คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 5 : ข้อมูลลับ
เคนนี่ยิงสกัดมือปืนที่บุกเข้ามาหาพวกเขา ในขณะที่ไปจื่อและซิลเวสเตอร์ก็ช่วยกันหามชายสองคนหนีออกจากตรงนั้น พวกมันยังคงบุกเข้ามาเรื่อยๆ ในขณะที่โรเบิร์ตก็ใส่กระสุนตับใหม่แล้วยิงตอบโต้พวกมัน
“ปังๆๆๆๆๆ!!”
“เข้ามาเลย!!” โรเบิร์ตตะโกนออกมา ก่อนที่เขาจะกราดปืนกลใส่พวกนั้นจนต้องถอย ทางด้านของคามิลล่า เธออาศัยจังหวะที่พวกมันกำลังสับสน บุกทะลวงเข้าไปใจกลางวงของพวกมัน ก่อนที่เธอจะชักดาบออกมาแล้วไล่ฟันพวกมันอย่างดุเดือด
“ระวัง!!”
เวโรนิก้าตะโกนออกมา ตอนนั้นเธอเจอเข้ากับมันคนหนึ่งที่กำลังเล็งปืนใส่คามิลล่า เวโรนิก้าวิ่งเข้าไปเข่าลอยใส่มันจนกระเด็น จากนั้นก็เตะก้านคอมันอีกรอบ
“ตุ๊บ!!”
การปะทะยังคงเป็นไปอย่างชุลมุน ในตอนนั้นเคนนี่ก็สังเกตเห็นว่ามีรถอีก 2 คันกำลังขับมาทางเขา เคนนี่รีบยิงกระสุนเวทย์ลงพื้น
“เคร้ง!!”
กระสุนนั้นตกลงพื้น แปรเปลี่ยนเป็นน้ำแข็งทางยาว เมื่อรถพวกนั้นขับมา รถก็เสียหลักและคว่ำลงข้างทาง
“โคร้ม!!”
“บ้าเอ้ย เรารีบไปกันดีกว่า!!” คามิลล่าตะโกนออกมา
“ด้วยความยินดีครับ” วอลพูดขึ้น ก่อนที่เขาจะเสกกระจกบานใหญ่วางไว้แถวนั้น ก่อนที่จะพาทุกคนหนีออกมาจากพื้นที่ ก่อนที่ตำรวจจะมา ทางด้านไปจื่อและซิลเวสเตอร์ เมื่อรู้ว่าปลอดภัยแล้ว เขาก็วางชายสองคนลงบริเวณที่นั่งในซอยเล็กๆซอยหนึ่ง
“พวกเจ้าเป็นอะไรหรือไม่??” ไปจื่อถามอย่างสงสัย
“ผมไม่เป็นไร ขอบคุณพวกคุณมาก”
“แล้วพวกคุณไปไงมาไง ถึงได้โดนตามล่าแบบนี้หล่ะ??” ซิลเวสเตอร์ถามต่อ
“แล้วใครที่อยากรู้หล่ะจ้ะ??” ชายอีกคนพูดขึ้น แต่ดูเหมือนว่าไปจื่อกับซิลเวสเตอร์จะนิ่งไป ราวกับว่าเขาโดนมนต์สะกดให้รับฟังคำพูดพวกนั้น ก่อนที่เคนนี่และคนอื่นๆจะตามมาสมทบ และทั้งคู่ก็ได้สติกลับมา
“เฮ้ย พวกนาย เป็นยังไงบ้าง??” เคนนี่ถามพวกเขาทั้งคู่
“ข้าไม่เป็นไร ถามสองคนนี้เถิด” ไปจื่อตอบกลับ
“เออ ว่าแต่ พวกคุณสองคนเป็นใครกันเนี่ย??” เวโรนิก้าถามพวกเขาทั้งคู่
“ผมชื่อมอล นี่แฟนผม โสน” มอลพูดขึ้น
“อ้อ พวกคุณสองคนเป็น งั้นเหรอ??” ซิลเวสเตอร์ถามไป
“นี่ แล้วมันทำไมเหรอจ๊ะ แต่ ขอบใจพวกนายมากนะที่ช่วย” โสนตอบไป
“เออ ฉันว่านะ เราไปจากที่นี่ก่อนดีกว่า ตำรวจกำลังจะมาแล้วด้วย” คามิลล่าพูดขึ้น
“พวกนายเดินไหวหรือเปล่า??” โรเบิร์ตถามมอลกับโสน ก่อนที่พวกเขาทั้งคู่จะช่วยกันลุกขึ้นและลากสังขารออกไปจากพื้นที่ตรงนั้นก่อน
“พาเราไปที่อพาร์ทเม้นท์ Sosa ได้หรือเปล่าครับ??” มอลถามกลุ่มของเคนนี่
“พวกคุณจะไปที่นั่นทำไมเหรอครับ??” วอลถามอย่างสงสัย
“พวกเรามีธุระนิดหน่อยหน่ะ เอาเป็นว่าช่วยเราหน่อยนะจ๊ะ” โสนตอบ แต่ดูเหมือนว่าไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมาเลย พวกเขาได้แต่เดินกันต่อไป
“เวโรนิก้า แล้วรถเราหล่ะ??” เคนนี่ถามเธอไป
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวค่อยกลับไปเอา อีกอย่างอพาร์ทเมนท์ที่ว่าก็อยู่แถวนี้ด้วย” เวโรนิก้าตอบ
“โอเค ว่าแต่ พวกคุณเป็นคนไทยเหรอ ผมคุ้นๆชื่อ??” เคนนี่ถามพวกเขาทั้งคู่
“อ้าว เธอก็คนไทยเหรอจ๊ะ??” โสนถามไป
“ใช่ ลูกครึ่งหน่ะ ว่าแต่ พอจะบอกผมได้หรือเปล่า พวกคุณไปทำอะไรถึงโดนตามล่าหล่ะ??” เคนนี่ถามต่อ
“คือว่า เรื่องมันซับซ้อนหน่ะ แต่เอาเป็นว่า ไอ้พวกนั้นมันไม่ใช่คนดีหรอก” มอลตอบ
“หรือไม่ พวกมันก็ต้องพยายามตามล่าเอาอะไรบางอย่างจากพวกคุณ” ซิลเวสเตอร์พูดขึ้น
“อืม ฉลาดนี่เรา มีแฟนยังอ่ะ??” โสนถามกลับไป
“แต่จะว่าไป พวกนั้นมันก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน” ไปจื่อพูดขึ้น
“ใช่ อาวุธพวกมันอย่างบิ๊ก เผลอๆอาจจะไม่เป็นข่าวด้วย” โรเบิร์ตพูดเสริม
“ก็อาจจะเป็นแก๊งที่ทำงานให้ทางการด้วยหน่ะ” คามิลล่าตอบ
“ว่าแต่พวกนายหล่ะ พวกนายต้องไม่ใช่พวกธรรมดาๆแน่ๆ ผู้ใช้เวทย์สินะ??” มอลถามไป
“ดูเหมือนว่าคุณจะตาแหลมดีนะ” วอลตอบกลับ
“พวกเราก็กำลังหนีการตามล่าของพวกมันเหมือนกัน เรากับสามีเองก็ต้องอยู่บ้านช่วงนี้ แต่ว่าคุณสาของฉัน มีงานสำคัญ เลยต้องมาส่งเองหน่ะ” โสนพูดร่ายยาว ทำเอาคนอื่นๆเกือบจะเบื่อแล้ว
“เอาเถอะครับ พวกเราเองก็มีงานต้องทำ ไหนจะเรื่องไอ้จ่าเอ็มเมอร์อีก” เคนนี่พูดขึ้น และในตอนนั้น มอลเองก็แปลกใจ เลยถามเคนนี่กลับไป
“นายพูดว่าจ่าเอ็มเมอร์งั้นเหรอ??” มอลถามอย่างสงสัย
“ใช่ ทำไมกันหล่ะ พวกคุณก็รู้จักมันเหรอ??” ซิลเวสเตอร์ถามต่อ
“เพื่อนฉันที่เป็นนักข่าวก็กำลังตามข่าวเกี่ยวกับคอรัปชั่นของมัน ได้ยินว่าตอนนี้กำลังนอนพะงาบอยู่โรงพยาบาลหน่ะ” มอลตอบไป
“แน่นอน ฝีมือพวกเราเองหล่ะ” ไปจื่อพูดขึ้น
“โห ไม่เชื่อหรอก” โสนตอบ ก่อนที่ไม่นานนัก พวกเขาจะเดินมาถึงอพาร์ทเมนท์ Sosa เป้าหมาย ที่ตอนนี้ดูเหมือนว่ากำลังจะปิดไม่ให้ใครเข้ามาแล้ว
“โอเค ตามมา” มอลพูดขึ้น ก่อนที่เขาจะพากลุ่มของเคนนี่เดินเข้าไปในอพาร์ทเมนท์ และไม่นาน พวกเขาก็เจอกับพนักงานต้อนรับ
“กำลังจะปิดแล้วคร้าบ” พนักงานพูดขึ้น
“ฉันเอง โทนี่อยู่หรือเปล่า??” มอลถามไป
“อ้อ กำลังรออยู่เลยครับ แต่คนอื่นรอข้างนอกดีกว่าครับ” พนักงานของอพาร์ทเมนท์พูดขึ้น
“เดี๋ยว ฉันขอเข้าไปด้วยคนสิ” โสนบอกกับพนักงาน พนักงานพยักหน้า ก่อนที่พวกเขาทั้งคู่จะพากันเดินเข้าไปด้านในทันที
“เฮ้ พวกนายว่าสองคนนั้นเป็นใครกัน??” โรเบิร์ตถามไป
“ไม่ต้องรู้หรอก เอาเป็นว่าคงไม่ได้มาร้ายแล้วกัน” คามิลล่าตอบ
“นี่ วอล ตอนนี้เหตุการณ์ตรงจุดเกิดเหตุเป็นยังไงบ้าง??” เวโรนิก้าถามเขา ก่อนที่วอลจะใช้พลังคอยสอดส่องไปยังบริเวณกระจกที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ
“ตอนนี้พวกตำรวจกำลังเข้ามาเคลียร์พื้นที่ แต่ดูเหมือนว่าพวกมันจะหายไป รถของพวกมันก็ไม่อยู่แล้ว” วอลตอบ
“เร็วจัง สงสัยพวกตำรวจจะมีเอี่ยวแน่ๆ” เวโรนิก้าพูดขึ้น
“เป็นไปได้ ความจริง ฉันเองก็คุ้นๆหน้าไอ้พวกนั้น ถึงได้ลงมือยังไงหล่ะ” เคนนี่บอกกับทุกคนไป
“กะแล้วเชียว เจ้าไม่ลงมือแน่หากไม่มีเหตุผล” ไปจื่อพูดขึ้น
“แปลว่า ไอ้พวกนั้นน่าจะทำงานให้พวกตำรวจระยำพวกนั้น” ซิลเวสเตอร์พูดขึ้น
“ถ้าเป็นอย่างงั้นจริงๆ ฉันว่าสองคนนั้นคงตกอยู่ในอันตรายแล้วหล่ะ” คามิลล่าพูดขึ้น
“ไม่บอกก็รู้ แต่เอาเถอะ ว่าแต่ พวกนายจะเอายังไงต่อเรื่องไอ้ผู้กองโทเค็นหล่ะ??” โรเบิร์ตถามไป
“ผมรู้ว่าไอ้นี่มันชอบไปที่ไหน ไม่ต้องห่วง” เคนนี่ตอบไป
“ผมว่าตอนนี้ เขาคงเตรียมพร้อมตัวเองแล้วหล่ะครับ” วอลพูดต่อ
“หมอนั่นชอบไปที่ที่หนึ่ง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหน่ะ” เคนนี่ตอบไป
“ความจริง เราน่าจะไปฆ่าไอ้จ่าเอ็มเมอร์ก่อนดีกว่า” เวโรนิก้าพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก มอลกับโสนก็จะเดินออกมาอย่างรวดเร็ว
“เสร็จแล้วเหรอครับ??” พนักงานถามไป
“ใช่แล้วหล่ะ แล้วนี่ พวกเขากลับไปยัง??” โสนถามพนักงานไป
“ยังอยู่กันหน่ะครับ”
“อืม ถ้างั้น..” มอลยังพูดไม่ทันจบ ในตอนนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงไซเรนรถตำรวจกำลังขับเข้ามา
“ตำรวจเหรอ แย่หล่ะ??” มอลพูดขึ้น
“พวกคุณ เข้ามานี่ก่อนครับ เร็ว!!” พนักงานอพาร์ทเมนท์ตะโกนบอกกลุ่มของเคนนี่ ก่อนที่กลุ่มของเคนนี่จะรีบตามพนักงานไป พวกเขารีบหนีเข้าไปที่ชั้นใต้ดิน ซึ่งเป็นห้องเก็บของ พนักงานพาทุกคนเข้าไปหลบอย่างรวดเร็ว
“รออยู่นี่ก่อนนะครับ” พนักงานพูดขึ้น ก่อนที่พนักงานจะปิดประตู และออกไปรับหน้าตำรวจ ซึ่งตอนนี้รถมอเตอร์ไซค์ตำรวจคันหนึ่งก็เดินเข้ามาหาพนักงานอพาร์ทเมนท์
“ที่นี่จะปิดแล้วครับ มีอะไรหรือเปล่าครับคุณตำรวจ??”
“มีใครต้องสงสัยผ่านมาที่นี่หรือเปล่า??” ตำรวจถามไป
“ไม่นะครับ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ ผมจะได้เตือนคนในอพาร์ทเมนท์??” พนักงานถามกลับไป
“ไม่มีอะไรหรอก มีคนยิงกัน แล้วไอ้พวกที่ยิงคนตายหนีไปได้หน่ะ” ตำรวจคนนั้นตอบ
“อ้อครับ ถ้าผมได้เบาะแสผมจะรีบโทรบอกเลยครับ” พนักงานพูดขึ้น ก่อนที่ตำรวจคนนั้นจะรีบเดินออกไปในทันที พนักงานชะเง้อหน้าดูตรงนั้นทีตรงนี้ที เพื่อดูว่าตำรวจไปหรือยัง และไม่นานนัก พนักงานก็เดินกลับไปที่ห้องใต้ดินที่พวกของเคนนี่อยู่ จากนั้นก็เปิดประตู
“พวกตำรวจไปแล้วครับ”
“อืม ขอบใจมากนะ” เคนนี่ตอบ ก่อนที่พวกเขาจะเดินออกมาจากห้องใต้ดินนั้น
“นี่ ฉันขอบใจพวกนายมากเลยนะที่ช่วย” มอลพูดกับพวกของเคนนี่
“ไม่เป็นไรครับ มันไม่หนักหนาอะไรอยู่แล้ว” เคนนี่ตอบไป
“ว่าแต่ พวกเธอจะเอายังไงกันต่อหล่ะ??” โสนถามอย่างสงสัย
“พวกเราจะจัดการเรื่องนี้ต่อเองครับ” เคนนี่ตอบ
“อืม เอางี้ ถ้ามีอะไร พวกนายก็ติดต่อฉันมาแล้วกัน” มอลพูดขึ้น ก่อนที่เขาจะยื่นนามบัตรของเขาให้กับเคนนี่ไปด้วย เคนนี่เองก็รีบรับมา
“ผมว่า พวกคุณช่วงนี้ก็เก็บตัวหน่อย อย่าเพิ่งออกไปไหน ผมว่าพวกมันไม่จบกับพวกคุณแค่นี้แน่ๆครับ” เคนนี่บอกกับมอลและโสน
“ไม่ต้องห่วง ผมมีแผนแล้วหล่ะ” มอลพูดขึ้น ก่อนที่ตัวของเขาจะโทรศัพท์หาใครบางคนไปด้วย
“แล้วเราจะไปเอารถเรามายังไงหล่ะ??” เวโรนิก้าถามไป ก่อนที่ไม่นานนัก ไปจื่อจะหยิบเอากระดาษแผ่นหนึ่งออกมา ก่อนที่เขาจะพับมันเป็นรูปทรงมนุษย์ แล้วก็ใช้เวทย์มนต์กับกระดาษนั้น
“พรึ่บ!!”
กระดาษที่ไปจื่อพับกลายเป็นมนุษย์ แต่ดูสภาพไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่นัก
“ไปเอารถมา” ไปจื่อบอกกับมนุษย์กระดาษตัวนั้น เวโรนิก้าก็หยิบเอากุญแจรถให้กับมนุษย์กระดาษตัวนั้น
“เออ จะได้ผลเหรอ??” โสนถามอย่างแปลกใจ ก่อนที่มนุษย์กระดาษตัวนั้นจะรีบวิ่งออกไปในทันที
“โอเค ที่เหลือก็แค่รอ” ซิลเวสเตอร์พูดขึ้น
“แล้วพวกคุณเรียกรถมารับเหรอ??” คามิล่าถามอย่างแปลกใจ
“ใช่แล้วหล่ะ เดี๋ยวก็คงมาแล้ว” มอลตอบ
“นี่ ถ้าอยากกลับด้วยกันก็บอกนะ” โสนพูดขึ้น
“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากเลยครับ” วอลตอบด้วยความสุภาพ
“แล้วนี่เจ้ากระดาษนั่นเมื่อไหร่จะมานะ??” โรเบิร์ตถามไป
“ใจเย็น ยังไม่กี่นาทีเอง” เวโรนิก้าตอบ ก่อนที่ไม่นานนัก รถของเวโรนิก้าก็ขับมาจอดที่หน้าอพาร์ทเมนท์ที่พวกเขาอยู่ ทำเอามอลกับโสนแปลกใจมาก
“โอเค รถเรามาแล้ว” เคนนี่พูดขึ้น ก่อนที่มนุษย์กระดาษของไปจื่อจะกลับกลายไปเป็นกระดาษเหมือนเดิม
“โอเค รถของผมมาแล้ว เดี๋ยวพวกผมขอตัวนะครับ” เคนนี่บอกกับมอล ก่อนที่พวกเขาจะรีบพากันขึ้นรถ และออกเดินทางกลับบ้านของพวกเขาในทันที และในเวลาไล่เลี่ยกัน รถยนต์คันหนึ่งก็ขับมาจอดที่หน้าอพาร์ทเมนท์ด้วย
“หัวหน้าครับ!!”
มอลได้ยินดังนั้นก็รีบพาโสนขึ้นรถในทันที ก่อนที่ลูกน้องของมอลจะขับรถออกไปพื้นที่ตรงนั้นไป
“แล้วรถหัวหน้าหล่ะครับ??”
“พังแล้ว ช่างมันเถอะ เดี๋ยวหาใหม่” มอลตอบไป ในขณะที่รถก็ขับไปเรื่อยๆ
ทางด้านกลุ่มของเคนนี่ เวโรนิก้าพยายามใช้เส้นทางรองเพื่อเลี่ยงการตรวจเจอของพวกตำรวจ เพราะตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกตำรวจลาดตระเวนจะอยู่กันเต็มพื้นที่
“บ้าเอ้ย ตรวจกันให้เพียบเลย” ซิลเวสเตอร์พูดขึ้น
“แต่ยังดีที่พวกมันมิรู้ว่านี่คือรถของเรา” ไปจื่อพูดต่อ
“แต่ฉันก็ยังกังวลอยู่ดี” คามิลล่าพูดขึ้น ในขณะเดียวกัน เคนนี่ก็มองนามบัตรที่มอลให้เขามา
“เป็นยังไงบ้างหล่ะ??” เวโรนิก้าถามเคนนี่ไป
“เออ ดูเหมือนว่าคนทื่ชื่อโสน เป็นประธานบริษัท Echo Planet ด้วย” เคนนี่บอกกับทุกคน
“โห บริษัทใหญ่อยู่นะเฮ้ย” โรเบิร์ตพูดขึ้น
“แปลว่า เรากำลังเป็นเพื่อนกับนักธุรกิจเหรอครับ??” วอลถามไป
“เอาเถอะ อย่างน้อยก็ติดต่อไปหาพวกเขาได้นะ” เคนนี่พูดต่อ
“บ้าเอ้ย ลาดตระเวนกันเข้มจริงๆ ดูเหมือนว่าไอ้พวกที่เราเพิ่งปะทะไป มันน่าจะเก๋าน่าดู” เวโรนิก้าพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง โรเบิร์ตก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จากนั้นเขาก็พูดขึ้น
“จะว่าไป ฉันสังเกตว่าคนนึงมีรอยสักของพวก Viper นะ” โรเบิร์ตพูดขึ้น
“พวกไวเปอร์เหรอครับ??” วอลถามอย่างสงสัย
“ไอ้แก๊งระยำนี่มันมีเอี่ยวกับงานทุจริตทุกอย่างในอเมริกา ดูเหมือนว่าพวกมันกำลังทำงานให้รัฐบาลด้วย” ซิลเวสเตอร์พูดเสริม
“แต่พวกไวเปอร์มันองค์กรอาชญากรรมนี่??” คามิลล่าถามไป
“บางครา พวกเทพก็ยืมมือปีศาจทำงานสกปรกให้” ไปจื่อตอบพลางพัดตัวเองไปด้วย
“ถ้าเป็นพวกมันจริงๆ พวกเราอาจจะลำบาก ขอให้พวกมันยังไม่รู้ว่าพวกเราเป็นใคร” เคนนี่ตอบ ก่อนที่ไม่นานนัก จู่ๆ จะมีรถตำรวจคันหนึ่งจะขับมาจอดขวางทางพวกเขาที่หน้าปากซอยแห่งหนึ่ง
“ทุกคน อยู่เฉยๆ ทำตัวปกติ” เคนนี่พูดขึ้น ก่อนที่ตัวของเขาจะนั่งอยู่นิ่งๆ และไม่นานนัก ตำรวจคนหนึ่งก็เดินมาที่รถของเคนนี่ ก่อนที่ตำรวจคนนั้นจะเปิดไฟฉาย
“ขออนุญาตตรวจ..” ตำรวจยังพูดไม่ทันจบ เมื่อเขาเจอหน้าเคนนี่ เขาก็ทักทายกับเคนนี่
“เฮ้ย ว่าไงเด็กใหม่??”
“จ่าสมิทธิ์เหรอ??” เคนนี่ถามไป
“มาทำอะไรแถวนี้วะ??” จ่าคนนั้นถามไป
“ผมพาเพื่อนมาเที่ยวนิดหน่อยหน่ะ” เคนนี่ตอบไป
“อ้อๆๆ แล้วช่วงนี้ทำอะไรอยู่หล่ะ ได้ยินข่าวไอ้จ่าเอ็มเมอร์หรือยัง??” ตำรวจคนนั้นถามเคนนี่
“อ่า ผมก็ได้ข่าวอยู่ครับ ไม่รู้ว่าแกเป็นไงบ้าง” เคนนี่ตอบ
“ขอให้มันตายเร็วๆ ตอนนี้มันยังไม่ฟื้นเลย”
“เฮ้อ เออจ่า เดี๋ยวผมต้องรีบไปแล้ว” เคนนี่พูดขึ้น
“อ่าๆๆ โอเคๆๆ โชคดี” สมิทธ์พูดขึ้น ก่อนที่เขาจะปล่อยให้รถของเวโรนิก้าให้ออกจากซอยไปได้
“เออ ไอ้นี่มันตำรวจดีหรือเปล่า??” เวโรนิก้าถามอย่างสงสัย
“ก็ไม่เลวเท่ากับไอ้จ่าเอ็มเมอร์แน่นอนครับ” เคนนี่ตอบ
“โอเค แล้วนี่ นายจะเอายังไงต่อหล่ะ เรื่องไอ้ผู้กองโทเค็นหล่ะ??” เวโรนิก้าถามต่อ
“มันมีอีหนูอยู่ที่อพาร์ทเมนท์ลับหน่ะ เคยได้ยินว่าอีหนูมันติดยาด้วย” เคนนี่พูดขึ้น ก่อนที่เวโรนิก้าจะขับรถต่อไปเรื่อยๆ เพื่อกลับไปที่ค่ายมวยของเธอ
ณ ตึกสำนักงานแห่งหนึ่งในเขตแคลิฟอร์เนีย ที่ตั้งของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นบริษัทข้ามชาติ แต่ด้านในสำนักงาน ก็มีกองกำลังติดอาวุธกลุ่มหนึ่งอยู่ด้านใน
“ตู้ม!!”
จู่ๆ ประตูของบริษัทก็เปิดออก ไม่นานนัก กลุ่มกองกำลังชุดขาวก็บุกเข้าไป และชักปืนออกมายิงคนที่อยู่ด้านใน
“ปังๆๆๆ!!”
“ชิบหาย มีคนบุกรุก รีบบอกหัวหน้าเร็ว!!” พวกมันตะโกนออกมา ในขณะที่กลุ่มชุดขาวก็บุกเข้ามาจัดการคนที่อยู่ในสำนักงานเรื่อยๆ
“จีโอ แยกไปขวา!!” ชายคนหนึ่งตะโกนบอกกับเธอ ในขณะที่ตัวของเธอกำลังถือธนูและไล่ยิงพวกมันที่กำลังยิงต่อสู้
“ฉึก!!”
“ระวังด้วย กระสุนทองแดง!!” จีโอตะโกนออกมา ก่อนที่เธอจะชักกริตของเธออกมา แล้วไล่ฟาดฟันพวกมัน
“ฉึก!!”
“ระยำเอ้ย!!” มันคนหนึ่งจะเล็งปืนใส่จีโอ แต่จีโอหยิบมีดสั้นออกมาและชุบเปลวไฟและปาเข้าใส่หน้ามัน
“ฉึก!!”
“พวกเรา รีบเร็ว เดี๋ยวกำลังเสริมพวกมันตามมา!!” จีโอตะโกนออกมา โดยที่ในตอนนี้ พวกที่เฝ้าสำนักงานพากันหนีออกไปหมดแล้ว
“เผาตึกนะซะ!!” ชายชุดขาวคนหนึ่งตะโกนขึ้น
“จีโอ เผามันให้ราบเลย” ชายชุดขาวอีกคนบอกกับจีโอ และไม่นานนัก เธอก็เสกเปลวไฟออกจากมือ เปลวไฟพุ่งเข้าใส่ห้องเอกสารที่มีเอกสารมากมายตั้งอยู่
“พรึ่บ!!”
“เยี่ยม แบบนี้สิ!!” ชายชุดขาวคนหนึ่งพูดออกมา
“มันจะได้ผลเหรอ??” จีโอถามอย่างสงสัย
“แน่นอน ที่นี่เป็นสำนักงานของไอ้โครวี่ มันต้องดิ้นเป็นเจ้าเข้าแน่ๆ” ชายชุดขาวอีกคนตอบ ก่อนที่ไม่นานนัก เสียงไซเรนรถตำรวจจะดังเข้ามาทางพวกเขา
“แย่หล่ะ รีบไปเร็ว” จีโอบอกกับทุกคน
กลับมายังรังของกลุ่มโกเทย์ ในตอนนี้กลุ่มโกเทย์เองก็กำลังวางแผนการใหม่ เพื่อเตรียมตามล่ากองกำลังเทพปีศาจ ที่ตอนนี้กำลังตามไล่ล่าสภาจอมเวทย์ อาคุมะประชุมกับสมาชิกคนอื่นๆ ในห้องประชุมของพวกเขา
“โอเค ตอนนี้มีข่าวจากสายข่าวของเราบ้างหรือเปล่า??” อาคุมะถามคนในกลุ่ม
“ตอนนี้เท่าที่เรามีข้อมูล พวกมันเองก็กำลังรวมตัวกันเพื่อทำงานนี้ครับ” วาซิริสต์ตอบ
“แปลว่า ถ้าพวกมันรวมตัวกัน เราน่าจะรับมือพวกมันได้ลำบาก” อาคุมะพูดขึ้น
“แต่ฉันไม่เชื่อหรอก ว่าพวกมันจะอยู่ด้วยกันได้ตลอด” วาจจิน่าพูดขึ้น
“นั่นสิ เราน่าจะหลอกล่อให้พวกมันออกมาก็ได้อยู่” โซเร็นพูดเสริม
“ดูท่าจะยาก พวกมันก็คงคิดแบบนี้เหมือนกัน” เรียวเฮพูดอย่างเรียบๆ
“ถ้างั้นเราก็ตัดกำลังพวกมันก่อนสิ” เลโอนาร์ดพูดขึ้นมา
“ไอ้พวกนั้นมันเกณฑ์มาใหม่ได้เรื่อยๆ ตราบใดที่เรายังไม่จัดการที่หัวมัน” หู่ลงพูดขัดขึ้นมา
“งั้นเราก็คงไม่มีทางเลือก ต้องลุยแหลกกับพวกมัน” อาคุมะพูดขึ้น
“ฆ่าตัวตายชัดๆ” เรียวเฮพูดต่อ
“มันต้องมีทางให้เราซักทางสิ” วาซิริสต์พูดขึ้นมา
“นายยังคิดไม่ออกแล้วพวกเราจะไปคิดออกได้ไงหล่ะ??” วาจจิน่าถามกลับไป
“คงต้องดูว่าแผนของมันคืออะไรต่อไป” หู่ลงพูดขึ้น
“จริงด้วย ถ้าเรารู้แผนของมัน เราน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวของพวกมันด้วย” เลโอนาร์ดพูดเสริม
“แต่พูดอย่างกับว่ามันจะง่ายหล่ะ” โซเร็นพูดขึ้น
“ไม่ยากหรอก คงต้องให้สายข่าวเราทำงานให้หนักกว่านี้หน่อย ตอนนี้ฉันกำลังคิดอยู่ ว่าจะเล่นงานใครก่อนดี??” อาคุมะพูดขึ้น
“ฉันว่า เราน่าจะจัดการบาร์บาทอส เทพปีศาจธาตุลมก่อนดีกว่า” หู่ลงพูดขึ้น
“เออ อันนี้ฉันเห็นด้วยนะ” วาซิริสต์พูดเสริม
“แต่ว่า เราจะจับยัยนั่นมาได้ยังไงกันหล่ะ??” วาจจิน่าถามไป
“ให้ฉันไปจับมามั้ยหล่ะ??” โซเร็นถามไป
“ฉันว่านายนั่นหล่ะจะโดนนางจับ” เลโอนาร์ดพูดปรามเขา
“เสียดาย ถ้ามาเรียน่ายังอยู่ เราน่าจะจับนางได้ก่อน” เรียวเฮพูดขึ้น
“มาเรียน่า เทพปีศาจธาตุน้ำงั้นเหรอ??” อาคุมะถามไป
“ใช่ นางเป็นคนเดียวที่ไม่โดนจับผนึก แต่นางก็อยู่ในดินแดนเวทย์มนต์ไม่ได้อีก” เรียวเฮอธิบายต่อ
“หรือว่ายัยนั่นกำลังวางแผนอะไรอยู่??” วาจจิน่าถามอย่างสงสัย
“ไม่หรอก ฉันได้ยินว่าเธอเองเกลียดการฆ่าฟัน อยากใช้ชีวิตสงบๆหน่ะ” หู่ลงตอบ
“แต่ว่า ถ้าเราไม่ตัดไฟแต่ต้นลม ยัยนั่นอาจจะกลับมาเป้นปัญหาของเราก็ได้นะครับ” โซเร็นพูดขึ้น
“เฮ้ย คิดมากไปหรือเปล่าพวก??” วาซิริสต์ถามกลับไป
“ตอนนี้เรื่องยังไม่เกิด อย่าเพิ่งคิดไปไกลเลย” เลโอนาร์ดบอกไป
“โอเค งั้นเอาเป็นว่าเราจะจัดการยัยบาร์บาทอสก่อน” อาคุมะพูดขึ้น
“ยัยนั่นเป็นธาตุลม เราจะจัดการยังไงหล่ะ??” เรียวเฮถามไป
“ธาตุลมแพ้อะไรหล่ะ??” อาคุมะถามกลับไป และในตอนนั้นเอง นกพิราบตัวหนึ่งก็บินมาอยู่ตรงหน้ากลุ่มของอาคุมะ มันคือนกพิราบที่กลุ่มผ้าคลุมขาวใช้ในการติดต่อสื่อสารกัน
“ทางสภาจอมเวทย์อยากจะจบพวกคุณ!!” นกพิราบตัวนั้นพูดขึ้นมา
“เออ ว่าไงว่าตามกันเลย” อาคุมะตอบไป
กลับมายังฐานของกองกำลัง Magic Hunt หลังจากที่โยมิประชุมกับเหล่ากองกำลังผ้าคลุมขาวเรียบร้อยแล้ว ตัวของเธอก็รีบกลับมาคุยกับคนอื่นๆในทันที เพื่อนัดแนะงานกับพวกเขา
“เฮ้ ทุกคน”
“คุณโยมิ ประชุมเป็นยังไงบ้างคะ??” ไอจังถามเธอไป
“อืม ทางเอ็นวาอยากจะให้พวกเรา ช่วยไปคุ้มกันผู้เฒ่าสภาจอมเวทย์คนอื่นๆหน่อยหน่ะ” โยมิพูดขึ้น
“ห่ะ จะให้พวกเราไปคุ้มกัน งานน่าเบื่อแบบนั้นเนี่ยนะครับ??” เอเตียนถามไป
“พึมพี้ บีบๆ” อันจิสบถถออกมา
“ใช่ พวกนั้นเชื่อว่า พวกมันจะเล่นงานผู้เฒ่าคนอื่นๆต่อหน่ะ” โยมิตอบไป
“ว่าแต่คืนนี้หล่ะคะ เราอุตส่าห์เจอที่อยู่ของพวกมันแล้วแท้??” ไอจังถามไป
“ใช่ครับ ไอจังพูดถูก เราจะปล่อยพวกมันไปง่ายๆขนาดนั้นเหรอครับ??” เอเตียนพูดเสริม
“คืนนี้เราก็ไปเหมือนเดิม อีกอย่างเรายังไม่รู้ว่าผู้เฒ่าคนไหนที่จะเป็นรายต่อไป” โยมิพูดต่อ
“บลาๆๆๆ” อันจิพูดต่อ
“พวกนายไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเราคงจะได้รู้กัน คืนนี้เตรียมตัวให้พร้อม เราอาจจะต้องรบกับพวกมนุษย์หมาป่าก็ได้” โยมิพูดขึ้นมา
“พวกมนาย์หมาป่า จัดการด้วยกระสุนเงินสินะคะ??” ไอจังถามไป
“ก็คงงั้น ฉันเตรียมกระสุนเงินแล้วหล่ะ ว่าแต่เอ็งเถอะ ดาบเอ็งจะใช้ได้ผลหรือเปล่า??” เอเตียนหันไปถามอันจิ ไม่นานนัก อันจิก็หยิบเอาดาบอีกเล่มหนึ่งออกมา
“ฉันเตรียมไว้แล้ว” อันจิตอบ
“อืม โอเค ตอนนี้เราพวกเราพร้อมหรือยัง??” โยมิถามไป
“เดี๋ยวฉันจะไปเรียกโทนี่มาค่ะ” ไอจังพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานเธอจะเดินออกไป ไม่นานนัก ไอจังก็กลับมาพร้อมกับชายคนหนึ่งซึ่งถือปืนกล M4 ในมือ
“ท่านโยมิครับ!!”
“ตอนนี้กองกำลังของเราเตรียมพร้อมหรือยัง??” โยมิถามไป
“ครับ เราเตรียมพวกเราไว้ 3 หน่วยเข้าจู่โจม อีก 2 ปิดล้อมพื้นที่ครับ” โทนี่ตอบ
“อืม งานนี้ขอให้เงียบที่สุด อย่าให้พวกมันรู้ตัว” โยมิบอกไป
“รับทราบครับ”
“อืม ไปเตรียมพร้อมได้” โยมิพูดขึ้น ก่อนที่โทนี่จะเดินออกไปในทันที
“เออ ว่าแต่ เรื่องหนอนบ่อนไส้นี่จะยังไงต่อครับ??” เอเตียนถามไป
“บลาบี้ๆ” อันจิพูดต่อ
“ตอนนี้ฉันกำลังให้คนสืบอยู่ ว่าแต่พวกนายหล่ะ สืบไปได้ถึงไหนแล้วหล่ะ??” โยมิถามไป
“ตอนนี้ฉันให้เพื่อนของฉันสืบอยู่ แต่คนที่น่าสงสัยที่สุดก็คือ..” ไอจังยังไม่ทันพูดจบ
“ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันพอรู้แล้วหล่ะ” โยมิพูดขึ้น
“แล้วทำไมถึงไม่จัดการมันตอนี้เลยหล่ะครับ??” เอเตียนถามไป
“ฉันอยากได้หลักฐานที่มันคาตาหน่ะ” โยมิตอบกลับ
“จ้าจีๆๆๆ” อันจิพูดขึ้น
“เฮ้ยพวก บางทีนายก็ควรอยู่เงียบๆนะ” เอเตียนพูดขึ้น
“ฉันเงียบไม่เป็นหรอก” อันจิตอบกลับ
“เอาเถอะค่ะ ตอนนี้เราต้องเตรียมความพร้อมกับงานคืนนี้แล้วหล่ะ” โยมิพูดขึ้น
“พร้อมอยู่แล้วครับ ก็หวังว่าแผนของเราจะได้ผลนะครับ” เอเตียนพูดขึ้น
“เพพีๆๆ” อันจิพูดขึ้น
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ คุณโยมิเตรียมแผนนี้มานานแล้ว รับรองว่าจับหนอนได้แน่นอนค่ะ” ไอจังตอบ
“ใช่แล้วหล่ะ พวกนายเองก็จับตัวหัวหน้ากีง Izzy ให้ได้แล้วกัน” โยมิพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก โยมิเองก็ยกดาบโอดาจิของเธอขึ้นมาในทันที
“ตอนนี้ฉันเตรียมดาบเงินเอาไว้แล้ว” โยมิพูดขึ้น
“จะเอาปืนลูกโม่กระสุนทองแดงเพิ่มด้วยมั้ยครับ??” เอเตียนถามเธอไป
“อืม เตรียมให้ฉันหน่อยแล้วกัน” โยมิตอบ
“พูพีๆๆๆๆ” อันจิพูดขึ้น
“เราจะไปกันเลยหรือเปล่าคะ??” ไอจังถามไป
“ยังพอมีเวลาอยู่ พวกนายไปพักกันก่อนแล้วกัน” โยมิบอกกับทุกคนไป
“ตอนนี้เราโคตรพร้อมที่จะลุยแล้วครับ” เอเตียนพูดขึ้น
“ใช่ครับ ตอนนี้พวกเราไม่อยากรอแล้ว” อันจิพูดเสริม
“ฉันรู้ พวกนายได้ลุยแน่ ไม่ต้องห่วง” โยมิตอบ
“ถ้าอย่างงั้นฉันจะไปเตรียมของนะคะ” ไอจังพูดจบก็เดินออกไปในทันที
กลับมายังคาสิโนของแองเจลโล่ หลังจากที่แองเจลโล่กำลังซ้อมชายคนหนึ่งที่เข้ามาป่วนที่บ่อน ไม่นานนัก ชายคนนั้นก็ยอมบอกทุกอย่างกับแองเจลโล่ แองเจลโล่จับมันขังเอาไว้ในห้องๆหนึ่ง และในขณะเดียวกัน เยเรน่าก็เดินเข้ามาในห้องและพบกับแองเจลโล่
“คุณแองเจลโล่คะ”
“มีอะไรเหรอ??” แองเจลโล่ถามไป
“คุณเวเรนน่ามาพบค่ะ”
“อืม ให้เข้ามาเลย” แองเจลดล่พูดขึ้น ก่อนที่เยเรน่าจะเดินกลับออกไป และไม่นานก็กลับเข้ามาพร้อมกับเวเรนน่าด้วย
“เฮ้ เป็นไงบ้าง??” เวเรนน่าถามพลางจูบแองเจลโล่ไปด้วย
“ก็โอเค ฉันกำลังจัดการกับไอ้ตัวป่วนอยู่เลย” แองเจลโล่ตอบ
“เอ๊ะ ใครมาป่วนที่นี่อีกหล่ะ??” เวเรนน่าถามไป
“เราสอบมันแล้ว ดูเหมือนว่ามันจะเป็นคนของคลับๆหนึ่ง รู้จักชื่อซอกฮุนหรือเปล่าคะ??” เยเรน่าถามไป
“จะว่าไปก็เคยได้ยินนะ ลูกน้องเก่าของนายใหญ่เหวินนี่” เวเรนน่าพูดขึ้น
“นายใหญ่เหวินงั้นเหรอ??” แองเจลโล่ถามไป
“เคยเป็นหัวหน้าแก๊งใหญ่ที่แคลิฟอร์เนียหน่ะ แต่จู่ๆก็ตายปริศนา บางคนลือกันว่าไอ้ซอกฮุนคนนี้ มันอยู่เบื้องหลังด้วย” เวเรนน่าตอบ
“แล้วนี่ มันพูดอะไรเพิ่มหรือเปล่าคะ??” เยเรน่าถามไป
“ก็ไม่มีอะไรเพิ่มหรอก” แองเจลโล่ตอบ
“แล้วนี่จะเอายังไงกับมันต่อหล่ะ??” เวเรนน่าถามไป
“ฉันแค่อยากรู้หน่ะว่ามันทำของมันเอง หรือว่าไอ้ซอกฮุนนั่นมันอยู่เบื้องหลัง??” แองเจลโล่ถามไป
“แล้วทำไมถึงไม่ลองถามมันดูหล่ะ??” เวเรนน่าถามอย่างสงสัย
“มันคงไม่ยอมบอกดีๆหรอกค่ะ” เยเรน่าพูดขึ้น และในขณะเดียวกัน พนักงานคาสิโนคนหนึ่งก็รีบเดินเข้ามาหาแองเจลโล่อย่างรวดเร็ว
“ขออนุญาตค่ะ”
“มีอะไรเหรอ??” แองเจลโล่ถามกลับไป
“มีคนติดต่อมาหาคุณค่ะ” พนักงานพูดขึ้น ก่อนที่พนักงานจะยื่นโทรศัพท์ให้กับแองเจลโล่ แองเจลโล่รีบหยิบโทรศัพท์มาคุยอย่างรวดเร็ว
“ว่าไง??”
“คุณแองเจลโล่ อย่าเพิ่งทำอะไรวู่วามนะครับ นายผมต้องการจะคุยด้วย” เสียงปลายสายตอบกลับมา
“เหรอ ส่งคนมาป่วนบ่อนฉัน แล้วจู่ๆ มาขอคุย ง่ายไปหรือเปล่า??” แองเจลโล่ถามกลับไป
“นายของผมไม่ได้ส่งเขาไปครับ เขาคงจะเมา เราต้องขออภัยด้วย”
“ใช้ ตอนนี้มันกำลังเมาหนักเลย เมาหมัดเมาตีนเนี่ย เอางี้ วันนี้ฉันจะปล่อยมันไปก่อน แต่ฝากไปบอกนายมึงด้วย ถ้ามันไม่ใช่พวกหน้าตัวเมีย ให้มันมาเจอฉันตรงๆได้เลย” แองเจลโล่พูดจบก็วางสายในทันที
“ปล่อยตัวมันไปก่อน” แองเจลโล่พูดขึ้น
“หือ เอาจริงเหรอคะ??” เยเรน่าถามไป
“จะเก็บมันไว้ก็เปลือง แต่ว่า ระบายสีมันส่งกลับไปด้วยดีกว่า” แองเจลโล่พูดขึ้น
“จริงด้วย แล้วเราก็เอามันไปทิ้งกลางถนนที่ไหนซักแห่ง” เวเรนน่าตอบ ก่อนที่ไม่นานนัก แองเจลโล่จะกลับไปที่ห้องที่จับตัวของไอ้คนที่ป่วนบ่อนเอาไว้ ซึ่งตัวของมันตอนนี้บาดเจ็บเต็มที่
“โอ้ย อะไรอีกเนี่ย??”
“ว่าไงหล่ะมึง??” แองเจลโล่ถามชายคนนั้นไป
“ปล่อยผมไปเถอะ ผมบอกคุณทุกอย่างหมดแล้ว” ชายคนนั้นพูดต่อ
“เออ ปล่อยแน่ แต่ก่อนปล่อย ขอทำอะไรก่อนแล้วกัน” แองเจลโล่พูดขึ้น ก่อนที่เขาจะพยักหน้า และคนของแองเจลโล่ก็เดินไปรุมชายคนนั้นในทันที
“เฮ้ย ทำอะไรกู ปล่อยกู!!”
“เฮ้ย เสร็จแล้วเอามันไปปล่อยไกลๆด้วย” แองเจลโล่บอกกับลูกน้องของเขา ก่อนที่เขาและคนอื่นๆ จะเดินออกจากห้องไปในทันที
“เฮ้อ งานนี้ท่าจะเละแน่” เวเรนน่าพูดขึ้น
“ก็สมควรแล้วค่ะ” เยเรน่าพูดเสริม
“เออ ฉันกำลังจะคุยอยู่พอดี ตอนนี้มี XM7 หลุดมาใหม่ กระสุนขนาดใหม่ อยากลองดูหรือเปล่าหล่ะ??” เวเรนน่าถามไป
“อืม ก็ดีเหมือนกัน ปืนใหม่ที่ประจำอยู่ในกองทัพสหรัฐหรือเปล่า??” แองเจลโล่ถามไป
“ใช่แล้วหล่ะ บอกเลยของดีมาก” เวเรนน่าตอบไป
“เออ แต่ฉันได้ยินว่า ช่วงนี้กระสุนทองแดงกำลังขาดตลาด ใช่หรือเปล่าคะ??” เยเรน่าถามไป
“ใช่แล้วหล่ะ ดูเหมือนว่าพวกบรรดานายทุนที่ทำเหมืองทองแดงตอนนี้กำลังลดกำลังการผลิต สงสัยมันคงจะปั่นราคากัน” เวเรนน่าตอบ
“เฮ้อ ไอ้พวกพ่อค้าเอ้ย” แองเจลโล่พูดขึ้น
“ถ้าการผลิตทองแดงลดลง สงสัยว่าการปราบปรามกลุ่มผู้ใช้เวทย์จะยากขึ้น กระสุนทองแดงทนความร้อนต่ำ นำกลับมาใช้ซ้ำได้ไม่กี่รอบหรอกค่ะ” เยเรน่าพูดขึ้น
“นั่นสิ ตอนนี้เราก็เก็บกักตุนเอาไว้ก่อน ใช้กระสุนธรรมดาจัดการ ถ้าจัดการไม่ได้ ค่อยใช้ทองแดง” แองเจลโล่บอกไป ก่อนที่ไม่นานนัก เจ้าหน้าที่คนสิโนคนหนึ่งก็รีบเดินเข้ามาหาแองเจลโล่
“คุณแองเจลโล่คะ คนจาก Magic Hunt มาขอพบค่ะ”
“อืม เดี๋ยวฉันไป” แองเจลโล่ตอบ ก่อนที่พนักงานจะกลับออกไป
“งั้นฉันไปรอที่ห้องนายหน่อยนะ” เวเรนน่าพูดขึ้น ก่อนที่เธอจะเดินแยกออกไป
“ฉันไปทำงานก่อนนะคะ” เยเรน่าพูดขึ้น ก่อนที่เธอจะเดินออกไปพร้อมกับซารีน่า
กลับมายังอพาร์ทเมนท์ของมารี หลังจากที่ตัวของเธอพักผ่อนจากการทำงานหนักเรียบร้อยแล้ว เธอก็กลับมาหาพนักงานที่เคาน์เตอร์ต้อนรับเหมือนเดิม
“เฮ้ มารี พักผ่อนเยอะแล้วสินะ??”
“อืม ก็พอสมควรแล้วหล่ะ” มารีตอบ
“โอเค นี่งานของเธอ” พนักงานพูดขึ้น ก่อนที่จะหยิบเอาซองเอกสารให้กับมารี ในตอนนั้นมารีเองก็หยิบเอาเอกสารในซองออกมาดูในทันที
“ใครเนี่ย??” มารีถามไป
“สส.เลเบอร์แมน ได้ยินว่าหมอนี่มีนอกมีในกับพวกผู้ใช้เวทย์มนต์ มีการสั่งเก็บเขาแต่เขาไม่ตาย ตอนนี้นอนอยู่ที่โรงพยาลบาลหน่ะ”
“โห ยิงคนในโรงพยาบาลไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะ ไหนจะคนคุ้มกันมันอีก” มารีพูดขึ้น
“ฉันรู้ แต่งานนี้จ่ายดีมากเลยนะ ได้ยินว่าสองเท่าจากที่เคยได้ด้วย ถ้าไม่ติดว่าไม่เก่ง ฉันจะรับงานนี้แทนเธอเนี่ย” พนักงานโรงแรมพูดต่อ ก่อนที่มารีจะเก็บเอกสาร
“โอเค รอฟังข่าวดีได้เลย” มารีพูดขึ้น
“อืม ยังไงก็ระวังด้วยหล่ะ” พนักงานตอบมารี
ณ ที่ไหนซักแห่งในเทกซัส กลุ่มของดีค่อนเดินทางไปทำงานตามที่ได้รับการว่าจ้าง พวกเขาเดินทางมาถึงเขตของคลับปริศนาที่พวกเขาจะต้องมาถล่ม ดีค่อนและกลุ่มของเขาได้สอดส่องลาดเลาพื้นที่ตรงนั้น ก่อนที่จะบุกโจมตี
“เป็นยังไงบ้างวะ??” ดีค่อนถามลูกน้องของเขา
“มีการ์ดอยู่ 4 คน อาวุธเบาเฝ้าอยู่หน้าประตู ผมว่าด้านในต้องมีอีกเป็นพรวน”
“อืม คงต้องล่อพวกมันออกมา..” ดีค่อนยังพูดไม่ทันจบ ในตอนนั้นเขาก็เห็นรถตำรวจคันหนึ่ง ขับมาที่หน้าร้าน ก่อนที่ไม่นานนัก ตำรวจสองคนจะลงมาจากรถ และพูดคุยทักทายกับการ์ดที่เฝ้าหน้าร้าน
“โห ดูเหมือนว่ามีเส้นด้วยหว่ะลูกพี่” ลูกน้องของดีค่อนพูดขึ้น
“ถ้างั้นงานนี้คงต้องเล่นเร็วออกเร็ว ก่อนที่พวกตำรวจจะมา” ดีค่อนบอกไป
“ก็ดีพี่ ผมได้ยินว่าพวกตำรวจเทกซัสโคตรดุเลย” ลูกน้องของเขาพูดขึ้น
“อืม เตรียมตัวให้พร้อม เราจะลงมือคืนนี้แหละ” ดีค่อนพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก ลูกน้องอีกคนหนึ่งของเขาจะรีบเดินเข้ามหาเขา
“ลูกพี่ ด้านหลังคลับมีทางออกลับครับ”
“เหรอ คนเฝ้าเยอะมั้ย??” ดีค่อนถามไป
“เท่าที่เห็นข้างหน้ามี 2 คนครับ”
“เออ ลูกพี่ครับ ทำไมเราไม่เอาระเบิดของพี่ยัดเข้าไปที่ช่องแอร์เล่นพวกมันเลยหล่ะ??” ลูกน้องอีกคนหนึ่งของดีค่อนถามขึ้น
“ช่องแอร์มันถูกออกมาแบบมาให้ดันอากาศข้างในออก ถ้าเราทำแบบนั้น พวกแกจะได้สูดมันจะเอง จะเอาแบบนั้นเหรอวะ??” ดีค่อนถามไป
“งั้นเราก็คงต้องบุกทะลวงแบบทุกครั้งสินะครับ”
“อืม แบ่งคนของเราให้ยิงหลอกล่อพวกมัน ส่วนที่เหลือตามฉันมา แล้วโจมตีพวกมันจากด้านหลัง” ดีค่อนพูดขึ้น
“ได้พี่ เดี๋ยวผมจะจัดคนเอง” ลูกน้องของดีค่อนบอก
“อืม ตกดึกเมื่อไหร่ รอให้คนมากันเยอะๆ ฉันจะจัดปาร์ตี้สยองโลกไปเลย” ดีค่อนพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก ตำรวจจะกลับออกมา ขึ้นรถและขับออกจากคลับไป
“เฮ้อ ไอ้พวกกุ๊ยคอรัปชั่นเอ้ย” ดีค่อนสบถออกมา
ณ ที่ไหนซักแห่งในแคลิฟอร์เนีย
“ฉับ!!”
มิไรใช้ดาบของเขาฟันร่างของชายคนหนึ่งจนขาดครึ่ง และร่างก็ล้มลง ส่วนตัวมิไรก็ปาดเหงื่อ ก่อนที่ไม่นานนัก เขาจะเห็นชายอีกคนกำลังลากตัวเองคลานหนีจากกลุ่มของมิไร มิไรที่เห็นก็เดินไปหาชายคนนั้น จากนั้นก็ลากตัวของมันขึ้นมา
“โอ้ย!!”
“มึงบอกมา มึงทำงานให้ใคร??” มิไรถามชายคนนั้นไป
“กูไม่บอกหรอก..” ชายคนนั้นตอบด้วยอาการ่อแร่ แต่มิไรก็บีบปากมัน ก่อนที่จะชี้นิ้วเข้าไปในปาก และโลหะเหลวก็ออกมาจากมือและไหลเข้าไปในท้องของมัน
“เอาไง มันโคตรทรมานเลยนะ??” มิไรถามมันไป จนชายคนนั้นถึงกับต้องพยักหน้า ก่อนที่มิไรจะถอนโลหะนั้นออกมาจากร่างของชายคนนั้น
“ว่าไงหล่ะ??” มิไรถามไป
“เราทำงานให้พวกโกเทย์ครับ”
“โกเทย์ อ้อ ไอ้พวก 7 ปัญญาอ่อนงั้นเหรอ” มิไรพูดขึ้น ก่อนที่เขาจะโยนร่างของชายคนนั้นล้มกับพื้นอย่างรุนแรง
“มึงอยู่ที่ไหนกันนะ อาคุมะ..” มิไรพูดขึ้น
กลับมายังคลับของซอกฮุน ในตอนนี้ตัวของเขากำลังนั่งเซงอยู่กับการที่ลูกน้องของเขาไปอาละวาดในคาสิโนของแองเจลโล่ และไม่นานนัก ลูกน้องของเขาก็เดินกลับมาหาซอกฮุน
“ลูกพี่”
“เออ ไอ้จินทักมันเป็นยังไงบ้างวะ??” ซอกฮุนถามไป
“พวกมันบอกว่าจะปล่อยตัวหมอนั่นมาครับ”
“เออ ถ้ามันกลับมาได้เมื่อไหร่ ฉันจะกระทืบแม่งซักที” ซอกฮุนพูดต่อ
“เออ แต่ว่าลูกพี่ครับ”
“อะไรอีกหล่ะวะ??” ซอกฮุนถามต่อ
“แองเจลโล่มันฝากมาบอกลูกพี่ว่า ถ้าลูกพี่ไม่ใช่พวกตุ๊ดขี้ขลาด ให้มาเจอกับมันตัวต่อตัวครับ”
“ไอ้ห่าเอ้ย!!” ซอกฮุนตะโกนออกมา ก่อนที่จะทุบโต๊ะดังปัง
“จะเอายังไงต่อดีครับพี่??”
“ถ้าพวกแม่งอยากจะเล่น ฉันก็จะเล่นกับพวกแม่ง!!” ซอกฮุนพูดขึ้น
“ลูกพี่ ไอ้แองเจลโล่มันขาใหญ่ประจำเวกัสเลยนะครับ” ลูกน้องของเขาพูดปราม
“กูไม่สน มันบังอาจขนาดนั้น กูจะทำให้มันรู้สำนึก!!” ซอกฮุนตะโกนออกมา
“แล้วลูกพี่จะเอายังไงต่อหล่ะครับ??”
“เปิดศึกกับพวกแม่งเลยสิ” ซอกฮุนพูดขึ้น
“ครับ เราจะโจมตีเขตคาสิโนมันเลยเหรอครับ??”
“เออ ป่วนมันให้ได้มากที่สุด ฉันอยากจะรู้เหมือนกัน ว่าพวกมันจะทนได้ซักกี่น้ำ” ซอกฮุนพูดขึ้น ก่อนที่เขาจะรีบหยิบบวดไวน์ขึ้นมาแล้วกระดกมัน
“ระยำเอ้ย มึงจะเอาแบบนี้ใช่มั้ย กูจะยึดเวกัสของมึงมาเอง” ซอกฮุนพูดขึ้น
“เรื่องนี้คุณต้องใจเย็นๆหน่อยนะคะ” อีหนูของซอกฮุนพูดในขณะที่นวดให้เธอ
“ไม่ต้องพูดแล้ว!!” ซอกฮุนตะโกนออกมา ก่อนที่เขาจะลุกขึ้น จากนั้นก็กระชากเธอลงเตียง และทำการร่วมรักกับเธออย่างรุนแรง
กลับมายังอพาร์ทเมนท์ของเฟท ในตอนนี้ตัวของเฟทยังคงนั่งอยู่ในอพาร์ทและดูคำทำนายของเขาไปเรื่อย ผ่านสร้อยของเขา ไม่นานนัก เขาก็ลืมตาขึ้นและวางสร้อย และเดินไปที่หน้าประตู โดยที่ยังไม่มีใครเคาะประตูอยู่
“ก๊อกๆๆ”
ไม่นานนักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เฟทเองรีบเปิดประตูในทันที แล้วเขาก็พบว่าเป็นพนักงานโรงแรมคนเดิม
“คุณคะ คุณหนีใครมาหรือเปล่า??”
“หือ อะไรครับ ใครตามล่าผมครับ??” เฟทถามอย่างสงสัย
“มีพวกไหนไม่รู้ ใส่ชุดขาวกันหมดเลย พวกนั้นพยายามจะเข้ามาค้นที่โรงแรมค่ะ” พนักงานตอบไป
“เออ ถ้างั้น..” เฟทยังพูดไม่ทันจบ
“งั้นคุณอยู่ในนี้ไปก่อนนะคะ อย่าออกไปไหนนะคะ” เฟทพูดขึ้น ก่อนที่พนักงานจะปิดประตู แล้วเดินออกไป แต่ในตอนนั้น เฟทเองก็รีบเดินออกไป แล้วกระชากแขนพนักงานมา
“อะไรของคุณเนี่ย??”
“ถ้าคุณออกไป คุณตายแน่” เฟทตอบ ก่อนที่เขาจะพาเธอเข้าไปในห้องของเขา
“คุณจะทำอะไรเนี่ย??” พนักงานคนนั้นถามเฟทไป
“คุณอยู่ในห้องนี้ แล้วจะไม่ตาย” เฟทบอกกับพนักงานคนนั้น ก่อนที่เขาจะปิดประตูและเดินออกไป
ณ ป่าแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ตอนกลางของอเมริกา กองกำลังติดอาวุธมากมายตอนนี้กำลังรวมตัวกันราวกับว่าจะไปรบที่ไหนซักแห่ง กองกำลังเหล่านั้นไม่ใช่ของใคร ของเหล่าเทพปีศาจนั่นเอง เหล่าเทพปีศาจทั้งห้าตอนนี้กำลังมองกองกำลังของพวกเขาที่ตอนนี้กำลังเข้มแข็ง
“กำลังของเขามีมากขึ้นนะเนี่ย” ไรจินพูดขึ้น
“นั่นสิ ตอนนี้เราต้องออมกำลังของเราเอาไว้ เพราะเราต้องรบกับหลายฝ่ายเลย” อาร์เทมิสพูดต่อ
“เฮ้อ ตอนนี้ฉันอยากจะลุยแล้วหล่ะ” ยิเมียร์พูดขึ้น
“ไม่ต้องห่วงหรอก พวกเราได้ลุยแน่ มอลอซ เธอว่าไงหล่ะ??” บาร์บาทอสถามไป
“ตอนนี้เราต้องจัดการผู้เฒ่าซาร์ลาซาให้ได้ ตีงูก็ต้องตีที่หัว” มอลอซพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง คนของมอลอซก็รีบวิ่งมาหาเธออย่างรวดเร็ว
“ขออนุญาตครับ ตอนนี้พวก Magic Hunt เตรียมกำลังมาตามล่าเราแล้วครับ”
“พวกมันมีคนเท่าไหร่??” มอลอซถามกลับไป
“คราวนี้น่าจะมากันเป็นร้อยเลยครับ!!”
“สงสัยพวกมันคงจะรู้แล้วว่า พวกเราจัดการกับไอ้เกจินหน่ะ” ยิเมียร์พูดขึ้น
“พวกมันมาแก้แค้นสินะ ก็ดี เราจะได้กวาดให้เรียบ” บาร์บาทอสพูดขึ้น
“ตอนนี้เราต้องใจเย็น อย่าเพิ่งเผยไต๋ให้พวกมันเห็นทั้งหมด” อาร์เทมิสพูดปราม
“จริงด้วย ไม่งั้นงานข้างหน้าเราอาจจะยากกว่านี้แน่” ไรจินพูดต่อ
“สงสัย เราอาจจะต้องไปจากที่นี่ก่อน แล้วค่อยโจมตีตัดกำลังพวกมัน” มอลอซพูดขึ้น
“บ้าเอ้ย ฉันอยากจะลุยกับพวกมันเลยมากกว่า” ยิเมียร์พูดไป
“เฮ้อ ถ้ามาเรียน่ายังอยู่ เธอคงด่านายเปิงแน่ๆ” บาร์บาทอสพูดขึ้น ในตอนนั้นทุกคนก็ถึงกับเงียบไปเลย
“เออ จริงด้วย เธอหายตัวไปเลย ตั้งแต่วันนั้น” อาร์เทมิสพูดขึ้น
“ยัยนั่นทรยศเรานี่” ไรจินพูดขึ้น
“แต่ฉันยังยืนยันคำเดิม มาเรียน่าไม่ใช่แบบนั้นแน่” มอลอซพูดขึ้น
“บลาๆๆๆ จะพูดอะไรก็ช่างเถอะ แต่ถ้าฉันเจอแม่นั่น ฉันจะเล่นให้ยับเลย” ยิเมียร์พูดขึ้น
“นี่ ไม่เอาสิ!!” มอลอซรีบพูดปราม
“ช่างหัวแม่นั่นเถอะ ฉันไม่อยากจะใส่ใจแล้วหล่ะ” ไรจินพูดขึ้น
“แต่เอาจริงๆ ฉันก็อยากรู้นะว่ามาเรียน่ากำลังทำอะไรอยู่” อาร์เทมิสพูดขึ้น
“แล้วนี่ พวกเราจะไปที่ไหนต่อหล่ะ??” บาร์บาทอสถามไป
“ตอนนี้เราเจอที่กบดานของไอ้ซาร์ลาซาหรือยังหล่ะ??” มอลอซถามไป
“ฉันให้สายของฉันตามอยู่ ไม่ต้องห่วง” ยิเมียร์พูดขึ้น
“ดูเหมือนว่ามันจะเก็บตัวเงียบจริงๆแหะ” บาร์บาทอสพูดขึ้น
“หรือว่า เราจะไปจัดการคนอื่นก่อนหล่ะ??” อาร์เทมิสถามขึ้น
“ผู้เฒ่าคนอื่นตอนนี้จัดการยาก เราต้องออมกำลังของเราเอาไว้” ไรจินพูดขึ้น
“เอาเถอะ ตอนนี้เรารีบไปจากที่นี่ก่อนดีกว่า” มอลอซพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก มอลอซก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง
“ทุกคน ซ่อนตัว!!” มอลอซตะโกนออกมา ก่อนที่พวกเขาจะใช้ผ้าที่พวกเขาเตรียมเอาไว้มาคลุมตัวเองเอาไว้ ซึ่งตอนนี้ด้านบนฟ้า กลุ่มคนปริศนากำลังขี่พรมที่เหาะได้ออกสำรวจพื้นที่ พวกเขาบินวนอยู่แถวนั้นอยู่ซักพัก เมื่อพบว่าไม่มีอะไร พวกนั้นก็กลับออกไป
“ระยำเอ้ย ฝากไว้ก่อนเถอะ” มอลอซสบถออกมา
ณ ที่ไหนซักแห่งในกลางอเมริกา ในตอนนี้เอล ซาดินเองก็กำลังทำภารกิจของเขา ตัวของเขากำลังแกะรอยสัตว์จากโลกเวทย์มนต์ เพื่อไม่ให้มันทำอันตรายกับมนุษย์ และไม่นานนัก เขาก็พบว่ากำลังมีมังกรตัวหนึ่งบินอยู่เหนือหัวเขา
“โฮก!!”
มังกรตัวนั้นเห็นซาดินก็พุ่งลงมาด้านล่าง ก่อนที่มันจะพ่นไฟใส่ซาดินที่ด้านล่าง
“ซู้ม!!”
ซาดินรีบหลบในทันที เนื่องจากว่าโล่ของเขาสามารถกันไฟที่มาจากเวทย์มนต์เท่านั้น ไม่ใช่มาจากสัตว์ตามธรรมชาติ เขารีบวิ่งเข้าไปในป่า ในขณะที่มังกรตัวนั้นก็ยังตามเขามา
“โฮก!!”
มังกรตัวนั้นบินต่ำลงเรื่อยๆ เพื่อสอดส่องตัวของซาดินว่าอยู่ที่ไหน แต่ซาดินเมื่อเห็นจังหวะ เขาก็ปาหอกใส่มังกรตัวนั้นเข้าที่กลางอกของมัน
“โฮก!!”
มังกรตัวนั้นร้องเจ็บปวดทุรนทุราย ซาดินใช้พลังของเขาเรียกหอกกลับมา มังกรตัวนั้นพยายามจะแบกสังขารตัวเองบินหนี แต่ในตอนนั้นเอง เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งก็บินเข้ามาหามังกรตัวนั้น ก่อนที่มันจะยิงปืนกลใส่มังกร
“ปังๆๆๆๆๆๆๆ!!”
“โฮก!!”
มังกรตัวนั้นโดนกระสุนยิงใส่จนร่วงลงกับพื้น เฮลิคอปเตอร์ลำนั้นบินวนอยู่รอบตัวมังกรอยู่ซักพัก ก่อนที่เฮลิคอปเตอร์ลำนั้นจะค่อยๆลงต่ำ และคนที่อยู่บนฮอ ก็เอาปืนฉีดไฟออกมา แล้วยิงใส่มังกรตัวนั้น
“ซู้ม!!”
“โฮก!!”
มังกรตัวนั้นโดนเผาไหม้แทบจะกลายเป็นจุล ซาดินที่เห็นตอนนั้นก็หยิบหอกของเขาขึ้นมา แล้วขวางมันใส่บริเวณใบพัดด้านหลัง
“ตู้ม!!”
เฮลิคอปเตอร์ลำนั้นร่วงลงกับพื้นในทันที ซาดินเรียกหอกของเขากลับมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะรีบหนีออกจากพื้นที่ ก่อนที่กำลังเสริมของศัตรูจะมา
กลับมายังบริษัทลูกของโครวี่ หลังจากที่มันโดนถล่ม ตัวของเขาก็เดินทางมาดูอย่างรวดเร็ว ในตอนนี้ตึกบริษัทของเขาโดนไฟไหม้วอดแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ โครวี่ที่ได้เห็นในตอนนั้นก็โกรธมาก ในขณะเดียวกัน ตำรวจคนหนึ่งก็เดินมาหาโครวี่ในทันที
“สวัสดีครับ ใช่คุณโครวี่หรือเปล่าครับ??”
“ครับคุณตำรวจ??” โครวี่ถามไป
“ทางเราได้ทำการตรวจสอบอาคารแล้ว ดูเหมือนว่าพวกมันจะมีคนมาก กระจกถูกถีบแตกออกจากด้านหน้า ประตูก็โดนถล่มด้วยครับ”
“แล้วคลิปจากกล้องวงจรปิดหล่ะครับ??” โครวี่ถามไป
“ดูเหมือนจะโดนทำลายหมดเลยครับ” ตำรวจตอบ และในขณะเดียวกัน ตำรวจอีกคนก็รีบเดินมาหาตำรวจที่กำลังคุยกับโครวี่
“จ่าครับ เราจับภาพหนึ่งในคนร้ายได้ครับ” ตำรวจคนนั้นพูดขึ้น ซึ่งในรูปนั้นเป็นชายใส่ชุดขาวคนหนึ่งที่กำลังถืออาวุธครบมือ โครวี่เองรู้ว่าพวกนั้นเป็นใคร แต่ก็ต้องทำเป็นไม่รู้ไว้
“พวกมันเป็นใครครับเนี่ย??” โครวี่ถามตำรวจ
“ดูเหมือนว่า ไอ้พวกชุดขาวพวกนี้ มันจะดำเนินการทำร้ายคนโดยผิดกฎหมายมานาน เรากำลังกวาดล้างเครือข่ายของพวกมันอยู่ครับ” ตำรวจตอบไป ก่อนที่ในตอนนั้น โครวี่ก็แอบเห็นยูจีนกำลังยืนอยู่แถวนั้น แล้วหายเข้าไปในเขตซากของตึกที่ถูกเผาไหม้
“เออ เดี๋ยวผมขอไปตรวจสอบความเสียหายเพิ่มเติมหน่อยนะครับ” โครวี่บอกกับตำรวจ ก่อนที่เขาจะเดินไปหายูจีนที่ตอนนี้กำลังยืนรออยู่แถวนั้นอยู่แล้ว
“ว่าไงหล่ะ??” โครวี่ถามยูจีนไป
“ไอ้พวกที่มันมาโจมตีบริษัทของคุณ หัวหน้าหน่วยที่โจมตี ชื่อเอริน โคน่า หน่วยเยเกอร์ ดูเหมือนว่าพวกมันจะเล่นแรงกับคุณแล้วหล่ะ” ยูจีนบอกไป
“ระยำเอ้ย พวกมันหวังว่าจะตัดกำลังฉันได้” โครวี่พูดขึ้น
“แล้วคุณจะเอายังไงต่อหล่ะ??” ยูจีนถามไป
“ถ้ามันแรงมาเราก็ต้องแรงไป ไม่มีทางเลือก” โครวี่ตอบ
“แล้วคุณจะเล่นงานพวกมันที่ไหนหล่ะ??” ยูจีนถามไป
“นั่นหล่ะ ฉันถึงให้นายไปช่วยหาข้อมูลให้ฉันหน่ะ” โครวี่บอกเขา
“อ้อ ได้ แล้วผมจะช่วยดูให้ครับ”
“คอยดูเถอะ ฉันจะเอาคืนให้หนักเลย” โครวี่พูดขึ้น และในขณะเดียวกัน เลขาของเขาก็รีบเดินเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว
“ท่านคะ ทางตำรวจต้องการสอบถามอะไรเพิ่มค่ะ”
“อืม ยูจีน ไปจัดการตามนั้น” โครวี่บอกกับยูจีน ยูจีนรีบสร้างวงกลมเทเลพอร์ตและออกเดินทางในทันที ส่วนโครวี่ก็เดินกลับไปหาตำรวจเพิ่มให้ปากคำเพิ่มเติม
“เออ คุณโครวี่ครับ เราอยากทราบอะไรหน่อยหน่ะครับ”
“ครับ ว่าไงครับ??” โครวี่ถามกลับไป
“คือว่า ทำไมพวกมันถึงต้องเล่นงานคุณด้วย คุณคิดว่าทำไมกัน??”
“ผมว่า อาจจะเป็นเรื่องที่ผมกำลังลงทุนในเหมืองทองแดงใหม่หล่ะมั้งครับ พวกมันเลยต้องการเล่นงานเพื่อสั่งสอนผม” โครวี่ตอบ
“อ้อ ก็พอเข้าใจได้ครับ”
“ยังไงคุณตำรวจฝากจัดการให้ผมด้วยนะครับ” โครวี่บอกกับตำรวจ
วันต่อมา หลังจากที่กลุ่มของเคนนี่หนีจากการตามล่าของตำรวจมาได้ ตัวของเขากับเพื่อนๆก็เตรียมพร้อมในการออกตามล่าผู้กองโทเค็น เพื่อสืบหาความลับเพิ่มเติม แต่ในระหว่างที่เคนนี่กำลังจะเตรียมความพร้อม ในตอนนั้น เด็กของค่ายมวยก็รีบวิ่งเข้ามาหาพวกเขาในห้องอย่างรวดเร็ว
“พี่ๆ มีตำรวจมาที่นี่ เขาบอกว่าฝากนี่ให้พี่เคนนี่ด้วย!!” เด็กค่ายมวยพูดขึ้น พร้อมกันนั้นก็เอากระดาษแผ่นหนึ่งมาด้วย เวโรนิก้ารีบหยิบมันมาในทันที
“แย่หล่ะ พวกมันรู้ว่าเราอยู่ที่นี่เหรอ??” เวโรนิก้าถามไป พร้อมกับยื่นกระดาษให้เคนนี่อ่าน เคนนี่อ่านมันดูในทันที
“เคนนี่ ฉันลอร่า ฉันรู้ว่านายกำลังทำอะไรอยู่ ไอ้ผู้กองโทเค็นมันจะไปเยี่ยมจ่าเอ็มเมอร์ตอนดึก นายไปที่นั่นได้..” เคนนี่พูดขึ้นมา
“ลอร่าเหรอ ใครกันหน่ะ??” โรเบิร์ตถามไป
“เพื่อนในหน่วยของฉันเองหน่ะ เกือบจะโดนไล่ออกตอนที่ฉันโดนเด้งหน่ะ” เคนนี่ตอบ
“แปลว่า นางก็เป็นพวกเรา” ไปจื่อพูดขึ้น
“แต่ฉันว่ามันยังแปลกๆ เราเชื่อใจนางได้เหรอ??” คามิลล่าถามไป
“นั่นสิ บางทีเธออาจจะเป็นนกต่อก็ได้นะ??” ซิลเวสเตอร์พูดเสริม
“ยังไงก็ต้องลองดูครับ ผมรู้นิสัยลอร่าดี” เคนนี่ตอบ
“แต่ถึงยังไง เราก็ต้องระวังตัวเพิ่มนะครับ” วอลพูดขึ้น
“เอาแบบนี้ วอล นายตรวจสอบพื้นที่ ดูว่าพวกมันจะดักรอเราหรือเปล่า ก่อนที่พวกเราจะเข้าโรงพยาบาล” เคนนี่บอกกับวอล วอลเองก็พยักหน้าตอบรับ
“ถ้ายัยนั่นหลอกนาย ฉันจะฆ่ายัยนั่น” เวโรนิก้าพูดขึ้น
“ยังไงก็ต้องลองดูก่อนครับ คืนนี้เราจะเปลี่ยนแผนไปที่โรงพยาบาลกลาง สืบหาให้ได้ว่าไอ้จ่าเอ็มเมอร์มันอยู่ที่ไหน ฉันจะเข้าไปปิดจ๊อบเอง” เคนนี่บอกกับทุกคน
================================================================
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป อย่าลืมติดตามชมกันเน้อ
ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ แหะๆ
https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig ซับแนลหนูด้วย
ให้ของขวัญเป็นกำลังใจกันได้ครัช ไหว้หล่ะ
ความคิดเห็น