คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : วิกฤตตัวประกัน
หลังจากที่การโจมตีทางอากาศของเมอร์ลินได้เริ่มต้นขึ้น
ฮัมบูร์กได้เตรียมเครื่องบินของเธอบินขึ้นทันที
ฮัมบูร์ก : เครื่องบินของฉันตอนนี้เป็นยังไงบ้างหล่ะ
ซีซาร์ : ครับ
ตอนนี้ทั้งเครื่องและคนเตรียมพร้อมที่จะออกบินแล้วครับ
ฮัมบูร์ก : ดี สั่งให้ออกบินได้เลย
หลังจากที่มีคำสั่ง
เครื่องบินของฮัมบูร์กได้ทะยานออกจากดาดฟ้าเรือบรรทุกเครื่องบิน
มุ่งตรงไปยังเกาะอังกฤษทันที
ณ สถานีเรดาห์แห่งหนึ่ง ชายฝั่งอังกฤษ
"นี่สเตฟาน ดูสิ ยิงกันนัวเลยที่ช่องแคบเนี่ย"
"เออนี่ จอห์นสัน นายเห็นจุดแดงตรงนี้หรือเปล่า"
"อาจเป็นนกบินผ่านก็ได้มั้ง ศัตรูคงไม่ไปทางนั้นหรอก"
"ซวยแล้ว รีบแจ้งไปยังหน่วย ด่วนเลย"
ทางด้านช่องแคบ ในระหว่างที่เมอร์ลินกำลังสู้รบอยู่
ในขณะนั้นเอง พวกเขาก็เห็นกองบินอังกฤษเริ่มถอยร่น ทำเอาเขาสงสัย
เลยติดต่อไปยังฮัมบูร์กทันที
เมอร์ลิน : ฮัมบูร์ก ทัพฟ้าอังกฤษถอยไปแล้ว มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย
ฮัมบูร์ก : ฉันนำทัพเครื่องบินของฉันบินตรงไปลอนดอนหน่ะ
เตรียมตามไปจัดการได้เลย
เมอร์ลิน : รับทราบ // จากนั้นเขาก็ติดต่อกับเครื่องบินลำอื่นๆ
"ทุกท่าน นี่กัปตันอีเกิ้ล ไล่ตามเครื่องบินอังกฤษ
แล้วจัดการอย่าให้เหลือ"
เครื่องบินลำต่างๆเมื่อได้รับคำสั่งก็มุ่งหน้าไปตามที่เมอร์ลินสั่งทันที
เครื่องบินของฮัมบูร์กโจมตีกรุงลอนดอนทั่วทุกทาง
ทำเอาประชาชนอังกฤษแทบไม่เป็นอันทำอะไร พวกเขาต้องคอยหลบอยู่ในบังเกอร์
และระหว่างนั้น ทหารพลร่มที่ฮัมบูร์กเตรียมไว้ก็โดดร่มลงที่พระราชวังบัคกิ้งแฮม
แล้วฆ่าทหารยามชุดแดงไปมากมาย และได้ยึดครองพระราชวังและจับกษัตริย์จอร์จเป็นตัวประกัน
เมื่อภารกิจสำเร็จ พวกเขารายงานเรื่องนี้ถึงฮัมบูร์กพอดี
"ท่านครับ ตอนนี้เรายึดพระราชวังได้เรียบร้อยแล้วครับ"
"ดีมาก ปิดทางเข้าออกทุกทาง และคุมตัวกษัตริย์เอาไว้"
ทางด้านเมอร์ลิน หลังจากที่เขากลับมาถึง
มิลเลอร์ก็กำลังรอเขาอยู่พอดี
เมอร์ลิน : แหม่มารอกันทุกวันเลยนะเนี่ย
มิลเลอร์ : วันนี้ท่านผู้นำจะมอบเหรียญให้กับนายหน่ะ
ฉันเลยมาบอกข่าว
เมอร์ลิน : จริงเหรอ จะให้ฉันไปตอนไกนหล่ะ
มิลเลอร์ : ตอนนี้แหละ นายขึ้นรถไปกับฉันเลย
จากนั้นทั้งคู่ก็ขึ้นรถและขับออกไปยังฐานบัญชาการสูงสุด
ซึ่งท่านผู้นำกำลังรอพวกเขาอยู่
หลังจากที่มีการจับกษัตริย์เป็นตัวประกัน
ข่าวก็ออกไปทั่วอังกฤษ ทหารอังกฤษไม่กล้าทำอะไรเพราะกลัวว่าราชินีจะได้รับอันตราย
และช่วงเวลาเดียวกัน สถานทูตสหรัฐก็ได้รับเรื่องนี้
จากนั้นพวกเขาก็ปรึกษาหารือกัน และในขณะนั้นเจลามี่ก็เข้ามาขอพบโจสทันที
เจลามี่ : คุณโจส คุณรู้หรือเปล่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น
โจส : ผมรู้หล่ะ ตอนนี้ทหารอังกฤษกำลังดูสถานการณ์อยู่หน่ะ
แคทเทอรีน : แล้วจะใช้เวลานานแค่ไหนหล่ะคะเนี่ย
โจส : ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทางนั้นจะเอายังไงต่อ อาจจะนานอยู่
เจลามี่ : แล้วทำไมถึงไม่เอาทหารบุกไปชิงตัวเลยหล่ะ
แคทเทอรีน : แบบั้นมันเสี่ยงเกินไปนะคะ กษัตริย์จะเป็นอันตรายเอาได้
โจส : ว่าแต่ พวกหลานๆคุณเขาไปไหนกันหล่ะครับ
แคทเทอรีน : สงสัยยังไม่กลับมาหล่ะมั้งคะ
และที่พระราชวังบัคกิ้งแฮม
ในขณะที่ด้านนอกกำลังตึงเครียดอย่างหนัก อีกด้านหนึ่ง
พวกเด็กๆก็ลักลอบเข้ามายังพระราชวัง ในจุดที่พวกมันไม่ได้ควบคุม
นาวิน : เฮ้อ โคตรเหนื่อยเลย กว่าจะปีนเข้ามาได้เนี่ย
ธิน : พวกนายว่า นี่เป็นฝีมือของฮัมบูร์กหรือเปล่าหน่ะ
แซค : ใช่เลยหล่ะ เพราะไม่มีใครกล้าทำแบบนี้แน่นอกจากเธอ
อเล็กซ์ : แล้วจะเข้าไปยังไงหล่ะ พวกมันเต็มไปหมดเลย
โอ๊ค : มาสิ เดี๋ยวจะแสดงให้ดู //
โอ๊คย่องเข้าไปด้านหลังมันและหักคอมันจนมันล้ม จากนั้นก็หยิบปืนจากมันมา
โซเซีย : โห เจ๋งไปเลย คงต้องลอบเร้นไปแบบนี้ใช่ป่าวหล่ะ
โอ๊ค : ลากศพมันมาด้วย // พวกเขาช่วยกันลากศพไปยังอีกทางหนึ่ง
เอม : แต่เรามีแค่กระบอกเดียว จะสู้กับมันเป็นร้อยคนได้ไงหล่ะ
ออย : ก็ไปหาปืนเพิ่มสิ คงไม่ยากอะไรหรอก เราไปกันเถอะ //
จากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายกันไปยังจุดต่างๆ เพื่อเก็บอาวุธมาให้ได้มากที่สุด
เมื่อเก็บได้ พวกเขาก็มารวมตัวกันที่ห้องๆหนึ่ง
โอ๊ค : โอเค เราจะทำยังไงกันต่อหล่ะ
อเล็กซ์ : ฉันว่า พวกมันคงต้องคุมตัวกษัตริย์ด้านในห้องบรรทมแน่ๆ
ธิน : อย่าเพิ่งไปห่วงเรื่องนั้นเลย
ผ่านห้องโถงไปให้ได้ก่อนดีกว่าม้าง
แซค : ถ้างั้นเราคงต้องแยกกันไปหน่ะ เพื่อความแน่ใจ
โซเซีย : ใช่ แล้วก็มาเจอกันที่ชั้นบนสุดนะ
เห็นว่าพวกมันอยู่กันเต็มเลยนี่
เอม : แล้วนี่ หนูต้องไปกับใครหล่ะคะเนี่ย
ออย : อยากไปไหนก็เรื่องของเธอสินะ
นาวิน : เอาเป็นว่า เรารีบไปกันก่อนเถอะ เดี๋ยวพวกมันมาเจอเข้าหน่ะ
กลับมายังเบอร์ลิน เยอรมนี
ในขณะที่ซาบอนกำลังนั่งทำงานของเขาอยู่ ทันใดนั้นก็มีหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเขา
นั่นคือนูโวร่าที่ได้รับภารกิจมาให้ติดต่อกับเขาเพื่อความช่วยเหลือด้านการทหาร
ซาบอน : สวัสดีครับ คุณผู้หญิง มีธุระอะไรกับผมงั้นเหรอ
นูโวร่า : สวัสดีค่ะ ดิฉันนูโวร่า นักการเมืองชื่อดังจากอิตาลี
ซาบอน : อ้อ คุณนี่เอง สวยกว่าที่ผมคิดซะอีก
ว่าแต่คุณต้องการอะไรหล่ะ
นูโวร่า : ก็ไม่มีอะไรมาก
ฉันแค่อยากให้เยอรมันสนับสนุนอิตาลีในการยึดครองแอฟริกาหน่ะ
ซาบอน : อ้อ คุณมาเจอถูกคนแล้วหล่ะ ว่าแต่
เย็นนี้คุณว่างหรือเปล่าหล่ะ
นูโวร่า : ต้องการอะไรจากฉันงั้นเหรอ
ซาบอน : แค่อยากให้คุณไปดื่มกับผมหน่อยหน่ะ
นูโวร่า : ย่อมได้ แต่ขอเตือนคุณไว้อย่างนะ
ฉันไม่ใช่ไก่อ่อนอยากที่คุณหรอก
ซาบอน : แหม่ คุณทำให้ผมหลงเสน่ห์คุณนะเนี่ย แต่เอาเถอะ
ผมมันชอบเล่นกับไฟอยู่แล้ว
นูโวร่า : ท่าทางคุณมันปีศาจนะ
ซาบอน : พูดเหมือนคุณบริสุทธ์มากนะ แม่อสรพิษ
ทางด้านเคทและจูเลียส ทั้งคู่รีบไปเยี่ยมพ่อของจูเลียส
ในตอนนั้นเอง เหล่าคนรับใช้เมื่อเห็นจูเลียสก็พากันดีใจมาก
เพราะพวกเขารู้ว่าเจ้านายของเขาต้องดีใจแน่ๆ
"คุณหนูจูเลียสกลับมาแล้วๆ"
จูเลียส : พาผมไปหาคุณพ่อทีครับ
คนรับใช้รีบพาทั้งคู่ไปหาเจ้านายของเขาที่กำลังนอนอยู่บนเตียง
ในสภาพที่กำลังป่วย เมื่อพ่อเขาเห็นจูเลียส เขาดีใจมากแทบจะทำอะไรไม่ถูกเลย
จูเลียส : พ่อครับ
"ลูกพ่อ" ทั้งคู่กอดกันทันที
จูเลียส : พ่อครับ ผมมันอกตัญญูนัก
ที่ทิ้งพ่อไปทั้งๆที่พ่อเป็นแบบนี้ พอผมรู้ว่าพ่อป่วย ผมรีบมาที่นี่เลยนะครับ
"พ่อต่างหากที่ต้องขอโทษลูก ที่พ่อมันเอาแต่ใจ
ไม่รู้เลยว่าลูกต้องการอะไร พ่อมันโง่เอง
ถ้าลูกไม่อยากเป็นทหารพ่อก็ไม่ว่าอะไรลูกหรอกนะ"
เคท : จูเลียส ฉันบอกแล้วไงว่าพ่อคุณรอคุณอยู่
แล้วท่านดีใจมากที่ได้เจอคุณ
"ว่าแต่ คุณผู้หญิงท่านนี้คือ"
จูเลียส : พ่อครับ ผมตัดสินใจแล้ว ผมจะเป็นทหารตามที่พ่อบอก
แต่ผมขออะไรพ่ออย่างหนึ่งนะครับ
"จะขออะไรอย่างงั้นเหรอลูก"
จูเลียส : ผมอยากแต่งงานครับ โดยที่เคทต้องเป็นเจ้าสาวของผม
เคท : นี่คุณ พ่อคุณเขาจะไม่ว่าอะไรงั้นเหรอ
"พ่อไม่ว่าอะไรหรอก แต่น่าขำนะ
พ่อไม่เคยเห็นลูกพูดเรื่องแต่งงานเลยนี่"
"เดี๋ยวผมมานะครับ" //
จากนั้นจูเลียสก็จูงมือเคทไปด้านนอก
เคท : นี่คุณ จะแต่งงานกับฉันจริงเหรอคะ
จูเลียส : ใช่สิครับ ผมรักคุณ คุณอย่าปฏิเสธผมเลยนะครับ
เคท : แต่ฉันกลัวว่าฐานะของฉันจะไม่
จูเลียส : ผมไม่สนใจหรอก ผมสนแค่ขอให้คุณอยู่กับผมก็พอ
แต่งงานกับผมนะเคท
เคท : ก็.. ตกลงค่ะ แต่คุณห้ามบังคับฉันทำโน่นทำนี่นะ
จูเลียส : ได้เลยครับ
กลับมายังหน่วยถอดรหัส กรุงลอนดอน
คาริน่าได้ข่าวว่ามีการจับตัวประกันที่บัคกิ้งแฮม
เธอนำข่าวนี้ให้เพื่อนๆของเธอดูทันที
คาริน่า : ทุกคนคะ ดูข่าวนี่สิ มันจับราชินีเป็นตัวประกันด้วยค่ะ
"ตายหล่ะ พวกมันโดดร่มมาได้ยังไงถึงนี้เนี่ย"
คาริน่า : ฉันก็อยากรู้
ที่อยากรู้ก็คือกองบินปริศนานี่มันมาจากไหนกัน
'นั่นสิ ทำไมถึงไม่มีใครรู้มาก่อนเลยหล่ะ"
คาริน่า : จะว่าไป ฉันจับตามองกองเรือปริศนาแถบทะเลเหนืออยู่หน่ะ
"กองเรือขนาดใหญ่หรือเปล่าหล่ะ"
คาริน่า : ใหญ่พอสมควร ฉันพยายามดักฟังวิทยุของพวกมันอยู่หน่ะ
"งั้นถ้าเธอต้องการให้ฉันช่วย ก็บอกฉันมาได้เลยนะ"
คาริน่า : ได้เลยจ้ะ
กลับมายังรัฐแอริโซน่า
เวลาในตอนนั้นผ่านมาได้หลายเดือนจนเกือบสิ้นปีแล้ว
โคเวอร์เตรียมร่างกายจนพร้อมที่จะรอไปคัดเลือกเกณฑ์ทหารแล้ว
และวันนี้หลังจากที่เขาวิ่งเสร็จ เขากลับมาเห็นแม่ของตัวเองกำลังถือกล่องอยู่ใบหนึ่ง
ซึ่งเขาสงสัยว่ามันคือกล่องอะไร
โคเวอร์ : แม่ครับ แม่ถือกล่องอะไรอยู่ครับ
"อ้อ พ่อเขาส่งของนี่มาให้ลูกหน่ะ เปิดดูสิ"
โคเวอร์ : ได้ครับแม่
โคเวอร์เปิดกล่องดูก็พบว่า มันเป็นตุ๊กตาสาวฮาวายและรูปถ่ายจำนวนมาก
พร้อมกับจดหมายอีกหนึ่งฉบับ
โคเวอร์ : แม่ครับ ดูพ่อสิ เท่มากเลยนะครับเนี่ย
"พ่อเขาท่าทางจะทำงานหนักมากเลยนะเนี่ย"
โคเวอร์ : ก็พ่อเขาเป็นช่างซ่อมเครื่องบินนี่ครับแม่
กลับมายังสหภาพโซเวียต ออก้ากำลังเดินไปซื้อหนังสือพิมพ์มานั่งอ่าน
แต่ในตอนนั้นเขากลับเห็นข่าวการจับวประกันที่ลอนดอน เขารีบซื้อแล้วกลับไปหาแม่ของเขาทันที
ออก้า : แม่ครับ ดูข่าวนี่สิครับ
"มีอะไรเหรอลูก"
ออก้า : นี่ไงครับ ที่อังกฤษกำลังวุ่นวายใหญ่เลยครับ
"ห่ะ พวกนาซีอุกอาจมากเลยนะ บุกพระราชวังแบบนั้น"
ออก้า : แบบนี้ทางอังกฤษจะทำยังไงหล่ะครับเนี่ย
"แม่ก็ไม่แน่ใจเหมือน คงต้องรอดูต่อไปหน่ะ"
ออก้า : หวังว่าพวกมันจะไม่บุกโซเวียตนะครับแม่
"แม่ว่าไม่หรอก เดี๋ยวจะหนาวตายเหมือนนโปเลียนนะ"
กลับมายังกรุงลอนดอน
ในตอนนั้นเองหลังจากที่โอแลนได้ข่าวการจับกุมองค์ราชินีเป็นตัวประกัน
เขากับเซอร์แฟรงค์และลูกน้องคนอื่นๆได้ปรึกษาถึงเรื่องนี้กันทันที
โอแลน : ท่านครับ พระราชวังบัคกิ้งแฮมถูกพวกมันยึดครองไว้แล้วครับ
แฟรงค์ : ทำไมหล่ะ พวกมันฝ่าด่านเรดาห์ของพวกเราได้ยังไงกัน
"มันอาศัยจังหวะตอนเราโกลาหลจัดการตีกระหนาบเรายังไงหล่ะครับ"
แฟรงค์ : พวกมันส่งฝูงบินอ้อมมาจัดการเราอย่างงั้นเหรอ
โอแลน : ผมว่า พวกมันต้องมีเรือบรรทุกเครื่องบินอยู่แถวทะเลเหนือแน่ๆ
แฟรงค์ : พวกมันแอบสร้างกองเรือตั้งแต่เมื่อไหร่กันหน่ะ
โอแลน : คงไม่นานมานี่แน่ๆครับ
เพราะผมก็ได้ข่าวมาว่าเรือรบบางส่วนของฝรั่งเศสถูกเยอรมันชิงไปเหมือนกัน
แฟรงค์ : ถ้าแบบนี้ คงต้องอาศัยกองกำลังของเราแล้วหล่ะ
กลับมายังประเทศไทย
หลังจากที่รัฐบาลไทยประกาศสงครามกับฝรั่งเศสได้ไม่นาน
ในตอนนั้นเองรัตก็ถูกสงมารบแถบชายแดนกัมพูชา เพื่อชิงพระตะบอง
เสียมราฐและดินแดนข้างเคียงคืน รัตถูกส่งมาอยู่หน่วยทหารราบแห่งหนึ่งโดยที่มีจ่าคนหนึ่งมาคอยต้อนรับ
"สวัสดีครับผู้กองรัต ผมจ่าสิงห์รายงานตัวครับ"
รัต : ตามสบายครับพี่ ว่าแต่สถานการณ์เป็นยังไงบ้างครับเนี่ย
"ยิงกันไม่หยุดเลยครับ ฝรั่งเศสมีอาวุธดีกว่า
แถมทหารอาณานิคมก็ตั้งมั่นไม่ยอมถอยเลยครับ"
รัต : ถ้าอย่างงั้น คงต้องลาดตระเวนตัดกำลังศัตรูหน่อยหล่ะ
"ครับผม หน่วยของผมมีทหารจู่โจมอยู่ พอจะช่วยได้นะครับ"
รัต : ว่าแต่ กำลังของเรามีมากแค่ไหนกันครับ
"มีราวๆ 6 กองร้อยครับ"
รัต : ยังถือว่าน้อยอยู่นะ คงต้องหากำลังมาเพิ่มอีกหน่อยหล่ะ
"ครับ ผมจะจัดการเองนะ"
และในขณะเดียวกัน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในตอนนั้นเองพิมก็ได้รับหน้าที่ให้ช่วยในการเขียนข่าวปลุกใจชาวไทยให้ร่วมกันสู้ในสงคราม
เธอทำได้ดีมากเรื่องการเขียนสำนวนจนคนอื่นๆต้องทึ่งในความสามารถของเธอ
แก้ว : พิม เขียนข่าวเป็นยังไงบ้างหล่ะ
พิม : ก็เรื่อยๆหน่ะ เอาแต่พอให้คนอ่านชื่นชอบหน่ะ
แก้ว : ตอนนี้ไทยเรารบกับฝรั่งเศสที่ชายแดนลาวและกัมพูชาอย่างหนักเลยหล่ะ
พิม : ฉันรู้แล้วหล่ะ ฉันเลยกำลังเขียนเรื่องนี้อยู่ยังไงหล่ะ
แก้ว : จ้า ยังไงก็พักผ่อนบ้างนะ ดูแลสุขภาพดีๆด้วยหล่ะ
พิม : จ้า ขอบใจที่เป็นห่วงกันนะ
กลับมายังเยอรมนี หลังจากที่วิคเตอร์กำลังพักเหนื่อย
ตอนนั้นพวกเขาก็ได้ข่าวจากทางอังกฤษ ว่ามีการบุกยึดพระราชวังบัคกิ้งแฮม
แล้วจับตัวกษัตริย์เป็นตัวประกัน ข่าวนี้ทำเอาพวกเขาตื่นเต้นกันมาก
วิคเตอร์ : พวกนาย ดูสิ อังกฤษแตกตื่นกันใหญ่เลยหล่ะ
เทราน์เนอร์ : แบบนี้ต้องเป็นฝีมือฮัมบูร์กแน่นอนเลย
วิคเตอร์ : ว่าแต่ นายรู้ได้ยังไงหล่ะ
โยชิตะ : แบบนี้มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละครับที่จะทำได้
วิคเตอร์ : แล้ว พวกเขาจะทำยังไงกันต่อหล่ะ
โยชิตะ : ก็คงจะเรียกร้องให้ทางอังกฤษยอมแพ้หน่ะครับ
เทราน์เนอร์ : แต่ถึงแม้ว่าจะได้ควีนเป็นตัวประกัน
พวกนั้นจะยอมจริงๆเหรอ
วิคเตอร์ : นั่นสิ ฉันก็คิดๆอยู่ พวกมันคงจะยอมง่ายๆหรอกนะ
โยชิตะ : ถ้าพวกมันไม่ยอม คงต้องมีตายกันอีกเป็นเบือแน่ๆเลย
เทราน์เนอร์ : ก็ดีหน่ะสิ อังกฤษจะได้ตกเป็นของเราซะที
กลับมายังฝรั่งเศส
ในขณะที่รินกับอลิสกำลังทำงานอยู่ เธอก็กำลังติดตามข่าว
ที่กำลังเป็นที่สนใจในอังกฤษอยู่
ริน
: ดูนี่สิพี่ ที่อังกฤษกำลังวุ่นวายใหญ่เลยเนี่ย
อลิส
: ฝีมือฮัมบูร์กแน่ๆ ที่กล้าทำแบบนี้ได้
ริน
: แล้วนี่พี่คิดว่าประวัติศาสตร์จะเปลี่ยนหรือเปล่าหล่ะพี่
อลิส
: พี่ว่ายาก คนอังกฤษไม่ค่อยวอรี่เท่าไหร่หรอก
ริน
: แต่ก็ไม่แน่นะพี่ ฮัมบูร์กอาจจะทำสำเร็จก็ได้นะพี่
อลิส
: ยังไงก็ต้องรอดูไปก่อนแล้วกัน
แต่ยังไงทางอังกฤษก็ไม่ยอมหรอก
กลับมาที่กองบัญชาการทหารแวร์มัค
ในขณะนั้น จอมพลรอมเมลได้ข่าวจากวิทยุ เขาเรียกลูก้าและรูดอฟมาคุยกับเขาทันที
รูดอฟ
: ท่านครับ มีอะไรถึงเรียกพวกเรามาหล่ะครับ
รอมเมล
: พวกคุณฟังนี่ดูสิ
มีการจับกษัตริย์อังกฤษเป็นตัวประกันด้วย
ลูก้า
: ผมว่า
เรื่องนี้ต้องเป็นฝีมือของฮัมบูร์กแน่เลยครับ
รอมเมล
: ว่าแต่ ทำไมคุณถึงมั่นใจขนาดนั้นหล่ะ
ลูก้า
: ไม่มีใครกล้าทำแบบนี้นอกจากเธอครับผม
รอมเมล
: เธอคิดว่า การทำแบบนี้จะเปลี่ยนสงครามได้งั้นเหรอ
รูดอฟ
: แต่ก็ไม่แน่นะครับ เธออาจจะทำให้พวกอังกฤษยอมแพ้ก็ได้
ลูก้า
: แต่ผมว่า พวกมันคงไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอกครับ
รอมเมล
: ก็ใช่ แต่บางทีผมคิดว่า เธออาจจะทำสำเร็จก็ได้นะ
ลูก้า
: ผมก็หวังไว้แบบนั้นนะครับ พวกเราจะได้ชนะซะที
กลับมายังเรือธงของฮัมบูร์ก
หลังจากที่เธอได้ข่าวจากทหารพลร่ม เธอได้ติดต่อไปยังหัวหน้าหน่วยพลร่มทันที
ฮัมบูร์ก
: ทางพระราชวังเป็นยังไงบ้าง
“ตอนนี้เราคุมสถานการณ์ได้หมดแล้วครับ”
ฮัมบูร์ก
: นำตัวกษัตริย์ไปขังในห้องไว้
แล้ววางกำลังให้แน่นหนาด้วย
“ได้เลยครับท่าน”
ฮัมบูร์ก : ซีซาร์ นายสั่งกองเรือลาดตระเวนของเรา
จัดการเรือทุกลำที่แล่นผ่านเข้ามา
ซีซาร์ : ได้ครับ
กลับมายังห้องประชุมแห่งหนึ่งในลอนดอน
“ท่านครับ
ตอนนี้ราชินีกำลังตกอยู่ในอันตรายนะครับ”
“แล้วพวกมันเรียกร้องอะไรบางหล่ะ”
“ตอนนี้มันยังไม่เรียกร้องอะไร
แต่พวกนาซีคงต้องการให้เรายอมแพ้หน่ะ”
และในขณะเดียวกัน หัวหน้าหน่วยคอมมานโดก็เดินเข้ามาในห้องประชุม
“ท่านครับ
เราพร้อมจะชิงตัวประกันแล้วครับผม”
“ตอนนี้ต้องรอดูสถานการณ์ไปก่อน
ไม่งั้นพวกมันอาจจะทำอะไรองค์กษัตริย์ก็ได้”
“ได้ครับท่าน
ตอนนี้เรากำลังรอคำสั่งครับผม”
“ท่านครับๆ ดูนี่สิครับ
มีนักข่าวคนหนึ่งถ่ายมาได้ครับ” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินมาเอารูปให้นายกรัฐมนตรีดู
“นี่มันอะไรกันเนี่ย มีคนลอบเข้าไปในพระราชวังงั้นเหรอ”
“ครับท่าน เท่าที่ดูมีประมาณแปดคนได้ครับ”
“พยายามติดต่อกับคนพวกนั้นให้ได้
เผื่อว่าเขาจะช่วยเราได้ แล้วให้หน่วยเจรจาไปถ่วงเวลาพวกมันไว้ก่อน
เราต้องรีบกันหน่อยแล้ว”
จากนั้นพวกเขาก็รีบไปทำงานตามที่ได้รับมอบหมายทันที
==============================================================
พวกเขาต้องรีบทำงานแข่งกับเวลาก่อนที่มันจะทำอะไรองค์ราชินี แต่พวกเด็กๆจะทำสำเร็จหรือไม่ ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยนะครับ ไหว้หล่ะ
ช่วงนี้ยุ่งงานหนักมาก กินนอนบนรถเมล์แล้วครับ แหะๆ
ความคิดเห็น