คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #34 : ตอนที่ 29 : สงครามครั้งสุดท้าย
หลังจากที่นอร์ดิกเรียกทุกคนมาประชุมกันถึงเรื่องแผนการรบ
เมื่อทุกคนที่เกี่ยวข้องมารวมตัวกันแล้ว นอร์ดิกก็เริ่มจัดวางแผนการรบในทันที
เพื่อป้องกันศึกใหญ่ที่กำลังจะมาถึง
นอร์ดิก : เอาหล่ะ
ตอนนี้คนของเราที่มี ประมาณสามแสน ส่วนข้าศึก มีถึงหกแสน พร้อมกองเรืออังกฤษและฝรั่งเศสอีก
เซนจา : เราไม่มีทางจะกระจายกำลังไปทุกที่
เราต้องตั้งรับในเขตรูดิวและโซราบอลเท่านั้น
ไซโซ : แต่แคว้นบาส์กก็สำคัญนะ
พวกมันอาจใช้พื้นที่ตรงนี้ในการยกพลขึ้นบกก็ได้
เคจา : แล้วอีกอย่าง
เราไม่มีทัพเรือที่มากพอจะรบกับข้าศึกนะ
นอร์ดิก : ถ้าอย่างงั้น
คงต้องแบ่งกำลังแล้วป้องกันทางบกเท่านั้น ฟีนด์ บูล อาร์เทมิส
พวกคุณสามคนวางกำลังป้องกันที่รูดิว
ฟีนด์ : รับทราบครับ
เราจะใช้รูดิวเป็นป้อมปราการเพื่อป้องกันครับ
บูล : แต่เรามีเวลา
10 วันเต็มที่ในการสร้างแนวป้องกันนะ คงต้องเร่งมือหล่ะ
อาร์เทมิส : ถ้าอย่างงั้น
ฉันจะให้คนของฉันรีบจัดการเดี๋ยวนี้เลย
นอร์ดิก : ไซโซ
เคจา สการ์เล็ต สกายและอาร์มเมอร์
พวกคุณนำกำลังแสนนายไปตั้งป้อมเพื่อป้องกันที่แคว้นบาส์กนะครับ
สกาย : ครับผม
ผมจะจัดการเรื่องนี้เองครับ
อาร์มเมอร์ : ทางผมคงต้องขอปืนใหญ่จากพวกคุณเยอะหน่อยหล่ะครับ
สการ์เล็ต : เท่าที่ดูแล้ว
ฉันขอแค่ 50 กระบอกก็พอค่ะ
นอร์ดิก : ส่วนผมและคนที่เหลือ
จะอยู่ตั้งรับในเขตโซราบอล คุณอาร์เทอร์ คูเปอร์
จัดให้ชาวบ้านทุกคนอยู่ในแนวกำแพงของเรานะครับ แล้วถ้าหน่วยไหนเพลี่ยงพล้ำ
ให้ถอยกลับมาโซราบอลทันที
อาร์เทอร์ : ได้ครับ
ผมจะจัดการพวกมันเองครับ
คูเปอร์ : ปัญหาของเราคือกองเรือนี่แหละครับที่มีปัญหา
นอร์ดิก : เราถึงได้เปลี่ยนการโจมตีเป็นทางบกยังไงหล่ะครับ
ทางด้านพวกผู้หญิงและคนอื่นๆที่อยู่ด้านนอก
พวกเขาให้การต้อนรับครอบครัวของดราโก้และคนอื่นๆเป็นอย่างดี เนื่องจากว่าพวกเขาเป็นแขกคนสำคัญของบ้าน
มาร์ธ่า : ยังไงก็ทำตัวตามสบายนะคะ
คิดซะว่าเป็นบ้านคุณเถอะค่ะ
ดราโก้ : ขอบคุณมากๆนะครับที่เอื้อเฟื้อพวกเราหน่ะ
อาร่า : ว่าแต่
พวกเขาประชุมกันนานจังเลยนะคะ
ซาร่า : ก็คงจะเป็นเรื่องวางแผนการรบหน่ะค่ะ
และในตอนนั้นเอง นายพลเนโรก็เดินมาพร้อมกับซิลเวียร์ที่พยุงเขามาด้วย
ในตอนนั้นเองนายพลเนโรก็เริ่มจะเดินได้เองแล้ว คนในครอบครัวดีใจกันมากๆที่ได้รู้
มาร์ธ่า : เดินได้แล้วอย่างงั้นเหรอลูก
เนโร : ครับแม่
ตอนนี้ผมเดินได้แล้วครับ ผมไม่เป็นไรแล้ว
ซิลเวียร์ : ตอนนี้ท่านนายพลฟื้นตัวเร็วมากเลยค่ะ
เมเทอร์ : นั่นนายพลเนโรตัวจริงเสียจริงนี่
เธอว่า...
เฟรย์อา : เอาน่า
เขาไม่ใช่ศัตรูของเราอีกแล้วหล่ะ
เนม่า : คุณน่าจะไปเยี่ยมพ่อเตเวียสหน่อยนะคะ
เนโร : แน่นอน
ถ้าฉันมีโอกาสฉันจะไปหาเขาเอง
คาเนส : แต่เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว
ท่านเตเวียสคงไม่คิดอะไรแล้วหล่ะ
คาลิมบ่า : เฮ้อ
กว่าเราจะรอดมาได้นี่ก็เกือบตายเหมือนกันนะ
มาร์ธิว : จริงด้วย
ป่านนี้เอลิซ่าจะเป็นยังไงบ้างหล่ะเนี่ย
เอ็น : ใช่
เพื่อนผมก็ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้างตอนนี้
อาเรีย : ใจเย็นๆก่อนนะ
เขาอาจจะรอดก็ได้
เลออน : แต่ผมอยากจะรู้นะ
ว่าใครมันทรยศองค์กรเราหน่ะ
แมทธิว : เป็นใครก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่ผมว่าโซรอนต้องมีเอี่ยวเรื่องนี้แน่ๆ
อาเรียส : นั่นสิคะ
ต้องเป็นคนนอกที่ซื้อตัวคนในแน่ๆ
โคน่า : เรามีเวลาสิบวันที่จะเตรียมการป้องกันนะคะ
เท่าที่ทราบ
อราช : ระหว่างนี้
ผมจะออกไปตัดกำลังพวกมัน ผมน่าจะตัดกำลังมันได้มากพอหน่ะ
โอลลี่ : อราช
ถ้าเธอจะไป ฉันขอไปกับเธอด้วย
มาร์ธิว : ก็ได้
ยังไงพวกคุณสองคนก็ระวังตัวด้วยนะ
อราช : ได้ครับ
แล้วผมจะรีบกลับมา
โอลลี่ : งั้นฉันจะไปเตรียมคนของฉันก่อนดีกว่านะ
เมเทอร์ : ความจริงฉันไม่ค่อยอยากให้พวกเธอไปหรอก
แต่ยังไงก็โชคดีนะ
ซอล : เฮ้อ
ไม่อยากจะเชื่อเลย เป็นประธานาธิบดีครั้งแรกก็ต้องเจออะไรแบบนี้
เฟรย์อา : อย่ากังวลไปเลยนะคะ
เราจะต้องผ่านมันไปได้แน่
ซอล : นั่นสิครับ
ยังไงผมก็ต้องสู้เพื่อประเทศใหม่นี้ครับ
เอ็น : อราช
โอลลี่ ยังไงก็ฝากตามหาเพื่อนฉันกับเอลิซ่าด้วยนะ
อาเรีย : ใช่
ไม่รู้ว่าป่านนี้พวกเขาจะเป็นตายร้ายดียังบ้างเนี่ย
ดราโก้ : เฮ้อ
แผ่นดินนี้มันต้องคำสาปอะไรกันหล่ะเนี่ย
อาร่า : ความโลภของคนมันไม่มีที่สิ้นสุดยังไงหล่ะคะ
แมทธิว : ผมว่า
ผมจะขอไปร่วมทัพกับคุณนอร์ดิกด้วย
เลออน : ใช่
พวกเราก็สู้เป็นเหมือนกัน ไม่ยอมให้พวกมันทำเราฝ่ายเดียวหรอก
มาร์ธิว : พี่ก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน
โคน่า : ถ้าอย่างงั้น
พวกคุณต้องระวังตัวด้วยนะคะ
อาเรียส : ใช่ๆ
พวกเราไม่อยากจะเป็นม่ายตอนนี้นะ
มาร์ธ่า : แม่เชื่อว่าเซนจากับนอร์ดิกต้องช่วยเราได้แน่
ซิลเวียร์ : จริงด้วยค่ะ
ยังไงศึกนี้เราต้องชนะค่ะ
คาลิมบ่า : ก็คงจะเป็นแบบนั้นหล่ะ
ฉันขอไปกินน้ำก่อนนะ
ในป่าชายแดนมอร็อค
หลังจากที่นิโคลัสพาเอลิซ่าหนีเข้ามาในป่า เขาแบกเธอเพื่อหาที่หลบภัยให้
ในตอนนั้นเขาพกผ้าทำแผลมาปิดแผลของเอลิซ่าเอาไว้ จากนั้นก็แบกเธอไปเรื่อยๆ
นิโคลัส : คุณเอลิซ่า
ไปไหวหรือเปล่าครับ
เอลิซ่า : พอไหวค่ะ
คุณจะพาฉันไปไหนคะ
นิโคลัส : ผมจะพาคุณไปที่ชายแดนรูดิวหน่ะ
ที่นั่นเราจะปลอดภัย
เอลิซ่า : ถ้างั้นเราคงต้องรีบกันหน่อยนะคะ
พวกเขาทั้งคู่รีบเดินทางมาเรื่อยๆ
ส่วนเอลิซ่าก็หมดเรี่ยวแรงเต็มที นิโคลัสต้องคอยแบกเธอเดินต่อไปเรื่อยๆ
เอลิซ่า : ขอบคุณมากๆนะคะที่ช่วยฉัน
นิโคลัส : อย่าเพิ่งขอบคุณเลย
เอาตัวรอดไปจากที่นี่ก่อนดีกว่า
เอลิซ่า : ยังไงฉันก็ขอขอบคุณจริงๆนะคะ
นิโคลัส : ช่างมันก่อนเถอะครับ
ตอนนี้เราไปกันก่อนครับ
แต่ในตอนนั้นเอง เอลิซ่าก็เริ่มเดินไม่ไหวแล้ว
นิโคลัสจึงอุ้มเอลิซ่าแล้ววิ่งไปตามทางเรื่อยๆ
จนกระทั่งมีทหารกลุ่มหนึ่งมาตรวจเจอพวกเขาทหารรูดิวพร้อมอาวุธมาล้อมพวกเขา
นิโคลัส : ใครก็ได้ช่วยผมที
ในตอนนั้นเองทหารรูดิวก็พาร่างของเอลิซ่าไปรักษาที่โรงพยาบาลฉุกเฉิน
โดยที่นิโคลัสคอยเฝ้าเธออยู่ไม่ห่าง โดยที่ไม่ยอมไปไหนเลย จากนั้นไม่นาน หมอก็เดินออกมาจากเต้นท์รักษาชั่วคราว
นิโคลัส : หมอครับ
เธอเป็นยังไงบ้างครับ
หมอ : ปลอดภัยแล้วหล่ะ
แต่ตอนนี้ยังเยี่ยมไม่ได้นะ รอให้เธอฟื้นก่อน
นิโคลัส : ขอบคุณมากครับหมอ
ถ้าหมอช่วยเธอได้ ผมจ่ายหมอไม่อั้นเลยครับ
หมอ : ใจเย็นๆน่าคุณ
ความจริงมันอยู่ที่เธอว่าจะฟื้นตัวเร็วแค่ไหนหล่ะ
และอีกด้านหนึ่งของคฤหาสน์ของเอลิซ่า
ในตอนนั้นเองพอลลี่ก็แบกร่างของเอเทอร์ไปฝังอยู่ในบ้าน
ระหว่างนั้นเองเธอก็ร้องไห้ไปด้วย เนื่องจากที่รักของเธอถูกยิงตายต่อหน้า
แต่เธอทำอะไรไม่ได้ หลังจากที่เธอฝังร่างของเอเทอร์เสร็จ เธอก็หยิบปืนของเธอพร้อมกระสุนเต็มอัตราศึกเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแก้แค้นของเธอ
“เอเทอร์ เธอจะไม่ตายเปล่า
ฉันจะตามล่าคนที่ทำกับเธอแบบนี้”
พอลลี่ขี่ม้าตามรอยพวกที่มาบุกบ้านของเอลิซ่า
เพื่อตามสืบดูว่าพวกมันเป็นใคร
ณ ชายแดนโซราบอล โรส
แพทและเมดก็กำลังเดินทางมาด้วยรถม้าชั้นดี พวกเธอสามคนรีบมาโซราบอลเนื่องจากอยากจะไปเจอกับบรรดาสามีของพวกเธอ
ระหว่างนั้นเองพวกเธอก็คุยกันในรถม้าไปด้วยเพื่อแก้เบื่อ
โรส : นี่
พวกเธอว่าสงครามครั้งนี้จะเป็นยังไงนะ
แพท : ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่มันน่าจะหนักกว่าที่ผ่านมาแน่นอน
เมด : ฉันชักเป็นห่วงสกายซะแล้วสิ
โรส : ไม่ต้องห่วงหรอก
เขาอยู่กับมืออาชีพแล้วนะ
เมด : แต่ฉันก็ยังห่วงอยู่ดีนี่หน่า
คนรักของฉันทั้งทีนะ
แพท : แหม่
อาร์มเมอร์ของฉันก็เหมือนกันหล่ะน่า
โรส : ไม่รู้ว่าป่านนี้ไซโซจะเป็นยังไงบ้างนะ
เมด : เธอก็เป็นห่วงสามีใหม่ของเธออย่างงั้นเหรอ
แพท : ถ้างั้นเราก็คงศีลเสมอกันแหละนะ
โรส : อยากไปเจอกับพวกเขาเร็วๆจังเลยนะ
กลับมายังบ้านของนอร์ดิก
หลังจากที่พวกเขาเตรียมพร้อมสำหรับการวางกำลังพลเพื่อรับมือข้าศึก
ในตอนนั้นเองเนโรและครอบครัวของเขาก็เข้ามาในห้องเพื่อดูนอร์ดิกว่าเขาเป็นยังไงบ้าง
เนโร : นอร์ดิก
เป็นยังไงบ้างลูก
นอร์ดิก : ผมไม่เป็นไรหรอก
ว่าแต่ อาการพ่อดีขึ้นแล้วเหรอครับ
เนโร : นี่ลูกเรียกพ่อว่าพ่อแล้วเหรอลูก
// นอร์ดิกเข้าไปกอดนายพลเนโรในทันที
นอร์ดิก : ความจริง
ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อแล้วครับ
มาร์ธ่า : ใจเย็นๆนะ
ย่าเชื่อว่ามันต้องมีทางออก
ซาร่า : เซนจา
เธอว่างานนี้เราจะต้านได้นานแค่ไหนหล่ะ
เซนจา : เท่าที่ดูกำลังทางบกก็พอจะสู้ได้
แต่ทางเรือคงไม่ไหวค่ะ
ซิลเวียร์ : แล้วแบบนี้เราจะไม่มีทางชนะเลยเหรอคะ
เนโร : ผมว่านะ
เราควรตั้งรับพวกมันทางบก เพราะกองเรือของพวกมันทำลายที่นี่ไม่หมดหรอก
นอร์ดิก : ปัญหาก็คือ
เราคงไม่มีปืนใหญ่พอจะยิงเรือพวกมันได้หน่ะครับ
เนโร : เราไม่จำเป็นต้องยิงเรือของมันหรอก
ไม่ว่ายังไงมันก็ต้องยกพลขึ้นบกอยู่ดี
นอร์ดิก : จริงด้วย
ถ้างั้นเราคงต้องวางกำลังดักพวกมันไว้ทางบกเป็นหลัก ส่วนทางน้ำ
รอให้พวกมันหมดความอดทนแล้วบุกขึ้นมา เราก็จะโจมตีมันทันทีเลยครับ
เซนจา : ฉลาดมากนอร์ดิก
งานนี้ฉันจะช่วยจัดการให้เองนะ
ในขณะเดียวกัน มีเด็กชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้อง
เด็กคนนั้นคือแดเนียลลูกเลี้ยงของเซนจานั่นเอง
เซนจา : แดเนียล
ลูกมาที่นี่ได้ยังไงหล่ะเนี่ย
แดเนียล : คนของแม่พาผมมาที่นี่หน่ะครับ
ตอนนี้มอร็อควุ่นวายใหญ่แล้วครับแม่ มีแต่คนยิงกันเต็มไปหมดเลย
เซนจา : ไม่ต้องกลัวนะลูก
ทุกอย่างมันจะต้องเรียบร้อย
กลับมายังเมืองหลวงของโซราบอล
เอ็ดเวิร์ดนั่งดื่มอยู่ในร้านเหล้าแห่งหนึ่ง เขานึกถึงแต่เรื่องเก่าๆที่แม่ของบอก
ว่าเขาคือองค์รัชทายาท แต่ว่าตอนนี้เขามันแค่เจ้าชายไร้บังลังค์
ทั้งหมดเป็นเพราะโซรอนที่ฆ่าพ่อของเขา
เอ็ดเวิร์ดดื่มไปอีกแก้วจากนั้นก็เดินออกจากร้านไป
แต่ลุงคนนั้นยังคงรอเอ็ดเวิร์ดอยู่ที่หน้าร้าน
“องค์ชาย กระหม่อมมีเรื่องถามพะยะค่ะ”
เอ็ดเวิร์ด : พูดกับผมแบบปกติก็ได้ครับ
ผมไม่ใช่กษัตริย์แล้ว
“ว่าแต่ ท่านจะเอายังไงต่อไปครับ”
เอ็ดเวิร์ด : ผมจะตามฆ่าโซรอนให้ได้ครับ
“แล้วท่านจะกลับคืนบังลังค์หรือเปล่าครับ”
เอ็ดเวิร์ด : มันหมดเวลาของยุคกษัตริย์แล้วหล่ะครับ
“ท่านจะไม่ทวงสิทธิ์ของท่านคืนมาเหรอครับ”
เอ็ดเวิร์ด : ผมคงไม่มีสิทธิ์จะปกครองคนนับล้านหรอก
แต่ผมมีสิทธิ์ล้างแค้นได้ ใช่หรือเปล่าครับลุง //
จากนั้นเองเอ็ดเวิร์ดก็เดินออกไปด้านนอก ปล่อยให้ลุงคนนั้นมองเขาตาปริบๆ
กลับมายังบ้านพักของโซรอนและอเล็กซ์สกี้
ในระหว่างที่พวกเขากำลังนั่งดื่มเหล้ากันอยู่
ในตอนนั้นพอลลี่ก็แอบลอบฆ่ายามที่อยู่หน้าบ้าน และอีกด้านหนึ่งอราชและโอลลี่ก็มาสืบความเคลื่อนไหวของพวกโซรอนด้วย
ทพวกเขาดันมาเจอกันโดยบังเอิญ
โอลลี่ : คุณพอลลี่
มาที่นี่ได้ยังไงคะ
พอลลี่ : ฉันตามรอยคนที่มันฆ่าเอเทอร์มาหน่ะ
อราช : คุณเอเทอร์ตายแล้วเหรอครับ
พอลลี่ : ใช่
ฉันมาที่นี่เพื่อฆ่าทุกคนในบ้านหน่ะ
และอีกด้านหนึ่ง
เจ้าเหวินกับพรรคพวกก็บุกเข้ามาเหมือนกัน พวกนั้นฆ่ายามทุกคนที่เขาเจอหน้า
จากนั้นก็นำคนมาล้อมบ้านไว้
เจ้าเหวิน : ทุกคน
ฆ่าทุกคนในบ้านให้หมด จับตัวอี้ชิงมาให้ฉัน
คนของเจ้าเหวินบุกเข้าไปในบ้านของโซรอน
ในตอนนั้นเองพอลลี่ก็แปลกใจมากที่เจอแบบนี้
อราช : นั่นมันพวกไหนกันหล่ะครับเนี่ย
โอลลี่ : ท่าทางพวกนั้นคงจะมีศัตรูเยอะนะ
พอลลี่ : ไม่ต้องสนใจพวกมันหรอก
ตามฆ่าพวกมันที่อยู่ในบ้านดีกว่า
พวกเขายิงปะทะกันเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
โซรอนและอเล็กซ์สกี้รีบวิ่งลงมาด้านล่างเพื่อเตรียมอาวุธสู้กับคนที่บุกบ้านของเขา
โซรอน : พวกมันเป็นใครกัน
ถึงกล้ามาบ้านฉัน
อเล็กซ์สกี้ : พวกนั้นมันคนจีนนี่หน่า
มันจะมาทำไมกัน // อี้ชิงตกใจมากในตอนนั้น จึงแกล้งพูดไป
อี้ชิง : สงสัยมันคงจะมาปล้นเราหน่ะค่ะ
นอสต้าร์ : แล้วนี่จะให้เราหนีหรือเปล่าครับ
หรือยังไง
อเล็กซ์สกี้ : ส่งข้อความไปหาอันเต้
บอกให้รีบมาที่นี่ด่วนเลย
หลังจากที่มีการยิงปะทะกัน
พวกของเจ้าเหวินก็บุกเข้ามาในบ้าน แล้วยิงปะทะกับลูกน้องของอเล็กซ์สกี้ด้านใน
จากนั้นเจ้าเหวินก็ตะโกนออกไปทันที
เจ้าเหวิน : เฮ้ย
ฉันต้องการแค่อี้ชิงคนเดียว คนอื่นไม่เกี่ยว
วิเวียน : อี้ชิง
ทำไมมันต้องมาตามล่าเธอด้วยหล่ะ
อี้ชิง : ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
เจ้าเหวิน : จะส่งตัวมันมาให้ฉันดีๆมั้ยคุณอเล็กซ์สกี้
อเล็กซ์สกี้ : ใจเย็นๆก่อน
แกอยากได้อะไรก็บอกมาสิ
ในตอนนั้นเอง
อี้ชิงหยิบปืนมายิงเข้าที่หน้าอกของเจ้าเหวิน เจ้าเหวินพยายามประคองตัวเอาไว้
เจ้าเหวิน : อีแพทศยา
มึงตาย // แต่ในตอนนั้นโซรอนก็ยิงเจ้าเหวินเสียก่อน ทำเอาเจ้าเหวินตายคาที่
จากนั้นเองพอลลี่และคนอื่นๆก็เป็นฝ่ายมาตามล่าโซรอนแทน
พอลลี่บุกขึ้นไปชั้นสองพยายามจะฆ่าโซรอนให้ได้ แต่ระหว่างที่กำลังไล่ล่ากัน
ด้านนอกก็มีทหารนำกำลังเข้ามา
โซรอน : มันจบแล้ว
คนของฉันมาช่วยแล้ว
พอลลี่ : ไม่จบถ้าฉันฆ่าแกไม่ได้ต่างหาก
// พอลลี่บุกเข้าไปยิงโซรอน แต่อเล็กซ์สกี้ก็ยิงใส่พอลลี่
แต่อราชเอาตัวมาขวางเอาไว้ก่อน
โอลลี่ : อราช
ทำใจดีๆไว้นะ // โอลลี่มาดูอาการเขาจากนั้นก็ยิงสกัดพวกมันเอาไว้
ในตอนนั้นเองอี้ชิงก็ถือปืนออกมาจะยิงโอลลี่ แต่พอลลี่ยิงอี้ชิงเข้าที่กลางอกซะก่อน
พอลลี่ : ฉันจะพาเธอหนีไปเอง
// พอลลี่โดนยิงเข้าที่ขา โอลลี่พยายามจะช่วยทั้งสองคนออกไป
แต่ในตอนนั้นเองนอสต้าร์ก็ยิงโอลลี่จนตายคาที่
จากนั้นมันก็ไปดูพอลลี่ที่กำลังบาดเจ็บ
พอลลี่ : แกตายซะเถอะ
// พอลลี่รวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายหยิบมีดพกแทงโซรอน แต่มีดเฉี่ยวใบหน้าของเขา
โซรอนทนไม่ไหวจึงยิงพอลลี่จะกระสุนหมดแม็ก พอลลี่ตายสนิท
ส่วนอันเต้ที่นำทหารเข้ามาช่วยก็เดินเข้ามาในบ้านของโซรอนในทันที
อันเต้ : สวัสดีอเล็กซ์สกี้
สบายดีนะ
อเล็กซ์สกี้ : กว่าจะมาได้นะ
ฉันเกือบตายแล้วนะรู้มั้ย
อันเต้ : โธ่
ผมมาสายแค่ไม่กี่นาทีเอง
โซรอน : พวกมันเป็นใครกันถึงจะมาฆ่าฉัน
นอสต้าร์ : ผมว่า
ต้องเป็นคนของไอ้นอร์ดิกแน่ๆ
โซรอน : ไอ้นอร์ดิกอีกแล้วเหรอ
คอยดูเถอะ เปิดศึกเมื่อไหร่ ฉันจะเผาบ้านมันให้สิ้นซากเลย
กลับมายังสถานทูตรัสเซีย
ในตอนนั้นเองแอนตาร์กติกและโทมารอฟได้ยื่นหนังสือประท้วงไปยังมอสโควและเบอร์ลิน
พวกเขาระงับการประกาศสงครามกับนอลโวร่าก่อน ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับพวกเขา
ในตอนนั้นเองแอนตาร์กติกและโทมารอฟก็มาหารือกันว่าจะทำอย่างไรกันต่อ
ทั้งคู่นัดเจอกันในสถานทูตรัสเซียที่มีกำลังคุ้มกันอย่างแน่นหนา
แอนตาร์กติก : เออนี่
แล้วเรื่องนี้เราจะเอายังไงต่อหล่ะ
โทมารอฟ : อเล็กซ์สกี้
ทั้งหมดมันอยู่เบื้องหลัง
แอนตาร์กติก : ถ้าเยอรมันจับตัวได้
มันโดนประหารแน่ๆ
โทมารอฟ : ฉันคงจะได้ฆ่ามันก่อนหล่ะ
และในระหว่างนั้นเอง
ลูกน้องของโทมารอฟก็มารายงานข่าวให้กับเขาได้ฟัง
“ท่านครับ
มีข่าวมาว่านายพลอันเต้มาที่นอลโวร่าด้วยครับ”
โทมารอฟ : อันเต้
ฉันว่าแล้วไม่มีผิดมันต้องมา
แอนตาร์กติก : เดี๋ยว
มันเป็นใครกันหล่ะ
โทมารอฟ : มันเป็นไอ้เซิร์บตัวแสบ
มันคงทำงานกับอเล็กซ์สกี้มานาน
แอนตาร์กติก : พวกมันคงจะยุให้มหาอำนาจมาโจมตีที่นี่หน่ะ
โทมารอฟ : นี่
แอนตาร์กติก เธอพอจะมีกองเรือเหลืออยู่หรือเปล่า
แอนตาร์กติก : ฉันส่งข้อความให้พวกเขามาได้
แต่มีอะไรงั้นเหรอ
โทมารอฟ : เห็นทีเราคงต้องช่วยนอลโวร่าแล้วหล่ะ
แอนตาร์กติก : หะ
นี่นายคิดดีแล้วงั้นเหรอ
โทมารอฟ : แน่นอน
แล้วฉันจะเอาตัวอเล็กซ์สกี้มารับโทษด้วย
แอนตาร์กติก : ถ้าอย่างงั้น
ฉันจะลองส่งข้อความไปหาพวกเขาดู
กลับมายังห้องนอนของนอร์ดิก ในคืนนี้
เขาได้แต่สับสนในใจ เนื่องจากว่าเขาต้องเผชิญศึกใหญ่ ในขณะเดียวกัน
ซิลเวียร์ก็เข้ามาในห้องของเขา จากนั้นก็มานั่งใกล้ๆนอร์ดิก
นอร์ดิก : ซิลเวียร์
มีอะไรหรือเปล่าอ่ะ
ซิลเวียร์ : ก็ฉันเห็นเธอดูเครียดๆหน่ะ
นอร์ดิก : เฮ้อ
จบศึกภายใน ก็ต้องรบศึกภายนอกอีก ไม่มีที่สิ้นสุดเลย
ซิลเวียร์ : เอาน่า
เธอก็คิดซะว่ามันเป็นบททดสอบของเธอก็แล้วกัน
นอร์ดิก : ซิลเวียร์ที่รัก
ฉันอยากอยู่กับเธอแบบนี้มานานแล้วนะ
ซิลเวียร์ : อยู่กับฉันให้สบายนะนอร์ดิก
ฉันจะอยู่กับเธอเอง
นอร์ดิก : ซิลเวียร์
เป็นของฉันเถอะนะที่รัก
ซิลเวียร์ : นอร์ดิก
ฉันจะเป็นทุกอย่างให้เธอเอง // นอร์ดิกจูบกระกบปากซิลเวียร์ เธอก็จูบตอบเขาไป
จากนั้นเขาก็ผลักซิลเวียร์ให้นอนลงบนเตียง นอร์ดิกเริ่มเปลื้องผ้าซิลเวียร์
จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มพลอดรักกันอย่างหวานชื่นในคืนนั้น
ในช่วงเวลาต่อมา ยามเช้า ทางด้านแนวรับรูดิว
ฟีนด์ บูล และอาร์เทมิส วางกำลังพลและสร้างแนวป้องกันไว้ภูเขา
ปืนใหญ่นับร้อยทุกรูปแบบถูกจัดวางไว้เป็นอย่างดีเพื่อป้องกันการบุกรุกของกลุ่มกบฏ
ทหารนับแสนรวมถึงชาวบ้านขุดสนามเพลาะเพื่อป้องกันข้าศึก
พวกเขาเร่งทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อรีบรับมือข้าศึกที่กำลังจะมาถึง
บูล : ภูเขานี้แข็งแกร่งและสูงชัน
พวกมันไม่มีทางผ่านมาง่ายๆแน่
อาร์เทมิส : ฉันก็หวังไว้แบบนั้น
หวังไว้ว่าสนามเพลาะคงจะเสร็จเร็วๆนะ
ฟีนด์ : แนวป่าตรงนั้นควรจะวางกับดักตรงแนวป่านั้นด้วยนะ
บูล : เห็นด้วยนะ
เรายังพอมีลวดหนามอยู่นี่หน่า
และในขณะเดียวกันนั้นเอง
เมเทอร์ก็นำคนของเธอมาช่วยดูแลชาวบ้านที่มาขุดสนามเพลาะที่นี่ด้วย
เมเทอร์ : ฟีนด์
เธอเป็นยังไงบ้าง
ฟีนด์ : ก็ดีนะ
สนามเพลาะคงจะเสร็จเร็วๆนี้หล่ะ
เมเทอร์ : ดีแล้วหล่ะ
พวกมันอาจจะมาก่อนสิบวันก็ได้นะ
แต่ในระหว่างนั้นเอง
ขบวนทหารรูดิวที่อยู่ตามชายแดนก็เคลื่อนกำลังพลมารวมตัวกับทหารคนอื่นๆที่อยู่ยังแนวรบ
นายพลบูลไปตรวจดูทหารด้วยตัวเองในทันที
“ท่านนายพลครับ
ตอนนี้เราถอนทหารจากชายแดนมาอยู่ที่นี่หมดแล้วครับ”
บูล : แล้วนี่
พาใครมาด้วยงั้นเหรอ
“เราอพยพคนเจ็บบางส่วนมารักษาที่โรงพยาบาลกลางด้วยครับ”
นายพลบูลไปตรวจดูคนเจ็บ
ในตอนนั้นเองเขาก็เจอกับนิโคลัสที่พาเอลิซ่ามาด้วย
นิโคลัส : ช่วยผมด้วย
เธอเจ็บหนักมาก ต้องรักษาตัวด่วน
เมเทอร์ : คุณนิโคลัส
คุณพาเอลิซ่ามาด้วยเหรอคะ
นิโคลัส : ครับ
หมอเพิ่งจะรักษาเธอแต่เธอยังไม่ฟื้นเลยครับ
บูล : พาเธอไปที่โรงพยาบาลกลางก่อน
รักษาเธอให้ดีหล่ะ
อาร์เทมิส : แล้วพวกคุณไปทำอะไรกันมาเหรอคะ
นิโคลัส : เราโดนตามล่า
ผมช่วยเธอหนีมาได้หน่ะ
ฟีนด์ : สงสัยคงจะมีคนทรยศในหมู่องค์กรของคุณนะ
เมเทอร์ : ถ้าฉันรู้ว่ามันเป็นใคร
ฉันฆ่ามันแน่
ทางด้านแนวรบแคว้นบาส์ก ไซโซ
เคจาและสการ์เล็ตได้วางกำลังป้องกันตามแนวชายฝั่ง
พวกเขาวางปืนใหญ่ไว้บนภูเขาเพื่อยิงต่อสู้
เคจา : เราต้องวางกำลังไว้ที่แนวสนามเพลาะของชายหาดนะ
ไซโซ : แต่ผมว่า
เราควรจะย้ายแนวไปด้านในพื้นที่นะ
สการ์เล็ต : ทำไมคุณถึงคิดแบบนั้นหล่ะคะ
ไซโซ : ปืนใหญ่พวกต่างชาติประสิทธิภาพดีมาก
เราไม่มีทางต้านมันได้ที่ชายหาดแน่ๆ
สกาย : แต่ว่า
พวกมันอาจจะยกพลขึ้นบกมาได้อย่างง่ายดายนะครับ
อาร์มเมอร์ : นั่นสิครับ
ผมว่าเราควรจะยิงกับพวกมันที่หัวหาดดีกว่า
ไซโซ : เชื่อผมเถอะ
เราควรจะป้องกันมันที่พื้นที่ด้านในนะ
สการ์เล็ต : แล้วพื้นที่ตรงป้อมบนภูเขาหล่ะคะ
เคจา : ฉันว่า
เอาปืนใหญ่ไปตั้งไว้ตรงนั้นด้วยดีกว่า
สกาย : ถ้าอย่างงั้นผมจะสั่งให้ทหารปืนใหญ่ขนขึ้นเขาไปนะครับ
อาร์มเมอร์ : เห็นด้วยนะครับ
ผมว่าเราควรจะรีบดำเนินการตอนนี้เลย
ที่เมืองหลวงของโซราบอล
นอร์ดิกเตรียมจัดทัพหลวงโดยที่อาร์เทอร์และคูเปอร์คอยคุมกองกำลังด้วย
นอร์ดิกเตรียมวางกำลังไว้ที่กำแพงเมืองหลวงของโซราบอล
เผื่อว่าพวกกบฏจะผ่านด่านอื่นมาได้
อาร์เทอร์ : คุณนอร์ดิกครับ
เราจัดวางปืนกลและปืนใหญ่ไว้พร้อมแล้วครับ
คูเปอร์ : เรามีทหารหนึ่งแสนนายเตรียมพร้อมรับมือพวกมันแล้วครับ
นอร์ดิก : ความจริงผมอยากจะจัดการพวกมันที่รูดิวไม่ก็บาส์กมากกว่า
เซนจา : เธอต้องอดทนนะ
เธอต้องคิดถึงส่วนรวมไว้ก่อน
นอร์ดิก : แล้วด้านหลังของแคว้นเราหล่ะครับ
อาร์เทอร์ : แถบนั้นมีแต่ภูเขา
ไม่มีชายหาดที่จะขึ้นบกได้
คูเปอร์ : เราได้จัดกำลังคนไว้คุ้มกันเรียบร้อยแล้วครับ
นอร์ดิก : ครับ
แบบนั้นผมค่อยใจชื้นหน่อย
ณ เกาะโจรสลัดของลอเรนซ์
ลอเรนซ์รวบรวมพลพรรคโจรสลัดของเธอเพื่อเตรียมการต่อสู้กับพวกต่างชาติที่กำลังจะบุกมา
กองโจรสลัดของเธอลากปืนใหญ่ขึ้นรเอและทำการเสริมเรือให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
จากนั้นไม่นานลอเรนซ์ก็มาตรวจดูการเกณฑ์กำลังพลของเธอ
ลอเรนซ์ : นี่
เกณฑ์พลไปถึงไหนแล้วหล่ะ
“ตอนนี้เราเตรียมเรือปืนใหญ่และเรือโจมตีเร็วไว้แล้วครับ”
ลอเรนซ์ : แล้วคนของเรามีอยู่เท่าไหร่กันหล่ะ
“เท่าที่มาร่วมกับเราก็มีแค่แปดร้อยกว่าๆเองครับ
แล้วก็เรืออีก 7 ลำครับ”
ลอเรนซ์ : เราจะไม่โจมตีตรงๆ
เราจะรอให้พวกมันโจมตีติดพันกับทางรัฐบาลก่อน
“เสบียงของเราที่มีตอนนี้แค่ 12 วันนะครับ”
ลอเรนซ์ : เข้าใจหล่ะ
เราคงรอได้แค่นั้นจริงๆนะ
สิบกว่าวันต่อมา นายพลจอร์จกำลังรอข่าวจากทัพเรือของเขา
เพื่อที่จะเตรียมการโจมตีโซราบอล เขาดื่มชาอย่างใจร้อน
เขาเรียกลูกน้องของเขามาคุยเป็นการด่วน
“ท่านนายพลครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ”
จอร์จ : อ้อ
ฉันอยากรู้ว่าเมื่อไหร่กองเรือของฉันจะมาซะที
“ตอนนี้เรายังไม่ได้รับแจ้งครับท่าน”
แต่ในระหว่างนั้นเอง
นายทหารอีกคนหนึ่งก็รีบวิ่งมายังบ้านของนายพล จากนั้นก็คุยกับนายพลจอร์จในทันที
“ท่านครับ กองเรือของเรามาแล้วครับ”
นายพลจอร์จเดินออกไปรับกองเรือในทันที
ซึ่งมีเรือรบขนาดใหญ่บรรทุกปืนใหญ่เต็มอัตราศึกมาสิบลำ
หลังจากที่เรือธงจอดเทียบท่า นายพลคนหนึ่งก็เดินลงจากเรือ เมื่อเขาเจอนายพลจอร์จ
เขาก็เดินไปหาในทันที
“ท่านจอร์จ พระเจ้า ท่านยังมีชีวิตอยู่”
จอร์จ : อ้อ
สบายดีนะคุณอาร์ดวิน
“ครับ ผมได้ยินว่าคุณจะนำทัพเองนี่ครับ”
จอร์จ : ใช่แล้วหล่ะ
คุณมีกำลังพลเท่าไหร่หล่ะ
อาร์ดวิน : เรามีเรือรบขนาดใหญ่ติดปืน
14 ลำ พร้อมทหาร 4000 นายครับ
จอร์จ : ใช้เยอะขนาดนี้เลยเหรอ
อาร์ดวิน : ใช่ครับ
ทางลอนดอนแจ้งว่าให้จัดการไม่ให้เหลือครับ
จอร์จ : เยี่ยม
ผมจะล่องเรือไปทันที บุกไปทางแคว้นบาส์กนะ เพราะมันเป็นจุดที่อ่อนแอที่สุด
อาร์ดวิน : ได้ครับ
ผมจะจัดการเอง
ที่ใจกลางแคว้นมอร็อค โซรอน
อเล็กซ์สกี้นำกลุ่มกบฏนับแสนเคลื่อนพลมายังชายแดนมอร็อค
โดยที่นายพลโซรอนเป็นแม่ทัพในครั้งนี้ด้วย
นอสต้าร์และคนของเขาก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน
อเล็กซ์สกี้ : ดูกองพลของเราสิ
แค่นี้ก็ไม่มีใครทำอะไรเราได้แล้ว
อันเต้ : ท่านโซรอน
อย่าลืมที่ท่านสัญญาไว้ก็แล้วกันนะ
โซรอน : แน่นอน
รอฉันยึดโซราบอลได้เมื่อไหร่ ฉันจะให้ทุกอย่างกับนายเอง
นอสต้าร์ : ผมอยากบุกเข้าไปชิงตัวซิลเวียร์มาเดี๋ยวนี้หล่ะ
โซรอน : อีกไม่นานหรอกนอสต้าร์
อีกไม่นาน
ทางด้านแนวรับแคว้นของแคว้นรูดิว
ในขณะที่พวกเขากำลังเสริมแนวป้องกัน ปืนใหญ่ก็ยิงถล่มใส่พวกเขา
ทหารรูดิวและโซราบอลหาที่หลบกันให้วุ่น นายพลบูลสั่งให้ทหารไปหลยบที่สนามเพลาะ
จากนั้นตัวเขาก็เตรียมประจำการรบในทันที
บูล : ดูเหมือนว่าพวกมันกำลังจะมาแล้วสินะ
ฟีนด์ : ไม่ต้องห่วงหรอก
เตรียมปืนใหญ่กับปืนกลให้พร้อมก็แล้วกัน
อาร์เทมิส : ฉันพาผู้หญิงคนอื่นๆไปหาที่หลบแล้วหล่ะ
บูล : ดี
ให้พวกมันเข้ามาเลย
======================================================================
ดูเหมือนว่าพวกของโซรอนและอเล็กซ์สกี้กำลังจะมาแล้ว พวกของนอร์ดิกจะรับมือศึกครั้งนี้อย่างไร อย่าลืมติดตามชมตอนหน้า ซึ่งจะเป็นตอนสุดท้ายแล้วจ้า
จากนั้นก็จะไปเน้นเรื่องทหารรับจ้างแทน แหะๆ
ความคิดเห็น