คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : สงครามเกาหลี
เช้าวันต่อมา จอมยุทธ์ขับรถบึ้งไปยังบ้านของหมูป่า
ซึ่งเขาถามจากคนแถวๆนั้น พอขับรถมาถึง
ก็เจอบอดี้การ์ดมาเฝ้าอยู่หน้าบ้านของเธอเต็มไปหมด แต่เขาก็เข้าใจนะ
หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นกับหมูป่า เธอก็แทบไม่อยากออกจากบ้านเลย
จอมยุทธ์ลงจากรถจะไปที่หน้าบ้าน
แต่บอดี้การ์ดของเธอห้ามไว้
บอดี้การ์ด : มาทำอะไร
จอมยุทธ์ : ผมเอาของมาคืนหมูป่าหน่ะ
ไม่รู้ว่านี่ใช่ของเธอหรือเปล่า
บอดี้การ์ด : รอเดี๋ยวนะ // บอดี้การ์ดวิ่งเข้าไปในบ้านหลังนั้น
ในระหว่างที่หมูป่ากำลังทานอาหารกับครอบครัวของเธอ
บอดี้การ์ด : ท่านครับ
มีคนเอาของมาคืนคุณหนูครับ
“ใครมากันหล่ะ” ชายในหน้ากากคล้ายหุ่นยนต์ถามไป
บอดี้การ์ด : ไม่ทราบครับ
เขาเหมือนจะรู้จักคุณหนูนะครับ
หมูป่าวิ่งออกไปดูที่หน้าต่างมองไปทางหน้าบ้าน
พอเห็นจอมยุทธ์ หมูป่าวิ่งกลับไปสั่งบอดี้การ์ด
หมูป่า : นี่
เชิญเขาเขามาเลยนะ แล้วก็แม่บ้าน เตรียมชุดจานสำหรับหนึ่งคนด้วย // จากนั้นบอดี้การ์ดก็วิ่งเข้าไปเชิญจอมยุทธ์ให้เข้ามาในบ้าน
จอมยุทธ์ดูท่าเกร็งๆหลังจากที่เข้ามา
แต่สุดท้ายก็เดินมาถึงห้องทานอาหารที่หมูป่าและครอบครัวกำลังนั่งทานอาหารกันอยู่
หมูป่า : คุณยุทธ์
สวัสดีค่ะ
จอมยุทธ์ : ครับ
คุณยังเจ็บตรงไหนอยู่มั้ยครับ
หมูป่า : ตอนนี้ฉันไม่เป็นไรแล้วค่ะ
คุณยุทธ์ มากินด้วยกันสิคะ // จากนั้นจอมยุทธ์ดูท่าเกรงๆแล้วไปนั่งที่ๆแม่บ้านเตรียมไว้
ระหว่างนั้นโดรนและเจ้าหญิงซึ่งเป็นพ่อแม่ของหมูป่าก็คุยกับจอมยุทธ์
โดรน : ผมได้ยินเรื่องของคุณแล้วนะ
ผมขอบคุณมากที่คุณช่วยลูกสาวผมไว้
จอมยุทธ์ : ครับ
ผมว่ามันดูบังเอิญมากกว่า
เจ้าหญิง : แต่ถึง
3 ครั้งนี่แม่ว่าไม่ได้เป็นเรื่องบังเอิญแล้วนะ
ว่ามั้ย หมูป่า
หมูป่า : แม่ก็
แต่คุณยุทธ์เขาเก่งจริงๆนะแม่
จอมยุทธ์ : อ้อครับ
ที่ผมมาวันนี้ก็จะเอาสร้อยมาคืนคุณหมูป่านี่แหละครับ
โดรน : ไหนๆก็ไหนๆหล่ะ
อยู่กินอะไรกับพวกเราก่อนสิ
จอมยุทธ์ปฏิเสธไม่ได้เลยอยู่ทานอาหารกับครอบครัวของหมูป่า
แล้วก็พูดคุยเรื่องทั่วไปกันอย่างสนุกสนาน จากนั้นพอถึงเวลา
จอมยุทธ์ก็ขอตัวกลับไปก่อน หมูป่าเลยจะขอมาส่ง
จอมยุทธ์ : นี่สร้อยคุณหรือเปล่าครับหมูป่า
หมูป่า : อ้อ
ใช่ค่ะ แต่คุณเก็บไว้เถอะ ฉันให้คุณ
จอมยุทธ์ : ครับ
คุณหมูป่าครับ อีกไม่กี่วันผมต้องไปเกาหลีนะครับ
หมูป่า : ว้าว
ไปเที่ยวเหรอคะ ฉันไปด้วยคนสิ
จอมยุทธ์ : อ้อ
เปล่าครับ ที่นั่นมีสงครามอยู่ ท่านผบ.ส่งผมไปคุมสถานการณ์หน่ะครับ
หมูป่า : งั้นเหรอคะ
งั้นฉันขอให้คุณปลอดภัยกลับมานะ ฉันจะรอคุณนะ // จอมยุทธ์พยักหน้าก่อนที่จะขับรถกลับออกมา
ปล่อยให้หมูป่ามองข้างหลังไปพักนึงจึงกลับเข้ามาในบ้าน
เจ้าหญิง : แม่ว่าจอมยุทธ์คนนี้ดูสง่างามดีนะลูก
หมูป่า : แม่ก็…. // หมูป่าอมยิ้มจากนั้นก็วิ่งเข้าห้องไป
ณ ร้านฟินิกซ์แลนด์ ช่วงเที่ยง เงา โซ่ตวง
แมงมุมแม่ม่ายดำ ผ้าฝ้ายก็มานั่งกินข้าวเที่ยงกันที่ร้านนี้
เงา : นี่พวกนาย
หัวหน้าหายไปไหนหล่ะ พอรู้มั้ย
โซ่ตวง : ไม่รู้สิ
บอกจะไปทำธุระตั้งแต่เช้าแหละ ตอนนี้ยังไม่เห็นเลย
ผ้าฝ้าย : เอาน่า
แล้วนี่พวกนาย เห็นเสื้อที่ฉันส่งไปให้หรือยังหล่ะ
เงา : เห็นแล้วๆ
ขอบคุณมากๆเลยนะ
แมงมุมแม่ม่ายดำ : แหะๆ พวกนายพอรู้อะไรเกี่ยวกับเกาหลีอะไรนี่มั้ย
ผ้าฝ้าย : ฉันเคยได้ยินว่ามันอยู่แถวๆญี่ปุ่นนี่
โซ่ตวง : อืมๆ
ที่นั่นเห็นว่ากำลังรบกันเดือดเลยหล่ะ เขาจึงขอให้เราส่งกำลังไปช่วยหน่ะ
แมงมุมแม่ม่ายดำ : นี่ผ้าฝ้าย ฉันไม่อยู่เธอต้องระวังตัวด้วยนะ
ผ้าฝ้าย : ไม่ต้องห่วงหรอก
ฉันไม่เป็นไรอยู่แล้ว
เงา : นี่
แม่ม่ายดำ ฉันถามอะไรเธอหน่อยสิ อยากถามมานานแล้ว เห็นหน้าเธอดูลูกครึ่งอ่ะ
อยากรู้ว่าเธอมาจากไหนพอรู้มั้ย
แมงมุมแม่ม่ายดำ : อืม เรื่องมันยาวนะ จริงๆแล้วฉันเป็นชาวไซบีเรียน
ตอนหมู่บ้านฉันโดนถล่มหน่ะ ฉันกลายเป็นคนเร่ร่อน มาที่มอสโคว
ลักเล็กขโมยน้อยจนโดนจับได้โดยผู้พัน Mask Land คนหนึ่ง เขาขอเลี้ยงดูฉันแลกกับการที่ไม่จับฉันส่งตำรวจ
จากนั้นเขาพาฉันมาที่นี่ เลี้ยงดู ฝึกฝนให้ฉันเป็นหน่วยรบชั้นดีเลยหล่ะ
โซ่ตวง : ผู้พันคนนั้นเขาเป็นใครหล่ะ
แมงมุมแม่ม่ายดำ : หน้ากากเขาคล้ายๆสิงโตหน่ะ ฉันพอรู้แค่นี้แหละ
เงา : อ้อ
ผู้พันสิงโตนี่หน่า
แมงมุมแม่ม่ายดำ : เธอรู้จักด้วยเหรอ
เงา : วีรบุรุษแห่งสงครามโลกครั้งที่
2 ใครบ้างจะไม่รู้หล่ะ แต่เสียดาย
เขาเสียชีวิตตอนสู้กับพวกญี่ปุ่น กองเรือของพวกมันมีเยอะกว่า อาวุธดีกว่า
แต่ผู้พันสู้สุดใจจนยันพวกมันไว้ได้ แต่เสียดายนะ ทุกวันนี้ยังไม่พบศพแกเลย
ระหว่างที่ทุกคนเศร้าใจ
โซ่ตวงเห็นเงาแวบๆอยู่ข้างร้าน โซ่ตวงสงสัย เลยว่าจะเดินออกไปดู “ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” จากนั้นโซ่ตวงก็เดินออกไปข้างร้านแทน
ระหว่างนั้นโซ่ตวงก็สังเกตมองด้านข้าง ก็เห็นราชินีเจ้าเก่ามายืนอยู่ข้างร้านทำตาใสๆใส่โซ่ตวง
โซ่ตวง : นี่
นึกว่าเธอโดนจับไปแล้วซะอีก
ราชินี : แหม่
ก็ฉันเก่งขนาดนี้ ไม่มีใครจับฉันได้หรอก
โซ่ตวง : แล้วเธอมาแถวนี้มีอะไร
ราชินี : ฉัน
อยากให้นายช่วยอะไรฉันหน่อยอ่ะ
โซ่ตวง : เรื่องอะไรหล่ะ
ราชินี : เรื่องพี่ชายฉันหน่ะ
ที่โดนจับไป อยากให้นายช่วยพี่ฉันหน่อยสิ
โซ่ตวง : นี่
พี่เธอทำซะขนาดนั้น เธอยังจะหวังอะไรอีกเหรอ
ราชินี : โธ่ๆๆๆๆ
คนใจดีๆๆๆ ช่วยหน่อยเถอะนะๆๆ
โซ่ตวง : นี่
ฉันไม่มีอำนาจสั่งการอะไรหรอก ต้องถามหัวหน้าฉันก่อนหน่ะ อีกอย่างพวกเรา..
ราชินี : ต้องอะไร
โซ่ตวง : ฉันจะไปเกาหลีหน่ะ
ที่นั่นมีสงคราม
ราชินี : นี่
นายต้องรอดกลับมาช่วยพี่ฉันให้ได้นะ
โซ่ตวง : นี่แม่คุณ
ไม่คิดจะห่วงฉันบ้างเลยเหรอ
ราชินี : ไม่รู้หล่ะ
ยังไงนายต้องรอดกลับมาช่วยพี่ฉันให้ได้ // จากนั้นเธอก็แลบลิ้นใส่โซ่ตวงทีนึง
จากนั้นก็รีบหนีไป ปล่อยให้โซ่ตวงยืนงงอยู่ตรงนั้น แต่ระหว่างนั้น
ราชินีก็น้ำตาไหลโดยที่ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน
ระหว่างนั้น จอมยุทธ์ก็มาถึงร้านพอดี
ส่วนโซ่ตวงก็เข้ามาในร้านพร้อมกัน ระหว่างนั้น
แฮมเตอร์เอาอาหารออกมาเสิร์ฟให้พวกเขา จากนั้นก็รินไวน์ให้กับทุกคน
แต่กับเงากลับรินให้เยอะเป็นพิเศษ จนโซ่ตวงแอบมอง แต่ก็ไม่เอะใจ
จากนั้นก็พูดขึ้นกลางร้าน
แฮมเตอร์ : เอาหล่ะทุกคน
ฉลองก่อนที่จะไปกันนะ ยังไงก็ขอให้ทุกคนโชคดีและปลอดภัยกลับมานะทุกคน // จากนั้นทุกคนก็ดื่มไวน์ที่ถืออยู่ในมือ
แล้วฉลองด้วยอาหารเลิศรสที่แฮมเตอร์ทำมาให้เป็นพิเศษเพื่อพวกเขา
สหรัฐอเมริกา 20 : 00
เป็นเวลาตอนค่ำ เนสซีเขียนจดหมายหลายฉบับมากถึงผ้าฝ้าย
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่เขาทำไม่เคยเบื่อเลย
ระหว่างนั้นกระดาษกับความมืดก็เข้ามาดูว่าเนสซีทำอะไรอยู่
กระดาษ : ทำไรอยู่อ่ะ
เขียนหาแม่อยู่เหรอ
เนสซี : หาผู้หญิงหว่ะ
ความมืด : แน่ะๆๆ
มีแฟนแล้วเหรอ ก็ดีนะ อาชีพแบบเราๆหาความสุขใส่ตัวก่อนตายได้ก็ดี
กระดาษ : นี่ๆ
นั่นมันอาชีพนาย ไม่ใช่ฉันนี่ ฉันแค่ตกกระไดพลอยโจนมาเจอนายนี่หล่ะ
เนสซี : ไม่รู้ว่าเธอจะอ่านหรือเปล่านะ
แต่ยังไงก็ต้องลองหน่ะ
ระหว่างที่กำลังคุยกันอยู่นั้น
ก็มีเสียงคนปีนรั้วบ้านเข้ามา กระดาษกับความมืดสั่งให้เนสซีไปหลบ
จากนั้นพวกเขาสองคนก็ไปดับไฟทั้งหมดในบ้าน
จากนั้นก็เตรียมปืนออกมาสู้กับโจรที่บุกเข้ามา
กระดาษ : นายดูหน้าบ้าน
ฉันจะดูหลังบ้านให้เอง
ความมืด : โอเค
เราต้องเงียบและไวนะ
จากนั้นพวกเขาทั้งสองคนก็ประทับปืนเตรียมยิง
จากนั้นพวกมันก็สะเดาะกุญแจบ้านเข้ามา พวกเขาสองคนจึงยิงสกัดพวกมัน
พวกมันไมรู้ว่าโดนดักรอเลยตายกันไปหลายคน แต่พวกมันก็มาเยอะขึ้นเรื่อยๆ
กระดาษกับความมืดต้องหลบขึ้นไปที่ชั้นสอง จากนั้นเนสซีก็ถือปืนออกมาช่วย
กระดาษ : นี่นาย
ออกมาแบบนี้เดี๋ยวก็ตายห่าหรอก
เนสซี : เอาน่า ฉันแจ้งตำรวจไปแล้ว
เดี๋ยวพวกเขาจะมาแล้วหล่ะ
ความมืด : ใช้ปืนเป็นนะ
ยังไงก็คอยยิงช่วยก็แล้วกัน ระวังหลังฉันด้วย
เนสซีพยักหน้า
ระหว่างนั้นพวกมันก็บุกขึ้นมาเรื่อยๆ ความมืดและกระดาษยิงพวกมันจากทุกทาง
กระสุนของเขาก็เริ่มหมดเรื่อยๆ พวกเขาเปลี่ยนแผนใหม่
ความมืด : นี่ทุกคน
ประหยัดกระสุนไว้นะ ยิงเมื่อแน่ใจว่าโดนเท่านั้น
กระดาษ : แล้วมั่นใจตลอดแหละ
นายหล่ะเนสซี
เนสซี : กลัวที่ไหนหล่ะ
ลุยเลยดีกว่า
จากนั้นพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นยิงทีละนัด
ยิงตอนที่พวกมันบุกขึ้นมา แต่ระหว่างนั้นกระสุนของพวกเขาก็หมด พวกเขาเตรียมจะสู้มือเปล่ากับพวกมัน
แต่ทันใดนั้น ตำรวจก็มาทันเวลาพอดี
พวกนั้นเลยถอนตัวออกจากบ้านไป ตำรวจด้านนอกก็ตามจับพวกที่บุกเข้ามา
จากนั้นพวกเขาทั้งสามเลยไปคุยกับตำรวจข้างล่าง เพื่อให้ตำรวจเคลียร์ความเสียหายแล้วตามสืบหาว่ามันเป้นพวกไหนกันแน่
กลับมายัง Mask Land ทุเรียนและจิงโจ้พร้อมทหารส่วนตัวไปเยี่ยมโพนี่ถึงที่บ้าน
แต่โพนี่ก็อยู่บ้านคนเดียว พวกเขากดกริ่งหน้าบ้าน โพนี่เห็นว่าเป็นจิงโจ้กับทุเรียนเลยวิ่งไปเปิดประตูบ้านให้
โพนี่ : อ้าว
ทุเรียน จิงโจ้เองเหรอ
ทุเรียน : อืมๆ
เธอเป็นไงบ้างอ่ะ บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าหล่ะ
โพนี่ : ไม่เป็นไรแล้วจ้ะ
โชคดีมีคนมาช่วยเราไว้
จิงโจ้ : งั้นเราคงต้องขอบคุณเขาหน่อยแล้วหล่ะ
ทุเรียน : แต่พี่รู้เหรอว่าเขาเป็นใครหน่ะ
โพนี่ : ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันหน่ะ แต่เอ๊ะ ฉันว่าหมูป่าเพื่อนฉันน่าจะรู้นะ
ทุเรียน : ก็ดีนี่
โพนี่ : นี่พวกนาย
มาเหนื่อยๆแบบนี้มาพักที่บ้านเราก่อนก็ได้
จากนั้นโพนี่ก็พาจิงโจ้กับทุเรียนไปพักข้างในบ้าน
โดยที่ทหารของเขาเฝ้าอยู่ที่ประตูหน้า
โพนี่ซึ่งกำลังทำขนมอยู่นั้น
หลังจากที่ทำเสร็จก็เอามาให้ทุเรียนและจิงโจ้ได้กิน
ทุเรียน : อร่อยเหมือนเดิมเลยนะโพนี่
จิงโจ้ : นั่นสิๆ
ทำเยอะๆอีกได้เปล่านี่
โพนี่ : แหม่พวกนาย
กินกันไม่เคยพอเลยนะ
ทุเรียน : ก็มันอร่อยจริงๆนี่
เหมือนคนทำ อุ๊บส์..
จิงโจ้ : อะไรของแกวะทุเรียน
ทุเรียน : เปล่าๆ
ไม่มีไรเลยพี่ // จากนั้นทุเรียนก็ก้มหน้าก้มตากินต่อในขณะที่ทั้งสองคนนั้นเกาหัวสงสัยอยู่
2 อาทิตย์ต่อมา ณ อินชอน ประเทศเกาหลีใต้
หลังจากที่พวกของจอมยุทธ์มาถึงเกาหลี พวกเขาก็มีทหารขับรถจิ๊บมารับไปยังค่ายที่ทหาร
Mask Land ประจำการอยู่
พวกเขามองข้างทางก็เห็นแต่สภาพที่ไม่ค่อยจะน่าดูซักเท่าไหร่ ทั้งหลุมระเบิด ไฟไหม้
แล้วก็ซากรถถังอีกมากมาย เห็นได้ว่าที่นี่รบกันอย่างดุเดือดจริงๆ
หลังจากที่มาถึง เขายังเกอร์
ซึ่งหมาป่าดำกำลังซ่อมแซมค่ายอยู่ เมื่อหมาป่าดำเห็นคนมาเธอก็ไปต้อนรับพวกเขา
หมาป่าดำ : สวัสดีค่ะ
พวกคุณคงจะมาจาก Mask
Land สินะ
พวกเขาต่างนึกในใจ “ผู้หญิงคนนี้เหรอที่เป็นหัวหน้าค่ายหน่ะ” แต่ก็ไม่เอะใจอะไรมาก
จอมยุทธ์ : ผมพันโทจอมยุทธ์
ต่อไปจะเป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยนี้ แล้วนี่ผู้กองเงา หมวดโซ่ตวง
และหมวดแมงมุมแม่ม่ายดำ ผู้ช่วยของผมเอง
หมาป่าดำ : ดิฉัน
จ่าสิบเอกหมาป่าดำ รายงานตัวค่ะ
จอมยุทธ์ : ตามสบายครับ
ที่นี่เป็นไงมั้งหล่ะครับเนี่ย
หมาป่าดำ : ก็อย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ
// จากนั้นหมาป่าดำก็พาไปสำรวจยังรอบๆค่ายแห่งนั้น
“ที่นี่โดนปืนใหญ่ถล่มทุกวัน
เราต้องขุดหลุมเพลาะป้องกันลึกลงไปเรื่อยๆ แต่พวกมันก็ยังพยายามบุกมาชิงที่นี่ตลอดค่ะ”
เงา : แล้วทำไมภูเขานี่สำคัญมากเลยหล่ะ
หมาป่าดำ : หุบเขานี้เชื่อมต่อกับทางเสบียงของกองกำลังสหประชาชาติค่ะ
ถ้าพวกมันยึดที่นี่ไปได้ พวกมันจะตัดกำลังเสบียงของเขา
โซ่ตวง : พอรู้มั้ยว่าพวกมันมีเยอะแค่ไหน
หมาป่าดำ : ลำพังทหารเกาหลีเหนือก็ไม่เยอะหรอกค่ะ
แต่ทหารจีนนี่สิน่ากลัวกว่า
ที่กำลังจะโจมตีเขาลูกนี้ มีราวๆ 80000 คนได้
โซ่ตวง : 80000 คนเนี่ยนะ แล้วเธอต้องต้านพวกมันขนาดนี้เนี่ยนะ
หมาป่าดำ : ก็จริงๆแล้วเราผลัดกันยึดเขาลูกที่อยู่ข้างหน้าหน่ะ
ซึ่งมันเพิ่งยึดไปได้เมื่อวานนี่เอง
แมงมุมแม่ม่ายดำ : ท่านค่ะ 80000
คนนี่กระสุนเราจะพอสู้เหรอคะ
จอมยุทธ์ : เราคงไม่มีทางเลือกอะไรมากหรอกนะ
ตอนนี้เราต้องเสริมแนวป้องกันนี้ให้มากที่สุด ต้องเอาปืนกลมาเพิ่ม
แล้วก็ปืนต่อสู้อากาศยานอีก
เงา : ผมว่าปืนต่อสู้อากาศยานไม่จำเป็นหรอกครับ
โซ่ตวง : เอ้า
ทำไมนายคิดแบบนั้นหน่ะ
เงา : ก็ไม่เห็นจะมีกำลังทางอากาศของพวกมันนี่
อีกอย่าง ถ้ามันยึดเขาลูกนี้ไปแล้วเอาปืนต่อสู้อากาศยานไปได้ เท่ากับเราจะไม่มีกำลังอากาศจากสหรัฐมาหนุนเลยนะ
จอมยุทธ์ : ถ้าแบบนั้น
เราต้องเริ่มลงมือกันแล้วหล่ะ
======================================================================
สงครามครั้งใหม่ในต่างแดนของพวกเขาจะผ่านไปได้ด้วยดีหรือไม่ ติดตามชมตอนหน้าจ้า
ขอคนะเม้นท์ด้วยฮับ!!
ความคิดเห็น