ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Last Man On The World - เมื่อฉันตื่นมาในยามเช้า

    ลำดับตอนที่ #3 : EP 1 : เช้าวันนี้ ไม่เหมือนเดิม

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 682
      29
      19 พ.ค. 62

    นี่ คุณทำงานพลาดอีกแล้วนะ ถ้าทำอีกผมจะไล่คุณออก

    ลูก น้องลูกขอลูก 2000 เป็นค่าเทอมหน่อยลูก

    เราเลิกกันเถอะ ฉันทนกับเธอไม่ได้อีกแล้ว

    ไอ้คนเฮงซวย

    คำพูดเหล่านี้วนเวียนอยู่ในหัวของเขา วนเวียนไม่สิ้นสุด เขาอยากจะลบมันออกไปจากหัว วันแล้ววันเล่า แต่มันไม่สามารถออกไปจากหัวเขาได้ เขาเผลอร้องไห้ออกมา พร้อมเบียร์ในมือหนึ่งกระป๋องที่เขาเพิ่งจะซื้อมา เขาดื่มมันเพื่อย้อมใจในวันที่เขาอ่อนแอ โลกใบนี้คงไม่เหมาะกับเขา คนขี้แพ้ คนเฮงซวย หรือบรรดาคำด่าอะไรที่พอจะคิดได้ เขาร้องไห้แล้วเผลอหลับไป
    แต่อย่าคิดว่าเมื่อหลับแล้ว เขาจะลบสิ่งที่อยู่ในหัวออกไปได้

    มันยังคงหลอกหลอนเขาอยู่เรื่อยๆ

    ภาวนาไว้เถอะ ขอให้พรุ่งนี้ตื่นมาเจอกับอะไรดีๆด้วยเถอะ

    .

    .

    .

    เช้าวันต่อมา เขาตื่นมาในสภาพที่เพิ่งจะแฮงค์เต็มที่ เขาคงจะดื่มมากไปหน่อย เขาลุกขึ้นมาในสภาพที่ไม่อยากจะไปไหนเลย แต่ว่าเมื่อเขาหันไปมองนาฬิกาปลุก

    ตายห่า นี่จะ 7 โมงแล้ว

    เขาไม่รอช้ารีบวิ่งไปในห้องน้ำ เพื่อรีบอาบน้ำ แต่วันนี้น้ำไหลอ่อนมาก แทบจะไม่ออกมา เขาตัดสินใจอาบน้ำในถังเก็บน้ำไปสองสามขัน จากนั้นก็รีบไปแต่งตัวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ เตรียมของใช้ส่วนตัวและกระเป๋าเอกสารพร้อม เพื่อออกไปทำงานของเขา เขารีบวิ่งออกจากบ้านโดยยังไม่ได้กินอะไร เนื่องจากตื่นสาย วันนี้ซื้อไรกินข้างนอกก่อนก็แล้วกัน

    แอ๊ด

    เมื่อเขาเปิดประตูออกจากบ้านไป เขากลับเจอกับชายคนหนึ่งท่าทางประหลาดยืนอยู่หน้าบ้านเขา ไม่รู้ว่าคนเมาหรือเปล่า เขาพยายามตะโกนออกไปหาเขา

    นี่ลุง มาทำอะไรบ้างผมเนี่ย

    ชายคนนั้นหันหน้ากลับมา ด้วยสภาพหน้าตาที่ไม่ต่างจากผีดิบ มันเดินเข้ามาหาเขาในทันทีเมื่อเขาเรียก

    ช่วยด้วย ผีหลอก

    เขารีบปิดประตูบ้าน หาของกั้นเท่าที่จะหาได้ บ้าเอ้ย!! นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นวะเนี่ย เมื่อเขาตั้งสติได้จึงตบหน้าตัวเอง เพื่อให้ตื่นจากฝัน

    บ้าเอ้ย ไม่ตื่นอีก

    เขารีบไปหลบในห้องครัว สวดมนต์ทุกบทเท่าที่สวดได้ ภาวนาให้ผีร้ายตัวนั้นออกไปจากบ้านเขาซะที

    เขาตื่นขึ้นมา รู้สึกตัวอีกที นี่ก็แปดโมงแล้ว ห่าเอ้ย ไม่ต้องไปทำงานแล้ววันนี้กู เดี๋ยวหางานใหม่ทำก็ได้ เขาไปเปิดทีวีดูแก้เซง แต่ทีวีก็ไร้สัญญาณภาพ ไหนลองดูโทรศัพท์ตัวเองก็ได้ ยังมีสัญญาณ 4G อยู่นี่หน่า เขาไม่รอช้าเปิดไปดูข่าวตามเพจต่างๆของ Facebook ทันที แต่สิ่งที่เขาได้พบเจอมีแต่

    รัฐบาลประกาศกฎอัยการศึกขั้นสูงสุด ห้ามใครออกจากบ้านโดยไม่มีเหตุจำเป็น จนกว่าจะมีประกาศจากรัฐบาล

    นี่มันเรื่องอะไรกันวะ ใครก็ได้บอกที เขาไปนั่งอยู่บนโต๊ะทานอาหาร จากนั้นก็ทำอะไรกินไปพลางๆ เมื่อเขากินเสร็จ เขาก็มานั่งทบทวนตัวเองซักพัก จะอยู่เฉยๆแบบนี้จริงเหรอวะ อาหารในบ้านก็มีไม่มาก คนต้องกินนะเว้ย หรือว่าเหตุการณ์ข้างนอกจะเป็นแบบในหนังหล่ะวะ ที่ซอมบี้ยึดโลก ถ้าเป็นแบบนั้นก็อย่าไปเชื่อรัฐบาลเลย เชื่อตัวเองดีกว่า อย่ากระนั้นเลย เขากลับไปอาบน้ำและแต่งตัวใหม่อีกรอบ คราวนี้เขาเก็บกระเป๋าแล้วเอาเสื้อผ้าของเขาไปด้วย เนื่องจากว่าเขาอยากไปจากที่นี่ ถึงเขาจะดูหนังซอมบี้มาบ้าง แต่เรื่องการเอาตัวรอดเขาก็ศึกษามานะ เขาไปที่หน้ากระจกเพื่อดูตัวเองว่าพร้อมหรือยัง แต่เอ๊ะ ยังขาดอาวุธอยู่นี่หว่า เขารีบวิ่งออกไปยังหน้าบ้าน โดยออกทางหน้าต่าง โดยที่ผีดิบที่อยู่หน้าบ้านเขาดันขาหักเพราะสะดุดหินที่อยู่หน้าบ้าน มันพยายามคลานเข้าหาเขา เขาหาอะไรแถวนั้นเพื่อหยุดมัน

    ไม้หน้าสามตรงนั้นไง

    เขาหยิบไม้หน้าสามขึ้นมา จากนั้นก็ฟาดมันไปที่หัวหนึ่งที แต่มันยังไม่มีท่าทีที่จะหยุด เขาจึงกระหน่ำตีมันไม่ยั้ง จนมันแน่นิ่งไป เขาหมดแรงแล้วนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยความเหนื่อย บ้าเอ้ย ไม่นึกเลยในหนังกับในชีวิตจริงมันจะต่างกันขนาดนี้

    เขานั่งอยู่ซักพัก เขาก็ลุกขึ้นมา แล้วเดินทางไปเรื่อยๆ เผื่อว่าจะเจอกับอะไรที่มันดีกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ก็ได้

     

    เขาเดินทางไปเรื่อยๆ คอยลัดเลาะไปตามเส้นทาง เพื่อหลีกเลี่ยงการเจอกับพวกซอมบี้ เขาเดินแอบตามริมทางแล้วเดินทางมาเรื่อยๆ จนมาถึงร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ซึ่งหน้าร้านดูเหมือนกับว่าเพิ่งจะผ่านสงครามมาอย่างหนัก แต่เขาก็จะลองเสี่ยงเข้าไปในร้านเพื่อหาอะไรกิน แม้ว่าประตูร้านจะปิด แต่เขาก็ใช้วิชาสะเดาะกลอนที่เคยเรียนมาลองเปิดมันดู ปรากฏว่าเขาก็เข้าไปข้างในได้ แต่จู่ๆ ก็มีอะไรบางอย่างพุ่งเข้ามาหาเขาพร้อมกับเสียงครื่องยนต์

    เหวอ

    เขาเอียวตัวหลบมันได้ มันจะเล่นงานเขาอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาตะโกนออกไปให้อีกฝ่ายหยุด

    เดี๋ยว ผมเป็นคน ไม่ใช่ผีพวกนั้น

    แล้วแกจะมาขโมยของๆเรางั้นเหรออีกฝั่งพูดกลับ

    เปล่า แค่จะมาหาอะไรกินเฉยๆ ผมจ่ายเงินให้ก็ได้

    ปล่อยเขาเถอะวายุ เขาคงไม่มีอันตรายหรอกชายคนที่ชื่อวายุเก็บเลื่อยไฟฟ้าของเขาไว้ที่เดิม จากนั้นเขาก็มาคุยกับสมาชิกใหม่ที่เข้ามา

    แล้วเดินออกมาจากบ้านได้ยังไง ไม่รู้เหรอมันอันตรายแค่ไหน

    เอ้า ถ้าผมอยู่แต่ในบ้านผมหิวตายแน่ๆ เออลืมไป ผมชื่อนา พวกนายชื่ออะไรกันบ้างหล่ะนายื่นมือไปจับมือกับอีกฝ่าย

    ชื่อเหมือนผู้หญิงชิบหาย ฉันวายุ นั่นก็ไตรภพ แต่ฉันเรียกมันไอ้ภพหน่ะวายุยื่นมือจับนาไป

    อ่า ฉันจะไปเอาอะไรให้กินนะในระหว่างที่ภพกำลังเดินเข้าไปหลังร้าน จู่ๆก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในร้านหน้าตาเฉย โดยที่มานั่งพักกันอยู่แถวๆนั้น ท่ามกลางความตกใจของนาและวายุ นารีบเดินเข้าไปถามทันที

    นี่มันอะไรกัน พวกคุณเป็นใครเนี่ย

    อ้อ เราขอมาหลบในนี้หน่อยหน่ะ อยากให้แนะนำตัวใช่ป่ะ ฉันชื่อปัด แล้วพวกนายจะไม่แนะนำตัวหน่อยเหรอเธอพูดจากนั้นก็หันไปให้คนอื่นพูดต่อ

    ผมราเชนทร์ เรียกผมว่าเชนก็ได้นะครับ ผมเป็นหมอหน่ะ

    ฉันเอก ว่าแต่แถวนี้มีบุหรี่ให้สูบหรือเปล่าเนี่ยเอกพูดจากนั้นเขาก็หันไปมองรอบตัวเขา

    นั่นสิ ฉันอยากสูบอยู่พอดีเนี่ย

    อย่าสูบเลย มันส่งกลิ่นได้ไกลเป็นกิโล ถ้าอยากให้พวกมันมาฆ่าเราก็ตามใจนาพูดเตือน

    ไม่เป็นไรหรอก ถ้ามันมาฉันจะฆ่ามันเองจากนั้นเองวายุก็ไปเอาบุหรี่ในกล่องโยนให้พวกเขาพร้อมไฟแช็ค ปัด เอกและเชนรีบหยิบมันมาสูบในทันที และในขณะเดียวกัน ภพก็เอาอาหารกระป๋องมาให้สมาชิกใหม่กินในทันที โดยที่เขายกมาเป็นกล่องเลย

    โห กำลังหิวพอดีเลย ขอบใจมากเอกพูดจากนั้นก็หยิบทูน่ากระป๋องมานั่งกินโดยไม่สนใจอะไรเลย

    แล้วนี่ พวกนายอยู่ที่นี่กันงั้นเหรอ นายชื่ออะไรไอ้หนุ่มภพไม่พูดอะไรจนวายุต้องพูดแทน

    มันชื่อภพ มันไม่ค่อยขี้จ้อเท่าไหร่หน่ะ อย่าถือสามันเลย

    ว่าแต่ พวกคุณมาจากไหนกันหล่ะเนี่ยนายิงคำถามใส่พวกเขาไป

    ฉันมาจากในเมือง หนีพวกมันมา น้องชายฉันหายตัวไปด้วยปัดพูดขึ้น

    ส่วนฉันเหรอ ฉันก็หนีมาเหมือนกัน น้องชายฉันหายตัวไปด้วยเชนพูดขึ้น

    โห มีแต่คนตามหาน้องชาย ไม่มีน้องสาวบ้างเลยเหรอเขาพูดแบบกวนๆ แต่ในระหว่างที่พวกเขากำลังนั่งพัก จู่ๆพวกเขาก็ได้ยินเสียงคล้ายๆซอมบี้โผล่มาทางพวกเขา ในตอนนั้นเองพวกเขารีบเตรียมอาวุธเพื่อจัดการพวกมันในทันที

    แน่ะ เห็นมั้ย เพราะบุหรี่เจ๊แท้ๆเลยเนี่ยวายุพูดกับปัด

    ไม่ใช่ซะหน่อย เหมือนมันตามใครมาอยู่นะปัดพูดขึ้น จากนั้นทุกคนก็มองออกไปด้านนอก ในตอนนั้นเองพวกเขาก็เห็นผู้หญิงสี่คนกำลังโดนพวกซอมบี้ไล่ตาม พวกเธอร้องเรียกหาคนให้ช่วยไปทั่วแต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีใครมาช่วยพวกเธอเลย

    มีพวกมันอยู่ 8 ตัวได้ น่าจะสู้ได้นะเชนพูดขึ้น

    เอาหล่ะ ใครป๊อดก็อยู่ในนี้ได้นะ ฉันจะไปลุยหล่ะเอกพูดขึ้นจากนั้นก็รีบวิ่งไปจัดการพวกมัน ส่วนคนอื่นๆก็รีบตามเอกไปในทันที พวกเขาเข้าตะลุมบอนกับพวกซอมบี้เพื่อช่วยเหลือพวกผู้หญิงและเด็ก จากนั้นเองพวกผู้หญิงก็เข้าไปหลบในร้าน เอกฟาดซอมบี้แต่เผลอโดนอีกตัวจับเขากดลง เขาร้องให้คนช่วย แต่นาก็วิ่งเข้าไปเตะหน้ามัน จากนั้นก็เอามีดแทงมันเข้าที่หัวในทันที จากนั้นก็จับมือเอกขึ้นมา

    ทุกคน ฉันดูในหนังมา ต้อเล่นมันที่หัวนะนาตะโกนบอกเพื่อนทุกคน

    เฮ้อ นั่นมันในหนัง จะโม้ยังก็ได้นี่หว่าเอกพูด

    ส่วนปัด เชน วายุและภพก็ดันพวกมันจนถอยออกไปได้ จากนั้นพวกเขาก็รีบไปหานาและเอกในทันที

    ฉันว่า เราคงอยู่ที่นี่ได้ไม่นานหล่ะปัดพูดอย่างกังวล

    แล้วจะให้ไปตายอยู่ข้างนอกงั้นเหรอวายุพูด

    แต่ว่า เราน่าจะลองเสี่ยงดูนะยุภพพูดแล้วแตะไหล่ของวายุ

    ฉันว่านะ เราไปดูดีกว่าว่าเราช่วยใครมาได้เชนพูด จากนั้นพวกเขาก็กลับเข้าไปได้ใน โดยที่ข้างในมีเด็กผู้หญิงสองคน และวัยรุ่นผู้หญิงอีกสองคน วัยรุ่นผู้หญิงให้อาหารกับเด็กสองคน และคนหนึ่งเดินมาหาพวกของนาในทันที

    ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยพวกเรา คุณน่าจะรู้จักฉันนะคะว่าฉันเป็นใครวัยรุ่นสาวคนนั้นพูดกับนา

    อ่า นี่คุณมีร์ คุณเป็นดารานี่หน่าภพพูดอย่างตื่นเต้น

    แล้วอีกสามคนหล่ะ จะไม่แนะนำตัวหน่อยเหรอครับเชนถามไป

    ฉันชื่อยูกิ ฉันช่วยเด็กสองคนนี้หนีมา พวกมันเลยตามเรามาค่ะ

    หนูชื่อวิคเตอร์ ส่วนนี่ก็ยัยอาซามิเพื่อนฉันเอง เธอความจำเสื่อมนะตอนนี้เธอพูดห้วนๆน้ำเสียงแข็งๆใส่

    นี่เธอ ใจเย็นๆสิ หนูจำได้แค่ชื่อของหนูแหละค่ะอาซามิพูด

    ทุกคน เรามีปัญหาแล้ว หนักเลยหล่ะวายุเรียกทุกคนแล้วชี้ออกไปบนถนน ซึ่งพวกมันราวสิบตัวกำลังตามพวกเขามา เหมือนกับว่าพวกมันรู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน

    เราสู้มันไม่ได้หรอก เราไม่มีอาวุธอะไรเลยเอกพูดแบบกลัวๆ

    ถ้างั้น ทุกคน รีบเก็บของเท่าที่จะเอาไปได้ ใครพกกระเป๋ามาเอาใส่อาหารให้หมด แล้วไปกันเถอะหลังจากที่ปัดพูด ทุกคนรีบร้อนเก็บอาหารและน้ำดื่ม รวมถึงของจำเป็นอื่นๆ หลังจากที่พวกเขารวบรวมได้เสร็จแล้ว พวกเขาก็รีบออกจากร้านไปในทันที

    ทุกคน รีบไปจากที่นี่เร็ว

    พวกเขารีบวิ่งไปตามถนนในเมืองเรื่อยๆ เพื่อหนีจากการตามล่าของเหล่าผีดิบนรกที่ตามกินเลือดพวกเขา

     

    ณ เขตหนึ่งในกรุงเทพ

    ทุกคนสกัดมันไว้ อย่าให้มันเข้ามาได้

    ลูกต้องหนีไป อย่าให้คนของพ่อตายเปล่า

    ลูกต้องเข้มแข็ง

    หญิงสาวคนหนึ่งตื่นขึ้นมาท่ามกลางความโกลาหล เธอส่ายหัวไปหนึ่งทีเนื่องจากว่าเธอกำลังแฮงค์ เมื่อเธอตื่น ชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาเธอ จากนั้นก็เอากระติกน้ำมาให้เธอ

    คุณจินครับ โอเคมั้ยครับ

    ขอบใจมากฮันเตอร์ ฉันแค่ฝันนิดหน่อยหน่ะเธอหยิบกระติกน้ำมาดื่มในทันที

    โธ่คุณจิน อย่าเสียใจเรื่องพ่อคุณเลยครับชายอีกคนพูดกับจิน

    นี่ชิต พ่อฉันตายทั้งคนนะ จะให้ทนได้ไงหล่ะ

    ในระหว่างนั้นที่พวกเขากำลังนั่งพักกัน จู่ๆก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาในตึกที่พวกเขาอยู่ จากนั้นพวกเขาก็เล็งปืนใส่กัน ทั้งสองฝ่ายเตรียมจะยิงใส่กันในทุกขณะ

    นี่เธอเป็นใคร บอกฉันมานะโว้ยจินตะโกนออกไป

    ฉันเป็นทหาร แล้วพวกแกหล่ะเป็นใครเธอตอบกลับไป

    ว่าแต่ คุณมาจากหน่วยไหนหล่ะฮันเตอร์ตะโกนถามเธอไป

    ฉันร้อยโทเซนโนว่า หน่วยรบพิเศษออสเตรียหน่ะกลุ่มของจินลดปืนลงในทันที จากนั้นพวกเขาก็กลับเข้าสู่โหมดคุยกันดีๆ

    ว่าแต่ คุณมาที่นี่ได้ไงครับคุณเซนชิตถามเธอไป

    ฉันกับหน่วยของฉันมาภารกิจ แต่เราเกิดพลัดหลงกันค่ะเซนตอบกลับไป

    ฉันว่าป่านนี้หน่วยของคุณกลับไปกันหมดแล้วหล่ะจินพูดกับเซน

    แต่ถ้าฉันแกะรอยวิทยุได้ ฉันจะเรียกหน่วยของฉันได้นะคะ

    แต่คุณต้องมีวิทยุติดต่อหน่ะสิ

    นั่นสิ แล้วจะไปหาได้ที่ไหนกันหล่ะชิตและฮันเตอร์พูด

    ไม่แน่นะ สถานีตำรวจแถวนี้น่าจะมีก็ได้นะจินพูดขึ้น

    พวกคุณช่วยพาฉันไปที่นั่นทีเซนร้องขอ

    ก็ได้ พวกเรา เตรียมอาวุธ เราจะเดินทางกันทันที

    ชิตและฮันเตอร์เตรียมของที่จำเป็นทั้งอาวุธและกระสุน จากนั้นพวกเขาก็ออกเดินทางกันในทันที

     

    ณ อีกด้านหนึ่งของกรุงเทพ พวกของนาวิ่งหนีผีดิบแถวนั้นมา พวกเขามาเจอกับโบสถ์แห่งหนึ่ง พวกเขาปีนรั้วโบสถ์ขึ้นมาทีละคน จากนั้นพวกเขาก็ไปนั่งอยู่หน้าโบสถ์กัน แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะทำอะไร จู่ๆก็มีคนเปิดประตูโบสถ์ให้กับพวกเขาในทันที

    สวัสดีจ้า พระเจ้าคงนำทางพวกเธอมาให้กับแม่

    พระเจ้าที่ไหนกันคะ ผีดิบหน่ะสิวิคเตอร์พูดอย่างเซงๆ

    อ่า ว่าแต่ซิสเตอร์เป็นใครกันครับเชนถามไป

    แม่ชื่อเอลิซ่า พวกลูกๆคงจะหนีกันมาหล่ะสินะ 

    ก็ใช่หน่ะสิครับ ผมชื่อนาแล้วนาก็แนะนำชื่อของแต่ละคนให้ซิสเตอร์เอลิซ่าฟัง

    ดูท่าพวกลูกจะเหนื่อย เข้ามาข้างในก่อนดีกว่านะจ๊ะ

    เอลิซ่าให้พวกของนาเข้ามาในโบสถ์ โดยที่มีชายวัยผู้ใหญ่สองคนนั่งอยู่ด้านในด้วย เมื่อพวกของนาเข้าไปด้านใน ผู้ใหญ่สองคนนั้นก็เข้ามาหาพวกเด็กๆในทันที

    โห นี่เรามีสมาชิกใหม่มาเพิ่มงั้นเหรอเนี่ย ฉันชื่อเอ็ดเวิร์ด พวกเธอชื่ออะไรกันหละ

    ในตอนนั้นเองพวกของนาก็แนะนำตัวกันไป

    เยี่ยม ฉันจอห์น พวกเธอหนีกันมาได้ยังไงกันเนี่ย

    ไม่มีอะไรมากหรอกครับลุง ก็พวกมันไล่ต้อนเรามาหน่ะเอกพูดแบบเซงๆ

    ว่าแต่ เราจะเอายังไงกันต่อดีหล่ะเนี่ยยูกิถามทุกคนในโบสถ์

    ก็คงจะต้องรอรัฐบาลมาช่วยหล่ะเอ็ดเวิร์ดพูด

    โห ป่านนี้รัฐบาลคงจะตายกันหมดหล่ะลุงวายุพูด

    แล้วพวกเธอจะออกไปเดินเตร่ๆแล้วตายข้างนอกงั้นเหรอจอห์นพูด

    อย่างน้อยเราก็ยังไม่หิวตายนะคะคุณลุงอาซามิพูด

    หรือว่า เราจะไปหาเสบียงข้างนอกด้วยดีหล่ะ แบ่งคนไปไงมีร์แนะนำแผนการ

    โอเค ผมว่าเอาแบบนี้ดีกว่านะ คนที่พอจะลุยได้ก็ออกไปด้านนอก ส่วนคนที่เหลือก็อยู่ที่นี่ไปก่อนไงครับนาออกความคิดเห็น

    ความคิดดีนี่ อย่างน้อยก็ไม่อดตายนะภพพูด

    ถ้างั้นฉันจะไปเอง มีใครจะไปกับฉันบ้างหล่ะปัดถามคนที่จะไปด้วย ในตอนนั้นเองก็มีนา วายุ เอก และมีร์ที่จะออกไปด้วย ส่วนคนอื่นๆก็ยังคงเฝ้าโบสถ์นี้ต่อไป

    เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ไปเช้าหน่อยแล้วกันนะจอห์นพูดขึ้น

    ใช่ๆ อย่างน้อยก็ได้พักผ่อนกันก่อนเอ็ดเวิร์ดพูด

    โอเคจ้ะ ยังไงพวกเธอก็ไปนอนที่ด้านบนได้นะจ๊ะ มีที่นอนเยอะเลย มันเคยเป็นที่นอนสำหรับเด็กๆที่มาเรียนด้วยหน่ะจ้ะ ตามสบายนะจ๊ะ

    พวกของนารีบไปที่ชั้นสอง เพื่อที่จะไปจองเตียงนอนกัน แล้วว่าจะพักผ่อนกันสำหรับคืนวันนี้

    ======================================================================

    อันนี้แต่งโดยเอาตัวละครที่มีมาก่อน เนื่องจากว่าไฟในการเขียนมันแรง

    เดี๋ยวตัวละครอื่นๆที่มาทีหลังผมจะเพิ่มให้นะครับ
    เรื่องนี้เป็นยังไงขอคนละเม้นท์ กดหัวใจ อย่าลืมแชร์กันเยอะๆนะครับ แหะๆ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×