คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : EP 5 : บาดเจ็บ
ตกเย็น
พวกของนอร์รีนก็มารวมตัวกันเพื่อตกลงว่าใครจะเป็นคนออกไปหาของที่ด้านนอก พวกเขามารวมตัวกันที่ห้องโถงอย่างรวดเร็วก่อนที่จะสายไปมากกว่านี้
มิเชล : โอเค
ในที่สุดทุกคนก็มาซะทีนึงนะเนี่ย
นอร์รีน : ยูจีน
ซิลเวียเป็นยังไงบ้างหล่ะตอนนี้
ยูจีน : ตอนนี้ไข้ลดลงแล้วหล่ะ
ขอบใจนายมากๆเลยนะ
โทนี่ : ว่าแต่
คืนนี้ใครจะเป็นคนออกไปดีหล่ะ
นอร์รีน : ผมขอออกไปเองบ้าง
ยูจีนคงต้องเฝ้าแฟนของเขาอ่ะนะ
ตะวัน : ผมไปด้วยครับ
อย่างน้อยน่าจะพอช่วยอะไรได้บ้าง
อลัน : ถ้างั้นฉันไปด้วย
ฉันพอจะรู้ทางในเมืองนี้หน่ะ
ไลฟ์ : ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะคะพี่
อย่าเพิ่งทิ้งหนูไปหล่ะ
เอจิ : ผมว่านะ
เราควรแบ่งคนไปเฝ้าด้านข้างอพาร์ทเม้นท์ด้วยนะ
เอสเทอร์ : ก็จริงนะ
ไม่งั้นอาจจะมีคนแบบพวกนายโผล่มาร่วมแจมด้วย
โทนี่ : ถ้างั้นผมจะอยู่เฝ้าที่นี่เองครับ
ผมน่าจะช่วยอะไรได้บ้าง
อลิซ : โอเค
นี่พวกนาย ฉันกับมิสซึจดรายชื่อของที่จะให้พวกนายไปหามาด้วยหน่ะ มิสซึ
ส่งให้พวกเขาไปหน่อยสิ // พวกเขารับกระดาษโน้ตใบหนึ่งจากมือมิสซึ
มิสซึ : ของอาจจะเยอะหน่อยหน่ะครับ
ยังไงก็ฝากด้วยก็แล้วกันะ
นอร์รีน : ได้ครับ
ยังไงทุกคนอยู่ที่นี่ก็ระวังตัวด้วยนะครับ
บารีร่า : รีบกลับมานะคะพี่
เดี๋ยวจะมืดซะก่อนจะลำบาก
ซีโร่ : พี่
อย่าเพิ่งทิ้งผมไปสิ ผมไปด้วยนะครับ
ซีโร่ขอนอร์รีนไปด้วย นอร์รีนจึงต้องให้ซีโร่ไป
จากนั้นไม่นานก็พวกเขาก็ออกเดินทางไปยังเป้าหมายของพวกเขาเพื่อหาของต่อไป
และอีกด้านหนึ่งของเมือง หน่วยดอว์นซอร์ดเตรียมกำลังคนเพื่อบุกจู่โจมที่มั่นของกลุ่มกบฏในตึกแห่งหนึ่ง
อเล็กซ์ซานเดอร์ถือปืนรออยู่ที่หน้าประตู
โดยที่อีริคกำลังเล็งสไนเปอร์ใส่ศัตรูอยู่
อเล็กซานเดอร์ : มาร์คแมน
ยิงตัวที่นายคิดว่าจะไม่มาป่วนพวกเรา
มาร์คแมนคือรหัสของอีริค เมื่ออีริคได้ยิน
อีริคก็จัดการยิงพวกกบฏที่คุมกำลังอยู่บนดาดฟ้าและริมหน้าต่าง
อีริค : มาร์คแมนเรียกบอส
ตอนนี้ดาดฟ้าและริมหน้าต่างเคลียร์
ซิลเวสเตอร์ : บอมบาเดียร์
ตัดสัญญาณการสื่อสารและไฟฟ้าของพวกมัน
บอมบาเดียร์หรือเควิน เมื่อเขาได้ยินคำสั่ง
เขาก็ทำการตัดสัญญาณสื่อสารและไฟฟ้าด้านในตึก ทำเอาพวกนั้นโกลาหลกันใหญ่
บอมบาเดียร์ : ด้านในตึกเคลียร์
ตอนนี้พวกมันหมดโอกาสเรียกกำลังเสริมแล้ว
ซิลเวสเตอร์ : ดีมาก
อีสเตอร์เอ้ก ระเบิดประตูและบุกเข้าไปเลย
อีสเตอร์เอ้ก คาสเตอร์ เมื่อเขาได้ยินคำสั่ง
เขาก็แปะระเบิดที่ประตู เมื่อประตูระเบิด เขาก็บุกเข้าไปพร้อมกับปืนลูกซอง
ยิงกราดกลุ่มกบฏจนแตกกระเจิง จากนั้นเขาก็เคลียร์พื้นที่ด้านใน
คาสเตอร์ : นี่อีสเตอร์เอ้ก
ย้ำ ตอนนี้พื้นที่ด้านในเคลียร์แล้ว
ซิลเวสเตอร์ : เอาหล่ะ
ถล่มให้ราบไปเลย
พวกเขาบุกเข้าไปจัดการกลุ่มกบฏด้านใน
กลุ่มกบฏพยายามจะสกัดพวกเขาแต่ไม่เป็นผล หัวหน้าของพวกมันพยายามจะหนีออกจากตึก
ในตอนนั้นเองอเล็กซานเดอร์พยายามจะวิ่งตามมันไป
“พลัก”
หัวหน้ากลุ่มกบฏยังไม่ทันจะหนี
มันดันโดนอเล็กซ่าเตะเข้าเบ้าหน้าซะก่อน จากนั้นหัวหน้าของพวกมันก็ล้มลงในทันที
โดยที่อเล็กซ่าจับตัวมันเอาไว้ได้
อเล็กซ่า : ฉันจับตัวมันไว้ได้แล้วค่ะหัวหน้า
อเล็กซานเดอร์ : ทำดีมาก
เดี๋ยวฉันจะเอามันไปเอง
อเล็กซ่า : หวังว่าท่านคงจะไม่รุนแรงเกินไปนะคะ
ไม่งั้นเขาไม่ยอมพูดแน่
อเล็กซานเดอร์ : ไม่ต้องห่วงหรอก
// อเล็กซานเดอร์ลากคอหัวหน้ากลุ่มกบฏไปด้านในห้องโถง
เตรียมพร้อมจะทำการเค้นข้อมูลจากมัน
และที่อีกด้านหนึ่งของเมือง
ซึ่งไม่ห่างจากเขตในตัวเมืองเท่าไหร่
อนูวาเดินทางต่อไปเรื่อยๆเพื่อหาทางติดต่อกับกลุ่มกบฏในเมือง
แต่เธอเดินทางมาหลายชั่วโมงแล้วยังไม่เจอกลุ่มกบฏตามที่หวังเลย
มองไปทางไหนก็เจอแต่ชาวบ้านที่มาขออาหารกับซากเมืองร้างๆที่เพิ่งจะโดนถล่ม ระหว่างที่เธอกำลังเดินทาง
เธอดันมาเนอกลุ่มคนถือปืนคนหนึ่งเดินมาหาเธอ มันเจออนูวาแล้วตกใจ
เพราะมันรู้ว่าเธอเป็นใคร เขารีบวันทยหัตถ์เธอในทันที
“ท่านอนูวาครับ ผมร้อยเอกรูกี้ จากหมู่พอร์กกี้ครับ”
อนูวา : อะไรกัน
นี่พวกนายมาที่นี่ทำไมกัน
รูกี้ : ท่านนายพลส่งผมมาช่วยหน่ะครับ
อนูวา : โอเค
ว่าแต่สถานการณ์เป็นยังไงบ้างหล่ะ
รูกี้ : ครับ
ตอนนี้ทหารของประธานาธิบดีเริ่มทำการรุกคืบในแถบชานเมืองแล้วครับ
อนูวา : ตอนนี้ฉันยังติดต่อกลุ่มกบฏไม่ได้เลย
ที่เจอก็โดนบดขยี้กันหมด
รูกี้ : แล้วแบบนี้จะทำยังไงต่อดีหล่ะครับ
อนูวา : เอาแบบนี้นะ
ฉันจะลองติดต่อกับชาวบ้านแถวนี้ พวกนายปลอมตัวเป็นพวกกบฏอยู่แถวนี้ไปก่อนแล้วกัน
รูกี้ : แต่ว่าจะดีเหรอครับ
อนูวา : ฉันจัดการได้น่า
ไม่ก็พวกนายคอยดูฉันห่างๆก็แล้วกัน // ในขณะนเดียวกันเธอก็เห็นอพาร์ทเม้นท์หลังหนึ่ง
เธอคิดว่าเธอจะเข้าไปพักด้านในนั้น เธอสั่งให้ทหารของเธอไปตรวจดูรอบๆก่อน
ก่อนที่เธอจะเข้าไปพักผ่อนด้านใน
ณ กระทรวงกลาโหม ประเทศไทย
หลังจากที่ทางการไทยได้รับข่าวว่ามีนักบินทหารไทยถูกโจมตีโดยกองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่โซราติก
ทางการไทยได้เร่งประชุมเรื่องนี้เป็นการด่วน เนื่องจากพวกเขาต้องการตัวนักบินกลับคืนและต้องการทราบว่าฝ่ายไหนอยู่เบื้องหลังเรื่อง
ในห้องประชุมห้องหนึ่ง
นายทหารยศสูงคนหนึ่งเดินเข้ามาด้านในห้องโดยที่ลูกน้องคนอื่นกำลังรอเขาอยู่
นายทหารคนนั้นรีบนั่งลงแล้วเริ่มประชุมทันที
“ท่านทั้งหลาย ตอนนี้พวกท่านคงจะทราบข่าวจากโซราติก เรื่องนักบินของเราแล้วสินะ”
“ทางเราได้ยื่นคำขาดกับทางโซราติกเรียบร้อยแล้วครับ
ถ้าพวกเขายังหาคนผิดไม่ได้ จะถือว่าพวกเขาประกาศสงครามกับเราครับ”
“ตอนนี้ชีวิตนักบินของเราสำคัญกว่านะครับ
ตอนนี้พวกคุณมีแผนอะไรหรือเปล่าหล่ะ”
“ทางผมจะส่งหน่วยรบพิเศษหน่วยนี้เข้าไปช่วยเหลือเขาครับ” นายทหารคนหนึ่งยื่นเอกสารส่งให้นายพลใหญ่
“กรมรบพิเศษที่ 3 หน่วยที่ 5 พวกคุณแน่ใจเหรอว่าจะให้พวกเขาไป”
“ท่านครับ เรื่องแบบนี้ต้องให้เจ้าหน้าที่มือดีเข้าไปเท่านั้นครับ”
“ก็ได้ ถ้าอย่างงั้นรีบติดต่อหน่วยนี้ในทันที
ก่อนที่เหตุการณ์จะแย่ไปกว่านี้ ไปจัดการได้”
หลังจากการประชุมสิ้นสุดลง
พวกเขาก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของพวกเขาต่อ
และที่ทำเนียบประธานาธิบดีโซราติก
ประธานาธิบดีโซราติกกำลังเคร่งเครียดอย่างหนัก
เนื่องจากทางการไทยยื่นคำขาดให้เขาหาตัวนักบินไทยโดยด่วน
ไม่เช่นนั้นทางการไทยจะตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับโซราติกทั้งหมด
รวมถึงอาจจะใช้ยุทธวิธีทางการทหารกับโซราติกด้วย
เขาเรียกผู้ช่วยของเขามาหาเขาในทันที
“ท่านประธานาธิบดีครับ”
“ตอนนี้หาตัวนักบินคนนั้นเจอหรือยัง”
“ยังเลยครับท่าน
แต่ตอนนี้ทางเราได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจไปยังสถานทูตไทยแล้วครับ”
“แค่นั้นมันยังไม่พอ ตอนนี้ทางการไทยและ UN กดดันฉันมาทุกวัน
ให้จัดการเรื่องสงครามและนักบินบ้าที่โดนยิงตกนั้น”
“ผมว่า ส่งคนไปสำรวจให้ทั่วเมืองเลยดีหรือเปล่าครับ”
“ไม่ได้ ตอนนี้พวกกบฏยังเข้มแข็งอยู่
พยายามถ่วงเวลาสหประชาชาติไว้จนกว่าเราจะบดขยี้กลุ่มกบฏได้หมด จัดการตามนั้น”
“ได้ครับท่าน”
เลขาของประธานาธิบดีรีบร้อนออกไปจากห้อง
ปล่อยให้ประธานาธิบดีนั่งดื่มเหล้าด้วยความเครียด
และที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตร้างแห่งหนึ่ง
พวกของนอร์รีนเดินทางโดยที่อลันเป็นคนนำทางพวกเขามา เนื่องจากว่าที่นี่เป็นแหล่งเก็บเสบียงอีกแหล่งหนึ่ง
ซึ่งเมื่อพวกเขามาเห็น สภาพของมันก็พังยับไปบางส่วน
จนพวกเขาคิดว่าไม่รู้จะมีของที่พวกเขาต้องการอยู่ด้านในหรือเปล่า
นอร์รีน : ดูสภาพเหมือนเพิ่งจะโดนถล่มมาเลยนะเนี่ย
ตะวัน : นั่นสิ
พวกนายแน่ใจนะว่าจะมีของให้พวกเราในนี้
อลัน : แน่ใจสิ
ตอนที่ฉันมาตอนแรกยังไม่มีใครไปเอาของข้างในเลยนะ
ซีโร่ : ผมว่า
เราแยกย้ายกันไปหาของดีกว่านะพี่
หลังจากนั้น
พวกเขาก็แยกย้ายเข้าไปในแต่ละส่วนของห้าง เพื่อสำรวจหาของที่จำเป็น
แต่ในห้างนั้นไม่ได้มีแค่พวกเขา อลันเดินไปที่ด้านหลังของห้าง
ซึ่งเขาได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลัง ในตอนนั้นเอง เขาได้เสียงปึงปังๆด้านหลัง
อลันจึงรวบรวมความกล้าเพื่อเปิดประตูเข้าไปดู แต่ในตอนนั้นเอง
เขาเห็นภาพที่เหล่าทหารคนหนึ่งกำลังช่วยกันรุมถอดเสื้อหญิงสาวผู้น่าสงสารคนหนึ่งเพื่อที่จะย่ำยีเธอ
ในตอนนั้นเอง เขาก็โดนสันปืนฟาดเข้าที่ท้ายทอย
“ไอ้บ้าเอ้ย ไหนว่าจะไม่มีคนมาไง”
“ช่างมันเถอะ มันคงจะมาแค่คนเดียว เรามาสนุกกันต่อดีกว่าหว่ะ”
มันหันไปรุมเล่นงานผู้หญิงต่อ
คราวนี้ผู้หญิงขัดขืนอย่างหนักจนโดนมันต่อยเข้าที่หน้าท้อง ทำเอาเธอไม่มีแรงขัดขืน
“ต้องให้ออกกำลังหรือไงวะ”
มันค่อยๆถอดเสื้อเธอออกทีละชิ้นต่อหน้าอลัน
ในขณะเดียว นอร์รีน ตะวันและซีโร่ที่กำลังหาเพื่อนเขาอยู่
เขาเดินผ่านมาก็พบว่าเพื่อนของเขาโดนทหารเล่นงานอยู่ ในตอนนั้นเอง
พวกเขาก็คุยกันว่าจะเอายังไงต่อ
ซีโร่ : แย่หล่ะ
พี่อลันกำลังแย่ ต้องช่วยพี่เขาแล้ว
นอร์รีน : แล้วเราจะทำยังไง
เราไม่มีปืนซักกระบอกเลยนะ
ตะวัน : ผมจัดการเอง
ถ้าผมให้สัญญาณทุกคนรีบวิ่งหนีไปคนละทางเลยนะ
ตะวันคว้ากระป๋องน้ำอัดลมกระป๋องหนึ่งปาใส่หัวมัน
ทำเอาพวกมันต้องถือปืนเตรียมพร้อมต่อสู้
“เฮ้ย ใครวะ ตามไปฆ่าแม่งเลย”
พวกมันสามถึงสี่คนก็รีบตามหาคนที่ปากระป๋องใส่เขา
แต่อีกคนหนึ่งไม่ตามไป พยายามจะไปเล่นงานผู้หญิงคนนั้นต่อ
“เหลือแค่เราสองคนแล้วน้องสาว”
แต่ในตอนนั้นเอง อลันตื่นขึ้นมาล็อคคอมัน
มันพยายามขัดขืนแต่สู้แรงเขาไม่ได้ จากนั้นมันก็สิ้นใจตายคามืออลันไปอย่างดื้อ
จากนั้นอลันก็ไปดูอาการของผู้หญิงที่กำลังนอนเจ็บอยู่
อลัน : คุณครับ
เป็นยังไงบ้างครับ คุณปลอดภัยแล้วนะ
“ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยฉัน ฉันจะไม่ลืมเลย”
อลัน : คุณอยู่ที่นี่ก่อนนะครับ
ผมจะไปช่วยเพื่อนผมก่อน // จากนั้นอลันก็วิ่งไปพร้อมกับปืนกลของทหารที่นอนตายตรงนั้น
อีกด้านหนึ่ง ทหารสี่นายก็ไล่ตามล่าพวกของนอร์รีนที่หนีไปคนละทาง
ในตอนนั้นเองพวกมันสองคนตามล่าตะวันซึ่งวิ่งไปอีกทาง แต่ระหว่างที่กำลังวิ่งตาม
ชั้นวางสินค้าก็ล้มใส่พวกมันสองคน ทำเอาพวกมันตกใจกันยกใหญ่
จากนั้นตะวันก็จัดการปลดอาวุธของพวกมันทั้งคู่
“เฮ้ย มึงเป็นใครกันวะ”
ตะวัน : เป็นคนที่จะมากระทืบแกยังไงหล่ะ
// ตะวันวิ่งเข้าไปประเคนหยัดมวยกับพวกมัน
พวกมันชักมืดออกมาจะเล่นงานเขา แต่ฝีมือของตะวันเหนือชั้นกว่า
ทำเอาพวกมันล้มไม่เป็นท่าอย่างง่ายดาย
อีกด้านหนึ่ง ทหารคนหนึ่งวิ่งไล่ตามซีโร่ไป
แต่ก็ไล่ตามซีโร่ไม่ทันซะที ทำเอาเขาถึงกับต้องพักหายใจอยู่ตรงนั้น
“ไอ้บ้าเอ้ย เด็กบ้าไรวะ วิ่งเร็วชิบหาย”
แต่ในตอนนั้นเอง ซีโร่ก็ปาขวดแก้วใส่มัน
มันหยิบปืนมาจะยิงซีโร่ตรงนั้นแต่มีคนมาฟาดมันด้านหลังซะก่อน
ซึ่งนั้นก็คือนอร์รีนนั้นเอง มันโกรธจัดจะเล็งปืนใส่นอร์รีน
แต่ทั้งคู่แย่งปืนกันไปกันมา ในตอนนั้นเอง มันอีกคนหนึ่งพยายามจะยิงใส่นอร์รีน
แต่ซีโร่ปากระป๋องน้ำแถวนั้นใส่มันเข้าหน้า จากนั้นซีโร่ก็วิ่งไปชนมันจนล้ม
จากนั้นก็พยายามต่อยมันตอนที่ยังนอนอยู่
“หืม ไอ้เด็กเวรเอ้ย”
มันจับซีโร่เหวี่ยงไปโดนชั้นวางของ
จากมันก็ชักมืดออกมาหวังจะฆ่าซีโร่
นอร์รีน : ซีโร่
อดทนไว้ก่อนนะ // นอร์รีนเหยียบเท้ามันจากนั้นก็แย่งปืนมันมาแล้วฟาดเข้าไปที่หัวมันจนมันล้มลง
จากนั้นก็รีบวิ่งไปช่วยซีโร่ นอร์รีนเอาปืนฟาดมันแต่มันไม่เป็นไร
มันหันกลับมาเอามีดแทงเข้าที่ท้องของนอร์รีน
ซีโร่ : พี่นอร์รีน
// ซีโร่วิ่งเข้ามาจะแย่งมีดจากมัน
แต่มันเหวี่ยงซีโร่จนล้มลง มันพยายามจะแทงซีโร่ แต่ทว่า
“พลั๊ก”
อลันกับตะวันมาช่วยเอาไว้ได้
ทำเอาซีโร่ถึงกับโล่งใจในทันที
อลัน : เป็นยังไงบ้าง
ปลอดภัยนะ
ซีโร่ : พี่นอร์รีนถูกแทงครับ
ช่วยด้วยครับพี่
ทั้งคู่รีบเข้าไปดูอาการของนอร์รีนในทันที
เขาโดนแทงเข้าที่หน้าท้องด้านซ้าย ตะวันพยายามหาอะไรปิดแผลเอาไว้
ตะวัน : ยังดีนะไม่โดนจุดสำคัญ
แต่ต้องเย็บแผลเขาด่วนเลย
ในขณะเดียวกัน
หญิงสาวคนที่ถูกอลันช่วยเอาไว้ก็เดินตามมาดูทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
“คุณคะ เพื่อนคุณถูกแทง”
อลัน : ครับ
ผมต้องรีบพาเพื่อนไปแล้ว ว่าแต่คุณเป็นใครครับ
ฮาน่า : ฉันชื่อฮาน่า
ขอบคุณพวกคุณมากนะคะที่ช่วยฉัน ไม่งั้นฉันแย่แน่ๆ
ตะวัน : ซีโร่
รีบไปเก็บของๆเรามาเร็ว เราต้องไปกันแล้ว // ซีโร่รีบวิ่งไปหยิบของที่เขาเก็บมาได้เป็นการด่วน
อลัน : ผมต้องไปแล้ว
ไว้เจอกันใหม่นะครับ ผมชื่ออลันนะครับ
หลังจากที่ซีโร่เก็บของที่จำเป็นมาได้ พวกเขาก็รีบแบกทั้งของและนอร์รีนกลับไปยังอพาร์ทเม้นท์เพื่อรักษาอาการของเขาเป็นการด่วน
ที่อพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน
ในขณะที่โทนี่กำลังถือปืนเฝ้าอพาร์ทเม้นท์
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้โทนี่
โทนี่ได้ยินจึงรีบวิ่งไปเตือนทุกคนในทันที ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจะเจอเรื่องใหญ่ซะแล้ว
โทนี่ : แย่แล้วทุกคน
มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังมาทางนี้
เอจิ : พวกไหนกันหน่ะ
อย่าบอกนะว่าเป็นพวกโจรหน่ะ
ยูจีน : ฉันจะสู้กับพวกมันเอง
เอสเทอร์ ไลฟ์ เธอช่วยเฝ้าซิลเวียในห้องฉันด้วยนะ
ไลฟ์ : แล้วพวกเธอจะไหวเหรอ
พวกมันอาจจะมีเยอะก็ได้
เอสเทอร์ : นั่นสิ
แถมอาวุธก็มีน้อย จะทำยังไงหล่ะ
มิสซึ : ไม่ต้องห่วงหรอกครับ
ผมเคยเรียนต่อสู้มาบ้าง
อลิซ : ส่วนฉันเหรอ
ฉันก็ต่อยคนเป็นเหมือนกันนะ
มิเชล : เอาเป็นว่า
ทำตามที่ฉันบอกก็แล้วกัน ฉันมีแผนแล้ว
ในขณะเดียวกัน
พวกมันก็เข้ามาด้านในอพาร์ทเม้นท์เพื่อทำการค้นหาของด้านใน
มันค้นทุกซอกทุกมุมเพื่อหาของที่จำเป็นเพื่อเอาไปใช้งาน
พวกมันค่อยๆเดินสำรวจด้านในเพื่อป้องกันไม่ให้ใครเห็น
“ลูกพี่ ลูกพี่ว่าจะมีคนอยู่ที่นี่หรือเปล่า”
“ฉันก็ไม่รู้ ที่นี่ดูเงียบวังเวงจังเนี่ย”
ระหว่างที่พวกมันกำลังเดินสำรวจ คนของมันก็โดนลอบฆ่าไปที่ละคนจากฝีมือของเอจิและยูจีน
ทำเอาพวกมันเริ่มจะสงสัยว่าคนของมันหายไปไหน
“เฮ้ย พวกแกอยู่ไหนกันวะ”
“สงสัยมันจะไปสูบบุหรี่กันแถวนี้มั้งพี่ ไอ้พวกนี้ บุหรี่ยิ่งหายากๆอยู่”
แต่ในขณะที่แอบซ่อน
บารีร่าเผลอไปชนกันแจกันจนล้มเข้าโดนไม่ได้ตั้งใจ ทำเอาพวกมันชักอาวุธออกมา
แล้วเดินไปตามเสียงแจกันที่แตก แต่ในระหว่างที่มันกำลังเข้ามาใกล้
หมาของเอจิก็วิ่งไปกระโจนใส่มันพอดี
“อ๊าคคค บ้าเอ้ย!!”
หลังจากที่ความแตก
พวกเขาก็เผยตัวออกมาแล้วเข้าไปตะลุมบอนกับมันในทันที พวกเขาต่อสู้กันท่ามกลางแสงไฟอันน้อยนิดที่มีอยู่รอบข้าง
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันแต่พวกโจรเริ่มจะอ่อนแอแล้ว
ในตอนนั้นเองเอจิก็ชักดาบซามูไรจัดการกับมัน ไลฟ์โดนตบจนล้มลง
มันพยายามจับตัวเธอไปแต่เอจิขวางเอาไว้ ทำให้มันคนหนึ่งชักมีดออกมาแทงเขาจนล้มลง
ไลฟ์เห็นเอจิโดนแทงตรงหน้าจึงร้องให้คนช่วย
หมาของเอจิกัดโจรที่แทงเอจิจนร้องโหยหวน และในตอนนั้นเอง
ก็มีเสียงปืนดังขึ้นมาจากด้านอก ซึ่งคนยิงก็คืออนูวาที่นอนพักอยู่แถวนั้น
เธอได้ตามรอยเสียงเอะอะโวยวายมาเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
อนูวา : นี่มันอะไรกัน
จะปล้นกันแถวนี้หรือไงห่ะ
พวกมันทนไม่ไหวแยกย้ายหนีกันไป โทนี่พยายามจะไล่ยิงมันแต่ยูจีนห้ามเอาไว้ก่อน
ยูจีน : โทนี่
ไม่ต้องหรอก ปล่อยมันไป
โทนี่ : เดี๋ยวมันก็กลับมาฆ่าเราหรอกพี่
จะปล่อยไปทำไม
ยูจีน : เปลืองกระสุนเปล่าๆน่า
ช่างมันเถอะ
ไลฟ์ : ใครก็ได้ช่วยด้วย
เอจิโดนแทง ช่วยด้วย // ไลฟ์พยายามเอามือเธอปิดแผลของเอจิเอาไว้
จากนั้นทุกคนก็รีบไปดูอาการของเอจิทันที
เอสเทอร์ : ตายแล้ว
เขาจะเป็นไรหรือเปล่าเนี่ย
มิเชล : เดี๋ยวฉันจัดการเอง
พวกเธอไปเอายามาหน่อยสิ // พวกเขารีบไปเอายาและอุปกรณ์ทำแผลให้มิเชล
จากนั้นเธอก็เตรียมพร้อมที่จะทำแผลให้กับเอจิ
มิสซึ : เร็วเข้าหน่อยนะ
ไส้เขาจะไหลออกมาแล้วเนี่ย
ในตอนนั้นเอง
ในระหว่างที่พวกเขากำลังทำแผลกันอยู่ ในตอนนั้นเองกลุ่มของนอร์รีนก็กลับมาพอดี
ในตอนนั้นบารีร่าก็ออกมารอรับพวกเขา
บารีร่า : พี่นอร์รีน
กลับมาแล้วเหรอคะ พี่นอร์รีน??
ซีโร่ : พี่นอร์รีนโดนแทง
รีบเคลียร์พื้นที่หน่อยสิ
อลิซ : แย่แล้ว
ทุกคน ทางนี้นอร์รีนก็บาดเจ็บ ช่วยด้วย
มิเชลที่ได้ยินตอนนั้นเกือบจะทิ้งเอจิไปดูนอร์รีนแล้ว
แต่นอร์รีนขอให้ไปช่วยเอจิก่อน มิเชลในตอนนั้นเป็นห่วงนอร์รีนมากจนทำอะไรไม่ถูก
ตะวัน : คุณไปช่วยเอจิเถอะ
ผมทำแผลให้เขาเอง
อนูวา : ฉันทำเอง
ฉันเคยเรียนเย็บแผลมา คุณไปนั่งพักดีกว่า // ยูจีนพามิเชลไปนั่งพักอยู่แถวนั้น
ในขณะที่ทุกคนกำลังยุ่งอยู่กับการรักษาคนเจ็บที่นอนอยู่
อลัน : แล้วแบบนี้ทั้งคู่จะเป็นยังไงบ้างเนี่ย
ซิลเวีย : ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
หวังว่าพวกเขาจะไม่เป็นไรนะ
การทำแผลดำเนินต่อไปเรื่อยๆทั้งคืน
พวกเขาต่างพยายามช่วยชีวิตคนของเขาอย่างสุดความสามารถในขณะที่ปัจจัยต่างๆไม่เอื้ออำนวย
ณ เขตเมืองซึ่งถัดมาจากชานเมืองไม่กี่กิโลเมตร
หลังจากที่เร็นและเอ็ดเวิร์ดหนีจากกลุ่มทหารมาได้
พวกเขาก็มานั่งพักกันที่ตึกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นตึกร้าง หลังจากนั้นพวกเขาก็นั่งคุยกันเพื่อรับฟังเรื่องราวของแต่ละฝ่าย
เร็น : โชคดีนะที่เราหนีมาได้
ว่าแต่นายมาทำอะไรที่นี่หล่ะ
เอ็ดเวิร์ด : เออน่า
เรื่องมันยาว ไม่ต้องรู้หรอก
เร็น : เฮ้ย
ไม่เออน่าดิ เอาดีๆ เราคนชาติเดียวกันนะ
เอ็ดเวิร์ด : ก็ได้
ฉันมาจาก MI6 รับคำสั่งมาเพื่อดูความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีที่นี่หน่ะ
เร็น : งั้นเหรอ
ฉันก็ MI6 เหมือนกัน แต่ของฉันเหนือชั้นกว่า
เอ็ดเวิร์ด : จริงเหรอ
เหนือกว่ายังไงหล่ะ
เร็น : ของฉันต้องสังหารประธานาธิบดีหน่ะสิ
เอ็ดเวิร์ด : เออหว่ะ
เหนือกว่าจริงๆ ว่าแต่นายจะเอายังไงต่อหล่ะ
เร็น : ฉันจะต้องทำงานให้เสร็จไม่ว่ายังไง
เอ็ดเวิร์ด : แต่ตอนนี้ฉันขอพักก่อนดีกว่า
ไม่ไหวหว่ะ ฝันดีเน้อ // เอ็ดเวิร์ดนอนหลับไปดื้อๆ
โดยที่เร็นแทบจะกุมขมับ แล้วนอนพักตามเขาไปด้วย
ณ ตึกร้างแห่งหนึ่งในเขตชุมชน เส้นทางเขต 12 กลุ่มของเทเรซ่าก็หาที่นอนเพื่อที่จะพักผ่อนเพื่อเดินทางต่อ
ในตอนนั้นเองเดม่อนก็พยายามฟังวิทยุเพื่อจับความเคลื่อนไหวของกลุ่มทหาร
ในขณะเดียวกัน เดม่อนก็เรียกทุกคนมาฟังวิทยุที่เขาดักสัญญาณได้ในทันที
เทเรซ่า : เดม่อน
เรียกฉันมีอะไรอย่างงั้นเหรอ
เดม่อน : ฉันดักฟังสัญญาณของรัฐบาล
ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะฆ่ากลุ่มกบฏนอกเมืองแตกหมดแล้วหล่ะ
ลูลู่ : ห่ะ
แล้วแบบนี้พวกเราจะเอายังไงต่อดีหล่ะ
เทเรซ่า : เราจะยอมแพ้ตรงนี้ไม่ได้
นายรู้ตำแหน่งที่เราจะต้องเดินทางต่อหรือเปล่า
เดม่อน : รู้สิ
ฉันพอจำทางอยู่น่า
ลูลู่ : เฮ้อ
ไม่รู้ว่าตื่นมาจะมีอะไรใส่ท้องหรือเปล่านะเนี่ย
เทเรซ่า : แหม่
ยังจะห่วงกินอีกนะเนี่ย
เดม่อน : แต่เธอพูดจริงนะ
ผมกินแต่ขนมปังแข็งๆมาสามวันแล้วเนี่ย
ลูลู่ : ใช่
อยากกินเนื้อกับเขาบ้างอ่ะ
เทเรซ่า : เอาเป็นว่ารีบไปนอนกันดีกว่า
จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน
เทเรซ่าแยกตัวไปนอนอีกด้านหนึ่ง ส่วนคนอื่นๆก็ไปหาที่นอนกันตามอัธยาศัย
ณ เขตชานเมืองที่ไม่ห่างจากการรบเท่าไหร่
สตอร์มรีบวิ่งไปพร้อมกับข้อมูลที่เขาได้จากหัวหน้าของเขา
ในตอนนั้นเขาหันหลังกลับไปก็พบว่าลานจอดรถที่มั่นของพวกเขาโดนถล่มจนราบ
เขาเสียใจแต่ทำอะไรไม่ได้มาก จึงได้แต่เดินทางต่อไปเพื่อรายงานสถานการณ์ของฝ่ายกบฏให้แนวหลังทราบ
แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีชายคนหนึ่งวิ่งตามเขามาเพื่อที่จะคุยกับเขา
เขาสะกิดด้านหลังสตอร์มจนตกใจ
สตอร์ม : ห่ะ
จอร์จ ฉันตกใจหมด นี่นายยังไม่ตายเหรอ
จอร์จ : ยังไม่ตายหน่ะสิ
ว่าแต่นายจะไปไหนหล่ะ
สตอร์ม : ฉันต้องไปรายงานสถานการณ์การรบให้แนวหลังรู้หน่ะ
จอร์จ : งั้นเหรอ
คงต้องรีบหน่อยหล่ะ ตอนนี้รัฐบาลแม่งกวาดล้างหนักเลยตอนนี้
สตอร์ม : แล้วพวกของนายอยู่ที่ไหนหมดหล่ะ
จอร์จ : ตายกันหมดแล้ว
โดนเฮลิคอปเตอร์จู่โจมพวกมันเล่นงานหน่ะ
สตอร์ม : ถ้างั้นนายก็ตัวคนเดียวแล้วสินะ
แต่ระหว่างที่กำลังคุยกัน
จอร์จก็โดนสไนเปอร์ยิงจากด้านหลัง ส่วนสตอร์มก็โดนเข้าที่แขน
ทำเอาเขาต้องรีบวิ่งไปหลบอยู่ข้างทางก่อนที่มันจะยิงซ้ำอีกครั้ง
“บ้าเอ้ย จะตามไปถึงไหนกันวะ”
สตอร์มรีบหาที่หลบแถวนั้นเพื่อป้องกันตัวเองจากพลซุ่มยิงของรัฐบาลที่เต็มไปหมด
ทางด้านโกดังเก็บสินค้าของมาร์ค
หลังจากที่ลูกน้องของเขาและตัวเขาไปแลกของในแต่ละเขต
พวกเขาก็มารวบรวมสิ่งของที่พวกเขาแลกมาได้เพื่อตรวจสอบว่ามีอะไรมีค่าบ้าง
ซึ่งพวกเขาได้มาเยอะแยะมากมายเลย
“นายครับ ดูนี่สิครับ เพชรพลอย ของแพงๆทั้งนั้นเลย”
มาร์ค : ฉันบอกแกแล้ว
เชื่อฉันหรือยังหล่ะ
“นายครับ นั้นนาฬิกาโรเล็กซ์ใช่หรือเปล่าครับ”
มาร์ค : แน่นอน
ฉันได้มาจากไอ้หน้าจืดคนนึงหว่ะ
“แล้วนี่นายจะเอายังไงต่อครับ”
มาร์ค : เก็บของมีค่าพวกนี้เอาไว้ให้ได้มากที่สุด
รอสงครามจบแล้วขนออกไปจากเมืองนี้
“แล้วเมื่อไหร่มันจะจบหล่ะครับนาย”
“นั่นดิครับ สามวันนี่นานอย่างกับสามปีเลยนะครับ”
มาร์ค : ฉันรู้
แต่มันก็ต้องลงทุนกันหน่อย พวกแกนี่หัวไม่ลงทุนเลยเฮ้ย
“ครับนาย”
มาร์ค : โอเค
เอาของพวกนี้ไปเก็บไว้ ส่วนเสบียงที่เหลือก็เอาไปเก็บเข้าตู้ของเราด้วยหล่ะ
และที่เขตชุมชนไม่ห่างจากชานเมืองเขตหนึ่ง
อันนาขับรถกระบะของเธอมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาจอดรถที่บ้านหลังหนึ่ง
โดยที่เธอเก็บตัวเองอย่างดี ป้องกันไม่ให้พวกโจรมาทำอันตรายเธอได้ ในระหว่างที่เธอกำลังนอนในรถ
เธอก็หยิบเอารูปลูกชายคนเล็กของเธอมาดู
จากนั้นภาพวันคืนเก่าๆของเธอและครอบครัวก็ย้อนกลับมาในหัวทันที
สามีและลูกชายคนโตของเธอเสียชีวิตด้วยโรคมาลาเรีย
เหลือแค่ลูกชายคนเล็กที่เป็นแก้วตาดวงใจของเธอ เธอไม่ต้องการอะไรมากขอแค่ให้ได้ลูกกลับไปก็พอแล้ว
ในขณะที่เธอกำลังหลับอยู่ จู่ๆก็มีเสียงดังมาจากท้ายกระบะ
เธอตื่นขึ้นมาพร้อมกับหยิงไฟฉายของเธอไปส่องดู
ก็พบว่ามีวัยรุ่นคนหนึ่งกำลังกินองุ่นของเธออยู่ เธอตะโกนไปเพื่อให้เขาหยุด
แต่เขาก็หยิบดาบของขึ้นมาเพื่อที่จะป้องกันตัวเอง
“ถอยออกไป อย่ามายุ่งกับของๆฉัน”
อันนา : ใจเย็นนะหนู
มีอะไรค่อยๆพูดกันก็ได้นะ
แต่ไม่ทันไร ชายหนุ่มคนนั้นก็หมดแรงล้มไปดื้อๆ
โดยที่อันนารีบไปดูอาการของเขา
อันนา : เป็นอะไรหรือเปล่าหนู
“ผม หิว….”
อันนา : ดื่มน้ำนี่ก่อนนะจ๊ะ
// อันนาพยายามป้อนน้ำให้เขา
เขาพยายามดื่มน้ำจากเธออย่างรีบร้อน
อันนา : นี่เธอไม่ได้กินอะไรมากี่วันแล้วเนี่ย
“2 วันแล้วครับ วันนี้ก็วันที่สามแล้วครับ”
อันนา : แต่แล้ว
นี่องุ่นของฉัน กินไปพลางๆก่อนได้นะ ว่าแต่เธอจะไปไหนงั้นเหรอ
“ผมจะไปมอบตัวกับรัฐบาลครับ ผมทนไม่ไหวแล้ว ผมหิว”
อันนา : ใจเย็นนะจ๊ะ
เดี๋ยวฉันหาอะไรให้เธอกินเอง // แต่ไม่ทันแล้ว
ชายหนุ่มคนนั้นล้มตัวลงนอนอย่างดื้อๆ โดยที่อันนาพยายามจะปลุกเขาขึ้นมา
เขาตายต่อหน้าอันนา เธอรีบผละตัวไปร้องไห้คนเดียวในรถทันที
กลับมายังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีนหลังจากที่การรักษาเป็นไปอย่างยากเย็น
ในที่สุดพวกเขาก็ช่วยเหลือนอร์รีนและเอจิได้สำเร็จ
โดยที่พวกเขาทั้งคู่ไม่ได้เป็นอะไรมาก
ตะวัน : ตอนนี้ทำแผลเรียบร้อยแล้วครับ
แต่ต้องให้เขาพักผ่อนหน่อย
มิเชล : เดี๋ยวฉันจะดูนอร์รีนเองค่ะ
// มิเชลพานอร์รีนเข้าไปพักในห้องของเธอ
ไลฟ์ : ถ้างั้นฉันจะดูเอจิเขาเองนะ
โทนี่ : ว่าแต่
ขอบคุณพี่มากนะครับที่ช่วย พี่เป็นใครกันหล่ะ
อนูวา : ฉันอนูวา
ฉันหนีมาจากชานเมืองหน่ะค่ะ
ตะวัน : ยินดีที่ได้รู้จักคุณนะครับ
// ตะวันจับมือกับอนูวาพร้อมกับส่งตาหวานใส่
เอสเทอร์ : ตอนนี้ยารักษาของเรากำลังจะหมดแล้วนะ
ยูจีน : ไม่ต้องห่วง
เดี๋ยวคืนพรุ่งนี้ฉันจะออกไปหาของเอง
มิสซึ : ให้ฉันไปด้วยคนก็ได้นะ
อลิซ : ไม่ต้องหรอก
นายอยู่ทำอะไรให้เรากินที่นี่ดีกว่า
อลัน : เฮ้อ
คืนนี้เรารีบไปพักผ่อนกันดีกว่านะ
จากนั้นไม่นานพวกเขาก็แยกย้ายกันไปนอนในห้องของแต่ละคน
ในตอนนั้นเองซีโร่เอาของสิ่งหนึ่งยัดใส่มือบารีร่าอย่างดื้อๆ
ซีโร่ : ฉันไปเจอมา
อย่าบอกให้ใครรู้หล่ะ
บารีร่าเอาของมาดู ก็พบว่ามันเป็นลูกกวาดหลากสี
เมื่อเธอได้เห็นเธอจึงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ในทันที
======================================================================
นอร์รีนกับเอจิบาดเจ็บ แถมพวกเขาก็เพิ่งจะโดนปล้นมาหมาดๆ พวกเขาจะมีชีวิตรอดต่อไปหรือไม่ ติดตามชมต่อตอนหน้าเลยจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยนะครัช
ความคิดเห็น