ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Siam Cowboy - คาวบอยสยาม

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 10 : ถล่มรถไฟ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 126
      9
      25 ส.ค. 63

    เวลา 06.00 น.

    กลุ่มตำรวจของนายอำเภอและทองสุกขี่ม้ามาตามเส้นทางซึ่งจะไปสู่รางรถไฟ พวกเขาขี่ม้ากันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกเขาก็เห็นหญิงสาวชนพื้นเมืองคนหนึ่งกำลังยืนรอเขาอยู่ระหว่างทาง ในตอนนั้นเอง พวกเขาหยุดม้ารับเธอในทันที

    “ว่าไงลิงซ์ มาทันจนได้นะ!!” นายอำเภอทักทายเธอไป

    “นายอำเภอ ข้างหน้าตอนนี้ยังไม่มีอะไร แต่ฉันเชื่อว่าพวกมันกำลังรอเราแน่ๆ” ลิงซ์ตอบไป

    “อ้าว คุณคือผู้หญิงคนนั้นนี่!!” ทองสุกพูดพลางชี้ไปยังลิงซ์

    “เออๆ เอาไว้ทีหลังแล้วกัน ตอนนี้พวกเราเตรียมพร้อมก่อนแล้วกัน ไปกันเถอะ!!” นายอำเภอพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็เดินทางกันต่อในทันที

    พวกเขาเดินทางกันต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงถนนเส้นหนึ่ง ซึ่งด้านหน้าเป็นเนินเขารางรถไฟ ในตอนนั้นเองพวกเขาก็หยุดขบวน จากนั้นก็ลงจากม้าและปรึกษาถึงเรื่องแผนการของพวกเขาในทันที

    “ตอนนี้รถไฟยังไม่มา เป็นโอกาสของเราหล่ะ ตอนนี้เราอยู่ตรงจุดยุทธศาสตร์ที่เราเชื่อว่ามันจะขนอาวุธไป เราจะดักรอพวกมันก่อน ถ้าขบวนรถไฟมาถึงแล้วพวกมันโจมตี เราจะเล่นงานพวกมันเลย!!” นายอำเภอพูดขึ้น

    “แต่ผมว่า พวกมันต้องเตรียมกำลังดักเราไว้อีกฝากหนึ่งแล้วนะครับ” ปีเตอร์พูดขึ้น

    “นั่นสิครับ ถ้าพวกมันมีมากกว่า พวกเราลำบากแน่ครับ” บอริสพูดเสริม

    “ผมว่า น่าจะแบ่งกำลังไปตีตลบหลังมันด้วย เพื่อเบนความสนใจของพวกมันส่วนหนึ่ง ทำให้พวกมันสู้ได้ไม่เต็มที่ จากนั้นเราก็ทำให้ขบวนรถไฟเดินหน้าต่อไปได้ครับ” ทองสุกพูดขึ้น

    “พูดง่ายนะ แต่ว่าใครจะไปกันหล่ะ??” มีน่าถามไป

    “ถ้าอย่างงั้นผมไปเอง!!” ทองสุกพูดขึ้น

    “เฮ้ย นายเอาจริงเหรอ มันอันตรายนะ??” เจสสิก้าพูดปรามไป

    “แต่ก็เป็นแผนที่ดีนะ เราแค่เบนความสนใจของพวกมันเฉยๆนี่” แคลิเฟอร์พูดขึ้น

    “อืม งั้นฉันจะไปกับนายด้วย” ลิงซ์พูดขึ้น

    “เอาหล่ะ ตอนนี้เราก็รู้แผนกันแล้ว ฉันให้คนของฉัน 20 คนไปกับนายด้วยแล้วกัน” นายอำเภอบอกกับทองสุกไป จากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายกันไปจัดการตามแผนการที่ได้วางไว้ในทันที

     

    อีกด้านหนึ่งของเนินเขา ในตอนนั้นเอง กองกำลังของรูเบ็นก็กำลังรอให้รถไฟเดินทางมาถึงจุดที่พวกเขาดักไว้ เขารออยู่นานหลายชั่วโมง จนในตอนนั้นเอง กองทัพของหญิงสาวคนหนึ่งก็เดินทางมาหารูเบ็น รูเบ็นรู้ว่าเธอเป็นใครเลยออกไปต้อนรับเธอในทันที

    “สวัสดีคุณคลีฟแลนด์ เจอกันจนได้นะ”

    “เออ ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงบ้างหล่ะ??” คลีฟแลนด์ถามไป

    “ตอนนี้เรากำลังรอให้ขบวนรถไฟเดินทางมายังจุดที่เราดักรออยู่ครับ” แฟรงค์เก้นพูดขึ้น

    “ว่าแต่ คนของคุณพร้อมแค่ไหนหล่ะ??” รูเบ็นถามไป

    “ก็พร้อมในระดับหนึ่งหล่ะ จะสนทำไม” คลีฟแลนด์พูดขึ้น

    “ว่าแต่ คุณรู้เรื่องที่มีสมาชิกสภาชั้นสูงเดินทางมาที่นี่ใช่หรือเปล่า??” รูเบ็นถามไป

    “ใช่ สองคนนั้นเป็นแขกของฉัน จับมันมาให้ฉันได้” คลีฟแลนด์พูดขึ้น

    “ไม่ต้องห่วง พวกเราจัดการเอง” แฟรงค์เก้นพูดขึ้น และในขณะเดียวกันนั้นเอง พวกเขาก็ได้ยินเสียงรถไฟกำลังเดินทางมา ในตอนนั้นเอง พวกเขาก็แยกย้ายกันไปเตรียมการในทันที

     

    อีกด้านหนึ่งบนรถไฟ ในขบวนสุดหรูซึ่งชายสองคนกำลังนั่งจิบไวน์อยู่ในรถ โดยที่มีกองกำลังพิเศษของเขาคอยคุ้มกัน โดยที่พวกเขาก็ได้คุยอะไรกันในรถไปด้วย

    “นี่ น่าเบื่อนะที่ต้องมาที่ห่างไกลความเจริญแบบนี้ ว่าเปล่ามาร์ค??”

    “จริงหว่ะ ตะวันออกอย่างกับเมืองเถื่อนแนะ”

    “เออนี่มาร์ค เรื่องที่เราติดต่อกับทางอังกฤษนี่ไปถึงไหนแล้วหล่ะ??”

    “ร็อกกี้ ฉันบอกแล้วว่าเรื่องนี้ฉันจะจัดการเอง” เขาตอบกลับไป

    “เออ เอาที่สบายใจเลย อย่าให้โดนจับได้แล้วกัน”

    “ไม่ต้องห่วงหรอก นายก็รู้ว่าฉันมันระดับไหนแล้ว!!” 

    เมื่อพวกเขาทั้งคู่คุยเสร็จ พวกเขาก็นั่งเดินทางกันต่อ แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง จู่ๆขบวนรถไฟก็หยุดลงช้าๆ ทำเอาสองคนนั้นตกใจมาก พวกเขาสั่งลูกน้องให้ไปดูในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

    “เฮ้ย พวกเอ็งไปดูสิ!!”

    “ท่านครับ ข้างหน้ามีท่อนซุงขวางครับ!!” ลูกน้องคนหนึ่งพูดขึ้น และในขณะเดียวกันนั้นเอง

    “ปัง!!”

    “พวกเรา บุก!!”

    เสียงรูเบ็นตะโกนมาจากเนินเขา จากนั้นกองกำลังของรูเบ็นก็นำกำลังลงมาจากเนินเขา และบุกจู่โจมขบวนรถไฟอย่างรวดเร็ว

    “โจรปล้น รีบป้องกันตัวเร็ว!!”

    ทหารบนขบวนรถไฟต่างรีบเตือนภัยในทันที และอีกด้านหนึ่งของเนินเขา ตอนนั้นเองนายอำเภอก็สั่งให้คนของเขาบุกในทันที

    “ทุกคน คุ้มกันขบวนรถไฟ!!”

    กลุ่มของนายอำเภอควบม้าบุกไปยังขบวนรถไฟ จากนั้นก็ยิงปะทะกับกองกำลังของรูเบ็นในทันทีอย่างดุเดือด ทั้งสองฝ่ายโจมตีกันไปมาโดยไม่มีใครยอมใครกันเลย

     

    อีกด้านหนึ่งของเนินเขา ซึ่งในตอนนั้นเองกองกำลังชุดดำกลุ่มหนึ่งก็เดินทางมาถึงเขตการสู้รบ ในตอนนั้นเองพวกเขาก็ได้ยินเสียงปืนดังสนั่นไปมา พวกเขารีบสังเกตการณ์พื้นที่ในทันทีก่อนที่พวกเขาจะเตรียมจู่โจมต่อไป

    “พวกมันปะทะกันแล้ว พวกเดอะแคลน กำลังโจมตีอย่างหนักเลย” 

    “คุณหนูครับ เราจะเอายังไงต่อหล่ะครับ??”

    “ฉันลอร่า ไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอก เราจะไปเล่นงานพวกมันอีกทางหนึ่ง พวกมันคิดไม่ถึงแน่ๆ” 

    “ครับ แล้วไปทางไหนครับ??”

    “ไปด้านนั้น โอบปีกพวกมันไว้ พวกมันสนใจแต่ด้านหน้า ไม่สนใจด้านข้าง เราจะใช้จังหวะนี้เล่นงานพวกมันเลย” ลอร่าพูดขึ้น

    “รับทราบครับผม!!”

    เมื่อพวกเขาพูดกันเสร็จ พวกเขาก็เดินทางไปเล่นงานที่ปีกของพวกมันด้านข้างในทันที โดยที่พวกเขาไปเงียบๆ ไม่ให้พวกนั้นรู้ตัว

     

    และอีกด้านหนึ่งของเนินเขา ซึ่งทองสุกและกองกำลังของนายอำเภอบางส่วนก็ได้นำกำลังมาดักโจมตีมาที่ปีกด้านข้าง ทองสุกเห็นพวกมันพยายามโจมตีแต่ด้านหน้า โดยไม่สนใจด้านอื่นเลย ทำให้ทองสุกได้โอกาสในการโจมตีพวกมัน

    “เป็นอย่างที่คิดจริงๆ พวกมันสนใจแต่ด้านหน้า!!” ทองสุกพูดขึ้น

    “แต่ยังไงพวกมันก็เยอะกว่าเราอยู่ดี” แคลิเฟอร์พูดขึ้น

    “แล้วนายจะเอายังไงต่อหล่ะ??” ลิงซ์ถามไป

    “ยิงใส่พวกมัน เบี่ยงเบนความสนใจ!!” ทองสุกพูดขึ้น

    “ได้ ว่าไงว่าตามกันเลย” เจสสิก้าพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็เล็งปืนใส่ศัตรูในทันที

    “ปัง!!”

    พวกเขาเปิดฉากยิงกับพวกเดอะแคลน พวกนั้นตกใจจึงรีบชักปืนออกมายิงป้องกันตัว แต่กลุ่มของทองสุกโจมตีเร็วมาก ทำเอาพวกมันไม่ทันตั้งตัว และในตอนนั้นเอง ชายคนหนึ่งก็ถือไรเฟิลยิงพวกมันร่วงทีละคน ทองสุกสงสัยมากกว่าฝีมือใคร และชายคนนั้นก็วิ่งมาหาทองสุกในทันที

    “เป็นไงบ้างไอ้หนุ่ม??”

    “อ้าว ลุงในบาร์คนนั้นนี่!!” ทองสุกพูดขึ้น

    “คุณเจเรมี่ มาทำอะไรเนี่ย??” ลิงซ์ถามไป

    “ก็มาทำอะไรเหมือนเธอทำนี่หล่ะ” เจเรมี่พูดขึ้น จากนั้นเขาก็ใส่กระสุนและยิงมันเข้าไปอีกนัด และในตอนนั้นเอง พวกมันก็เริ่มถอยหนีไปแล้ว ทำให้พวกของทองสุกได้โอกาส

    “ทุกคน พวกมันถอยไปแล้ว!!” ทองสุกพูดขึ้น

    “เยี่ยมเลย ก็ตามไปฆ่ามันเลยสิ” แคลิเฟอร์พูดขึ้น

    “แคลิเฟอร์ รอด้วยสิ!!” เจสสิก้าพูดขึ้น จากนั้นเธอก็วิ่งตามไปติดๆ พวกนั้นรีบไปเตือนคนอื่นๆว่ามีคนโจมตีพวกเขา ตอนนี้พวกเดอะแคลนกำลังวุ่นวายยกใหญ่

    “พวกมันถอยไปแล้ว มันไปเรียกกำลังเสริมแน่ๆ” ลิงซ์พูดขึ้น

    “พยายามแยกย้ายกันไป อย่าโดนมันยิงกดหล่ะ!!” เจเรมี่พูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็ยิงปะทะกับพวกเดอะแคลนอย่างหนัก ทองสุกวิ่งไปกลางวงของพวกมัน จากนั้นก็ชักดาบออกมาและฟาดฟันพวกมันในขณะที่พวกมันกำลังโกลาหล

    “เฮ้ย นั่นมันนี่!!”

    “ใช่ รีบไปบอกคุณรูเบ็นเร็ว!!” มันคนหนึ่งพูดขึ้น จากนั้นก็รีบวิ่งออกไปในทันที และอีกด้านหนึ่ง ลอร่าขี่ม้าแลไล่ยิงพวกมันจากอีกด้านหนึ่ง พวกมันตกใจมากจึงพยายามยิงสวนกลับไป

    “พวกมันมีเยอะเกินไป!!”

    “ผมว่าเราถอยก่อนดีกว่าครับ!!” ชายคนหนึ่งพูดขึ้น

    “บ้าเอ้ย ไม่น่าใจร้อนเลย ทุกคน ถอยก่อน!!” 

    ลอร่าตะโกนออกมา แต่ในตอนนั้นเอง พวกมันก็พยายามไล่ตามลอร่าและคนของเธอ แต่พวกเธอก็ยังต้านพวกมันไว้ได้ จนกระทั่งพักหนึ่ง พวกมันก็หยุดนิ่งและไม่ไล่ตามมา ทำเอาลอร่าถึงกับสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น

    “ทำไมพวกมันไม่ตามเรามาหล่ะ??” ลอร่าถามไป

    “นั่นสิครับ เราจะเอายังไงกันต่อครับ??”

    “ตามพวกมันไปก่อน แต่อย่าเร็วนัก ค่อยๆดูไป” ลอร่าพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็ค่อยๆดันพวกมันให้ถอยกลับไป พวกมันไม่มีทางเลือกเลยต้องรีบถอยกลับเพราะอะไรบางอย่าง

     

    และอีกด้านหนึ่งของภูเขา ในตอนนั้นเองนาธานก็กำลังดักซุ่มโดยใช้ปืนไรเฟิลของเขา เล็งไปยังกลุ่มเดอะแคลน ซึ่งในตอนนั้นเอง คารีนก็ควบม้าบุกไปตีกับพวกมันตรงๆที่ด้านหน้า ไอรีนจู่โจมท่ามกลางสายตาของนายอำเภอและคนอื่นๆที่ทำได้แต่มอง

    “พวกเรา ฆ่ามันให้หมด!!” ไอรีนตะโกนออกไป

    “เฮ้ย นั่นมันพวกโจรอีกานี่!!” คนของรูเบ็นตะโกนอย่างแตกตื่น 

    “ผมจะไปทางซ้าย พวกคุณยันมันไว้!!” คาเตอร์พูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็ยิงตะลุมบอนกับพวกเดอะแคลนอย่างดุเดือด และในตอนนั้นเอง นาธานก็เล็งปืนใส่พวกมันที่กำลังดักซุ่มอยู่อีกทางหนึ่ง

    “มึงจะหนีไปไหนพ้น!!”

    “ปัง!!”

    พวกเดอะแคลนคนหนึ่งโดนนาธานยิงตายคาที่ ส่วนไอรีนก็พยายามยิงต้อนพวกมันให้กลับขึ้นเขาไป

    “ต้อนพวกมันให้ขึ้นเขา!!” ไอรีนพูดขึ้น จากนั้นก็ยิงปืนลูกโม่ใส่พวกมัน

    “คุ้มครองรถไฟไว้!!” คาเตอร์ตะโกนออกไป

     

    และทางด้านของรูเบ็น ในตอนนั้นเองเขากับคลีฟแลนด์และแฟรงค์เก้นก็กำลังรอดูสถานการณ์อยู่บนเนินเขาสูง เขากำลังมองเห็นกองกำลังของเขาไล่ยิงขบวนรถไฟเพื่อหยุดมัน แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง ชายคนหนึ่งก็รีบวิ่งมาหารูเบ็นอย่างรวดเร็วเพื่อรายงานอะไรบางอย่าง

    “ท่านครับ แย่แล้วครับ พวกเราโดนโจมตีครับ!!”

    “หะ อะไร ที่ไหน บอกมานะ??”

     “ที่ด้านนั้นครับ ไอ้ชุดแดงนั่นมันมาเองเลยครับ!!” ลูกน้องของเขาพูดขึ้น จากนั้นคนอื่นๆก็ตกใจในทันทีเมื่อได้ยินชื่อชายชุดแดงนั่น

    “ไอ้หมอนั่นมาเหรอ ฉันจัดการเอง!!” แฟรงค์เก้นพูดขึ้น จากนั้นเขาก็ขี่ม้าและชักดาบออกมาแล้วเดินทางไปในทันที

    “ดูเหมือนว่านายจะเจอปัญหาแล้วหล่ะ ถ้าอย่างงั้นฉันจัดการเองดีกว่า” คลีฟแลนด์พูดขึ้น จากนั้นเธอก็ควบม้าลงไปยังเนินเขาในทันที ส่วนรูเบ็นในตอนนั้นก็ชักปืนออกมา จากนั้นก็ขี่ม้าตามแฟรงค์เก้นไปติดๆ และทางด้านของนายอำเภอ ตอนนี้นั้นเองเขาก็สังเกตเห็นกองกำลังของพวกมันกำลังถอยออกจากเนิน มันทำให้เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ด้านบนนั้น

    “ดูเหมือนทอดด์จะทำสำเร็จแล้วนะ!!” นายอำเภอพูดขึ้น

    “จริงด้วย แล้วเราจะเอายังไงต่อหล่ะคะ??” มีน่าถามไปในขณะที่ยิงกับพวกมัน

    “เคลียร์ขบวนรถไฟ ให้รถไฟเดินต่อไปได้” ปีเตอร์พูดขึ้น

    “ได้ครับ ผมจัดการเอง!!” บอริสพูดขึ้น จากนั้นเขาก็สั่งให้คนของเขาบางส่วนไปช่วยกันเคลียร์ท่อนซุงออก แต่พวกมันก็ยังคงโจมตีมาเรื่อยๆ ทำเอานายอำเภอต้องช่วยยิงสกัดไม่ให้พวกมันบุกเข้ามาได้

    “บ้าเอ้ย พวกมันมากันเยอะเลย!!” นายอำเภอพูดขึ้น

    “กระสุนฉันใกล้หมดแล้วค่ะ” มีน่าพูดขึ้น

    “ของผมก็เหมือนกัน!!” ปีเตอร์พูดขึ้น และในขณะที่สถานการณ์กำลังย่ำแย่ กองกำลังของนายอำเภอกระสุนกำลังจะหมดแล้ว

    “ปังๆๆๆ”

    ในตอนนั้นเอง ทหารอเมริกันกลุ่มหนึ่งก็บุกเข้ามา จากนั้นก็ไล่ยิงพวกเดอะแคลนอย่างหนัก พวกเขานำปืนกลมาด้วยและยิงกดพวกนั้นไว้ พวกมันไม่รู้จะทำอย่างไรต่อเลยพยายามหนีขึ้นเนินไป ทหารกลุ่มนั้นรีบไปคุ้มกันขบวนรถไฟในทันที และในตอนนั้นเอง เจสันก็ขี่ม้ามาหานายอำเภอและพรรคพวกที่กำลังถูกโจมตี เพื่อมาช่วยกู้สถานการณ์ไว้

    “สวัสดีครับนายอำเภอ!!”

    “อ้าว ผู้กอง มาจนได้นะครับ”

    “พวกเราได้รับแจ้งเลยมาทันทีหน่ะครับ” เจสันพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง บอริสและคนอื่นๆก็เคลียร์รางรถไฟจนเรียบร้อยแล้ว สมาชิกสภาสองคนในรถก็เดินลงจากจากขบวน เจสันรีบวิ่งไปต้อนรับพวกเขาทั้งคู่ในทันที

    “ท่านครับ ผมร้อยเอกเจสัน กองทัพภาคตะวันออกครับ..”

    “ปัง!!”

    เสียงปืนดังมาจากด้านหลังพวกเขา พร้อมด้วยเสียงตะโกนดังไล่หลังมาด้วย

    “ร็อกกี้ มาร์ค แกหนีไม่รอดหรอก!!” คลีฟแลนด์ตะโกนไป แต่กลุ่มทหารก็ยิงสกัดพวกของเธอไว้ ร็อกกี้กับมาร์ครีบหนีขึ้นรถไฟ และพวกเขาทั้งคู่ก็รีบสั่งให้ขบวนรถไฟหนีออกไปในทันที คลีฟแลนด์เห็นท่าไม่ดีจึงสั่งให้คนของเธอถอยออกมาก่อนในทันที

    “พวกมันเป็นใครกันวะ??” ปีเตอร์ถามไป

    “ไม่รู้เหมือนกัน แต่ดูจากชุดน่าจะเป็นทหารฝ่ายใต้นะ” มีน่าพูดขึ้น

    “ยังมีทหารฝ่ายใต้เหลืออีกเหรอเนี่ย??” บอริสถามไป

    “ช่างมันเถอะ เรารีบเคลียร์พื้นที่ก่อน ปีเตอร์ ส่งคนไปช่วยทอดด์ด้วย!!” นายอำเภอสั่งไป จากนั้นปีเตอร์ก็รีบควบม้าไปช่วยในทันที ส่วนนายอำเภอก็ควบคุมสถานการณ์ต่อ ส่วนเจสันก็รีบกลับไปรอรับร็อกกี้กับมาร์คที่สถานีต่อไปในทันที

     

    ทางด้านของทองสุก หลังจากที่พวกเขาปะทะกับพวกมันอยู่พักหนึ่ง เหตุการณ์ดูชุลมุนเป็นอย่างมาก ทองสุกกำลังสู้กับพวกมันอย่างดุเดือด แต่ในตอนนั้นเอง แฟรงค์เก้นก็ขี่ม้ามาทางเขา จากนั้นก็เล็งดาบใส่ทองสุกในทันที

    “อยากเจอแกมานานแล้ว!!”

    แฟรงค์เก้นควบม้าจู่โจมทองสุกอย่างรวดเร็ว แต่ในตอนนั้นเองทองสุกก็วิ่งเอาเท้าไปยันต้นไม้แถวนั้น จากนั้นก็กระโดดฟันแฟรงค์เก้นในทันที แม้ว่าเขาจะป้องกันได้แต่ก็ตกลงจากม้าด้วย จากนั้นพวกเขาก็ฟันดาบกันไปมา แฟรงค์เก้นเข้าจู่โจมอย่างรวดเร็ว แต่ในตอนนั้นเอง ทองสุกก็ปัดดาบออกไปได้ จากนั้นก็เตะเข้าที่ก้านคอของแฟรงค์เก้นไป แต่แฟรงค์เก้นก็ลุกขึ้นมาได้แล้วก็ซับเลือดที่ปากเขา

    “ไม่เลวนี่ไอ้หนุ่ม!!”

    “อยากลองมากกว่านี้หรือเปล่าหล่ะ??” ทองสุกถามไป

    “ฉันไม่รู้ว่านายเป็นใคร แต่กลับแผ่นดินนายไปซะเถอะ!!” แฟรงค์เก้นพูดขึ้น แต่ในตอนนั้นเอง 

    “นี่แผ่นดินมึงเหรอ สภาพไม่เหมือนเจ้าของเท่าไหร่เลยหว่ะ เหมือนหมาเผ้าบ้านมากกว่า” ทองสุกพูดขึ้น และในขณะเดียวกันนั้นเอง

    “ปังๆๆ”

    รูเบ็นในตอนนั้นก็ขี่ม้าและชักปืนออกมาไล่ยิงทองสุก ทำเอาตัวเขาถึงกับต้องหาที่หลบอย่างรวดเร็ว

    “ตามล่ามัน จับไอ้ชุดแดงมาให้ฉันเป็นๆ!!”

    รูเบ็นตะโกนขึ้น จากนั้นลูกน้องของเขานับร้อยก็ไล่ตามทองสุกไปในทันที และในระหว่างนั้นเอง ลูกน้องของเขาคนหนึ่งก็รีบวิ่งมารายงานอะไรบางอย่างกับเขา

    “รายงานครับ ตอนนี้พวกทหารกำลังมาทางเราครับ!!”

    “พวกทหารมาด้วยเหรอ เราหนีก่อนดีกว่า” แฟรงค์เก้นพูดขึ้น

    “ระยำเอ้ย พวกเราถอยก่อน!!” 

    รูเบ็นสั่งลูกน้องของเขาไป จากนั้นพวกเขาก็รีบถอนกำลังอย่างเร่งด่วน ส่วนตัวของทองสุกก็รีบวิ่งไปหาเจสสิก้าที่ในตอนนั้น เธอจูงม้ามาให้กับเขาเพื่อหลบหนี

    “นี่ ต้องให้ส่งบัตรเชิญมั้ย มาเร็ว!!”

    ทองสุกรีบขึ้นม้าไปในทันที จากนั้นตัวเขาก็ควบม้าหนีออกมา ในระหว่างที่กำลังหนี พวกมันประมาณสิบคนก็ควบม้าไล่ตามพวกเขา พวกมันพยายามใช้เชือกบ่วงเพื่อจับพวกเขา 

    “บ้าเอ้ย จะไล่ตามถึงไหนวะ??” แคลิเฟอร์ถามไป

    “นั่นดิ มีระเบิดซักลูกมั้ย จะขว้างใส่มันเลย!!” เจเรมี่พูดขึ้น และในตอนนั้นเอง ชายหนุ่มคนหนึ่งก็หยิบไดนาไมท์ขึ้นมา จากนั้นก็ดักรอให้พวกมันอยู่ในระยะ จากนั้นก็เขวี้ยงออกไป

    “ตุ้ม!!”

    ระเบิดไดนาไมท์ทำเอาพวกมันถึงตกใจและตกลงจากม้า และในไม่กี่อึดใจ ชายคนหนึ่งก็ขี่ม้าควบม้าข้างๆกับม้าของทองสุก

    “นี่เจ้าเป็นใครเนี่ย??” ทองสุกตะโกนถามไป

    “นายเคยเจอฉันแล้วนี่ ฉันเนย์มาร์!!” เขาตอบไป

    “อ้อ ไอ้หนุ่มนักค้าของเก่านี่เอง” ลิงซ์พูดขึ้น

    “ของเก่านี่เป็นอะไรที่ผมโปรดปรานนะ มันแลกกับของใหม่ราคาดีได้ด้วย” เนย์มาร์พูดขึ้น

    “ว่าแต่ เจ้ามาทำอะไรที่นี่??” ทองสุกถามไป

    “ผมมาหาสมบัติหน่ะ แต่ได้ยินเสียงเลยออกมาดู” 

    “หาสมบัติ เจ้าเนี่ยนะ??” ทองสุกถามไป

    “ไม่เชื่อใช่เปล่า เดี๋ยวกลับไปฉันเอาของดีๆให้นายดู” เนย์มาร์พูดขึ้น

    “ช่างเรื่องนั้นก่อนเถอะ ตอนนี้เรากลับเมืองกันก่อนดีกว่า” ทองสุกพูดขึ้น

    “งั้นตามฉันมา ฉันรู้ทางลัดด้วยหล่ะ!!” เนย์มาร์พูดขึ้น จากนั้นเขาก็ควบม้านำทางทองสุกและคนอื่นๆให้หนีออกไปจากพื้นที่ในทันที

     

    ทางฝากของนาธาน หลังจากที่พวกเดอะแคลนถอยทัพกันไปเรียบร้อยแล้ว นาธานก็รีบเก็บปืนของเขาเพื่อหนีไปสมทบกับคารีน แต่ในตอนนั้นเอง

    “ปัง!!”

    มีเสียงปืนมาจากที่ไหนซักแห่ง กระสุนเฉี่ยวไปที่แขนของเขา นาธานหมอบลงกับพื้นจากนั้นก็มองไปตามทางเสียงปืน และเขาก็เห็นพวกเดอะแคลนคนหนึ่งกำลังยิงเขา

    “จะเอาเหรอ ได้เลย!!”

    นาธานตะโกนขึ้นมา จากนั้นก็ยิงใส่มันจนตกต้นไม้และตายคาที่ และในตอนนั้นเอง คารีนและคาเตอร์ก็รีบควบม้ามาหานาธานอย่างรวดเร็วเนื่องจากว่าเขาไม่รีบไปรวมตัวตามที่นัดหมาย

    “นาธาน เป็นอะไรของนายเนี่ย??” คารีนถามไป

    “อ้อ ยิงกับพวกมันนิดหน่อยหน่ะครับ” นาธานพูดขึ้น จนกระทั่งคาเตอร์สังเกตเห็นแผลของนาธานที่แขน

    “นายบาดเจ็บงั้นเหรอ??”

    “นิดหน่อยครับ ไม่เป็นไร” นาธานพูดขึ้น

    “รีบกลับไปรักษาก่อนดีกว่า!!” คารีนพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็ช่วยกันเอาตัวนาธานกลับไปรักษาที่ค่ายของพวกเขา

     

    กลับมาที่เมือง Black Maple ตลาดกลางคืนที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเมืองนี้ แสงไฟที่ประดับประดามากมาย ผู้คนต่างมารวมกันอย่างเนืองแน่น เช่นเดียวกับกลุ่มของจอห์นและคนอื่นๆ ที่มาเดินเล่นในเมืองด้วย ในขณะที่พวกเขากำลังดูของซื้อของขายในเมืองกันอย่างสนุกสนาน ชาร์ล็อตและแม่ของเธอก็มาเดินตลาดด้วย โฮมุระเห็นดังนั้นจึงไปทักทายพวกเขาในทันที

    “อ้าว ชาร์ล็อต คุณริแอนน่า!!”

    “คุณโฮมุระคะ มาเดินเที่ยวด้วยเหรอคะ??” ชาร์ล็อตถามไป

    “ก็ประมาณนั้น พวกคุณก็มาเดินเล่นด้วยเหรอครับ??” จอห์นถามแทรกไป

    “เรามาตามหานายอำเภอ จะแจ้งข่าวหน่ะค่ะ” ริแอนน่าตอบไป

    “นายอำเภอไม่อยู่ ไปทำภารกิจหน่ะครับ พวกคุณไม่ได้ยินข่าวเหรอ??” เอ็ดเวิร์ดถามไป

    “ว่าแต่ ยังไม่เห็นพวกเขากลับมาเลยนะ ว่ามั้ย??” วิลเลี่ยมถามคนในกลุ่มไป

    “คือว่า ที่ฟาร์มแถวบ้านหนู คุณแจ๊คสันตายแล่วค่ะ ตามคาฟาร์มของเขาเลย” ชาร์ล็อตพูดขึ้น ทำเอาคนอื่นๆถึงกับตกใจมาก

    “หะ คุณแจ๊คสันตายแล้วเหรอ??” โทมัสถามไป

    “มีโจรมาปล้นบ้านเขาเหรอคะ??” มิเชลถามไป

    “ไม่ใช่หรอก ชาร์ล็อตเล่าให้ฟังว่ามีคนมาขอซื้อที่จากเขา แต่เมื่อเขาขายไป พวกมันก็ฆ่าเขาทิ้งหน่ะ” ริแอนน่าพูดขึ้น

    “อืม น่าแปลกจริงๆด้วย ปกติคุณแจ๊คสันจะไม่ขายที่ให้ใครง่ายๆนะ” โฮมุระพูดขึ้น

    “แล้วนี่ อเล็กซ์กับคุณทินส์ไปไหนหล่ะ??” เอ็ดเวิร์ดถามไป

    “พวกเขากำลังตรวจสอบที่หน้าฟาร์มค่ะ” ชาร์ล็อตพูดขึ้น

    “ฉันว่า อาจจะมีการเจรจาแล้วเก็บก็ได้” จอห์นพูดขึ้น

    “หรือว่า อาจจะเป็นคนพื้นที่อื่นที่มากว้านซื้อที่หล่ะ??” วิลเลี่ยมถามไป

    “นั่นสิคะ หนูก็ว่ามันแปลกๆ” มิเชลพูดขึ้น

    “ก็คงต้องรีบแจ้งนายอำเภอแล้วหล่ะ” โทมัสพูดขึ้น

    “ฉันก็ไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นไร่ของใคร ยังไงก็ต้องฝากนายอำเภอช่วยหล่ะ” ริแอนน่าพูดขึ้น

    “ไม่ต้องห่วงครับ ถ้ามันเป็นคนนอก มันได้รู้ฤทธิ์เดชนายอำเภอแน่ๆ” จอห์นพูดขึ้น

    “ฉันว่า ไอ้พวกนี้มันต้องทุนหนาพอสมควรเลยหล่ะ” เอ็ดเวิร์ดออกความเห็นไป

    “จะหนาแค่ไหนก็ช่าง นายอำเภอเราก็ยิงหัวขาดมาแล้วนี่” โฮมุระพูดขึ้น

    “นั่นสิ อย่าให้ฉันรู้นะว่ามันเป็นใคร” โทมัสพูดขึ้น

    “แล้วเมื่อไหร่นายอำเภอจะกลับมาหล่ะคะเนี่ย??” มิเชลถามไป

    “ใจเย็นๆสิ เดี๋ยวเขาก็กลับมาเองหล่ะ” วิลเลี่ยมบอกไป

    และอีกด้านหนึ่งของตลาด ซูซี่ที่กำลังพักผ่อนอยู่ก็มาเดินตลาดด้วย เธอเดินดูของไปเรื่อยอย่างสบายอารมณ์ และในขณะเดียวกันนั้นเอง เธอก็ไปเจอกับร้านของเก่าร้านหนึ่ง ซึ่งขายเหรียญโบราณวางไว้มากมาย ซูซี่สนใจเลยเข้าไปดูในทันที

    “เหรียญพวกนี้เอามาจากไหนคะ??”

    “ไปรับเขามาขายอีกทีจ้า!!”

    “อืม เหรียญเขียวๆนี่น่าสนใจนะคะ” ซูซี่หยิบมันมาดู

    “เขาเรียกว่าหยกจ้า มาจากจีน เป็นของดีเลยนะ เขาว่ากันว่าใครใส่จะโชคดี”

    “ก็คงโชคดีจริงๆนะคะ หนูถึงได้มาร้านนี้หน่ะ” ซูซี่พูดขึ้น

    “แหม่ แล้วเธอสนใจตัวไหนหล่ะ??”

    “หนูเอาไอ้หยกนี่ก็ได้ค่ะ ถ้ามันจะทำให้โชคดีนะ”

    “จ้า ทั้งหมดก็ 5 ดอลล่าห์จ้า!!” แม่ค้าพูดขึ้น จากนั้นซูซี่ก็ยื่นเงิน 5 ดอลล่าห์ให้กับแม่ค้าในทันที

    “ขอบคุณมากๆจ้า”

    “ไม่ทราบว่า ป้าได้ข่าวท่านสมาชิกสภาสองคนมาที่นี่หรือเปล่าคะ??” ซูซี่ถามไป

    “ยังนะ ถามทำไมเหรอ??”

    “ไม่มีไรค่ะ” ซูซี่พูดขึ้น จากนั้นเธอก็เดินกลับออกไปในทันที

     

    กลับมายังไร่ของแจ๊คสัน ในตอนนั้นเองทินส์กับคนของเขาก็ไปตรวจสอบไร่ของแจ๊คสัน เนื่องจากว่าเหตุการณ์นี้ต้องมีเงื่อนงำอะไรบางอย่าง อเล็กซ์ไปตรวจสอบศพของแจ๊คสันบางส่วน จากนั้นก็รีบวิ่งไปหาทินส์ในทันที

    “พ่อๆ อย่างที่เราเห็น คุณแจ๊คสันแขวนคอตัวเองตาย แต่มันมีอะไรผิดปกติหลายอย่างเลยครับ”

    “ผิดปกติ ยังไงเหรอ??” ทินส์ถามไป

    “อย่างรอยลากตรงนี้ ดูเผินๆเหมือนจะปกติ แต่ว่ารอยบางส่วนกลบไม่มิด พวกนั้นต้องลากคุณแจ๊คสันมาตรงนี้แน่ๆ” อเล็กซ์พูดขึ้น

    “อืม งั้นก็หมายความว่าอาจจะมีการจัดฉาก อย่างงั้นเหรอ??”

    “เป็นไปได้ครับพ่อ” อเล็กซ์พูดขึ้น

    “แล้วคนของนายอำเภอเมื่อไหร่จะมาเนี่ย??” ทินส์ถามไป

    “คงกำลังมาหน่ะครับพ่อ”

    “ไปบอกไร่ของป้าเจสสิก้าด้วย ช่วงนี้เราคงต้องระวังตัวกันหน่อยหน่ะ” ทินส์พูดขึ้น

    “ได้เลยครับพ่อ”

     

    กลับมายังบ้านพักของผู้พิพากษาฟิโอน่า หลังจากที่เธอหาทางเล่นงานนายอำเภอทุกวิถีทาง ในตอนนั้นเองเธอก็ได้แผนการใหม่ที่จะเล่นงานนายอำเภอแล้ว เธอเรียกพ่อของเธอมาคุยในทันทีเกี่ยวกับวิธีของเธอ

    “พ่อคะ หนูได้วิธีเล่นงานนายอำเภอนั่นแล้วค่ะ”

    “เหรอ ลูกจะทำยังไงหล่ะ??”

    “พ่อเคยบอกว่า นายอำเภอเคยแขวนคอคนโดยไม่มีการไต่สวนใช่หรือเปล่า??” ฟิโอน่าถามไป

    “เท่าที่ได้ยินมาก็ใช่นะ”

    “เราจะหาหลักฐานฟ้องร้องนายอำเภอว่าใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ตามหาญาติของผู้เสียชีวิตให้ฟ้องร้องเขาเลย” 

    “แต่ว่า ที่ Black Maple นี่ไม่มีผู้พิพากษาประจำเมืองนะ ตามกฎหมาย นายอำเภอมีอำนาจในการตัดสินใจนี่!!” พ่อของเขาพูดขึ้น

    “นั่นแหละที่หนูอยากจะบอก ถ้าเขาใช้ข้อนั้นมาต่อสู้ หนูก็จะอ้างได้ว่าที่เมืองขาดผู้พิพากษา แล้วหนูจะใช้เส้นสายไปเป็นผู้พิพากษาในเมือง คอยกดดันเขาทีละน้อย ให้เขาทำงานลำบาก เมื่อสบโอกาส เราก็จะปลดเขาได้ในทันที”

    “อ้อ เยี่ยมไปเลย!!”

    “แน่นอน แต่เราคงต้องหาญาติผู้เสียชีวิตก่อนหน่ะค่ะ” ฟิโอน่าพูดขึ้น

    “เรื่องนั้นไม่ยาก พ่อจะให้คุณจักษ์กับคุณทาเคชิช่วยหาเอง”

    “ได้ แล้วที่เหลือหนูจะจัดการเอง” ฟิโอน่าตอบไป

     

    ณ คฤหาสน์หลังใหญ่หลังหนึ่งใจกลางย่านชนบทอันสงบสุข ในวันนั้นเองชายวัยกลางคนสองคนกำลังนั่งดื่มไวน์เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ ในระหว่างนั้นเอง ชายคนหนึ่งก็รีบวิ่งมารายงานสถานการณ์กับเขาอย่างเร่งด่วน เมื่อเขารายงานไป ชายคนหนึ่งก็ทุบโต๊ะอย่าโมโหในทันที

    “คุณจักษ์ ใจเย็น อย่าเพิ่งอารมณ์เสียสิ!!”

    “ไอ้ชุดแดงนั่น มันทำป่วนในการปล้นรถไฟ ทำให้แผนการไม่สำเร็จ ระยำเอ้ย!!”

    “เหรอ ดูเหมือนคุณจะรู้จักหมอนี่นะ”

    “ผมได้ยินว่าเขาแต่งกายเหมือนทหาร ชุดสีแดง แต่ทหารสยามตอนนี้ก็ปฏิรูปไปมากแล้ว เหลือแค่ไม่กี่หน่วย สุครีพ..”

    “สุครีพ หมายถึงอะไรครับท่าน??”

    “นักรบวานรในรามเกียรติ์หน่ะ แต่มันเป็นชื่อหน่วยรบในกองพันที่ผมรู้จัก” นายจักษ์พูดขึ้น

    “แล้วคุณมีส่วนเกี่ยวข้องยังไงหล่ะ??”

    “ถ้าเป็นไปได้ เอาตัวไอ้หนุ่มสยามนั่นมาให้ผมเป็นๆ ผมอยากจะเห็นหน้ามัน”

    “เหรอ คุณเอาจริงเหรอ??”

    “แน่นอนคุณทาเคชิ ยังไงผมรบกวนด้วยแล้วกัน”

    “ได้ๆ แล้วผมจะดูให้” ทาเคชิตอบกลับไป

     

    กลับมายังบาร์ในเขตชานเมืองของ Black Maple ในวันนั้นเองเจ้าของร้านก็เปิดร้านในช่วงดึกเพราะเป็นวันหยุด โดยที่ซิ่วอิงก็ยังคงรินเหล้าให้กับลูกค้าที่มาร้าน ในระหว่างที่ซิ่วอิงกำลังรินเหล้าอยู่ ชายสองคนก็พูดอะไรบางอย่างกันไปด้วย

    “เฮ้ย นายได้ยินข่าวที่มีคนมาซื้อที่ไร่แถวนี้หรือเปล่าวะ??”

    “ได้ดิ คุณแจ๊คสันที่เพิ่งจะขายที่ไป ได้ข่าวว่าแกโดนฆ่าด้วย”

    “แสดงว่า มันหลอกให้ขายแล้วเก็บหน่ะสิ” ซิ่วอิงได้ยินดังนั้นก็แปลกใจ จึงไปถามชายคนนั้นในทันที

    “ขอโทษนะคะ มีข่าวอะไรเหรอคะ??” ซิ่วอิงถามไป จากนั้นก็รินเหล้าแก้วหนึ่งให้กับพวกเขา ซึ่งเป็นเสมือนการจ่ายให้กับพวกเขาแลกกับข่าวสาร

    “เราก็ไม่รู้อะไรมากหรอกน้องสาว รู้แค่ว่าช่วงนี้นายทุนจากที่อื่นมากว้านซื้อที่แถวนี้หน่ะ ไม่รู้มีทองหรืออะไรหรือเปล่า??”

    “แปลกนะคะ ถ้ามีทองคงโดนขุดไปไม่เหลือแล้วหล่ะค่ะ” ซิ่วอิงตอบไป

    “ก็นั่นสิ แต่ว่าฉันเห็นคนใส่สูทช่วงนี้มาดูลาดเลาแถวนี้บ่อย ยังไงเธอกับคุณมาร์ตินต้องระวังด้วยหล่ะ”

    “ค่ะ ขอบคุณที่เตือนค่ะ!!” ซิ่วอิงพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง เจ้าของร้านก็เดินมาหาซิ่วอิงในทันที

    “คุยอะไรกันเหรอ??”

    “อ้อ คุณมาร์ตินคะ เรากำลังคุยเรื่องกลุ่มคนที่มาดูที่แถวนี้หน่ะค่ะ” ซิ่วอิงตอบไป

    “อ้อ ไอ้ระยำนั่นเหรอ บอกให้ฉันไม่มีทางขายที่นี่หรอก” เจ้าของร้านพูดขึ้น

    “ก็นั่นสินะคะ” ซิ่วอิงตอบไป

     

    กลับมายังเมือง Black Maple หลังจากที่นายอำเภอเดินทางมาถึงเมือง พวกเขาก็สั่งลูกน้องของเขาให้มารวมตัวกัน และในเวลาไล่เลี่ยกัน ทองสุกและคนอื่นๆก็เดินทางกลับมายังเมืองอย่างทุกลักทุเล ในตอนนั้นเองนายอำเภอก็ไปต้อนรับพวกเขาเป็นการด่วน

    "อ้าว ทอดด์ เป็นยังไงกันบ้างหล่ะ??" นายอำเภอถามไป

    "โดนพวกมันไล่ตามมาครับ แต่พวกเราก็หนีมาได้" ทองสุกตอบไป

    "นายอำเภอคะ งานนี้พวกเราน่าจะเล่นกับของจริงแล้วนะคะ" ลิงซ์พูดขึ้น

    "อ้าว ทำไมอย่างงั้นหล่ะ??" บอริสถามไป

    "ทำไมหน่ะเหรอ ก็ดูท่าทางของพวกมันแต่ละคนแล้วเนี่ย พวกทหารเก่าทั้งนั้น ฝีมือพอใช้ได้เลย" เจเรมี่พูดขึ้น

    "งั้นเรื่องที่เราได้ยินเกี่ยวกับเขตไวท์ยอร์กก็เป็นเรื่องจริงสินะคะเนี่ย" มีน่าพูดขึ้น

    "ถ้าอย่างงั้น เราคงต้องสืบต้นตอของเครือข่ายพวกมันว่าพวกมันร่วมมือกับใครบ้าง" นายอำเภอพูดขึ้น และในขณะเดียวกันนั้นเอง ตำรวจนายหนึ่งก็รีบวิ่งมารายงานอะไรบางอย่างกับนายอำเภอ

    "นายอำเภอครับ แย่แล้วครับ คุณแจ๊คสันตายคาไร่ของเขาครับ!!"  

    "ห่ะ คุณแจ๊คสันเหรอ เขาตายแล้วเหรอ??" เจสสิก้าถามไป

    "ใครเป็นคนฆ่าเขาหล่ะ จับตัวได้หรือเปล่า??" แคลิเฟอร์ถามไป

    "ยังจับตัวคนทำไม่ได้ครับ!!"

    "อืม ตามสืบให้ได้ว่าใครไปป้วนเปี้ยนแถวนั้นบ้าง อย่างแจ๊คสันไม่น่าจะโโนง่ายๆขนาดนี้" นายอำเภอพูดขึ้น

    "ถ้าอย่างงั้น ผมจะช่วยสืบเองครับ" ทองสุกพูดขึ้น

    "นายคิดว่าจะสืบได้อย่างงั้นเหรอ??"

    "ก็ต้องลองดูหน่ะครับ"

    "ผมพอรู้จักกับสาวจีนที่เป็นพนักงานที่บาร์ เธอน่าจะรู้ความลับของลูกค้าบ้างนะครับ" เนย์มาร์พูดขึ้น

    "นั่นสินะ ไม่มีความลับในร้านเหล้านี่" ทองสุกพูดขึ้น

    "ยังไงก็ฝากพวกนายด้วยแล้วกัน ส่วนทางนี้ฉันจะจัดการเอง" นายอำเภอพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนตามปกติ หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยกันมาทั้งวัน

    ==============================================================

    ทองสุกจะสืบเรื่องนี้ต่อไปอย่างไร อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า

    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ แหะๆ 

    https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig?view_as=subscriber ซับแนลหนูด้วย!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×