คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 6 : เข้าสู่แคว้นเดลล์
กลุ่มของนอร์ดิกขี่รถม้าลัดเลาะป่าไปเรื่อยๆ
บรรยากาศรอบข้างางมีแต่ป่าไม้ที่ดูเงียบสงบเต็มไปหมด
พวกเขาได้แต่เยี่ยมชมบรรยากาศอันเงียบสงบของป่าแห่งนี้
ไซโซ : โห
ป่านี่สงบจริงๆเลย ท่ามกลางสงครามแบบนี้
เคจา : นั่นสิ
บางทีก็อยากมาสร้างบ้านอยู่ที่นี่จังเลย
แต่ระหว่างนั้นเอง
พวกเขาก็เห็นท่อนซุงท่อนใหญ่มาขวางอยู่กลางถนน ทำเอาพวกเขาเริ่มสงสัย
ในตอนนั้นเองนอร์ดิกก็เริ่มหยิบปืนของเขามาแล้ว
นอร์ดิก : ทุกคน
ในป่านี้มีขอนไม้มาวางแบบนี้มันไม่ธรรมดาแล้วนะ
อาบาตู : เรายังพอเลี้ยงรถกลับไปได้นะครับ
แต่ยังไม่ทันขาดคำ กลุ่มโจรก็บุกถือมีดเข้ามาหมายจะชิงทรัพย์พวกเขา
พวกเขาจึงต้องยิงตอบโต้กลุ่มโจรเหล่านั้น แม้ว่าพวกเขาจะมีปืนแต่ก็ยังใจสู้
ไม่ยอมถอยไปง่ายๆ
ไซโซ : โคตรดื้อเลยไอ้พวกนี้
จะเอายังไงกันต่อดีเนี่ย
เคจา : ถ้าเราไม่เอาท่อนซุงนั่นออกแล้วไปต่อ
เราตายกันหมดแน่
นอร์ดิก : ผมไปเองครับ
ทุกคนยิงคุ้มกันให้ผมด้วย //
แต่ในขณะเดียวกัน อาบาตูก็ไปกับนอร์ดิกด้วย
ในขณะที่เคจากับไซโซพยายามยิงสกัดพวกมัน และเมื่อพวกเขาจวนตัว
พวกเขาจึงชักดาบของพวกเขาออกมาประจัญบานกับพวกมัน
ไซโซกับเคจาวิ่งไปปะทะกับพวกมันในแต่ละด้าน และในขณะเดียวกัน นอร์ดิกกับอาบาตูก็ยกท่อนซุงออกไปได้สำเร็จ
นอร์ดิก : พี่ครับ
// นอร์ดิกชักดาบออกไปช่วยต่อสู้ด้วย
และด้วยเพลงดาบที่เหนือชั้นของพวกเขา ทำให้พวกมันถอยหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
อาบาตู : รีบไปกันดีกว่าครับคุณหนู
// พวกเขาไม่รอช้ารีบขึ้นรถม้าหนีออกไปทันที
จากนั้นเองรถม้าก็เคลื่อนตัวออกไปก่อนที่พวกมันจะกลับมาอีกครั้ง
อาบาตู : เกือบไปแล้วมั้ยหล่ะครับเนี่ย
// ระหว่างที่กำลังคุยกันอยู่
จู่ๆนกตัวหนึ่งซึ่งเป็นนกของนอร์ดิกที่เขาได้รับจากมาร์ธ่า
ซึ่งมันบินมาที่มือของนอร์ดิก
นอร์ดิก : อ้าว
เจ้าไซโบ กลับมาจนได้สินะ //
นอร์ดิกหยิบเอาจดหมายที่ซ่อนอยู่ที่เท้าของนกออกมา
ซึ่งวันนี้มาแปลก มีอีกฉบับหนึ่งมาด้วย
เคจา : มีของคนอื่นส่งมาด้วยอ่ะ
ไซโซ : ต้องเป็นของซิลเวียร์แน่
แหะๆๆๆๆ
อาบาตู : คุณหนูครับ
เราใกล้จะถึงแคว้นเดลล์แล้วครับ // จากนั้นอาบาตูก็ชี้ให้เห็นป้ายบอกทางไปแคว้นเดลล์
พวกเขาไม่รู้เลยว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
กลับมายังเมืองโมโรวิน
ในตอนนั้นเองเอลิซ่าก็เตรียมของเพื่อเดินทางไปยังเมืองริงก้า
ซึ่งการเดินทางครั้งนี้เมเทอร์และเฟรย์อาก็ได้ไปด้วย เนื่องจากว่าเป็นห่วงเอลิซ่า
เมเทอร์ : นี่
เธอแน่ใจแล้วนะว่าจะไปที่ริงก้าหน่ะ
เอลิซ่า : แน่ใจสิ
ฉันว่าจะไปติดต่อสายของเราที่ริงก้าด้วย
เฟรย์อา : แต่ว่า
ที่ริงก้าต้องผ่านแคว้นเดลล์ ซึ่งตอนนี้มันมีสงครามกลางเมืองอยู่นี่
เอลิซ่า : จะกลัวอะไรหล่ะ
คนของเราก็ไปตั้งเยอะ ว่าแต่ตอนนี้พวกผู้ชายอยู่ที่นี่กันได้นะ
เมเทอร์ : ไม่ต้องห่วง
บรรดาพี่ๆน้องๆฉันจะอยู่ที่นี่ให้
เฟรย์อา : แล้วโอลลี่
เธอไม่ไปกับพวกเรางั้นเหรอ
เอลิซ่า : นางคงจะไปปล้นพวกโซราบอลแถวนี้หน่ะ
ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะมืดค่ำซะก่อน // จากนั้นเอง
ขบวนรถม้าของพวกสาวๆก็ค่อยๆเคลื่อนตัวออกไป
ในขณะที่พวกผู้ชายก็กำลังยืนมองอยู่บนชั้นสองของคฤหาสน์
เลออน : เฮ้ยพี่
พวกผู้หญิงไม่อยู่ แบบนี้เราก็สบายเลยสิ
มาร์ธิว : ใจเย็นๆ
เอลิซ่าเขาต้องการให้เราดูแลสมาคมของเราที่นี่นะ
เอเทอร์ : แต่อยู่แบบนี้มันก็เซงนะ
หาอะไรหนุกๆทำดีกว่า
แมทธิว : อ้อ
อยากจัดปาร์ตี้เสียวๆแบบที่เลออนมันทำงั้นเหรอ
เลออน : โธ่
หรือเราไม่ชอบ ตอนนั้นยังเห็นหิ้วสาวเข้าห้องอยู่เลย
เอเทอร์ : ใจเย็นสิพี่
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องระวังตัวทุกด้านนะครับ
มาร์ธิว : น้องเขาพูดถูก
ตอนนี้เราต้องดูแลสมาคมของเราเป็นอย่างแรกก่อน
แมทธิว : ก็ได้ครับพี่
หวังว่าพวกโซราบอลคงจะยังไม่บุกมาก่อนนะ
และที่ค่ายเก็บเสบียงของโซราบอล
ซึ่งมีทหารคุ้มกันอย่างหนาแน่น
ในตอนนั้นเองโอลลี่นำกองโจรของเธอไปปล้นเสบียงของโซราบอล
ทำเอากองทัพของพวกมันระส่ำระส่าย หลังจากที่เธอปล้นมาได้เยอะ
เธอก็เอาอาหารเหล่านั้นแจกให้ผู้อพยพที่ยากจนจนหมด
ทำให้ชาวบ้านผ่านวิกฤตความอดอยากมาได้แต่ก็ไม่ทั้งหมด
เนื่องจากผู้อพยพมีเยอะเกินไป
“คุณโอลลี่ งานนี้เราปล้นมาได้ไม่เท่าไหร่
คงไม่พอให้ชาวบ้านเหล่านี้หรอกครับ”
โอลลี่ : ไม่ว่ายังไง
เราต้องดูแลพวกเขา อย่าให้อดอยากเด็ดขาด
“บางส่วนเป็นพวกโซราบอลด้วยนะครับ”
โอลลี่ : โซราบอลแล้วยังไง
พวกเขาหนีร้อนมาพึ่งเย็นนะ ถ้าเราทิ้งเขา ต่อไปใครจะเชื่อใจพวกเรา
“ครับ ผมไม่เถียงหรอก
แต่เรื่องเสบียงนี่จะเอายังไงต่อครับ”
โอลลี่ : ฉันจัดการเอง
พวกนายไม่ต้องห่วงไปหรอก
กลับมายังค่ายทหารของโซราบอล
หลังจากที่นายพลเนโรได้รับข่าวกองโจรบนภูเขาและโจรปล้นเสบียง ทำเอานายพลเนโรหัวเสียอย่างมาก
เพราะมันทำให้การบุกของเขาล่าช้าลงไปมาก
โซรอน : ท่านพี่
ถ้าเราไม่ทำอะไรซักอย่าง เราแย่แน่ๆครับ
เนโร : ฉันรู้
คูเปอร์ ตอนนี้การรบเป็นยังไงบ้าง
คูเปอร์ : เรากำลังรุกคืบเข้าตีไปทีละเมืองของมอร็อคครับ
แต่ทหารเราไปได้ช้าเพราะโดนโจมตีระหว่างทางครับ
เนโร : ตอนนี้เสียหายไปเท่าไหร่
คูเปอร์ : ทหารเราตายกว่าร้อย
แล้วบาดเจ้บอีกเป็นพันครับ
เนโร : เห็นทีต้องปูพรมให้ราบ
ให้ปืนใหญ่ยิงไปทั่วทุกที่ที่คาดว่าพวกมันจะอยู่ตรงนั้น
คูเปอร์ : แต่ท่านครับ
กระสุนเราอาจจะไม่พอนะครับ
โซรอน : ผมให้ทางอเมริกาส่งกระสุนปืนใหญ่เพิ่มให้เราได้ครับ
เนโร : เยี่ยมไปเลย
พวกเขาอยากได้ทองเท่าไหร่ ฉันให้ไม่อั้น ขอให้พวกเขาส่งมาให้เรา
และที่ชายป่าแถบมอร็อค
อราชกำลังลำเลียงคนของเขาและบรรดาชาวบ้านที่หนีตายจากโซราบอลมาด้วย
ลำเลียงผ่านแพล่องขึ้นมายังแม่น้ำ และในขณะนั้น ฟีนด์ก็ได้นำคนของเขาไปต้อนรับอยู่พอดี
อราช : สวัสดีครับ
ขอบคุณนะที่มาต้องรับพวกเรา // อราชจับมือกับฟีนด์
ฟีนด์ : ท่านนายพลสั่งให้ฉันมารอรับพวกนาย
ที่รูดิวเป็นยังไงบ้าง
อราช : พวกมันกวาดล้างอย่างหนักเลย
แถมกำลังพลของเราก็หร่อยหรอลงเรื่อยๆหน่ะ
ในขณะที่คุยกัน ก็เกิดเสียงปืนใหญ่ดังขึ้นไปทั่วป่า
ทำเอาทหารและชาวบ้านตกใจมาก
ฟีนด์ : อะไรกันเนี่ย
พวกโซราบอลโจมตีอีกแล้วงั้นเหรอ
อราช : พวกมันคงโจมตีตัดกำลังพวกเราหน่ะ
ฟีนด์ : ฉันว่า
เรารีบกลับไปที่ค่ายของพวกเราดีกว่า
อราช : ต้องระวังหน่อยหล่ะ
ปืนใหญ่ ของนายพลเนโรมีอานุภาพสูงมาก อาจเล่นงานพวกเราได้
และอีกด้านหนึ่งของป่า
ทหารโซราบอลกำลังรอให้ปืนใหญ่หยุดยิง เพื่อที่จะเข้าโจมตีต่อไป
ครั้งนี้ปืนใหญ่ถูกยิงไปทั่วแนวป่า ทำเอาพวกเขาต้องตกตะลึง
อาร์มเมอร์ : โห
นี่มันอะไรกันเนี่ย ต้องถล่มกันขนาดนี้เลยเหรอ
สกาย : นั่นดิ
สงสัยว่าพวกเขากะจะล้างป่านี้เลยหล่ะ
เอ็ดเวิร์ด : ยิงแบบนี้ถ้ากระสุนปืนใหญ่หมดจะทำยังไงหล่ะ
สกาย : เอ้า
แล้วนายควรจะยิงยังไงหล่ะ บอกหน่อยสิ
เอ็ดเวิร์ด : ง่ายๆ
ก็แค่ส่งกำลังไปมาร์คพิกัดปืนใหญ่ แล้วยิงเป็นระยะๆ แบบนี้จะยิงได้ดีกว่านะ
อาร์มเมอร์ : เฮ้ย
ฉลาดจริงหว่ะเพื่อน นายทำได้ไงเนี่ย
สกาย : ใช่
แล้วพวกนายดูสิ ถล่มแบบนี้ใครแม่งจะรอดวะ
อาร์มเมอร์ : ก็พวกมันรอดยังไงหล่ะ
หลังจากที่เสียงปืนใหญ่สงบลง
พวกเขาก็เดินหน้าเพื่อเข้าตีที่มั่นของข้าศึกต่อไป
และในตอนนั้นเอง ที่แคว้นฟิลล์บอน
กองทัพของนายพลนอร์ทและสการ์เล็ต พวกเขากำลังเดินทัพเข้าไปยังใจกลางพื้นที่
ซึ่งในตอนนั้นมีแต่ทะเลทหารแห้งแล้ง ทำเอาทหารโซราบอลแถวนั้นร้อนรนกันเป็นแถบ
นอร์ท : เฮ้อ
ดินแดบแถบนี้ร้อนจริงๆนะเนี่ยลูก
สการ์เล็ต : นั่นสิคะพ่อ
แต่อีกไม่นานก็จะถึงเมืองราดาสแล้วค่ะ
นอร์ท : แต่กว่าจะถึง
คงจะหมดน้ำไปหลายถังแล้วหล่ะ
สการ์เล็ต : นี่แค่เมืองแรกนะคะเนี่ย
แล้วเมืองต่อไปจะเป็นยังไงคะ
นอร์ท : ไม่ต้องห่วงหรอก
ตอนนี้พ่อให้ทหารของพ่อเสาะหาโอเอซิสแถวนี้แล้วหล่ะ
สการ์เล็ต : ค่ะ
หวังว่าคงจะเจอเร็วๆนี้นะคะ // ในขณะเดียวกัน
ทหารม้าเร็วของนายพลนอร์ทก็โผล่มารายงานสถานการณ์กับเขา
“ท่านครับ
ตอนนี้เราใกล้จะถึงประตูเมืองราดาสแล้วครับ”
นอร์ท : ดีมาก
เตรียมปืนใหญ่ให้พร้อม ส่งคนไปเจรจากับเจ้าเมืองก่อน ถ้ามันไม่ยอมเราค่อยโจมตี
“ครับผม”
กลับมายังแนวป่าแห่งหนึ่ง ระยะทาง 50 กิโลเมตรห่างจากเมืองซอร์ม ในขณะนั้นเอง
กลุ่มกบฏก็เข้าโจมตีทหารของริงก้าเข้าอย่างเต็มกำลัง
เซเลนส์นำกำลังคนของเขาไปสกัดทัพของกลุ่มกบฏไว้
แต่พวกมันก็มากันมากมายราวกับสายน้ำหลาก ทั้งทัพม้าและพลปืนต่างดาหน้าเข้ามาโจมตี
เซเลนส์ : ทหาร
รีบไปสกัดพวกมันจากตรงนั้น เร็ว
“ท่านครับ ปีกซ้ายของเราต้องการกำลังเสริมครับ”
เซเลนส์ : เหรอ
งั้นให้หน่วยที่ 11 กับ 15 ไปเสริมกำลังด่วน
จำไว้นะ อย่าเข้าปะทะกับมันตรงๆ
“ว่าแต่ เราจะยันที่นี่ได้นานแค่ไหนกันครับ”
เซเลนส์ : ฉันก็ไม่รู้
แต่ถ้าจวนตัว นายรีบส่งจดหมายนี้ถึงนายพลอาร์เธอร์ ด่วนเลย
“ครับท่าน”
และที่เมืองซอร์ม
นายพลอาร์เธอร์กำลังเฝ้าดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และในตอนนั้นเอง
เขาก็ปรึกษากับเนม่าทันที
อาร์เธอร์ : ตอนนี้แนวหน้าของเราคงจะแตกอีกไม่นาน
เนม่า : จริงเหรอคะ
แบบนี้เราจะทำยังไงดีหล่ะ
อาร์เธอร์ : ผมจะส่งทัพหลวงอีก
40000 คนไปสมทบหน่ะ
เนม่า : แล้วใครจะอยู่รักษาเมืองนี้หล่ะคะพี่
อาร์เธอร์ : ถ้าแนวหน้าแตก
เมืองนี้ก็คงไม่รอดเหมือนกัน
เนม่า : หวังว่าเซเลนส์คงจะยันพวกมันเอาไว้ได้ก่อนนะคะ
กลับมายังคฤหาสน์ของมาร์ธ่า
ในช่วงนั้นตัวมาร์ธ่าเองก็เริ่มจะเดินไม่ไหวแล้ว
ซิลเวียร์ต้องคอยดูแลอาการและรักษาเบื้องต้นไปก่อน
เพื่อประคองมาร์ธ่าไว้ให้ได้มากที่สุด
ซิลเวียร์ : คุณท่านคะ
ต้องหมั่นกินยาบ่อยๆนะคะ จะได้หายดีค่ะ
มาร์ธ่า : ฉันหวังว่านกของฉันคงจะบินไปถึงนอร์ดิกนะ
ซาร่า : ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ
ยังไงก็ต้องไปถึงแน่ๆ
ซิลเวียร์ : ตอนนี้ท่านนายพลเนโรกำลังรุกคืบไปยังมอร็อคเรื่อยๆ
ฉันกลัวว่า..
มาร์ธ่า : ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ
นอร์ดิกเขาคงออกจากมอร็อคแล้วหล่ะ
ซาร่า : แม่คะ
แม่สงสัยมั้ยคะ วิเวียนช่วงนี้ไม่ค่อยอยู่ติดบ้านเลยนะคะ
มาร์ธ่า : ก็คงจะไปดูแลผัวของเธออ่ะนะ
ซาร่า : ก็ใช่นะคะ
แต่ที่หนูสงสัยก็คือ ทำไมเธอต้องไปแบบเงียบๆด้วย
ซิลเวียร์ : นั่นสิคะ
หนูก็ว่าน่าสงสัยนะคะคุณท่าน
มาร์ธ่า : เอาน่า
ตอนนี้อย่าเพิ่งไปคิดอะไรมากเลยนะ
กลับมายังแคว้นเดลล์
ในขณะที่ความวุ่นวายกำลังแพร่กระจายไปทั่วแดน ความหวาดกลัวปกคลุมไปทั่ว
ในขณะนั้นเอง ชายคนหนึ่งท่าทางจะดูเป็นชายธรรมดาๆ
ได้เอาแท่นไม้ของตัวเองไปตั้งแล้วก็ยืนบนนั้น จากนั้นก็เริ่มพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดมาทั้งคืน
“พี่น้องประชาชนทุกท่าน ถึงเวลาหรือยัง
ที่พวกท่านต้องรับฟังความจริง”
คำพูดของเขาเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นได้ในทันควัน
“ทุกท่าน กี่ปีมาแล้ว นับตั้งแต่ยุคกษัตริย์
จนถึงบัดนี้ ชาวเดลล์ หรือแม้แต่ชาวโนเวร่าทุกท่าน พวกท่านเคยนอนหลับแบบเต็มตาบ้างไหม”
จากนั้นไม่นาน คนก็เริ่มมาฟังที่เขาพูดมากขึ้น
“พวกท่านรู้ไหม ใครยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศนี้
ประชาชนไงหล่ะครับ สิ่งที่พวกเขาได้ไป คือเงินภาษีจากพวกเรา
แต่เรากลับไม่ได้เป็นนายของพวกเขา แบบนี้มันถูกต้องแล้วเหรอครับ” ทุกคนเริ่มปรบมือให้เขาและโห่ร้องดีใจกับเขา
“ประเทศนี้เป็นของพวกท่านทุกคน
แต่ทำไมเราไม่เคยอยู่แบบเจ้าของจริงๆซักครั้ง ถึงเวลาหรือยัง
ที่เราต้องทวงสิทธิ์ของเราคืน” แต่ระหว่างที่เขาพูดอยู่
ก็มีนักเลงกลุ่มเดินเข้ามาพร้อมอาวุธ ทำเอาเขาต้องรีบหลบไปที่อื่นทันที จากนั้นเองเขาก็ไปพบกับเพื่อนของเขาที่กำลังรอเขาอยู่ในซอยแห่งหนึ่ง
“เฮ้ย ซอล เป็นไงบ้าง เกือบโดนตีนแล้วมั้ยหล่ะ”
ชายหนุ่มที่เพิ่งปราศรัยออกมา เขาชื่อฮอริซอล
หรือใครๆก็เรียกเขาว่าซอล
เด็กหนุ่มนักศึกษาหัวสมัยใหม่ที่มีแนวคิดอยากจะเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ แต่กลุ่มอำนาจหลายฝ่ายต้องการกำจัดเขาให้พ้นทาง
ซอล : แค่นี้สิวๆสำหรับฉัน
ไม่ต้องห่วงหรอก
“แต่นายต้องระวังตัวหน่อยนะเฟ้ย
ครั้งต่อไปอาจจะไม่โชคดีก็ได้”
และที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งแถบชายแดนของเดลล์
ทหารกลุ่มหนึ่งกำลังฝึกฝนอาวุธ และยุทธวิธีกันทั้งวันทั้งคืน ราวกับว่าพวกเขากำลังจะทำสงครามกับใคร
ระหว่างที่กำลังทำการฝึก
นายทหารคนหนึ่งวิ่งเข้าไปเคารพผู้บังคับบัญชาคนหนึ่งของเขา
ซึ่งกำลังนั่งอยู่ในห้องอย่างสบายใจ
“ท่านนายพลบลูครับ
ตอนนี้กลุ่มกบฏในแคว้นเดลล์กำลังก่อการอย่างหนักเลยครับ”
นายพลบลู สกาย อดีตนายทหารใหญ่ของแคว้นรูดิว หลังจากที่แคว้นโซราบอลที่เมืองของเขาแตก
เขาได้พานายทหารผู้จงรักภักดีส่วนหนึ่งหนีข้ามพรมแดนเข้ามายังดินแดนของเดลล์
เพื่อทำการซ่องสุมกำลังเพื่อรอดจมตีพวกโซราบอลคืน
บลู : แล้วตอนนี้มีฝ่ายไหนกำลังแข็งแกร่งบ้างหล่ะ
“ที่มีก็น่าจะเป็นฝ่ายของผู้เฒ่าตาร์ก ตอนนี้มันกำลังขับเขี้ยวกับเลดี้อาร์เทมิสอยู่ครับ”
บลู : ส่วนพวกกลุ่มอื่นๆก็มีแต่พวกขุนศึกกิ๊กก๊อกสินะ
“เท่าที่ดูก็น่าจะใช่ครับ”
บลู : ว่าแต่ตอนนี้เรามีทหารซักกี่นายกันหล่ะ
“พวกที่มาจากรูดิว ราวๆ 30000 คน รวมกับแคว้นอื่นอีกกว่าหมื่นคนครับ”
บลู : แค่นี้ยังไม่พอ
คนของเนโรมันมีกันเป็นแสน เราต้องมีแผนการและคนที่ดีกว่านี้
“ได้ครับท่าน เรากำลังดำเนินการอยู่ครับ”
กลับมายังสถานทูตเยอรมัน ในขณะนั้นเอง
แอนตาร์กติกได้รับคำสั่งให้ไปเจอกับนายพลเรือรัสเซีย
เพื่อคานอำนาจกับกองเรือของอังกฤษ ฝรั่งเศสและอเมริกา ซึ่งสถานทูตรัสเซียก็ต้องรับพวกเขาเป็นอย่างดี
สมกับเกียรติของเธอ เมื่อมาถึง โทมารอฟก็ต้อนรับเธอทันที
โทมารอฟ : สวัสดีครับ
เลดี้แอนตาร์กติก
แอนตาร์กติก : ความจริงเรียกฉันว่าแอนตาร์กก็ได้
ท่านโทมารอฟ
จากนั้นโทมารอฟก็เชิญแอนตาร์กติกเข้ามาในห้องโถงรับรอง
แอนตาร์กติก : ท่าทางเมื่อคืนท่านจะโดนมาหนักเลยนะคะ
โทมารอฟ : พวกอเล็กซ์สกี้มันทำอะไรผมไม่ได้หรอก
ว่าแต่ คุณมีกองเรือในบัญชาการเท่าไหร่ตอนนี้
แอนตาร์กติก : มีพอจะยันกองเรือของอังกฤษได้อยู่หน่ะ
โทมารอฟ : ตอนนี้อังกฤษกำลังฝรั่งเศสจ้องจะโจมตีทุกเมื่อ
คุณคงจะรู้นะว่าต้องทำยังไง
แอนตาร์กติก : ฉันเข้าใจ
แต่ว่าจะรบกับพวกนั้นตรงๆก็ไม่ได้ด้วยสิ
โทมารอฟ : เหลือแต่เจ้าอเล็กซ์สกี้
ที่มันเป็นตัวปัญหาของเราตอนนี้หน่ะ
แอนตาร์กติก : ฉันคิดว่าคุณประหารเขาแล้วซะอีกนะเนี่ย
โทมารอฟ : ผมก็อยากทำ
แต่ทำไงได้ มันดันไหวตัวทันซะก่อนหน่ะ ผมเจ็บใจมากเลยนะรู้มั้ย
และที่อีกด้านหนึ่งของเมือง โรงเบียร์แห่งหนึ่ง
ซึ่งมีชั้นสองเปิดเป็นห้องเล่นการพนัน
ในขณะนั้นชายคนหนึ่งกำลังมองไพ่บนมือกำลังเล่นดัมมี่กับคนอื่นๆอยู่
ขณะนั้นเองมีชายคนหนึ่งขึ้นมาหาเขา จากนั้นก็คุยกับเขา
“มีอะไรอีก ไพ่ฉันกำลังสวยเลย”
“คุณอเล็กซ์สกี้ครับ ไอ้โทมารอฟมันจับมือกับเยอรมันเพื่อควบคุมแถบนี้แล้วครับ”
“จะกลัวอะไรหล่ะ
ว่าแต่ตอนนี้อังกฤษกับฝรั่งเศสหล่ะอยู่ที่ไหน”
“ตอนนี้พวกเขากำลังเดินเรือไปแถวริงก้าอยู่ครับ”
“เยี่ยม เป็นไปตามแผน ยืมมือพวกมันเล่นงานกันเอง
ส่วนฉันก็จะฮุบเอาทุกอย่างหมดเลย โดยเฉพาะเลือกหัวของไอ้โทมารอฟด้วย
ตานี้ฉันกินเรียบ” เขาวางไพ่บนมือที่ได้แต้มเยอะที่สุดลง
จากนั้นก็กินเงินจากรอบโต๊ะซะเรียบเลย
กลับมายังฟิลล์บอน
โคน่าพาเพื่อนของเธอกลับมายังบ้านหลังใหญ่ ที่พ่อกับแม่ของเธอมาอยู่ที่นี่
เมื่อโคน่ากลับมาถึงบ้าน เธอก็ทักทายพ่อกับแม่ของเธอทันที
ดราโก้ : อ้าวลูก
กลับมาแล้วงั้นเหรอ
โคน่า : ค่ะพ่อ
หนูมีเรื่องจะมาบอกพ่อกับแม่ค่ะ
อาร่า : โห
เพิ่งกลับมาเหนื่อยๆหาอะไรกินก่อนดีมั้ยจ้ะ
คาเนส : พ่อครับ
แม่ครับ ตอนนี้สงครามมาถึงแคว้นของเราแล้วนะครับ
อาเรียส : ห่ะ
จริงเหรอจ๊ะ พวกโซราบอลบุกมาแล้วงั้นเหรอ
โคลิมบ่า : ครับ
ตอนนี้ได้ข่าวจากซิกนัส พวกมันกำลังโจมตีเมืองราดาสแล้วครับ
อาเรีย : ตอนนี้หนูว่า
รีบย้ายข้าวของออกจากที่นี่ก่อนดีกว่านะคะ
ดราโก้ : พ่อไม่ไปไหนหรอกนะ
ที่นี่เป็นบ้านเกิดของพ่อ ให้พวกมันบุกมาเลยสิ
อาร่า : ใจเย็นสิคะคุณ
ห่วงต้องห่วงตัวเองบ้างนะคะ
คาลิมบ่า : นี่
โคน่า เธอว่าข่าวเรื่องน้ำมันหลุดไปถึงหูพวกโซราบอลได้ไงหล่ะ
โคน่า : ฉันว่านะ
พวกมันต้องมีสายอยู่ที่นี่แน่ๆ
คาเนส : ตอนนี้ผมเตรียมเก็บข้าวของมีค่าเอาไว้ที่บ้านผมที่ริงก้าแล้วครับ
อาเรียส : พี่ว่า
พวกมันคงจะมาไม่ถึงที่นี่หรอก ร้อนจะตายชัก
อาเรีย : ตอนนี้คงต้องรอดูซิกนัสแล้วหล่ะค่ะ
ว่าเขาจะยันพวกมันไว้ได้หรือเปล่า
และทางด้านของซิกนัส
เขานำทหารม้าลาดตระเวนไปยังเมืองราดาส
เพื่อคุ้มกันไม่ให้พวกโซราบอลบุกเข้ามาในเมืองได้ แต่พวกโซราบอลมีมากเกินไป
ทำให้พวกเขาทำได้แต่สังเกตการณ์ไปชั่วคราว
ซิกนัส : จ่า
ตอนนี้ทหารที่อยู่ในเมืองมีกี่นายหล่ะ
“ตอนนี้มีราวๆหมื่นกว่านายครับ”
ซิกนัส : ห่ะ
ทำไมถึงมีแค่นี้เองหล่ะ
“เพราะตอนนี้ทหารบางส่วนล่าถอยไปยังสาร์ฟิชแล้วครับ
ประชาชนก็เริ่มจะทิ้งเมืองก่อนที่พวกมันจะมาซะอีก”
ซิกนัส : พวกโซราบอลอยู่ห่างจากเราแค่
15 ไมล์ เราต้องซื้อเววลาให้ผู้คนบางส่วนหนีไปให้ได้
“ได้ครับท่าน
ตอนนี้เรากำลังคุ้มกันชาวบ้านอยู่ครับ”
ซิกนัส : ตอนนี้เรารีบไปสังเกตการณ์ที่อื่นก่อนดีกว่า
กลับมายังแคว้นเดลล์
นิโคลัสกับเอ็นนำเงินที่ตัวเองได้จากการขายอาวุธนำมาฝากไว้กับธนาคารที่เขาเป็นเจ้าของเอง
ซึ่งคุ้มกันด้วยทหารมากมาย และอยู่ติดริมทะเล
สามารถขนสมบัติออกนอกประเทศได้ถ้าจำเป็น หลังจากที่ขนสมบัติมาเก็บไว้ได้
พวกเขาก็เริ่มคุยกันถึงแผนการในการซื้อขายอาวุธครั้งต่อไป
เอ็น : เออนี่
ปืนใหญ่จากเยอรมันที่สั่งไปจะได้เมื่อไหร่เนี่ย
นิโคลัส : ก็อีกไม่กี่วันหรอก
ฉันเตรียมคาราวานขนของเอาไว้แล้วหล่ะ
เอ็น : เสียดายนะ
ถ้ามีทางรถไฟอาจจะขนได้ง่ายกว่านี้นะ
นิโคลัส : ก็นี่แหละ
ฉันว่าจะปล่อยกู้ให้ทำทางรถไฟด้วย น่าจะดีนะ
เอ็น : แต่ทางรถไฟใช้เงินมากเลยนะ
นายจะไหวงั้นเหรอ
นิโคลัส : ไม่ต้องห่วง
นายก็รู้ตอนนี้เราเงินหนาอยู่แล้วนี่หน่า ว่าแต่
นายจะไม่กลับไปเยี่ยมหลุมศพของพ่อแม่นายหน่อยเหรอ
เอ็น : เรื่องมันนานมาแล้ว
ฉันว่าท่าคงไปสบายแล้วหล่ะ // ในช่วงที่เอ็นยังเด็ก
เขาเสียพ่อแม่ไปอย่างรวดเร็วตั้งแต่เขาอายุ 16 ปี
ทำให้เขาต้องดิ้นรนมาจนถึงทุกวันนี้
นิโคลัส : เอาน่า ถ้าสงครามสงบฉันจะพานายไปมอร็อคก็แล้วกัน
เอ็น : แล้วแต่นายแล้วกัน
ฉันยังไงก็ได้หว่ะ
และอีกด้านหนึ่ง ที่เมืองวาดิส
เมืองที่อาร์เทมิสกำลังวางกำลังป้องกันกลุ่มกบฏอยู่
ระหว่างที่ทหารของเธอกำลังพักเหนื่อย ในขณะนั้นเอง
กองทัพกบฏระลอกสองก็บุกเข้าโจมตีเธออย่างบ้าเลือด ทำเอาพวกเขาหยิบปืนขึ้นมาป้องกันตัวแทบไม่ทัน
พวกเขาพยายามยิงสกัดกลุ่มกบฏเอาไว้ไม่ให้เข้ามาในเมือง
อาร์เทมิส : ยิงเข้าไป อย่าให้พวกมันบุกเข้ามาในเมืองได้
“ท่านครับ กระสุนปืนใหญ่ของเรากำลังจะหมดแล้วครับ”
อาร์เทมิส : ตอนนี้ของจากแคว้นริงก้ายังส่งมาไม่ถึงอีกเหรอ
“กำลังจะมาครับ แต่ช้าหน่อย
ที่นั่นก็กำลังเจอสงครามใหญ่อยู่ครับ”
อาร์เทมิส : ตอนนี้ก็ทำได้แค่พึ่งทุกสิ่งที่เรามีสินะ
พวกเขายิงปะทะกับกลุ่มกบฏไปมา
แต่ก็ยังสกัดยันทัพพวกมันเอาไว้ได้
พวกมันต้องถอนกำลังออกไปเนื่องจากกำลังพลยังมีไม่พอจะต่อสู้
“ท่านเลดี้ครับ วันนี้สามครั้งแล้วนะครับที่พวกมันเข้าตีเรา”
อาร์เทมิส : ไม่ต้องห่วงหรอก
หลังจากที่ความช่วยเหลือจากริงก้ามา พวกเราจะเป็นฝ่ายรุกบ้าง
และอีกด้านหนึ่ง
กลุ่มกบฏก็ถอยออกไปจากแนวหน้าของอาร์เทมิส
จากนั้นก็ไปรายงานความเสียหายกับหัวหน้าของเขา
“ท่านครับ เราเสียคนไปกว่าหลายร้อย แถมปืนของเราก็โดนยึดไปอีกครับ”
“พวกมันใกล้จะหมดแรงแล้ว
ที่เหลือก็เป็นเวลาของพวกเราสินะ พรุ่งนี้เช้ามืดให้โจมตีอีกครั้ง”
“ครับผม”
กลับมายังชายฝั่งแคว้นบาส์ก
หลังจากที่สามสาวหาปลามาได้ พวกเธอทั้งสามคนก็เอาปลาไปขายที่ตลาดปลาแถวนั้น
ซึ่งมีชาวบ้านมาซื้อมากมาย ซึ่งในช่วงนี้อาหารราคาดีกว่าปกติ
เนื่องจากเป็นยุคสงคราม ทำให้พวกเธอพอจะมีเงินประทังชีวิตไปได้บ้าง
โรส : พวกเธอดูสิ
วันนี้เราขายปลาไปได้เยอะเลยนะเนี่ย
แพท : นั่นสิ พรุ่งนี้เราจะหาปลากันต่อ เอามั้ยเมด
เมด : เอาสิ
ฉันก็อยากหาเงินใช้อยู่เหมือนกันนะ
แพท : ว่าแต่
โรส เธอไม่เคยคิดอยากจะไปจากที่นี่เลยเหรอ
โรส : ที่นี่เป็นบ้านฉัน
ฉันไม่เคยคิดจะหนีไปไหนหรอกจ้ะ
เมด : อ้อ
เยี่ยมไปเลย ฉันเองก็เคยคิดอยากกลับบ้านเหมือนกัน
ในระหว่างที่พวกเธอกำลังพูดคุยกัน ในตอนนั้นเอง
ก็มีทหารต่างชาติพวกหนึ่งได้ไปรังแกชาวบ้าน ทำเอาพวกเธอแทบจะทนไม่ไหว
เพราะพวกมันรังแกชาวบ้านไปทั่วเลย
แพท : ดูมันทำสิ
รังแกคนโนเวร่าแบบนี้ได้ยังไง
เมด : ใช่
บ้านเมืองมีกฎหมายนะ แบบนี้ต้องคุยกันหน่อยหล่ะ // เมดเดินเข้าไปหามัน
โรส : นี่
ใจเย็นๆสิ อย่าทำอะไรวู่วามเลย
ในขณะที่พวกมันกำลังเมาและอาละวาด เมดเข้าไปเอาขวดแถวนั้นตีไปที่หัวมัน
จนพวกมันหันมามองเธอเป็นตาเดียว
เมด : นี่
อย่ารังแกคนไม่มีทางสู้สิยะ
“ว้าว น้องสาว ไม่กลัวพี่ต่อยฟันร่วงงั้นเหรอจ๊ะ” เมดต่อยปากมัน จนฟันมันร่วงจริงๆ
“อี.. กูจะฆ่ามึง
พวกเรา เล่นแม่งเลย”
พวกเขาทั้งคู่พยายามจะเข้าต่อยเมดและแพท
แต่ทั้งคู่เรียนมวยมาเยอะกว่า เธออัดพวกมันจนสลบเหมือดเรียงตัว มันคนหนึ่งทนไม่ไหว
จับตัวโรสเป็นตัวประกัน
“ถ้ามึงเข้ามาอีกก้าวเดียว อีนังนี่ตายแน่”
แพท : นี่
ถ้าแกแตะต้องเพื่อนฉัน แกไม่ตายดีแน่ // แต่ในตอนนั้นเอง
เมดเลือกที่จะชักปืนยิงหัวมัน จนมันล้มลงนอนแน่นิ่งไปทันที
เมด : เป็นยังไงบ้างโรส
เจ็บตรงนั้นหรือเปล่า
โรส : ไม่เป็นไรจ้ะ
รีบหนีไปจากที่นี่กันเถอะนะ // พวกเธอทุกคนรีบเก็บของขึ้นเรือ
ก่อนที่ทหารต่างชาติคนอื่นจะตามตัวเธอมาทัน
กลับมายังชายแดนของแคว้นเดลล์ หลังจากที่พวกเขาหนีตายจากกลุ่มโจรมาได้
พวกเขาก็เดินทางกันต่อ แล้วก็พักเหนื่อยบนรถม้ากันไปพลางๆ
ไซโซ : เฮ้อ
เกือบตายแล้วมั้ยหล่ะพวกเรา
เคจา : นั่นดิ
ว่าแต่นอร์ดิก คุณยายเขียนจดหมายมาว่าไงบ้างหล่ะ
นอร์ดิก : มันไม่ได้มีแค่ของคุณย่าด้วยหล่ะ
ห่ะ ซิลเวียร์ส่งจดหมายถึงฉันด้วย // นอร์ดิกไม่รอช้าเปิดจดหมายฉบับนั้นอ่านทันที
“นอร์ดิกที่รัก
ฉันรู้ว่ากระดาษแผ่นนี้อาจจะบอกความในใจของฉันได้ไม่ทั้งหมด แต่ฉันอยากจะบอกว่า
ฉันยังคิดถึงเธอตลอดเวลา รอวันที่เธอจะกลับมาหาฉันที่โซราบอลนะ รักเสมอ ซิลเวียร์”
ไซโซ : โอโห้
อยากมีแบบนี้บ้างจังเลยอ่ะ
เคจา : ซิลเวียร์รักนายมากนะนอร์ดิก
นายจะเอายังไงต่อหล่ะ
ซิลเวียร์ : วันหนึ่งฉันจะไปพาซิลเวียร์มาอยู่กับฉันให้ได้เลย
ไซโซ : ขอให้มีวันนั้นนะไอ้น้อง
ในระหว่างนั้นเอง
อาบาตูก็ตะโกนบอกเด็กๆที่อยู่ด้านหลัง
อาบาตู : คุณหนูครับ
เรามาถึงแคว้นเดลล์แล้วครับ // พวกเขาโผล่ออกมาดูสภาพของแคว้นเดลล์ที่กำลังวุ่นวายอยู่ตอนนี้
ควันไฟมาแต่ไกล ตามมาด้วยเสียงปืนเป็นระยะๆ
เคจา : อีกไม่กี่อึดใจ
เราก็ถึงริงก้าแล้วสินะ
นอร์ดิก : ผมว่า
เรารีบเข้าเมืองแล้วหาที่พักสำหรับคืนนี้ดีกว่านะครับ
จากนั้นพวกเขาก็ควบรถม้าเข้าไปในเมือง โดยที่ไม่รู้ว่าทางข้างหน้าพวกเขาจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
=========================================================================
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ
ความคิดเห็น