ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Axis World - สู่โลกอักษะ

    ลำดับตอนที่ #23 : ตอนที่ 21 : ท่านผู้นำยังไม่ตาย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 76
      2
      15 ธ.ค. 62

    พวกของนนท์รีบหาที่หลบแล้วสั่งให้บรรดากลุ่มกบฏฝ่าวงล้อมกลุ่มตำรวจและพวกหัวรุนแรงออกไปจากตึกแห่งนั้น โดยที่ด้านล่างก็มีการปะทะกันอย่างหนัก ส่วนพวกของนนท์ก็พยายามฝ่าสไนเปอร์ที่คอยซุ่มยิงพวกเขาอยู่ แล้วค่อยๆลงไปด้านล่างของตึก โดยที่สไนเปอร์ฝั่งตรงข้ามตึกยังคงยิงพวกเขาอย่างต่อเนื่อง

    มีทางออกจากตึกนี้อีกหรือเปล่าเนี่ย นนท์ถามอย่างสงสัย

    ทางออกอยู่ด้านหลังตึก แต่ไม่รู้ว่าพวกมันจะไปดักรอเราหรือเปล่า มาร์ตินพูดขึ้น

    น่าจะมีอยู่นะ แต่เราไม่มีทางเลือกนอกจากฝ่ามันไป อลาวดี้พูดขึ้น

    แล้วสไนเปอร์ฝั่งนั้นจะเอายังไงต่อหล่ะ ลินน์รีดถามไป

    ถ้าเราไปหลังตึกได้ มันคงทำอะไรไม่ได้แล้วหล่ะ หมอคิมพูดขึ้น ในขณะที่พวกมันยังคงยิงกดพวกเขาเรื่อยๆ

    ถ้าเราไม่ไปจากที่นี่ เราตายกันหมดแน่ค่ะ ซวาตีบอกไป

    ถ้าอย่างงั้นก็รีบอพยพคนของเราออกไปด้านหลัง ส่วนเราก็ยิงสกัดกับพวกมันไว้ก่อน

    มาร์ตินพูดขึ้น จากนั้นนนท์ก็ใส่กระสุนเข้าไปในรังเพลิงของปืน จากนั้นก็ไล่ยิงกับพวกตำรวจที่กำลังล้อมตึกนั่นอยู่ และบรรดาผู้อพยพก็รีบเดินทางออกจากตึกโดยไปทางประตูหลัง การอพยพเป็นไปอย่างยากลำบาก ในขณะที่โซลก็พยายามไล่ยิงกลุ่มกบฏที่อยู่ในตึก เขาค่อยๆยิงคนที่เขาสามารถยิงได้ แต่ก็ดูเหมือนว่ากำลังคนฝั่งของเขามีไม่พอ โซลรีบติดต่อไปยังยามะดะในทันที

    คุณยามะดะ ไม่มีใครมาช่วยเลยเหรอ

    ผมพยายามอยู่ แต่ไอ้พวกกองทัพมันไม่ฟังผมเลยหน่ะสิ ยามะดะพูดขึ้น

    แบบนี้ลำบากแน่ พวกมันมีมากกว่าตั้งเยอะ

    ยังไงก็ลุยไปก่อน แล้วก็รายงานให้ฉันฟังด้วย

    โซลวางสายไปอย่างฉุนเฉียว จากนั้นก็บรรจุกระสุนลงในรังเพลิงใหม่ แล้วก็ยิงกดไปยังกลุ่มกบฏที่อยู่ในตึก แต่พวกกบฏก็เริ่มจะเห็นตัวของโซลแล้ว จึงยิงตอบโต้เขาที่อยู่ตึกตรงข้าม โซลต้องรีบหาที่หลบก่อนในทันที

    ทางด้านของนนท์ พวกเขาเดินลงบันไดมาเรื่อยๆเพื่อออกจากตึกแล้วถอนกำลังออกไปด้านนอก ในขณะที่กลุ่มตำรวจยังคงยิงถล่มตึกอย่างต่อเนื่อง นนท์ยิงสกัดตำรวจพวกนั้นไม่ให้เข้ามาใกล้ตึก ส่วนอลาวดี้ก็หยิบระเบิดแถวนั้นแล้วขว้างใส่พวกมัน เมื่อระเบิดทำงาน พวกมันก็กระจายกันไปคนละทาง

    ดูเหมือนว่าพวกมันจะไปที่อื่นกันนะ อลาวดี้พูดขึ้น

    มันอาจจะเอากำลังคนหนีไปจัดการที่อื่นอยู่ เป็นโอกาสของเราแล้วหล่ะ ลินน์รีดพูดขึ้น

    ซวาตี เธอรีบหนีไปกับผู้อพยพก่อน เดี๋ยวพวกเราตามไป

    ซวาตีพยักหน้า จากนั้นเธอก็รีบพาผู้อพยพคนอื่นๆให้ออกไปทางประตูหลังในทันที

    ค่อยๆไปนะคะ ผู้หญิง เด็กคนแก่ไปก่อนนะคะ

    ซวาตีพูดจากนั้นก็ค่อยๆประคองคนแก่ที่อยู่ด้านในออกไป ส่วนพวกของนนท์ก็พยายามคุ้มกันตึกเพื่อไม่ให้พวกตำรวจเข้ามายึดตึกได้ แต่ก็ดูเหมือนว่าพวกตำรวจก็บุกเข้ามาเรื่อยๆ ทำเอานนท์ต้องยิงสกัดพวกมันอย่างทุลักทุเล

    นี่ ทุกคน เราต้องรีบไปกันแล้ว นนท์พูดขึ้น

    ฉันรู้ แต่ว่าพวกมันจะเข้ามาในตึกแล้วนะ ลินน์รีดพูดขึ้น

    แล้วนี่พวกเขาออกจากตึกไปหมดหรือยังเนี่ย มาร์ตินพูดขึ้น แต่ตำรวจพวกนั้นก็เอารถหุ้มเกราะคันหนึ่งยิงกดพวกเขา ทำเอาพวกของนนท์ต้องหาที่หลบเนื่องจากว่าโดนยิงกดอย่างหนัก

    บ้าเอ้ย ถ้าไม่รีบหนี พวกเราตายหมดแน่ นนท์พูดขึ้นในขณะที่พยายามจะยิงสกัดพวกมัน

    เฮ็ย เด็กซ์ อพยพไปกันหมดหรือยังวะ มาร์ตินตะโกนบอกเขา แต่ในตอนนั้นเอง เด็กซ์ก็โดนยิงจนตายคาที่ มาร์ตินต้องเข้าไปดูเขาในทันที

    บ้าเอ้ย แล้วดันเต้หายไปไหนของมันวะเนี่ย อลาวดี้พูดขึ้น

    ไม่รู้ดิ มันหายไปไหนของมันวะ ลินน์รีดพูดขึ้น แต่ในระหว่างที่พวกเขากำลังโดนโจมตี จู่ๆที่ด้านนอก กลุ่มตำรวจก็โดนมือที่สามยิงใส่จนพวกเขาแตกตื่น พวกเขาพยายามจะป้องกันตัวเองแต่ก็ไม่เป็นผล ส่วนรถหุ้มเกราะก็โดนจรวดลูกหนึ่งยิงใส่ ทำเอารถคันนั้นกลายเป็นเศษเหล็กที่กำลังโดนไฟไหม้ไป นนท์ถึงกับแปลกใจมากว่าเป็นฝีมือใคร แต่สุดท้ายมันก็เฉลยขึ้น นั่นก็คือดันเต้นั่นเอง เขานำกำลังคนบางส่วนมาช่วยพวกเขาออกไปจากที่นี่

    เฮ้ รอกันนานหรือเปล่า

    ดันเต้ นึกว่าหายไปไหนมาซะอีก อลาวดี้พูดขึ้น

    เออๆ มีปัญหานิดหน่อย แต่ก็ไปพาคนมาช่วยได้หว่ะ

    เออๆ ตอนนี้พวกเรากำลังถอยออกไป พวกนายคงต้องคุ้มกันเราหน่อยหน่ะ ลินน์รีดพูดขึ้น

    เออใช่ เราคงต้องรีบกันหน่อยหล่ะ หมอคิมพูดขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน นนท์ก็เหลือบไปเห็นมือสไนเปอร์ฝั่งตรงข้ามกำลังยิงใส่กลุ่มกบฏ เขารีบวิ่งเข้าไปในตึกในทันทีเพื่อตามล่าชายคนนั้น

    นนท์ นายจะไปไหนหน่ะ

    ลินน์รีดพูดขึ้นจากนั้นก็ตามนนท์ไป ในตอนนั้นเองนนท์ก็รีบวิ่งขึ้นไปบนตึกเพื่อตามล่าตัวชายคนนั้น นนท์วิ่งไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงห้องๆหนึ่ง ซึ่งเขาก็ถีบประตูเข้าไปด้านใน โซลที่อยู่ในห้องตอนนั้นจึงเล็งปืนหันไปทางนนท์ เขายิงแต่นนท์หลบได้ จากนั้นพวกเขาก็ต่อยกันด้วยหมัดต่อหมัด นนท์ต่อยหน้าโซลจนล้ม โซลชักมีดออกมาจะแทงนนท์ แต่นนท์ก็จับมีดเขาไว้แล้วพยายามขืนมัน

    ไอ้บ้าเอ้ย โซลสบถออกมาเป็นคำภาษาไทย ทำเอานนท์ถึงกับตกใจในทันที

    เฮ้ย นี่มึงเป็นคนไทยเหรอวะ

    อ้าว นี่แก แกก็คนไทยใช่หรือเปล่า โซลถามไป

    แกคิดจะฆ่าฉันงั้นเหรอ นนท์พูดขึ้นแล้วพยายามขืนมีดของเขา

    แล้วแกมาอยู่กลุ่มกบฏทำไมหล่ะวะ

    แกทำงานให้พวกญี่ปุ่นใช่ไหม นนท์พูดขึ้น จากนั้นไม่นาน เสียงฝีเท้ากลุ่มใหญ่ก็ค่อยๆเดินตามมา ตอนนั้นเองโซลก็เตะเข้าไปที่ชายโครงของนนท์จนล้มลงไป จากนั้นก็กระโดดออกจากหน้าต่างแล้วรูดเชือกที่เขาผูกเอาไว้ลงไปด้านล่าง นั่นทำเอานนท์ถึงกับบงุนงงไปชั่วครู่ จากนั้นพวกของลินน์รีดก็ตามมาดูนนท์ในทันทีว่าเป็นยังไงบ้าง

    นนท์ เป็นยังไงบ้าง ลินน์รีดถามเขาไป

    ไอ้มือปืนนั่นมันหนีไปได้ นนท์พูดขึ้น

    แล้วพอรู้หรือเปล่าว่ามันเป็นใคร อลาวดี้ถามอย่างสงสัย

    แค่พวกญี่ปุ่นคนหนึ่งหน่ะ

    ปลอดภัยได้ก็ดีแล้วหล่ะ ลินน์รีดพูดขึ้น

    ตอนนี้ต้องรีบหน่อยหล่ะ ไม่งั้นพวกมันอาจจะมาตามล่าเราก็ได้ มาร์ตินพูดขึ้น

    นั่นสิ เรารีบไปจากที่นี่กันเถอะนะ

    หมอคิมพูดขึ้น จากนั้นกลุ่มกบฏของมาร์ตินก็ค่อยๆถอนกำลังออกไป เพื่อเดินทางกันต่อไปยังเขตเป็นกลาง ในตอนนั้นเองมาร์ตินและพรรคพวกก็อพยพไปยังลานกว้างแห่งหนึ่ง ซึ่งชายคนหนึ่งกำลังเตรียมรถบัสหลายร้อยคันรอพวกเขาเอาไว้อยู่แล้ว มาร์ตินรีบไปหาชายคนนั้นในทันทีเพื่อตกลงกัน

    เฮ้ เอลริเก้ เป็นยังไงบ้าง

    เฮ้ย มาร์ติน กำลังรออยู่พอดีเลยหว่ะ เอลริเก้พูดขึ้น

    เออๆ ตอนนี้เรามีคนมาประมาณ 800 กว่าคนหว่ะ

    กะไว้แล้ว ฉันเลยเอารถพวกนี้มารับนายหว่ะ

    แล้วเส้นทางปลอดภัยหรือเปล่า มาร์ตินถามไป

    แน่นอน ฉันเตรียมการไว้แล้ว รีบขึ้นรถดีกว่า

    หลังจากที่มีการตกลงเรียบร้อย มาร์ตินก็รีบไปบอกกับทุกคนในทันที

    ทุกคนครับ รีบขึ้นรถกันเถอะครับ

    นนท์และพรรคพวกพยักหน้า จากนั้นพวกเขาก็ค่อยๆแบ่งคนไปขึ้นรถบัสคันต่างๆอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นาน ขบวนรถนับร้อยคันก็ค่อยๆขับออกไปยังเขตเป็นกลางเพื่อออกไปตั้งหลัก ต่อสู้กับรัฐบาลญี่ปุ่นที่กำลังตามล่าพวกเขา

     

    และทางด้านของยามะดะ หลังจากที่กองทัพและกลุ่มตำรวจของเขาได้รับการยืนยันว่ากลุ่มกบฏได้รวมกำลังอยู่ที่โรงแรมการ์เด้นริงส์ พวกเขาก็รีบเดินทางไปที่นั่นในทันที แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เนื่องจากว่ากลุ่มกบฏได้เคลื่อนย้ายกำลังพลออกมาจากโรงแรมกันหมดแล้ว เหลือแต่ตำรวจและกลุ่มหัวรุนแรงที่บาดเจ็บจากการปะทะ ทำเอากองทัพถึงกับโกรธแค้นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

    ท่านครับ นี่ก็เป็นหนึ่งในแผนการหรือเปล่าครับ ยามะดะพูดอย่างยิ้มเยาะ เนื่องจากเขาพูดแล้วแต่ไม่มีใครยอมฟังเขาเลย

    บ้าเอ้ย คุณอย่ามาซ้ำเติมผมได้หรือเปล่า นายพลคนหนึ่งพูดขึ้น

    เฮ้อ ว่าแต่ท่านจะเอายังไงต่อหล่ะครับ

    ฉันจะให้กำลังพลของฉันตามพวกมันไปเอง

    ผมว่าป่านนี้พวกมันคงข้ามชายแดนหนีไปได้แล้วหล่ะครับ ยามะดะพูดขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน อิจิโกะก็รีบวิ่งมาหายามะดะในทันที

    ท่านครับ โซลเขาติดต่อมาครับ

    ยามะดะได้ยินดังนั้นจึงรีบไปคุยในทันทีผ่านทางวิทยุสื่อสารของเขา

    โซล เป็นยังไงบ้าง

    นี่มันบ้าอะไรเนี่ย กำลังเสริมไปไหนหมด

    ผมส่งไปเต็มที่แล้ว แต่กองทัพไม่ฟังผมหว่ะ

    ผมเกือบตายหน่ะวันนี้ รู้หรือเปล่า

    ผมเข้าใจ เอาเป็นว่าคุณไปพักก่อนดีกว่า

    ก็ได้ แล้วอย่าลืมเงินที่ตกลงกันไว้หล่ะ

    ได้ เดี๋ยวจะส่งคนไป จากนั้นยามะดะก็วางสายไปในทันที

    ท่านครับ เป็นยังไงบ้างครับ

    เบิกเงิน 3 ล้านเยนไปให้กับโซลหน่อยสิ

    ได้ครับท่าน

    อิจิโกะพูดขึ้นจากนั้นก็เดินไปทางอื่น ปล่อยให้ยามะดะต้องมองความพินาศในวันนี้อย่างเจ็บแค้น เขาโกรธแค้นกองทัพที่ไม่ฟังเขา ทำเอากำลังตำรวจของพวกเขาบาดเจ็บล้มตายไปมากมาย

     

    ณ บ้านพักหลังหนึ่งในเขตดุสิต รถของโรจน์พากลุ่มนักข่าวของญี่ปุ่นมาพักชั่วคราวเพื่อหลบหนีจากกลุ่มผู้ประท้วงที่มีอยู่ตามท้องถนน พวกเขารีบเข้าที่พักแล้วมาประชุมกันในทันทีเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้

    หวังว่าจะอยู่กันได้นะครับ แล้วถ้ามีอะไรก็เรียกผมได้เลยนะครับ นายโรจน์พูดขึ้นจากนั้นเขาก็เดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านในทันที

    เอาหล่ะทุกคน ตอนนี้เท่าที่ดู เราคงตกอยู่ในสงครามกลางเมืองระหว่างสองฝ่ายหน่ะโกโร่พูดขึ้น

    เยี่ยม แล้วตอนนี้เราอยู่ฝ่ายไหนกันหล่ะซุนกิวถามอย่างสงสัย

    เท่าที่ดูนะ ฝ่ายรัฐบาลคงกำลังตามล่านญี่ปุ่นทุกคนอยู่แน่ๆฉางเจ้าตอบไป

    แล้วแบบนี้เราจะทำยังไงต่อหล่ะยูกิถามอย่างสงสัย

    โรจน์บอกกับฉันในรถว่าพรุ่งนี้จะมีการแถลงข่าวจากรัฐบาล เราจะไปทำข่าวนี้กันโกโร่พูดขึ้น

    หวังว่าเราคงจะไม่ตายก่อนไปถึงนะยูกิพูดขึ้น

    เรามีกฎหมายการทำข่าวคุ้มครองอยู่นี่ ไม่น่าเป็นอะไรหรอก แล้วอีกอย่างเราอยู่ที่นี่ได้ 90 กว่าวันเลยนะฉางเจ้าพูดขึ้น

    โอเค แล้วพรุ่งนี้เรามีแผนจะหนีกรณีมีอะไรพลาดหรือเปล่าซุนกิวถามไป

    ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าเกิดอะไรขึ้นฉันจะรับผิดชอบเอง พรุ่งนี้ก็เตรียมตัวให้พร้อมก็แล้วกันนะโกโร่พูดขึ้น

    โอเค ถ้าอย่างงั้นผมขอไปพักก่อนนะฉางเจ้าพูดจากนั้นเขาก็เดินขึ้นไปชั้นสองในทันที

    จะเอายังไงพรุ่งนี้ก็บอกแล้วกันนะคะ เดี๋ยวไปชงชามาให้นะคะยูกิพูดขึ้นจากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องครัวของเธอเพื่อต้มน้ำร้อนชาชา

    หวังว่าเราคงจะไปจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัยนะซุนกิวพูดขึ้น

    ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันรู้ว่าฉันต้องทำยังไงโกโร่พูดขึ้น จากนั้นเขาก็อ่านหนังสือพิมพ์ฉบับปัจจุบันที่อยู่บนโต๊ะในทันที

    และถนนเส้นหนึ่ง ถนนมหามิตร ไทย ญี่ปุ่น เส้นทางกรุงเทพ อีสาน รถโดยสารของปกรณ์และวิวัฒน์ก็กำลังเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อไปตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นกับพวกเขา โดยที่ในตอนนั้นเอง วิวัฒน์ก็นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆกับเขา เขาก็อ่านข่าวให้ปกรณ์ฟังในทันที

    เออนี่ รัฐบาลจะแถลงข่าววันพรุ่งนี้ด้วย

    งั้นเหรอ ว่าแต่แถลงการณ์เรื่องอะไรหล่ะ

    ความเป็นไปได้นะ ฉันว่าพวกเขาคงต้องปลดแอกตัวเองจากญี่ปุ่นแน่ๆวิวัฒน์บอกปกรณ์ไป

    งั้นเหรอ ว่าแต่นายจะเอายังไงต่อหล่ะ

    ฉันไม่สนความขัดแย้งนี่หรอก ฉันสนไอ้คนอยู่เบื้องหลังเรื่องหน่วยของฉันมากกว่า

    วิวัฒน์พูดขึ้น แต่จู่ๆในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ต้องเจอกับด่านตรวจด่านหนึ่งซึ่งมีทหารกลุ่มหนึ่งกำลังตั้งด่านตรวจอย่างแข็งขัน แต่เครื่องแบบของพวกเขาไม่ใช่เครื่องแบบของกองทัพเลย เมื่อรถบัสคันนั้นหยุด ทหารคนหนึ่งก็พูดขึ้นในทันที

    ขณะนี้กองทัพพายัพโดยท่านนายพลสุรวัฒน์ได้ยึดครองพื้นที่นี้แล้ว ผมขอตรวจสอบเอกสารของพวกคุณทุกคนก่อนจะเข้าเมืองหลวงครับ

    ผู้โดยสารบนรถบัสต่างพากันลงมาจากรถ แต่ปกรณ์กับวิวัฒน์ยังคงนั่งอยู่ด้านบนไม่ยอมลงมาเพราะพวกเขาไม่มีเอกสารยืนยัน ทหารคนหนึ่งเจอปกรณ์กับวิวัฒน์ยังนั่งอยู่บนรถ เขาจึงจะเดินเข้าไปหาทั้งคู่ในทันที

    นี่ พวกคุณ ผมขอตรวจบัตรด้วยครับ

    ทหารคนนั้นพยายามจะเดินเข้าไปใกล้กับวิวัฒน์ ในตอนนั้นเองวิวัฒน์เตรียมมีดพกของเขา แต่จู่ๆก็มีเสียงปืนดังมาจากด้านนอก กลุ่มทหารพายัพรีบหาที่หลบในทันที ส่วนปกรณ์กับวิวัฒน์ก็รีบไปหาคนขับในทันทีในตอนนั้นคนขับยังนั่งกลัวอยู่ด้านหน้า

    นี่ รีบออกรถเร็วปกรณ์บอกชายคนนั้นไป

    เออ แต่ว่าเราจะถูกยิงนะครับ

    เร็วเลย ผู้โดยสารกำลังนั่งกลัวอยู่ จะปล่อยให้พวกเขาตายหรือไง

    วิวัฒน์พูดขึ้นจากนั้นคนขับรถโดยสารคนนั้นก็รีบออกรถไปในทันที กองทัพพายัพพยายามจะสกัดแต่พวกเขายังพะวงอยู่กับการซุ่มโจมตีจึงทำอะไรไม่ได้ ทำให้ปกรณ์กับวิวัฒน์รอดมาได้อย่างหวุดหวิด

     

    กลับมายังเขตชายแดนมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ทหารเยอรมันที่เขตชายแดนพยายามซ่อมกำแพงของพวกเขาเพื่อป้องกันการจู่โจมของกลุ่มกบฏตามชายแดน พวกเขาเร่งซ่อมมันในขณะที่กลุ่มของไวเวิร์นก็เตรียมซุ่มโจมตีทางชายแดนอยู่ ไวเวิร์นเตรียมคนของเขาเพื่อเข้าจู่โจมในทันที ก่อนที่พวกเขาจะสร้างกำแพงเสร็จเรียบร้อย

    เอาหล่ะทุกคน เตรียมพร้อมนะไวเวิร์นพูดขึ้นในขณะที่กำลังเล็งปืนไปที่แนวกำแพง

    เจนนี่ สั่งให้พลแม่นปืนยิงใส่พลปืนกลนะโบซอลพูดขึ้น

    แน่นอน ยังไงก็ระวังด้วยก็แล้วกันเจนนี่พูดขึ้น จากนั้นไวเวิร์นก็ให้สัญญาณบุกในทันที

    ปังๆๆๆ

    เสียงปืนดังไปทั่วแนวกำแพง ทหารเยอรมันต้องรีบเปิดสัญญาณเตือนจากนั้นก็ไปประจำที่ปืนกลในทันที แต่พวกเขาก็โดนกลุ่มกบฏของไวเวิร์นซุ่มยิงจนตายไปมากมาย

    ขอกำลังสนับสนุนทางอากาศ กลุ่มกบฏโจมตี

    ทหารเยอรมันด้านในจำเป็นต้องเรียกกำลังสนับสนุนทางอากาศ แต่คราวนี้กลุ่มของไวเวิร์นบุกจู่โจมเข้าประชิดกับทหารเยอรมันอย่างบ้าเลือด ทำเอาทหารเยอรมันเริ่มจะลำบากในการสู้แล้ว

    พวกเราบุกเข้าไป ยึดกำแพงให้ได้

    ไวเวิร์นพูดขั้นในขณะที่ใช้ปืนกลทอมสันยิงกดใส่พวกนาซีที่อยู่บนกำแพง โดนที่พวกเขาบางส่วนก็ยิง RPG ใส่กำแพงส่วนอื่นๆเพื่อทำลายกำแพงส่วนอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขานำกำลังพลบุกเข้าไปใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ

    ทุกคน รีบบุกเข้าไปในกำแพงเลย

    โบซอลพูดขึ้นจากนั้นก็ฝ่าวงล้อมพวกมันเข้าไปในกำแพงทันที จากนั้นเขาก็ยิงปืนกล MP71 ใส่ทหารเยอรมันทุกคนที่เขาเจอ ในตอนนี้กลุ่มกบฏบุกไปจัดการทหารเยอรมันทุกคนที่อยู่แนวกำแพง จากนั้นไม่นาน ไวเวิร์นก็รีบวิ่งไปที่ธงของทหารนาซี จากนั้นก็ใช้มีดพกของเขาตัดธงนาซีนั่นลงจากเสาในทันที

    พวกเราทำได้แล้ว เยี่ยมไปเลยเจนนี่พูดขึ้น

    นี่ ตอนนี้เราต้องเตรียมตั้งรับพวกมันด้วย กองพลยานเกราะพวกมันมาแน่ไวเวิร์นพูดขึ้น และอีกด้านหนึ่งของแนวรบ ในโรงพยาบาลทหารชั่วคราวของเยอรมัน ในขณะที่แองเจลล่ากำลังรักษาตัวอยู่ จู่ๆทหารคนหนึ่งก็รีบเข้ามารายงานแองเจลล่าเกี่ยวกับเรื่องที่ชายแดนในทันที

    คุณแองเจลล่า แย่แล้วครับ

    มีอะไรอย่างงั้นเหรอเธอถามอย่างสงสัย

    ตอนนี้กลุ่มกบฏฝ่าแนวกำแพงเข้ามาได้แล้วครับ

    หะ ถ้าอย่างงั้นรีบส่งกำลังทางอากาศไปสกัดพวกมันด่วนเลยแองเจลล่าพูดขึ้น

    พวกเขาบุกเข้ามาเร็วมาก เราใช้กำลังทางอากาศไม่ได้ครับ

    ให้หน่วยยานเกราะไปที่นั่นทนที อย่าให้มันยึดแนวกำแพงได้

    แองเจลล่าออกคำสั่งกับทหารของเธอ จากนั้นเธอก็ค่อยๆประคองตัวเองเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า โดยที่เธอก็ใส่เครื่องแบบนายทหารของเธอในทันทีเพื่อออกไปบัญชาการเอง เมื่อเธอแต่งตัวเรียบร้อย เธอก็รีบเดินออกมาด้านนอกในทันที โดยที่ขบวนรถหุ้มเกราะ Panzer รุ่นต่างๆก็เตรียมพร้อมรอไว้อยู่แล้ว

    คุณแองเจลล่าครับ โจมตีพวกมันเลยหรือเปล่าครับ

    โจมตีเลย ให้กองพลทหารม้าส่งเฮลิคอปเตอร์มาด้วยแองเจลล่าพูดขึ้น

    เราติดต่อไปแล้วครับ พวกเขาบอกจะส่งฮอไปครับ

    ดี ถ้าอย่างั้นก็ไปกันเลยแองเจลล่าพยายามจะเดินไปขึ้นรถแต่จู่ๆเธอก็ประคองตัวไม่อยู่ ทหารของเธอต้องคอยมาประคองเธอเอาไว้

    เป็นอะไรหรือเปล่าครับทหารของเธอถามไป

    ฉันไม่เป็นไร รีบไปกันดีกว่า

    แองเจลล่ารีบลากสังขารตัวเองขึ้นรถในทันที จากนั้นกองพลยานเกราะก็เคบื่อนพลเพื่อผลักดันกลุ่มกฏให้ออกไปจากเขตแดนในทันที

     

    กลับมายังสตาลินกราด หลังจากที่กลุ่มกบฏรัสเซียซึ่งนำโดยเรซนอร์ฟขับไล่ทหารเยอรมันออกไปจากแนวชานเมืองเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็วางกำลังพลกันใหม่เพื่อคุ้มกันพื้นที่ที่สำคัญในจุดนี้ พวกเขาพากันซ่อมแซมสนามเพลาะและวางแนวปืนกลพร้อมปืนต่อสู้รถถัง เพื่อป้องกันทหารเยอรมันกลุ่มใหม่ที่กำลังจะบุกมายังพวกเขา ในขณะเดียวกันนั้นเอง เอลซาร์วินด์ที่เพิ่งจะไปตรวจพื้นที่มาก็เข้ามาคุยกับเรซนอร์ฟในทันที

    คุณเรซนอร์ฟครับ พวกมันทำลายกับระเบิดของเราไปส่วนหนึ่ง ทำให้โซนนั้นแทบจะไม่มีระเบิดคุ้มกันแล้วครับ

    ถ้าเราไม่มีกับระเบิด เรารบลำบากแน่ๆดาโกวิชพูดขึ้น

    เรื่องนั่นมันหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยังไงก็ตามเราก็ยังได้เปรียบพวกมันอยู่ ถ้ามีเวลาก็ฝังระเบิดเพิ่มเติมได้เลยเรซนอร์ฟพูดขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ได้ยินเสียงรถถังและเฮลิคอปเตอร์ดังมาจากอีกฝากหนึ่ง พวกเยอรมันจัดกำลังพลบุกเข้าสตาลินกราดครั้งใหม่ แต่คราวนี้พวกมันยิงปูพรมด้วยปืนใหญ่และปืนครกทุกชนิด ยิงใส่แนวรับของกลุ่มกบฏรัสเซีย พวกของเรซนอร์ฟรีบเข้าที่กำบังในทันทีก่อนที่กระสุนของพวกมันจะโดนพวกเขา

    พวกมันบุกแล้ว ทุกคนเตรียมพร้อม

    เรซนอร์ฟพูดขึ้นจากนั้นเขาก็วิ่งไปยังชั้นสองของตึก ไปประจำอยู่ที่สไนเปอร์ของเขา จากนั้นก็ยิงสกัดยานเกราะและเฮลิคอปเตอร์ของพวกมัน โดยที่เอลซาร์วินด์ก็มาช่วยหัวหน้าของเขาประจำปืนด้วย

    หัวหน้า พลสไนเปอร์ของเรามีน้อย อาจจะต้านพวกมันไม่ไหวครับเอลซาร์วินด์ตอบเรซนอร์ฟไป

    ถ้าไม่อย่างงั้นเราอาจจะต้องถอยกลับกันก่อน รอกำลังเสริมของเรามาอีกทีหล่ะ

    เรซนอร์ฟพูดขึ้น แต่จู่ๆ พวกเขาก็โดนกระสุนเฉี่ยวเข้าที่แขนจากที่ไหนซักแห่ง ทั้งคู่รีบทิ้งสไนเปอร์ของเขาแล้วเปลี่ยนไปใช้ Mosin ซึ่งพวกเขาถนัดและคล่องตัวกว่า แล้วพยายามควานหาตัวคนที่ยิงใส่เขาในทันที

    แล้วอีกด้านหนึ่ง ปีเตอร์และคาซาเมียก็เตรียมยิงใส่เรซนอร์ฟและพรรคพวกของเขา โดยที่คาซาเมียคอยสอดส่องพวกมันด้วย Mosin ของเธอเอง

    ปีเตอร์ 10 นาฬิกา พวกมันกำลังหาที่หลบ

    ไอ้พวกหนูรัสเซีย คิดจะหนีไปไหนวะ

    ปีเตอร์ยิงกดใส่เรซนอร์ฟและเอลซาร์วินด์ที่กำลังหลบอยู่หลังกำแพง เมื่อปีเตอร์เห็นดังนั้นจึงรีบย้ายที่ซุ่มในทันที

    พวกมันอยู่หลังกำแพง ฉันเจอมันแล้ว

    งั้นเหรอ คาซาเมีย คอยล่อพวกมันไว้ปีเตอร์ตอบไป

    เอลซาร์วินด์ หาพวกมันให้ฉันทีเรซนอร์ฟพูดขึ้น จากนั้นเอลซาร์วินด์ก็ส่องไปตามวิถีกระสุนที่เพิ่งจะยิงมา แต่คราวนี้เขากวาดสายตาไปทางอื่นใกล้เคียงเพื่อดูว่าพวกนั้นหาที่ซุ่มยิงจุดอื่นหรือเปล่า จนแล้วจอดรอด เอลซาร์วินด์ก็เจอตำแหน่งของพวกนั้นแล้ว

    คุณเรซนอร์ฟ 13 นาฬิกา ตะวันออกเฉียงเหนือ

    หลังสิ้นเสียง เรซนอร์ฟก็บรรจุกระสุนเข้าไปในรังเพลิง จากนั้นเขาก็เล็งไปที่เป้าหมาย เมื่อเขาเห็นอะไรที่ผิดปกติเขาจึงยิงในทันที ปีเตอร์ในตอนนั้นเองก็โดนยิงกดบ้างแล้ว เขาจึงหลบอยู่ด้านหลังเนินดินเนินหนึ่งเพื่อคุ้มกัน

    คุณปีเตอร์ พอหนีออกมาได้หรือเปล่า

    พอได้ ยิงคุ้มกันฉันที

    คาซาเมียยิงไปยังตำแหน่งของเอลซาร์วินด์ทำให้เขาต้องหาที่หลบ ส่วนตัวปีเตอร์เองเขาก็กระโดดและหลบกระสุนจากเรซนอร์ฟ เรซนอร์ฟพยายามจะยิงใส่เขาแต่ก็ไม่เป็นผล จนกระทั่งปีเตอร์ก็หลบไปถึงจุดที่คาซาเมียอยู่ คาซาเมียก็รีบก้มหัวหลบกระสุนของพวกมันที่ยิงสวนกลับในทันที
    รีบไปจากที่นี่เถอะ พวกเราคงบุกไปได้แล้ว

    คาซาเมียรีบพาปีเตอร์ไปขึ้นรถในทันที จากนั้นคาซาเมียก็รีบบึ้งรถออกไปจากพื้นที่ เรซนอร์ฟพยายามจะยิงไล่หลังมันไปแต่ไม่ทันซะแล้ว

    บ้าเอ้ย มันหนีไปจนได้เรซนอร์ฟบ่นอย่างอารมณ์เสีย และในขณะเดียวกัน ดาโกวิชก็วิ่งขึ้นมายังชั้นสองที่เรซนอร์ฟอยู่ เพื่อรายงานสถานการณ์ด้านล่างของเขา

    คุณเรซนอร์ฟ เราต้านไม่ไหวแล้ว เราเสียแนวหน้าแน่

    ถ้างั้นก็สั่งทุกคนถอนกำลังด่วนเลย ส่วนกับระเบิด จุดชนวนให้หมดถ้าเกิดพวกมันเข้ามาใกล้พอ

    กลุ่มของเรซนอร์ฟรีบถอนกำลังกลับเข้าไปในเมืองทันที โดยที่พวกเขานำอพยพชาวบ้านเข้าไปในพื้นที่ปลอดภัยก่อน จากนั้นพวกเขาก็จุดชนวนกับระเบิดในทันที เพื่อเป็นปราการด่านสุดท้ายในการป้องกับการถอนกำลัง

     

    กลับมายังคุนหมิง ประเทศจีน หลังจากที่มิคาอิลทำการเจรจาการค้าของเขาไปได้เสร็จเรียบร้อย ในตอนนั้นเขาก็รีบออกจากคุนหมงเพื่อข้ามชายแดนจีนกลับไปเวียดนามเพื่อความปลอดภัย ขบวนรถของมิคาอิลในตอนนั้นรีบขับไปยังชายแดนทันทีก่อนที่พวกญี่ปุ่นและทหารรัฐบาลจีนจะตามล่าพวกเขาได้

    นี่ เหลือเวลาอีกนานแค่ไหนเนี่ยมิคาอิลถามลูกน้องของเขาไป

    อีก 7 ชั่วโมงถึงชายแดนเวียตนามครับคนขับของเขาตอบไป

    ยังไงก็ระวังด้วยหล่ะ อย่าเกิดไปเจอทหารเข้าเด็ดขาด

    ผมว่าพวกญี่ปุ่นอาจจะระแคะระคายมาแล้วครับคนขับรถของเขาตอบไป

    ก็คงงั้นหล่ะ แต่หวังไว้ว่าอย่าเจอพวกมันก็แล้วกันมิคาอิลพูดขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็เจอกับด่านตรวจด่านหนึ่ง ซึ่งเป็นด่านของทหารจีน มิคาอิลสั่งให้จอดรถในทันที จากนั้นเขาก็ลงจากรถแล้วไปเจรจากับทหารเหล่านั้น

    สวัสดีครับ มีอะไรหรือเปล่าครับผม

    เราต้องตรวจรถทุกคันที่จะผ่านชายแดนไปครับผม

    ก็ได้ครับ เชิญครับผม

    ทหารจีนเหล่านั้นพากันตรวจรถบรรทุกทุกคันที่มิคาอิลเอามาด้วย แต่สิ่งที่พวกเขาเจอมีแต่ความว่างเปล่า หัวหน้าทหารจีนรีบไปคุยกับมิคาอิลในทันที

    พวกคุณไปส่งอะไรกันมาอย่างงั้นเหรอ

    อ้อ อะไหล่รถหน่ะครับ ไปส่งที่คุนหมิงหน่ะ เราจะข้ามไปเวียตนามต่อมิคาอิลตอบไป

    เข้าใจแล้วครับ เอาหล่ะ เปิดทางได้

    นายทหารคนนั้นรีบเปิดด่านให้กับมิคาอิลและขบวนรถของเขา มิคาอิลโล่งใจและเดินทางกันต่อเพื่อข้ามชายแดนเวียตนามในทันที

     

    กลับมายังโรงงานลับแห่งหนึ่งในซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นโรงงานอาวุธลับที่ออร์ลินด้าออกเงินเพื่อผลิตอาวุธส่งให้กลุ่มกบฏต่างๆทั่วโลกเพื่อใช้จัดการกับกลุ่มนาซีที่กำลังครองโลก เธอเดินตรวจตราสายการผลิตทั้งปืนประจำกาย ปืนกล รวมปึงจรวดชนิดต่างๆสำหรับก่อการร้ายในทุกชนิด

    คุณออร์ลินด้าครับ หลังจากที่เราได้พิมพ์เขียวอาวุธแบบต่างๆมาจากหลายๆที่ แล้วเราก็ผลิตตัวอาวุธและชิ้นส่วนของมันเพิ่มเติม เราสามารถผลิตมันได้วันหลายแสนช้นต่อวันเลยครับ

    ดีมาก บาโธรี่ ติดต่อกับลูกค้าของเราหลายๆที่ บอกว่าเราสามารถเราขายอาวุธให้กับพวกเขาได้ตามออเดอร์ที่พวกเขาต้องการ งานนี้เราได้รวยกันเละแน่

    รับทราบค่ะคุณออร์ลินด้า ไว้กลับไปฉันจะจัดการเองค่ะบาโธรี่ตอบไป

    จาฮัท แล้วผู้มีอืทธิพลในพื้นที่หล่ะออร์ลินด้าถามไป

    เราจ่ายสินบนให้พวกเขาตลอดครับ

    แน่ใจนะว่าพวกมันจะไม่เปิดปากบาโธรี่ถามไป

    แน่นอนครับ ถ้าพวกเขาทรยศ เราจะเอาคืนแน่นอนครับจาฮัทตอบไป

    ดีๆ ต้องการเงินเท่าไหร่ก็ตอบฉันมาก็แล้วกันออร์ลินด้าตอบไป จากนั้นเธอก็รีบกลับไปยังฐานลับของเธอในทันทีเพื่อไปพักผ่อน โดยที่บาโธรี่ก็ไปเตรียมรถกับเธอในทันทีเพื่อให้เธอกลับไปยังที่พักของเธอ

    บาโธรี่ ฉันขอข่าวสงครามในตอนนี้ด้วยนะ

    ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะติดต่อสายของเราให้

    ดี ฉันอยากรู้ว่าตอนนี้โลกเราเป็นยังไงบ้าง แล้วที่เบอร์ลินเป็นยังไงบ้างหล่ะออร์ลินด้าถามอย่างสงสัย

    ตอนนี้ที่เบอร์ลินกำลังมั่นคงอยู่ เกสตาโปทำงานกันหนักเพื่อตามล่าพวกเราค่ะ

    งั้นเหรอ ถ้าอย่างงั้นก็ให้เงียบไปก่อนก็แล้วกัน ไม่งั้นจะไปกันใหญ่อีก

    ได้ค่ะ

    หลังจากที่บาโธรี่ตอบกลับไป รถของออร์ลินด้าก็มาจอดรอเธอในทันที จากนั้นบาโธรี่ก็พาออร์ลินด้ากลับไปยังฐานลับของเธอก่อนที่ทหารกลุ่มอื่นจะตามมาเจอตัวพวกเธอเข้า

     

    กลับมายังบริษัทอาคะสึกิ หลังจากที่อาคะสึกิรอดมาจากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่นมาได้ ในคราวนี้เธอต้องรีบเก็บข้าวของและพนักงานในบริษัทของเธอเพื่อย้ายสำนักงานไปยังเขตปลอดภัย ก่อนที่ยามะดะและพรรคพวกของเขาจะมาจับกุมคนของเธอที่นี่ พนักงานบริษัทรีบเก็บของไปขึ้นรถบรรทุกที่เธอเตรียมไว้ จากนั้นก็เตรียมออกเดินทางในทันที

    นี่คุณเลขา ถ้าเกิดว่าพวกเราไปแล้ว ทำลายเอกสารทุกอย่างให้หมดเลยนะ

    ได้ค่ะ ว่าแต่ที่โคโลราโดนี่คุณเตรียมพร้อมไว้แล้วเหรอคะ

    แน่นอน ที่นั่นปลอดภัยจากการโจมตีของกองทัพญี่ปุ่น ที่นั่นเราจะปลอดภัยอาคะสึกิปลอดภัย ในขณะเดียวกัน มีชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในบริษัทของเธอ จากนั้นก็รีบมาคุยกับอาคะสึกิในทันที

    คุณอาคะสึกิครับ มีข่าวมาครับ

    มีอะไรหรือเปล่า ว่ามาสิ

    ตอนนี้มีข่าวว่ากลุ่มกบฏกำลังถูกกวาดล้างอยางหนักเลยครับ ตอนนี้บางส่วนกำลังข้ามพรมแดนอยู่

    ถ้าอย่างงั้นเราก็ไม่มีเวลามากแล้ว เราคงต้อเร่งกันหน่อยหล่ะ

    อาคะสึกิพยายามเร่งพนักงานบริษัทของเธอเพื่อให้ทันก่อนที่กองทัพจะตามมาตรวจบริษัทของเธอ พนักงานของเธอรีบเผาเอกสารบางส่วนเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้พวกญี่ปุ่นได้มันไป บางส่วนก็ยังทำลายระบบของเครื่องจักรทิ้งเพื่อไม่ให้พวกญี่ปุ่นเอามันไปใช้ และหลังจากที่พวกเขาเคลียร์ทุกอย่างในบริษัทเรียบร้อย อาคะสึกิรีบขึ้นรถในทันทีตามด้วยลูกน้องคนอื่นๆที่ขึ้นรถบรรทุกตามไป

    นี่ พนักงานของเรามากันหมดหรือยัง

    มากันหมดแล้วครับพนักงานคนหนึ่งพูดขึ้น

    ถ้าอย่างงั้นรีบไปจากที่นี่กันเถอะ อาคะสึกิพูดขึ้น จากนั้นชบวนรถของบริษัทเธอก็รีบออกเดินทางจากแคลิฟอร์เนียไปยังโคโลราโดในทันทีก่อนที่ทางญี่ปุ่นจะไล่ตามพวกเขาทัน

     

    ณ ที่ไหนซักแห่งในแคลิฟอร์เนีย นาโอมิและคนของเธอก็เดินทางตามกองทัพบกเพื่อไปกวาดล้างกลุ่มกบฏที่กำลังหลบหนี หลังจากที่พวกเขาได้รับรายงานพวกนั้นกำลังข้ามชายแดนเพื่อหลบหนี กองทัพบกไล่ตามพวกกบฏไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงจุดหนึ่ง พวกเขาก็ต้องหยุดขบวนไปก่อนเรื่องจากว่ามีซากรถมากมายที่กำลังไฟไหม้ขวางทางพวกเขาไว้อยู่

    ทหาร เราโดนซุ่มโจมตีแน่ๆ ทีม 1 ไปเคลียร์รถ ทีม 2 คุ้มกันพวกเรา

    นายทหารคนหนึ่งพูดขึ้นจากนั้นกลุ่มทหารก็แยกย้ายกันไปเคลียร์พื้นที่เพื่อเดินทางกันต่อ ในระหว่างนั้นเอง นาโอมิก็เริ่มเอะใจเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

    ทุกคน รีบหาที่กำบังให้พร้อม ถ้ายังไม่อยากตาย

    นาโอมิพูดขึ้น จากนั้นกลุ่มทหารเรือของเธอก็รีบหาที่กำบังกันให้วุ่น และในระหว่างที่พวกเขากำลังเคลียร์พื้นที่กันอยู่ จู่ๆก็มีเสียงปืนดังมาจากด้านข้าง พวกมันซุ่มยิงทหารญี่ปุ่นที่กำลังเคลียร์พื้นที่ทำเอาพวกนั้นตายกันมากมาย ส่วนคนที่เหลือก็ต้องไปเข้าที่กำบังเพื่อคุ้มกัน

    บ้าเอ้ย รีบหาที่หลบกันเร็วเว้ย

    นายทหารกองทัพบกพูดขึ้นจากนั้นก็ไปหลบอยู่ด้านหลังรถหุ้มเกราะ โดยที่รถหุ้มเกราะของญี่ปุ่นก็คอยยิงคุ้มกันพวกเขาไม่ให้พวกกบฏยิงกดพวกเขา นาโอมิก็พยายามยิงสกัดพวกมันเอาไว้ด้วยแต่ดูเหมือนว่าพวกมันจะกระจายตัวกันเต็มพื้นทีไปหมด

    เราต้องเรียกกำลังสนับสนุน ไม่งั้นเราตายหมดแน่นาโอมิพูดขึ้น

    ถ้าอย่างงั้นจะให้เราเรียกกำลังทางอากาศหรือเปล่าครับทหารของนาโอมิถามไป

    จะเรียกมาเลยก็ได้ ตอนนี้รีบทำอะไรซักอย่างเถอะ

    นาโอมิพูดขึ้น จากนั้นทหารของเธอก็วิทยุบอกหน่วยอากาศยานในทันทีเพื่อให้พวกเขามาเสริมกำลังอย่างเร่งด่วน

    เรียกหน่วย Nagawa ต้องการกำลังเสริมทางอากาศ ส่งเฮลิคอปเตอร์มาช่วยเราด้วย ตำแหน่งของเราอยู่ที่ 98.213.41 รีบมาด่วนเลย

    รับทราบ เรากำลังไปถึงในไม่กี่นาที

    และในระหว่างที่พวกเขากำลังยิงปะทะกับข้าศึกและรอกำลังเสริม เฮลิคอปเตอร์นับสิบลำก็ยิงจรวดและปืนกลใส่ตึกที่ตั้งของกลุ่มกบฏที่ซุ่มยิงพวกเขา เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปรอบด้าน ท่ามกลางเสียงโห่ร้องดีใจของเหล่าทหารญี่ปุ่นที่เข้าที่กำบัง จากนั้นไม่นานเฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาก็ยิงซากรถเพื่อเปิดทางให้กองทัพของพวกเขาเดินหน้าต่อไปได้

    พวกเรารอดแล้ว ทำได้ดีมากนาโอมิพูดแล้วแตะไหล่ทหารของเธอไป แล้วในขณะเดียวกันนั้นเอง ผู้บัญชาการของพวกเขาก็มีคำสั่งให้พวกเขาเดินทางกันต่อเพื่อตามล่ากลุ่มกบฏที่กำลังหลบหนีข้ามชายแดนในทันที

     

    ณ เทือกเขาที่ไหนซักแห่งในสวิตเซอร์แลนด์ มาเรียน่าตื่นขึ้นมาในห้องๆหนึ่งซึ่งด้านในมียามติดอาวุธนับสิบคอยล้อมเธอเอาไว้อยู่ เธอแปลกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เธอจึงพยายามพูดกับคนในห้องไป

    นี่ฉันอยู่ที่ไหนกันเนี่ย

    แต่หลังจากที่เธอพูด ไม่มีใครยอมพูดกับเธอเลยซักคน ในขณะเดียวกัน ชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้องที่เธออยู่ ซึ่นั่นก็คือวาคินนั่นเอง เขารีบไปคุยกับเธอในทันทีที่เธอฟื้นขึ้นมา

    คุณมาเรียน่า คุณฆ่าคนของเราเหรอ

    ไม่ใช่นะ!! เฮลิคอปเตอร์ยิงรถของเราจนเสียหลักจนลงเขาไป ฉันก็แค่หาทางหนีหน่ะ

    งั้นเหรอ คุณรู้อะไรหรือเปล่า ชายคนนั้นเขาเหมือนน้องชายของผมเอง วาคินพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

    ฉันเสียใจด้วยนะคะ

    เพราะฉะนั้น ผมจะไม่พูดอะไรมาก ขอแค่ให้คุณเขียนสิ่งที่ผมต้องการลงมา วาคินยื่นสมุดเล่มหนึ่งให้กับเธอ จากนั้นมาเรียน่าก็หยิบมันมาในทันที

    แล้วก็ไม่ต้องคิดหนีด้วยหล่ะ ที่นี่ปลอดภัยจากทหารนาซี ไม่ว่าจะยังไง

    คุณแน่ใจจริงๆเหรอ มาเรียน่าถามไป

    แน่นอน แล้วเดี๋ยวเราจะได้รู้กัน ระหว่างนี้คุณพักผ่อนที่นี่ไปพลางๆก่อนก็แล้วกันนะ

    วาคินพูดขึ้นจากนั้นเขาก็พาลูกน้องทั้งหมดออกไปจากห้อง ปล่อยให้มาเรียน่าพักผ่อนอยู่ในห้องพร้อมกับสมุดโน้ตของเธอไป

     

    กลับมายังชายแดนเขตปกครองญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา กลุ่มของนนท์และกลุ่มกบฏคนอื่นๆนับพันพากันนั่งรถทุกชนิดที่พวกเขาพอจะหาได้เดินทางข้ามไปยังเขตเป็นกลาง ซึ่งหลังจากที่พวกเขาเดินทางมาถึงจุดข้ามแดน รถแต่ละคันก็พากันแล่นข้ามสะพานใหญ่ซึ่งเป็นจุดข้ามแดนไป พวกเขาค่อยๆข้ามไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงรถของนนท์และพรรคพวก ซึ่งในตอนนั้นเอง มีเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพหนึ่งลำบุกเข้ามาแล้วยิงจรวดถล่มใส่ผู้คนที่กำลังข้ามสะพานไป พวกของนนท์เห็นท่าไม่ดีจึงรีบลงจากรถกันมาก่อนเพื่อป้องกันตัว เฮลิคอปเตอร์ลำนั้นกำลังบรรจุจรวดลูกใหม่เพื่อจู่โจม แต่ในตอนนั้นเองลินน์รีดก็คว้าจรวด RPG ลูกหนึ่งยิงเข้าไปกลางเฮลิคอปเตอร์ญี่ปุ่นลำนั้น

    ตู้ม!!”

    เฮลิคอปเตอร์ค่อยๆร่วงลงพื้นและระเบิดเป็นจุลที่ด้านล่าง

    ผมว่าพวกมันอาจจะเข้ามาใกล้พวกเราแล้วหล่ะ หมอคิมบอกพวกเขาไป

    ถ้าอย่างงั้น เราน่าจะสกัดพวกมันจากที่นี่ได้นะ นนท์พูดขึ้น

    แต่ว่าเราไม่มีกำลังคนมากพอที่จะยันพวกมันไว้นะ ลินน์รีดออกความเห็น

    เราก็ให้แค่กลุ่มคนพวกนี้ข้ามสะพานไปได้ให้หมด แค่นี้ก็พอครับ นนท์พูดขึ้น

    ถ้าอย่างงั้นผมจะไปรวบรวมกำลังคนเท่าที่จะหาได้มานะครับ มาร์ตินพูดขึ้นจากนั้นก็วิ่งไปอีกด้านหนึ่งเพื่อระดมพล

    นนท์ ตอนนี้ผู้อพยพมีเวลาประมาณ 30 นาทีถึงจะข้ามไปได้หมดนะ อลาวดี้พูดขึ้น

    แต่ว่า เราจะสู้พวกมันได้อย่างงั้นเหรอคะ ซวาตีถามอย่างสงสัย

    ยังไงก็ต้องสู้ครับ ไม่งั้นพวกเราอาจจะตายที่นี่กันหมดก็ได้ เตรียมคนให้พร้อมเถอะครับ

    นนท์พูดขึ้นจากนั้นก็หยิบอาวุธของเขาไปเพื่อเตรียมสู้กับกองทัพญี่ปุ่นที่กำลังจะบุกเข้ามา โดยที่กลุ่มกบฏคนอื่นๆก็มาช่วยนนท์สู้ด้วย

     

    ณ เคลสไตน์เฮาส์ เยอรมนี บ้านพักตากอากาศสุดหรูของฮิตเลอร์ ซึ่งชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้วิลล์แชร์พร้อมกับสายยางที่ห้อยโยงกันไปมาทั่วร่างกายของเขา ซึ่งในขณะเดียวกัน มาร์ติน บอร์มันที่ใครหลายคนคิดว่าตายแล้ว จู่ๆเขาก็เดินเข้ามาในห้องแล้วทำความเคารพชายผู้ที่นั่งอยู่บนวิลล์แชร์ในทันที

    ท่านผู้นำครับ นายพลฟอนเบิร์กมาขอพบครับ

    นายพลฟอนเบิร์กเดินเข้ามาในห้องนั่นอย่างสั่นเกร็ง เมื่อเขาเจอท่านผู้นำของเขาเขาทำความเคารพไปในทันที

    ไฮล์!! ท่านผู้นำ

    คุณรู้หรือเปล่าว่าชีวิตหลังความตายมันเจ็บปวดแค่ไหน คุณหมอต้องเอาเซลล์สมองของผมมาประติดประต่อเพื่อนำมันไปเข้าในโหลแก้วบนหัวของผมนี่ ถ้ามันแตก ผมก็ตาย

    ผมทราบดีครับท่าน เพราะตอนนี้ทั้งโลกคิดว่าท่านตายไปแล้ว

    คุณรู้หรือเปล่า ว่าตัวทดลองของเขา ตอนนี้มันเริ่มที่จะสร้างหายนะกับเราแล้ว

    ท่านหมายถึง การทดลองเมื่อ 20 กว่าปีก่อนใช่หรือเปล่าครับ

    ใช่ เด็กคนนั้นชื่ออะไร ฉันก็จำไม่ได้ รู้แต่ว่าเขาเป็นคนญี่ปุ่นนี่หน่า

    ผมจะไปเช็คข้อมูลมาให้นะครับท่าน

    ถ้าไอ้เด็กคนนั้นมันทำลายเครื่องปฏิกรณ์ของเราได้ ทุกอย่างที่เราทำมันก็จบ แล้วฉันก็อาจจะต้องตายจริงๆก็ได้ ไปจัดการซะ

    ครับท่าน

    นายพลฟอนเบิร์กทำความเคารพท่านผู้นำฮิตเลอร์อีกครั้ง จากนั้นเขาก็เดินออกไปด้านนอกห้องในทันทีอย่างเร่งรีบ

    ====================================================================================

    ดูเหมือนว่าฮิตเลอร์จะยังไม่ตาย แต่ในตอนนี้เขากำลังทำอะไรบางอย่าง ซึ่งเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ
    https://writer.dek-d.com/shinobinon/writer/viewlongc.php?id=2028409&chapter=4 ตอนใหม่มาแล้ว ไปอ่านกันได้เน้อ

    https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig?view_as=subscriber ซับแนลผมด้วย


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×