ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Time To Kill Nazi - ข้ามเวลาฆ่านาซี

    ลำดับตอนที่ #8 : พายุลูกแรก

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 220
      10
      7 พ.ค. 61

    โจสเตรียมข้อมูลเพื่อออกมาแฉสิ่งที่เหล่านาซีกำลังจะกระทำ หลังจากเขารวบรวมข้อมูลได้มากพอ เขารีบไปยังสถานทูตเพื่อขอกลับไปยังวอชิงตัน เมื่อเขาถึงสนามบิน เขาพยายามจะเช็คเอ้าท์ออกไป แต่คนของนูโวร่าตามประกบเขาอย่างไม่ลดละ

    เขาหลบไปอีกทางหนึ่ง คนของนูโวร่าพยายามตามไป แต่โจสหนีไปทางนั้นทีทางนี้ที จนพวกนั้นปวดประสาท จนกระทั่งเขาได้ขึ้นเครื่องไปแล้ว คนของนูโวร่าได้แต่มองตาปริบๆที่เห็นเขาจากไป โจสได้นั่งกับเจ้าหน้าที่การทูตอีกคนหนึ่ง เขาได้พูดเรื่องทั้งหมดที่เจอให้เขาฟังทันที

    โจส ได้ยินว่านายเจอปัญหาที่เบอร์ลิน มีอะไรหรือเปล่าอ่ะ

    เรื่องนี้นายต้องไม่เชื่อแน่ๆ มีข่าวยืนยันได้ว่า พวกนาซีกำลังจะทำสงคราม

    นายมีหลักฐานหรือเปล่า

    ทั้งหมดอยู่ในแฟ้มนี้ ฉันก็ไม่รู้นะว่าพวกมันจะเริ่มลงมือที่ไหน

    นายคิดว่าจะเป็นที่ไหน

    ให้ฉันเดานะ ไม่โปแลนด์ก็ฝรั่งเศสหน่ะ

    เรื่องนี้ถึงหูทางวอชิงตันเมื่อไหร่ รูสเวลต์ไม่อยู่เฉยแน่ แต่ตอนนี้นายไปอยู่ลอนดอนก่อนนะ มีงานให้นายจัดการที่นั่น เรื่องนี้ฉันจะส่งไปทางวอชิงตันเอง

    ขอบใจมากนะเพื่อน

    ที่บ้านพักของนูโวร่า เธอโกรธมากที่โจสหนีไปได้ ทำเอาเธอโวยวายกับลูกน้องของเธอ

    ไม่ได้เรื่อง ฉันส่งพวกแกไปตั้งหลายคนนะ

    มันไหวตัวทันก่อนหน่ะครับ เราไม่รู้ว่าทำไม

    งั้นเหรอ พวกแกมีหน้าที่ไม่ให้มันรู้ตัวว่าโดนสะกดรอยนะ

    เราขอโทษครับ

    ไม่รู้ป่านนี้มันจะไปรายงานเรื่องอะไรแล้วบ้าง แล้วทางอิตาลีมีอะไรคืบหน้าบ้าง

    ครับ ตอนนี้ทางเราเริ่มรุกเข้าไปยังแอฟริกาแล้วครับ

    ดี กองทัพจักรวรรดิโรมันเก่างั้นเหรอจะพ่ายแพ้ง่ายๆเธอพูดพลางหยิบไวน์ขึ้นมาจิบอย่างใจเย็น

    เบอร์ลิน เยอรมนี ในห้องพักสุดหรูแห่งหนึ่ง วิคเตอร์ตื่นมาโดยที่มีกัสนอนอยู่ข้างๆ เขาเมามากแทบไม่ได้สติอะไร ส่วนเทราน์เนอร์ก็นอนอีกห้องหนึ่ง กัสหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ จากนั้นก็นอนคุยกับวิคเตอร์

    กัส : พรุ่งนี้ฉันต้องกลับประเทศฉันแล้วนะ

    วิคเตอร์ : ผมยังไม่รู้เลยว่าจะได้เจอคุณอีกหรือเปล่า

    กัส : ไม่ต้องห่วง ยังไงฉันก็ต้องมาหาคุณแน่ๆ

    วิคเตอร์ : คุณคิดว่าประเทศคุณจะต้องเข้าสู่สงครามมั้ย

    กัส : ฉันว่าไม่หรอก ถ้าต้องสู้กับเยอรมัน เพราะพวกคุณรบเก่งนะ

    วิคเตอร์ : คุณนี่ทั้งสวย และพูดจาดีแบบนี้ ผมนี่ชักหลงคุณเข้าไปทุกวันแล้วนะ

    ในห้องของเทราน์เนอร์กับเวเรร่า ทั้งคู่จัดกันหนักจนลืมวันลืมคืน เวเรร่าไปสูบบุหรี่อีกที่หนึ่ง ปล่อยให้เทราน์เนอร์นอนอยู่บนเตียงคนเดียว

    เวเรร่า : นี่ครั้งแรกของเธองั้นเหรอ

    เทราน์เนอร์ : ก็ครับ ว่าแต่ทำไมคุณถึงสนใจในตัวผมจัง

    เวเรร่า : ไม่รู้สิ ฉันว่าเธอดูน่าหลงใหลนะ

    เทราน์เนอร์ : ไม่ใช่เพราะผมเป็นวีรบุรุษงั้นเหรอครับ

    เวเรร่า : แหม่ พูดเล่นใช่หรือเปล่าเนี่ยเธอ

    เทราน์เนอร์ : พูดเล่นก็ได้ครับ

    ในค่ายยุวชนนาซี โยชิตะได้เป็นหัวหน้าหน่วยยุวชนนาซีอาสา ซึ่งหลังจากที่เขาได้รับเหรียญจากท่านผู้นำแล้ว เขาก็ได้รับหน้าที่ควบคุมและฝึกฝนเด็กใหม่เพื่อคัดเลือกเป็นยุวชนนาซีรุ่นต่อไป

    โยชิตะ วันนี้มีเด็กใหม่มาให้เราฝึก 500 คนหน่ะ

    โยชิตะ : ห่ะ เยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย

    พวกเขารู้ชื่อเสียงของนาย เลยอยากมาร่วมกับนาย ก็แค่นั้นแหละ

    โยชิตะ : เฮ้อ งั้นพวกนายไปรับหน้าก่อนก็แล้วกัน // โยชิตะพูดพลางตักพุดดิ้งกินไปด้วย

    นี่ พุดดิ้งนั่นได้มาจากไหนเนี่ย

    โยชิตะ : พี่สาวฉันเอามาให้หน่ะ

    บอกให้พี่สาวนายเอามาแบ่งให้พวกฉันด้วยสิ

    โยชิตะ : อ้อ ได้สิ แต่คงจะนายหน่อยนะ ตอนนี้นายมากินกับฉันก่อนสิ

    ทางด้านอลิสกับริน พวกเธอได้รับการฝึกสายลับ ต้องเรียนรู้ในการที่จะเป็นสายลับหลายอย่าง พวกเธอดูจะเรียนรู้ได้เร็วกว่าคนอื่นๆ ทำให้เธอได้รับการยอมรับจากครูฝึกของเธอ เมื่อถึงเวลาพัก พวกเธอก็มานั่งคุยกัน

    ริน : พี่ หนูกลัวว่าหนูจะทำไม่ได้หน่ะ

    อลิส : นี่ อย่ากลัวสิ เดี๋ยวพี่จะช่วยสอนเพิ่มเติมให้

    ริน : คือหนู คงไม่ถนัดไปนอนกับชายมากหน้าหลายตาแบบนั้นหน่ะสิ

    อลิส : ไม่ต้องห่วงหรอก ไม่มีทางที่ใครจะได้แตะตัวพวกเราหรอก

    ริน : แล้วเราจะต้องเริ่มงานที่ไหนหล่ะพี่

    อลิส : ไม่รู้สิ ไม่แน่อาจจะฝรั่งเศส ไม่ก็อังกฤษหน่ะ

    ริน : ก็ดีสิพี่ หนูอยากไปฝรั่งเศสพอดีเลย

    ณ ฐานบัญชาการแห่งหนึ่ง ฮิตเลอร์สั่งให้นายทหารเยอรมันหลายนายเข้าพบ ฮัมบูร์กจะต้องเข้าไปด้วย เมื่อเริ่มประชุม พวกเขาได้พูดถึงการรุกรานโปแลนด์ทันที

    ฮิตเลอร์ : เอาหล่ะ คุณเฟดอร์และรุนด์ชเทดท์ คุณมีอะไรจะเสนอเกี่ยวกับการบุกโปแลนด์หรือเปล่า

    เฟดอร์ : ท่านครับ ผมว่าเราต้องใช้กองพลรถถังทั้งหมด แล้วปูพรมด้วยปืนใหญ่ของเราครับ

    ฮัมบูร์ก : เออ ดิฉันขอค้านค่ะ ดิฉันมีวิธีที่ดีกว่านั้น

    รอมเมล : อ้อ นี่คือผู้ช่วยของผมเองครับ เธอชื่อ ร้อยโทฮัมบูร์ก มาสส์ ครับ

    ฮิตเลอร์ : ผมอยากรู้ความสามารถของคุณจริงๆ // ฮิตเลอร์จูบมือเธอ

    ฮัมบูร์ก : ค่ะท่าน ศึกครั้งนี้กองทัพโปแลนด์ไม่ได้เข้มแข็งอะไรมากค่ะ ฉันขอแค่นำกองพลรถถังเตรียมพร้อมไว้ด้านนี้ บุกจากด้านหน้าค่ะ

    ลูก้า : เดี๋ยวก่อนสิ ศัตรูมีปืนต่อต้านรถถังนะ

    ฮัมบูร์ก : ไม่ต้องห่วงค่ะ ให้เครื่องบินและปืนใหญ่จัดการแนวป้องกันและปืนต่อสู้รถถังก่อน จากนั้นรถถังค่อยบุกเข้าไปอย่างรวดเร็ว

    เมอร์ลิน : งานนี้ต้องใช้เครื่องบินด้วยเหรอ สิ้นเปลืองไปหรือเปล่าอ่ะ

    ฮัมบูร์ก : เชื่อฉันเถอะ สมัยนี้เครื่องบินมีผลต่อการรบมาก

    ฮิตเลอร์ : ความคิดเข้าท่าดี แต่เราต้องโจมตีแบบสายฟ้าแลบ ฉันอยากได้โปแลนด์โดยไว

    เกิบเบลล์ : แต่ท่านครับ เราต้องระวังพวกโซเวียตด้วยนะครับ

    เกอริง : นั่นสิครับ พวกอังกฤษคงไม่ยอมแน่ๆถ้าเราบุกโปแลนด์

    ลูก้า : งั้นเราก็ต้องทำสัญญาไม่รุกรานกันกับพวกโซเวียตก่อนนะครับ

    มิลเลอร์ : นี่นายจะบ้าเหรอ จะให้ไปร่วมมือกับพวกคอมมิวนิสต์เนี่ยนะ

    ลูก้า : เพื่อไม่เป็นการเปิดศึกสองด้านยังไงหล่ะ

    มิลเลอร์ : ฉันเข้าใจ แต่ฉันไม่ชอบเท่าไหร่ที่จะไปจับมือกับพวกมัน

    เมอร์ลิน : ฉันว่าแผนนี้ก็เข้าท่าดีเหมือนกันนะ

    ฮิตเลอร์ : ความคิดดีนี่ ฮัมบูร์ก ถ้าเธอทำได้ ฉันจะให้เธอทุกอย่าง คุณเฟดอร์และรุนด์ชเทดท์จะเป็นผู้นำการรบในครั้งนี้ ขอให้ทุกคนรับทราบทั่วกัน

    อีกด้านหนึ่งในแอฟริกา หลังจากที่เทเรซ่าเข้าสู่กองทัพในฐานะแพทย์สนาม เธอต้องทนเห็นทหารบาดเจ็บล้มตายทุกวัน เนื่องจากกองทัพอันเกรียงไกรของเธอสู้แบบไม่เป็นโล้เป็นพาย ทหารไม่มีกำลังใจในการรบอะไรเลย

    หมอ ช่วยเราด้วย

    เทเรซ่า : ใจเย็นๆนะ เดี๋ยวก็หายแล้ว

    หมอครับ ทางนี้ด้วย เขาจะไม่ไหวแล้ว

    เทเรซ่าได้ยินคำพูดนี้ทั้งวันทั้งคืน ทำเอาเธอแทบจะเป็นบ้า ทำไมประเทศของเธอต้องมาสู้ในสงครามบ้าๆนี่ด้วย ในขณะที่หน่วยของเธอกำลังจะแพ้เข้าไปทุกที

    เทเรซ่า : ท่านคะ ยาของเราใกล้จะหมดแล้ว โปรดสั่งการด้วยค่ะ

    สั่งให้พวกเราถอยไปรวมกับหน่วยที่ 11 ก่อน อย่างน้อยก็พอมีทางรอดได้บ้าง

    เทเรซ่าช่วยลำเลียงคนขึ้นรถบรรทุกทั้งวัน เพื่อถอยไปยังหน่วย 11 ในขณะที่เสียงปืนใหญ่ยังดังขึ้นทุกด้าน เธอภาวนาขอให้สงครามครั้งนี้จบลงในเร็ววัน

    ส่วนรัต เขาได้เลื่อนยศเป็นร้อยเอก ประจำการอยู่ชายแดนกัมพูชา ซึ่งในขณะนั้นมีปัญหากับฝรั่งเศสบ่อยครั้ง เขาต้องต่อสู้กับพวกกองสอดแนมที่เข้ามาก่อกวนหน่วยของเขาทั้งวัน

    รัต : ท่านครับ นี่เราทำได้แค่ป้องกันจริงๆเหรอครับ

    ท่านผู้นำไม่อยากให้มันรุนแรง เดี๋ยวจะลุกลามเป็นสงครามใหญ่หน่ะ

    รัต : แต่ผมจะไม่ทนเห็นเพื่อนทหารตายไปอีกแล้วนะครับ

    เรามีทางเลือกงั้นเหรอผู้กอง

    รัตหัวเสียเดินออกไปด้านนอก ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาต้องทำอะไรต่อไปกันแน่ เขาหยิบสร้อยเส้นนั้นที่โอ๊คใหมาดูอีกครั้ง โอ๊ค ฉันไม่ไหวแล้ว ฉันอยากจะหนีไปให้ไกล แต่ฉันทำไม่ได้ ที่นี่เหมือนกับนรกเข้าไปทุกที ฉันไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ซักพักเขาก็เก็บสร้อยนั้นไว้ที่เดิม แล้วทำการสู้รบต่อ

    ทางด้านออก้า หลังจากที่เขากลับถึงมอสโคว เขาก็กลับไปหาแม่ของเขาทันที

    ออก้า ลูกแม่ สบายดีนะลูก

    ครับแม่ แม่สบายดีนะครับ

    สบายดีลูก ว่าแต่ในเยอรมันเป็นยังไงบ้างลูก

    อยู่ยากอ่ะแม่ พวกมันไล่จับคอมมิวนิสต์เป็นว่าเล่นเลย

    กลับมาก็ดีแล้วลูก ฮิตเลอร์คงไม่อยากให้ลูกอยู่ที่นั่นหน่ะ

    ผมอยากให้แม่รู้จักเพื่อนผมคนนึงจังเลย เขาช่วยผมจากพวกเยอรมันไว้หน่ะ

    ก็ดีนะลูก แม่ว่าเขาต้องเป็นคนดีแน่ๆ

    โซเซีย เมื่อไหร่ฉันจะได้เจอนายอีกหล่ะเนี่ยเขาคิดในใจระหว่างที่คุยกับแม่ของเขา

    ณ กรุงวอร์ซอร์ ที่โรงงานของลินดา พวกของนาวินก็ทำงานเพื่อหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตัวเองต่อไป แต่ยังดีที่โปแลนด์ต่างจากเยอรมันมาก พวกเขาอยู่สุขสบายดีที่นี่ แถมยังมียายทวดของอเล็กซ์คอยดูแลอีก

    ช่วงเวลาพักเที่ยง พวกของนาวินเปิดวิทยุฟัง ซึ่งในตอนนั้นก็ไม่มีอะไรที่เป็นสิ่งบันเทิงมากไปกว่านี้

    นาวิน : เออนี่ พวกนาย เพลงแบบนี้ก็ฟังสบายดีเหมือนกันนะ

    ธิน : นั่นดิ คลาสสิกแบบนี้ฉันชอบหว่ะ ชอบจริงๆเลย

    โอ๊ค : ถุ๊ย ฉันเห็นนายฟังแต่อะไรก็ไม่รู้ ตึ้ดๆๆๆๆอะไรไม่รู้เนี่ย

    ระหว่างนั้นเอง ก็มีรายการข่าวแทรกเข้ามากลางคัน

    สถานีวิทยุวอร์ซอร์ มีข่าวด่วนรายงาน วันนี้ เมื่อเวลาเช้าของวันที่ 24 สิงหาคม 1939 เยอรมนีได้ทำสนธิสัญญาไม่รุกรานกันกับสหภาพโซเวียตอย่างเป็นทางการ…….”

    แซค : แย่แล้ว แบบนี้แย่แน่ๆ คงต้องรีบทำอะไรซักอย่าง

    เอม : พี่ดูกลัวลนๆนะพี่ มีอะไรหรือเปล่าอ่ะ บอกหนูได้นะ

    แซค : อีก 7 วัน เยอรมันและโซเวียตจะบุกโปแลนด์ยังไงหล่ะ

    โซเซีย : จริงด้วย หลังจากที่ทำสนธิสัญญากันแล้ว พวกมันจะตีกระหนาบโปแลนด์

    ออย : แล้วแบบนี้ พวกเราจะทำยังไงดีหล่ะคะ จะหนีต่องั้นเหรอ

    อเล็กซ์ : แบบนี้ยายทวดฉันคงจะไม่ปลอดภัยแน่ๆ อุ๊บส์

    นาวิน : ยายทวด หมายความว่าไงงั้นเหรอ

    อเล็กซ์ : ก็ได้ๆ คุณนายแคทเทอรีนคือยายทวดของฉันในอนาคต

    แซค : งั้นเหรอ ฉันว่าแล้วทำไมเธอดูตื้นตันใจจังเลย

    โซเซีย : เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ ฉันว่าเราควรจะเตือนคุณลินดาด้วยนะ

    เอม : เขาจะเชื่อเหรอคะ เขาไม่เคยรู้อนาคตแบบเรานี่

    ออย : นั้นสิ เขาจะหาว่าเราเสียสติอีกแน่ๆ

    ธิน : แต่ยังไงก็ต้องลองดูก่อนนะ จะปล่อยให้คุณลินดาเจอภัยครั้งนี้ได้ยังไงหล่ะ

    นาวิน : ถ้างั้น เราควรจะไปคุยเรื่องนี้กับคุณลินดาเอง

    พวกของนาวินเดินเข้าไปขอคุยกับคุณลินดา ในตอนนั้นเอง เธอก็กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ เมื่อนาวินเข้ามา เธอก็วางสายทันที

    ลินดา : อ้าว วินจ๊ะ มีธุระอะไรหรือเปล่าอ่ะ

    นาวิน : คือผม คุณลินดาครับ ผมว่าคุณลินดาต้องหนีไปจากที่นี่นะครับ

    ลินดา : ฉันก็ว่าจะย้ายไปอยู่เนเธอร์แลนด์อยู่หน่ะ ว่าแต่ทำไมเธอถึงพูดแบบนั้นหล่ะ

    แซค : คือ ผมฟังข่าวเมื่อเช้า ทางเยอรมันได้ทำสนธิสัญญาไม่รุกรานกันกับโซเวียตครับ

    ลินดา : ฉันก็ได้ยินอยู่นะ ว่าแต่ยังไงต่อหล่ะ

    ธิน : พวกเราคิดว่า พวกมันอาจจะเตรียมรุกรานโปแลนด์เร็วๆนี้ครับ

    ดไวด์ : ห่ะ จริงเหรอ นายคิดแบบนั้นจริงๆเหรอ

    โซเซีย : ก็ดูง่ายๆ ดานซิคเพิ่งอยู่ในความควบคุมของเยอรมันนะ

    โอ๊ค : แล้วผมก็คิดว่า พวกมันคงไม่หยุดแค่ที่ดานซิคแน่นอนครับ

    ลินดา : ฉันก็คิดอยู่นะ แต่อย่าเพิ่งไปคิดถึงเรื่องอนาคตเลย เออนี่ พวกเธอน่าจะไปอยู่เนเธอร์แลนด์ด้วยกันนะ

    อเล็กซ์ : ค่ะ ไว้เราจะรอดูก่อนนะคะ

    หลังจากเลิกงาน พวกเขาก็กลับมายังบ้านของแคทเทอรีน ซึ่งเธอกำลังเตรียมอาหารเย็นสำหรับพวกเด็กๆเลย

    แคทเทอรีน : กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ รีบมากินเลยกำลังร้อนๆหน่ะ

    พวกเด็กๆมานั่งทานข้าวด้วยความหิว จากนั้นก็คุยกันเรื่องทำกำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้

    อเล็กซ์ : ยาย เออ น้าคะ หนูว่าเราควรจะหนีออกไปจากวอร์ซอร์นะคะ

    แคทเทอรีน : อ้าว ทำไมเหรอจ๊ะ อยู่ที่นี่ไม่สบายเหรอจ๊ะ

    แซค : คุณน้าได้ยินข่าวที่โซเวียตกับเยอรมันลงนามสนธิสัญญาตัวใหม่หรือเปล่าครับ

    แคทเทอรีน : อ้อ เข้าใจหล่ะ ฉันว่าพวกมันคงต้องบุกมาโปแลนด์แน่ๆ

    โอ๊ค : ถ้าพวกเราจะหนี เราจะหนีไปไหนดีหล่ะ

    แคทเทอรีน : น้าว่า น้าจะไปอยู่กับเพื่อนน้าที่เนเธอร์แลนด์หน่ะ น้ามีเพื่อนอยู่ที่นั่น

    โซเซีย : เพื่อนน้าเป็นใครงั้นเหรอครับ

    แคทเทอรีน : เขาชื่ออ๊อตโต้ แฟรงค์ เขาเปิดสำนักงานอยู่ที่อัมสเตอร์ดัมหน่ะ แล้วอีกอย่าง น้ามีบ้านที่ปลอดภัยอยู่ที่นั่น

    เอม : อ๊อตโต้ แฟรงค์ ชื่อคุ้นๆนะคะ เธอเคยได้ยินหรือเปล่า

    ออย : ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน พวกพี่พอรู้หรือเปล่าคะ

    ธิน : อ้อ พ่อของแอนน์ แฟรงค์ไง พวกนายรู้จักเปล่า // เขากระซิบข้างหูแซค

    แซค : จริงด้วย ถึงว่าทำไมคุ้นๆจัง

    แคทเทอรีน : แล้วพวกเธอจะไปด้วยหรือเปล่าหล่ะจ๊ะ

    อเล็กซ์ : น้าไปไหนพวกหนูขอไปด้วยค่ะ

    แคทเทอรีน : โอเคจ้ะ งั้นพวกเธอกินให้อิ่มก่อนดีกว่านะ // พวกเด็กๆกินข้าวกันจนอิ่ม จากนั้นก็เข้าไปนอนที่ห้องนอนใต้ดินที่แคทเทอรีนเตรียมไว้ให้ พวกเขาต้องเตรียมตัวกับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น นาวินคิดถึงเทเรซ่า ไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน แต่เขาหวังไว้แค่ว่า ขอให้เธอปลอดภัย รอดพ้นจากยุคมืดครั้งนี้ไปให้ได้

     ======================================================================

    ดูเหมือนว่าสงครามกำลังจะใกล้เข้ามา แล้วพวกเขาจะรอดพ้นจากภัยในครั้งนี้ได้หรือไม่ ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า

    ขอคนละเม้นท์ด้วยจ้า กดติดตามนิยายกันด้วยเน้อ

     

     

     

     

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×