คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : ความช่วยเหลือมาถึง
เมอร์ลินพยายามนำเครื่องบินทิ้งระเบิดไปให้ได้มากที่สุดเพื่อโจมตีทหารที่ดันเคิร์ก
ซึ่งฮัมบูร์กเป็นคนบัญชาการรบเองหมด
เธอแทบจะคลั่งเมื่อได้ยินคำสั่งว่าท่านผู้นำไม่ให้นำทหารบุกเข้าไป
ฮัมบูร์ก : เมอร์ลิน
ทำยังไงก็ได้ให้พวกมันตายเยอะที่สุด
เมอร์ลิน : รับทราบ
แต่เธอแน่ใจจริงๆเหรอที่จะไม่ให้มิลเลอร์บุกเข้าไป
ฮัมบูร์ก : มันเป็นคำสั่งของท่านผู้นำ
นายจัดการไปตามนั้นเถอะ มิลเลอร์
มิลเลอร์ : นี่มิลเลอร์
ทราบแล้วเปลี่ยน
ฮัมบูร์ก : ฉันมีวิธีอะไรเด็ดๆให้นายทำแล้วหล่ะ
มิลเลอร์ : ว่ามาเลยครับผม
ฮัมบูร์ก : ฉันอยากให้นายพาทหารมือดีที่สุดไปซุ่มโจมตีพวกมันด้านข้าง
แต่งานนี้ต้องทำแบบเงียบๆ ไม่ให้ใครรู้เด็ดขาด
มิลเลอร์ : นี่คุณจะให้ผมขัดคำสั่งท่านผู้นำเหรอครับ
ฮัมบูร์ก : ถ้านายทำได้
พวกอังกฤษจะตายกันมากมายแน่นอน
มิลเลอร์ : ด้วยความเต็มใจเลย
// มิลเลอร์นำทหารบางส่วนแอบไปล้อมด้านข้างทหารอังกฤษ
เพื่อตัดกำลังของพวกเขา
ทางด้านพวกของนาวิน
ในระหว่างที่พวกเขารอความช่วยเหลืออย่างสิ้นหวัง
พวกเขาเริ่มคิดจะทำแผนการอะไรบางอย่าง
โซเซีย : ฉันว่า
ฉันคิดอะไรออกแล้วหล่ะ
นาวิน : นายคิดจะทำอะไรเหรอโซเซีย
โซเซีย : ฉันว่าจะหาเรือแถวนี้แล้วก็แล่นออกไปหล่ะ
แซค : จะออกไปยังไง
แถวนี้ไม่มีเรือซักลำ
โอ๊ค : นั่นสิ
สงสัยคงต้องลอยไปกับขอนไม้ซะหล่ะมั้ง
แซค : แล้วอีกอย่างนะ
เรือนั้นมีไว้ให้คนอังกฤษขึ้นเท่านั้นด้วย
ในระหว่างนั้นเอง
เครื่องบินทิ้งระเบิดของเยอรมันก็ทิ้งลงใส่ทหารสัมพันธมิตร
ทำเอาพวกเขาแตกตื่นและล้มตายกันมากมาย พวกของนาวินก็ต้องหาที่หลบกันให้วุ่น
อเล็กซ์ : ทุกคน
หมอบลงเอาไว้ อย่ายืนขึ้นเด็ดขาด
ธิน : แล้วเราจะเอายังไงต่อหล่ะทีนี้
โอ๊ค : เอาไงหล่ะ
ก็ภาวนาขอให้พวกมันหยุดโจมตีหน่ะสิ
ในขณะเดียวกัน ก็มีทหารสัมพันธมิตรบาดเจ็บ
เอมและออยต้องรีบไปช่วยดูอาการของเขา
เอม : แย่แล้ว
ออย กดแผลตรงนั้นไว้ที //
ออยกดแผลจากนั้นเอมก็โรยผงฆ่าเชื้อให้เขา
ออย : ทำยังไงต่อหล่ะ
ขาเขาแหลกเลยเนี่ย
เอม : คงต้องแบกไปขึ้นเรือหน่ะ
ตรงนั้นมีเปลสนามหน่ะไปเอามาหน่อยสิ // พวกเขาไปเอาเปลสนามมา
จากนั้นก็ช่วยกันแบกร่างของชายคนนั้นไปขึ้นเรือที่กำลังจะออก
เมื่อพวกเขาไปถึงพวกเขาก็วางเปลลงทันที
อเล็กซ์ : ช่วยด้วยค่ะ
มีคนเจ็บ ให้เขาขึ้นเรือด้วย // ทหารอังกฤษช่วยกันแบกเขาขึ้นเรือ
นาวิน : ฉันว่า
เราสวดมนต์กันเถอะตอนนี้
กลับมายังเบลเยี่ยม ซาบอนขับรถของเขากลับบ้าน แต่ในระหว่างนั้นเองก็มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งไล่ยิงรถเขา
ทำเอารถของเขาเสียหลักและพุ่งเข้าไป เขาหนีไปจนตรอกที่ซอยแห่งหนึ่ง
ชายสองคนถือปืนเตรียมเล็งปืนไปที่เขาหมายจะฆ่าเขา
ซาบอน : นี่นายเป็นใคร
ต้องการอะไรจากฉัน
“ไอ้คนขายชาติ แกใช่มั้ยที่ขายข้อมูลให้พวกเยอรมัน”
ซาบอน : ฉันขอโทษ
พวกเยอรมันบังคับฉัน มันบอกถ้าฉันไม่ทำ มันจะฆ่าฉัน
“แกก็เลยคิดคดทรยศต่อแผ่นดินหล่ะสิ
คนอย่างแกมันสมควรตาย”
ระหว่างนั้นเอง ซาบอนก็ตะโกนเรียกคนด้านหลัง
เมื่อมันหันไป ซาบอนก็ควักปืนออกมายิงมันสองคนจนล้มลง
ซาบอน : เฮ้อ
ไอ้พวกโง่เอ้ย คิดเหรอว่าพวกแกจะทำอะไรฉันได้
“แก ไอ้สารเลว แกไม่ได้ตายดีแน่ๆ”
ซาบอน : งั้นเหรอ
แต่แกอาจตายก่อนฉันหว่ะ
ในทันใดนั้น
ทหารเยอรมันก็บุกเข้ามาดูสถานการณ์ต่อทันที
ซาบอน : จับตัวพวกมันเอาไว้
พวกมันเป็นพวกกบฏ // ทหารเยอรมันจับชายสองคนไปเพื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติม
กลับมายังกรุงปารีส ในเช้าวันต่อมา จูเลียสตื่นเช้าขึ้นมา
เขาพยายามคลำหาปืนของเขา ซึ่งมันก็ยังอยู่ เคทไม่ได้แตะต้องอะไรเลย ในตอนนั้นเอง
หลังจากที่เขาเข้าห้องน้ำเสร็จ เขาก็เดินมายังโต๊ะทานอาหาร
ซึ่งเคททำอะไรให้เขากินพอดี
เคท : ตื่นแล้วเหรอจ๊ะ
กินอะไรก่อนสิ
จูเลียส : ขอบคุณมากครับ
คุณใจดีจังเลย
เคท : วันนี้เผอิญมีการหยุดยิงหน่ะ
เลยออกไปซื้ออะไรได้
จูเลียส : ครับผม
ว่าแต่ ที่คุณไปเยอรมัน คุณไปทำอะไรงั้นเหรอ
เคท : ก็ไม่มีอะไรหรอก
แค่ไปทำงานนิดหน่อยจ้ะ
จูเลียส : เป็นงานแบบไหนเหรอครับ
ช่วยบอกผมหน่อย
เคท : นี่เธออยากรู้ไปทำไม
นายเป็นใครงั้นเหรอ
จูเลียส : ผม
ก็แค่
เคท : ฉันเห็นปืนที่คุณเก็บไว้แล้วนะ
ฉันทำความสะอาดให้ แล้วฉันก็รู้ว่าคุณกำลังทำอะไรฉัน นายเป็นใครมาจากไหนกันแน่
จูเลียส บอกฉันได้มั้ย //
จูเลียสถึงกับแน่นิ่ง
เพราะเธอรู้มาตลอดว่าจูเลียสคิดจะทำอะไรเธอ แต่เธอก็ไม่ทำอะไรเขา
จูเลียส : ผมมาจากอังกฤษ
ตระกูลผมเป็นขุนนาง ผมหนีมาเพราะไม่อยากมาทำสงคราม ผมไม่อยากฆ่าใคร
เคท : แต่นายคิดจะฆ่าฉันเนี่ยนะ
มันคืออะไรของนาย
จูเลียส : ผมขอโทษ
ผมไม่อยากฆ่าคุณ ผมไม่อยากทำอะไรคุณ ผมขอโทษ ผม
เคท : ช่างมันเถอะ
ฉันรู้ว่านายคงไม่มีทางเลือกอะไรมาก ยังไงก็อยู่ที่นี่ก่อนได้นะ
จูเลียส : ครับ
// จูเลียสนั่งทานอาหารกับเธอต่อ
จากนั้นพวกเขาก็นั่งดื่มไวน์ด้วยกัน
ณ กรุงลอนดอน
โจสยังคงรอฟังข่าวที่ดันเคิร์กอยู่ตลอดเวลา ในตอนนั้นเอง
เพื่อนของโจสก็เดินเข้ามาพร้อมกับข่าวใหม่ทันที
“โจส ฉันได้ข่าวมาใหม่หล่ะ”
โจส : มีอะไรงั้นเหรอ
“ตอนนี้เชอร์ชิลล์ได้ระดมเรือทุกลำไปรับทหารสัมพันธมิตรเรียบร้อยแล้ว”
โจส : แล้วทางเราจะเตรียมการช่วยเหลืออะไรบ้างหล่ะ
“ตอนนี้เรายังไม่มีแผนอะไร
เพราะทรัพยากรเรามีจำกัดที่นี่”
โจส : ทำไมกันนะ
งั้นผมจะเอาเรือของผมไปรับพวกเขาเดี๋ยวนี้
“ใจเย็นๆสิ อย่าเพิ่งทำอะไรวู่วามตอนนี้สิ”
โจส : นายจะให้ฉันรออยู่เฉยๆอย่างงั้นเหรอ
ห่ะ
“เอาน่า
เดี๋ยวทางอเมริกาคงจะส่งความช่วยเหลือมาหน่ะ ตอนนี้เรารอดูสถานการณ์ไปก่อนดีกว่า”
ทางด้านของนูโวร่า
หลังจากที่เธอไปขึ้นเรือสินค้าที่กำลังรออยู่ เธอก็นั่งประชุมกับลูกน้องของเธอถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
นูโวร่า : ฉันมีอะไรอยากจะถามพวกนายหน่อย
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
นูโวร่า : ฉันสงสัยทำไมพวกมันถึงรู้แผนของเราทุกก้าวเลย
“ผมว่า อาจจะมีสายของเราอยู่ในนี้ก็ได้ครับ”
นูโวร่า : ก็อาจใช่
ฉันรู้ว่ามันเป็นใคร // จากนั้นนูโวร่าก็เล็งปืนไปยังลูกน้องคนหนึ่ง
เธอยิงเขาจนเขาล้มลงทันที
“ทำไมกัน คุณถึง”
นูโวร่า : คิดว่าฉันไม่รู้เหรอ
จดหมายที่แกเขียนไปถึงทางการอังกฤษ อย่าคิดนะว่ามันจะส่งไปถึงหน่ะ
“เฮ้อ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว แกคิดเหรอ
ว่าพวกนาซีอย่างแกจะชนะ”
นูโวร่า : เฮ้อ
น่าเสียดายที่รับใช้ฉันมานาน
“แล้วเราจะทำยังไงต่อหล่ะครับ”
นูโวร่า : เอาศพมันไปทิ้งซะ
// พวกมันพากันแบกร่างของชายคนนั้นไปแล้วทิ้งลงทะเล
ณ เรือโดยสารลำหนึ่ง
ซึ่งแล่นมาถึงท่าเรืออังกฤษแล้ว คาริน่าเดินลงมาจากท่าเรือแล้วเรียกรถโดยสารทันที
“ขอโทษนะคะ ไปหน่วยงานกลาโหมค่ะ”
รถโดยสารคันนั้นแล่นไปเรื่อยๆ
ระหว่างทางคนขับรถก็คุยกับเธอ
“คุณมาจากไหนหล่ะเนี่ย”
คาริน่า : เออ
ฉัน มาจากเบลเยี่ยมหน่ะค่ะ
“งั้นเหรอครับ เสียใจด้วยนะเรื่องประเทศของคุณ
แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่หล่ะ”
คาริน่า : ฉันมาทำงานนิดหน่อยหน่ะค่ะ
“อ้อครับ คุณทำงานอะไรที่รัฐสภาหล่ะ”
คาริน่า : มันเป้นความลับของทางราชการหน่ะค่ะ
“อ้อ งั้นไม่เป็นไรครับ
นี่คุณได้ยินข่าวหรือยังครับ พวกเยอรมันมันจะฆ่าพวกเราที่ดันเคิร์ก”
คาริน่า : รู้ค่ะ
ได้ยินว่าตอนนี้เขาจะส่งเรือไปช่วยนี่คะ
ไม่กี่อึดใจ เขาก็มาถึงหน้ารัฐสภาของอังกฤษ จากนั้นเธอก็ให้เงินกับโชเฟอร์ไป
“ขอบคุณมากครับ ยังไงก็ขอให้โชคดีครับ”
คาริน่า : ยินดีค่ะ
ณ รัฐแอริโซน่า สหรัฐอเมริกา ในตอนนั้นเอง
ก็มีข่าวว่าจะมีการรับสมัครทหารใหม่ในช่วงปลายปี
โคเวอร์ดีใจมากเลยขอแม่ว่าอยากจะไปเข้าร่วมกองทัพ
โคเวอร์ : แม่ครับ
กองทัพจะเปิดรับสมัครปลายปี ผมจะไปสมัครครับ
“เอาจริงเหรอลูก แม่ว่ามันอันตรายนะ”
โคเวอร์ : โธ่แม่
ก็ผมอยากเป็นทหารนี่หน่า
“แล้วนี่ลูกเตรียมพร้อมการเป็นทหารแล้วเหรอ”
โคเวอร์ : นั่นสินะแม่
แต่ไม่ต้องห่วง ยังไงผมก็จะฝึกครับ
“ว่าแต่ลูกจะไปอยู่หน่วยไหนหล่ะ”
โคเวอร์ : ผมจะไปอยู่พลร่มครับแม่
ในขณะเดียวกัน
ก็มีข่าววิทยุเกี่ยวกับการรบที่ยุโรป ว่ากองทัพเยอรมันไล่ตีทหารอังกฤษที่ดันเคิร์ก
โคเวอร์ฟังข่าวนี้อย่างใจจดใจจ่อ
โคเวอร์ : คอยดูเถอะ
ถ้าพวกมันบุกอเมริกาผมจะไม่ปล่อยพวกมันไว้แน่
“เฮ้อ ลูกคนนี้ แน่นอนจริงๆเลยนะ”
ณ ทะเลแห่งหนึ่งแถวเนเธอร์แลนด์
ออก้านั่งอยู่บนเรือโดยสาร เขารออย่างใจจดใจจ่อเพื่อที่จะไปถึงที่นั่น
ระหว่างนั้นเองเขาก็ไปนั่งดื่มเหล้าแถวนั้น
แต่อยู่ดีๆก็มีผู้หญิงคนหนึ่งมาดื่มเหล้าด้วย
“ขอดื่มด้วยคนนะคะ”
ออก้า : ครับผม
เชิญตามสบายเลยครับ
“คุณมาคนเดียวเหรอคะ”
ออก้า : ใช่ครับ
ผมมาตามหาเพื่อนผมหน่ะ
“เหรอคะ แล้วเพื่อนคุณมาทำอะไรที่เนเธอร์แลนด์หล่ะ”
ออก้า : ผมได้ยินเขาบอกว่าจะมาทำงาน
แต่ตอนนี้ไม่รู้เขายังอยู่หรือเปล่า
“ขอให้คุณเจอเพื่อนคุณไวๆนะคะ ฉันชื่อเฮน่า
แล้วคุณหล่ะ”
ออก้า : ผมออก้าครับ
คุณมาจากไหนเหรอ
“ฉันมาจากออสเตรีย แล้วคุณหล่ะ”
ออก้า : โซเวียตรัสเซียครับ
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ อุ๊ย ฉันขอตัวนะคะ
พอดีมีธุระนิดหน่อยค่ะ” เธอเดินออกไปปล่อยให้ออก้านั่งดื่มเหล้าอยู่คนเดียว
เธอเดินเข้าไปที่ห้องของเธอจากนั้นก็คุยวิทยุกับชายคนหนึ่ง
“ฉันคุยกับเขาแล้ว ตอนนี้จะให้ทำยังไงต่อ”
“จับตาดูมันเอาไว้”
กลับมายังหมู่บ้านแห่งหนึ่งในแถบชายแดนกัมพูชา
รัตต้องปลอมตัวเป็นชาวบ้านแถวนั้นเพื่อปกปิดตัวเองจากทหารอาณานิคมแถวนั้น
ซึ่งพวกเขามาตรวจหมู่บ้านแถวนั้นทุกวันเพื่อหาตัวสายลับคนไทย
หลังจากที่รัตทำนาเสร็จ
เขาก็มานั่งพักอยู่ตรงต้นไม้ด้านนอก ขณะเดียวกัน
ชายเจ้าของหมู่บ้านคนเดิมก็มานั่งคุยกับรัตด้วย
“เอาหล่ะคุณ ตอนนี้คุณมีแผนอะไรอยู่หล่ะ”
รัต : ตอนนี้
ผมว่าจะหนีไปชายแดนไทยครับ
“ชายแดนไทยตอนนี้กำลังปะทุหนักเลยนะคุณ”
รัต : แต่ผมต้องไป
มันปลอดภัยที่สุดสำหรับผม
“แต่คุณเป็นคนลาวนี่หน่า”
รัต : ทางการลาวกำลังตามล่าผมอยู่หน่ะตอนนี้
“ถ้าคุณคิดว่าที่นั่นปลอดภัย
ผมจะให้คนไปส่งคุณก็แล้วกัน”
รัต : ขอบคุณมากครับลุง
ผมจะไม่ลืมเลย
“ไม่เป็นไรหรอก
ยังไงก็ขอให้นายปลอดภัยกลับบ้านก็แล้วกัน”
แต่ในขณะเดียวกัน
ทหารญวณกลุ่มใหม่ก็มาสำรวจชาวบ้าน งานนี้พวกเขาสั่งให้ชาวบ้านมาอยู่รวมกันเพื่อเช็คเรียงตัว
รัตอ้อมไปหลบอยู่แถวหลังหมู่บ้าน เพื่อรอดูสถานการณ์ว่าจะทำอย่างไรต่อไป
กลับมายังกรุงลอนดอน
หลังจากที่โอแลนซ่อมเครื่องบินเสร็จ เขาก็มานั่งพักอยู่แถวๆด้านข้างสนามบิน
ในขณะเดียวกันก็นักบินก็มาคุยเรื่องเครื่องบินแบบใหม่ของเขา ว่าไปถึงไหนแล้ว
“คุณโอแลนครับ
เครื่องบินใหม่ของเราจะเสร็จเมื่อไหร่ครับ”
โอแลน : ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
ผมพยายามอยู่
“ตอนนี้นักบินของเราเสียขวัญไปมากมายแล้วนะครับ”
“ว่าไงครับคุณโอแลน”
โอแลน : ตอนนี้ฝีมือและความกล้าของพวกคุณ
คือเกราะป้องกันตัวสำหรับพวกคุณ
ในขณะเดียวกัน ท่านเซอร์แฟรงค์ก็มาเยี่ยมโอแลน
โอแลนก็ได้ไปต้อนรับทันที
โอแลน : ท่านครับ
แฟรงค์ : เป็นยังไงบ้าง
เหนื่อยหน่อยนะโอแลน
โอแลน : ไม่เป็นไรครับท่าน
ตอนนี้ที่ดันเคิร์กเราโดนหนักเลยครับ
แฟรงค์ : ผมรู้แล้วหล่ะ
ตอนนี้ต้องหวังพึ่งเครื่องบินของพวกคุณแล้วหล่ะ
โอแลน : ครับท่าน
ผมจะพยายามครับ
แฟรงค์ : ตอนนี้ผมว่าคุณไปพักผ่อนก่อนดีกว่านะ
โอแลน : ขอบคุณครับท่าน
กลับมายังกรุงลอนดอน เจลามี่ได้มาถึงที่ทำงานของเขา
ในตอนนั้นเองเขาก็สอบถามถึงงานใหม่ของเขาที่กำลังจะได้รับมอบหมาย
เจลามี่ : เออนี่
จะมีงานใหม่มาให้ฉันอีกหรือเปล่าเนี่ย
“ใจเย็นสิเพื่อน ยังไงก็ได้ทำแน่
แต่ตอนนี้นายพักผ่อนก่อนดีกว่า”
เจลามี่ : ฉันไม่อยากอยู่เฉยๆหน่ะสิตอนนี้
“โธ่ เอาตัวเองให้รอดก่อนดีกว่านะเพื่อน”
เจลามี่ : เออใช่
ตอนนี้มีเหตุการณ์อะไรใหม่ๆบ้างหล่ะ
“ก็ตอนนี้
ทหารอังกฤษกำลังโดนไล่ตีที่ดันเคิร์กหน่ะ”
เจลามี่ : แย่หล่ะ
ถ้าไม่มีเรือไปรับ พวกเขาตายกันหมดแน่
“ไม่ต้องห่วงนะ ตอนนี้เรือกำลังทยอยไปรับอยู่”
เจลามี่ : ก็หวังว่าพวกเขาจะปลอดภัยนะ
ณ กรุงปารีส
อลิสกับรินก็มาช่วยกันเก็บของเพื่อกลับไปเยอรมัน ในขณะเดียวกัน
ก็มีรถคันหรูมารับพวกเธอทั้งสองคนกลับไป ทั้งสองคนขึ้นรถจากนั้นก็ออกไปจากกรุงปารีสทันที
อลิส : เฮ้อ
ในที่สุดก็จะได้กลับไปซะทีนะ
ริน : นั่นสิพี่
คิดถึงโยชิตะ พี่ฮัมบูร์กและพี่เทราน์เนอร์อ่ะพี่
อลิส : จริงด้วย
ฮัมบูร์กตอนนี้กำลังเป็นที่โด่งดังเลยนี่ตอนนี้
ริน : แต่พี่เทราน์เนอร์หายไปเลยนะช่วงนี้
แถมพวกพี่นาวินด้วย
อลิส : จริงสิ
แต่ทำไมเธอต้องพูดถึงพวกนั้นด้วยหล่ะ
ริน : อ้าวพี่
ยังไงเรามาก็มาด้วยกันนะ ทำไมหล่ะ คิดถึงพี่ธินเหรอ
อลิสนิ่งไปพักหนึ่ง ไม่ตอบอะไรรินเลย
รินรู้อยู่แล้วเลยเงียบเอาไว้ดีกว่า
ทางด้านของโยชิตะ ในตอนนั้นเอง เขาได้รับข่าวว่าพี่สาวของเขาจะกลับมาเร็วๆนี้
เขาดีใจมาก ท่ามกลางความสงสัยของเพื่อนคนอื่นๆ
“เฮ้ โยชิตะ มีอะไรเหรอ ท่าทางดีใจมากเชียว”
โยชิตะ : พี่สาวฉันกำลังจะกลับมาแล้ว
“งั้นเหรอ ดีใจกับนายด้วยนะ”
โยชิตะ : ขอบใจมาก
ฉันจะให้พี่ฉันซื้อของมาให้พวกนายด้วย
“ว่าแต่ นายไม่ได้เจอพี่สาวนายนานแค่ไหนแล้วหล่ะ”
โยชิตะ : ซักพักนึงได้แล้วหล่ะ
โชคดีที่ตอนนี้เรายึดปารีสได้แล้ว พี่สาวเลยกลับมาเร็ว
“นั่นสิ
พวกฝรั่งเศสงี่เง่าหน่ะเหรอจะมาเอาชนะพวกเราได้”
โยชิตะ : อย่าเพิ่งใส่ใจเลย
เราไปทำงานกันต่อดีกว่า
ที่สนามบินกรุงเบอร์ลิน กัสรอวิคเตอร์อย่างใจจดใจจ่อ
เพราะวันนี้เป็นวันที่วิคเตอร์จะกลับมาพอดี
กัสและดอร์ชมันต์ได้ยินประกาศจากสายการบินว่าเที่ยวบินจากแอฟริกามาถึงแล้ว
ดอร์ชมันต์ : ผมว่า
วิคเตอร์ต้องมาทางนี้แน่นอนครับผม
กัส : ค่ะ
งั้นคุณช่วยพาฉันไปหน่อยสิ
พวกเขาทั้งคู่ไปรอที่ประตูขาเข้า ในตอนนั้นเอง
วิคเตอร์กับเทราน์เนอร์ก็เดินออกมาพอดี กัสเดินเข้าไปหาเขาทันที
กัส : คุณวิคเตอร์
คุณจำฉันได้หรือเปล่าคะ
เทราน์เนอร์ : แหม่
มีสาวมารับเลยนะเพื่อน
วิคเตอร์ : อ้อ
ผมจำได้ครับ อ้าว ดอร์ชมันต์ นายมาที่นี่ได้ยังไง
ดอร์ชมันต์ : ก็แฟนนายเขาอยากเจอนายนี่หว่า
ฉันเลยพาเธอมาหานาย
วิคเตอร์ : ขอบใจมาก
แต่ตอนนี้ฉันเหนื่อย ฉันขอกลับบ้านก่อนดีกว่า
กัส : ให้ฉันไปกับคุณนะคะ
วิคเตอร์ : เออใช่
ดอร์ชมันต์ ฉันอยากชวนนายไปดื่มอะไรที่บ้านฉันหน่ะ
ดอร์ชมันต์ : ได้เลย
ไหนๆก็ไม่ได้เจอกันนาน
เทราน์เนอร์ : งั้นเราไปกันเลยดีกว่า
กลับมายังแอฟริกา ลูก้าได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง
เนื้อความในจดหมายมีว่าให้เขาไปรายงานตัวต่อกองทัพ
เขาต้องรีบเก็บของกลับไปเบอร์ลินทันที
“คุณลูก้าครับ ทางเบอร์ลินเขียนมาว่าไงครับ”
ลูก้า : เขาต้องการให้ผมกลับไปรายงานตัวที่นั่นอ่ะครับ
“อ้อ แล้วคุณจะไปตอนนี้เลยเหรอครับ”
ลูก้า : ก็คงจะเป็นอย่างงั้น
ผมฝากคุณดูแลที่นี่ด้วยนะครับ
“จะให้ผมเรียกเครื่องบินให้เลยมั้ยครับ”
ลูก้า : โอเคครับ
ผมต้องรีบไป ท่านจอมพลต้องการจะพบผม
หลังจากที่ลูก้าเก็บของเสร็จ
เขาได้มารอเครื่องบินเพื่อกลับไปเบอร์ลินทันที
อีกฝากหนึ่ง ที่กองทัพของพวกอาหรับ
ในระหว่างที่พวกเขากำลังช่วยเหลือคนเจ็บ
ก็มีเครื่องบินทิ้งระเบิดของอิตาลีบินมาอีกระลอก
ทำเอาพวกเขาต้องวิ่งหลบระเบิดกันให้วุ่น คนตายไปมากมาย หลังจากที่เหตุการณ์สงบ
พวกเขาก็มาช่วยกันเคลียร์ความเสียหายทันที เทเรซ่าตามหาผู้กองบราฮัม แต่สิ่งที่เธอเห็นก็คือ
ร่างของผู้กองบราฮัมที่โดนระเบิดจนเสียชีวิตคาที่
เทเรซ่า : ใครก็ได้มาช่วยกันหน่อย
// เทเรซ่าพยายามปฐมพยาบาลแต่ก็ไม่เป็นผล
เขาเสียชีวิตแล้ว เทเรซ่าต้องให้คนพาตัวเขาไป เธอในตอนนั้นเองเธอก็พาเขาไปด้วย
“คุณหมอครับ ทางนี้ต้องการคนช่วยด่วนครับ”
เทเรซ่าจำต้องไปรักษาคนไข้ต่อ
เนื่องจากผู้บาดเจ็บมีมากมาย
กลับมายังดันเคิร์ก
เมอร์ลินขับเครื่องบินทิ้งระเบิด ทิ้งบอร์มใส่ทหารสัมพันธมิตรมากมาย
แต่เขาก็โดนเครื่องบินของอังกฤษไล่ยิง
ในตอนนั้นเองเขาถูกยิงที่หางเสือจนต้องกลับฐาน
เมอร์ลิน : แย่แล้ว
ฉันต้องกลับฐาน ฉันโดนยิง
ฮัมบูร์ก : เข้าใจแล้ว
รีบกลับออกมา // และในขณะเดียวกัน
มิลเลอร์ก็ไปดักซุ่มโจมตีทหารสัมพันธมิตร เกิดการปะทะไปทั่วชายหาด
พวกของนาวินได้ยินเสียงจึงตกใจเป็นอย่างมาก
ธิน : บ้าเอ้ย
ไหนบอกว่าพวกมันจะไม่บุกเข้ามาไง
แซค : ฉันก็ไม่รู้
ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ
โซเซีย : จะผิดพลาดอะไรอีกหน่ะ
หนีกันก่อนดีกว่า
แต่ในขณะเดียวกัน
อเล็กซ์ก็เห็นอะไรก็ไม่รู้ลอยมาแต่ไกล มันลอยเข้ามาเรื่อยๆ แต่เมื่อมองดีๆ
มันคือเรือนี่หน่า
อเล็กซ์ : ทุกคน
มีเรือมาช่วยเราแล้ว ดูสิ
โอ๊ค : ห่ะ
พวกเรารอดตายแล้ว รีบไปกันเถอะ // ทหารสัมพันธมิตรทุกคนดีใจมาก
ในตอนนั้นเอง พวกเขาก็เห็นเรือที่คุ้นเคยมากๆ เหมือนพวกเขาเคยขึ้นเรือแบบนี้ที่ไหน
เอม : ทุกคน
ดูเรือลำนั้นสิ คุ้นๆมากเลยนะ
ออย : นั่นสิ
เหมือนว่าจะเคยเจอที่ไหนนะ
อเล็กซ์ : ห่ะ
นั้นเรือของน้าแคทเทอรีนนี่หน่า พวกเรารอดแล้ว
นาวิน : งั้นพวกเราอย่ารอช้าเลย
รีบไปกันดีกว่า // พวกเขาไปรอแคทเทอรีนที่ขับเรือมารับพวกเขา
ในขณะที่อีกด้านหนึ่งก็มีการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง
======================================================================
ความช่วยเหลือมาถึงแล้ว แต่เรื่องก็ยังไม่จบอีก พวกเขาจะรอดกลับไปได้หรือไม่ ติดตามชมต่อตอนหน้าเน้อ
ขอคนละเม้นท์ด้วยนะแจ๊ะ
ความคิดเห็น