คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 6 : มีเรื่อง
ณ ล็อบบี้โรงแรม ในตอนนี้สการ์เล็ตและกลุ่มของเธอก็กำลังรอจินและซิกส์ ที่กำลังลงมา ท่ามกลางแขกของโรงแรมที่พากันเข้าออกโรงแรมเรื่อยๆ ในตอนนั้นตัวของชิดจันทร์ก็เริ่มจะเซงๆ
“นี่มันนานแล้วนะคะ ยังไม่มากันอีก??”
“นี่ไม่กี่นาทีเองนะจ้ะ” เคนตะตอบ
“ยังพอมีเวลาอยู่ ยังไม่ถึงเที่ยงครึ่งเลย” สการ์เล็ตพูดต่อ
“แต่ดูเหมือนว่า แขกยังเข้ามาโรงแรมเรื่อยๆนะ” ไอรีนพูดขึ้น
“ก็แน่หล่ะ เมืองไทยน่าเที่ยวนี่นะ” อิชมาเอลตอบ
“เออ โอ้ มีข่าวอะไรอัพเดทหรือเปล่า??” มายด์ถามไป
“ตอนนี้เหรอ ดูเหมือนว่าเทศกาลปล่อยผีในกรุงเทพจะหนักขึ้นไปอีก อีกไม่นานคงจะประกาศกฎอัยการศึกหล่ะ” โอ้ตอบ
“เออ มันต้องขนาดนั้นเลยเหรอ??” ลุงบุญช่วยถามไป
“ฉันว่าอาจจะมียิ่งกว่านี้อีก” ครูหนาตอบ และไม่นานนัก ตัวของจินและซิกส์ก็เดินลงมาที่ด้านล่างพอดี ซึ่งพวกเขาก็มารวมตัวกับกลุ่มของสการ์เล็ต
“เฮ้ เป็นยังไงบ้าง รอนานมั้ย??” จินถามทุกคนไป
“คิดว่ารอนานมั้ยหล่ะ??” ชิดจันทร์ถามกลับไป
“ไม่หรอก ก็ตรงเวลาดี” สการ์เล็ตตอบ
“ฮ่าๆๆๆ นั่นสิ นี่ก็ใกล้เวลาพอดี เรานัดกันไว้เที่ยงครึ่งหน่ะ” เคนตะตอบ
“นี่ อยากจะบอกว่า ตอนเราออกไปข้างนอก ต้องระวังๆหน่อยนะ” โอ้พูดขึ้น
“อ้าว ทำไมกันหล่ะ??” จินถามไป
“ดูเหมือนว่าข้างนอกตอนนี้จะเริ่มออกรสชาติกันแล้วหล่ะ” มายด์ตอบ
“ปืนพวกเราเตรียมพร้อมหรือยังหล่ะ??” ครูหนาถามไป
“เราคงทำได้แค่เอาปืนพกไปหน่ะ” อิชมาเอลตอบ
“ของฉันปืนพกก็พอแล้ว” ไอรีนพูดขึ้น
“แล้วร้านอาหารนี่อยู่ไม่ไกลนะ??” ลุงบุญช่วยถามไป
“ไม่ไกลหรอก ฉันเลือกร้านไว้แล้ว” สการ์เล็ตตอบ
“ก็ดี งั้นไปเลย” ซิกส์พูดขึ้น
“อืม แล้วเราจะเดินไปเหรอครับ??” จินถามไป
“ใช่ มันอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ เกิดอะไรขึ้นเราน่าจะถอยกลับมาโรงแรมได้” สการ์เล็ตอธิบาย จากนั้นตัวของเธอก็นำคนอื่นๆไปในทันที ส่วนคนอื่นๆก็เดินตามสการ์เล็ตด้วย
กลุ่มของจินเดินไปตามถนนเรื่อยๆ ท่ามกลางผู้คนที่เดินเที่ยวกันไปกันมา ถึงแม้ว่าสถานการณ์ด้านนอกจะเป็นไปอย่างโหดร้ายและดุเดือด แต่คนก็ยังคงท่องเที่ยวกันอย่างสบายใจ
“ไม่น่าเชื่อนะเนี่ย ว่าคนจะมาเยอะขนาดนี้” จินพูดขึ้น
“ก็นะ เมืองไทยมันน่าเที่ยวนี่นะ” สการ์เล็ตตอบ
“ดูเหมือนจะไม่กังวลอะไรกันด้วย” อิชมาเอลพูดต่อ
“ก็คงอยากจะหลีกหนีความวุ่นวายอ่ะนะ” ครูหนาพูดเสริม
“ไม่รู้ว่าจะมีการปล้นที่ไหนอีกนะเนี่ย ตำรวจก็แทบจะไม่เห็นเลย” โอ้พูดขึ้น
“ตอนนี้ก็คงจะทำงานกันหัวหกก้นขวิดเลยหล่ะ” มายด์ตอบ
“จะไปสนอะไรหล่ะ ฉันไม่อยากไว้ใจตำรวจเลย” ชิดจันทร์พูดขึ้น
“เออ อันนี้ฉันเห็นด้วยกับเธอ” เคนตะตอบ
“เอาน่า ถึงยังไงก็ต้องฟัง ไม่งั้นคงได้นอนคุกกันหล่ะ” ลุงบุญช่วยพูดต่อ
“อ่ะนะ เลี่ยงได้ก็เลี่ยง” ไอรีนพูดต่อ และในขณะเดียวกันนั้นเอง ตัวของซิกส์ก็เจอเข้ากับกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มเดิม ที่ตัวของเขากับจินไปมีเรื่องเมื่อวาน ซิกส์รีบสะกิดบอกจินในทันที
“เฮ้”
“หือ ว่า??” จินถามไป และในตอนนั้น จินก็ดันไปเจอกับวัยรุ่นกลุ่มนั้นด้วย วัยรุ่นกลุ่มนั้นเจอกับจิน พวกนั้นสะกิดเพื่อนๆทุกคน จากนั้นก็รีบมาหากลุ่มของจินในทันที
“เฮ้ย มึงอ่ะ!!”
“วันนี้มาต่อกันให้จบมั้ย??” มันอีกคนตะโกนออกมา
“มึงคิดว่าพูดอยู่กับใครวะ??” เคนตะตะโกนถามกลับไป
“เย็นไว้ก่อนพรรคพวก!!” โอ้รีบพูดกับพวกมัน
“นี่มันใครกันเนี่ย??” ชิดจันทร์ถามไป
“เฮ้ จิน ไอ้พวกนี้ใช่หรือเปล่าที่นายไปมีเรื่องเมื่อวาน??” สการ์เล็ตถามจินไป
“ใช่แล้วหล่ะ” จินตอบ
“อ้อ ไอ้พวกนี้นี่เอง” มายด์พูดขึ้น
“เฮ้ย ว่าไง วันนี้เอาพวกมาด้วยเหรอมึง??” มันคนหนึ่งตะโกนออกมา
“ไอรีน สองคนเธอจัดการไหวมั้ย ที่เหลือฉันได้??” อิชมาเอลถามไป
“อย่ามาดูถูกฉันสิ” ไอรีนตอบ
“นี่ ใจเย็นสิเด็กๆ มีอะไรค่อยๆพูดก็ได้” ครูหนาพยายามจะห้ามศึกทั้งสองฝ่าย
“มึงเสือกอะไรด้วยอีดำช้างยัด??” มันตะโกนออกมาตอบกลับครูหนา
“โอโห ดูเหมือนจะสันติไม่ได้แล้วหล่ะ” ลุงบุญช่วยพูดต่อ
“นายจะเอายังไงหล่ะ??” ซิกส์สะกิดถามจิน
“เลี่ยงไม่ได้ก็ลุย” จินตอบ จากนั้นตัวของเขาก็พูดขึ้น
“ไม่ต้องบ้าน้ำลาย เข้ามาเลย พวกกูจะไปหาอะไรกินต่อ” จินตอบกลับพวกมัน ทำเอาพวกมันถึงกับเดือด
“ลุย!!”
พวกมันตะโกนออกมา จากนั้นก็วิ่งเข้าใส่กลุ่มของจิน โดยที่ตัวของซิกส์นั้นวิ่งเข้าใส่คนแรก ซิกส์รีบเล่นเข้าที่หัว ซึ่งก็คือตัวหัวหน้าของมัน ซึ่งกระโจนใส่มันจนล้ม จากนั้นก็ต่อยเข้าที่หน้าของมันแบบไม่ยั้งมือ
“ตุ๊บๆๆๆ”
มันคนหนึ่งจะเข้าไปช่วย แต่จินก็วิ่งเข้าไปและถีบมันจนกระเด็น จากนั้นก็ยื้อยุดฉุดกระชากกันไปมา ในขณะที่คนอื่นๆก็เข้ามาช่วย มีแค่ชิดจันทร์ที่เข้าไปหลบอยู่ด้านหลังสการ์เล็ต มันคนหนึ่งวิ่งเข้าหาสการ์เล็ต แต่เธอก็ตบหน้ามันจนร่วง ก่อนที่ครูหนาจะตบมันเข้าไปอีกดอก
“เผียะ!!”
“หืม อีดำ!!” คนที่โดนตบตะโกนออกมา และในตอนนั้น ลุงบุญช่วยก็ถีบเข้าที่หน้าของมันอีกรอบจนมันสลบเหมือด มายด์กับโอ้เองก็พยายามจะสู้กับพวกมัน แต่ไม่เป็นผลมากนัก จนอิชมาเอลกับไอรีนต้องออกโรงเอง
“ตุ๊บ!!”
พวกเธอทั้งคู่ช่วยกันต่อยและเตะพวกมันออกไป เคนตะเองก็พยายามจะยื้อกับพวกมัน ไม่นานนัก พวกมันเองก็เริ่มจะน่วมแล้ว ซิกส์ที่ต่อยหัวหน้าของมันจนตอนนี้แทบจะนอนจมกองเลือด และไม่นานนัก มันคนหนึ่งที่กำลังสู้ยื้อกับจินก็รีบถอยออกมาจากจิน จากนั้นก็พูดขึ้น
“อย่าๆๆๆ เรายอมแล้ว ปล่อยเพื่อนผมเถอะ!!”
“เหรอ ทำไมต้องปล่อยให้พวกมึงมาทำพวกกูอีกหล่ะ??” จินถามกลับไป
“ไม่ๆๆๆ พวกเราไม่เอาแล้ว จริงๆ!!” มันพูดกับจิน
“เฮ้ ซิกส์ พอแล้ว เดี๋ยวมันก็ตายพอดี” จินบอกกับซิกส์ ในตอนนั้นซิกส์เองก็หยุดมือ จากนั้นก็ค่อยๆลุกขึ้นปล่อยตัวมันขึ้นมา ซึ่งตอนนี้มันเองก็แทบจะลุกไม่ขึ้น พวกมันต้องรีบแบกลูกพี่มันขึ้นมาในทันที
“มึงออกไปจากพัทยาเลยนะ” จินบอกกับมัน จากนั้นพวกมันก็รีบแบกร่างของลูกพี่มันออกไปอย่างทุลักทุเล จากนั้นตัวของเขาก็รีบเดินกลับไปหาทุกคน
“เฮ้ เป็นยังไงกันบ้างครับ??” จินถามไป
“ก็โอเค มาเป็นอะไรหรอก” สการ์เล็ตตอบ
“นายนี่หาเรื่องให้พวกเราตลอดเลยนะ” ชิดจันทร์พูดขึ้น
“อยากไปกับพวกมันก็ได้นะ” ซิกส์บอกกับชิดจันทร์ ทำเอาเธอถึงกับต้องเงียบ
“เอาน่า ถึงยังไงเราก็เลี่ยงเรื่องนี้ไม่พ้นอยู่ดี” เคนตะพูดเสริม
“อืม แต่อย่าเยอะแล้วกัน เดี๋ยวมันจะไม่ไหว” อิชมาเอลบอกกับจิน จินเองก็พยักหน้ารับ
“ตอนนี้พวกเราต้องระวังให้มาก เดี๋ยวมันก็วุ่นวายกว่านี้” ไอรีนพูดขึ้น
“โอ้ วันหลังนายอยู่หลังฉันก็ได้นะ” มายด์พูดขึ้น
“ฝันไปเถอะ ฉันหน่ะช่วยนายไว้” โอ้ตอบ
“เอาเถอะ พวกเราปลอดภัยก็ดีแล้ว” ลุงบุญช่วยพูดขึ้น
“เราไปกันต่อดีกว่านะ” ครูหนาพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็เดินกันต่อในทันที ไม่นานนัก พวกเขาก็พากันมาถึงร้านอาหารร้านหนึ่ง ซึ่งบรรยากาศดีมาก ร้านจัดตกแต่งสวย เหมาะสำหรับคนที่อยากจะถ่ายรูปลงโซเชียล กลุ่มของจินพากันเข้าไปในร้านทันที ซึ่งพนักงานต้อนรับก็เดินเข้ามาหาพวกเขา
“สวัสดีค่ะ มากี่คนคะ??”
“10 กว่าคนค่ะ มีที่ส่วนตัวๆมั้ยคะ??” สการ์เล็ตถาม
“ทางนี้ค่ะ” พนักงานตอบ ก่อนที่พวกเขาทุกคนจะพากันขึ้นไปที่ชั้น 2 ของร้าน พนักงานพากลุ่มของจินไปยังโซนส่วนตัว ที่มีวิวทะเลมองเห็นได้ชัด
“โซนนี้ดีมากเลยนะคะ” พนักงานพูดขึ้น
“ค่ะ ตรงนี้แหละค่ะ” สการ์เล็ตตอบ
“ถ้าอย่างงั้นจะไปเอาเมนูมาให้นะคะ” พนักงานพูดขึ้น ก่อนที่ทุกคนจะพากันนั่งที่ ส่วนตัวของจินเองก็ไปนั่งอยู่ริมสุด โดยที่ซิกส์ก็ไปนั่งกับเขาด้วย
“อยากได้โกโก้เย็นๆซักแก้วจัง” จินพูดขึ้น และไม่นานนัก สการ์เล็ตก็มานั่งใกล้ๆกับจินด้วย
“เฮ้ สั่งอะไรหรือเปล่า??” สการ์เล็ตถามจิน
“อ้อ รอเมนูมาก่อนดีกว่า” จินตอบ จากนั้นไม่นานนัก ตัวของจินก็เอาเมนูจากคนอื่นมาดูด้วย
“อืม สการ์เล็ต ฉันขอทีโบนสเต๊กมีเดียมแรร์นะ แล้วก็โกโก้เย็นแก้วนึงด้วย” จินบอกกับสการ์เล็ต สการ์เล็ตเองก็รวบรวมเมนูให้กับพนักงาน
ไม่นานนัก อาหารก็มาเสิร์ฟให้กับทุกคน ตัวของจินนั่งทานอย่างสบายใจ หูก็เสียบหูฟังฟังเพลงไปด้วยเพื่อผ่อนคลาย และในขณะเดียวกัน ไลน์ของจินก็เด้งขึ้นมา จินเองรีบหยิบขึ้นมาอ่านในทันที
“จิน พรุ่งนี้มาหาฉันหน่อยที่บ้านฉัน..”
“ผมอยู่ต่างจังหวัดครับ” จินตอบกลับ
“แต่งานนี้สำคัญมาก ถ้านายไม่กลับมา ฉันจะไล่นายออก”
ในตอนนั้นตัวของจินก็ตกใจ แต่ในใจก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อ ไม่นานนัก สการ์เล็ตก็เดินมาดูจิน
“เฮ้ มีอะไรเหรอ??” สการ์เล็ตถาม และเธอก็สังเกตโทรศัพท์ของจิน เธออ่านไปเจอข้อความนั้นพอดี สการ์เล็ตรีบดึงโทรศัพท์ของจินออกมา จากนั้นก็พิมพ์กลับไป แล้วก็ส่งโทรศัพท์ให้กับจิน
“เชิญครับ” นั่นคือข้อความที่สการ์เล็ตพิมพ์ให้ และปลายทางก็อ่านไปแล้วด้วย ตัวของจินมองหน้าสการ์เล็ต
“เอาน่า กล้าๆหน่อย” สการ์เล็ตบอกกับจิน ตัวของจินถอนหายใจ ก่อนที่จะบล็อกไลน์ของอีกฝ่าย จากนั้นก็วางโทรศัพท์ไว้
“ตอนนี้นายมีโอกาสทำสิ่งที่อยากทำแล้วนะ” สการ์เล็ตบอกกับจิน ตัวของจินตอนนั้นก็กินอีกหน่อยจนสเต๊กหมดจาน จากนั้นเขาก็หยิบแก้วโกโก้ของเขาขึ้นมาด้วย
“เฮ้ สการ์เล็ต ฉันขอออกไปซื้ออะไรหน่อยนะ” จินพูดขึ้น
“อ้าวเหรอ งั้นรีบกลีบมานะ” สการ์เล็ตบอกกับจิน ในตอนนั้นเอง ซิกส์ก็ลุกขึ้นแล้วก็เดินตามจินไปด้วย
“เออ แล้วพวกนั้นจะไม่ก่อเรื่องเหรอคะ??” ชิดจันทร์ถามไป
“ถึงยังไง เรื่องก็มาหาพวกนั้นอยู่ดีหล่ะ” ครูหนาตอบชิดจันทร์กลับไป
ณ ซอยเดินเที่ยวแห่งหนึ่งในพัทยา ในตอนนั้นโฮป เทียนและมุก ก็เดินเที่ยวกันไปเรื่อย แต่ในขณะเดียวกัน กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งก็พากันมาเดินล้อมโฮปและคนอื่นๆเอาไว้
“เฮ้ย ลูกพี่เขาอยากจีบน้องคนนี้หว่ะ” วัยรุ่นคนหนึ่งพูดขึ้นและมองไปที่เทียน
“นี่น้องสาวกู อะไรของพวกมึงวะ??” โฮปถามกลับไป และในตอนนั้นเอง วัยรุ่นคนหนึ่งก็เดินเข้ามาสมทบ ซึ่งนั่นก็คือคอปเปอร์นั่นเอง
“เฮ้ น้องสาว น่ารักจังเลย อยากไปเที่ยวด้วยกันมั้ย??” คอปเปอร์พูดขึ้น
“อะไร ฝันไปเถอะ!!” เทียนตอบ
“เอ๊ะ ฉันคุ้นๆหน้านายนะ นายใช่คอปเปอร์ที่เคยเป็นข่าวยกพวกตีกันใช่เปล่า??” มุกถามไป
“จะไปไหนก็ไปเถอะ ฉันไม่มีเวลามายุ่งกับพวกนาย” โฮปพูดขึ้น
“เฮ้ย ไม่เอาน่า..” คอปเปอร์พูดขึ้นและจะไปแตะต้องเทียน เทียนรีบไปจับมือของคอปเปอร์เอาไว้ให้ไปห่างๆ
“เฮ้ย ปล่อยลูกพี่กู..” ลูกน้องของคอปเปอร์คนหนึ่งตะโกนออกมาและจะเล่นงานโฮป แต่ในตอนนั้นเอง
“ตุ๊บ!!”
ก้อนหินก้อนหนึ่งปลิวใส่หัวของมันคนนั้น ทำเอามันถึงกับล้มลงพื้น ซึ่งนั่นคือฝีมือของจินนั่นเอง
“โห เดี๋ยวนี้พวกลูกคนรวยทำอะไรแบบนี้กลางวันแสกๆได้เหรอวะ??” จินถามไป
“กระทืบมัน!!” คอปเปอร์ตะโกนออกมา จากนั้นพวกมันก็วิ่งเข้าไปรุมเล่นงานจิน แต่ซิกส์ที่ไปด้วยก็กระโดดถีบมันจนกระเด็น
“ตุ๊บ!!”
พวกมันเปลี่ยนไปรุมเล่นงานซิกส์ แต่ซิกส์ทั้งว่องไวและมีเชิงมวยดีกว่า ซิกส์ทั้งต่อยและเตะพวกมันจนร่วงลงกับพื้น ตัวของจินเองก็เข้าช่วยบ้าง แต่มันคนหนึ่งก็กระโดดถีบจินลงพื้น
“ตุ๊บ!!”
“ย้าก!!” มันจะเตะจินซ้ำ แต่จินก็หมุนตัวลุกขึ้นและถีบมันกลับไป จากนั้นก็ต่อยหน้ามัน
“ตุ๊บ!!”
“แม่งเอ้ย” คอปเปอร์สบถออกมาเล็กน้อย จากนั้นเขาก็รีบวิ่งหนีไปในทันที ส่วนลูกน้องของคอปเปอร์เองต่างก็อ่วมอรทัยจากฝีมือของซิกส์และจิน ไม่นานนัก ซิกส์ก็รีบวิ่งมาหาจินเพื่อมาดูเขา
“ฉันไม่เป็นไร ไปดูพวกเขาหน่อย” จินพูดขึ้น จากนั้นก็เดินไปดูกลุ่มของโฮปในทันที
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ??” จินถามไป
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” มุกตอบจิน
“เออ ว่าแต่ ไอ้พวกนั้นมันเป็นใครครับ??” จินถามไป
“น่าจะเป็นพวกลูกเศรษฐีสันดานเสียค่ะ” เทียนตอบ
“พวกคุณเก็บตัวไว้ดีกว่า อย่าให้พวกมันเห็นพวกคุณอีกรอบแล้วกัน ซิกส์ ไปเถอะ” จินบอกกับกลุ่มของโฮป จากนั้นเขาก็พาซิกส์เดินไปทางอื่น ซิกส์เองก็เหลือบไปมองเทียนด้วยเล็กน้อย ก่อนที่พวกเขาทั้งคู่จะเดินออกไป ส่วนกลุ่มของโฮปเองก็รีบเดินออกไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว และพยายามจะมองทางนั้นทางนี้เพื่อดูว่าลูกน้องของคอปเปอร์ยังอยู่หรือเปล่า
“หวังว่าพวกมันจะไม่ตามเรามานะ” มุกพูดขึ้น
“คงไม่หรอก น่วมซะขนาดนั้น” โฮปพูดขึ้น
“หนูกลัวค่ะพี่” เทียนพูดขึ้น
“ไม่ต้องห่วง ถ้ามันทำอะไรเรา พี่จะลุยกับมันแน่” โฮปพูดกับเทียน
“ฉันว่าพัทยาไม่ปลอดภัยแล้วหล่ะ” มุกพูดขึ้น
“ฉันว่า พวกมันคงเล็งไปที่สองคนนั้นแล้วหล่ะ” โฮปพูดขึ้น
“แต่หนูว่า พี่สองคนนั้นไม่ธรรมดาเลยนะคะ” เทียนพูดขึ้น
“ฉันว่าตอนนี้พวกมันคงส่งคนไปดูตามท่ารถแล้วหล่ะ เราคงต้องเก็บตัวซักพัก” โฮปพูดขึ้น
“แต่ตอนนี้เรามีเงินเยอะขนาดนั้นเหรอ??” มุกถามไป
“ยังไงก็ต้องลอง ไหนๆโลกก็จะแตกอยู่แล้วอ่ะนะ” โฮปตอบ
“หรือว่า จะลองไปให้พวกพี่พวกนั้นช่วยหล่ะคะ??” เทียนออกความเห็นไป
“เดี๋ยวๆๆ ทำไมคิดว่าพวกนั้นจะช่วยเราได้หล่ะ??” มุกถามไป
“หนูว่าพวกพี่สองคนนั้นไม่ธรรมดาแน่ๆ อีกอย่าง พวกมันอาจจะมาตามล่าเราด้วย ถ้าเราอยู่ใกล้ๆพวกพี่พวกนั้น เราก็อาจจะปลอดภัยนะคะ” เทียนพูดขึ้น
“จะเอาแบบนั้นก็ได้นะ แต่พวกนั้นอยู่ที่ไหนกันหล่ะ??” โฮปถามไป ในตอนนั้นตัวของมุกเองก็ทำท่านึกอะไรบางอย่าง จากนั้นเธอก็นึกออก
“จะว่าไป เหมือนฉันจะเจอสองคนนั้นกับกลุ่มอยู่ที่โรงแรมเอวิลล่า พวกนั้นอาจจะพักที่นั่นก็ได้ แต่ตอนนี้เราไปเก็บของออกจากที่เก่าของเราก่อนดีกว่า” มุกออกความเห็นขึ้นมา และดูเหมือนโฮปกับเทียนจะรับฟังด้วย
บนถนนอีกด้านหนึ่งของพัทยา ตัวของชิริวเองก็ยังคงเดินเที่ยวและหากิจกรรมในพัทยา แต่ในระหว่างที่เขากำลังเดินไปเรื่อยๆ จู่ๆ พวกเขาก็เจอกับเด็กวัยรุ่นกำลังไล่ตีกันอย่างชุลมุน
“ตุ๊บๆๆๆ!!”
การตะลุมบอนเป็นไปอย่างดุเดือด และดูเหมือนว่าจะไม่มีตำรวจเข้ามาควบคุมสถานการณ์เลย ชิริวพยายามจะเดินเลี่ยง แต่ในตอนนั้น เขาก็เจอกับวัยรุ่นกลุ่มเดิมที่เขาเคยมีเรื่องด้วย
“เฮ้ย ไอ้นั่นมันกระทืบพวกเราเมื่อวาน ลุยมันเลย!!”
พวกนั้นวิ่งเข้าใส่ชิริว ชิริวดูจะไม่ยี่หร่าอะไรเท่าไหร่ เขาวิ่งเข้าไปตะลุมบอนกับเด็กวัยรุ่นพวกนั้นด้วย
“ย้าก!!”
พวกนั้นพยายามจะรุมเล่นงานชิริวอีกรอบ แต่ก็ยังสู้ชิริวไม่ได้ ชิริวจับพวกมันเหวี่ยงและประเคนทั้งหมัดทั้งเท้าใส่พวกนั้นอย่างดุเดือด
“ตุ๊บ!!”
“ระยำเอ้ย!!” เด็กวัยรุ่นคนเดิมที่เคยโดนชิริวเล่นงานชักมีดออกมา จากนั้นก็วิ่งเข้าไปแทงชิริว แต่ดูเหมือนว่ามีดจะเฉียดออกไป
“ไอ้ห่าเอ้ย” ชิริวสบถออกมา จากนั้นก็จับมือของวัยรุ่นคนนั้นบิดมือ จากนั้นมีดก็หลุดมือวัยรุ่นคนนั้น
“อ๊าค!!”
“หัดเล็งมีดให้มันแม่นๆหน่อยสิวะ” ชิริวพูดขึ้น ก่อนที่เขาจะต่อยหน้าวัยรุ่นคนนั้นวัยรุ่นคนนั้นร่วงลงไปนอนกับพื้น แต่ชิริวก็ลงไปซัดหน้าวัยรุ่นคนนั้นต่ออย่างดุเดือด
“ไอ้เวรเอ้ย ทำให้กูตายไม่ได้หรือไงวะ??” ชิริวถามในขณะที่สาวหมัดใส่วัยรุ่นคนนั้นจนหน้าแทบจะแหลกเละ
ณ ถนนพหลโยธิน รถของน้ำฝนซึ่งตอนนี้กำลังมุ่งหน้าขึ้นเหนือ ซึ่งตอนนี้รถติดยิ่งกว่าอะไรดี น้ำฝนได้แต่นั่งเปิดเพลงฟังอยู่บนรถแก้เบื่อ ในระหว่างที่รอรถออกตัว
“เฮ้อ ติดอะไรกันนักหนาวะเนี่ย??” น้ำฝนสบถออกมา แต่ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของน้ำฝนก็ดังขึ้น ปรากฏว่าเป็นคุณศักดิ์สิทธิ์ที่โทรมา
“ฮัลโหลค่ะ”
“คุณน้ำฝน เป็นยังไงบ้างครับ??”
“รถติดมากเลยค่ะ ฉันน่าจะนั่งเครื่องมาแท้ๆ” น้ำฝนตอบ
“นั่นสิครับ ตอนนี้ผมอยู่ที่เชียงใหม่แล้ว”
“ค่ะ ที่นั่นอากาศ..” น้ำฝนยังพูดไม่ทันจบ จู่ๆก็มีเสียงปืนดังขึ้นมาติดกัน
“ปังๆๆๆๆๆๆ!!” น้ำฝนที่ได้ยินเสียงก็รีบหาที่หลบในทันที พร้อมกันนั้นก็รีบก้มหัวหลบในทันที
“เกิดอะไรขึ้นครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ??” เสียงคุณศักดิ์สิทธิ์ดังขึ้น
“มียิงกันนิดหน่อยค่ะ” น้ำฝนตอบ
“ให้ผมเรียกตำรวจมั้ยครับ??”
“ไม่เป็นไรค่ะ ดูท่าตำรวจคงจะไม่มาเร็วๆนี้ค่ะ” น้ำฝนตอบ
“ครับ ยังไงก็เดินทางปลอดภัยนะครับ” คุณศักดิ์สิทธิ์บอกกับน้ำฝนไป
ณ คฤหาสน์ชั่วคราวของลี่หยาง ในวันนี้ตัวของเธอได้เปิดคฤหาสน์เพื่อต้อนรับการมาของคิวชู ตัวของเธอเดินไปจับมือกับคิวชูที่หน้าบ้านในทันที หลังจากที่เธอมาถึงแล้ว
“ยินดีต้อนรับสู่ประเทศไทยค่ะ” ลี่หยางพูดขึ้น
“อืม คุณกล้ามากเลยนะที่มาอยู่ที่นี่??” คิวชูพูดกับลี่หยาง
“ถ้ามีเงินซะอย่าง ประเทศนี้อะไรก็ได้ เธอก็รู้นี่” ลี่หยางตอบ และในขณะเดียวกัน รถคันหนึ่งก็ขับเข้ามาบริเวณคฤหาสน์ และไม่นานนัก หญิงสาวคนหนึ่งก็เดินลงมาจากรถ ซึ่งเธอคนนั้นก็คืออดาเลนนั่นเอง
“อ้าว สวัสดีค่ะ คุณก็มาด้วยเหรอคะ??”
“อดาเลน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ??” ลี่หยางพูดทักทาย
“มาถึงที่นี่ได้ด้วยนะ” คิวชูพูดกับเธอ
“แต่กว่าจะผ่านมาได้ ก็เกือบเละเทะค่ะ” อดาเลนตอบ
“เข้าไปคุยกันต่อข้างในดีกว่านะคะ” ลี่หยางพูดขึ้น จากนั้นเธอก็พาทั้งสามคนเดินเข้าไปข้างในบ้านทันที ลี่หยางพาทั้งสามไปนั่งที่ห้องรับแขก จากนั้นทุกคนก็นั่งที่โซฟาในทันที
“ดื่มอะไรกันหรือเปล่าหล่ะ??” ลี่หยางถามไป
“อืม อะไรก็ได้นะ” คิวชูตอบ
“เหมือนกันค่ะ” อดาเลนพูดต่อ
“เอาซอฟต์ดริ้งก์มาเสิร์ฟที” ลี่หยางบอกกับแม่บ้านของเธอ
“ที่พัทยาเป็นยังไงบ้างหล่ะ??” คิวชูถามอดาเลนไป
“เฮ้อ แทบจะเป็นสงครามกลางเมืองแล้วค่ะ” อดาเลนตอบ
“อืม ดูเหมือนว่าจะสนุกกันแรงกว่าที่เราคิดอีกนะเนี่ย” ลี่หยางพูดขึ้น
“นั่นสิคะ อีกอย่าง ตอนนี้ไอ้ผู้กองปฐวี มันไปถึงพัทยาแล้ว ได้ยินว่าพวกมันจะไปขยายอิทธิพลของมันที่นั่น” คิวชูพูดขึ้น
“ใช่ เราต้องหยุดมันให้ได้” ลี่หยางตอบ
“เออ ตำรวจเหรอคะ??” อดาเลนถามไป
“มันไม่ใช่ตำรวจหรอกค่ะ มันเป็นลูกชายของไอ้นิชาภัทร นักธุรกิจฉากหน้า แต่ความจริงมันค้ายาเสพติด ลูกมันก็ถูกส่งไปเรียนตำรวจ ก็เพื่อช่วยงานพ่อมันนี่หล่ะ” ลี่หยางตอบ
“โห อย่างกับหนังเรื่อง สองคนสองคมเลยแหะ” อดาเลนพูดขึ้น
“ตอนนี้มันเองก็เริ่มจะครอบครองเส้นทางค้ายาทั้งหมดทางเหนือไว้แล้ว ได้ยินว่ามันเส้นใหญ่มากด้วย” คิวชูพูดขึ้น
“ใช่แล้วหล่ะ ถ้ามีหลักฐานออกมาจะๆ งานนี้สะเทือนไปทั้งรัฐบาลแน่ๆ” ลี่หยางพูดขึ้น
“แล้ว พวกคุณจะทำอะไรต่อหล่ะคะ พวกคุณจะแฉพวกมันเหรอ??” อดาเลนถามไป
“ตอนนี้เรายังมีหลักฐานไม่พอ ก็อย่างว่า มันเส้นใหญ่” ลี่หยางตอบ
“แต่ถึงยังไง มันก็ต้องทำพลาดได้บ้างหล่ะ” คิวชูตอบ
“ถ้าเราจัดการพื้นที่ลำเลียงของมันได้ ก็น่าจะจัดการมันได้นะคะ” อดาเลนพูดขึ้น
“แต่ตอนนี้เราไม่ได้มีกำลังมากพอ แถมยังอยู่ในเขตไทยด้วย เราทำอะไรโดยพลการไม่ได้หรอกค่ะ” ลี่หยางตอบ
“แต่ยังไงก็ต้องลุยหล่ะนะ” คิวชูพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก แม่บ้านของลี่หยางจะเอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ
“มาแล้วค่ะ”
“อืม ขอบใจมาก” ลี่หยางพูดขึ้น จากนั้นทุกคนก็ได้รับแจกเครื่องดื่มกันทุกคน
“อืม รสชาติดีนะคะเนี่ย” อดาเลนพูดขึ้นในขณะที่ดื่ม
“ดีที่ชอบนะคะ” ลี่หยางพูดขึ้น
“ตอนนี้ฉันส่งกองกำลังของฉันแฝงตัวในเขตไทยแล้ว คงต้องรอให้สถานการณ์สุกงอมก่อน” คิวชูพูดขึ้น
“ให้เดานะคะ รอความวุ่นวายในประเทศนี้??” ลี่หยางถามไป
“จะว่าไปก็เป็นไปได้นะคะ รู้สึกว่าความวุ่นวายที่นี่จะหนักกว่าที่อื่นในโลกด้วย” อดาเลนพูดขึ้น
“เรื่องนี้ฉันจะรีบดำเนินการเอง” คิวชูตอบ
“อืม ยังไงฉันก็ฝากด้วยหล่ะ ฉันเองก้จะช่วยอีกแรง” ลี่หยางตอบ
“แต่ตอนนี้ กรุงเทพกำลังวุ่นวายหนักเลยนะคะ อีกไม่นานรัฐบาลไทยคงประกาศกฎอัยการศึกแน่” อดาเลนพูดขึ้น
“ฉันว่า คุณน่าจะออกไปจากเขตปริมณฑลก่อนดีกว่า” คิวชูบอกกับลี่หยาง
“ไม่ต้องห่วง ฉันมีเฮลิคอปเตอร์ ฉันจะหนีข้ามไปฝั่งลาวก่อน” ลี่หยางตอบ
“ฉันเองก็ต้องกลับไปที่ท่าขี้เหล็กเหมือนกัน ตอนแรกกะจะไม่ลงใต้มาแล้วนะเนี่ย” คิวชูพูดต่อ
“ที่พัทยาก็คงจะเละเทะเหมือนกัน” อดาเลนพูดขึ้น
“เออใช่ ที่นั่นเธอเตรียมกองกำลังไว้หรือยังหล่ะ??” คิวชูถามอดาเลนไป
“เตรียมไว้แล้วค่ะ ฉันติดต่อกับนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่แล้ว” อดาเลนตอบ
“อืม ยังไงก็ระวังตัวกันด้วยนะคะ เดี๋ยวฉันให้คนของฉันไปส่ง” ลี่หยางพูดกับพวกเธอทั้งสอง ก่อนที่เธอจะบอกให้แม่บ้านของเธอไปส่งเธอที่หน้าบ้านในทันที ส่วนตัวของเธอก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วก็โทรหาใครบางคน
“ฮัลโหล??”
“อืม ที่ชายแดนเตรียมพร้อมนะ รอฉันให้สัญญาณแล้วกัน??” ลี่หยางพูดต่อ
กลับมายังคฤหาสน์ของไม้และโรส ในตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ก็ได้แต่อยู่กันในคฤหาสน์ ที่ตอนนี้เปรียบเสมือนป้อมปราการกลายๆ มีกองกำลังติดอาวุธเฝ้าบ้านเต็มไปหมด ตัวของไม้นั่งบัญชาการในห้องที่มีจอมอนิเตอร์ควบคุมกล้องวงจรปิดมากมาย และเจ้าหน้าที่บางส่วนในห้อง
“นายครับ เติมหน่อยครับ” ลูกน้องของเขาพูดขึ้น ในขณะที่รินไวน์ใส่แก้วของเขา
“เออ ขอบใจ” ไม้ตอบ ในระหว่างนั้นกัน โรสเมียของเขาก็เดินเข้ามาในห้องด้วย
“ที่รัก อยู่นี่เอง” โรสพูดขึ้น
“มีอะไรหรือเปล่าครับ??” ไม้ถามไป
“อ้อ ของที่คุณอยากได้อยู่นี่แล้วค่ะ” โรสตอบ
“อืม ว่าแต่ สถานการณ์ข้างนอกเป็นยังไงบ้าง??” ไม้ถามลูกน้องของเขา
“นอกจากเหตุความวุ่นวายข้างนอก ทุกอย่างก็ปกติครับ” ลูกน้องที่ดูกล้องวงจรปิดตอบ
“อืม โอเค จำไว้นะ ใครเข้ามายิงมันทิ้งให้หมด” ไม้ตอบ ก่อนที่ตัวของเขาจะลุกขึ้นจากเก้าอี้
“ทางนี้เลยค่ะที่รัก” โรสพูดขึ้น จากนั้นตัวของเธอก็พาไม้ สามีของเธอเดินออกจากห้องกล้องวงจรปิด พวกเขาทั้งคู่เดินเข้าไปในห้องนอนห้องหนึ่ง ซึ่งดูภายนอกเหมือนจะเป้นห้องนอนธรรมดาที่รับรองแขก VIP ในตอนนั้นแม่บ้านสองคนก็กำลังยืนคอยที่หน้าห้องอยู่แล้ว
“ของพร้อมหรือเปล่า??”
“พร้อมแล้วค่ะ” แม่บ้านตอบ
“เออนี่ ลูกชายฉันโทรหาด้วยหรือเปล่า??” ไม้ถาม
“ยังเลยค่ะ”
“อืม ถ้ามีอะไรก็บอกแล้วกัน” โรสตอบ ก่อนที่ไม่นานนัก ไม้และโรสจะเดินเข้ามาด้านในห้อง ซึ่งในห้อง มีอีหนูประมาณ 3 คนกำลังนอนรออยู่บนเตียง
“อู้ว คุณนี่รู้ใจผมจริงๆ” ไม้พูดขึ้น
“หวังว่าจะเป็นแนวที่คุณชอบนะ” โรสพูดขึ้น
“น่ารักจริงๆคุณนี่” ไม้พูดกับโรส ก่อนที่ไม่นานนัก ไม้จะค่อยๆเข้าไปหาสาวๆทั้งสามคนนั้น จากนั้นก็เช็คสภาพของสามสาวในทันที
“อืม ตัวหอมจริงๆ” ไม้พูดขึ้น
“ฉันให้พวกนี้แช่น้ำก่อนหน่ะ ทำความสะอาดอย่างดีเลย” โรสตอบ
“แบบนี้ก็ดีเลยครับ” ไม้พูดขึ้น จากนั้นตัวของเขาก็เข้าไปนัวเนียกับสาวสาวบนเตียงอย่างอย่างเมามันส์ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไรมากนัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น โรสเดินออกไปรับในทันที ซึ่งข้างหน้าก็เป็นแม่บ้านคนหนึ่ง
“คุณหญิงคะ แขกของเรากำลังจะมาแล้วค่ะ”
“อืม รับรองแขกของเราไปก่อน” โรสตอบ
“ค่ะ แล้วอีกอย่าง ตอนนี้คุณโซ่เจอคุณหนูคอปเปอร์แล้วค่ะ”
“อืม บอกโซ่ให้ดูน้องหน่อยแล้วกัน” โรสตอบ จากนั้นเธอก็ปิดประตูห้องอย่างรวดเร็ว ส่วนตัวของโรสเองก็ถอดเสื้อของเธอออกมาด้วย
“ทำกันเลยค่ะ ฉันจะร่วมด้วย” โรสพูดขึ้น
ณ สถานีตำรวจของพัทยา ตัวของโซ่กับลูกน้องของเขามาที่นี่ในฐานะตำรวจกองปราบ มาเพื่อร่วมกับตำรวจในท้องที่กำจัดเครือข่ายยาเสพติดที่เป็นศัตรูกับพ่อของเขา หลังจากที่การประชุมจบลง ตัวของโซ่ก็เดินออกมาที่หน้าสถานีตำรวจ ในขณะเดียวกัน เขาก็เจอกับคอปเปอร์และลูกน้องของเขา
“พี่!!”
โซ่เห็นสภาพคอปเปอร์ในตอนนั้นก็รีบลากเข้ามาในที่ที่ลับตาคน จากนั้นก็รีบคุยกับน้องชายของเขา
“เฮ้ย ไอ้คอปเปอร์ ไปทำห่าอะไรมาวะ??” โซ่ถามไป
“โดนหาเรื่องมาพี่”
“ไม่อยากเชื่อ ใครอยากจะหาเรื่องพวกแกวะ??” โซ่ถามไป
“มีจริงๆพี่ พวกมันเล่นลูกน้องผมซะยับเลยพี่ แค่สองคนด้วย” คอปเปอร์ตอบ
“สองคน แต่พวกมึงมีเป็นสิบ เฮ้อ นึกว่าจะมีแต่ในหนังนะเนี่ย ว่าแต่เห็นหน้ามันหรือเปล่า??” โซ่ถามคอปเปอร์ไป
“เห็นพี่ ดูท่าจะเป็นพวกนักท่องเที่ยวพี่” คอปเปอร์ตอบ
“อย่าบอกนะว่าแกจะให้ฉันปิดเมืองตามล่าไอ้พวกนั้น??” โซ่ถามตรงๆกับน้องเขา
“ใช่พี่ มันกระทืบผมกับพวกซะเละ เราปล่อยไว้ไม่ได้นะพี่!!” คอปเปอร์ตอบ
“ตอนนี้ตำรวจที่ฉันพามาก็มีไม่มาก ส่วนตำรวจที่พัทยาก็งานล้นมือเลย แต่เอาเถอะ ฉันจะลองคุยกับผู้กำกับเขาหน่อยแล้วกัน” โซ่พูดขึ้น
“จริงนะพี่ ลากพวกมันมาให้ผมนะพี่” คอปเปอร์พูดขึ้น
“เออ ถ้าทำได้นะ” โซ่พูดจบก็รีบเดินเข้าไปในสถานีตำรวจในทันที ส่วนตัวของคอปเปอร์เองก็เดินออกมาจากที่ลับตาคน แล้วเดินกลับไปหาลูกน้องของเขาที่กำลังยืนน่วมอยู่แถวนั้น
“เฮ้ย เป็นไงบ้างวะ??” คอปเปอร์ถามลูกน้องของเขา
“ตอนนี้บอกพวกเราให้ขี่รถตามล่าพวกมันแล้วพี่”
“เออ ไอ้สองตัวนั้นหน่ะ ตามหามันให้เจอ” คอปเปอร์ตอบ
“อ้าว แล้วผู้หญิงหล่ะพี่??”
“เออ ไว้จัดการไอ้สองตัวนั้นก่อน เดี๋ยวค่อยตามไปเล่นมันตอนไหนก็ได้ ระวังด้วย ไม่รู้มันจะมีพวกมาเพิ่มด้วยหรือเปล่า” คอปเปอร์ตอบ จากนั้นไม่นานนัก ตัวของผู้กองโซ่ก็เดินออกมาจากโรงพัก
“เฮ้ย พวกมึงไปก่อน เร็ว!!” คอปเปอร์รีบไล่ลูกน้องของเขา ลูกน้องของเขารีบเดินออกไปในทันที จากนั้นคอปเปอร์ก็รีบเดินไปหาพี่ชายของเขา
“เป็นยังไงบ้างพี่??”
“เออ บอกผู้กำกับไว้แล้ว ผู้กำกับจะตามล่ามัน” โซ่ตอบ
“เอามันมาให้ผมก่อนนะพี่” คอปเปอร์ตอบ
“โว้ะ แกนี่มันจริงๆเลย ถ้าพวกมันมีอาวุธขึ้นมาจะทำยังไง และมันอาจจะมีพวกมีก็ได้??” ผู้กองโซ่ถามไป
“พี่ก็เรียกพวกที่กองปราบมาด้วยสิ”
“ตอนนี้ที่กองปราบน่าจะวุ่นกันเลย เมื่อกี้ก็มีสายโทรมาจากกองปราบขอกำลังด้วย เอาเป็นว่าฉันจะดูให้แกเท่าที่จะดูให้ได้แล้วกัน แล้วก็ไม่ต้องไปก่อเรื่องอีกหล่ะ” ผู้กองโซ่พูดขึ้น
“อ่าๆๆๆ แล้วแต่เลยพี่” คอปเปอร์ตอบแบบเซงๆ
กลับมายังโบสถ์ของคาลลาฮาน ในตอนนี้ตัวของเขาก็กำลังนั่งรออะไรบางอย่างอยู่ตรงที่นั่งสำหรับฟังเทศน์ และไม่นานนัก ลูกน้องของเขาก็เดินเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว
“ท่านขอรับ”
“ว่ายังไงหล่ะ??” คาลลาฮานถามบาทหลวงลูกน้องของเขากลับไป
“พวกมันยอมพูดแล้วครับ”
“เหรอ มันว่ายังไงหล่ะ??” คาลลาฮานถามไป
“พวกมันมีค่ายอยู่ละแวกนี้ พวกมันจะเตรียมก่อการในเมืองเพื่อบั่นทอนกำลังของทางการหน่ะครับ”
“อ้อ ไอ้พวกที่เชื่อเรื่องวันสิ้นโลกสินะ พวกมุสลิมนี่มันจริงๆ” คาลลาฮานพูดต่อ
“เราจะเอายังไงต่อหล่ะครับ??”
“เราจะชิงโจมตีพวกมันก่อน” คาลลาฮานตอบ และในขณะเดียวกัน บาทหลวงอีกคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาคาลลาฮาน เพื่อรายงานข่าวกับคาลลาฮาน
“ขออนุญาตครับ”
“ว่าไงอีกหล่ะ??” คาลลาฮานถาม
“ตอนนี้อาวุธของเราถูกส่งมาเสริมแล้วครับ ท่านจะไปดูหรือเปล่าครับ??”
“ไม่ต้องเรา เอาไปแจกจ่ายให้พวกเราก็แล้วกัน” คาลลาฮานตอบ
“ครับ แล้วอีกเรื่อง ตอนนี้กองกำลังของพวกมันเริ่มออกลาดตระเวนหาพรรคพวกของพวกมันที่หายตัวไป เราจะเอายังไงต่อครับ??”
“อีกไม่นานเราก็จะโจมตีพวกมันแล้ว” คาลลาฮานตอบ และในขณะเดียวกัน คนของคาลลาฮานจะรีบวิ่งมาพร้อมกับแท็บเล็ตเครื่องเดิมมาหาเขา
“ท่านครับ ท่านวลาเดียสครับ”
“อืม ส่งมาเลย” คาลลาฮานตอบ
ช่วงเที่ยง ในวันนี้ตัวของแฮปปี้เองก็ไม่ได้มีโชว์ที่ไหน หลังจากที่เธอได้เงินก้อนใหญ่จากเศรษฐีคนหนึ่ง ตัวของแฮปปี้เองรู้สึกเบื่อๆ เธอเลยเดินออกจากห้อง เพื่อที่จะไปเดินเล่นชายหาด ตัวของเธอเดินลงไปที่ล็อบบี้ จากนั้นก็เดินออกไปที่ด้านหลังของโรงแรม ซึ่งทางมันจะเชื่อมต่อกับทางไปชายหาด
“อืม อากาศดีจริงๆ” แฮปปี้นึกในใจ ตัวของเธอเดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงชายหาดจนได้ ตัวของเธอเดินไปเดินมาแถวชายหาดนั้น ท่ามกลางเสียงคลื่นลมทะเลเย็นๆพัดมา
“อยากอยู่แบบนี้นานๆจัง” แฮปปี้พูดขึ้น แต่ในระหว่างที่เธอกำลังเดินเที่ยว
“ปังๆๆๆๆ!!”
เสียงปืนดังขึ้นไม่ห่างจากชายหาดที่เธออยู่เท่าไหร่นัก ในตอนนั้นเธอเห็นเรือหาปลาลำหนึ่งลอยลำเข้ามาที่ชายฝั่ง พร้อมกันนั้น กลุ่มติดอาวุธกลุ่มหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่ถืออาวุธไม่ได้ดีมาก พวกนั้นรีบวิ่งไปที่เรือหาปลาที่จอดรออยู่ในทันที
“เฮ้ย ได้เงินแล้ว รีบติดเครื่องเร็ว!!”
พวกนั้นช่วยกันหอบเงินขึ้นเรือกันอย่างทุลักทุเล บางส่วนก็ยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่คนที่ชายหาด แฮปปี้เห็นเด็กหญิงคนหนึ่งกำลังนอนล้มอยู่บนพื้น มันคนหนึ่งจะเล็งปืนใส่เด็ก แฮปปี้หยิบมีดออกมาแล้วปาใส่มันในทันที
“ฉึก!!” มีดปักเข้าที่ลูกตาของมัน ก่อนที่ตัวของเธอจะค่อยๆหนีออกไป พวกมันพยายามจะตามหาตัวคนทำ แต่ตำรวจก็ตามพวกมันมา พวกมันไม่มีทางเลือกเลยรีบขับเรือออกไป
กลับมายังห้างสรรพสินค้าเดิมที่ตัวของอเล็กซ์มาเพื่อตามล่าเป้าหมาย ในตอนนี้ตำรวจก็มาตรวจสอบพื้นที่ แต่ดูเหมือนว่าจะมากันไม่มาก เนื่องจากว่าตอนนี้เกิดเหตุวุ่นวายไปทั่วกรุงเทพ ในตอนนี้ห้างก็เปิดแล้ว แต่คนไม่ค่อยกล้าเข้ามาเนื่องจากว่ากลัวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อเล็กซ์ยืนมองอยู่ที่ร้านเสื้อผ้าหน้าห้าง ซึ่งตอนนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบพื้นที่
“น่าเบื่อจริงๆ ไอ้พวกนี้” อเล็กซ์พูดขึ้น แต่ในระหว่างที่เขากำลังยืนรอ ตัวของเขาก็เห็นหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งยืนอยู่หน้าห้าง กำลังยืนคุยกับตำรวจ
“เอ๊ะ ใช่หรือเปล่านะ??” อเล็กซ์พูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก เขาจะหยิบรูปถ่ายขึ้นมา และลองเทียบใบหน้า แล้วก็พบว่าใช่จริงๆด้วย
“โอเค” อเล็กซ์ตอบ และไม่นานนัก หญิงวัยกลางคนคนนั้นก็คุยกับตำรวจเสร็จแล้วเดินเข้ามาในห้าง อเล็กซ์เองต้องรีบเก็บรูปเอาไว้ หญิงคนนั้นเห็นหน้าอเล็กซ์ก็ยิ้มให้ในทันที
“เฮ้ พ่อรูปหล่อ มองอะไรเหรอ??”
“อ่า เปล่าครับ” อเล็กซ์ตอบ
“นี่ พ่อหนุ่ม อยากหาเงินใช้มั้ยจ้ะ??” เจ๊คนนั้นถามอเล็กซ์ไป
“เออ ว่าไงนะครับ??” อเล็กซ์ถามไป
“บอกตรงๆนะจ๊ะ เจ๊ถูกใจเธอมากเลย”
“ครับ” อเล็กซ์ตอบกลับ ดูเหมือนว่าตอนนี้เขารู้แล้วว่าจะต้องทำอะไร
“คุณไม่ทำงานเหรอครับ??” อเล็กซ์ถามเธอไป
“อ้อ ห้างนี้เป็นของเจ๊ เจ๊จะทำอะไรก็ได้”
“อ้อครับผม” อเล็กซ์ตอบ
“มากับเจ๊สิ” หญิงคนนั้นบอกกับอเล็กซ์ไป
ณ ชายหาดด้านนอก ซึ่งมีทางเชื่อมต่อกับถนนเส้นหนึ่ง ทั้งสามสาว ริน เอม และทีน เดินเล่นกันแถวนั้นอย่างสบายใจเฉิบ รับลมเย็นๆจากทะเล
“เฮ้อ อากาศดีเหมือนกันนะ” ทีนพูดขึ้น
“นั่นสิ ขนาดคนเยอะนะเนี่ย” เอมพูดต่อ
“ยังไงก็ระวังด้วย พวกเธอคงรู้ข่าวกันแล้ว” รินพูดขึ้น
“นี่ ริน กับพ่อหนุ่มนั่นจะยังไงต่อหล่ะ??” ทีนถามไป
“อะไร ก็คงจะไม่ได้อะไรหรอก” รินตอบ
“เอ้า เขาอยู่โรงแรมเดียวกับเรา จะไม่ทำอะไรหน่อยเหรอ” เอมถามรินไป
“ก็..” รินยังพูดไม่ทันจบ ตอนนั้นพวกเธอทั้งสามคนก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายแถวๆนั้น
“พวกเธอได้ยินอะไรหรือเปล่า??” รินถามไป
“แหม่ เปลี่ยนเรื่องเลยเหรอ??” ทีนถามกลับ
“เออ แต่ฉันได้ยินนะ” เอมพูดสนับสนุนริน จากนั้นตัวของรินก็ค่อยๆพาทั้งสองคนไปยังต้นทางเสียง แต่เมื่อมาถึง พวกเธอทั้งสามก็เจอกับกลุ่มคนกำลังตะลุมบอนกันอย่างดุเดือด ตัวของรินรีบพาทั้งสองคนหลบเข้าข้างทางก่อน เพื่อป้องกันตัวเอง
“คนตีกันเหรอ??” เอมถามขึ้น
“ก็คงงั้น แต่เอ๊ะ คุ้นๆนะ ใช่คนที่เธอปิ๊งอยู่หรือเปล่า??” ทีนสะกิดถามริน ตัวของรินเองก็ลองมองดู ก็พบว่าเป็นตัวของจินจริงๆ ที่กำลังเล่นงานกลุ่มของคอปเปอร์อยู่
“เออ แล้วไอ้พวกนั้นเป็นใครนะ??” รินถามขึ้น ในตอนนั้นเอง เอมก็เจอหน้าของคอปเปอร์เข้า
“เอ๊ะ นั่น นายคอปเปอร์ที่เคยเป็นข่าวหรือเปล่า??” เอมถามและสะกิดทีนไป
“อ้อ ไอ้ลูกเศรษฐีสันดานเสียเหรอ??” ทีนถามกลับ
“มันยังมาพัทยาอีกเหรอเนี่ย??” รินถามขึ้นมา และไม่นานนัก พวกนั้นก็เห็นกลุ่มของคอปเปอร์วิ่งแตกกระจายกันไปคนละทาง จากนั้นกลุ่มของจินและคนอื่นๆก็พากันแยกย้ายออกไปอย่างรวดเร็ว
“ไปกันแล้ว” ทีนพูดขึ้น
“โอเค เราออกไปเถอะ” เอมตอบ จากนั้นตัวของเธอก็พาคนอื่นๆออกไปในทันที
“แล้วนี่ไปไหนกันหมดเนี่ย ฉันชักเป็นห่วงเขาแล้วหล่ะ” รินพูดขึ้น
“แหม่ๆๆๆ ยอมรับแล้วเหรอ??” ทีนแซวกลับไป
“ไม่ เธอก็รู้ มีเรื่องกับลูกผู้มีอิทธิพลมันจะเป็นยังไง” รินพูดต่อ
“จริงด้วย เขาคงต้องหนีออกจากพัทยาหล่ะ” เอมพูดขึ้น
“ไม่รู้สิ เราไปกันต่อดีกว่า” รินพูดขึ้น
“แล้วเธอจะเอายังไงต่อหล่ะ จะเที่ยวพัทยาต่อหรือเปล่า??” เอมถามไป
“ไม่รู้สิ รอดูสถานการณ์ไปก่อนแล้วกัน” รินตอบ
“ว่าไงว่าตามกันเลยจ้า” ทีนพูดขึ้น
“ตอนนี้สถานการณ์ข้างนอกคงวุ่นวายหลายที่ ความจริงฉันอยากไปภูเก็ตด้วยนะ แต่ไม่รู้จะปลอดภัยหรือเปล่า” รินพูดขึ้น
“เออ ภูเก็ตก็ดีนะ” ทีนพูดขึ้น
“แต่ก็นะ ตอนนี้รอดูสถานการณ์ไปก่อนดีกว่า บางที มันอาจจะไม่ปลอดภัยสำหรับพวกเราตอนนี้ก็ได้” เอมพูดต่อ
“อืม งั้นเราไปกันดีกว่า” รินบอกกับทั้งสองคน
กลับมายังร้านอาหาร ในตอนนี้กลุ่มของจินเองก็กำลังรอจินกับซิกส์กลับมา และไม่นานนัก พวกเขาทั้งสองคนก็กลับมาอย่างรวดเร็ว สการ์เล็ตที่กินอะไรเรียบร้อยแล้วเดินไปหาจินในทันที
“เฮ้ จิน กลับมาแล้วเหรอ??”
“ใช่ อ่า สการ์เล็ต แบบว่า” จินพยายามจะพูด แต่เหมือนจะพูดไม่ค่อยออก
“หือ ทำไมหล่ะ เกิดอะไรขึ้น??” สการ์เล็ตถามไป
“ฉันว่าฉันเจอพวกไอ้คอปเปอร์ด้วยหล่ะ” จินตอบ ในตอนนั้นทั้งสการ์เล็ตและคนอื่นๆที่ได้ยินก็ตกใจในทันที
“เฮ้ นายเจอกับมันจริงๆเหรอ??” เคนตะถามจิน
“แล้วพี่แน่ใจเหรอว่าเป็นพวกมัน??” โอ้ถามเสริม
“แน่ใจเหรอ เราเพิ่งฟัดกับพวกมันมาเนี่ย” ซิกส์ตอบ
“หะ นี่พวกพี่ก่อเรื่องอีกแล้วเหรอ??” ชิดจันทร์ถามต่อ
“ก็พวกมันจะลวนลามคนอื่นก่อนหน่ะ” จินตอบ
“แต่ถ้าเป็นมันจริงๆ พวกมันคงตามล่าพวกนายสองคนแน่ๆ” มายด์พูดต่อ
“เอาเถอะ ฉันหาทางเอาตัวรอดเอง” จินพูดขึ้น
“นายจะทำได้ยังไง พวกมันมีอิทธิพลมากเลยนะ??” อิชมาเอลถามกลับ
“ใช่แล้วหล่ะ อย่าเพิ่งวู่วามสิ” ครูหนาพูดเสริม
“แล้วนี่จะเอายังไงต่อหล่ะ??” ลุงบุญช่วยถามไป
“ฉันว่า เรากลับไปที่โรงแรมก่อนดีกว่า” ไอรีนพูดขึ้น
“ใช่แล้วหล่ะ เรากลับกันเถอะ” สการ์เล็ตบอกกับทุกคน ก่อนที่ไม่นานนัก พวกเขาจะพากันออกจากร้านอาหารอย่างรวดเร็ว พวกเขาเดินไปตามถนนเรื่อยๆ เพื่อกลับโรงแรม และในตอนนั้น ตัวของจินก็สังเกตเห็นรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งขับอยู่เลนตรงข้ามพวกเขา มอเตอร์ไซค์คันนั้นทำมือเป็นรูปปืนและเล็งใส่จิน ตอนนั้นจินเองก็ควักเอาปืนลูกโม่เล็งกลับไปบ้าง พวกมันรีบขี่รถหนีออกไปในทันที ตอนนั้นสการ์เล็ตก็หันไปมองจิน
“นี่นาย..”
“ก็เธอบอกเองนี่ ว่าให้ฉันทำอะไรก็ได้” จินบอกกับสการ์เล็ต เธอส่ายหน้าเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเดินกลับไปที่โรงแรม เพื่อหาทางรับมือกับกลุ่มของคอปเปอร์ที่กำลังตามล่าพวกเขา
==================================================================
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป อย่าลืมติดตามชมกันเน้อ
ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ แหะๆ
https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig ซับแนลหนูด้วย
ให้ของขวัญเป็นกำลังใจกันได้ครัช ไหว้หล่ะ
ความคิดเห็น