมัน แต่งานนี้เสี่ยงมาก โอกาสที่เราจะออกมาไม่ได้สูง เพราะเราจะโดนล้อมจากทุกด้าน แถมตอนนี้กองเรือของโซโรวาที่เพิ่งจะซ่อมแซมเสร็จก็ลาดตระเวนแถวนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะให้ฮอไปที่นั่น” ปีเตอร์พูดขึ้น

    “พวกเราหาทางออกมาเองได้ครับ!!” เมสันพูดขึ้น

    “ครับ ท่านเอายังไง ผมก็เอาด้วยครับ!!” เจสันพูดเสริม

    “ดิฉันพร้อมรับคำสั่งค่ะ!!” การ์เซียพูดไป

    “คุณปีเตอร์ ในภารกิจนี้ ถ้าเราจะทำอะไร เราต้องคิดให้หนักนะคะ” ซาโตะพูดขึ้น

    “แน่นอน เพราะงานนี้ผมจะไม่ยอมเสียใครไปอีกแล้ว” ปีเตอร์บอกกับลูกทีมไป

     

    ณ ที่ไหนซักแห่งในเมืองหลวง ในวันนั้นตัวของหลิวก็รีบจัดการสะสางงานของเขาให้เรียบร้อย ก่อนที่จะเดินทางไปยังเขต 4 ซึ่งเป็นเขตปลอดภัย เขาเดินทางไปยังร้านอาหารร้านหนึ่ง และไม่รอช้าเดินเข้าไปยังเคาน์เตอร์ที่สั่งอาหาร โดยที่มีเด็กหน้าร้านคนหนึ่งยืนรออยู่ และทักทายหลิวทันทีเมื่อหลิวมาถึง

    “สวัสดีครับ รับอะไรดีครับ??”

    หลิวไม่พูดอะไร จากนั้นก็ยื่นบัตรอะไรบางอย่างให้กับชายคนนั้น ชายคนนั้นรับบัตรมาดูในทันที

    “รถจอดอยู่ด้านหลัง คนขับกำลังรออยู่!!”

    “ไปบอกคนขับด้วย ไปตามที่อยู่ที่อั๊วบอก ตอนนี้เลย” หลิวตอบไป

    “งั้นเหรอ ได้ ว่าแต่ลื้อจะทำอะไรต่อหล่ะ??” เด็กร้านคนนั้นถามไป

    “อั๊วจะจัดการเรื่องเอกสารนิดหน่อย รีบไปก่อนเลย” หลิวพูดขึ้น จากนั้นเด็กร้านคนนั้นก็เดินไปที่หลังร้านในทันที และไม่นานนัก ชายคนหนึ่งซึ่งถือกระเป๋าอะไรบางอย่างก็เข้ามาในร้าน และนั่งเพื่อรอเด็กเสิร์ฟให้มาหา และในตอนนั้น หลิวก็ชักปืนของเขาออกมาในทันที จากนั้นก็เดินไปโต๊ะของชายคนนั้นในทันที

    “หวัดดี เชอร์นอฟ!!”

    “ปัง!!”

    หลิวยิงชายคนนั้นตายคาที่ ลูกค้าในร้านคนอื่นๆ ก็รีบหนีออกจากร้านด้วยความกลัว จากนั้นหลิวก็เอากระเป๋าเอกสารนั้นมาในทันที แล้วเขาก็เปิดกระเป๋าออก พร้อมกับเอาไฟแช็ครอนสันที่พกมาออกมาในทันที จากนั้นก็เผาเอกสารที่อยู่ในนั้นทั้งหมด

    “พรึ่บ!!”

    เปลวไฟได้เผาเอกสารที่อยู่ในกระเป๋าทั้งหมด และในตอนนั้นเอง ตำรวจก็วิ่งเข้ามาในร้านอย่างรวดเร็วและเล็งปืนไปที่หลิว

    “หยุด วางอาวุธลง!!”

    หลิวทิ้งปืนลงกับพื้น จากนั้นตำรวจก็ช่วยกันจับเขาใส่กุญแจมือในทันทีอย่างรวดเร็ว

     

    กลับมายังโกดังของอเล็กซานเดอร์ ในวันนั้นอเล็กซานเดอร์ก็กำลังรอรถของหลิวพร้อมกับฟรานซิสก้า ไม่นานนัก รถก็ขับมาที่หน้าโกดังในทันที อเล็กซานเดอร์รีบไปรับชายคนนั้นในทันที โดยที่คนขับก็ลงจากรถมาหาอเล็กซานเดอร์ทันที

    “คุณหลิวให้เอารถ กับของที่อยู่ในรถมาให้ครับ!!”

    “หือ แล้วหลิวไปไหนหล่ะ??” อเล็กซานเดอร์ถามอย่างสงสัย

    “มีตำรวจบุกเข้ามาในร้าน ตัวเขาโดนจับไปแล้ว ผมเองก็เกือบไม่รอด!!”

    “หะ นี่หลิวโดนจับไปอย่างงั้นเหรอ??” ฟรานซิสก้าถามไป

    “ไม่ได้การหล่ะ ผมต้องไปทำอะไรหน่อย!!” อเล็กซานเดอร์พูดขึ้น จากนั้นตัวเขาก็เดินเข้าไปที่ห้องเก็บอาวุธที่อยู่ในร้าน เขาเดินเข้าไป จากนั้นก็ไปหยิบปืนกลมือกระบอกหนึ่งมาในทันที

    “นี่คุณจะทำอะไรเนี่ย??” ฟรานซิสก้าถามอเล็กซานเดอร์ไป

    “ผมทิ้งหลิวไว้ไม่ได้ คุณไปขึ้นรถก่อน คนขับจะไปส่งคุณที่เขต 4”

    “แต่ว่า แล้วคุณหล่ะ??” ฟรานซิสก้าถามไป

    “ผมไม่เป็นไรหรอก คุณรีบไปซะ อย่าให้พวกมันจับคุณได้หล่ะ” อเล็กซานเดอร์พูดขึ้น

    “ก็ได้ค่ะ แล้วฉันจะได้เจอคุณหรือเปล่าคะ??” ฟรานซิสก้าถามไป

    “ไม่ต้องห่วง ผมไม่ตายหรอกครับ” อเล็กซานเดอร์พูดขึ้น จากนั้นฟรานซิสก้าก็เดินไปขึ้นรถที่อยู่หน้าโกดังในทันที และคนขับรถที่หลิวจ้างมาก็ขับรถพาฟรานซิสก้าออกไปในทันที

     

    ณ ที่ไหนซักแห่งในเขต 2 บริเวณสมรภูมิรบระหว่างเมืองหลวงกับเขต 2 G หนีจากการตามล่าของพวก Khorne มาได้อย่างหวุดหวิด เขามาหลบอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง จากนั้นก็รีบใช้แท็บแล็ตติดต่อกับฟิลิปเป้ ผู้บังคับบัญชาของเขาในทันที

    “ท่านครับ G รายงานตัวครับ!!”

    “รอดมาจากนรกจนได้นะไอ้หลานเอ๋ย!!”

    “ท่านครับ ผมกำลังหนีจากพวกมัน ส่งฮอมารับทีครับ”

    “อ่า ไอ้หลานชาย ฉันมีข่าวร้ายนิดหน่อยจะบอกนาย”

    “ข่าวอะไรครับท่าน??”

    “ทางเบื้องบนสั่งไม่ให้เราเอาอากาศยานเข้าสู่น่านฟ้าโซโรวา ตอนนี้กองกำลังของเมืองหลวงกำลังโจมตี สงครามกำลังปะทุ หากรุกล้ำเข้าไป เราอาจจะมีปัญหา”

    “อะไรนะครับ นี่ มันเป็นไปได้ไงครับ??”

    “ใจเย็น อั๊วไม่ทิ้งลื้อแน่นอนทหาร แต่นายต้องไปที่ท่าเรือร้างลูน่า ท่าเรือของชาวประมงเก่า เขตนั้นเป็นเขตปลอดภัย อั๊วให้เรือไปรับลื้อแล้วหล่ะ”

    “ครับท่าน แล้วยังไงต่อครับ??”

    “ก็พยายามเอาตัวให้รอดก็แล้วกัน ตอนนี้โซโรวากำลังเกิดสงครามอย่างหนัก นายจะพอหนีมาได้หรือเปล่า??”

    “ครับท่าน ผมจะรีบไปครับ”

    “ดี ไว้เจอกันที่เรือแล้วกัน!!” 

    หลังจากที่จบการสนทนา G ก็รีบเก็บแท็บแล็ตของเขาไปในทันที จากนั้นก็เช็คอาวุธที่มีอยู่ของเขา ซึ่งมีแค่ปืนกลกระบอกหนึ่ง ด้านในบรรจุกระสุนอยู่ไม่กี่นัด

    “ต้องประหยัดกระสุนหน่อยแล้วหล่ะ!!” G คิดในใจ แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงรถทหารคันหนึ่งขับผ่านมา เขารีบเข้าไปหลบแถวนั้นก่อน ในตอนนั้นพวกมันจอดรถและพักสูบบุหรี่กันไป แล้วก็พูดคุยกันไปด้วย

    “เฮ้ย ไอ้สายลับนั่นแม่งไม่อยู่แล้วหล่ะ!!” 

    “ช่างแม่งเถอะ มันไปไหนได้ไม่ไกลหรอก แต่ว่า พวกเมืองหลวงบุกเราแล้ว พวกเราไม่รอดแน่ๆหว่ะ!!”

    “กูว่านะ เรามีรถ หนีไปเขต 3 กันดีกว่า กูมีเงินเก็บอยู่ นาจะใช้ติดสินบนพวกยามได้”

    “พนันได้เลย กูว่ามึงไม่รอดหว่ะ” 

    และเมื่อพวกมันสูบบุหรี่กันเสร็จ พวกนั้นก็รีบขับรถออกไปในทันที 

     

    กลับมายังเขต 4 เขตสหประชาชาติ ในวันนั้นกองกำลัง UN ที่ยังเหลืออยู่ในเขตต่างก็พยายามตั้งรับและป้องกันพื้นที่จากกลุ่มโจรชายขอบ แต่กองกำลัง UN ที่มารีนเนอร์มีอยู่ในตอนนี้ยังน้อยเกินไป ทำให้เจ้าหน้าที่บางคนถึงกับต้องมาคุยกับมารีนเนอร์ในทันที ในระหว่างที่เธอกำลังจะลองชุดว่ายน้ำใหม่ของเธอ

    “คุณมารีนเนอร์ครับ เรามีทหารคุ้มกันแค่ 25 คนนะครับตอนนี้!!”

    “หะ จริงเหรอ แล้วกำลังเสริมของเราหล่ะ??” มารีนเนอร์ถามอย่างสงสัย

    “พวกเขาบอกว่า จะมาเร็วสุดก็เที่ยงคืนนี้ครับ!!”

    “เราคงตายในไม่กี่ชั่วโมงแน่ๆ พยายามอพยพชาวบ้านให้มากที่สุดแล้วกัน” มารีนเนอร์พูดขึ้น

    “ผมว่า เรารีบหนีกันดีกว่าครับ!!”

    “หะ จะหนีงั้นเหรอ??” มารีนเนอร์ถามไป

    “ครับ เรามีเฮลิคอปเตอร์อยู่ น่าจะพอไปที่คอสตาริก้าได้ครับ”

    “แล้วชาวบ้านพวกนี้หล่ะ ใครจะคุ้มกันพวกเขาหล่ะ??” มารีนเนอร์ถามไป

    “อ่า.... คือว่า....”

    “ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ยังไงก็ต้องลองเสี่ยงดูก่อน ถ้าไม่อย่างงั้น พวกชาวบ้านตายกันหมดแน่ๆ” มารีนเนอร์พูดขึ้น

    “ถ้าอย่างงั้น ก็คงต้องจัดตั้งแนวรับกันใหม่แล้วหล่ะครับ!!”

    “อืม แล้วนี่ ฉันอยากให้คุณช่วยอะไรหน่อยสิ!!” มารีนเนอร์พูดไป

    “ครับ มีอะไรเหรอครับ??”

    “นายว่า สีแดงหรือสีดำดูดีกว่า??” มารีนเนอร์ให้เขาเลือกสีของชุดว่ายน้ำให้กับเธอ

    “อ่า สีแดงครับ!!” มารีนเนอร์หยิบเอาสีแดงออกมาแล้วลองใส่ในทันที

     

    ณ แนวรบแห่งหนึ่ง ชายแดนระหว่างเขต 5 กับเขต 7 ซึ่งกองกำลังของแอลรอนได้ตรึงพื้นที่ไว้เพื่อเตรียมตั้งรับการโจมตีของกองกำลังลูซิน่า พวกเขาวางปืนกล ปืนครก และปืนชนิดต่างๆมากมายเพื่อป้องกัน แอลรอนก็สำรวจพื้นที่ไปเรื่อยๆ เพื่อดูความเคลื่อนไหวของศัตรูไปด้วย

    “คุณแอลรอน ดูเหมือนคุณจะกระตือรือร้นดีนะ” โรสเซียพูดขึ้น ในขณะที่เดินมาหาแอลรอน

    “ที่นี่คือที่มั่นสุดท้าย แล้วอีกอย่าง พวกที่เราจะต้องเจอ มันไม่เหมือนกับพวกที่เราเคยเจอ ได้ยินว่าพวกมันเก่งมาก” แอลรอนพูดขึ้น

    “พวกใต้ดินอย่างงั้นเหรอ ได้ยินว่าพวกนี้กล้างัดกับสหรัฐด้วย” โรสเซียพูดขึ้น

    “ได้ยินว่าผู้นำของพวกมันเก่งมากด้วย ตอนนี้พวกมันกำลังรอจังหวะโจมตีเราอยู่” แอลรอนพูดขึ้น

    “ถ้าเกิดพวกมันตีที่มั่นนี้แตก เราจะเอายังไงต่อหล่ะ??” โรสเซียถามอย่างสงสัย

    “ไม่มีทางหรอก เราจะลองยันกับพวกมันซัก 3 วัน ถ้าโชคดี เราอาจตกลงกับประธานาธิบดีโดนาทอร์ได้” แอลรอนพูดขึ้น

    “คุณเชื่อจริงๆเหรอว่าโดนาทอร์จะยอมเจรจาหน่ะ??” โรสเซียถามไป

    “ก็อย่างที่บอกไป พวกนั้นไม่มีเงินมากพอทำสงครามหรอก" แอลรอนพูดไป

    “ก็ขอให้มันอย่างงั้นเถอะ” โรสเซียพูดขึ้น และในขณะเดียวกันนั้นเอง พวกเขาก็เห็นกลุ่มโดรนมาจากอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งบินมามากมาย ทำเอาพวกของแอลรอนตกใจในทันที

    “พวกมันจะใช้โดรนโจมตีเราอย่างงั้นเหรอ??” โรสเซียถามอย่างสงสัย แต่ในตอนนั้นเอง โดรนพวกนั้นก็ไม่เข้ามาในเขตของแอลรอนเสียดื้อๆ

    “สงสัยพวกมันคงจะแค่มาสอดแนม อย่าไปใส่ใจเลย ให้มันเห็นกองกำลังอันยิ่งใหญ่ของเราไป” แอลรอนพูดขึ้น และในขณะเดียวกันนั้นเอง จู่ๆ ลูกน้องคนหนึ่งของแอลรอนก็มารายงานสถานการณ์กับเขาในทันที

    “ท่านครับ พวกของโบริสกำลังจะเข้าไปที่บ้านของบาร์บาร่าแล้วครับ!!”

    “ดี ถ้าไปถึง จับคนที่ชืื่อบาร์บาร่าให้ฉันเป็นๆ” แอลรอนพูดขึ้น

    “อ้าว ทำไมถึงไม่ฆ่ามันหล่ะ??” โรสเซียถามอย่างสงสัย

    “ฉันได้ข่าวมาว่าบาร์บาร่าเป็นเศรษฐีนี ฉันเลยอยากจะเอาตัวมาเรียกเงินหน่อย จับยัยนี่มาให้ฉันเป็นๆ บอกโบริสด้วยหล่ะ” แอลรอนสั่งลูกน้องของเขาไป

    “รับทราบครับผม!!” ลูกน้องของเขารับคำสั่ง จากนั้นก็เดินออกไปในทันที

     

    กลับมายังบ้านพักของบาร์บาร่า หลังจากที่กองกำลังของนายพลจางได้นั่งฮอมาถึง ฮอพวกนั้นก็มาจอดบริเวณบ้านของบาร์บาร่า จากนั้นไม่นานนัก นายพลจางก็เดินทางมาหาบาร์บาร่าในทันที โดยที่แจ๊กกี้และดีมีทรีก็คอยคุ้มกันบาร์บาร่าไปด้วย นายพลจางรีบมาคุยกับเธอในทันที

    “คุณบาร์บาร่า สบายดีนะครับ??”

    “ถ้าสบายก็ดีหน่ะสิคะ ตอนนี้เรากำลังมีปัญหา อยากให้ท่านช่วยค่ะ” บาร์บาร่าพูดขึ้น

    “อืม พวกที่มันจะมาจับคุณงั้นเหรอ??”

    “ใช่ค่ะ เราต้องการให้ท่านช่วยค่ะ” บาร์บาร่าพูดขึ้น

    “สบาย คุณลองฟังเสียงนั่นสิ!!” นายพลจางพูดขึ้น จากนั้นก็มีเสียงปืนและระเบิดตามมามากมาย

    “ปังๆๆๆๆๆ”

    “ตู้ม!!”

    กองกำลังของโบริสที่จะมาจับบาร์บาร่า พวกนั้นโดนกองกำลังเฮลิคอปเตอร์ของนายพลจางได้จัดการทั้งยิงและถล่มยกใหญ่ ทำเอาลูกน้องของบาร์บาร่าถึงกับโล่งใจที่จัดการกับคนพวกนั้นได้

    “ขอบคุณท่านมากๆเลยนะคะที่ช่วยเรา!!”

    “หวังว่าคุณจะมีอะไรจะให้ผมหน่อยนะครับ” นายพลจางพูดขึ้น

    “แน่นอนค่ะท่าน” บาร์บาร่าพูดขึ้น จากนั้นอยู่ๆเธอก็หยิบปืนของนายพลจางมา แล้วเล็งแจ๊กกี้และดีมีทรีในทันที

    “สองคนนี้มันเป็นสายลับ มันต้องการจะจับคุณค่ะ!!”

    “ระยำเอ้ย กะไว้แล้วมันต้องเป็นแบบนี้!!” แจ๊กกี้พูดขึ้นและยกมือ

    “เฮ้อ จุดจบของเราแล้วสินะ” ดีมีทรีพูดขึ้น

    “พวกแกมาจากไหนกันวะ CIA หรือ FBI??” นายพลจางถามไป

    “ถึงกูบอก กูก็ตายอยูดีเว้ย!!” แจ๊กกี้พูดขึ้น

    “คุณหันหลังกลับไม่ได้อีกแล้วนะ คุณบาร์บาร่า!!” ดีมีทรีพูดขึ้น

    “ท่านนายพลคะ คุณต้องช่วยคุ้มกันฉันนะคะ!!” บาร์บาร่าพูดขึ้น

    “ไม่ต้องห่วง ผมจะจัดการไอ้สองคนนี้เอง” นายพลจางพูดขึ้น แต่ในตอนนั้นเอง

    “ปังๆๆๆๆๆ”

    เสียงปืนดังมาจากหน้าประตูบ้านของบาร์บาร่า กองกำลังของบาร์บาร่าถูกยิงตายหน้าบ้านไปมากมาย และประตูรั้วของบาร์บาร่าก็ระเบิดออกมา

    “ตู้ม!!”

    เมื่อประตูรั้วระเบิดออก ก็ปรากฏร่างของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือเรซนอร์ฟนั่นเอง

    “บาร์บาร่า ออกมา!!” เรซนอร์ฟตโกนออกมา

    “นั่นไง ลุยเลย!!” โพคลอนสกายาพูดขึ้นและยิงเข้าไป แต่กระสุนไปโดนลูกน้องของนายพลจางคนหนึ่ง

    “ฆ่าพวกมัน!!” นายพลจางพูดขึ้น แต่ในตอนนั้น แจ๊กกี้และดีมีทรีก็แย่งปืนจากลูกน้องของนายพลจาง และหาที่หลบแถวๆนั้นในทันที ทั้งนายพลจางและบาร์บาร่าตกใจ จึงรีบวิ่งไปหลบคนละทางในทันที

    “พวกแกจะไปไหนวะ!!” ฟอร์ดตะโกนออกมาแล้วไล่ยิงลูกน้องของนายพลจางไป

    “นายพลจางจะหนีไปแล้ว!!” เซเนย์ตะโกนออกไป จากนั้นเธอก็วิ่งฝ่าพวกมันไปในทันที

    “จับเป็นบาร์บาร่า ยัยนั่นรู้ว่าเงินซ่อนอยู่ที่ไหน” โพคลอนสกายาพูดไป จากนั้นก็บุกเข้าไปไล่ยิงคนของนายพลจางจนตายไปมาก

    “เฮ้ย นั่นนายพลจาง มันจะขึ้นฮอหนีไปแล้ว!!” เรซนอร์ฟตะโกนออกมา และในตอนนั้น โพคลอนสกายาก็รีบไปหยิบเอาจรวด RPG ของทหารนายพลจางมา จากนั้นก็เล็งไปยังฮอของพวกนั้นในทันที

    “ตู้ม!!”

    ฮอของนายพลจางถูกยิงจนหมด ทำเอานายพลจางถึงกับเสียศูนย์ เขารีบวิ่งเตลิดไปยังด้านหลังบ้านของบาร์บาร่าอย่างเร่งรีบ

    “บาร์บาร่าอยู่ที่ไหนเนี่ย??” ฟอร์ดถามอย่างสงสัย

    “เธอไปได้ไม่ไกลหรอกน่า” เซเนย์ตอบไป และในตอนนั้นเอง แจ๊กกี้ก็เห็นบาร์บาร่ากำลังจะวิ่งหนีไป แจ๊กกี้เลยวิ่งออกไปตามจับเธอ จากนั้นก็กระโดดจับตัวเธอเอาไว้แล้วเล็งปืนใส่เธอในทันที

    “ไง เอายังไงต่อหล่ะ??” แจ๊กกี้ถามไป

    “อย่าๆๆ ฉันยอมแล้ว อย่าทำอะไรฉันเลย!!” บาร์บาร่าพยายามร้องขอชีวิตไป และในตอนนั้นเอง ดีมีทรีก็ตามมาช่วยคุ้มกันแจ๊กกี้ด้วย

    “พวกมันตายหมดแล้ว!!” ดีมีทรีพูดขึ้น และในตอนนั้น ฟอร์ดและคนอื่นๆก็มารวมตัวกับแจ๊กกี้อย่างรวดเร็ว

    “ว่ายังไง บาร์บาร่า??” เรซนอร์ฟตะโกนออกไป

    “นี่ พวกแก ไปร่วมกับมันได้ยังไงกัน??” บาร์บาร่าถามไป

    “ถามใจแกดีกว่า ที่ส่งคนมาเก็บเราสองคนนี่ยังไง??” โพคลอนสกายาตอบไป

    “เอาหล่ะ ตอนนี้เราก็จับตัวยัยนี่ได้แล้ว โคตรเหนื่อยเลย” ฟอร์ดพูดไป

    “คุณฟอร์ด นี่คุณก็เอาด้วยงั้นเหรอ??” 

    “ขอโทษที พวกเราทำงานให้ CIA หน่ะ” เซเนย์ตอบไป

    “แล้วนายพลจางมันไปไหนแล้วหล่ะ??” แจ๊กกี้ถามอย่างสงสัย

    “มันคงหนีไปแล้ว แล้วมันจะไปไหนได้หล่ะ??” เซเนย์ถามไป

    “แถวนี้มีท่าเรืออยู่ ไปทางนั้น ไม่กี่กิโล แต่ไม่มีเรือลำไหนใช้ได้ตอนนี้” โพคลอนสกายาพูดและชี้ไปทางด้านนั้น

    “แล้วพวกนายจะเอายังไงกันต่อหล่ะ??” ฟอร์ดถามไป

    “เราอาจจะไปตามล่าไอ้นายพลจางด้วย” ดีมีทรีพูดขึ้น

    “เอาจริงเหรอ พวกนายมีหลักฐานอยู่แล้วนี่??” เรซนอร์ฟถามไป

    “ใช่ แต่ถ้ามันหนีเข้าประเทศจีนได้ ก็ไม่มีใครแตะต้องมันได้” แจ๊กกี้พูดไป

    “เออ ถ้าอย่างงั้นคงต้องคุมตัวบาร์บาร่าไว้ก่อนหน่ะ” ฟอร์ดพูดขึ้น

    “แน่นอน ฉันจะเฝ้ายัยนี่เอง ฉันรู้ว่าต้องทำยังไง” เรซนอร์ฟพูดไป

    “ตอนนี้พวกมันตายกันหมดแล้ว ที่นี่คงปลอดภัยแล้วหล่ะ” ดีมีทรีพูดขึ้น

    “เยี่ยม จะบอกให้นะ ยัยนี่มันมีเงินไม่ต่ำกว่า 200 ล้านเหรียญ พวกเราจะเอามาแบ่งกันให้เปรมไปเลย” โพคลอนสกายาพูดขึ้น

    “เออๆ ฉันว่าเรารีบเข้าไปในบ้านก่อน แล้วที่เหลือค่อยว่ากัน” เซเนย์พูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็จับตัวบาร์บาร่าเอาไปขังไว้ในบ้านของเธอก่อน จากนั้นก็จะมาวางแผนการต่อในทันทีว่าจะทำอะไร

     

    ณ ป่าที่ไหนซักแห่งในเขต 4 และด้านหนึ่งก็เป็นลานกว้าง มีเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงคนจำนวนหนึ่งมาจอดไว้เพื่อรอใครบางคน ด้านหนึ่ง กองกำลังของโอเมนก็กำลังรอใครบางคน และในไม่กี่อึดใจ จู่ๆ กองกำลังของจอห์นนี่ซึ่งมีอาวุธครบมือก็เดินทางมาถึง จอห์นนี่รีบเดินมาหาโอเมนในทันทีเพื่อคุยถึงแผนการของเขา

    “คุณโอเมน รอนานหรือเปล่าครับ??”

    “ตรงเวลาดีนี่คุณจอห์นนี่ กองกำลังของคุณหล่ะ??” โอเมนถามไป

    “มี 15 คน แต่อาวุธครบมือทุกคน ลุยกับพวกมันทั้งกองทัพได้เลย” จอห์นนี่พูดขึ้น

    “โอเค พวกคุณจะต้องไปที่เขตฐานยิงขีปนาวุธ เพื่อไปดูว่าพวกมันกำลังทำอะไรกันอยู่ ถ้าได้โอกาส ทำลายจรวดพวกนั้นซะ!!” โอเมนพูดขึ้น

    “แล้วคุณหล่ะ จะไปที่ไหนงั้นเหรอ??” จอห์นนี่ถามอย่างสงสัย

    “ผมมีอะไรบางอย่างต้องสะสางหน่ะ ยังไงผมฝากจัดการให้ผมด้วยหล่ะ” โอเมนพูดขึ้น

    “ได้เลย ไว้ใจผมได้เลย แล้วเจอกันครับ!!” จอห์นนี่พูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายกันไปขึ้นฮอลำเลียงคนที่รอพวกเขาอยู่ในทันที เพื่อออกเดินทางตามกำหนดการณ์ที่พวกเขาได้วางแผนเอาไว้

     

    กลับมายังกองกำลังของลูซิน่า หลังจากที่พวกเขาได้แบ่งกำลังมาเพื่อโจมตีส่วนของเขต 2 ที่เหลือ ในตอนนั้นเองเนวิสที่นั่งอยู่บนรถก็ได้งีบหลับไปด้วยเนื่องจากว่าเหนื่อยล้า แต่ในตอนนั้น เขาก็คิดไปถึงตอนที่เขาอยู่กับเจซซิน ซึ่งพวกเขาทั้งคู่ได้พูดคุยกันบนเตียงหลังจากที่ได้จู๋จี๋กันไปด้วย

    “คุณเจซซิน ผมรักคุณ!!”

    “ฉันก็รักคุณนะ เนวิส!!”

    “ถ้าผมจะขอคุณแต่งงาน คุณจะว่าอะไรหรือเปล่า??”

    “ฉันยินดี แต่ฉันมีงานต้องทำ อย่าให้ใครมาหลอกคุณได้ เนวิส..”

    “อย่าให้ใครมาหลอกคุณได้ เนวิส…..”

    “เนวิส….”

    “เนวิส ตื่นได้แล้ว เรามาถึงหน้าด่านเมืองคาวัสกันแล้ว!!” เสียงของลูซิน่าแทรกเข้ามา เนวิสถึงกับตื่นขึ้นมาในทันที จากนั้นก็ดื่มน้ำและเอาน้ำล้างหน้าของเขาไปด้วย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีในครั้งนี้

    =============================================================

    เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า

    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ แหะๆ

    https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig ซับแนลหนูด้วย

    ประกาศๆ หลังจากที่เรื่องนี้จบ ผมจะเขียนเรื่องใหม่เน้อ แหะๆ เป็นแนวการต่อสู้ยุคโบราณ เนื้อเรื่องคือพระเอกย้อนอดีตไปเป็นพระราชาหน่ะ แหะๆ (เรื่องนี้อาจจะต้องใช้ตัวละครเยอะเลย 555)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×