ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sorova - เมื่อประเทศฉันมันบัดซบ

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 7 : สบสายตา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 104
      2
      10 ธ.ค. 63

    เนวิสและพรรคพวกของเขาได้แจวเรือผ่านหนองน้ำคร่ำมาเรื่อยๆ แม้ว่าพวกเขาต้องทนกลิ่นเหม็นจากน้ำ แต่พวกเขาก็ยังอดทนกันมาได้ จนมาถึงฝั่ง พวกเขาก็สั่งให้คนของเขาพากันลงไปแล้วอยู่ชิดกำแพงไว้ในทันที เพื่อไม่ให้ใครมาตรวจพบและหาทางเข้าไปด้านใน

    “พวกมันจะมาตรวจที่นี่หรือเปล่าเนี่ย??” วาลิน่าถามอย่างสงสัย

    “ฉันว่าไม่หรอก ที่นี่เหม็นจะตาย มันไม่อยากมาหรอก” เรนิต้าพูดขึ้น

    “ว่าแต่ เราจะเข้าไปยังไงต่อหล่ะ??” เนวิสถามอย่างสงสัย จากนั้นฟรอนเทียร์ก็ใช้เชือกเกี่ยวกับตะขอแล้วเหวี่ยงขึ้นไปในทันที

    “เช้ง!!”

    “เอาหล่ะ ใครจะอยากขึ้นก่อนครับ??” ฟรอนเทียร์ถามอย่างสงสัย แต่ดูเหมือนว่าทุกคนจะโหวตให้ฟรอนเทียร์ผ่านไปก่อนทางสายตา ทำเอาฟรอนเทียร์ถึงกับต้องรีบปีนขึ้นไปในทันที เขาค่อยๆไต่เชือกขึ้นไปจนถึงกำแพง จากนั้นก็ให้สัญญาณมือกับคนอื่นๆในทันที และพวกเขาก็ค่อยๆไต่กำแพงขึ้นไปเรื่อยๆจนหมด แล้วพวกเขาก็กระโดดลงมาและรีบวิ่งไปที่ด้านข้างโกดังในทันที

    “ทุกคน ฝากนั้นเป็นยังไงบ้าง??” รอนนี่ติดต่อพวกเขาผ่านทางวิทยุไป

    “ตอนนี้ยังทรงๆอยู่ แล้วทางนั้นเป็นยังไงบ้างหล่ะ??” วาลิน่าถามอย่างสงสัย

    “ทางนี้เหรอ เรานำกำลังคนบางส่วนมาประชิดประตูบ้านมันหล่ะ รถหุ้มเกราะของมันเต็มบ้านเลย ตอนนี้มาร์ตินเตรียมบุกเข้าไปแล้วหล่ะ” ลูซิน่าพูดขึ้น

    “อืม ยังไงก็ดูสถานการณ์ไปก่อนแล้วกัน อย่าประมาทหล่ะ” เรนิต้าตอบกลับฝั่งนั้นไป

    “เอาหล่ะ ก่อนอื่นเราต้องเข้าไปด้านในให้ได้ก่อนนะ” ฟรอนเทียร์พูดขึ้น

    “ผมว่า น่าจะลองไขประตูดูนะ พวกคุณไม่มีกุญแจผีเหรอ??” เนวิสถามอย่างสงสัย และในตอนนั้นเอง เขาก็ดันเปิดประตูเข้าไปด้านใน ซึ่งมันไม่ได้ล็อค แต่ในตอนนั้นเอง เขาก็เปิดไปเจอกับชายติดอาวุธกลุ่มหนึ่งซึ่งกำลังนั่งเสพยากันอยู่ ยาเพติดมากมายทั้งสูบทั้งฉีดเต็มโต๊ะ เนวิสรู้สึกตกใจ แต่ในตอนนั้นเอง

    “เฮ้ น้องสาว เด็กเอ็นเหรอ มาๆๆๆ!!”

    “ปิ๊วๆๆๆ”

    วาลิน่าและคนอื่นๆไม่พูดพร่ำทำเพลงใช้ปืนเก็บเสียงเดินเข้ามายิงใส่พวกที่อยู่ด้านในจนหมด จากนั้นพวกเขาก็รีบเคลียร์พื้นที่ในทันที จากนั้นพวกเขาก็คุยถึงแผนการต่อในทันที

    “โห หน้าสิ่วหน้าขวานยังจะมาเมายาอีกนะเนี่ย!!” เนวิสพูดขึ้น

    “นั่นสิ แล้วนี่ เราจะเอายังไงต่อหล่ะ??” เรนิต้าถามอย่างสงสัย

    “เก็บพวกมันที่อยู่ด้านในก่อน แล้วที่เหลือค่อยว่ากัน” วาลิน่าพูดขึ้น

    “ถ้าอย่างงั้นก็ลุยเลยดีกว่า อย่าเสียเวลาเลย!!” ฟรอนเทียร์พูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายไปเล่นงานยามที่อยู่ด้านในทันที พวกเขาค่อยๆย่องเข้าไปอย่างเงียบๆ และค่อยๆเชือดคอพวกมันทีละคน และในตอนนั้นฟรอนเทียร์ก็เหลือบไปเห็นปืนกล dshk กระบอกหนึ่งตั้งหราอยู่ ฟรอนเทียร์รีบไปดูก็พบว่ามันใช้ได้ และในตอนนั้นเอง เนวิสก็ดันไปเดินชนกับขวดแก้วเบียร์ที่อยู่ด้านล่าง

    “เก๊ง!!”

    เสียงที่ดังขึ้นทำเอาพวกที่อยู่ด้านในตกใจมาก จากนั้นพวกมันก็ตะโกนกันเกรียว

    “เฮ้ย มีคนบุกรุก!!”

    เนวิสเห็นท่าไม่ดีเลยวิ่งขึ้นไปรวมกับคนอื่นๆ ตอนนั้นฟรอนเทียร์ก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นเขาก็แบกปืนกลหนักมาที่ด้านหน้าในทันที และในตอนนั้นพวกมันก็วิ่งกรูกันเข้ามาด้านในอย่างเร่งรีบ

    “เข้ามาเลย ไอ้พวกระยำ!!” ฟรอนเทียร์ตะโกนขึ้น จากนั้นเขาก็ซัดปืนกลใส่พวกมันอย่างดุเดือด ทำเอาพวกมันถึงกับล้มตายกันเป็นเบือ

    “ปังๆๆๆๆ”

    “ช่วยยิงสกัดพวกมันหน่อยสิ!!” เนวิสตะโกนขึ้น

    “ไม่ต้องหรอก ฟรอนเทียร์คนเดียวได้อยู่แล้ว” เรนิต้าพูดขึ้น

    “สงสัยเราคงต้องเผ่นออกจากที่นี่ก่อนหล่ะ” วาลิน่าพูดขึ้น แต่ในตอนนั้นเอง ดูเหมือนว่าพวกมันก็เริ่มที่จะเข้ามากันน้อยลงแล้ว ตอนนั้นพวกมันพยายามจะเอารถหุ้มเกราะเข้ามาด้านใน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะรถหุ้มเกราะระยะยิงไม่ถึงพวกของเนวิส พวกของเนวิสบางส่วนรีบวิ่งลงไปด้านล่าง จากนั้นก็ค่อยๆใช้อุปกรณ์แงะประตูรถหุ้มเกราะในทันที และพวกเขาก็ฆ่าพลขับด้านใน และยึดรถหุ้มเกราะมาได้ พวกมันที่เหลือในตอนนั้นก็รีบหนีตายออกไปในทันที และเมื่อทุกอย่างปลอดภัย พวกของเนวิสก็วิ่งลงมาด้านล่าง เพื่อเช็คสิ่งของที่อยู่ในกล่อง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่อาวุธ มันกลับเป็นของอุปโภคบริโภคทั่วไป ซึ่งมีสัญลักษณ์ๆหนึ่งติดหราไว้ที่หน้าสินค้าทุกชิ้นด้วย

    “โทรัส สินค้าโทรัสทั้งนั้น พวกมันไปหาของแบบนี้มาไว้ที่นี่ได้ยังไงกัน??” เนวิสถามอย่างสงสัย

    “ถ้าให้ฉันเดานะ ตอนที่พวกมันหนีออกไปนอกประเทศ พวกมันคงกักตุนสินค้าและนำเข้ามาจากประเทศอื่น เอามาขายในราคาแพงๆสินะ” เรนิต้าพูดขึ้น

    “ไอ้พวกเศรษฐีระยำ ทำนาบนหลังคน นี่ตอนพวกมันยังเสวยอำนาจผูกขาดตลาด มันยังกินกันไม่พอใช่ไหม มันจะยังมาสูบเลือดคนไม่มีทางสู้อีก!!” ฟรอนเทียร์พูดขึ้นพลางทุบโต๊ะปัง

    “ยึดโกดังพวกมันไว้ก่อน จัดแนวตั้งรับ เผื่อพวกมันจะส่งกำลังกลับมาที่นี่” วาลิน่าบอกกับทุกคนไป

     

    ทางด้านและลูซิน่ากับคนอื่นๆที่เหลือ พวกเขานำกำลังที่เหลือมาล้อมบ้านของสิรานิสไว้ โดยที่รอนนี่ก็ใช้กล้องส่องทางไกลของเขาสำรวจพื้นที่ไปด้วย แต่ในระหว่างที่พวกเขากำลังสอดแนม จู่ๆกองพันหุ้มเกราะของสิรานิสก็มีการเคลื่อนที่พลกันไปที่ไหนซักแห่ง ทำเอารอนนี่และคนอื่นๆสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

    “เฮ้ย พวกมันไปไหนกันวะ??” รอนนี่ถามอย่างสงสัย ทำเอามาร์ตินก็ถึงกับส่ายหัวด้วย

    “ไม่รู้สิ อาจจะมีเรื่องที่โกดังก็ได้” ลูซิน่าพูดขึ้น

    “หรือว่า พวกเราอาจจะทำสำเร็จแล้วที่โกดังนั่น??” รอนนี่ถามอย่างสงสัย

    “อาจจะใช่ ถ้าอย่างงั้น พอพวกมันไป ก็บุกไปจับตัวสิรานิสเลย!!” ลูซิน่าพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง เมื่อขบวนรถหุ้มเกราะออกจากบ้านของสิรานิสจนหมด ลูซิน่าก็ให้สัญญาณในทันที 

    “ลุยเลย จับตัวสิรานิสให้ได้!!”

    กลุ่มของลูซิน่าในตอนนั้นก็นำคนบุกเข้าไปในบ้านของสิรานิสอย่างรวดเร็ว ยามที่อยู่ด้านนอกพยายามจะยิงสกัดไว้แต่พวกเขาก็โจมตีเร็วจนพวกนั้นไม่ทันตั้งตัว มาร์ตินวิ่งเข้าไปยิงถล่มจากนั้นก็ไปวางระเบิดประตูรั้วในทันที

    “ตู้ม!!”

    ในตอนนั้น เมื่อประตูรั้วเปิดแล้ว จากนั้นกลุ่มของลูซิน่าก็นำกำลังบุกเข้าไปในทันที ซึ่งกลุ่มของสิรานิสอ่อนแอกว่าเลยพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย สิรานิสที่อยู่ด้านในก็พยายามติดต่อให้กองกำลังของเขากลับมาคุ้มกันเขา แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ทันแล้ว พวกของลูซิน่าบุกเข้ามาในบ้านของสิรานิสแล้ว

    “เวรเอ้ย รีบไปจากที่นี่สิโว้ย!!” สิรานิสพูดกับลูกน้องของเขา แต่ในตอนนั้นเอง ลูกน้องส่วนใหญ่ของเขาก็ทิ้งปืนแล้วหนีออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว ทำเอาสิรานิสถึงกับไปไม่เป็นเลย

    “ไอ้บ้าเอ้ย พวกแกจะหนีไปไหนวะ ไว้ใจไม่ได้เลย!!”

    “โลกนี้มีทาสคนไหนไว้ใจได้บ้างหล่ะ ขนาดเพื่อนยังไว้ใจไม่ค่อยได้เลย” ในตอนนั้นเอง ลูซิน่าที่เข้ามาถึงห้องของสิรานิสก็พูดกับเขาไป

    “นั่นสิ ที่มันอยู่กับแกก็เพราะเงินแค่นั้นแหละ พอใกล้ตายมันก็หนีแกกันหมด” รอนนี่พูดเสริม

    “เดี๋ยวๆๆๆ ฉันมีเงิน พวกนายอยากได้เท่าไหร่ พวกนายเอาไปเลย แต่อย่าทำอะไรฉัน!!” สิรานิสพยายามพูดเพื่อร้องขอชีวิต

    “ฉันยังไม่ฆ่าแกหรอก ฉันยังต้องถามอะไรแกหน่อย ถ้าแกยอมบอกดีๆ เราอาจจะไว้ชีวิตโง่ๆของแก!!” ลูซิน่าพูดขึ้น

    “ได้ๆๆๆ ผมจะบอกทุกอย่าง ตามที่พวกคุณต้องการเลย!!”

    “โธ่ ไม่เหมือนตอนที่ยังเป็นสส.นะแกเนี่ย เมื่อก่อนกร่างชิบหาย มาร์ติน เอาตัวมันไป!!” รอนนี่พูดขึ้น จากนั้นมาร์ตินก็ไปเอาตัวของสิรานิสออกมาจากห้องของเขา และอีกด้านหนึ่งของห้อง ในตอนนั้นเองหญิงสาวที่กำลังถือปืน AK พร้อมปิดหน้าด้วยผ้าสีดำก็เดินหลบเข้าไปในห้องๆหนึ่ง จากนั้นเธอก็รีบเอาแท็บเล็ตของเธอออกมาเชื่อมต่อข้อมูลในทันที

    “CIA login online!!”

    “เจซซิน อยู่ในการสนทนา!!”

    “เจซซิน : ฉันอยู่ในบ้านสิรานิสแล้ว!!”

    “อืม แล้วเธอเห็นตัวเขาหรือเปล่า??”

    “เจซซิน : เห็นแล้ว แต่เขาโดนจับไปแล้ว แล้วคุณต้องไม่เชื่อแน่ๆว่าใครจับเขาไป”

    “ใครกันหล่ะ ระบุตัวตนได้หรือเปล่า??” 

    “เจซซิน : หนึ่งในนั้นมีรอนนี่ แล้วก็ลูซิน่า แต่อีกคนหนึ่งฉันไม่แน่ใจว่าเป็นใคร เราระบุตัวตนไม่ได้ ไม่รู้ว่าคนที่เหลือไปไหนกันหมด??”

    “อืม ได้แค่สองคนก็ดีแล้ว ยังไงก็ลองติดตามเขาดูก็แล้วกัน”

    “เจซซิน : แล้วสิรานิสหล่ะคะ จะเอายังไงกับเขาต่อ??” 

    “จับตาดูเขาไว้ก่อน เอาจริงเขาไม่ใช่เป้าหมายหลักของเราหรอก”

    “เจซซิน : ฉันว่า พวกนั้นต้องมารวมตัวกันไม่นานนี้แน่ๆ”

    “อืม ยังไงก็คอยจับตาดูไว้แล้วกัน แล้วอัพเดทให้พวกเราเป็นระยะๆแล้วกัน”

    “เจซซิน : ได้ เจซซินเลิกกัน!!”

    เจซซินส่งข้อความไป จากนั้นเธอก็ลบข้อมูลการสนทนาทั้งหมดในแท็บเล็ตของเธอในทันที แต่ในขณะที่เธอกำลังอยู่ในห้อง จู่ๆชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้องเพื่อตรวจสอบ ดันมาเจอกับเจซซินในทันที

    “นี่ มาอู้อะไรอยู่แถวนี้ เดี๋ยวก็โดนเล่นงานหรอก??"

    “อ่า โทษที ฉันมาหาของๆมันเพิ่มเติมหน่ะ” เจซซินตอบไป

    “เออ แล้วเจออะไรบ้างหรือเปล่าหล่ะ??”

    “ก็ ไม่มีอะไรที่พวกเราใช้ได้เลย” เจซซินตอบไป

    “อืม ตอนนี้รีบกลับไปรวมตัวกับคนอื่นๆก่อน เดี๋ยวค่อยมาหาของก็ได้!!” ชายคนนั้นพูดขึ้นแล้วก็เดินออกไป ส่วนตัวเจซซินก็รีบเก็บอุปกรณ์ของเธอในทันที จากนั้นเธอก็เดินกลับออกไปด้านนอกตามคนอื่นๆ

     

    เช้าวันต่อมา ที่บ้านพักชั่วคราวของโดนาทอร์ โต๊ะใหญ่ใจกลางบ้านซึ่งพวกเขาได้มาวางแผนรบร่วมกันกับคนอื่นๆ โดยที่ยังมีนายทหารที่ทำงานกับโดนาทอร์มากมาย พวกเขาวางแปลนการรบต่างๆลงบนโต๊ะ จากนั้นก็คุยกันถึงแผนการรบต่อไปที่กำลังจะเกิดขึ้นในทันที

    “เอาหล่ะ ตอนนี้เรายึดพื้นที่ของเมืองหลวงได้ แต่ชายแดนที่ติดกับเขต 2 ยังอันตรายอยู่ ข่าวกรองของเราแจ้งมาว่ารถถังจำนวนมากได้ตรึงกำลังอยู่ชายแดน เราน่าจะสู้ลำบากหน่ะ” โดนาทอร์พูดขึ้น

    “อืม นั่นสิ กองกำลังของเราตอนนี้แม้จะเพิ่มขึ้นหลายพันแต่ยังไม่มีอาวุธดีพอที่จะหยุดรถถังได้ ตอนนี้เราต้องการอาวุธเพิ่มอีก” ปาโบลพูดขึ้น

    “ผมว่า เราน่าจะลองขโมยอาวุธของพวกมันมาก่อนที่อาวุธของพวกเราจะส่งมานะครับ” นายทหารคนหนึ่งพูดขึ้น ในระหว่างนั้นเอง ชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในบ้านของโดนาทอร์ จากนั้นก็มารายงานอะไรบางอย่างกับโดนาทอร์และคนอื่นๆในทันที

    “ท่านครับ ตอนนี้กลุ่มของเรายึดเขต 3 ได้แล้วครับ!!”

    “ห่ะ จริงเหรอ เป็นยังไงบ้างหล่ะ??” โดนาทอร์ถามอย่างสงสัย

    “ครับ เมื่อคืนกลุ่มภาคีได้เข้ายึดเมืองได้หน่ะครับ แถมยังจับตัวสิรานิสได้แล้วครับ”

    “สิรานิสอย่างงั้นเหรอ เยี่ยมเลย ถ้าอย่างงั้นจับมันมาเลย” ปาโบลพูดขึ้น และในขณะเดียวกันนั้นเอง ทหารของโดนาทอร์ได้จับตัวชายคนหนึ่งในชุดมอซอ กลิ่นตัวแรงเข้ามาด้านในบ้าน แล้วก็มารายงานกับโดนาทอร์ในทันที

    “ท่านครับ เราจับตัวไอ้บ้านี่ได้ มันบุกเข้าไปในบ้านพักคุณปาร์บี้แล้วพยายามจะฆ่าครับ!!”

    “หือ ไอ้บ้านี่หน้าคุ้นๆนะ รู้หรือเปล่าว่ามันเป็นใคร??” ปาโบลถามอย่างสงสัย

    “เฮ้อ ไม่ต้องบอกหรอก รู้จักบาส์กหรือเปล่า บาส์ก เจนสกิ้นหน่ะ??” ชายคนนั้นตะโกนถามไป

    “อ้อ คุณบาส์กคนดังนี่เอง ทำไมแกถึงไปฆ่าเขาหล่ะ ห่ะ??” ปาโบลตะโกนถามไป

    “ผมว่า ไม่ต้องถามหรอกครับ เราค้นเจอเงินดอลล่าห์ในตัวมัน 20 ดอลล่าห์ครับ” ทหารคนหนึ่งพูดขึ้น 

    “โห ไงหล่ะมึง ความภักดีของมึงมันกินไม่ได้แล้วเหรอ ถึงได้มารับจ้างฆ่าคนหน่ะ ถุ๊ย!!” ปาโบลถุ๊ยน้ำลายใส่หน้าบาส์กไป 

    “ฉันไม่กลัวความตายหรอก แกอยากฆ่าฉันก็ฆ่าฉันสิ!!” บาร์กตะโกนตอบกลับไป

    “งั้นเหรอ ขำหว่ะ ฉันจะบอกอะไรแกให้เอาบุญนะ ไอ้พวกที่แกรับใช้อยู่หน่ะ มันหนีไปต่างประเทศกันหมดแล้ว มันไปร่ำรวยอยู่ต่างประเทศไง สบายๆกันเป็นแถว เฮ้อ มัวแต่โง่อยู่นานนักน้า มาฉลาดเอาตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วเว้ย แล้วอีกอย่าง ฉันไม่ยอมให้แกตายง่ายๆหรอก แกจะต้องใช้ชีวิตที่เหลือของแกสมเพชตัวเองในคุก มองดูคนที่พวกแกเกลียดนักเกลียดหนาบริหารประเทศที่แกรัก มองดูโลกที่แกคุ้นเคยล่มสลายไป ฉันว่า มันน่าดูกว่าเยอะเลยหล่ะ!!” ปาโบลพูดต่อเนื่องไม่มีพัก ทำเอาบาส์กถึงกับคลั่ง และแทบจะขัดขืนการจับกุมไป

    “ไอ้ระยำ มึงฆ่ากูเลยสิ ฆ่ากูเลย!!”

    “เฮ้ย เอาไอ้บ้านี่ไปยัดคุกหน่อย ถอดเสื้อมันให้หมดให้เหลือแต่กางเกงใน จะได้ฆ่าตัวตายไม่ได้ แล้วอีกอย่าง เอามันไปอาบน้ำด้วย เหม็นชิบหายเลยหว่ะ!!” ปาโบลสั่งทหารไป จากนั้นทหารก็พากันลากตัวบาส์กไปเพื่อเตรียมเอาไปขัง และในตอนนั้นเขาก็กลับไปหาโดนาทอร์ต่อในทันที

    “เอาหล่ะ อย่าเสียเวลากันเลยครับ มาวางแผนกันต่อดีกว่า แล้วก็ส่งคนไปช่วยคุ้มกันปาร์บี้กับพาร์นิต้าด้วยหล่ะ” โดนาทอร์บอกกับทุกคนไป

     

    กลับมายังเขต 2 ของ Khorne ในวันนั้นเองตัวของเรดเดวิลก็เดินทางมาดูทหารและกองกำลังของเขาบริเวณชายแดน แต่เขาเดินไปไหนมาไหนไม่ได้เท่าที่ควรเนื่องจากร่างกายไม่เอื้ออำนวย เขาเดินสำรวจตรงนั้นตรงนี้ไปเรื่อยๆ แล้วก็ให้สูราจารายงานความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมด้วย

    “ท่านครับ ตอนนี้กองทัพของเราอยู่ในสภาพพร้อมรบมาก นอกจากอาวุธหนักแล้ว ชุดเกราะของทหารเราก็เตรียมพร้อมแล้วครับ!!”

    “ชุดเกราะที่เราพัฒนาขึ้นงั้นเหรอ ตอนนี้พร้อมใช้เท่าไหร่หล่ะ??” เรดเดวิลถามอย่างสงสัย

    “300 คนครับ เมื่อพวกเขาใส่เกราะ จะไม่มีอะไรต้านทานพวกเขาได้” 

    “ดี ให้พวกนั้นเป็นองครักษ์ส่วนตัวของฉันเลย” เรดเดวิลพูดขึ้น และในขณะเดียวกัน ทหารคนหนึ่งก็ขี่มอไซค์มาหาเรดเดวิล และรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ได้ฟังในทันที

    “ท่านครับ มีข่าวจากเขต 5 กับเขต 3 ครับ!!”

    “เอาเขต 5 ก่อน เป็นยังไงบ้างหล่ะ??” เรดเดวิลถามไป

    “ตอนนี้เรายึดพื้นที่เขต 5 ได้มากพอแล้วครับ ถ้าบุกมากกว่านี้เราอาจจะปะทะกับพวกเขต 6 ก็ได้นะครับ”

    “อืม ถ้าอย่างงั้นก็ตรึงกำลังไว้ แล้วที่เขต 3 เป็นยังไงบ้างหล่ะ??” เรดเดวิลถามต่อ

    “เขต 3 ถูกตีแตกแล้วครับ!!”

    “ห่ะ จริงเหรอ พวกมันยึดเขต 3 ได้แล้วเหรอ??” เรดเดวิลถามไป

    “ผมว่า เราน่าจะโจมตีพวกมันแบบจริงๆจังๆได้แล้วนะครับ” สูราจาพูดขึ้น

    “อืม แต่พวกมันก็ต้องเจอกับเขต 6 อยู่ดี ส่งกำลังไปตรึงบริเวณนั้นด้วย อย่าเพิ่งทำอะไรจนกว่าจะได้รับคำสั่ง!!” เรดเดวิลพูดขึ้น

    “รับทราบครับผม แต่ผมว่า ถ้าเรารอนานไป พวกมันอาจจะมาโจมตีเราก่อนก็ได้นะครับ”

    “ตอนนี้ฉันได้ข่าวมาว่าพวกโดนาทอร์มันกำลังซ่องสุมอาวุธเพื่อเตรียมรับมือพวกเรา เรื่องนี้เราต้องระวังหน่อย” เรดเดวิลตอบไป แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดต่อ

    “ปัง!!”

    เสียงปืนดังลั่นมาแต่ไกล ในตอนนั้นเรดเดวิลก็ล้มลงในทันที ทำเอาทหารคนอื่นๆตกใจในทันที

    “สไนเปอร์ คุ้มกันท่านเรดเดวิล เร็ว!!” สูราจาตะโกนบอกไป และอีกด้านหนึ่งของป่า ซึ่งเป็นจุดซุ่มยิงของสไนเปอร์ ซึ่ง G นั่นเองที่เป็นคนยิง ในตอนนั้น G รีบแบกปืนของเขาเก็บใส่กระเป๋า จากนั้นก็รีบหนีออกจากพื้นที่ในทันที ก่อนที่เขาจะโดนตามล่า แต่ในตอนนั้นเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งก็ค่อยๆบินเข้ามาใกล้ตำแหน่งของเขา ทำเอา G ต้องรีบหนีออกมาในทันที G วิ่งแบกปืนมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงจุดหนึ่ง เขารีบเอาแท็บเล็ตของเขามารายงานกลับไปยังหน่วยของเขาในทันที เพื่อรายงานความสำเร็จของภารกิจของเขา

    “G เรียกศูนย์ เห็นแล้วตอบด้วย!!”

    “นี่ฉันฟิลิปเป้ ทราบแล้ว เป็นยังไงบ้าง??”

    “ครับท่าน ผมยิงเป้าหมายร่วงไปแล้วครับ”

    “สถานะเป็นยังไงบ้าง หมอนั่นตายหรือเปล่า??”

    “ยังไม่ทราบครับ ผมต้องหนีกลับออกมาก่อน”

    “ไม่เป็นไร รีบหนีกลับไปที่ซ่อนของนายก่อน แล้วเราจะอัพเดทไปอีกที”

    “รับทราบครับ G เลิกกัน!!”

    G เก็บอุปกรณ์แท็บเล็ตของเขาไว้ จากนั้นเขาก็รีบวิ่งมาที่รถมอไซค์ของเขาที่ยังคงจอดอยู่ ท่ามกลางเสียงเฮลิคอปเตอร์ของพวกมันที่กำลังค้นหา G รีบขึ้นมอไซค์และสตาร์ทรถหนีออกไปในทันที และทางด้านหน่วยใหญ่ของ G ในตอนนั้นฟิลิปเป้ก็สั่งให้คนของเขาพยายามหาข่าวเพิ่มเติม รวมถึงตำแหน่งที่อยู่ของ G ไปด้วย ซึ่งด้านในห้องบังคับการณ์ของเรือก็กำลังทำงานกันอย่างดุเดือด

    “ท่านครับ เราเจอตำแหน่ง G แล้วครับ แต่เขากำลังหนีครับ!!”

    “ก็แน่หล่ะ บอกให้เขาหนีออกมา ติดตามดูด้วยว่าเรดเดวิลมันเป็นยังไงบ้าง??” ฟิลิปเป้พูดขึ้น

    “ครับท่าน เราจะส่งโดรนเข้าไปดูครับ!!”

    “งานนี้พวกมันพลิกแผ่นดินตามล่าเขาแน่ ตอนนี้กองกำลังของเราพร้อมแค่ไหนหล่ะ??” ฟิลิปเป้ถามอย่างสงสัย

    “ครับ เรือขีปนาวุธของเรากำลังเดินทางมาครับ!!”

    “อืม ดี ตอนนี้เราต้องติดตามตัว G ไปก่อน คอยดูด้วยว่าพวกมันมีกำลังมากแค่ไหน” ฟิลิปเป้ตอบไป 

    และทางด้านของเรดเดวิล ในตอนนั้นแม้ว่าเรดเดวิลจะถูกกระสุนขนาด .50 cal ซัดเข้าไปเต็มเหนี่ยว แต่ตอนนั้นเขาก็ยังลุกขึ้นมาได้ พร้อมกับชุดเกราะที่ค่อนข้างเสียหายอย่างหนัก สูราจารีบไปดูนายของเขาในทันที

    “ท่านครับ เป็นยังไงบ้างครับ??”

    “เฮ้อ ไอ้เสื้อเกราะแบบนี้มันดีจริงๆ กลับไปต้องซ่อมด้วยหล่ะ ส่งคนออกตามล่าไอ้มือปืนนั่น ฉันอยากรู้ว่ามันเป็นพวกไหนกันแน่” เรดเดวิลสั่งลูกน้องของเขาไป

     

    กลับมายังเขต 4 ค่ายของบาร์มามัส ในตอนนั้นพวกเขาก็รีบระดมกำลังเพื่อเตรียมรับมือทหารของมาร์ชินที่กำลังจะบุกเข้ามา แล้วก็เป็นอย่างที่พวกเขาคิด กองกำลังของมาร์ชินไม่พูดพร่ำทำเพลงระดมยิงใส่ค่ายของพวกเขาอย่างดุเดือด โดยไม่ยอมเจรจาอะไรเลย

    “ทุกคน หาที่หลบก่อน เร็ว!!” เคนโนช่าตะโกนบอกทุกคนไป

    “ไอ้มาร์ชินมันมาเองแน่ๆ ดูจากที่มันยกกำลังมา” บาร์มามัสพูดขึ้น จากนั้นก็ยิงสวนกับพวกมัน

    “แล้วนี่ เราจะเอายังไงต่อหล่ะครับ??” โอเมอร์ถามไป

    “ใจเย็นๆ ตั้งสติ ตอนนี้เราต้องยันมันไว้ก่อน” แองเจลิก้าพูดขึ้น และในตอนนั้นรถหุ้มเกราะของมาร์ชินก็ค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้กำแพงค่ายของพวกเขา รวมถึงด้านหลังที่พวกมันระดมยิงปืนครกใส่ด้วย

    “เคนนี่ ของๆเราที่เตรียมไว้พร้อมหรือยัง??” บาร์มามัสถามไป จากนั้นเคนโนช่าก็ให้สัญญาณมือกับพวกของเธอในทันที จากนั้นพวกเขาก็เอาระเบิดขวดออกมาแจกจ่ายให้กับคนอื่นๆในทันที

    “ระเบิดขวดแค่นี้เหรอครับ??” โอเมอร์ถามอย่างสงสัย

    “เอาน่า ดูต่อไปก็แล้วกัน!!” เคนโนช่าพูดขึ้น 

    “รีบทำอะไรหน่อยเถอะ พวกมันจะมาแล้ว!!” แองเจลิก้าพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็ปาระเบิดขวดใส่พวกมันพร้อมกันในทันที

    “พรึ่บ!!”

    ระเบิดขวดที่โยนออกไปเริ่มออกฤทธิ์ เปลวเพลิงได้มอดไหม้รถหุ้มเกราะอย่างช้าๆ พวกเขาระดมขว้างไปเรื่อยๆจนตอนนั้นรถหุ้มเกราะของพวกมันก็ต้องหยุด เพราะเพลิงได้ไหม้เข้าไปในห้องพลขับแล้ว

    “ทุกคน ยิงเข้าไป!!” บาร์มามัสพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็ซัดกระสุนใส่พวกของมาร์ชินในทันที

    “ปังๆๆๆๆ”

    กลุ่มของบาร์มามัสระดมยิงใส่พวกของมาร์ชินอย่างดุเดือด พวกนั้นเริ่มล้มตายกันมากเรื่อยๆ และในขณะเดียวกัน เคนโนช่าก็เตรียมของเล่นใหม่ที่ทำกับแองเจลิก้าไว้ มันคือเครื่องยิงหิน แต่พวกเธอใส่ระเบิดที่พวกเธอทำกันเองเป็นกระสุน จากนั้นพวกเธอก็ช่วยกันยิงในทันที

    “เอาไปเลย!!” แองเจลิก้าตะโกนขึ้น

    “ตู้ม!!”

    ระเบิดที่เหวี่ยงออกไปถูกคนของมาร์ชินตายกันไปมากมาย พวกมันตอนนี้ไม่กล้าเข้าใกล้กำแพงแล้ว และออกไปรับกระสุนของบาร์มามัสแทน จนพวกนั้นเริ่มหมดกำลังใจและถอยออกไปเรื่อยๆ

    “พวกมันหนีไปแล้ว พวกมันหนีไปแล้ว!!” โอเมอร์ตะโกนออกไป

    “เยี่ยม ให้คนของเราตามล่าพวกมัน ยึดอาวุธของพวกมันมาให้ได้มากที่สุด!!” เคนโนช่าพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็ค่อยๆออกไปที่ด้านนอก และไล่ยิงคนของมาร์ชินที่ยังเหลืออยู่ แต่บางส่วนก็ได้ทิ้งอาวุธและหนีไปแล้ว ส่วนตัวมาร์ชินก็รีบให้ลูกน้องขับรถหนีออกจากพื้นที่การรบในทันที ก่อนที่พวกของบาร์มามัสจะตามจับตัวพวกเขาได้

    “เวรเอ้ย รีบหนีเร็ว อย่าให้พวกมันตามมาทันนะเว้ย!!” มาร์ชินตะโกนบอกคนขับรถของเขาไปด้วย และรถก็ค่อยๆแล่นกลับออกไปในทันที 

     

    กลับมายังโกดังของอเล็กซานเดอร์ หลังจากที่พวกเขานัดแนะภารกิจของพวกเขากันเรียบร้อยแล้ว ในตอนนั้นปีเตอร์ก็คอยอยู่ที่โกดังเพื่อเป็นศูนย์บัญชาการเพื่อรับข้อมูลจากคนอื่นๆ โดยที่ซาโตะก็คอยประสานงานให้กับคนอื่นๆด้วย

    “ปีเตอร์เรียกสเน็ก ปีเตอร์เรียกสเน็ก ตอบด้วยๆ” ปีเตอร์พูดขึ้น

    “สเน็กรับทราบ โอซีร็อตรับทราบด้วย เปลี่ยน!!” แจ๊กกี้ตอบไป

    “สถานการณ์ที่เขต 7 เป็นยังไงบ้าง??” ปีเตอร์ถามไป

    “เรามาถึงและเข้าร่วมกองกำลังของพวกมันแล้ว กำลังพยายามแทรกซึมอยู่” ดีมีทรีพูดขึ้น

    “อืม มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่าตอนนี้??” ปีเตอร์ถามอย่างสงสัย

    “มีบางคนในหน่วยของมันบอกมาว่าตอนนี้โบริส หัวหน้าเขต 7 กำลังมีปัญหากับเรซนอร์ฟ กับโพคลอนสกายา คนรัสเซียในพื้นที่หน่ะ!!” แจ๊กกี้ตอบไป

    “ซาโตะ รู้ประวัติของสองคนนั้นหรือเปล่า??” ปีเตอร์หันไปถามเธอไป

    “ค่ะ สองคนนี้หากินในโซโรวาผิดกฎหมายมานาน แถมยังมีหมายจับของอินเตอร์โพลด้วยค่ะ” ซาโตะพูดขึ้น

    “ยังไงก็จับตาดูสองคนนั้นด้วยหล่ะ เราอาจจะได้เล่นมันในอนาคตก็ได้” ปีเตอร์พูดขึ้น

    “รับทราบครับ ตอนนี้เรายังได้ข่าวมาว่าบาร์บาร่าจ้างมือปืนราคาแพงมาทำงานด้วยครับ” ดีมีทรีพูดขึ้น

    “โห ยังไงก็ถ่ายรูปมาให้ดูด้วยนะคะ เราจะได้รู้ประวัติ” ซาโตะพูดขึ้น

    “พวกคุณต้องระวังไว้ด้วย ผมไม่รู้ว่าพวกมันกำลังทำอะไรอยู่” ปีเตอร์บอกกับทั้งสองคนไป

    “ได้เลย พวกคุณก็รอข้อมูลจากทางผมแล้วกัน” แจ๊กกี้พูดขึ้น

    “พวกเราต้องไปแล้ว เลิกกันครับ!!” ดีมีทรีพูดขึ้น จากนั้นก็ปิดวิทยุของพวกเขาในทันที และซาโตะก็รีบติดต่อทีมของเธอที่กำลังติดตามโดนาทอร์อยู่ในทันที

    “ซาโตะเรียกอินทรีดำ ซาโตะเรียกอินทรีดำ เปลี่ยน!!”

    “อินทรีดำรับทราบ เปลี่ยน!!”

    “ทางนั้นมีความคืบหน้าอะไรบ้าง??” ซาโตะถามไป

    “ตอนนี้มีการขนส่งอาวุธมาเสริมให้กับกองกำลังของโดนาทอร์แล้ว เรากำลังจับตาอยู่” 

    “อืม แล้วตัวโดนาทอร์หล่ะ กำลังทำอะไร??” ปีเตอร์ถามไป

    “เขากำลังเตรียมทหารของเขาเพื่อรับมือพวก Khorne ครับ จากที่ทราบจากสายของเรา”

    “อืม พอรู้หรือเปล่าโดนาทอร์มีกำลังเท่าไหร่??” ซาโตะถามไป

    “คำนวณจากที่เห็น มีเพิ่มขึ้นถึง 5000 แล้วอีกไม่นาน พวกเขาก็คงจะมีอากาศยานแล้ว”

    “ได้เลย ฉันจะรีบติดต่อไปที่วอชิงตันเลย” ปีเตอร์พูดขึ้น

    “แล้วนี่ พอรู้ตัวสายลับที่ทาง CIA ส่งไปหรือเปล่า??” ซาโตะถามอย่างสงสัย

    “ตอนนี้เรากำลังตามหาตัวอยู่ครับ”

    “ได้ ถ้าได้เรื่องยังไงก็ตอบมาด้วยแล้วกัน” ซาโตะพูดขึ้น

    “ครับ อินทรีดำเลิกกัน!!” พวกนั้นตอบกลับและจบการสนทนาในทันที และทางปีเตอร์ก็รีบติดต่อกับหน่วยงานแม่ของเขาในทันทีอย่างรวดเร็ว

    “ท่านครับ นี่ปีเตอร์ รับทราบเปลี่ยน!!”

    “โซโรวาเป็นยังไงบ้างหล่ะจ่า??”

    “ข่าวล่าสุดของเราบอกว่าโซโรวากำลังมีสงครามใหญ่ โดนาทอร์เตรียมซ่องสุมอาวุธเพื่อรบกับเขต 2 และคนของเรากำลังติดตามการดำเนินงานของบาร์บาร่าตามที่ได้แจ้งมาครับ” ปีเตอร์พูดขึ้น

    “ดี จับตาดูไปก่อน ตอนนี้เราก็ทราบข่าวมาว่ายังไม่มีอะไรผิดปกติถ้ามีอะไรติดต่อเราได้ทุกเมื่อนะ” 

    “รับทราบครับท่าน” ปีเตอร์ตอบไป

    และอีกด้านหนึ่ง ตอนนั้นอเล็กซานเดอร์ก็กำลังคุยกับหลิวเรื่องงานของเขา และในขณะเดียวกันนั้นเอง หญิงสาวคนหนึ่งก็เดินทางมาที่โกดังของอเล็กซานเดอร์ด้วย นั่นก็คือฟรานซิสก้านั่นเอง เธอรีบมาทักทายอเล็กซานเดอร์ด้วย

    “อเล็กซ์ อ้าว คุณหลิวก็อยู่ด้วยเหรอ??” 

    “อ้อ ฟรานซิสก้า ช่วงนี้ไม่มาทานบะหมี่ที่ร้านอั๊วเลยนะ” หลิวทักทายไป

    “ว่าแต่ คุณมีอะไรหรือเปล่าครับ??” อเล็กซานเดอร์ถามไป

    “อ้อ ฉันจะบอกว่าหมู่บ้านของฉันมีไฟฟ้าใช้แล้วค่ะ” ฟรานซิสก้าพูดขึ้น

    “อ้อ แบบนี้ก็ดีสิครับ อย่างน้อยก็พออยู่สบายหล่ะ” หลิวพูดขึ้น

    “อืม เรื่องที่คุณอยากจะไปจากที่นี่ ผมช่วยได้นะ แต่คงต้องรอให้สถานการณ์สงบก่อน ตอนนี้กำลังมีสงครามใหญ่เลยหล่ะ” อเล็กซานเดอร์พูดขึ้น

    “ค่ะ ยังไงก็ได้ ตอนนี้ฉันอยากไปให้เร็วที่สุด” ฟรานซิสก้าพูดขึ้น

    “อ้อๆ ตอนนี้เรือต่างชาติแทบไม่มีเลย อาจต้องใช้เวลาหน่อยนะ” หลิวพูดขึ้น

    “ว่าแต่ ที่หมู่บ้านของคุณตอนนี้ยังโอเคหรือเปล่าหล่ะ??” อเล็กซานเดอร์ถามไป

    “ก็ยังโอเคค่ะ ตอนนี้เริ่มมีไฟฟ้า แล้วก็มีการแจกน้ำกันแล้ว อีกไม่นาก็คงจะดีขึ้นหล่ะนะ” ฟรานซิสก้าพูดขึ้น

    “ปัญหาก็คือ สงครามตอนนี้ไม่สู้ดีเท่าไหร่ อั๊วได้ยินว่าพวกจากเขต 2 เตรียมจะบุกเมืองหลวงด้วย ถ้าพวกนั้นบุกจริงๆ งานนี้ไม่น่ารอด” หลิวพูดขึ้น

    “นั่นสิ การที่คุณโดนาทอร์ไปโจมตีเขต 3 ทำให้พวกเขต 2 เริ่มนั่งไม่ติดเก้าอี้หล่ะ” อเล็กซานเดอร์พูดขึ้น

    “สงสัยคงต้องกักตุนเสบียงไว้แล้วหล่ะแบบนี้” ฟรานซิสก้าพูดขึ้น

    “อ่าๆ ถ้าลื้ออยากได้เสบียงก็ติดต่ออั๊วมาได้นะ” หลิวพูดขึ้น

    “ตอนนี้คงต้องติดตามสถานการณ์กันต่อ ฉันจะคุยกับคุณปีเตอร์ เผื่อเขาจะมีข่าวเพิ่มเติมหน่ะ” อเล็กซานเดอร์พูดขึ้น

    “ค่ะ ถ้าอย่างงั้นขอตัวนะคะ ไว้ฉันไปเยี่ยมร้านบะหมี่นะคะคุณหลิว” ฟรานซิสก้าบอกไป

    “ได้ๆ เดี๋ยวอั๊วทำพิเศษให้เลย ไม่ต้องห่วง” หลิวตอบกลับไป

    “เฮ้อ ไม่รู้ว่างานนี้จะจบยังไงต่อหล่ะนะ” อเล็กซานเดอร์พูดไป

     

    กลับมายังเขต 4 เขตสหประชาชาติ มารีนเนอร์ยังคงแจกจ่ายเสบียงให้ชาวบ้านผู้อพยพที่ยังมาขอพึ่งพิงอยู่เนืองๆ แต่ในวันนี้ ดูเหมือนว่าคนจากเขต 4 จะเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากพวกเขามากขึ้น ทำเอามารีนเนอร์ถึงกับแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น เธอเลยเดินออกจากเต้นท์แล้วไปดูชาวบ้านกลุ่มนั้นในทันที เธอได้ถามชาวบ้านคนหนึ่งซึ่งกำลังอุ้มทารกน้อยและพาเด็กชายคนหนึ่งมาด้วย

    “ขอโทษนะคะ พวกคุณมาจากที่ไหนกันคะ??” มารีนเนอร์ถามไป

    “เรามาจากเขต 4 ค่ะ!!”

    “เกิดอะไรขึ้นที่เขต 4 เหรอคะ ทำไมชาวบ้านมากันเยอะจัง??” มารีนเนอร์ถามต่อ

    “พวกเราหนีจากมาร์ชินหน่ะค่ะ”

    “ทำไมเหรอคะ เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ??” มารีนเนอร์ถามไป

    “มาร์ชินตอนนี้เกณฑ์ทั้งเด็กและคนแก่ไปเป็นทหารค่ะ พวกนั้นจะรบกวาดล้างกลุ่มโจรในพื้นที่ ทุกคนที่มาก็เพื่อหนีจากการเกณฑ์ทหารค่ะ” หญิงสาวแม่ลูกอ่อนคนนั้นพูดขึ้น

    “ลูกคุณอายุเท่าไหร่บ้างคะเนี่ย??” มารีนเนอร์ถามอย่างสงสัย

    “คนโตอายุ 8 ขวบ คนเล็กนี่ 1 ปีค่ะ”

    “ฉันขออุ้มเขาหน่อยได้หรือเปล่าคะ??” มารีนเนอร์ถามไป จากนั้นเธอก็อุ้มเด็กน้อยคนนั้นในทันที แล้วเธอก็เล่นกับทารกน้อยคนนั้นด้วย

    “น่ารักจริงๆนะเรา!!” มารีนเนอร์อุ้มไปซักพัก จากนั้นเธอก็คืนทารกให้กับหญิงสาวคนนั้นไป จากนั้นเธอก็เรียกทหารของเธอมาคุยด้วยในทันทีถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

    “พวกเขาหนีการเกณฑ์ทหารมา ยังไงก็คุ้มกันที่นี่ด้วยนะคะ เผื่อพวกนั้นจะตามชาวบ้านมา” มารีนเนอร์บอกกับทหารไป

     

    กลับมายังเขต 5 ซึ่งกองกำลังของแอลรอนได้โจมตีมาเรื่อยๆ จนถึงปากประตูหน้าบ้านของชาร์ลีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งกองกำลังของเขาได้ล้อมบ้านของชาร์ลีไว้หมดแล้ว รอเพียงคำสั่งของแอลรอนที่จะให้บุกเข้าไปเท่านั้น

    “ตอนนี้เป็นยังไงบ้างหล่ะ??” แอลรอนถามโรสเซียไป

    “พวกมันตรึงกำลังอยู่ในบ้าน เราจะเอายังไงดีหล่ะ??” โรสเซียถามอย่างสงสัย

    “ยิงขึ้นฟ้าขู่มัน แต่อย่าให้บ้านเสียหายมากหล่ะ ฉันอยากได้บ้านหลังนี้” แอลรอนพูดขึ้น

    “ได้เลย ยินดีจัดให้!!” โรสเซียพูดขึ้น จากนั้นเธอก็ชักธงที่มือของเธอขึ้นในทันที

    “ตู้ม!!”

    กองกำลังของแอลรอนยิงปืนครกใส่ไปที่ด้านหลังรั้วบ้านของชาร์ลี ชาร์ลีที่กำลังนอนเมายาอยู่ในบ้านก็ตื่นมาแบบอารมณ์เสีย จากนั้นก็เรียกลูกน้องเข้ามาคุยในทันที

    “เฮ้ย เสียงอะไรวะ บอกให้แม่งหยุดดิ!!” ชาร์ลีตะโกนออกไป และในตอนนั้นเอง ลูกน้องของเขาคนหนึ่งก็วิ่งมารายงานสถานการณ์กับชาร์ลีในทันทีอย่างเร่งรีบ

    “ลูกพี่ แย่แล้วครับ พวกเขต 6 กำลังบุกเข้ามาแล้วครับ!!”

    “อะไรกันวะ พวกมึงก็เอาคนไปยิงกับมันเด่!!”

    ชาร์ลีพยายามสั่งลูกน้องของเขา แต่ที่ด้านนอก กองกำลังของแอลรอนที่ชำนาญศึกมากกว่าก็บุกเข้ามาในบ้านของชาร์ลีอย่างรวดเร็ว พวกเขายิงทุกคนที่คิดต่อสู้ จนกระทั่งพวกเขาก็เข้ามาในห้องของชาร์ลีได้สำเร็จ ในตอนนั้นชาร์ลีที่กำลังถือปืนพกอยู่ในมือก็พยายามจะยิงแอลรอน แต่แอลรอนยิงใส่ก่อนจนปืนของมันร่วง จากนั้นเขาก็ไปรวบตัวมันในทันที

    “ว่ายังไง ไอ้ชาร์ลี??” แอลรอถามไป

    “เฮ้ย พวกนายเป็นใครวะ ใจเย็นๆ ฉันมีเงิน อยากได้เท่าไหร่เอาไปเลย!!” ชาร์ลีพูดขึ้น

    “พวกเราต้องการเขตของแกทั้งหมด รวมถึงของๆแกด้วย” โรสเซียพูดขึ้น

    “ได้ๆๆๆ อยากได้อะไรเอาไปเลย แต่อย่าทำฉัน!!” แฟนของชาร์ลีพูดขึ้น

    “อะไรเนี่ย มันของๆฉันนะ” ชาร์ลีพูดขึ้น

    “เอาสองคนนี้ไปเก็บไว้ก่อน ฉันจะจัดการทีหลัง” แอลรอนพูดขึ้น

    “นี่ เราจะไม่ฆ่ามันเหรอ??” โรสเซียถามอย่างสงสัย

    “พ่อแม่มันมีเงินเก็บไม่ต่ำกว่าร้อยล้านเหรียญ ฉันจะเอาตัวมันไปเรียกค่าไถ่” แอลรอนพูดขึ้น

    “แล้วแฟนมัน ยัยเนี่ย จะเอายังไงหล่ะ??” โรสเซียถามอย่างสงสัย

    “เอาไปบำเรอคนของเราหน่อย คนของเราคงจะเหนื่อย นางแบบระดับนี้ใครก็อยากได้!!” แอลรอนพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็พาทั้งชาร์ลีและแฟนสาวของเขาออกไปด้านนอกในทันที เพื่อเอาตัวไปขังไว้รอการตัดสินต่อไป

     

    กลับมายังเขต 7 ซึ่งในวันนั้นบาร์บาร่าได้จ้างมือปืนค่าตัวแพงคนหนึ่งมา เธอรอเขาอยู่ที่บ้านพักของเธอ พร้อมกับทั้งเรซนอร์ฟและโพคลอนสกายาก็มารอด้วยเจอตัวเขาด้วย และไม่นานนัก รถคันหนึ่งก็ขับมาจอดที่หน้าบ้านของเธอ พร้อมกับชายคนหนึ่งในชุดสูทสีขาว ใส่แว่นกันแดดดูน่าเกรงขาม เดินลงจากรถแล้วเข้ามาในบ้านของบาร์บาร่า บาร์บาร่าไม่รอช้าทักทายกับเขาในทันที

    “สวัสดีค่ะคุณฟอร์ด ยินดีที่ได้พบคุณนะคะ” บาร์บาร่าพูดขึ้น

    “สวัสดีครับ โซโรวานี่ก็ร้อนเหมือนกันนะครับ” ฟอร์ดพูดขึ้น

    “ฟอร์ด สแตนลิน มือปืนค่าตัวแพงในยุคนี้สินะ” เรซนอร์ฟพูดขึ้น

    “ใครๆก็เรียกผมแบบนั้น ว่าแต่ งานหนักหรือเปล่าหล่ะ??” ฟอร์ดถามอย่างสงสัย

    “ลองถามคุณบาร์บาร่าดูสิ!!” โพคลอนสกายาพูดขึ้น

    “ก็ไม่มีอะไร เราแค่อยากให้คุณฆ่าหัวหน้าในเขตอื่นหน่ะ” บาร์บาร่าพูดขึ้น

    “อ้อๆ มันอยู่ที่ว่าเงินถึงหรือเปล่า แค่นั้นแหละ” ฟอร์ดพูดขึ้น

    “เงินดีแน่นอน ฉันรับรองเลย จบเรื่องนี้คุณเป็นเศรษฐีได้เลย” ฟอร์ดพูดขึ้น

    “พอมีรายละเอียดงานหรือเปล่าหล่ะ??” ฟอร์ดถามอย่างสงสัย

    “คุณแค่ไปฆ่าคนตามใบสั่งของเรา แค่นั้นพอ” เรซนอร์ฟพูดขึ้น

    “อืม เอาสิ แต่ว่า คืนนี้ผมพักที่ไหนหล่ะ??” ฟอร์ดถามอย่างสงสัย

    “เรามีที่พักให้อยู่แล้วหล่ะ ไม่ต้องห่วง” โพคลอนสกายาพูดขึ้น

    “อ้อ จริงด้วย คุณเพิ่งจะมาถึง คงจะเหนื่อย ถ้าอย่างงั้นฉันจะพาไปเอง” บาร์บาร่าพูดขึ้น จากนั้นเธอก็พาฟอร์ดไปยังที่พักของเขาในทันที เพื่อให้เขาไปพักผ่อนก่อน

    “ฉันไม่ชอบหน้าไอ้หมอนี่เลยหว่ะ” เรซนอร์ฟพูดขึ้น

    “ก็แน่หล่ะ เขาหล่อกว่านายนี่” โพคลอนสกายาพูดแซวไป

    “ไม่ใช่อย่างงั้น ไอ้หมอนี่มันมีกลิ่นแปลกๆ เหมือนว่ามันไม่ใช่มือปืนรับจ้างธรรมดาเลย” เรซนอร์ฟพูดขึ้น

    “ก็แน่หล่ะ พวกค่าตัวแพงก็จะประมาณนี้แหละ” โพคลอนสกายาตอบไป จากนั้นเธอก็จิบวิสกี้ไปด้วยเพื่อผ่อนคลายไป

     

    ช่วงเช้าไปจนสาย ที่เขต 3 โกดังใหญ่ที่กลุ่มของวาลิน่าเพิ่งจะบุกยึดไป หลังจากที่วาลิน่าเล่าให้คนอื่นๆฟัง คนอื่นๆในกลุ่มก็รีบตามพวกเขามาในทันทีที่โกดังนี้ เมื่อพวกเขามาถึง พวกเขาก็ทักทายกันในทันที

    “โห ที่นี่เหรอที่พวกนายพูดถึงหน่ะ??” รอนนี่ถามอย่างสงสัย

    “แน่นอน พวกเราตรวจเจอทั้งของอุปโภคบริโภค รวมถึงอาวุธบางส่วนด้วย แล้วส่วนใหญ่เป็นแบรนด์โทรัสทั้งนั้น” เนวิสพูดขึ้น

    “ฉันว่า พวกมันต้องส่งของมาจากนอกประเทศ เอามาขายกดราคาในนี้แน่ๆ ระยำเอ้ย!!” ลูซิน่าพูดขึ้น

    “เรนิต้า ถ่ายรูปและส่งข่าวออกไปทั่วโลก ให้ไอ้พวกเจ้าสัวนั่นมันอกแตกตายเล่นๆดู” วาลิน่าพูดขึ้น

    “จัดให้ จะถ่ายวีดีโอไปด้วยเลย” เรนิต้าพูดขึ้น

    “ว่าแต่ เรายึดที่นี่แล้ว จะเอายังไงต่อหล่ะ??” ฟรอนเทียร์ถามอย่างสงสัย

    “ผมว่านะ ตอนนี้พวกเขต 2 กับเขตอื่นๆคงร้อนๆหนาวๆแล้วหล่ะ มันต้องส่งกำลังมาโจมตีแน่ๆ” เนวิสพูดขึ้น

    “กองกำลังภาคพื้นของพวกมันเข้มแข็ง ถ้าจะให้ดีคงต้องใช้กำลังทางอากาศเล่นงานหน่ะ” รอนนี่พูดขึ้น

    “เออใช่ ฉันได้ข่าวว่าจะมีกองเรือของรัสเซียกับจีนมาป้วนเปี้ยนแถวนี้ พวกนายคิดอย่างที่ฉันคิดหรือเปล่า??” เรนิต้าถามไป

    “อย่างบอกนะ ว่าเธอจะแฮ็กเครื่องบินนั้นทั้งหมดหน่ะ??” ลูซิน่าถามไป

    “ก็เป็นไปได้นะ ถ้าเราแฮ็กได้ น่าจะถล่มพวกมันได้” วาลิน่าพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง มาร์ตินก็ยื่นอะไรบางอย่างให้กับพวกเขา ซึ่งนั่นก็คือแท็บเล็ตเครื่องหนึ่งที่เขาหามาได้ รอนนี่รีบหยิบมันมาในทันที จากนั้นก็ตั้งค่าโปรแกรมในเครื่องใหม่ทั้งหมด

    “เฮ้อๆๆ งานนี้คงไม่มีใครจับได้ว่าเราเป็นคนทำหล่ะนะ” ฟรอนเทียร์พูดขึ้น และในตอนนั้นเอง เนวิสดันเหลือบไปเห็นเงาอะไรบางอย่างท่าทางแปลกๆในโกดัง ในตอนนั้นเขาบอกกับเพื่อนๆของเขาไป

    “ฉันไปเข้าห้องน้ำแป๊ปนะ!!”

    เนวิสเดินตามเงาประหลาดนั่นไป จากนั้นก็ชักปืนพกออกมาด้วย จากนั้นก็เดินเข้าไปในโกดังนั้น

    “ใครหน่ะ??”

    เนวิสค่อยๆเดินส่องปืนเข้าไปในโกดัง แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆก็เหมือนกับว่ามีอะไรล้มทับเขา ซึ่งนั่นก็คือผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่แถวนั้น เธอจะต่อยเนวิสแต่ดันพลาดล้มทับเขา ทำเอาทั้งคู่ถึงกับจ้องมองตากันในทันที สายตาของทั้งคู่ประสานกันโดยที่ไม่มีใครขยับไปไหนเลย

    “เออ เธอ ลุกขึ้นได้แล้ว!!” เนวิสพูดขึ้น ทำเอาหญิงสาวคนนั้นถึงกับต้องรีบลุกขึ้นในทันที และรีบปัดฝุ่นเสื้อของเธอไปด้วย

    “นี่ เธอเป็นสมาชิกในกลุ่มเราด้วยเหรอ แล้วมาทำอะไรในโกดังหล่ะ??” เนวิสถามหญิงสาวคนนั้นไป

    “คือ ฉัน มาหาอะไรกินหน่อยหน่ะ!!”

    “เอ้า หิวเหรอ ไปหยิบกินก่อนก็ได้ ไม่ต้องอายหรอก ผมชื่อเนวิส ยินดีที่ได้รู้จักนะ”

    “ฉัน..เจซซิน ยินดีที่ได้รู้จัก!!” หญิงสาวคนนั้นพูดขึ้น แต่เธอก็นึกขึ้นมาได้

    “ตายหล่ะ จะไปบอกชื่อจริงเขาทำไมเนี่ย แต่ดูแล้ว น่าจะหาข้อมูลให้ฉันได้ ถ้าอย่างงั้นก็ใช้หมอนี่หน่อยดีกว่า” เจซซินเธอคิดในใจไป

    ===============================================================

    เนวิสและเจซซินจะทำยังไงต่อไป เนื่องจากต่างก็อยู่คนละฝ่ายกัน และสถานการณ์สงครามจะเป็นอย่างไรต่อไป อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า

    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ แหะๆ

    ผมมีอะไรจะประกาศหน่อย

    ข้าพเจ้าเพิ่งจะสอบ ก.พ. ผ่าน เย้ๆ นับแต่นี้ถ้าได้ทำงานจริงๆจังๆขึ้นมา ไม่รู้จะได้มีเวลามาเขียนนิยายหรือเปล่านะครับ

    ช่อง Youtube อาจจะเลิกทำไปเลยก็ได้ ผมคิดว่านะ แต่นิยายอาจจะเขียน เพราะใจมันรัก 555

    https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig?view_as=subscriber ซับแนลหนูด้วย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×