คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : EP 15 : แฟนเก่า
หญิงสาวคนนั้นยังคงมองตานาอย่างอ้อนวอน
โดยที่นาไม่ได้สนใจเธอแม้แต่น้อย
ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะเคยเจออะไรด้วยกันมายังไงอย่างงั้นเลย
“ฉันคิดว่าเธอตายไปแล้วซะอีก” นาพูดกับผู้หญิงคนนั้นอย่างเย็นชา
“นี่
นายรู้จักเธอคนนี้ด้วยเหรอ”
จินถามนาไป
“ยิ่งกว่ารู้จักอีกครับ” นาตอบกลับไป
“ทำไมไม่บอกไปหล่ะ
ว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน” เธอพูดกับนา
“เรื่องของเรามันจบไปแล้ว
เธอพูดเองไม่ใช่เหรอ” นาพูดปนโมโห
“อ่า
พวกคุณมาจากไหนกันเหรอครับเนี่ย” ชิโระเปลี่ยนเรื่องโดยการถามคนอื่นในกลุ่ม
“พวกเรามาเรื่อยๆ
พยายามหาอาหารเพื่อประทังชีวิตหน่ะครับ” ชายคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้น
“พวกคุณมีอาวุธหรือเปล่า เราขอค้นหน่อยนะ” ชิตพูดขึ้น
จากนั้นก็ลากฮันเตอร์ไปตรวจอาวุธพวกเขา ทั้งคู่ค้นพวกเขาทุกคน
เมื่อไม่พบอะไรพวกเขาก็ออกมา
“ไม่มีอาวุธซักชิ้น
มีแค่มีดไม่กี่เล่ม พวกคุณเก่งมากนะที่รอดมาได้” ฮันเตอร์พูดขึ้น
“พวกเราก็เกือบตายเหมือนกันครับ” ชายในกลุ่มพูดขึ้น
“ฉันชักได้กลิ่นแปลกๆแล้วสิแฮะ” เซนพูดขึ้น
“พวกคุณต้องการอะไรกันหล่ะ” นาพูดอย่างโมโห
“อย่าทำเสียงแบบนั้นสินา
ฉันขอโทษนะที่ทำกับเธอแบบนั้น” เธอพยายามพูดขึ้นอย่างอ้อนวอน
“พวกคุณเอาอาหารไปได้บางส่วนนะ แล้วพรุ่งนี้ก็ไปจากที่นี่ซะ” นาพูดจากนั้นก็โมโหเดินเข้าไปในบ้าน
ปล่อยให้คนในกลุ่มถึงกับสงสัย
“นี่ นาเป็นอะไรของเขาวะเนี่ย” วายุถามอย่างสงสัย
“ว่าแต่ คุณเป็นใครกันแน่ครับเนี่ย” ภพถามผู้หญิงคนนั้น
“ฉันชื่ออ้อม ฉันเป็น อ่า..แฟนเก่าเขาหน่ะ” จินได้ยินถึงกับวิ่งตามนาไปในทันที
“อ้อ กะแล้ว ท่าทางความรักจะจบไม่สวยนะเนี่ย” ยูกิพูดขึ้น
“เอาเป็นว่า พวกคุณเข้ามาในบ้านก่อนดีกว่าค่ะ
เดี๋ยวเราคุยกับเพื่อนเราเอง” มีร์พูดขึ้น
“ขอบคุณมากครับ” สมาชิกใหม่พากันเข้าไปในบ้านอย่างตื่นเต้น
ในขณะที่คนอื่นๆก็คุยกันไปด้วย
“ไม่รู้ว่าพี่นาจะเป็นอะไรหรือเปล่านะเนี่ย” วิคเตอร์พูดขึ้น
“เออใช่ แล้วที่คุณเซนพูดนี่หมายความว่ายังไงนะ
ได้กลิ่นแปลกๆหน่ะ” ไผ่ถามอย่างสงสัย
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ยังไงก็รอดูท่าทีไปก่อนนะ” อาซามิพูดขึ้น
“เดี๋ยวฉันจะจับตาดูพวกเขาเอง ไม่ต้องห่วง” เอกพูดขึ้น
“ยังไงก็อย่าให้พวกเขารู้ตัวหล่ะ เข้าใจมั้ย” ปัดพูดกับเอก เอกพยักหน้าอย่างยิ้มเยาะ
“เฮ้อ คืนนี้เราจะได้นอนกันมั้ยเนี่ย” เชนพูดขึ้น
“งั้นคุณไปนอนก่อนก็ได้นะคะ ไม่ต้องห่วงทางนี้หรอก” รันพูดขึ้น
“พรุ่งนี้ฉันว่าจะซ่อมเครื่องยนต์เรือ
เผื่อใช้ตกปลาหน่ะ” จอห์นพูดกับเอ็ดเวิร์ด
“เออๆ ฉันอยากกินปลาย่างอยู่พอดีเลย” เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้น
“เห็นทีฉันคงต้องหาอะไรทำบ้างแล้วสินะ” เอลิซ่าพูดขึ้น
“ฉันว่าท่านทำเท่าที่ทำได้ดีกว่านะ” นาโอมิพูดขึ้น
จากนั้นทุกคนก็ค่อยๆเข้าไปในบ้านกัน
ทางด้านของนา นาเข้าไปนั่งเก็บตัวอยู่ที่นั่งหลังบ้าน
เขาแทบจะร้องไห้ออกมา ผู้หญิงที่เขาเคยรักจากเขาไปอย่างไม่ใยดี
มาวันนี้เธอกลับมาอีกครั้ง แล้วมาขอให้เขาช่วย ซึ่งแบบนี้มันได้เหรอ
มันสมกันแล้วเหรอ ในขณะที่นากำลังนั่งอยู่ จินก็เดินมาหานาในทันที
“นา นายโอเคนะ”
“ฉันไม่เป็นไรหรอก พวกเขาเป็นยังไงบ้าง”
“เข้ามาในบ้านแล้ว
ว่าแต่นายพูดจริงเหรอเรื่องที่บอก”
“แน่นอน ผมยังไม่ไว้ใจพวกเขาหรอก”
“ไม่ไว้ใจพวกเขาหรือไม่ไว้ใจแฟนเก่านายหล่ะ” นาได้ยินก็ถึงกับโมโห
“เรื่องของผมกับผู้หญิงคนนั้นมันจบแล้วครับ
อย่าไปพูดถึงมันเลย” จินกระชากแขนเขามาทันที
“ฉันแค่ไม่อยากเห็นเธอเป็นแบบนี้
ฉันเป็นห่วงเธอนะนา” จินพูดกับเขาอย่างจริงจัง
และในบ้าน
พวกเขาจัดให้สมาชิกใหม่อยู่กันที่ห้องรับแขก
ส่วนพวกเขาก็คอยเฝ้าดูเขาว่าจะมีปฏิกิริยาอะไรหรือเปล่า
โดยที่เซนจ้องพวกเขาอย่างไม่ยอมละสายตาไปไหนเลย
“เฮ้ย เซน องอะไร เห็นมองอยู่นานแล้ว” ฮันเตอร์เดินมาถามเซน
“ฉันกำลังดูพวกเขาอยู่
ฉันว่าฉันไม่ค่อยเชื่อใจพวกเขาหน่ะ” เซนพูดขึ้น
“ทำไมเธอถึงคิดแบบนั้นหล่ะ บอกหน่อยสิ” ชิตถามไป
“ดูพวกเขาสิ พวกเขาดูเหมือนเอาตัวรอดมาไกลได้ยังไง
รถก็ไม่มี อาวุธก็น้อย” เซนพูดขึ้น
“จริงด้วย หรือว่าพวกนั้นจะมาปล้นเรา” ฮันเตอร์พูดขึ้น
“ก็แบบนี้ไงหล่ะฉันถึงได้จับตาพวกเขาตลอด” เซนพูดขึ้น และในขณะเดียวกัน
ชิโระก็เดินมาหาพวกเขาที่กำลังพูดคุยกันอยู่
“อ้าว พวกนาย ยังไม่ไปพักผ่อนกันอีกเหรอ” ชิโระถามไป
“ยังก่อนครับ เซนเขาสงสัยพวกนั้นอยู่หน่ะ” ชิตพูดกับเขา
“อืม ฉันก็เหมือนกัน ดูเหมือนว่าพวกนั้นกำลังคิดอะไรอยู่นะ” ชิโระพูดขึ้น
“แล้วเราจะเอายังไงดีหล่ะ” เซนถามชิโระไป
“รอดูพวกเขาก็แล้วกัน ฉันจะจัดการเอง” ชิโระพูดขึ้น
และที่ทางด้านพวกของนาที่อีกด้านหนึ่ง
พวกเขาก็คุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับนาและสมาชิกใหม่กันเรื่องจากนอนไม่หลับ
“ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะมีอะไรไม่ชอบมาพากลนะ” ไผ่พูดกับพวกเขา
“นี่ คิดมากไปหรือเปล่า แฟนเก่าพี่นาก็อยู่ด้วยนี่” อาซามิพูดขึ้น
“แบบนี้สิยิ่งอันตราย อยู่ดีๆจะกลับมาพูดแบบนี้
ฉันว่ามันแปลกๆนะ ฉันเจอคนมาเยอะ ฉันรู้ดี” ปัดพูดขึ้น
“แสดงว่าพวกเขาอาจมาปล้นพวกเรางั้นเหรอคะ” ยูกิพูดขึ้น
“งั้นหนูว่าไปถามพวกมันเลยดีมั้ยคะ” วิคเตอร์พูดขึ้น
“คิดว่าพวกมันจะบอกงั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก” เอกพูดขึ้น
“คงต้องรอให้พวกเขาเผยไต๋มาสินะ” มีร์พูดขึ้น
“ไม่รู้ป่านนี้นาจะเป็นยังไงบ้างนะเนี่ย” วายุพูดขึ้น
“ใช่ ฉันเห็นไปอยู่ด้านหลัง สงสัยจะเฮิร์ทหน่ะ” ภพพูดขึ้น
“นี่แหละนะ ยิ่งรักมากก็ยิ่งทุกข์มากนะ” เชนพูดขึ้น
“ฉันก็ไม่ไว้ใจผู้หญิงคนนั้นเหมือนกันค่ะ
ดูเธอร้ายๆนะคะ” วิคเตอร์พูดขึ้น
“นั่นสิ ฉันไม่ถูกชะตากับยัยนั่นยังไงไม่รู้หน่ะ” ยูกิพูดขึ้น
“ใจเย็นน่าทุกคน มันอาจไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้” อาซามิพูดขึ้น
“แล้วแบบนี้เราจะทำยังไงต่อดีหล่ะ” ภพถามคนในกลุ่ม
“ก็อย่างว่านั่นแหละ
เราต้องเราให้พวกนั้นเผยตัวมายังไงหล่ะ” มีร์พูดขึ้น
“แต่เราต้องจับตาดูพวกเขาด้วยสิ
ไม่งั้นมันอาจสายเกินไปนะ”
วายุพูดขึ้น
“ถ้าพวกนั้นก่อเรื่องอะไรหล่ะก็
ฉันฆ่าพวกมันหมดแน่” เอกพูดขึ้น
“ไม่แน่นะ ระหว่างที่พวกเราคุยกัน
พวกมันอาจเฝ้าดูอยู่ด้านนอกก็ได้” ไผ่พูดขึ้น
“ถ้างั้นฉันจะไปดูให้แน่ใจเอง
ว่าพวกมันอยู่หรือเปล่า” ปัดพูดขึ้น
“อย่าเลยครับ ถ้ามันจับตัวคุณได้
มันจะเอาคุณมาต่อรองนะ” เชนพูดขึ้น
ทางด้านของเอลิซ่า ซึ่งเธอกำลังสวดมนต์กับนาโอมิในห้องหนึ่ง
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ชายผู้มาจากสมาชิกใหม่สองคนก็เข้ามาในห้องๆนั้นด้วย
เพื่ออะไรบางอย่าง
“พวกคุณสวดมนต์กันเหรอครับ” ชายคนนั้นถามเอลิซ่า
“ใช่ค่ะ พวกคุณจะมาสวดกับเราก็ได้นะคะ” เอลิซ่าพูดขึ้น
“อ้อ เราไม่ใช่พวกคลั่งศาสนาเท่าไหร่ แต่ก็พอฟังได้ครับ” ชายอีกคนหนึ่งพูด
“ว่าแต่ พวกคุณเก่งมากเลยนะ มาถึงที่นี่ได้เนี่ย” นาโอมิพูดขึ้น
“อ้อ ก็นิดหน่อยครับ”
ในระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกัน
จู่ๆเอ็ดเวิร์ดและจอห์นก็เข้ามาในห้อง
“เออนี่ ยังไม่นอนกันเหรอครับเนี่ย” เอ็ดเวิร์ดถามพวกเธอ
“อ้าว พวกคุณก็มาสวดมนต์ด้วยเหรอเนี่ย” จอห์นถามชายสองคนนั้น
“อ้อ เรากำลังจะไปพอดี ไม่มีอะไรแล้วครับ” ชายสองคนนั้นเดินออกไป
“มาพอดี ฉันเกือบยิงสองคนนั้นแล้วนะ” นาโอมิพูดขึ้น
“ทำไมกัน เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ” เอ็ดเวิร์ดถามอย่างสงสัย
“นาโอมิคิดว่า ถ้าพวกคุณไม่เข้ามา เราสองคนต้องแย่แน่ๆหน่ะค่ะ” เอลิซ่าพูดขึ้น
“พวกเขาต้องการอะไรกันแน่นะ” จอห์นได้แต่คิดในตอนนั้น ในขณะเดียวกัน
รันก็เดินเข้ามาในห้องด้วย
“เออนี่ พวกคุณมีผ้าเช็ดหน้าหรือเปล่าคะ” รันถามพวกเขา
และในตอนนั้นเองเอลิซ่าก็ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้กับรันไป
“รัน เธออยู่ดูแลออโรร่าให้ดี
ฉันสังหรณ์ใจว่าจะมีเรื่องหน่ะ” นาโอมิพูดขึ้น
“ได้เลยค่ะ” จากนั้นรันก็เดินออกจากห้องไป
กลับมายังฐานลับแห่งหนึ่งในเขตภาคเหนือ
เฮลิคอปเตอร์ลำที่นำร่างโตโต้มาก็มาจอดบนดาดฟ้าตึกเพื่อเตรียมลำเลียงร่างของโตโต้ไปทำการรักษา
“รีบพาเขาไปที่ห้อง ด่วนเลย”
พวกเขาจับโตโต้นอนลงบนเตียง
จากนั้นก็พาโตโต้เข้าไปในห้องๆหนึ่ง
ซึ่งนักวิทยาศาสตร์และหมอก็ช่วยกันประคองอาการของเขาไว้
“มีปริมาณเชื้อในตัวสูง แต่สมองยังไม่ถูกกัดกิน
อัศจรรย์มาก”
“นั่นสิคะ คนแบบนี้มีน้อยนะคะเนี่ย”
“รักษาเขาก่อน แล้วค่อยทดลองตัวเขาอีกที”
พวกเขาช่วยกันแคะกระสุนออกจากร่างโตโต้
จากนั้นก็พยายามรักษาบาดแผลของเขาไว้
ซึ่งน่าแปลกใจมากที่แผลของเขาฟื้นฟูตัวเองได้อย่างรวดเร็วมาก
โดยที่แทบไม่ต้องใช้ยาอะไรเลย
“ตอนนี้อาการของเขาทรงตัวแล้วค่ะหมอ”
“ดีมาก เราจะเอาร่างของเขาไปตรวจสอบ
ส่วนเลือดที่แบทให้ รีบเอาไปตรวจสอบในทันทีเลยนะ”
พยาบาลสาวคนนั้นรีบนำเลือดไปยังห้องทดองในทันที
จากนั้นเธอก็รีบโทรหาแบทที่กำลังขับรถกลับไปยังหน่วย
แบทรับโทรศัพท์ของพยาบาลคนนั้นในทันที
“สวัสดีแบท เดินทางเป็นยังไงบ้างหล่ะ”
“ก็ราบรื่นดี ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง”
“ก็ดีหน่ะ เรากำลังจะตรวจสอบและทดลองร่างของเขา
แปลกใจมากที่ติดเชื้อขนาดนั้น สมองยังสามารถสั่งการได้”
“บอกแล้ว หมอนั่นต้องไม่ธรรมดา”
“ว่าแต่ คุณจะมาถึงที่นี่ได้เมื่อไหร่หล่ะ”
“ก็จะพยายามหน่ะ
รอดูว่าน้ำมันจะหมดกลางทางหรือเปล่า แบทเลิกกัน”
แบทปิดโทรศัพท์ จากนั้นก็ขับรถต่อไปเรื่อยๆ
ตามเส้นทางที่มืดสลัว และปราศจากร่องรอยของสิ่งมีชีวิต ณ ตอนนั้น
กลับมายังบ้านพักของนา
ในตอนนั้นเองนาตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อมาหาน้ำกิน
เขาหยิบน้ำมาหนึ่งขวดจากนั้นก็ดื่มมัน ในขณะเดียวกันนั้นเอง
อ้อมแฟนเก่าของเขาก็เดินมาคุยกับเขาโดยที่ไม่มีใครอยู่ด้านข้าง
“นา ว่างหรือเปล่า ฉันขอคุยด้วยหน่อยสิ”
“นี่ยังไม่นอนอีกเหรอ”
“ยังหรอก ฉันแค่อยากจะคุยกับเธอก่อนหน่ะ”
“ปกติเธอไม่นอนดึกนี่ ทำไมวันนี้ถึงยังไม่นอนนะ”
“อย่าประชดฉันแบบนั้นสิ ฉันรู้ฉันทำผิด”
“นี่เธอเพิ่งจะรู้งั้นเหรอ”
“ฉันแค่ต้องการความมั่นคง เธอก็รู้นี่
เธอควรจะเข้าใจนะ”
“ผมข้าใจนะ เข้าใจดีซะด้วย
ผมถึงให้คุณไปจากที่นี่พรุ่งนี้ไงหล่ะ” นาพูดอย่างโมโห
“นา ฉันขอโทษ แต่เธอก็รู้นี่ ฉันไม่มีทางเลือก”
“ฉันรู้ ผู้หญิงแบบเธอ เอาตัวรอดได้เสมอ ทำไมหล่ะ
เขาตายแล้วสินะ เธอเลยขาดที่พึ่งหน่ะ” อ้อมได้ยินจึงหน้าเสีย แต่ก็ยังเก็บอาการไว้ได้
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขาเลยนะ”
“งั้นเหรอ ไปนอนกับเขามากี่ครั้งแล้วหล่ะ
ได้เงินจากเขาไปเท่าไหร่แล้วหล่ะ”
“นี่ เธอดูถูกฉันอย่างงั้นเหรอ”
“ไม่ ฉันก็พูดเกินจริงไปนิด อย่าโกรธกันเลยนะ”
“นา เธอก็รู้นี่ ว่าถ้าฉันไม่ทำ ฉันก็คงไม่มีวันนี้หรอก”
“โดยใช้กูเป็นเครื่องมืองั้นเหรอ
กูไม่น่ามาเจอผู้หญิงแบบมึงเลย” นาพูดแบบใส่อารมณ์อีกครั้ง
“เธอพูดแบบนี้คิดดีแล้วใช่ไหม”
อ้อมพูดขึ้นจากนั้นก็เอาปืนจ่อหัวเขา
นายกมือขึ้นในทันทีอย่างใจเย็น
“ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าดูถูกฉัน”
และในตอนนั้นเอง สมาชิกใหม่ที่เธอพามาก็มาค้นตัวเขา
จากนั้นก็เก็บปืนเขาเอาไว้ในทันที
“นี่อ้อม จะเอายังไงกับมันดีเนี่ย”
“จับมันไปก่อน มีคนอยากเจอกับมันพอดี” อ้อมพูดขึ้น
“อ้อ ผู้จัดการยังไม่ตายสินะ” นาพูดขึ้น
“ใช่ ถ้าเขาเจอเธอ เธอคงจะรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้ไปไหน เซนและพรรคพวกคนอื่นๆก็มาล้อมพวกของอ้อมเอาไว้
โดยเอาปืนจ่อที่ตัวเธอด้วย
“ฉันว่าแล้วพวกแกมันเจ้าเล่ห์
แล้วฉันก็คิดถูกมาตลอดเลย”
เซนพูดขึ้น
“ทิ้งอาวุธลงซะ ไม่งั้นพวกแกตายหมดแน่” จินพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็ลดปืนลง
ส่วนชิตและฮันเตอร์ก็ไปริบปืนของพวกมันคืนมา
“เดาไว้แล้ว นังกากีแบบนี้ต้องมาแผนสูง
คนแบบเธอเนี่ย ถ้าไม่ทำงานใหญ่ เธอคงไม่ลดตัวมาคุยดีๆกับฉันสินะ”
นาพูดกับอ้อม
จากนั้นอ้อมล้มลงและคุกเข่าอ้อนวอนนาอย่างตัวสั่น
“นา ฉันขอโทษ ฉันถูกบังคับ อย่าทำอะไรฉันเลยนะ”
“เฮ้อ คนอย่างเธอเนี่ย น่าฆ่าให้ตายซักสิบรอบเลยนะ” นาพูดขึ้น
“เออนี่ แล้วนี่จะเอายังไงต่อหล่ะ” ชิตถามพวกเขา
“สงสัยว่าพวกมันคงต้องรออยู่ด้านนอกแน่ๆ” ฮันเตอร์พูดขึ้น
“ก่อนอื่นเราคงต้องล่อให้พวกมันออกมาก่อนหน่ะ” ชิโระพูดขึ้น
“นา นายจะเอายังไงก็แล้วแต่นายเลยนะ” จินพูดขึ้น
“อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันขอโทษ” อ้อมพูดขึ้นอย่างอ้อนวอน
แต่นากระชากแขนเธอมาในทันที
“ฉันอยากรู้ว่าจะมีใครมาช่วยเธอหรือเปล่านะ
พวกพี่ครับ ไปปลุกทุกคนมาครับ คืนนี้อาจจะมีการนองเลือดก็ได้” นาพูดขึ้นจากนั้นก็พาจินออกไปด้านนอก
“นี่เธอจะพาฉันไปไหนเนี่ย”
“เดี๋ยวเธอก็รู้เองนั่นแหละน่า”
ณ เขตหนึ่งทางจังหวัดพิษณุโลก
ปกรณ์ยังคงเดินทางโดยที่กางแผนที่แล้วเดินไปตามทางเรื่อยๆ
เพื่อเสาะหาความช่วยเหลือเพิ่มเติม ตอนนี้เขาอยู่ได้ด้วยวิทยุสื่อสารแบบพกพา
และเสบียงเพียงบางส่วนก็แค่นั้น เขาเดินทางไปยังชุมชนแรกที่เขาพบในแผนที่
เขาค่อยๆสอดส่องดูสถานการณ์อยู่แถวนั้นก่อน
จากนั้นจึงค่อยๆเข้าไปในค่ายแห่งนั้นเพื่อตรวจสอบ
“ไม่มีใครอยู่เลยเหรอวะเนี่ย”
ปกรณ์เดินเข้าไปในค่าย แต่ก็ดูเหมือนกับว่าไม่พบสัญญาณชีวิตของใครเลย
เขาเดินเข้าไปในเต้นท์เพื่อสำรวจหาของเพิ่มเติมหรือเบาะแสที่เขาพอจะใช้งานได้
เขาเข้าไปในเต้นท์แห่งหนึ่ง
เขาไปเจอรายงานอยู่เล่มหนึ่งที่ยังถูกทำลายไม่หมดวางอยู่บนโต๊ะ
เขารีบไปหยิบมันมาอ่านในทันที
“วันที่ 14 กันยายน
เหตุการณ์เข้าขั้นวิกฤต พวกมันมีอยู่เต็มไปหมด เราพยายามต้านแต่ไม่ได้แล้ว
เราต้องย้ายไปค่ายใหญ่ซึ่งห่างจากที่นี่ไป 2 กิโลเมตรทางตะวันตก
ผมอยากจะขอโทษทุกคนที่ต้องทิ้งฐานที่มั่นมาก่อน
แต่ถึงยังไงก็ขอให้พระเจ้าคุ้มครองพวกคุณทุกคน”
ปกรณ์วางรายงานไว้บนโต๊ะ
จากนั้นเขาก็เอาแผนที่มาไว้บนโต๊ะจากนั้นก็วงกลมอะไรบางอย่างไว้บนแผนที่
“อืม 2 กิโลเมตรงั้นเหรอ
ขอให้มันอยู่ที่นี่เถอะ”
กลับมายังที่พักของนา นาลากตัวอ้อมออกมาด้านนอก
เขาจะพาเธอขึ้นไปบนกำแพง เพื่อเรียกพรรคพวกของเธอให้ออกมา
เผื่อว่าพวกนั้นยังดูอยู่
“เบาๆหน่อยสิ ฉันเจ็บนะ” อ้อมพูดขึ้น
“อย่าห่วงเลย ฉันไม่ฆ่าเธอตอนนี้หรอก”
“ฉันขอเถอะนะ เห็นแกคนเคยรักกันเถอะ”
“คนเคยรักเหรอ จบเรื่องนี้เมื่อไหร่หล่ะก็
ฉันเล่นงานเธอแน่”
นาลากอ้อมไปที่ด้านบนกำแพง
จากนั้นเขาก็เอาปืนจ่อหัวเธอในทันที
“ผู้จัดการ ผมรู้ว่าคุณมองอยู่
ถ้าไม่อยากให้ชู้รักของคุณเป็นอะไรไป ออกมาเดี๋ยวนี้”
นาตะโกนไปหนึ่งครั้ง
แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณอะไรตอบกลับมา
“เขาไม่อยู่ที่นี่หรอก เชื่อฉันเถอะ”
นาไม่ฟังจากนั้นก็ยิงไปที่ด้านหน้าของอ้อม
เธอตกใจมาก
“คุณโรจน์คะ ช่วยฉันด้วย” อ้อมตะโกนออกไป และในตอนนั้นเอง
ชายคนหนึ่งแต่งตัวดูดีก็เดินออกมาพร้อมกับถือปืนมาด้วย
และยังมีลูกน้องของเขาอีกนับสิบคนเดินออกมาพร้อมกัน
“ว่าไงนา สบายดีนะ ไม่ได้เจอกันนานเลย”
“สบายดีครับผู้จัดการ
ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะครับ”
และด้านในบ้าน พวกเขาก็รีบตื่นขึ้นมาเพราะกำลังจะมีเรื่อง พวกเขาเตรียมอาวุธกับกระสุนพร้อมเผื่อว่าพวกเขาต้องไปจากที่นี่
โดยที่พวกผู้หญิงเก็บเอาเสบียงไปขึ้นรถเหมือนเดิม
ส่วนพวกผู้ชายก็เตรียมป้องกันเผื่อพวกมันจะบุกมา
“ทุกคน
เราต้องรีบกันหน่อยนะครับ ด่วนเลย” เชนพูดขึ้นโดยที่คนอื่นๆกำลังกุลีกุจอขนของไป
“คงต้องให้นาถ่วงเวลาไว้ซักพักหน่ะ” ชิโระพูดขึ้น
“ฉันเป็นห่วงเขา
ฉันจะออกไปข้างนอก ใครจะไปบ้าง” จินถามคนในกลุ่ม
“ฉันไปด้วย
อย่างน้อยก็น่าจะพอต้านพวกมันได้” เซนพูดขึ้น
“ฉันก็ไป
ฮันเตอร์จะไปด้วย นี่คุณจอห์น ประตูด้านหลังเปิดให้พร้อมนะครับ” ชิตพูดกับจอห์น
“ฉันรู้แล้วน่า
ไม่รู้พวกมันจะดักอยู่ด้านหลังหรือเปล่านะ” จอห์นพูดขึ้น
จากนั้นก็ออกไปเตรียมรถของเขา
“ผมว่าเราไปช่วยนากันดีกว่า
ไม่รู้เขาจะเป็นไงบ้างนะ”
ฮันเตอร์พูดขึ้น
“ถ้าอย่างงั้นฉันไปด้วยก็แล้วกัน” ปัดพูดขึ้น จากนั้นก็หยิบปืนพกของเธอไปด้วย
จากนั้นพวกเขาก็ออกไปดูนาที่อยู่ด้านนอก
“นี่นาเขามีปัญหาอะไรงั้นเหรอ” วายุถามคนในกลุ่ม
“ได้ยินว่าแฟนเก่าเขาพาพวกมาที่นี่
จะมาปล้นเราไงหล่ะ” ภพพูดขึ้น
“แล้วแบบนี้นาจะเป็นอะไรมั้ยอ่ะ” อาซามิถามขึ้น
“ตอนนี้เราต้องรีบเก็บของให้เร็วที่สุด
นาเขาถ่วงเวลาให้เราอยู่ ไม่เป็นไรหรอก” เชนพูดขึ้น
“เราก็รีบอยู่เนี่ยพี่
แต่ข้าวเป็นกระสอบนี่มันหนักชิบเลยพี่” เอกพูดอย่างอารมณ์เสียตอนที่เขาแบกข้าวกับไผ่
“เออน่า
อีกไม่กี่กระสอบเอง กลัวอะไร” ไผ่พูดขึ้น
“แล้วนี่ใครไปเปิดประตูหลังอยู่หล่ะคะ” มีร์ถามคนในกลุ่ม
“ฉันเห็นลุงเอ็ดเวิร์ดกับลุงจอห์นไปเปิดอยู่นะ” ยูกิพูดขึ้น
“ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้อยู่สงบๆหล่ะเนี่ย” วิคเตอร์พูดอย่างเซงๆ
“ไม่ต้องห่วงหรอกนะ
คงเป็นแบบนี้อีกไม่นาน” เอลิซ่าพูดจากนั้นก็ขนของขึ้นรถ
“ออโรร่า
ไปรอพี่ในรถก่อนนะ” รันอุ้มออโรร่าไปขึ้นรถด้านนอก
“ระวังตัวด้วยนะคะพี่รัน” ออโรร่าพูดขึ้น
“ฉันจะอยู่เฝ้าที่รถเอง
พวกเธอไปช่วยเขาก็แล้วกัน”
นาโอมิพูดกับทุกคนจากนั้นก็ไปกับรันด้วย
“เรามาพูดแบบเปิดอกเลยนะครับผู้จัดการ
ไหนๆผมก็ไม่ได้เป็นลูกน้องคุณแล้ว” นาพูดกับเขา
“นายไปจากที่นี่ไม่รอดหรอก
ยอมแพ้เถอะ” ผู้จัดการของนาพูดกับเขา
“งั้นเหรอครับ
คุณเชื่อแบบนั้นงั้นเหรอ”
“ใช่
คนของเราเยอะกว่า นายไม่มีทางรอดหรอก”
“ไม่ต้องห่วง
ผมอยู่กับคนเก่งๆ ไม่เหมือนคุณ มีแต่พวกประจบสอพลอ เหมือนนังผู้หญิงคนนี้ยังไงหล่ะ”
“นา
ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้นะ” อ้อมพูดขึ้น แต่นายังเล็งปืนใส่เธอ
“ฉันปล่อยแน่
ผู้หญิงแบบเธอ ปล่อยให้ไปอยู่อย่างมีความสุขกับมันไงหล่ะ” นาพูดขึ้นในระหว่างที่จินกำลังมองดูเขาอยู่
“นา พอได้แล้ว
ไปจากที่นี่กันเถอะ” จินตะโกนบอกนา
“ไม่
ผมยังไม่จบเรื่องนี้”
อ้อมอาศัยจังหวะนั้นเหยียบเท้านา จากนั้นเธอก็แย่งปืนจากนามา
อ้อมพยายามจะยิงนาแต่จินยิงแขนเธอจนตกจากกำแพง เนื่องจากกำแพงไม่สูงมากอ้อมเลยรอดมาได้
โรจน์ไปดูเธอในทันที
“เป็นอะไรหรือเปล่า”
“ไม่เป็นไร
ลุยกับพวกมันเลยค่ะ”
โรจน์สั่งให้ลูกน้องของเขาบุกเข้าไปในบ้าน นารีบกระโดดลงจากกำแพง ส่วนนาก็กระโดดลงมาแล้วรีบไปสมทบกับพวกของจินในทันที
“นา รีบไปก่อน
ฉันจะยิงคุ้มกันให้” แต่นาเอาปืนพกของจินออกมาจากซอง ทำเอาเธอตกใจมาก
“ไม่เป็นไรหรอก
เรื่องนี้มันเรื่องของฉัน ให้พวกมันมาเลย”
และไม่ทันไร พวกนั้นก็เปิดประตูเข้ามา แล้วเตรียมยิงกับคนในบ้านทันที
โดยที่นายโรจน์พูดกับลูกน้องของเขาก่อนที่จะบุกเข้าไปด้านใน
“ถ้าเป็นไปได้
จับเป็นมาให้ฉัน ฉันอยากได้พวกมันมาใช้งานหน่อย”
เขาสั่งลูกน้องจากนั้นก็ให้บุกเข้าไปตามฆ่าพวกของนาให้หมด
===================================================================================
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ
ความคิดเห็น