คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : EP 5 : พ่อเลี้ยง
ขบวนรถของนาขับออกมาจากซอยแยก ขับไปตามถนนใหญ่
พวกเขาเดินทางกันไปโดยที่ไม่รู้ว่าจะไปสิ้นสุดที่ไหน
สภาพของทุกคนในรถตอนนี้ห่อเหี่ยวกันจนถึงขีดสุด
ซึ่งไม่รู้ว่าสภาพนี้มันจะจบลงเมื่อไหร่
“เฮ้อ
ฉันอยากกินอะไรหวานๆจังเลย”
มีร์พูดขึ้น
“เออนี่
ฉันมีลูกอมอยู่เม็ดนึง เอาไปอมแก้เครียดก่อนนะ” ยูกิพูดขึ้นจากนั้นก็ยื่นลูกอมให้กับมีร์
“ว่าแต่
เราจะไปที่ไหนกันหล่ะเนี่ย”
วิคเตอร์ถามขึ้น
“ฉันก็ไม่รู้
ยังไงก็รอดูไปก่อนก็แล้วกันนะ” อาซามิพูดขึ้น
“แล้วนี่
พวกเราอยู่กันที่ไหนแล้วเนี่ย” ภพถามพลางมองซ้ายมองขวา
“น่าจะอยู่ปทุมธานีแล้วหล่ะ
เราออกจากกรุงเทพมาแล้วนี่”
วายุพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง
ไผ่ก็หยิบหูฟังมาเสียบกับโทรศัพท์ของเขา แล้วเปิดเพลงฟังของเขาไป
“เฮ้ยนี่
นายฟังเพลงอะไรของนายอยู่วะ” เอกถามไผ่
“ฉันก็ฟังไปเรื่อย
นายไม่ต้องรู้หรอก” ไผ่พูดไป
“นี่
นายเปิดลำโพงให้พวกเราฟังด้วยได้หลือเปล่า” เชนถามไผ่
จากนั้นไผ่ก็ถอดหูฟังออกแล้วเสียงก็ออกทางลำโพง ปรากฏมาเป็นเพลงเศร้า
ทำเอาบรรยากาศด้านในยิ่งแย่ลง
“เฮ้อ
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะจบซะทีนะเนี่ย” ปัดพูดขึ้น
“ถึงมันไม่จบ
เราก็คงต้องทนต่อไปจนกว่าจะจบหน่ะครับ” นาพูดจากนั้นก็นอนพิงด้านหลังรถต่อไป
และที่ด้านหน้า ซึ่งเอ็ดเวิร์ดกำลังขับรถอยู่
“ดูเหมือนข้างหลังจะยังโอเคนะคะ” เอลิซ่าพูดขึ้น
“ก็คงจะอย่างงั้นนะ
แต่พวกเขายังไม่ได้กินอะไรกันเลยนี่” จอห์นพูดขึ้น
“ฉันว่าพวกเขาคงนั่งกินกันอยู่หน่ะค่ะ” รันพูดขึ้น
“แล้วพวกพี่ๆเขาจะโกรธหนูหรือเปล่าคะ” ออโรร่าถามอย่างซื่อๆ
“ไม่หรอก
ลุงเชื่อนะพวกเขาไม่ใช่พวกงี่เง่าหรอก” เอ็ดเวิร์ดพูดจากนั้นก็ขับรถของเขาไป
และที่รถยนต์ด้านหน้า ซึ่งชิโระเป็นคนขับ
“พี่ๆ
นี่เราจะไปไหนกันคะเนี่ย”
จินถามไป
“พี่ว่า
เราน่าจะหาที่พักแถวๆนี้ไปก่อนหน่ะ” ชิโระพูดขึ้น
“แล้วนี่ เธอว่าจะติดต่อหน่วยเธอต่อหรือเปล่า” ชิตสะกิดถามเซน
“แน่นอน
ฉันไม่ยอมหยุดอยู่แค่นี้หรอก” เซนพูดขึ้น
“ก็ขอให้เจอเร็วๆก็แล้วกัน
ที่พักของเราด้วย” ฮันเตอร์พูดจากนั้นก็งีบหลับไป
พวกของนาขับรถมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงสวนแห่งหนึ่ง
ซึ่งอยู่ติดริมแม่น้ำ พวกเขาขับไปแถวนั้นจากนั้นก็ไปที่ริมน้ำ
เพื่อที่จะตั้งค่ายเพื่อพักผ่อนกันต่อไป เมื่อพวกเขาจอดรถ พวกเขาก็ลงจากรถในทันที
“เอาหล่ะ
วันนี้เราก็นอนกันที่นี่หล่ะ” ชิโระพูดขึ้น
“โห
ที่นี่อากาศดีมากเลยนะเนี่ย” เอกพูดขึ้น
และในตอนนั้นเอง พวกเขาก็พบกับซอมบี้สองสามตัวแถวนั้น ซึ่งใส่ชุดชาวสวนอยู่ด้วย
“ถ้ามันมีแค่นี้ฉันจัดการเอง” จินวิ่งไปแล้วชักมีดออกมาแล้วปักที่หัวของมันทั้งสามตัว
จนพวกมันแน่นิ่งคาที่ไป
“มีคนสวนแบบนี้
ไม่รู้ว่าจะมีเต้นท์หรือเปล่านะ” ชิตพูดขึ้น
“ก็ลองไปเดินหาดู
เผื่อว่าจะมีโรงเรือนแถวนี้นะ” ฮันเตอร์พูดขึ้น
“ก็ดีนะ
แต่ว่าใครจะเป็นคนออกไปหาหล่ะ” เอกถามแบบกวนๆ
“ฉันขอแค่ 5
คนพอค่ะ ใครจะไปกับฉันบ้าง”
จินพูดขึ้น
“ผมขอไปด้วยคนก็แล้วกันนะจิน” นาอาสายกมือคนแรก
“ถ้าอย่างงั้น
ฉันก็ไปด้วย ชิต ฉันเตอร์ ชิโระด้วย ไปด้วยกันนี่หล่ะ” เซนพูดขึ้น จากนั้นทั้ง 6 คนก็แยกย้ายกันไปสำรวจแถวๆนั้น
ส่วนคนอื่นๆก็คอยตั้งแค้มป์รอ
โดยที่พวกเขาหาของเท่าที่จะหาได้เพื่อมาตั้งเป็นที่พักชั่วคราว
“ตรงนี้น่าจะมีเสื่อมาวางเพิ่มหน่อนะเนี่ย” ยูกิพูดขึ้น
“หรือไม่ก็ผ้าใบก็ได้นะ
ฉันพอมีอยู่ เดี๋ยวปูให้”
มีร์รีบไปหยิบผ้าใบของเธอมาปูทันที
“นี่
เดี๋ยวฉันไปตกปลาแป๊ปนึงนะ”
วายุพูดขึ้น
“เฮ้ย
ตกปลาเหรอ รอฉันด้วยสิวะ”
ภพพูดตาม จากนั้นก็ไปหยิบเบ็ดไปด้วย
“แล้วตรงนี้จะไม่มีใครมาเจอพวกเรางั้นเหรอ” เอลิซ่าถามขึ้น
“อ้อ
ตรงนี้มีทางเข้าออกอยู่สองทาง เราสามารถหนีได้ แล้วเราก็มีคนพอเฝ้าค่ะ” ปัดพูด
“เราน่าจะเอารถไปจอดตรงนี้นะ
จะได้ขับออกไปได้” เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้น
“เออดิ
ความจริงน่าจะมีคนไปดูต้นทางด้วยหล่ะ”
จอห์นพูดขึ้น
“แต่ว่าคนของเราไม่รู้จะพอหรือเปล่านะครับ” เชนพูดแย้ง
“ก็ผลัดกันไปสำรวจดูสิ
น่าจะได้ผลอยู่นะคะ” รันพูดขึ้น
“ตอนนี้เรามีมุ้งอยู่หนึ่งหลัง
น่าจะตอกไม้ตรงนี้ แล้วก็ตรงนี้ เพื่อให้เชือกมันมัดได้หน่ะ” ไผ่พูดขึ้น จากนั้นก็ไปหาค้อนมาตอกไม้
ในตอนนั้นเองอาซามิก็ไปหยิบค้อนมาให้เขาพอดี
“นี่ไผ่
น่าจะใช้ได้อยู่นะ”
ไผ่หยิบค้อนของอาซามิมา จากนั้นก็เริ่มตอกไม้เข้าไปทั้งสี่ด้าน โดยที่ในตอนนั้นเอง
วิคเตอร์กับออโรร่าก็ช่วยกันแบกอาหารมาไว้ด้านล่างด้วย
“นี่ออโรร่า
ถ้าเธอเหนื่อยก็ไปพักก่อนได้นะ” วิคเตอร์พูดขึ้น
“หนูอยากช่วยค่ะพี่
หนูไม่เป็นไรค่ะ” ออโรร่าพูดขึ้น จากนั้นพวกเธอก็ช่วยกันยกของต่อ
ทางด้านของแบท เขาซิ่งรถกลับไปที่หน่วยของเขา
ฝ่าฝูงซอมบี้ที่อยู่ตามทาง ในตอนนั้นเอง เขาก็มาถึงตึกสำนักงาน
ซึ่งประตูนั่นก็เปิดเองอยู่แล้ว
แบทเกิดความสงสัยเนื่องจากว่าประตูจะไม่มีทางเปิดเองได้ เขาขับเข้าไปอย่างช้าๆ
จากนั้นก็ชักปืนออกมาด้วย
“นี่แบทติดต่อหน่วย
ตอบที”
เขาพยายามติดต่อกับคนในหน่วย แต่ไม่มีสัญญาณใดๆตอบรับเลย
“ดูท่าจะแปลกๆแหะ”
แบทถือปืนลูกซองแฝดเดินเข้าไปด้านใน
โดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่มารอต้อนรับเขาเลย อย่าว่าแต่เจ้าหน้าที่เลย
ในตอนนั้นแม้แต่สิ่งมีชีวิตยังแทบจะไม่มีเลย
“ทุกคน
มีใครอยู่หรือเปล่า”
ในตอนนั้นเอง เขาก็เห็นซอมบี้ตัวหนึ่งเดินเร็วมาหาเขา
เขาส่องมันเข้าหัวจนมันตายคาที่
“ปกติมันไม่เดินเร็วแบบนี้นี่”
แบทรีบวิ่งเข้าไปด้านใน จากนั้นก็เล่นงานซอมบี้ทุกตัวที่อยู่ด้านใน
แล้วก็วิ่งเข้าไปยังห้องเจ้าหน้าที่ในทันที
แบทเห็นเครื่องอัดเสียงตัวหนึ่งตั้งอยู่บนโต๊ะอาหาร
ในตอนนั้นเองเขารีบหยิบมันมาแล้วเปิดฟังข้อความในทันที
“แบท
ถ้าคุณได้เปิดฟังข้อความนี้
คุณคงรู้แล้วนะว่าเราจำเป็นต้องย้ายไปยังสำนักงานที่ปลอดภัยกว่านี้
เนื่องจากว่าตัวทดลองของเราหลุดออกมาจากหลอดทดลอง เราจึงย้ายฐานหนีมาโดยไม่ได้บอกคุณ
แต่คุณไปเจอกับพวกเราที่เชียงใหม่ได้ คุณน่าจะรู้นะว่าฐานอยู่ที่ไหน ขอให้โชคดี
แล้วเจอกันอีกครั้ง”
แบทได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจ
ในตอนนั้นเองซอมบี้ตัวหนึ่งมาด้านหลังเขาแทบจะหายใจรดต้นคอ
แบทจับมันมาทุ่มจากนั้นก็เอามีดปักที่คอมัน แต่แค่นั้นยังไม่พอ
เขาเห็นพวกมันนับสิบวิ่งมาหมายจะเล่นงานเขา เขาพยายามจะยิงสกัดแล้วหนีออกมา
“เฮ้ย
ทำไมพวกมันเร็วจังวะ หรือว่าเป็นตัวที่หลุดมา”
แบทออกมาด้านหน้าประตู จากนั้นก็ขว้างระเบิดพิเศษของเขา
ทำเอาร่างของพวกมันแหลกเหลวกระจายไปคนละทาง
“ตายห่าซะไอ้ควาย”
แบทรีบวิ่งไปขึ้นรถ จากนั้นก็เร่งเครื่องออกเดินทางไปในทันที
ทางด้านของกระท่อมหลังหนึ่ง ซึ่งชาวสวนแถวนั้นใช้เก็บของในการทำสวน พวกของนาได้เข้าไปสำรวจด้านใน
ก็พบว่ามีอุปกรณ์และของจำเป็นบางส่วนที่สามารถให้ประโยชน์กับพวกเขาได้
พวกเขาเลยพยายามเก็บมาเท่าที่จะเก็บได้ในทันที
“นี่
มุ้งพวกนี้น่าจะช่วยเราจากยุงได้นะ” นาไปเก็บมุ้งพวกนั้นมา
“อืม
แล้วพวกชาวสวนหายไปไหนกันหมดหล่ะเนี่ย” จินถามคนในกลุ่ม
“ก็คงจะโดนเก็บไปหมดแล้วหล่ะมั้ง
คิดว่านะ” เซนตอบไป
“แล้วนี่
กลับไปเราจะไปกินอะไรดีหล่ะเนี่ย” ชิตถามไป
“ก็ตกปลาแถวนั้นเอาก็ได้
มีแม่น้ำอยู่นี่” ฮันเตอร์พูดขึ้น
“เยี่ยมเลย
ฉันเองก็อยากกินปลาย่างเหมือนกัน” ชิโระพูดขึ้น
แต่ในตอนนั้นเอง พวกเขาได้ยินเสียงมาจากด้านนอก ก็พบว่ามีเสียงคนเดินมาจากด้านนอก
พวกเขารีบหาที่หลบกันในทันทีแล้วสังเกตการณ์อยู่ตรงนั้น
“พวกมันเป็นใครกันเนี่ย” ชิตถามอย่างสงสัย
“สงสัยจะเป็นชาวบ้านแถวนี้
อย่าเพิ่งยิงนะ” ฮันเตอร์พูดขึ้น แต่ในตอนนั้นเอง
ชาวบ้านสองคนนั้นก็ได้ยินเสียงมาจากกระท่อม พวกนั้นก็เล็งปืนมาในทันที
“เฮ้ย ใครวะ”
พวกมันสองคนค่อยเดินเข้ามา แต่เมื่อได้จังหวะ
จินและชิโระก็จับปืนของพวกมันดึงเข้ามา จากนั้นก็ทุ่มพวกเขาล้มลงกับพื้น
“อย่า
อย่าทำอะไรพวกเราเลยครับ”
ชาวบ้านคนหนึ่งบอกกับพวกของนา
“นี่
ใจเย็นๆนะครับ ผมไม่ทำอะไรพวกคุณหรอก ว่าแต่พวกคุณมาจากไหนกันเหรอ” นาถามไป
“อ้อ เรามาจากหมู่บ้านแถวนี้
แค่มาหาของหน่ะครับ” ในขณะเดียวกัน เซนก็เอะใจกับแหวนวงหนึ่งซึ่งชาวบ้านคนนั้นใส่
เซนรีบเอาออกมาดูทันที เซนทำท่าโกรธมากที่ได้เห็น
“อ่า
แหวนวงนั้นเราเก็บมาจากคนตายครับ”
“หะ คนตายเหรอ พวกเขาอยู่ที่ไหน
พวกนายรู้หรือเปล่า” เซนถามในทันที
“อ่า คือ มันมีเฮลิคอปเตอร์มาตกอยู่แถวๆสวนของเราหน่ะครับ”
“หะ
อย่าบอกนะว่าพวกคุณเป็นคนยิงตกหน่ะ” ชิโระถามอย่างจริงจัง
“เปล่าครับ
อย่างพวกเราจะมีปืนยิงเฮลิคอปเตอร์เหรอครับ”
“ถ้าอย่างงั้นก็พาพวกเราไปที่จุดฮอตกสิ” จินบอกชายสองคนให้พาไปยังจุดฮอตก
ซึ่งชายสองคนนั้นก็พาไป ซึ่งตรงแปลงผักแห่งหนึ่ง ซึ่งมีซากเฮลิคอปเตอร์ตกอยู่
เซนรีบวิ่งเข้าไปดูในทันที ก็พบว่าเป็นมีสัญลักษณ์ของหน่วยรบพิเศษออสเตรียอยู่
เธอรีบไปดูซากศพที่อยู่ด้านในทันที
“บัสต้าร์
ยูจีน ริงโก้ โทนิค ฉันเสียใจด้วย” เซนกระชากเอาสร้อย
dogs tags ของแต่ละคนมา
จากนั้นก็ค่อยๆนำร่างของพวกเขาออกมาจากฮอ
“ดูท่าว่าเซนจะเจอพวกของเขาแล้วนะเนี่ย” นาพูดออกมา
“เออนี่
พวกนายสองคนกลับไปได้” ชิโระปล่อยชาวบ้านสองคนกลับไป
จากนั้นก็ไปดูร่างของทหารทั้งสี่นายที่เพิ่งจะถูกแบกออกมา
“ผมว่า
รีบจัดการศพพวกเขาให้ไปอย่างสงบเถอะ” ฮันเตอร์พูดขึ้น
“ถ้าพวกเขาติดเชื้อแล้ว
จะฝังไม่ได้นะ ต้องเผาเท่านั้น” จินพูดขึ้น
“ถ้าอย่างงั้นเดี๋ยวผมไปเอาฟืนแถวนี้มาแล้วกันนะ” ชิตรีบไปหาฟืนและเศษไม้เท่าที่จะหาได้
จากนั้นก็วางเรียงไว้ จากนั้นพวกเขาก็วางศพเอาไว้
จากนั้นก็เอาน้ำมันราดและใบไม้แห้งแถวนั้นเท่าที่จะหาได้
จากนั้นพวกเขาก็จุดไฟเผาไป โดยที่เซนทำท่าวันทยหัตถ์อยู่ตรงนั้น
กลับมายังแค้มป์
ซึ่งพวกเขาได้ปรับปรุงนิดหน่อยให้มันเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับค้างแรม ในตอนนั้นเองภพและเวหาก็ไปเจอเรือแจวของชาวบ้านอยู่
พวกเขาได้ลากมันออกไปแล้วก็ตกปลาอยู่ไม่ห่างจากริมฝั่ง
โดยที่บรรยากาศในตอนนั้นดูช่างรื่นรมย์สำหรับพวกเขา
“ดูสองคนนั่นสิ
ท่าทางจะมีความสุขดีนะ” ยูกิพูดขึ้นหลังจากที่เธอหาฟืนมา
“นั่นดิ
อยากลองไปตกปลาแบบนั้นบ้างจัง” วิคเตอร์พูดขึ้น
“เธอก็ลองไปขอภพเขาดูสิ
น่าจะได้ลองนะ” มีร์พูดขึ้น
ในขณะที่ทั้งคู่ ภพและวายุกำลังตกปลาอยู่แถวนั้น
จู่ๆก็มีซอมบี้ตัวหนึ่งมาเกาะเรือเขาไว้ และเขย่าเรือไปมา
ทำเอาคนที่อยู่บนเรือและบนบกตกใจกันยกใหญ่
“เฮ้ย พวกนาย
รีบกลับเข้าฝั่งเดี๋ยวนี้นะ” ไผ่พูดขึ้น
“ฉันว่าคงต้องยิงช่วยพวกเขาหน่อยแล้วหล่ะ” อาซามิพูดขึ้น
ในขณะที่เอ็ดเวิร์ดก็หยิบปืนเตรียมเล็งไปที่ซอมบี้ และที่บนเรือ
“เฮ้ย ภพ
รีบตีมันเร็วสิ เดี๋ยวก็คว่ำหรอก” วายุพูดขึ้น
“ฉันพยายามอยู่เนี่ย” ภพพยายามตีมันให้กลับลงไป
แต่เรือก็โคลงเคลงจนภพตกน้ำลงไป พวกเขาตกใจมาก พวกที่อยู่บนฝั่งบางคนพยายามจะว่ายน้ำลงไปช่วยภพ
“แย่แล้ว
ใครพอจะว่ายน้ำเป็นบ้าง ช่วยไปตามหาเขาที” เอลิซ่าพยายามเรียกให้คนอื่นช่วย
แต่ในตอนนั้นเองภพก็พยายามลากสังขารว่ายเข้ามาถึงฝั่ง โดยที่มันตัวหนึ่งว่ายเข้ามา
ภพพยายามจะป้องกันตัวเอง แต่ในตอนนั้นเอง
“ปัง”
เสียงปืนดังขึ้น โดยที่ซอมบี้ตัวนั้นล้มลงไปต่อหน้าภพ
ซึ่งในตอนนั้นเองวิคเตอร์เป็นคนยิงเอง
“โห
นี่เธอเอาปืนมาจากไหนหล่ะเนี่ย” เอ็ดเวิร์ดพูดอย่างตกตะลึง
“ช่างมันก่อนเถอะ
ไปดูภพเขาก่อนว่าเป็นอะไรหรือเปล่า” จอห์นพูดขึ้น
จากนั้นรันก็ไปดูตามร่างกายของภพ
“ไม่มีรอยโดนกัด
คงจะปลอดภัยค่ะ” รันพูดขึ้น
และในขณะเดียวกัน วายุก็รีบแจงเรือกลับเข้าฝั่ง
เนื่องจากเป็นห่วงเพื่อนของเขา จากนั้นก็รีบไปดูเพื่อนของเขาในทันที
“โห
พี่วายุได้ปลามาเต็มเลยนะคะ” ออโรร่าพูดขึ้น
“เอาหล่ะ
พวกเราปลอดภัยก็ดีแล้วหล่ะนะ” เชนพูดขึ้นอีก
“ถ้างั้นฉันจะเอาปลาไปล้าง
เดี๋ยวจะทาเกลือย่างก็แล้วกัน” ปัดพูดขึ้นจากนั้นก็เอาปลาไปล้างน้ำในทันที
“ก็ดีเหมือนกัน
หิวจะแย่อยู่แล้ว แล้วพวกนานี่ยังไม่กลับมาอีกเหรอ” เอกถามขึ้น ในขณะที่ทุกคนก็มองซ้ายทีขวาที
แต่ก็ไม่พบร่องรอยของพวกเขาเลย
ทางด้านของนาและพรรคพวก ซึ่งพวกเขากำลังเดินทางกลับไปยังค่ายของพวกเขา
ซึงบรรยากาศในช่วงนั้นใกล้จะค่ำแล้ว อากาศเริ่มจะเย็นลง
พวกเขาเดินทางกันไปแล้วก็คุยกันไปด้วย
“เฮ้อ
ฉันอยากกลับไปหาอะไรกินแล้วเนี่ย” ชิตพูดขึ้นมา
“จะพูดทำไมหล่ะเนี่ย
ยิ่งพูดยิ่งหิวนะ” ฮันเตอร์พูดแย้ง
“ตอนนี้ฉันคงไม่ต้องทำอะไรอีกแล้วหล่ะนะ” เซนพูดขึ้น
“อย่าเพิ่งหมดหวังสิ
ไม่แน่หน่วยของคุณอาจยังรอดอยู่ก็ได้” ชิโระพูดอีก
“แล้วนี่จิน
เธอจะเอายังไงต่อกับเรื่องนี้หล่ะ” นาลองถามเธอดู
“ฉันก็ไม่รู้
ตอนนี้ก็คงต้องดูไปเรื่อยๆหล่ะนะ” จินตอบไป
ในขณะที่พวกเขากำลังเดินทาง จู่ๆพวกเขาก็ค่อยๆเดินช้าลง
จากนั้นก็คุยกันในกลุ่ม
“ดูเหมือนว่าจะมีใครตามเรามานะ” ชิโระพูดขึ้น
“แล้วนี่จะเอายังไงต่อดีหล่ะ” เซนถามขึ้น
“ตามฉันมานะคะ
แล้วอย่าเพิ่งตกใจไปหล่ะ”
จินพูดขึ้น
จากนั้นพวกเขาก็หาที่หลบอยู่ตามพุ่มไม้
และในขณะเดียวกัน พวกที่ตามมาก็ถือปืนยาวแบบที่ชาวบ้านพกกัน
พวกเขาเดินตามพวกของนามาเรื่อยๆ แต่เมื่อพวกของนาหายไป
พวกเขาก็เดินวนอยู่แถวนั้นเพื่อตามหาในทันที
“เฮ้ย
พวกมันหายไปไหนแล้ววะ”
“ไม่รู้ดิพี่
มันไปเร็วมากเลย”
“ถ้าเจอหล่ะก็อย่าเพิ่งฆ่ามันนะ
เอาไปให้คนที่หมู่บ้านเราดูก่อนหล่ะ”
พวกของจินสังเกตการณ์อยู่ซักพัก จากนั้นพวกเขาก็คุยกันด้วย
“ดูเหมือนมันจะมาตามล่าพวกเรานะ” ชิตพูดขึ้น
“นั่นดิ
แล้วเราจะเอายังไงต่อดีหล่ะ” นาลองถามไป
“ถ้างั้นก็เล่นงานมันเลย
ยิงประสานกันนะทุกคน” ฮันเตอร์พูดจากนั้นก็เล็งปืนไปยังเป้าหมาย
ทุกคนเล็งไปยังเป้าหมายโดยพร้อมเพรียงกัน
“ปัง”
พวกมันล้มลงไปหกคน จากนั้นก็โดนยิงล้มลงอีก
คนที่เหลือตกใจทำอะไรไม่ถูกจึงรีบวางอาวุธในทันที
แล้วพวกของนาก็บุกออกไปปลดอาวุธชาวบ้านพวกนั้นในทันที
“เฮ้ย
วางอาวุธลงให้หมด อย่าตุกติกนะเว้ย” ฮันเตอร์พูดขู่
“อย่าทำอะไรเลย
พวกเรายอมแล้วครับ” ชาวบ้านคนหนึ่งบอกพวกเขา
“พวกแกตามเรามาทำไมวะ” ชิตตะคอกถามไป
“เราได้รับคำสั่งจากหัวหน้าหมู่บ้าน
ให้ติดตามพวกที่เข้ามาหน่ะครับ”
“แล้วหมู่บ้านของพวกแกอยู่ที่ไหนหล่ะ” เซนถามไป
“อยู่ห่างจากนี่ไม่กี่โลครับ”
“แล้วนี่จะเอายังไงต่อดีหล่ะ
ดูเหมือนพวกนั้นไม่จบแน่ๆ”
นาถามคนในกลุ่ม
“เราต้องไปเตือนคนที่ค่ายเรา
ว่าต้องไปจากที่นี่แล้วหล่ะ” จินพูดขึ้น
“ถ้างั้นอย่าเสียเวลาเลย
รีบไปกันเถอะ ส่วนพวกนี้จับมันมัดไว้” ชิโระพูดขึ้น
จากนั้นฮันเตอร์ก็จับพวกนั้นมัดไว้กับต้นไม้ต้นหนึ่ง แต่ก็เอาตัวมันคนหนึ่งมาด้วย
จากนั้นพวกเขาก็รีบกลับไปที่ค่ายในทันที
ที่แค้มป์ของพวกนา
ซึ่งในขณะที่ทุกคนกำลังเตรียมอาหารเย็นเพื่อรอให้คนอื่นกลับมา แต่ในระหว่างนั้นเอง
ก็มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งบุกมาที่แค้มป์ของพวกเขา พวกนั้นพยายามจะจับตัวทุกคน
แต่ในตอนนั้นเองปัดก็พยายามเล่นงานมันเพื่อช่วยทุกคนเอาไว้
“พวกมันเป็นใครกันวะเนี่ย” เอกพูดขึ้นในขณะที่ต่อยกับพวกนั้น
“ฉันว่าคงจะเป็นชาวบ้านแถวนี้หล่ะ” เชนพูดขึ้น
“ทุกคน
ไปหาที่หลบก่อนเร็ว ผมจะคุ้มกันให้” ไผ่พูดจากนั้นก็ให้พวกผู้หญิงมาหลบด้านหลังพวกเขา
“นี่มันอะไรกันเนี่ย
ทำไมชาวบ้านพวกนี้ต้องทำเราด้วย” อาซามิพูดขึ้น
“ยิงขู่มันซักนัดก็คงจะถอยหล่ะ” วิคเตอร์หยิบปืนพกที่ขาแล้วยิงขึ้นฟ้า
ชาวบ้านกลุ่มนั้นก็พยายามถอยไป
“ตอนนี้หล่ะ
ทุกคนรีบไปหยิบปืนมาเร็ว”
มีร์พูดขึ้น จากนั้นทุกคนก็รีบไปหยิบปืนในรถ
แล้วเตรียมมายิงกับชาวบ้านกลุ่มนั้น
“นี่พวกมันเป็นใครกันเนี่ย” ยูกิพูดอย่างกลัวๆ
“ออโรร่า
เธอซ่อนตัวแถวนี้ก่อน อย่าเพิ่งออกมานะ” รันบอกให้ออโรร่าไปแอบอยู่ทางอื่น
จากนั้นเธอก็รีบวิ่งไปหลบหลังหินแถวนั้น
“พวกแกเป็นใคร
คิดจะทำอะไรกันแน่” ปัดพูดขึ้นจากนั้นก็เล็งปืนไปที่ชาวบ้าน
“พวกแกนั่นแหละ
มาทำอะไรที่ของเรา” ชาวบ้านคนหนึ่งพูดขึ้น จากนั้นก็เล็งปืนไปยังปัด
“ที่ใครวะ
ไม่มีป้ายแขวนไว้ซะหน่อยไอ้เวร” วายุพูดอย่างกวนๆ
และในตอนนั้นเอง ก็ปรากฏภาพของพ่อแม่ลูกสามคนเดินมายังพวกเขา
ซึ่งดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน
“พ่อ แม่…” ภพพูดขึ้นเมื่อพวกเขาได้เจอกับครอบครัวนั้น
แต่จู่ๆ เด็กผู้หญิงคนนั้นก็มาตบหน้าเขาทันที
“ใครเป็นพ่อแม่แกกัน
ห่ะ” เด็กหญิงคนนั้นพูดขึ้น
“เฮ้ย
ทำไมต้องตบหน้ากันด้วยหล่ะเนี่ย” เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้น
“ใช่
พวกเขาเป็นลูกคุณไม่ใช่งั้นเหรอ” จอห์นพูดเสริม
“เขาไม่ใช่ลูกแท้ของผมหรอก
เขาเป็นแค่ลูกเลี้ยง” ชายคนนั้นพูดขึ้น
“แต่คุณก็เลี้ยงดูเขามานะคะ
ทำไมต้องทำกับเขาแบบนี้หล่ะ” เอลิซ่าพยายามปราม
“มันไม่ใช่คนในครอบครัวของเราด้วยซ้ำ
พวกแกคงจะเป็นเพื่อนสวะเหมือนกันสินะ” เด็กหญิงคนนั้นยังคงปากล้ากับคนอื่นๆ
“พี่ขอร้อง
อลิสา จะด่าพี่ยังไงก็ได้ แต่อย่าทำกับคนอื่นแบบนี้เลย” ภพพูดด้วยสายตาเศร้าๆ
“อย่าเลยภพ
พูดกับคนพวกนี้มีแต่จะเปลืองเปล่า” ยูกิพูดขึ้น
“ทำไมยัยนี่ปากดีจัง
ยังเด็กยังเล็กแท้ๆ” มีร์พูดขึ้น
“นี่มึงพูดอะไร
อยากเจ็บตัวใช่ไหม”
“เจ็บตัวเหรอ
ก็ไปตัวตัวกับกูสิ เดี๋ยวรู้เลยว่าใครเจ็บ” วิคเตอร์พูดขึ้น
“พอเถอะค่ะ
ทั้งสองฝ่ายเลย อย่าให้มันรุนแรวกว่านี้เลย” อาซามิพูดขึ้น
“แล้วพวกแกต้องการอะไรกันแน่วะ” ไผ่ถามไป
“พวกเราต้องการให้คุณไปกับเรา
โดยเฉพาะแก ภพ แกคงจะไม่ปฏิเสธฉันใช่ไหม”
“เฮ้ย
ทำไมถึงเรียกลูกคุณแบบนั้นหล่ะ” ชาวบ้านคนหนึ่งเอาสันปืนตีเข้าที่ท้องของวายุ
“ไอ้สัส
พวกมึงมาตัวตัวกับกูดีกว่า”
เอกพูดขึ้นแต่ก็โดนพวกมันเอาปืนจ่อหัว
“นี่พวกแก
พวกเรามีกันเป็นร้อย พวกแกเสร็จแน่ถ้าทำกับเราแบบนี้” เชนพูดขึ้น
“แสดงว่าพวกแกมีคนมากกว่านี้สินะ” ผู้หญิงซึ่งเป็นแม่เลี้ยงของภพพูดขึ้น
“พ่อคะ
หนูว่ารอพวกมันมาที่นี่แล้วจับมันไปดีกว่านะคะ” อลิสาบอกพ่อของเธอ
“พ่อว่าเรากลับก่อนดีกว่า
เอาของๆพวกมันไปให้หมด แล้วจับพวกมันมัดไว้ด้วย”
ชาวบ้านพวกนั้นจับพวกของนามัดเอาไว้ จากนั้นก็เอาไปขึ้นรถบรรทุก เพื่อลำเลียงกลับหมู่บ้าน
“แล้วพวกของจินเมื่อไหร่จะมาหล่ะเนี่ย” เอ็ดเวิร์ดถามไป
“อย่าเพิ่งเลย
รอให้พวกเขามาช่วยเราที่นั่นดีกว่า” จอห์นพูดขึ้น
“ขอพระเจ้าคุ้มครองพวกเราด้วยเถอะ” เอลิซ่าภาวนาอยู่ในรถ
“เดี๋ยวฉันหาทางเอง
ไม่ต้องพึ่งพระเจ้าองค์ไหนหรอก” ปัดพูดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
เนื่องจากว่าเธอโดนมัดแขนอยู่ และขบวนรถของชาวบ้านก็ค่อยๆแล่นไปตามทางเรื่อยๆ
กลับมายังพวกของนา หลังจากนั้นไม่นานที่เขากลับมายังแค้มป์
ก็พบว่าแค้มป์ของพวกเขาหายไปแล้ว รวมทั้งรถและคนอื่นๆได้หายไปแล้ว
“แย่แล้ว
ดูเหมือนเราจะมาช้าไปนะ” ชิโระพูดขึ้น ในขณะเดียวกัน
ออโรร่าก็วิ่งมาบอกกับพวกพี่ๆที่อยู่ตรงก้อนหินด้วยความกลัว
“พี่คะ
แย่แล้วค่ะ พวกเราโดนจับไปแล้ว”
“หะ
จริงเหรอออโรร่า พวกเขาอยู่ที่ไหนหล่ะ” จินถามไป
“ผมว่าพวกเขาคงเอาตัวกลับหมู่บ้านหน่ะครับ” ชาวบ้านคนนั้นพูดขึ้น
“ถ้าอย่างงั้นแกพาพวกเราไปที่นั่นได้หรือเปล่า” เซนถามไป
“ได้ครับ
แต่พวกคุณต้องปล่อยผมไปนะครับ ผมมีพ่อ
แม่ น้องสาวกำลังรออยู่” ชาวบ้านคนนั้นพูดขอร้อง
“ได้
แต่อย่าตุกติกหล่ะ ไม่งั้นอย่าหวังว่าจะรอด” ชิตพูดขึ้น
“ตามผมมาทางนี้เลยครับ” ชาวบ้านคนนั้นพาพวกเขาเดินไปตามรอยรถทันที
“เราจะเชื่อใจมันได้เหรอครับเนี่ย” ฮันเตอร์ถามขึ้น
“เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้วหล่ะครับ” นาตอบไป จากนั้นพวกเขาก็รีบเดินทางไปช่วยพวกของเขาที่ถูกจับในทันที
=================================================================
ดูเหมือนว่าชาวบ้านเหล่านี้จะมีอะไรที่ซ่อนไว้ แล้วพวกของนาจะไปช่วยพวกเขาได้หรือไม่ ติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ
ความคิดเห็น