ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Time To Kill Nazi - ข้ามเวลาฆ่านาซี

    ลำดับตอนที่ #6 : เรื่องไม่คาดฝัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 275
      11
      1 พ.ค. 61

    พวกเขาพยายามแฝงตัวเข้าไปในห้องพักของพวกเขาที่โรงงานแห่งหนึ่ง พวกเขาพยายามจะฝ่าตำรวจพวกนั้นเข้าไป หลังจากที่ผ่านเข้ามาที่ห้องของพวกเขาได้ พวกเขาก็รีบหยิบเงินที่ตัวเองสะสมมาทั้งหมดไปทันที เพราะพวกเขาต้องหนีไปจากที่นี่ แต่ในระหว่างเดียวกัน ก็มีชายคนหนึ่งพยายามมาที่ห้องพักของพวกเขาด้วย ซึ่งนั้นก็คือดไวด์นั้นเอง

    ดไวด์ : พวกนาย ยังอยู่เหรอ ดีใจจังเลย

    นาวิน : มันเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอดไวด์

    ดไวด์ : อยู่ดีๆพวกเกสตาโปก็มาจับพวกเราทั้งโรงงาน คุณจอร์จี้บอกกับฉันว่า ถ้าฉันเจอพวกนาย ให้ฉันบอกพวกนายว่า ให้หนีไปโปแลนด์กับฉันซะ

    โอ๊ค : แล้วมันจะทำอะไรคุณจอร์จี้หรือเปล่าอ่ะ

    ดไวด์ : ฉันก็ไม่รู้ ได้ยินว่าจะขังลืมด้วยอ่ะ

    อเล็กซ์ : ต้องเป็นฝีมือยัยนั่นแน่ๆ คอยดูนะ ถ้าฉันเจอฉันฟันหน้าไม่เลี้ยงแน่

    ธิน : เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ ว่าแต่เราจะหนีไปยังไงหล่ะ

    ดไวด์ : ฉันนัดเพื่อนฉันไว้หลังโรงงานอ่ะ เราเตรียมรถบรรทุกหนีกันแล้ว

    โซเซีย : เราจะไปโปแลนด์จริงๆเหรอ อยากไปฝรั่งเศสมากกว่า

    แซค : นั่นสิ เพราะโปแลนด์อีกไม่นานก็คงจะ

    เอม : คงจะอะไรเหรอคะพี่

    แซค : ไม่มีอะไรหรอก ถ้ามันปลอดภัยก็โอเค

    ดไวด์ : ไม่ต้องห่วง ที่นั่นมีงานให้พวกนายทำทุกคน ฉันรับรองได้

    ออย : ก็ดีเหมือนกันค่ะ ฉันว่าที่นี่ก็ชักไม่ปลอดภัยแล้วหล่ะ

    พวกเขารีบพากันหนีไปขึ้นรถบรรทุกที่เตรียมไว้ จากนั้นรถก็ค่อยๆเคลื่อนไป พวกเขาใช้เส้นทางลับ ที่ทำให้เข้าสู่โปแลนด์ได้โดยที่ไม่โดนพวกเกสตาโปจับได้

    สองเดือนต่อมา พวกของเทราน์เนอร์ก็ได้ดิบได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เทราน์เนอร์กับวิคเตอร์ถึงขั้นเป็นตัวเต็งในการแข่งรถแรลลี่ประจำปีที่ฝรั่งเศส

    วิคเตอร์ : ยินดีด้วยนะ ต่อไปนี้นายจะคว่ำศัตรูทุกรายบนถนนเหมือนฉัน

    เทราน์เนอร์ : ยินดีครับ แล้วจะลงแข่งเมื่อไหร่ครับ

    วิคเตอร์ : ไม่กี่เดือนนี่แหละครับ ถ้าเราชนะ ท่านผู้นำจะต้องภูมิใจแน่ๆ

    เทราน์เนอร์ : แด่ท่านผู้นำ // เขาชูมือขึ้น ส่วนคนอื่นๆก็ชูมือขึ้นตามเขา

    ส่วนฮัมบูร์ก เธอได้ไปเรียนวิชาทหารเพิ่มเติมในกองทัพแวร์มัค เธอทำผลงานได้ดีจนคนอื่นๆต้องอิจฉา (เพราะเธอรู้เรื่องยุทธวิธีจากโลกอนาคตด้วย) ถึงขั้นจอมพลรอมเมลต้องเรียกเธอเข้าพบทันที เนื่องจากประสิทธิภาพของเธอโดดเด่นเกินกว่าใครในช่วงนั้น

    วันที่เธอเข้าพบรอมเมล เธอตื่นเต้นมาก เมื่อเธอเจอเขา เธอขอจับมือเขาทันที

    ฮัมบูร์ก : ท่านนายพลคะ เป็นเกียรติที่ได้เจอท่านค่ะ

    รอมเมล : สวัสดีสาวน้อย กาแฟหน่อยมั้ย // เลขาชงกาแฟให้เธอดื่ม แต่เธอเผลอทำกาแฟหกใส่เธอ เลขาต้องคอยเช็ดแขนให้เธอ

    เลขา : ขอโทษนะคะๆ // เธอเช็ดไปเรื่อยๆ แต่ไม่มีทีท่าว่าฮัมบูร์กจะเจ็บปวดแต่อย่างใด ทำเอารอมเมลถึงกับสงสัย

    รอมเมล : ไม่เจ็บไม่ปวดอะไรเลยเหรอ

    ฮัมบูร์ก : อ้อ ฉันเป็นโรค congenital analgesia หรือโรคไร้ความเจ็บปวดตั้งแต่เด็กหน่ะค่ะ ขนาดรถชนหนูยังไม่เป็นอะไรเลย

    รอมเมล : งั้นเหรอ ฉันอยากให้เธอรู้จักกับผู้ช่วยของฉัน คนนี้ร้อยเอกลูกา ฮอฟฟ์แมน กองทัพบกแวร์มัค ร้อยเอกมิลเล่อร์ หน่วย Panzergrenadier และร้อยโทเมอร์ลิน กองทัพอากาศลุควาฟ รู้จักกันไว้สิ

    พวกเขาจับมือกัน จากนั้นรอมเมลก็พูดต่อ

    รอมเมล : ท่านผู้นำมีแผนการจะทำสงครามครั้งใหม่หน่ะ

    ลูกา : ว่าแต่ จะเริ่มที่ไหนหล่ะครับ

    รอมเมล : ท่านผู้นำหมายตาโปแลนด์ไว้หน่ะ

    มิลเลอร์ : ผมว่า งานนี้คงต้องใช้ทหารเยอะมากๆในการบุกหน่ะครับ

    ฮัมบูร์ก : แต่ฉันว่าไม่จำเป็นนะคะ // เธอโต้แย้งขึ้นมาทันที

    เมอร์ลิน : ทำไมเธอถึงคิดแบบนั้นหล่ะ บอกหน่อยสิ

    ฮัมบูร์ก : ฉันมองว่า ศักยภาพของพวกเขาคงจะต้านพวกเราไม่ได้หรอกค่ะ

    ลูกา : แต่เราก็จะประมาทไม่ได้นะ

    มิลเลอร์ : นั่นสิ เรายังไม่รู้ศักยภาพของพวกนั้นดีพอเลยนะ

    ฮัมบูร์ก : ฉันมีวิธีที่ทำให้ได้ผลอย่างรวดเร็วที่สุด และใช้คนน้อยที่สุดค่ะ

    เมอร์ลิน : ว้าว น่าสนใจแหะ อยากรู้จริงๆว่าเธอจะทำยังไง

    รอมเมล : เอาหล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ท่านผู้นำจะเรียกเข้าพบ ยังไงพวกเธอก็ไปกับฉันด้วยก็แล้วกันนะ

    ส่วนชีวิตของโยชิตะ เขาฝึกได้ไม่เท่าไหร่ก็มีพัฒนาการนำหน้าเด็กคนอื่นๆ เขากำลังจะได้พบท่านผู้นำเพื่อรับเหรียญจากเขาแล้ว เด็กคนอื่นๆพากันยินดีกับเขา

    ยินดีด้วยนะๆ

    จะได้พบท่านผู้นำด้วย เยี่ยมไปเลย

    ระหว่างที่โยชิตะกำลังพักผ่อน ก็มีคนมาเยี่ยมเขา ซึ่งนั้นก็คืออลิส พี่สาวของเขานั้นเอง ตัวของรินเองก็มาด้วย

    อลิส : เป็นยังไงบ้าง อยู่ที่นี่สบายดีนะ

    โยชิตะ : สบายดีครับพี่ แล้วพี่หล่ะ เป็นไงบ้าง

    อลิส : ฝึกเสร็จแล้วหล่ะ อีกไม่กี่วันฉันกับรินจะได้ทำงานแล้ว

    ริน : ฉันจะได้งานทำเป็นนักร้องบังหน้าหน่ะ

    โยชิตะ : ห่ะ อย่างเธอร้องเพลงเป็นด้วยเหรอ

    ริน : นี่ อยากโดนอีกหรือไงห่ะ แล้วนี่นายหน่ะ ไปถึงไหนแล้ว

    โยชิตะ : พรุ่งนี้ท่านผู้นำจะมอบเหรียญให้ผมครับ

    อลิส : ฉันเข้าใจนะ แต่อย่าลำพองมากเกินไปหล่ะ อย่าลืมว่านี่ไม่ใช่ยุคของเรา

    โยชิตะ : ผมเข้าใจครับพี่

    ริน : เฮ้อ คิดๆไปแล้ว อยู่ที่นี่ก็ดีเหมือนกันนะพี่

    อลิส : เข้าใจ แต่อย่าหลงระเริงมากหล่ะ พี่เตือนเพราะหวังดีนะ

    ริน : อย่างโยชิตะเขาไม่ฟังหรอกพี่ 555

    โยชิตะ : โว๊ะ ปัญญาอ่อน ผมไปนอนพักก่อนนะ // โยชิตะหัวเสียเข้าไปนอนพักอยู่ในแค้มป์ของเขา

    ทางด้านเทเรซ่า ซึ่งเธอต้องกลับประเทศของเธอ เธอนั่งอยู่บนเรือลำใหญ่ นั่งครุ่นคิดถึงบ้านเกิดของเธอ แต่อยู่ดีๆเธอก็คิดถึงชายอีกคนหนึ่ง

    เฮ้อ นาวิน ฉันจะได้เจอกับนายอีกเมื่อไหร่หล่ะเนี่ย

    เธอร้อนใจอยากจะกลับมาเยอรมันเร็วๆอีกครั้ง แต่เธอคงไม่รู้ว่าเขาต้องหนีไป เนื่องจากโดนตามล่า เธอไปขอไวน์ที่ห้องรับรองดื่ม แล้วเธอก็นั่งอยู่มุมเล็กๆคนเดียว ไม่คุยกับใครเลย

    ส่วนทางด้านรัตที่กำลังจะกลับบ้านพร้อมกับเพื่อนทหารคนอื่นๆ เขาได้หยิบสร้อยเส้นหนึ่งที่โอ๊คให้มามอง แล้วก็พูดกับตัวเองไปเรื่อย

    เฮ้อ เมื่อไหร่ฉันได้เจอนายหล่ะเนี่ย ความจริงฉันน่าจะขอที่อยู่นายนะ

    ระหว่างนั้นเอง ทหารอีกคนหนึ่งก็เดินเข้าไปคุยกับเขา

    สร้อยนั้นได้มาจากใครเหรอ รัต

    ก็ ฉัน ได้จากเพื่อนฉันหน่ะ

    เพื่อนนายคงจะสนิทกับนายมากนะ เพ้อถึงเขาตลอดเวลาเลยเนี่ย

    รัตไม่ได้พูดอะไรมาก และยังคงมองดูสร้อยเส้นนั้นต่อไป

    ณ สถานทูตสหรัฐอเมริกาในเยอรมัน ชายคนหนึ่งกำลังทำงานบนโต๊ะอย่างเคร่งขรึม เนื่องจากงานบนโต๊ะกองเป็นภูเขาเลากา ในขณะเดียวกัน ก็มีชายคนหนึ่ง รีบร้อนเข้ามาต้องการขอพบกับเขาให้ได้

    ตอนนี้ยังไม่ได้ครับ คุณโจสกำลังทำงานอยู่ครับ

    ผมมีของสำคัญต้องเอาให้เขาดูครับ

    โจสรู้ได้ถึงความเคลื่อนไหว จึงเรียกเขาให้เข้ามาพบ ผู้ชายคนนั้นเรียกรีบมาหาเขาทันทีด้วยความกลัว

    โจส : ใจเย็นๆนะ นายมีอะไรว่ามาเลย

    คุณโจสครับ ข้อมูลที่ผมได้มา อาจจะทำให้ผมอยู่ที่นี่ไม่ได้ครับ

    โจสได้อ่านข้อความเหล่านั้น ซึ่งเป็นเอกสารลับจากทางราชการ ซึ่งโจสดูเนื้อหาด้านใน ทำให้เขาต้องรีบเก็บข้อมูลนั้นไปทันที

    โจส : เอาหล่ะ ฉันขอบใจมากนะ ว่าแต่ นายต้องการอะไรเพิ่มเติมมั้ย นอกจากเงินหน่ะ

    ผมต้องการ passport อเมริกาครับ ผมอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว

    โจส : ได้สิ เดี๋ยวนายไปรอที่ห้องนั้นก่อนนะ ฉันจะให้เลขาเอาของไปให้ // เขาให้ชายคนนั้นไปรอ จากนั้นเองตัวเขาก็เก็บข้อมูลนั้นอย่างมิดชิด เพราะหากข้อมูลนี้รั่วไหลไป เขาอาจจะตายในต่างแดนนี้ก็ได้

    นี่ค่ะ ของที่คุณต้องการอยู่ในซองนี้แล้ว

    ชายคนนั้นรับซองนั้นมา ซึ่งในนั้นมี passport อยู่หนึ่งเล่มกับเงินดอลล่าห์อีกจำนวนหนึ่ง จากนั้นเขาก็รีบร้อนออกไปอย่างระแวง

    แต่ในขณะเดียวกันไม่นาน ก็มีรถคันหนึ่งของเจ้าหน้าที่เยอรมันขับมาที่หน้าสถานทูต โจสสั่งให้เจ้าหน้าที่ด้านในเตรียมการต้อนรับเป็นอย่างดี

    หัวหน้าของเราอยู่ในห้อง เชิญค่ะ

    เธอเดินเชิดหน้าอย่างไม่แคร์สื่อ เข้าไปในห้องของโจนที่กำลังตรวจงานอยู่

    โจส : เชิญนั่งครับ // เธอลากเก้าอี้มานั่ง

    ดิฉันนูโวร่า เบียงกี้ คุณน่าจะรู้จักชื่อฉันนะ

    โจส : คุณคือนูโวร่าผู้โด่งดัง ว่าแต่มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ

    นูโวร่า : เราอยากทราบความเคลื่อนไหวของนักโทษหนีคดีคนนี้ // เธอยื่นรูปให้เขาดู

    โจส : เขาเป็นใครกันหล่ะ

    นูโวร่า : ไม่สำคัญหรอกค่ะ เราได้ยินว่าเขาติดต่อสถานทูตอเมริกาหน่ะ

    โจส : ผมรู้จักเขา เขามาขอลี้ภัยหน่ะ แต่ตอนนี้เราไม่ได้ติดต่อกันแล้ว

    นูโวร่า : น่าเสียดายจังเลย ถ้าคุณเจอเขา ฉันหวังว่าคุณคงจะให้ความร่วมมือนะ // เธอเดินออกไปโดยไม่บอกลา สร้างความน่าหมั่นไส้ให้กับเจ้าหน้าที่ในนั้นมากๆ

    วันต่อมา ซึ่งเป็นวันแถลงข่าวการแข่งรถแรลลี่ยุโรปประจำปี ทีมนักแข่งจากเยอรมันเตรียมให้สัมภาษณ์นักข่าวถึงการเตรียมพร้อมเข้าแข่งขัน

    นักข่าว : คุณวิคเตอร์คะ ดิฉันอยากทราบถึงความมั่นใจของคุณในการแข่งครั้งนี้ค่ะ

    วิคเตอร์ : ครั้งนี้เรามีความมั่นใจมากที่สุด ที่จะได้ชัยชนะมาฝากท่านผู้นำ

    นักข่าว : แล้วคุณเทราน์เนอร์คะ คุณเป็นนักแข่งหน้าใหม่ คุณรู้สึกตื่นเต้นกับการแข่งขันในครั้งนี้หรือเปล่าคะ

    เทราน์เนอร์ : คือ ถึงแม้ว่า ผมจะเป็นนักแข่งใหม่ แต่ฝีมือของผมนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอนครับ

    ในขณะเดียวกัน ฮัมบูร์ก โยชิตะ อลิส ริน และนายทหารอีกสามคน มิลเลอร์ เมอร์ลินและลูก้าก็อยู่ด้วยในการสัมภาษณ์ครั้งนั้น

    ฮัมบูร์ก : ดูท่าทางจะสั่นๆนะ พูดยังดูไม่ต่อเนื่องชอบกล

    โยชิตะ : เอาน่าพี่ ก็พี่เทราน์เนอร์เขาเพิ่งจะออกสื่อครั้งแรกนี่พี่

    อลิส : อยากเห็นพี่เขาลงแข่งเร็วๆจังเลยนะเนี่ย

    ริน : นั้นสิ อยากเห็นฝีมือพี่เขาจัง ตั้งแต่ขับโกคาร์ทครั้งนั้นก็ไม่เห็นอีกเลย

    ลูก้า : ท่าทางเพื่อนเธอจะดูประหม่านิดหน่อยนะ

    ฮัมบูร์ก : ฉันว่าไม่นิดหน่อยแล้วหล่ะ

    มิลเลอร์ : แต่อย่าลืมนะ ทางฝรั่งเศสยังมีนักแข่งชื่อดังคนนั้นอยู่นี่

    เมอร์ลิน : แล้วยังไงหล่ะ คิดจะยอมแพ้พวกฟร็อกกี้งั้นเหรอ (ฟร็อกกี้เป็นคำที่เรียกชาวฝรั่งเศสอย่างดูแคลน เนื่องจากพวกเขาชอบนำขากบมาทำอาหาร)

    นักข่าว : แต่ปีที่แล้ว ฝรั่งเศสเพิ่งจะได้แชมป์สมัยที่ 3 ต่อเนื่องกันแล้ว คุณว่าศักยภาพของคุณจะพอสู้ได้หรือเปล่าคะ

    วิคเตอร์ : ผมเชื่อว่าปีนี้พวกเขาคงต้องผิดหวังแล้วหล่ะครับ

    การสัมภาษณ์เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และในตอนนั้นเอง ก็เป็นการเดินแบบจากชุดนานาชาติ หนึ่งในนั้นมีสยาม ซึ่งกัสเป็นนางแบบอยู่ด้วย เธอทำให้สายตาหลายคู่หยุดมองที่เธอ แม้แต่วิคเตอร์ยังแอบมอง จนกระทั่งเดินเสร็จ วิคเตอร์เดินเข้าไปหาเธอถึงห้องแต่งตัวของเธอทันที

    วิคเตอร์ : สวัสดีครับคุณผู้หญิง ผมวิคเตอร์ ยินดีรับใช้ครับ // เขาพูดจากนั้นก็จูบมือเธอ

    กัส : เรียกฉันว่ากัสก็ได้นะคะ คุณวิคเตอร์ คุณมีตำแหน่งอะไรเหรอคะ

    วิคเตอร์ : ผมเป็นเจ้าหน้าที่เกสตาโปหน่ะครับ กำลังจะได้ตำแหน่งหัวหน้าหน่วย ss ด้วยครับ

    กัส : ดีจังเลยค่ะ คุณคงเก่งเรื่องการหาคนนะ

    วิคเตอร์ : ก็นิดหน่อยครับ ว่าแต่มีอะไรหรือเปล่าครับ

    กัส : นอยากให้คุณตามล่าคนกลุ่มหนึ่งหน่ะค่ะ (พวกของนาวิน) พวกนั้นเป็นพวกผิดกฎหมายที่เข้ามาประเทศคุณ เขาทำร้ายฉันอย่างไม่ใยดี ถ้าคุณช่วยฉัน จะเป็นพระคุณต่อฉันมากเลยค่ะ // เธอทำท่าทางอ่อยเขาด้วย

    วิคเตอร์ : ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะดูแลเรื่องนี้เอง

    ทางด้านกลุ่มของนาวิน หลังจากที่เดินทางรอนแรมมาหลายวัน ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงกรุงวอร์ซอร์ ประเทศโปแลนด์แล้ว พวกเด็กๆตื่นเต้นกันมากๆ

    เอม : ที่นี่สวยงามมากๆเลย เธอว่าหรือเปล่าออย

    ออย : แน่นอน ที่นี่กรุงวอร์ซอร์เลยนะ อากาศดีจริงๆ

    นาวิน : แล้วพวกเราต้องทำงานที่ไหนกันเหรอ ดไวด์

    ดไวด์ : โรงงานแถวนี้นี่แหละ ตามฉันมาก็แล้วกัน // ดไวด์นำทางพวกเขาไปยังโรงงานเป้าหมาย ระหว่างนั้นเอง พวกเขาก็แวะซื้อขนมปังแถวนั้นทาน ซึ่งเป็นร้านของหญิงสาววัยกลางคนท่านหนึ่ง กำลังนั่งพักอยู่

    โอ๊ค : คุณน้าครับ ขอซื้อขนมปังแถวนึงครับ ขอเนยกับแฮมด้วยนะครับ

    ได้จ้ะ แล้วพวกเธอมาจากไหนกันหล่ะ ท่าทางมาจากต่างถิ่นนะเรา

    ธิน : พวกเราเพิ่งหนีมาจากเยอรมันหน่ะครับ ที่นั่นเราโดนตามล่าหน่ะครับ

    เสียใจด้วยนะหนู พวกมันเดรัจฉาน ว่าแต่พวกหนูเป็นใครหล่ะ

    อเล็กซ์ : หนูอเล็กซ์ โนว่าสตอร์ม ว่าแต่คุณน้าหล่ะคะ // น้าคนนั้นแปลกใจ ทำไมถึงคิดว่าอเล็กซ์นามสกุลเหมือนเธอ แต่เธอก็บอกชื่อของเธอไป

    ป้าชื่อ แคทเทอรีน โนว่าสตอร์มหน่ะหลาน

    อเล็กซ์อึ้งไปอยู่นาน ไม่ใช่เพราะอะไรหรอก เพราะเธอคนนี้เป็นยายทวดของเธอในอนาคต ซึ่งแม่ของเธอชอบเล่าถึงยายทวดคนนี้ให้ฟังบ่อยๆ

    แซค : อเล็กซ์ เป็นอะไรไปอ่ะ ไม่สบายหรือเปล่า

    โซเซีย : นั่นดิ เห็นดูมึนๆตั้งแต่เมื่อกี้แล้วเนี่ย

    อเล็กซ์กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แคทเทอรีนก็รู้สึกผูกพันกับเด็กคนนี้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

    แคทเทอรีน : พวกหนูจะไปไหนกันเหรอจ๊ะ

    ดไวด์ : พวกเราจะไปโรงงานของคุณมาร์ตินหน่ะครับ

    แคทเทอรีน : ไปอีกตั้งไกลนะหนู น้าว่ามาพักในบ้านน้าก่อนดีกว่านะ

    แคทเทอรีนช่วยเด็กๆหล่านั้นเข้ามาในบ้านของเธอ ส่วนอเล็กซ์แทบจะพูดอะไรไม่ออก แคทเทอรีนก็มาช่วยปลอบเธอ

    แคทเทอรีน : หนูร้องไห้ทำไมเหรอจ๊ะ

    อเล็กซ์ : หนูว่า หนูมีอะไรต้องคุยกับคุณเยอะและเลยหล่ะ

    ======================================================================

    อเล็กซ์จะทำยังไง เธอจะบอกเรื่องราวทั้งหมดหรือไม่ ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า

    ขอคนละเม้นท์แล้วก็กดหัวใจ กดติดตามด้วยนะครัช

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×