คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : EP 13 : ขยะแขยง
พวกของนาหนีกลับเข้าไปในบ้านหลังเดิมของพวกเขา ชิโระรีบปิดหน้าต่างทุกบานในบ้าน
จากนั้นก็ให้ทุกคนเตรียมอาวุธให้พร้อม
เนื่องจากว่าพวกมันไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่
ในตอนนั้นทุกคนก็มารวมตัวกันที่ห้องรับแขกของบ้านเพื่อประชุมหารือกัน
“เอาหล่ะ
ทุกคนมากันครบแล้วนะ เตรียมปืนทุกคนให้พร้อมด้วย” ชิโระพูดขึ้น
“พวกมันเป็นใครกันหล่ะ
บอกฉันหน่อยสิ” แบทพูดขึ้น
“สงสัยจะเป็นโจรหน่ะ
เตรียมพร้อมก็แล้วกัน” เซนพูดขึ้น
“เฮ้อ
หนีซอมบี้ก็เหนื่อยแล้ว ยังมาเจอโจรอีกเหรอ” ปัดพูดขึ้นอย่างเซงๆ
“ก็ทำไงได้
กฎหมายไม่มีผลอะไรแล้วนี่”
เอกพูดขึ้น
“ว่าแต่
คืนนี้เราจะเอายังไงต่อหล่ะ” รันถามพวกเขา
“ตืนนี้เราต้องแบ่งเวรกันเฝ้าหน่ะ
เวรแรกฉันอยู่เอง” จินพูดขึ้น
“ฉันอยู่ด้วย
คืนนี้ฉันนอนไม่ค่อยหลับหน่ะ” นาพูดกับจิน
“พวกมันมีประมาณกี่คนหล่ะคะ” อาซามิถามอย่างซื่อๆ
“ดูจากจำนวน
น่าจะเป็นสิบคน หรือมากกว่านั้นหน่ะ” ฮันเตอร์พูดขึ้น
“เฮ้อ
ดูท่างานนี้เราลำบากซะแล้วหล่ะ” วายุพูดขึ้น
“ว่าแต่
บ้านของคนที่พวกพี่ไปมาจะเป็นอะไรหรือเปล่า” ภพพูดขึ้น
“ไม่แน่นะ
บ้านหลังนั้นอาจเลี้ยงพวกโจรนั่น แล้วสั่งให้มาปล้นพวกเราก็ได้” เชนออกความเห็น
“อ่า
คิดมากไปหรือเปล่าคะพี่เชน คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอก” ยูกิพูดขึ้น
“แต่ก็ไม่แน่นะ
ตอนนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้นี่” วิคเตอร์พูดขึ้น
“เอาเป็นว่า
อย่าเพิ่งสรุปอะไรตอนนี้เลยค่ะ” มีร์ออกความเห็นให้กับทุกคน
“ก็ดีนะ ว่าแต่
เราจะไปจากที่นี่กันดีหรือเปล่า” ไผ่ถามคนในกลุ่ม
“ก็ต้องไปนั่นแหละ
ไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้ถ้าได้เสบียงเราจะไปเลย” ชิตพูดขึ้น
“เอาเป็นว่า
เราไปพักผ่อนกันก่อนดีกว่านะจ๊ะ” เอลิซ่าพูดกับคนในกลุ่ม
“นั่นสิ
เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะรีบซ่อมรถแล้วไปจากที่นี่เลย” จอห์นพูดขึ้น
“เอ้า
นี่รถเราเสียเหรอ ไม่เห็นนายบอกเลย” เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้น
“ก็เขาเพิ่งจะบอกอยู่นี่ไง
แค่นี้ก็จำไม่ได้” นาโอมิพูดขึ้นจากนั้นก็เดินกลับขึ้นไปชั้นสอง
“ถ้างั้นหนูไปนอนก่อนก็แล้วกันนะคะ” ออโรร่าเดินขึ้นไปนอนชั้นสอง
ส่วนโตโต้ก็ได้แต่สงสัยว่าพวกเขาคุยอะไรกัน
เช้าวันต่อมา หลังจากที่บางคนพักผ่อนอย่างเอาเป็นเอาตาย
บางคนก็เฝ้ายามไปด้วยเนื่องจากกลัวว่าพวกโจรจะมาปล้นพวกเขา เมื่อทุกคนตื่นขึ้น
ทุกคนก็รีบไปทำกิจวัตรประจำวันของตัวเอง ที่ด้านนอก
เอ็ดเวิร์ดและจอห์นช่วยกันเช็ครถของพวกเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง
“เฮ้ยพวก
มีน้ำมันเหลืออยู่หรือเปล่าเนี่ย” เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้น
“น่าจะมีหว่ะ
เดี๋ยวฉันไปเอามาแป๊ป” จอห์นไปหยิบน้ำมันหนึ่งถังมาใส่รถ
พวกเขาต้องแบ่งเฉลี่ยกันไปเนื่องจากว่าน้ำมันเหลือน้อย
และในขณะเดียวกับแบทก็ไปที่รถของเขา
เอ็ดเวิร์ดและจอห์นเห็นดังนั้นจึงไปที่รถของแบท
“ให้พวกเราดูรถให้ดีกว่าน่า” จอห์นพูดขึ้น
“อ่า
รถฉันยังดีอยู่หน่ะ ไม่เป็นไรหรอก” แบทพูดขึ้น
แต่ตอนนั้นเอ็ดเวิร์ดก็เปิดฝากระโปรงรถแล้วดูสภาพที่อยู่ด้านใน พวกเขาตรวจสอบเครื่องยนต์จนพบความผิดปติในรถ
“โห
นี่นายตรวจรถครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่เนี่ย” เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้น
“ไม่รู้สิ
น่าจะนานอยู่อ่ะนะ” แบทพูดขึ้น
จากนั้นจอห์นก็ช่วยกันซ่อมเครื่องยนต์บางส่วนให้กับแบท
“แบตเตอรี่ใกล้เน่าแล้วนะเนี่ย” จอห์นพูดขึ้น
“เดี๋ยวฉันไปเบิกกับสำนักงานก็แล้วกัน” แบทพูดขึ้นอย่างเซงๆ และในขณะเดียวกัน
เอลิซ่าก็เดินออกมาด้านนอก เอาอาหารมาให้กับพวกเขาทั้งสามคน
“วันนี้กินข้าวไปก่อนนะ
เราไม่มีที่โม่แป้งหน่ะ” เอลิซ่าเอาข้าวมาให้กับพวกเขา
“ก็ดีเหมือนกันนะ
อยากกินพอดีเลย” เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้นแล้วหยิบชามข้าวมา
“ถ้ากินเสร็จแล้วก็เอาไปไว้ด้านในนะ” เอลิซ่าพูดอีกครั้ง
ทางด้านของวายุและคนอื่นๆ พวกเขาก็นั่งทำงานของพวกเขา
บางคนก็ใส่กระสุนลงในแม็คกาซีน บางคนก็ช่วยกันจัดแจงอาหาร ในระหว่างที่พวกเขากำลังจัดการกันอยู่
บางคนก็นั่งคุยกันไปด้วย
“เออนี่
พวกพี่ชิโระออกไปไหนแต่เช้าเลยเนี่ย” อาซามิถามคนในกลุ่ม
“สงสัยคงจะไปที่บ้านที่เขาเล่าให้ฟังหน่ะ” ไผ่พูดขึ้น
“แล้วนี่
เจ๊ปัดเราก็ไปด้วยงั้นเหรอ”
เอกถามไป
“ก็ไปด้วยหน่ะ
เผื่อมีอะไรเกิดขึ้น” ยูกิพูดขึ้น
“ฉันว่าฉันไม่ค่อยไว้ใจที่นั่นเท่าไหร่นะ” วายุพูดขึ้น
“นั่นสิ
ไม่รู้ว่าพวกเขาจะมีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า” ภพพูดขึ้น
“ฉันเห็นด้วยนะ
เราน่าจะไปสอดส่องที่นั้นด้วยนะ” วิคเตอร์พูดขึ้น
“แต่ถ้ามีคนดักเล่นงานเราเหมือนตอนนั้นหล่ะ” มีร์พูดขึ้น
“จะกลัวอะไร
เราก็มีปืนเหมือนกันนะ” เชนพูดขึ้น
“แต่พวกมันมีเป็นสิบเลยนะ
เราจะสู้มันได้เหรอ” ภพพูดอย่างเป็นกังวล
“ทั้งหมู่บ้านเราก็สู้มาแล้วนี่
จะกลัวอะไรหล่ะ” เอกพูดออกมา ทำให้ภพถึงกับเงียบในตอนนั้น
“ใจเย็นน่า
ชาวบ้านพวกนั้นไม่ใช่โจรซะหน่อย” วายุพูดขึ้น
“เอางี้มั้ย เดี๋ยวถ้าช่วงเย็นเขายังไม่กลับมา
เราไปดูก็ได้นะ” วิคเตอร์พูดขึ้น
“แล้วเราจะบอกพวกพี่แบทหรือเปล่า” อาซามิถามคนในกลุ่ม
“ก็เดี๋ยวค่อยไปบอกก็ได้นี่” มีร์ตอบไป
“สงสัยจัง
เราจะไปจากที่นี่เมื่อไหร่หล่ะ” ไผ่พูดขึ้น
“แต่อยู่ที่นี่เราก็ปลอดภัยนะ
ว่ามั้ย” ยูกิพูดขึ้น
“แต่เราคงต้องอยู่ชั่วคราว
มันไม่ปลอดภัยถ้าจะอยู่นานๆ” เชนออกความเห็น จากนั้นพวกเขาก็ยังคงนั่งทำงานต่อไป
ในสวนหลังบ้าน ออโรร่าวิ่งเล่นกับโตโต้อย่างสนุกสนาน
โดยที่มีรันนั่งมองอยู่ข้างๆ และในขณะเดียวกันนั้นเอง นาโอมิก็ออกมาจากบ้านแล้วมานั่งลงข้างๆกับรันด้วย
“ขอนั่งด้วยคนนะจ๊ะ” นาโอมิพูดขึ้น
“ได้ค่ะ
เชิญเลยค่ะ”
“ดูเหมือนหนูคนนั้นจะสนุกมากเลยนะ”
“นั่นสิคะ
เหมือนเธอจะชอบเขาด้วย” รันพูดขึ้น
“เหมือนว่าเธอได้รับการเติมเต็มบางอย่างหน่ะ
ตอนเด็กๆฉันก็เคยเป็นแบบเธอนะ” นาโอมิพูดขึ้น
จากนั้นเธอก็เปิดสมุดโน้ตให้กับรันดู ซึ่งเป็นรูปของนาโอมิสมัยที่ยังเด็ก
“คุณยังเก็บรูปพวกนี้ด้วยเหรอคะ”
“แน่นอน
มันเป็นสิ่งเดียวที่ฉันเหลือหน่ะ” นาโอมิพูดแล้วยิ้มออกมา
ส่วนออโรร่าก็ยังคงวิ่งเล่นกับโตโต้
“พี่โตโต้
จับหนูให้ได้สิ”
โตโต้พอเข้าใจที่ออโรร่าพูด เขาไล่จับเธอไปมา จนสุดท้ายเขาก็ตะครุบตัวเธอลงไป
“เย้
พี่โตโต้เก่งจังเลย”
“แฮ่ๆๆๆ”
ทางด้านของนาและพรรคพวก
พวกเขายังคงเดินทางไปเรื่อยๆเพื่อไปยังของนางน้อย
เพื่อไปตรวจดูเสบียงที่พวกเขาพอจะแลกเปลี่ยนได้
โดยที่พวกเขาได้นำน้ำมันบางส่วนเอาไปแลกเปลี่ยนด้วย พวกเขามองไปรอบๆด้าน
ไม่พบสิ่งผิดปกติใดที่เคลื่อนไหว
“ดูเหมือนว่าพวกมันจะหายหัวไปแล้วนะ” จินพูดขึ้น
“ก็ดีแล้วดี
ปล่อยมันเถอะ แต่อย่าให้เจออีกแล้วกัน” นาพูดขึ้น
“แล้วนี่
บ้านของพวกนั้นจะโดนปล้นหรือเปล่าหน่ะ” ชิโระถามไป
“ฉันว่าไม่น่านะ
รั้วบ้านพวกเขาแข็งแรงจะตาย” เซนพูดขึ้น
“พวกมันอาจจะกลับมาอีกแน่
ตอนนั้นก็รอดูเถอะ” ฮันเตอร์พูดขึ้น
“หวังว่ากระสุนเราจะมีพอสู้กับมันนะ” ชิตพูดขึ้น
“ดูเหมือนพวกมันไม่มีปืนนะ
ดูสิลูกศรปักเต็มเลย” ปัดพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็เดินทางต่อ
จนกระทั่งไม่กี่อึดใจ พวกเขาก็มาที่หน้าประตูรั้วของบ้าน
โดยที่นางน้อยและคนอื่นๆกำลังทำงานอยู่หน้าบ้านของพวกเขา
“อ้าว
สวัสดีตอนเช้าจ้าทุกคน”
“สวัสดีครับ
เมื่อคืนมีใครมาปล้นที่นี่หรือเปล่าครับ” ชิโระถามพวกเขา
“อ้อ
ผมได้ยินเสียงเมื่อคืน เราเตรียมพร้อมไว้แล้วหล่ะ” เขตตอบไป
“แล้วนี่
พวกคุณกำลังทำอะไรกันอยู่หล่ะครับ” นาถามไป
“อ้อ
ตอนนี้เรากำลังเก็บเตรียมเกี่ยวข้าวหน่ะ” น้อยตอบไป
“พวกเราเอาน้ำมันมาด้วยค่ะ
เราแค่เอาน้ำมันมาส่ง แล้วก็ไปแล้ว” จินพูดขึ้น
“อ้าว
พวกเราทำอาหารเย็นด้วย เนื้อย่างเลยนะจ๊ะ” น้อยพูดกับพวกเขา
“ใช่ๆ
พวกคุณน่าจะมากินกับเรานะ”
“หะ
มีเนื้อย่างด้วย ไม่ได้กินเนื้อดีๆมานานแล้วเนี่ย” ชิตพูดขึ้น
“นั่นสิ
อยากกินเหมือนกัน เราน่าจะลองดูนะ” ฮันเตอร์พูดขึ้น
“แต่ว่า
พวกเราต้องบอกพวกเราที่อยู่ในหมู่บ้านด้วยค่ะ” เซนพูดขึ้น
“ได้สิจ๊ะ
ไปเรียกมาเลยก็ได้ ยังไงพวกเธอก็เข้ามาด้านในก่อนดีกว่านะ”
น้อยชวนพวกของนาให้เข้ามาในบ้าน แต่ในขณะเดียวกัน
นาก็เห็นอะไรที่ผิดสังเกตตรงรั้วบ้าน ซึ่งมีลูกศรมากมายปักอยู่รอบๆ
และในตอนนั้นเอง จินก็ตะโกนบอกเขา
“นา
มองอะไรอยู่หน่ะ”
นาพยายามไม่คิดอะไร จากนั้นก็เดินตามพวกของจินไปด้านใน
กลับมายังสถานีวิทยุของปกรณ์ ปกรณ์ยังคงนั่งรอความช่วยเหลือ
และติดต่อโลกภายนอกไปเรื่อยๆ ท่ามกลางบรรยากาศรอบข้างที่ยังคงเงียบเชียบ
ในระหว่างนั้นเอง จู่ๆก็ทีกระเป๋าใบหนึ่งโยนมาอยู่ด้านหน้าสถานีของพวกเขา
ปกรณ์รู้สึกตกใจจึงรีบออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเขาเดินออกไป
เขาก็พบกับกระเป๋าใบหนึ่งที่มาวางไว้ และซอมบี้ที่อยู่รอบด้านก็ตายจนหมด
ปกรณ์รีบหยิบกระเป๋าของเขาแล้วเข้าไปด้านใน เขาเปิดกระเป๋าออกมา เขาก็พบกับเสบียงบางส่วน
กระสุนปืนแล้วก็ยารักษาโรค และในระหว่างที่เขากำลังตรวจสอบสินค้า
เขาก็ได้รับสัญญาณวิทยุมาในทันที
“สวัสดีคุณปกรณ์
ได้ยินผมหรือเปล่า”
ปกรณ์รีบไปหยิบวอของเขามาคุยในทันที
“สวัสดี
พวกคุณส่งเสบียงให้ผมใช่หรือเปล่า”
“ใช่
ค่าตอบแทนไง ผมจัดการพวกซอมบี้ด้านนอกหมดแล้ว ที่เหลือจะทำยังไงก็เรื่องของคุณ”
“แต่คุณบอกว่าจะมาพาผมไป”
“ตอนนี้คุณต้องเพิ่งตัวเองแล้วหล่ะ” จากนั้นสัญญาณก็ตัดไป
“บ้าเอ้ย
ทำไงต่อดีวะเนี่ย”
เขาพยายามมองออกไปด้านนอก ตอนนั้นเขาไม่พบซอมบี้ซักตัว
นั่นทำให้เขาโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย
“คงต้องหาค่ายแถวนี้เองหล่ะมั้ง”
ปกรณ์รีบกางแผนที่ในทันที เพื่อตรวจสอบว่ามีค่ายไหนบ้างที่ใกล้ที่สุดสำหรับเขา
ใกล้ช่วงเย็น ในตอนนั้นเองพวกของนาคนอื่นๆที่ยังอยู่ที่หมู่บ้าน
พวกเขาได้รับข้อความจากนาให้มาที่นี่
เพื่อให้มารับประทานอาหารเย็นกับบ้านของน้อยด้วยกัน พวกเขารีบขนของขึ้นรถ
เพื่อออกเดินทางไปยงบ้านของนางน้อยในทันที
“นี่ทุกคน
เก็บของเสร็จหรือยังอ่ะ” เอลิซ่าถามคนในกลุ่ม
“ใกล้แล้วหล่ะ
ตอนนี้พวกเขากำลังรอรถอยู่หน่ะ” รันพูดขึ้น
“ได้ยินว่าเขาจะทำเนื้อย่างกินนี่นะ” เอกพูดขึ้นในกลุ่ม
“เยี่ยมเลย
ถ้ามีเบียร์กินด้วยจะดีมากเลยนะ” วายุพูดเสริม
“นี่
ยังเมาไม่พออีกเหรอจ๊ะ” ยูกิพูดขึ้น
“นั่นสิ
ฉันไม่แบกพวกนายไปนอนแล้วนะ” วิคเตอร์พูดขึ้น
“ผมไม่ดื่มแล้วหล่ะ
ไม่เอาแล้ว” ภพพูดขึ้น
“แล้วนี่เราจะเดินทางต่อหรือเปล่า” อาซามิถามไป
“ถ้ากินเสร็จก็คงจะไปหล่ะนะ
ไม่ต้องห่วง” ไผ่พูดขึ้น
“แล้วแบทเขาจะไปกับเรามั้ยอ่ะ” เชนถามอย่างสงสัย
“คุณแบทเขาบอกว่าเดี๋ยวจะตามไปนี่คะ” มีร์พูดขึ้น
“รีบไปกันดีกว่า
ถ้าเย็นกว่านี้จะไม่ทันการนะ” เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้น
จากนั้นพวกเขาก็ไปเดินขึ้นรถ
“เอาล่ะ
ทุกคนมากันครบแล้วนะ” จอห์นพูดกับทุกคน
“ครบแล้วหล่ะ
ถ้าฉันจำไม่ผิดนะ” นาโอมิพูดพลางเกาหัวไปด้วย และจากนั้นเอง
แบทก็เดินมาหาทุกคน แล้วก็พูดขึ้น
“เอาหล่ะ
ทุกคนไปก่อนเลย เดี๋ยวฉันตามไป”
ทุกคนรีบขับรถออกไปก่อน ส่วนแบทก็ขึ้นรถของเขา แล้วก็ติดต่อกลับไปยังหน่วยเพื่อถามสถานการณ์ของพวกเขา
“นี่แบทติดต่อหน่วย
ตอบฉันด้วย”
“แบท
มีอะไรหรือเปล่า”
“ตกลงเฮลิคอปเตอร์ของฉันจะมาเมื่อไหร่เนี่ย”
“น่าจะได้พรุ่งนี้แหละ
แต่พวกวีกัสหล่ะ”
“เราต้องรีบขนส่งก่อนที่พวกมันจะเจอหน่ะ”
“ได้สิ
เดี๋ยวฉันจะจัดการแล้วกัน”
“ได้
แบทเลิกกัน”
แบทปิดวิทยุสื่อสาร จากนั้นก็สตาร์ทรถออกไปในทันที
กลับมายังบ้านของนางน้อย
พวกเขาเตรียมเนื้อสำหรับใช้ย่างเผื่อทุกๆคนที่กำลังจะมา โดยที่บรรยากาศด้านในดูเหมือนจะเป็นบรรยากาศที่มีความสุข
หลังจากที่พวกเขาย่างเนื้อกันเสร็จเรียบร้อย พวกเขาก็เตรียมเนื้อย่างให้กับคนอื่นในทันที
และในขณะเดียวกัน นาก็เกิดปวดฉี่
“ผมไปเข้าห้องน้ำหน่อยนะครับ”
นารีบปลีกตัวออกมาจากกลุ่ม จากนั้นเขาก็ไปเจอกระท่อมหลังหนึ่ง
เขาคิดว่ามันเป็นห้องน้ำจึงเปิดประตูเข้าไป แต่ในตอนนั้นเอง
เขาได้กลิ่นเหม็นสาบอะไรบางอย่าง กลิ่นมันฉุนเกิดกว่าจะรับได้
นาคิดว่ามันเป็นซากสัตว์ที่เพิ่งจะโดนเชือด แต่เมื่อเขาไปหาต้นตอของกลิ่น
เขาก็พบกับภาพที่น่าประหลาดใจ เขาพบกับซากศพมนุษย์ถึงสามร่าง
นาตกใจมากแทบจะอ้วกออกมา แต่ว่ามีซากของชายคนหนึ่งที่ยังไม่ตาย
แต่แขนขาทั้งสองข้างถูกตัดออกไป เขาเจอกับนาในตอนนั้น เขาจึงพูดออกมาในทันที
“ช่วยผมด้วย
พวกมันตัดแขนตัดขาผมไปกิน”
นาได้สติกลับมาในตอนนั้น เขารีบวิ่งกลับไปหาทุกคนในทันทีก่อนที่ทุกคนจะกินอาหารมื้อเย็นอันน่าสะอิดสะเอียน
นากลับมาเห็น เขาเห็นจินกำลังจะจิ้มชิ้นเนื้อเข้าปาก นาตะโกนออกไปในทันที
“อย่ากินนะจิน”
จินถึงกับตกใจ แล้ววางชิ้นเนื้อลงไปในจาน
“อ้าว นา
เข้าห้องน้ำเสร็จแล้วเหรอ พวกเรากำลังจะมาแล้วนะ” จินตอบกลับไป
“มีศพอยู่ในกระท่อมนั้นสองศพ
คนนึงยังไม่ตาย พวกคุณกำลังกินเนื้อคนอยู่”
“อะไรของนายเนี่ย
ทำเอาฉันสยิวเลยเนี่ย” ชิตพูดขึ้น
“มันเรื่องอะไรเหรอ
จู่ๆมาพูดแบบนี้” ฮันเตอร์พูดขึ้น
“พวกคุณทำแบบนี้ได้ยังไง
ถ้าใครไม่เชื่อไปดูในกระท่อมนั่นได้เลย” นาพูดขึ้น
“เฮ้อ
มันเป็นเรื่องที่ลำบากใจสำหรับพวกเรา” น้อยพูดขึ้น
แคคำพูดแบบนั้นก็ทำเอาพวกเขาไม่กล้าแตะเนื้อย่างพวกนั้น พวกเขาวางห่างตัวในทันที
“นี่มันเรื่องจริงเหรอครับเนี่ย” ชิโระพูดขึ้น
“บางครั้ง
เราก็จำเป็นต้องทำเพื่อความอยู่รอดหน่ะ” น้อยพูดอีก
ในขณะที่คนในบ้านนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย แต่เซนถึงกับอ้วกออกมาในทันที
“บ้าเอ้ย
นี่มันบ้ากันไปแล้ว” เซนพูดขึ้น
“เราไปจากที่นี่กันดีกว่าครับผม” นาพูดขึ้น
“พวกแกอย่าได้คิดจะไปไหนทั้งนั้น” นายเขตพูดขึ้น จากนั้นเขาก็เล็งปืนใส่พวกของนา
พวกของนาเล็งปืนใส่กลับในทันที
“อย่าให้มันจบแบบนี้เลยดีกว่า” จินพูดขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน
ชายกลุ่มหนึ่งที่อยู่ด้านนอกก็ยิงธนูเข้ามาในบ้านของนางน้อยหนึ่งดอก
จากนั้นมันก็ตะโกนในทันที
“เพื่อนเราอยู่ที่ไหน
ยายน้อย บอกมาดีกว่า”
“ปล่อยเพื่อนเรามา
ไม่งั้นเราจะบุกเข้าไป”
พวกนั้นตะโกนถาม แต่ทันใดนั้นเอง
ชายคนเดิมที่นาเคยเจอก็ลากตัวเขาโดยการค่อยๆใช้หัวไถไป
ภาพที่ทุกคนเห็นเป็นภาพที่น่าเวทนามาก ชิโระเห็นภาพนั้นก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“ช่วย...ผม...ด้วย”
“รีบไปจากที่นี่เร็วครับ”
พวกของนารีบออกไปจากบ้านหลังนั้น แต่พวกมันก็บุกประชิดเข้ามาในบ้าน
และโยนระเบิดเพลิงเข้าไปในบ้าน พวกของนารีบหาที่หลบก่อนที่จะโดนลูกหลง
พวกเขาไปหลบอยู่ในโกดังเก็บเครื่องมือแห่งหนึ่ง จากนั้นก็มองดูสถานการณ์อยู่ด้านอก
“นี่
เราจะเอายังไงกันต่อหล่ะเนี่ย” จินพูดขึ้น
“คงต้องรอให้พวกเรามาที่นี่แล้วหล่ะ” นาพูดขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน
พวกมันก็เล็งเป้าหมายมายังพวกของนา
พวกของนาพยายามยิงสกัดเอาไว้ไม่ให้พวกมันบุกเข้ามา
“เฮ้ย
มึงเป็นพวกมันใช่ไหม ออกมาเดี๋ยวนี้”
“พวกมันที่ไหนกันหล่ะ
เราไม่เกี่ยวนะเว้ย” เซนตะโกนออกไป
“สงสัยคงต้องไปจากที่นี่แล้วหล่ะ” ชิตพูดขึ้น
“แล้วเราจะออกไปทางไหนดีหล่ะ” ปัดถามคนในกลุ่ม
“ลัดเลาะออกไปด้านหลังสิ
แล้วเดินทางต่อ” ฮันเตอร์พูดขึ้น
พวกนั้นยังคงยิงใส่กระท่อมที่พวกเขาอยู่
จากนั้นพวกมันก็สั่งลูกน้องของพวกเขา
“เฮ้ย พวกมึง
รีบไปเอาเสบียงที่มีทั้งหมดในบ้าน สัตว์ทุกตัว เอาไปให้หมด”
“เอาจริงเหรอพี่
แล้วไอ้พวกนั้นหล่ะ”
“เดี๋ยวกูจัดการเอง”
พวกมันบางส่วนรีบเข้าไปในบ้านของนางน้อย ส่วนพวกของนาก็พยายามหาทางหาทางออก
แต่ดูเหมือนพวกนั้นก็ไม่ยอมหลีกทางให้
แต่ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงรถมาจากด้านนอก มาทางด้านข้างพวกเขา
ซึ่งขบวนรถมากันราว 4 – 5 คัน พวกของนาได้ยินเสียงจึงแปลกใจ
“พวกเรามาแล้วอย่างงั้นเหรอ” ชิตพูดขึ้น
“ไม่น่าใช่นะ
พวกเราไม่น่ามาทางนี้นี่”
เซนพูดขึ้น
“ถ้างั้นมันเป็นพวกไหนกันหล่ะ” ฮันเตอร์พูดขึ้น
ขบวนรถเหล่านั้นจอดหน้าหมู่บ้านแล้วลงจากรถ
จากนั้นก็เดินเข้ามาในบ้านที่พวกนั้นกำลังจะเผา
พวกมันสงสัยว่าคนพวกนั้นเป็นใครจึงเดินไปถามทันที
“พวกมึงเป็นใครกันวะ”
“พวกฉันมาตามหาคน” มันตอบกลับไป แต่เมื่อจินเห็น
เธอก็นึกออกเลยว่าพวกมันเป็นใคร
“นั่น
พวกมันที่เคยเล่นงานเราในป่า ที่เคยฆ่าด๊อกเตอร์โคลนนี่” จินพูดขึ้น
“พวกวีกัสใช่หรือเปล่า
ต้องใช่พวกมันแน่ๆ” ปัดพูดขึ้น
“พวกกูไม่รู้
ไปซะก่อนที่พวกกูจะเล่นพวกมึง” มันคนหนึ่งพูดขึ้น
แต่พวกวีกัสก็ชักปืนออกมายิงพวกนั้นจนหมด
นางน้อยและครอบครัวคนอื่นๆที่พยายามจะหนีก็โดนพวกวีกัสฆ่าตายเรียบเหมือนกัน
“แย่หล่ะ
เราตายหมดแน่เลยทีนี่” นาพูดขึ้น
“ไม่ต้องห่วง
เราต้องออกไปจากที่นี่ก่อน”
ชิโระพูดขึ้น แต่พวกวีกัสก็สังเกตเห็นความผิดปกติในโกดังหลังหนึ่ง
พวกนั้นเปลี่ยนเป้าหมายไปเล่นงานคนในโกดังทันที
“พวกแกเป็นใคร
ออกมาเดี๋ยวนี้นะเว้ย”
พวกของนาเล็งปืนใส่มัน พวกนั้นเห็นนาและคนอื่นๆก็คุ้นๆหน้าพวกเขา
“ฉันว่าฉันรู้จักพวกแกนะ”
“แน่นอน
เราเคยปะทะกันแล้วในป่านั่นนี่หว่า” นาพูดขึ้น
“อ้อ
เข้าใจแล้ว ไอ้แบทมันอยู่ที่ไหน แล้วพวกแกที่เหลือหล่ะ” พวกนั้นยิงคำถามใส่พวกเขาในทันที
“พวกแกไม่รู้หรอก
และไม่มีวันรู้ด้วย” ชิโระพูดขึ้น
“ถ้างั้นพวกแกก็ตายที่นี่ให้หมดก็แล้วกัน” มันคนหนึ่งพูดขึ้น แต่ชายอีกคนเตะไหล่เขาไว้
“เย็นไว้
ไอ้สอง เพื่อมันต้องตามมันมาแน่ๆ”
และก็เป็นอย่างที่เขาคาด ขบวนรถของพวกนาคนอื่นๆก็ตามมาพอดี
พวกเขาจอดรถจากนั้นก็ค่อยๆเข้ามาด้านใน เมื่อคนที่เหลือเห็นพวกวีกัส พวกนั้นก็เล็งปืนไปที่คนพวกนั้นในทันที
“เฮ้ย พวกแก
มันพวกวีกัสนี่หว่า” เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้น
“ใช่
ฉันขอถามแกเลยนะ ไอ้แบทหายไปไหน”
“ทำไมกูต้องบอกพวกมึงด้วยหล่ะ” จอห์นพูดขึ้น
“ฉันว่าพวกแกไปจากที่นี่ดีกว่า
อย่าเสียเวลาเลย” จินพูดขึ้น
“ฉันมาที่นี่แล้ว
ฉันไม่ยอมกลับไปมือเปล่าแน่ๆ” คนที่ชื่อสองพูดขึ้น
“พูดอย่างกับพวกแกมีทางเลือกนักนี่หว่า” เซนพูดขึ้น
“ใช่
หรือไม่เราก็ลุยกันให้เละตรงนี้เลยดีกว่า” ฮันเตอร์พูดขึ้น
“พวกแกไม่รู้หรอกว่าเราเป็นใคร
สามารถทำอะไรได้” พวกมันพูดกับพวกเขา และในไม่กี่อึดใจ
รถของแบทก็ขับตามพวกของนามาเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาก็จอดรถอยู่ด้านหน้าบ้าน
แล้วก็เดินเข้ามาด้านใน แต่เมื่อเขาได้มาพบกับพวกวีกัส
เขาตกใจมากจากนั้นก็ชักปืนขึ้นมาในทันที
“ว่าไงแบท
ยังไม่ตายห่าอีกเหรอวะ”
“พวกมึงจะเอายังไง
ว่ามาเลยดีกว่า”
ทั้งสองฝ่ายต่างเผชิญหน้ากัน ท่ามกลางบรรยากาศภายในที่กดดันกันมากขึ้น
================================================================================
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ
ความคิดเห็น