คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 4 : งานใหม่ มุ่งสู่เทกซัส
หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อน กลุ่มของเน็ตโต้เองก็กลับมารวมตัวเพื่อฟังรายละเอียดงานใหม่ที่พวกเขาจะต้องเจอ ในตอนนั้นเน็ตโต้ก็ทักทายกับทุกคนอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ ทุกคน พักผ่อนกันสบายดีนะ??”
“อ้อ ก็ดีหน่ะ เมื่อกี้ไปตีกับหมาแถวๆนี้มาหน่ะ” อาร์เทมพูดขึ้น และในตอนนั้นเขาก็มีแผลใหญ่อยู่ที่แขนของเขา
“เดี๋ยวฉันเย็บแผลให้แล้วกัน” อีสครินน่าพูดขึ้น จากนั้นตัวของเธอก็เดินไปหยิบกล่องยาของเธอมาอย่างรวดเร็ว
“เออนี่เพื่อน ฉันขโมยรถใหม่มาแล้วนะ ถ้าอยากใช้งานก็บอกแล้วกัน” โกสต์พูดขึ้น
“ใช่ๆ โกสต์มันไปขโมยรถแก๊งผิวสีมา เกือบโดนปืนส่องแล้ว ฮ่าๆๆๆ” ลีโอน่าพูดขึ้น ทำเอาคนอื่นๆหลุดขำออกมากัน
“เออนี่ เราขาดใครไปหรือเปล่า??” แคทเทอรีนถามอย่างสงสัย
“นั่นสิ จะว่าไป ยัยนั่น ชื่ออะไรนะ อะไรฮะๆนี่หล่ะ ไม่มาเหรอ??” ฮาสน่าถามไป
“ปล่อยยัยนั่นไปเถอะ พูดตรงๆนะ ฉันเองไม่เชื่อใจยัยนั่นเลย เน็ตโต้ ฉันว่ายัยนี่ไว้ใจไม่ได้นะ” มารินะพูดขึ้น
“เอาน่า เราอย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้เลย เธออาจจะไม่สบายก็ได้ แต่ช่างมันเถอะ แค่นี้เราก็ทำงานกันได้นี่นะ” เน็ตโต้พูดขึ้น
“นั่นสิ คราวที่แล้วแม่นั่นก็มัวแต่กดมือถืองืดๆ ไม่เห็นช่วยอะไรเลย” เคทาโร่พูดขึ้น แต่ไม่ทันไรตอนนั้น จู่ๆ คาซึฮะเองก็โผล่เข้ามาด้านในโกดัง แล้วทักทายทุกคนในทันที
“เฮ้อ พูดถึงก็มาเลย” เคทพูดขึ้น
“ทุกคน ฉันซื้อของมาให้ ขอโทษนะเน็ตโต้ที่ฉันมาช้า ฉันไปหาคุณย่าของฉันที่โรงพยาบาลมาหน่ะ” คาซึฮะพูดขึ้น แต่ดูเหมือนว่าทุกคนจะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
“อ้อ ไม่เป็นไรหรอก คุณย่าของเธอสบายดีนะ??” เน็ตโต้ถามไป
“ก็ดีจ้ะ ขอบคุรมากเลยนะเน็ตโต้” คาซึฮะพูดขึ้นและไปจับแขนเน็ตโต้ราวกับจะยั่วยวนเขา ทำเอาคนอื่นๆถึงกับหมั่นไส้
“นั่นสิ อย่าเสียเวลาเลย” เจ๋การณ์พูดขึ้น เน็ตโต้เองก็เดินออกจากคาซึฮะไปนั่งที่โซฟา แต่คาซึฮะเองก็ไม่วายจะไปนั่งใกล้กับเน็ตโต้ด้วย ในตอนนั้นเอง เน็ตโต้ก็เปิดแท็บเล็ตและติดต่อกับคุณแมรี่ในทันที และไม่นานนัก แมรี่เองก็มาอยู่ในสาย
“สวัสดีเด็กๆ เป็นยังไงกันบ้าง??”
“สบายดีครับคุณแมรี่ เรื่องงานใหม่ของเราเป็นยังไงคร้าบ??” เน็ตโต้ถามไป
“อ้อ พวกเธอต้องไปที่เทกซัสหน่ะ จะมีการขนย้ายอาวุธและเงินมากมายที่นั่น ไปยังไร่ของแคสซิดี้นะ”
“ให้เราเดานะ แคสซิดี้ เรนเชอร์ เจ้าแม่อุตสาหกรรมเหล้าเถื่อนสินะคะ” แคทเทอรีนพูดขึ้น
“โห พวกเธอก็ทำการบ้านมาดีเหมือนกันนะ” แมรี่พูดขึ้น
“เท่าที่รู้มา ตัวของเธอคุมผลประโยชน์แทบจะทุกอย่างในเทกซัส แต่เดี๋ยวนี้เหมือนว่าจะไม่ค่อยมีใครฟังเธอแล้ว” อีสครินน่าพูดขึ้น
“ใช่แล้วหล่ะ ตอนนี้ยัยนั่นกำลังงัดข้อกับพวกผู้มีอิทธิพลเจ้าอื่นซึ่งเคยอยู่ในอาณัติพ่อของเธอ เธอต้องใช้อาวุธและเงินทุนมากขึ้นเพื่อสะสมอำนาจหน่ะ” แมรี่พูดขึ้น
“จะรบกับพวกผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ไม่ง่ายนะครับ เรื่องทางหนีทีไล่อีก” เคทาโร่พูดขึ้น
“ถ้าเรื่องหนีหายห่วง พวกเราจัดการได้อยู่แล้ว” โกสต์พูดขึ้น
“แต่เราต้องหาทางหนีทีไล่ไปด้วย เดี๋ยวฉันจะดูเรื่องทางหนีเอง” ลีโอน่าพูดขึ้น
“ได้ยินว่าที่นั่นมีกับดักหมีเยอะแยะเต็มไปหมด ใครเข้าไปไม่รอดซักราย” ฮาสน่าพูดขึ้น
“กับดักหมีงั้นเหรอ ฉันพอจะมีวิธีรับมือนะ” เจ๊การณ์พูดขึ้น
“ฉันสะเดาะกับดักได้นะ ถ้าได้เห็นมันก่อน” เคทพูดขึ้น
“เรื่องอาวุธ คงต้องใช้ไรเฟิลจู่โจม อุปกรณ์เก็บเสียงด้วย” อาร์เทมพูดขึ้น
“อุปกรณ์เก็บเสียงกับอาวุธ ฉันจัดการเอง” มารินะพูดขึ้น
“เออ จะให้ฉันไปเทกซัสเลยเหรอ??” คาซึฮะถามไป
“นี่ ถ้าเธอไม่อยากทำงานนี้ด้วยก็ไม่ต้องไปก็ได้นะ” มารินะพูดขึ้น
“อืม เธอมีธุระอะไรหรือเปล่าอ่ะ??” เน็ตโต้ถามไป
“คือ ช่วงนี้คุณย่าฉันป่วยบ่อย ฉันไม่อยากจะไปไหนไกลหน่ะ” คาซึฮะพูดขึ้น
“อ้อ ถ้าอย่างงั้นก็ไม่เป็นไร เธออยู่ที่นี่ก็ได้” เน็ตโต้พูดขึ้น ตอนนั้นคาซึฮะเองก็กอดเข้าหาเน็ตโต้ แล้วก็พูดขึ้น
“ขอบคุณมากนะเน็ตโต้”
“เอ้ย ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้เอง” เน็ตโต้พูดขึ้นจากนั้นก็ค่อยๆดันเธอออกไปเล็กน้อย
“ก็ดี เราจะได้ทำงานกันสะดวกหน่อย เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะลองแฮ็กดูเครือข่ายเน็ตของที่นั่นดู” เคทาโร่พูดขึ้น ทำเอาคาซึฮะถึงกับไปไม่เป็น
“ถ้าจะเอาให้ได้ผลที่สุด ก็คงต้องลุยตอนกลางคืนสินะ” เคทพูดขึ้น
“อืม ฉันมีกล้องไนท์วิชั่นอยู่ รับรองว่าเห็นดีมากๆ” มารินะพูดขึ้น
“ส่วนเรื่องรถ คงต้องใช้รถที่มันลุยๆหน่อย” โกสต์พูดขึ้น
“อืม ถ้าพวกเธออยากได้อะไรก็บอกแล้วกันนะ” แมรี่พูดขึ้น
“ค่ะ เดี๋ยวพวกเราจะส่งลิสต์ไปนะคะ” ลีโอน่าพูดขึ้น
“ฉันจะเตรียมยากันบาดทะยักให้แล้วกัน เผื่อว่าใครโดนกับดักหมีเข้า” อีสครินน่าพูดขึ้น
“อืม เป็นโอกาสดีที่จะได้ลองอุปกรณ์ใหม่พอดี” เจ๊การณ์พูดขึ้น
“งานนี้คงต้องเล่นใหญ่กันหน่อยสินะ” ฮาสน่าพูดขึ้น
“ก็คงไม่มีอะไรมากหรอก ถ้าไม่เล่นมันก่อน ก็โดนพวกมันเล่น” อาร์เทมพูดขึ้น และไม่นานนัก อีสครินน่าเองก็เข้าไปใกล้อาร์เทมและดูแผลให้เขา
“สงสัยคงต้องเล่นกลใหม่ซะหน่อยแล้วหล่ะ” แคทเทอรีนพูดขึ้น
“โอเคนะเด็กๆ ถ้าอยากได้อะไรก็บอกกันนะ” แมรี่พูดขึ้น ก่อนที่จะตัดการเชื่อมต่อไป และไม่นานนัก เน็ตโต้เองก็พูดขึ้นมา
“เอาหล่ะทุกคน งานนี้คงต้องระวังตัวกันหน่อยนะ ฉันได้กลิ่นไม่ค่อยดีเท่าไหร่จากแม่นี่หน่ะ” เน็ตโต้พูดขึ้น ในขณะที่คนอื่นๆเองก็แยกย้ายกันไปเตรียมตัวสำหหรับงานใหม่ของเขา ในขณะที่คาซึฮะเองก็มาคุยกับเน็ตโต้
“เน็ตโต้จ้ะ ฉันขอไปเยี่ยมย่าฉันหน่อยนะ”
“อ้อ ได้สิ ตามสบายนะ” เน็ตโต้ตอบไป จากนั้นคาซึฮะเองก็รีบเดินออกจากโกดังไปในทันที
“เฮ้อ หลอกง่ายจริงแหะ” คาซึฮะพูดขึ้น
กลับมายังสนามบินแห่งหนึ่งในตุรกี อดัมและกลุ่มของเขาเดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติที่เครื่องบินส่วนตัวของอดัมมาจอดรออยู่แล้ว และเมื่อพวกเขามาถึงเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว พวกเขากับจอร์แดนซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มในตุรกีก็พูดคุยกันก่อนที่พวกเขาจะเดินทาง
“ขอบใจนะสำหรับการต้อนรับหน่ะ” อดัมพูดขึ้น
“ไม่เป็นไรลูกพี่ ช่วงนี้พี่ต้องระวังตัวนะ พวก Vipernox กับพวกสภาเงามันกำลังตามล่าหัวพี่อยู่ ดูเหมือนพวกมันจะเอาจริงแล้วด้วย” จอร์แดนพูดขึ้น
“เฮ้อ ไม่น่าเชื่อว่าไอ้แก่นั่นมันจะมาเอาจริงตอนนี้” ปีเตอร์พูดขึ้น
“ดูเหมือนตอนนี้ทางสภาเงาเองก็เกิดความไม่มั่นคงภายในเหมือนกัน บรรดารัฐบาลต่างๆในโลกเองก็เริ่มเอาใจออกห่าง เท่าที่ตามข่าวในโซโรวาตอนนี้ สภาเงาเองก็คุมไม่ได้แล้ว” มิลเลอร์พูดขึ้น
“เฮ้อ ถ้างั้นก็สมน้ำหน้าพวกมันหล่ะ” มาร์ตินพูดขึ้น
“อืม ยังไงก็ฝากพวกเราที่นี่ด้วยแล้วกันนะ” อดัมพูดกับจอร์แดน
“ได้เลยพี่ ผมจะจัดการเอง พี่เองก็ต้องระวังตัวเหมือนกันนะพี่ ที่เช็กเองก็มีสายของพวก Vipernox เต็มไปหมด” จอร์แดนพูดขึ้น
“ไม่ต้องห่วงหรอก ตอนนี้ฉันเตรียมพร้อมไว้แล้ว ก่อนอื่นเลยต้องเจอกับมาคารอฟให้ได้ก่อน” อดัมพูดขึ้น
“เออ จริงด้วย ไม่เจอหมอนั่นมานานเป็นปีเลยแหะ” จอร์แดนพูดขึ้น
“ตอนนี้หมอนั่นกำลังซ่อนตัวอยู่ในสวิส ถ้าจะให้ไปที่เช็กมันก็อันตรายเกินไป” มิลเลอร์พูดขึ้น
“ใช่ ถ้าเกิดพวก Vipernox ไปเจอหมอนั่นเข้า งานนี้ก็จบเห่” มิลเลอร์พูดขึ้น
“แต่ช่างเถอะ ไอ้หมอนั่นมันรู้ว่าต้องทำยังไง ถ้าอยู่ในยุโรป พวกมันตามหาเขาไม่เจอแน่ๆ” ปีเตอร์พูดขึ้น
“แต่งานที่เช็กตอนนี้เองก็ต้องดูสถานการณ์ด้วย ไม่รู้ว่าแมรี่กับเจ้าเน็ตโต้จะเป็นยังไงบ้างนะ??” มาร์ตินถามไป
“เออ จริงด้วย เอาไว้ว่างๆ ฉันจะติดต่อแมรี่ดู” อดัมพูดขึ้น
“เออใช่ แมรี่สบายดีนะครับ??” จอร์แดนถามไป
“ก็สบายดีหน่ะ” อดัมพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง นักบินคนหนึ่งก็ลงจากเครื่องบินส่วนตัวของอดัมแล้วเดินมาคุยกับเขา
“คุณอดัมครับ เครื่องบินพร้อมออกแล้วครับ”
“อืม ดูเหมือนฉันต้องไปแล้วหล่ะ” อดัมพูดขึ้น
“ครับ ขอให้โชคดีครับ” จอร์แดนพูดขึ้น ก่อนที่พวกเขาทั้งคู่จะจับมือกัน แล้วแยกย้ายกันในทันที ก่อนที่จะมีใครตามพวกเขาเจอ
กลับมายังประเทศจีน ในวันนี้ตัวของประธานาธิบดีเฟยจินก็เดินทางกลับไปพักผ่อนที่บ้าน หลังจากที่เตรียมการสำหรับกวาดล้างกลุ่มสามเซียนในพื้นที่ บอดี้การ์ดของเฟยจินพาเธอขึ้นรถ จากนั้นไม่นานรถของเธอก็ออกเดินทางในทันที แต่เมื่อขับมายังถนนเส้นหนึ่ง จู่ๆรถคันหนึ่งก็มาจอดขวางทางรถของเธอ
“เอี๊ยด!!” หลังจากที่พวกมันจอดรถขวางทาง พวกมันก็ลงจากรถ พร้อมถืออาวุธครบมือมาด้วย
“ถอยเร็ว!!” เฟยจินตะโกนออกมา
“ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” พวกมันสาดกระสุนเข้าใส่รถของเฟยจินอย่างดุเดือด เฟยจินเองรีบหลบอย่างรวดเร็ว รถของเธอรีบถอยออกไป แต่ในตอนนั้น รถอีกคันก็มาขวางทางเธอเอาไว้ด้วย
“ท่านครับ มันล้อมหน้าล้อมหลังเลยครับ!!” คนขับรถพูดขึ้น
“ฝ่ามันออกไปเลย!!” เฟยจินพูดขึ้น คนขับรถก็ขับฝ่าพวกมันออกไปอย่างรวดเร็ว และไม่นานนัก รถทหารเองก็ขับมาถึงพื้นที่ พร้อมกันนั้นก็ไล่ยิงรถของมือปืนพวกนั้นอย่างดุเดือด
“ปังๆๆๆๆๆๆ”
พวกมันรีบกลับเข้าไปในรถ จากนั้นก็รีบขับหนีออกไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่รู้ว่าปลอดภัย รถของเฟยจินก็จอดอย่างรวดเร็ว จากนั้นพวกเขาก็รีบไปดูเฟยจินในทันที เมื่อเฟยจินรู้ว่าปลอดภัยแล้วก็ลงจากรถในทันที
“ท่านประธานาธิบดี เป็นอะไรหรือเปล่าครับ??”
“ฉันไม่เป็นไร ดีที่พวกนายมาทัน” เฟยจินพูดขึ้น
“ครับผม ตอนนี้เรากำลังส่งคนตามล่ารถคันนั้นอยู่ครับ”
“ต้องเป็นพวกสามเซียนแน่ๆ พวกมันกล้าเล่นแบบนี้กับฉัน” เฟยจินพูดขึ้น และในขณะเดียวกันนั้นเอง คนขับรถก็รีบมารายงานอะไรบางอย่างกับเฟยจินอย่างรวดเร็ว
“ท่านครับ เราตรวจสอบรถแล้ว รถไม่เสียหายมากครับ”
“อืม ดูเหมือนว่าพวกมันต้องการจะกำจัดฉัน ไม่แน่พวกมันอาจจะไปดักรอฉันที่บ้านพักก็ได้” เฟยจินพูดขึ้น
“ผมจะติดต่อทีมคุ้มกันเองครับ”
“อืม จัดการตามนั้นเลย ถ้าพวกมันอยากเล่นกับฉันแบบนี้ ฉันก็จะเล่นกับพวกมันด้วย” เฟยจินพูดขึ้น
“รับทราบครับผม”
“ยังไงก็จัดการที่เหลือด้วยนะ” เฟยจินพูดขึ้น จากนั้นตัวของเธอก็กลับไปขึ้นรถ และรถของเธอก็ออกจากพื้นที่ในทันที ในขณะที่เจ้าหน้าที่เองก็เร่งตามไล่ล่าแก๊งสามเซียนอย่างดุเดือด
และที่เมืองซีอาน เมืองของตระกูลลี่ ในตอนนี้กลุ่มคนปริศนากำลังจะเดินเข้ามาในเขตเมือง พร้อมอาวุธครบมือ ในระหว่างทางพวกมันเองก็เริ่มพูดคุยกันด้วย
“ลูกพี่ ที่นี่มันเขตตระกูลลี่นะพี่ จะเข้าไปจริงๆเหรอ??”
“จะกลับอะไรหล่ะ พวกเราสามเซียนนะ..” ยังไม่ทันที่ชายคนนั้นพูดจบ ในตอนนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้น
“ปัง!!” เมื่อพวกนั้นได้ยินเสียงปืนก็ชักปืนออกมา
“ที่นี่เป็นเขตของตระกูลลี่ ออกไปซะ!!” เสียงคนตะโกนออกมาจากที่ไหนซักแห่ง
“เฮ้ย พวกมึงรู้หรือเปล่าว่าพวกกูเป็นใคร??” หัวหน้าแก๊งตะโกนถามไป แต่สิ่งที่พวกนั้นได้กลับมาคือกระสุนปืนมากมายที่พุ่งเข้าร่าง
“ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
หลังสิ้นเสียงปืน พวกมันทุกคนก็ล้มลงกับพื้น พร้อมกันนั้นกลุ่มชายในชุดจีนถืออาวุธครบมือก็เดินออกมาจากจุดซุ่มข้างๆ และคนที่ควบคุมงานนี้ก็คือฮั่นหยางนั่นเอง ฮั่นหย่างเดินมาดูที่เกิดเหตุ พร้อมกันนั้น ชาวแก๊งคนหนึ่งที่ยังตายไม่สนิมก็จะชักปืนออกมายิงฮั่นหยาง แต่ฮั่นหยางรู้ก่อนเลยชักกระบี่ออกมาแล้วกวัดใส่มันจนมันตายคาที่
“จะทำอย่างไรต่อขอรับท่านหยาง??” ลูกน้องของเธอถามไป
“แขวนศพพวกมันประจาน” ฮั่นหยางตอบไป
และที่บ้านของตระกูลลี่ หลังจากที่ลี่หลินทำการแสดงงิ้วจบเรียบร้อยแล้ว ตัวของเธอก็ลงจากเวทีมา ตัวของเธอค่อนข้างผิดหวังเล็กน้อยเนื่องจากชาวบ้านไม่ค่อยมาดูงิ้ว เนื่องจากสถานการณ์ในตอนนี้ค่อนข้างอันตราย และเมื่อตัวชองเธอลงจากเวที ในตอนนั้นเธอก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น
“ปังๆๆๆๆๆ!!”
“ว้าย ตายแล้ว ยิงกันแล้วค่ะ!!” นักแสดงงิ้วคนหนึ่งตะโกนออกมา
“เย็นไว้ก่อน อย่าเพิ่งขวัญเสียไปเลย!!” ลี่หลินตะโกนบอกกับทุกคนไป
“ตอนนี้คุณฮั่นหยางเองก็ไปปะทะกับพวกมันแล้ว จะเป็นยังไงบ้างเนี่ย??”
“ไม่ต้องห่วง พี่หยางเล่นพวกมันได้ง่ายๆอยู่แล้ว” ลี่หลินพูดขึ้น
“แล้วเราจะเอายังไงกันต่อคะ??”
“ไปควบคุมงานและชาวบ้านไว้ไม่ให้แตกตื่น ไม่อย่างงั้นจะเกิดความเสียหายหนักขึ้น” ลี่หลินพูดขึ้น
“รับทราบค่ะ” ลูกน้องของเธอรับคำไป ก่อนที่จะพากันแยกย้ายไปทำตามที่ลี่หลินสั่ง
“พี่ต้องชนะพวกมันให้ได้นะ” ลี่หลินพูดขึ้น ในขณะที่เสียงปืนเองก็ยังดังขึ้นอยู่เรื่อยๆ ชาวบ้านเองก็พากันแตกตื่นตกใจกันยกใหญ่
กลับมายังสำนักนินจาของฮิเมะ หลังจากที่ได้จัดการงานที่ได้รับว่าจ้างไปงานหนึ่งแล้ว ในตอนนี้พวกเธอได้รับงานใหม่ซึ่งชายใส่สูทคนหนึ่งมาส่งงานให้กับพวกเธอ ลูกน้องของฮิเมะรับซองเอกสารจากชายคนนั้น จากนั้นก็เดินเอาไปให้ฮิเมะที่กำลังนั่งรออยู่ด้านใน ตัวของเธอรีบคำนับให้กับฮิเมะในทันที
“ขออนุญาตค่ะท่าน”
“อืม ว่ายังไงหล่ะ งานใหม่เหรอ??” ฮิเมะถามไป
“ใช่ค่ะ นี่ค่ะ” นินจาของเธอพูดขึ้น ก่อนที่จะยื่นเอกสารให้กับฮิเมะอย่างรวดเร็ว ตัวของฮิเมะเองรีบหยิบเอกสารในนั้นมาดูอย่างรวดเร็ว
“ปีเตอร์ เหยา สมาชิกคนสำคัญของแก๊งสามเซียน ปัจจุบันกำลังเดินทางมายังญี่ปุ่น!!”
“อืม แก๊งสามเซียน กำลังจะมาญี่ปุ่นงั้นเหรอ??” ฮิเมะถามไป
“ดูเหมือนจะใช่ค่ะ พวกเขากำลังจะเดินทางมาถึงในไม่กี่วันนี้ค่ะ”
“แล้วทำไมทางการจีนถึงไม่จับกุมมันหล่ะ??” ฮิเมะถามไป
“ดูเหมือนว่าทางการจีนตอนนี้กำลังมีปัญหากับทางการญี่ปุ่น พวกเขาเพ็งเล้งไปยังเขตทางเหนือเป็นพิเศษ ส่วนทางใต้ตั้งแต่สึชิมะลงมา พวกเขาไม่ค่อยได้ใส่ใจค่ะ”
“เอาเถอะ ถ้ามันจ้างมา เราก็พร้อมจะทำ” ฮิเมะพูดขึ้น
“เออ เราจะรับงานนี้จริงๆเหรอคะ??”
“ทำไมหล่ะ เธอมีปัญหาอะไรเหรอ??” ฮิเมะถามไป
“ฆ่าพวกสมาชิกแก๊งนี่ก็ยากอยู่แล้วนะคะ แต่นี่คือเบอร์ต้นๆของพวกสามเซียนเลยนะคะ??”
“ฉันไม่สนหรอกว่ามันจะใหญ่มาจากไหน” ฮิเมะพูดขึ้น จากนั้นตัวของเธอก็โยนรูปของเป้าหมายขึ้นไปบนฟ้า จากนั้นก็ชักดาบออกมา แล้วก็ฟันรูปจนแยกเป็นสองส่วน
“ฉับ!!”
“เยี่ยมยุทธ์มากค่ะ” นินจาของเธอพูดขึ้น
“เอาเถอะ ไปเตรียมพร้อมสำหรับงานนี้ก็แล้วกัน” ฮิเมะพูดขึ้น
กลับมายังบาร์ของเซนไซ แหล่งกบดานของเหล่ายากูซ่า ซึ่งในตอนนี้ตัวของเซนไซกำลังนั่งพักผ่อนดื่มเหล้าอยู่ในห้อง และในขณะเดียวกันนั้นเอง ลูกน้องของเขาคนหนึ่งก็เดินมารายงานอะไรบางอย่างกับเขา
“ท่านเซนไซ!!” ชายคนนั้นพูดขึ้นพลางก้มคำนับเซนไซ
“อืม มีอะไรงั้นเหรอ??” เซนไซถามไป
“ตอนนี้เรามีปัญหาเรื่องแก๊งโอนิวะที่เราเพิ่งไปเล่นงานมาครับ ดูเหมือนว่าตอนนี้กำลังมีคนติดตามทำข่าวเกี่ยวกับพวกเราครับ”
“ทำข่าวงั้นเหรอ ใครกันนะ??” เซนไซถามไป
“ตอนนี้เรากำลังสืบครับ แต่เหมือนว่านักข่าวคนนี้จะไม่ธรรมดาเลยครับ”
“ช่างมันเถอะ เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งฉันไม่อยากสนใจหรอก ว่าแต่ เรื่องของพวกมังกรดำนี่เป็นยังไงบ้าง??” เซนไซถามไป
“มีข่าวมาว่าตอนนี้มันกำลังเดินทางมา ใกล้จะถึงญี่ปุ่นแล้วครับ”
“อืม จับตาดูพวกมันไว้แล้วกัน” เซนไซพูดขึ้น
“เราจะแจ้งไปที่ทางการญี่ปุ่นเลยมั้ยครับ??”
“พวกนั้นมันจะช่วยอะไรได้ ตั้งแต่พวก JSDF มันยึดอำนาจ ประเทศนี้มันก็วุ่นวายไปหมด พวกเราต้องจ่ายส่วยให้พวกมันมาจนถึงทุกวันนี้ยังไงหล่ะ แล้วอีกอย่าง ไอ้พวกในสภาตอนนี้ก็ขวาจัดทั้งนั้น จะให้ไปร่วมมือกับทางการจีนเหรอ ฝันไปเถอะ” เซนไซพูดขึ้น
“นั่นสิครับผม สุดท้ายก็ต้องมาคอยเลียไข่พวกมันจนถึงวันนี้”
“เออ จับตาพวกมันเอาไว้แล้วกัน” เซนไซพูดขึ้น
กลับมายังห้องพักของอลิซ หลังจากที่ตัวของเธอกลับมาจากการบ้านใหญ่ของแก๊งโอนิวะ ตัวของเธอก็กลับมารวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่ห้องของเธอ ในระหว่างนั้นเอง โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น อลิซรีบไปรับโทรศัพท์ในทันที
“ฮัลโหล??”
“อลิซ นี่ฉันเอง”
“คุณนิโคลัส ว่าไงคะ??” อลิซถามไป
“ฉันส่งข้อมูลที่เธออยากได้ไปแล้วนะ”
“ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” อลิซตอบไป
“อลิซ ช่วงนี้เธอต้องระวังด้วย ตอนนี้โทรศัพท์ของคุณอาจจะถูกดักฟัง ถ้าเป็นไปได้ ติดต่อกันทางอื่นดีกว่า”
“ห่ะ จริงเหรอคะ ติดต่อทาง Telegram เหมือมนเดิมเหรอคะ??” อลิซถามไป
“ใช่แล้วหล่ะ หวังว่าคุณยังไม่ลบมันทิ้งนะ”
“ยังหรอกค่ะ คุณก็รู้นี่” อลิซพูดขึ้น
“เอาเถอะ เรื่องนี้มันเรื่องใหญ่เลยนะ มีข่าวว่าพวกรัฐบาลเองก็รับสินบนจากคนพวกนี้ด้วย”
“ค่ะ เรื่องนั้นฉันรู้ค่ะ” อลิซพูดขึ้น
“เธอต้องระวังตัวด้วยนะ เรื่องนี้ฉันเป็นห่วงมากๆ”
“ค่ะ ฉันรู้ว่าต้องเอาตัวรอดยังไง” อลิซพูดขึ้น
กลับมายังปราสาทของตระกูลคารากุซะ ในตอนนี้ตัวของอาราตะได้ส่งหัวหน้าหน่วยต่างๆไปจัดการงานเรื่องการมาของปีเตอร์ เหยา สมาชิกคนสำคัญของแก๊งสามเซียน ซึ่งจะมาเจรจาอะไรบางอย่างกับแก๊งมังกรดำในญี่ปุ่น ในตอนนั้นอาราตะได้ติดต่อกับเหล่าหัวหน้าหน่วย เพื่ออัพเดทสถานการณ์เพิ่มเติมผ่านวีดีโอทางไกลด้วย
“เอาหล่ะ ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงกันบ้าง??” อาราตะถามทุกคนไป
“ครับ ตอนนี้พวกมังกรดำกำลังสู้กับแก๊งยากูซ่าทางใต้ และกำลังกวาดล้างได้อย่างหนักเลยครับ” อิชิโซพูดขึ้น
“หือ พวกมันทำได้ยังไงกัน??” อาราตะถามไป
“ดูเหมือนว่าพวกมันจะได้รับความร่วมมือจากคนในรัฐบาลค่ะ ฉันลองติดต่อสายของเราในรัฐบาลแล้ว” ริสะพูดขึ้น
“กะแล้ว พวกมันต้องมีคนในรัฐบาลร่วมมือด้วย ไม่อย่างงั้นพวกมันคงทำอะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก ริสะ ฉันอยากให้สายของเธอหาข้อมูลในรัฐบาล หาดูว่ามีใครรับสินบนจากพวกมันบ้าง แล้วอีกอย่าง ตอนนี้พวกมันกำลังทำอะไรกันอยู่หล่ะ??” อาราตะถามไป
“ตอนนี้พวกผมกำลังจับตาพวกมันอยู่ครับ จากที่เรารวบรวมข้อมูลและความเคลื่อนไหวของมัน มีความเป้นไปได้ว่าพวกมันจะประชุมใหญ่กันที่ฮิโรชิมะครับ” เคนพูดขึ้น
“ฮิโรชิมะเหรอ ที่นั่นอยู่ภายใต้การนำของพวกคาเตะไม่ใช่เหรอ ทำไมพวกเขาถึงไม่ทำอะไรซักหน่อยหล่ะ??” อาราตะถามอย่างสงสัย
“มีข่าวมาว่าพวกคาเตะ โดนพวกมันกวาดล้างไปหมดแล้วค่ะ ตั้งแต่พวกมันร่วมมือกับโอนิวะ พวกมันก็กวาดล้างกีงยากูซ่าทางใต้ได้อย่างหมดจดเลยค่ะ” โอโซระพูดขึ้น
“อืม แต่ตอนนี้โอนิวะเองก็โดนเล่นงานจนหมดแล้ว แต่ดูเหมือนว่าพวกมันเองก็ไม่ต้องพึ่งแก๊งโอนิวะอีกแล้วสินะ” อาราตะพูดขึ้น
“ครับ ดูเหมือนว่าพวกมันจะขนส่งอาวุธกันมาไม่อั้นเลยครับ” โทโร่พูดขึ้น
“เอาเถอะ ตอนนี้อาวุธของเราก็มีมากพอจะสู้กับพวกมันทั้งหมดอยู่แล้ว ฉันจะลองติดต่อหาหัวหน้าแก๊งยากูซ่าทางเหนือด้วยอีกแรง ดูว่าพวกเขาจะมีท่าทียังไง” อาราตะพูดขึ้น
ณ ที่ไหนซักแห่งในสวิส กลุ่ม Vipernox ซึ่งนำโดยวาลก็ได้เดินทางมาถึงโรงแรมที่พวกเขาเช่าเอาไว้ บรรยากาศรอบด้านดูจะวุ่นวาย ผิดกับภาพที่พวกเขาคิดว่า ขนาดประเทศที่ได้ชื่อว่าน่าอยู่ ตอนนี้แทบไม่ต่างอะไรจากนรกบนดินมากนัก วาลในตอนนั้นที่คุยโทรศัพท์กับใครบางคน และเมื่อพูดจบ เธอก็วางสายในทันที
“ทุกคน หน่วยเหนือติดต่อมาแล้ว มีข่าวมาว่าพวกหน้ากากทองอาจจะเดินทางไปเช็ก หรือไม่ก็โปแลนด์นี่หล่ะ” วาลพูดกับทุกคน
“ผมเดานะ พวกนั้นต้องไปเช็กแน่ๆเลยครับ” นิโคลัสพูดขึ้น
“พวกมันจะไปเช็กทำไมกัน พวกมันน่าจะไปโปแลนด์มากกว่า ที่นั่นมีธนาคารมืดที่ใหญ่กว่าที่เช็กซะอีก” แอนติโมไนท์พูดขึ้น
“เป้าหมายของพวกนั้นอาจจะไม่ใช่ธนาคารมืดก็ได้” แร็คนาร็อกพูดขึ้น และไม่นานนัก รถของพวกเขาก็เดินทางมาถึงโรงแรมที่พวกเขาจองเอาไว้แล้ว ในตอนนั้นพวกเขาก็ลงจากรถในทันที พร้อมกันนั้น เด็กโรงแรมคนหนึ่งก็เดินมาหาพวกเขาอย่างรวดเร็วเพื่อคุยด้วย
“สวัสดีครับ พวกคุณคือ Vipernox หรือเปล่าครับ??”
“ใช่ค่ะ” วาลตอบไป
“ผมเป็นสายจากหน่วยเหนือ เชิญทางนี้ครับ” เด็กของโรงแรมพูดขึ้น จากนั้นเขาก็นำทางพวกของวาลไปยังห้องพักซึ่งอยู่ชั้น 7 และไม่นานนัก พวกเขาก็เดินทางมาถึงห้องๆหนึ่ง ซึ่งด้านในห้องพักมีอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆมากมายซึ่งวางเรียงกันไว้ รวมถึงประตูเชื่อมต่อระหว่างห้องด้วย
“ห้องนี้เชื่อมต่อกัน 2 ห้องครับ อาวุธจะอยู่ด้านนั้น แล้วก็อุปกรณ์แกะรอย ถ้าต้องการอะไรเพิ่มก็บอกผมนะครับ” เด็กโรงแรมพูดขึ้นพลางยื่นนามบัตรให้กับวาล จากนั้นตัวของเขาก็เดินออกจากห้องในทันที
“เออ ห้องเล็กนะครับเนี่ย” นิโคลัสพูดขึ้น
“เอาเถอะ แค่นี้ก็พอแล้วหล่ะ เรามาทำงานนะ” แอนติโมไนท์พูดขึ้น
“อยากรู้เลยว่าไอ้มาคารอฟตอนนี้มันอยู่ที่ไหน” แร็คนาร็อกพูดขึ้น
“โอเค เรามาประชุมกัน” วาลพูดขึ้น จากนั้นทุกคนก็มารวมตัวกันอยู่ต่อหน้าเธอในทันที จากนั้นเธอก็เอาข้อมูลให้กับทุกคนได้ดู
“เอาหล่ะ สายของเรารายงานมาว่า พบผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นไอ้มาคารอฟมันจะไปกบดานอยู่ที่นี่” วาลพูดขึ้นพลางเอาข้อมูลให้ทุกคนสลับกันดู
“โห น่าจะอันตรายเหมือนกันนะครับเนี่ย” นิโคลัสพูดขึ้น พลางมองไปยังย่านสลัมย่านหนึ่ง
“ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุดไงหล่ะ” แอนติโมไนท์พูดขึ้น
“แล้วเราจะทำยังไงกันหล่ะครับ??” แร็คนาร็อกถามไป
“เราจะค้นหาบ้านที่มันอยู่แน่ชัด ขืนไปค้นทุกบ้าน มันอาจจะรู้ตัวแล้วหนีไปก่อนก็ได้” วาลพูดขึ้น
“งานนี้คงต้องยิงให้หมดสินะครับ” นิโคลัสพูดขึ้น
“ก็แน่หล่ะ ถ้าไม่ฆ่าแล้วจะให้ทำยังไงหล่ะ??” แร็คนาร็อกถามไป
“อืม มันอาจจะมีกองกำลังติดอาวุธในพื้นที่ด้วยก็ได้นะครับ” แอนติโมไนท์พูดขึ้น
“ใช่ แต่ตอนที่ฉันติดต่อกับหน่วยเหนือตอนอยู่ในรถ พวกเขาบอกว่าอยากให้จับเป็นมาคารอฟ ทางหน่วยเหนือต้องการถามมันว่ามีใครร่วมมือกับมันอีกหรือเปล่า” วาลพูดขึ้น
“โห ไอ้บ้านี่มันคงไม่ยอมให้เราจับแน่ๆ พวกมันอาจจะร่วมมือกับตำรวจในพื้นที่เพื่อคุ้มกันมันก็ได้” แร็คนาร็อกพูดขึ้น
“ก็อย่างที่บอก งานนี้ปิดปากให้หมด ต่อให้เป็นตำรวจท้องที่ก็ตาม” แอมติโมไนท์พูดขึ้น
“แล้วเราจะตามล่าตัวมันตอนไหนหล่ะครับ??” นิโคลัสถามไป
“เดี๋ยวนี้เลย” วาลตอบไป
กลับมายังบ้านพักของคาร์เมน หลังจากที่ตัวของเธอถูกคนของสภาเงามาข่มขู่ ตัวของเธอได้ติดต่อกับใครบางคนเพื่อให้มาช่วยเรื่องนี้ เธอให้เลขาโทรศัพท์ติดต่อกับคนๆหนึ่ง และไม่นานนัก การสนทนาก็เริ่มขึ้น
“สวัสดีค่ะคุณอัลเบิร์ต”
“อ้าว คุณคาร์เมน มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ??”
“ดูเหมือนว่าช่วงนี้ฉันกำลังแย่แล้วหล่ะ” คาร์เมนพูดขึ้น
“ห่ะ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ??”
“ดูเหมือนจะมีคนของสภาเงามาข่มขู่ฉันแล้วค่ะ” คาร์เมนพูดขึ้น
“ห่ะ พวกสภาเงามันจะเล่นงานคุณเหรอครับ??”
“ค่ะ ตอนนี้ทาง MI6 มีความเคลื่อนไหวอะไรหรือเปล่าคะ??” คาร์เมนถามไป
“ทางเรากำลังตามสืบว่ามี สส. คนไหนที่มีเอี่ยวกับพวกสภาเงาบ้าง แต่ดูเหมือนจะมีเยอะเลยหล่ะครับ”
“โห แบบนั้นก็แย่เลยนะคะ” คาร์เมนพูดขึ้น
“แล้วตอนนี้กองกำลังของพวกคุณเป็นยังไงบ้างครับ??”
“ก็พอช่วยได้ระดับหนึ่งหน่ะค่ะ ฉันส่งคนของฉันบางส่วนไปคุ้มกันกินการของฉันแล้วด้วย” คาร์เมนพูดขึ้น
“ผมจะลองตามสืบดูครับว่าใครมันมีเอี่ยวกับเรื่องนี้เองครับ”
“ค่ะ รบกวนคุณแล้วนะคะ” คาร์เมนพูดขึ้น
“ไม่รบกวนเลยครับ ถ้าไม่มีพ่อคุณ ผมก็คงไม่มีวันนี้ ผมจะเร่งกวาดล้างเครือข่ายของพวกมันเองครับ”
“ค่ะ ฉันเข้าใจค่ะ” คาร์เมนตอบไป
กลับมายังนิวซีแลนด์ เขตสหพันธ์โอเชียเนีย บ้านพักประธานาธิบดี อาร์กติกเดินเข้าไปในบ้านของเธอ โดยที่บรรดาแม่บ้านพ่อบ้านเองก็กำลังต้อนรับพวกเขา
“กลับมาแล้วเหรอคะ??” แม่บ้านของเธอถามไป
“กลับมาแล้วค่ะ ขอเครื่องดื่มให้ฉันหน่อยค่ะ” อาร์กติกพูดขึ้น และในขณะเดียวกันนั้นเอง พ่อบ้านของเธอคนหนึ่งก็เดินมาหาเธอพร้อมกับโทรศัพท์เครื่องหนึ่ง
“ท่านประธานาธิบดีครับ โทรศัพท์จากรัฐมนตรีมหาดไทยครับ” อาร์กติกได้ยินดังนั้นก็รับสายในทันที
“ฮัลโหล ว่าไงคะ??”
“ท่านครับ เรื่องสัญชาติที่ท่านว่ามา เราดำเนินการแล้วนะครับ แต่ดูเหมือนว่าในประเทศสมาชิกต้องการความคืบหน้าในการปราบโจรสลัดครับ”
“ค่ะ ตอนนี้ฉันส่งกองทัพเรือออกไปแล้วค่ะ” อาร์กติกพูดขึ้น
“ครับท่าน ตอนนี้ทางอินโดนิเซีย สิงคโปร์ รวมถึงฟิลิปปินส์ เพิ่งจะลาออกจากการเป็นสมาชิกอาเซียน เพื่อเตรียมเข้าสู่ความร่วมมือกับเรา แต่พวกเขาต้องการความมั่นใจครับ”
“อืม เรื่องความมั่นใจ ฉันจะจัดการเอง ไม่แน่ เราอาจจะได้มาเลเซียมาร่วมด้วยก็ได้” อาร์กติกพูดขึ้น
“ครับ ขอบคุณมากครับท่าน” จากนั้นสายก็วางไป
“คุณพ่อบ้าน ต่อสาย ผบ. กองทัพเรือให้หน่อยสิคะ” อาร์กติกพูดขึ้น
กลับมายังสถานีอวกาศที่ตัวของวิลเลี่ยมทำงานอยู่ วันนี้ตัวของวิลเลี่ยมติดต่อกับจาคอปเพื่อพูดคุยเรื่องการปล้นธนาคารมืดที่เพิ่งจะเกิดขึ้น มันสำคัญมากเพราะดูเหมือนว่าทางองค์กรจะติดตามเรื่องนี้เป็นพิเศษ
“เฮ้ จาคอป ดีที่ได้เจอนาย”
“เออ เจอมาหนักสินะพวก??” จาคอปตอบกลับวิลเลี่ยม
“นั่นสิ ทางองค์กรหัวเสียหนักมาก เพราะดูเหมือนมันไม่ทิ้งร่องรอยไว้เลย”
“ท่าทางจะเจอของจริงเข้าแล้วสินะ”
“ใช่แล้วหล่ะ และเรื่องนี้ ฉันยืนยันนอนยันเลยว่า The Green Hood มามีเอี่ยวด้วย”
“ห่ะ นี่นายแน่ใจเหรอ ไม่ใช่ว่าเจอมือดีจนหลอนนะ??”
“นี่ ฉันแยกออกน่าว่าใครเป็นใคร แต่ฝีมือการทำงานแบบนี้ ฉันพอเดาได้ว่าเป็นมัน”
“ฉันไม่เข้าใจ ทำไมมันต้องลงมาปล้นเองหล่ะ??”
“มันอาจจะร่วมมือกับพวกโจรกระจอกมาทำแบบนี้ก็ได้ ตอนนี้การแฮ็กเงินเอาออกมาใช้เป็นเรื่องยาก เพราะธนาคารสามารถตามรอยได้หมด”
“เออ แล้วทางองค์กรจะเอายังไงต่อหล่ะ??”
“ตอนนี้พวกเขาไม่สนวิธีการแล้ว พวกเขาบอกว่า ต้องตามล่าหัวพวกนั้นมาให้ได้ แล้วอีกอย่าง ตอนนี้ฉันกำลังตามเรื่องพวกโจรหน้ากากทองอยู่”
“พวกหน้ากากทอง ฉันคิดว่าพวกมันไปกบดานแล้วซะอีก”
“สายข่าวของพวก Vipernox มันได้ข้อมูลมาหน่ะ”
“จะเชื่อไอ้พวกนั้นได้เหรอ??”
“ก็ไม่อยากเชื่อพวกมันนักหรอก ไอ้พวกนี้มันหยิ่งทะนง คิดว่าแน่ แต่ไม่ต้องห่วง พวกเรามีแผนว่าจะเล่นงานพวกมันแน่ อีกไม่นาน”
“เฮ้ย แต่พวกนี้มันไม่ธรรมดาเลยนะ เครือข่ายของพวกมันมีมากในรัสเซียเลย”
“ไม่หรอก ฉันมีข้อมูลวงในมา ตอนนี้อดีต ผบ. FSB ที่ชื่อเซอร์เก พวกนั้นดูไม่ค่อยปลิ้มหน่วย Vipernox เท่าไหร่ ดูเหมือนเขากำลังกวาดล้างเครือข่าย Vipernox ในรัสเซีย และเขาก็เป็นสมาชิกสภาเงาด้วย”
“ถ้าอย่างงั้น คงต้องมีการล็อบบี้การเลือกตั้งกันแน่ๆ”
“นายต้องอยากรู้แน่ๆ ว่าทางสภาเงาเสียเงินไปเท่าไหร่กับการล็อบบี้ครั้งนี้”
“เอาเถอะ ยังไงก็ขอให้โชคดีแล้วกัน ฉันเองก็ต้องคุ้มกันธนาคารมืดในพื้นที่ของฉัน”
“โอเค ถ้ามีอะไรจะติดต่อไป”
ณ เมืองดีทรอยต์ หลังจากที่กลุ่มของแจ็กเก็ตได้จัดการกลุ่มคู่อริของพวกเขาได้เรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็เปลี่ยนแหล่งกบดานใหม่หลังจากเกิดเรื่อง พวกเขาอยู่บนยอดตึกหลังหนึ่ง ซึ่งถูกปล่อยทิ้งร้างเอาไว้หลังจากที่เมืองล้มละลาย พร้อมกันนั้นพวกเขาก็นั่งดื่มด้วยกันไปด้วยเพื่อผ่อนคลาย
“ฮ่าๆๆๆ ไม่น่าเชื่อว่าพวกมันจะหลงกลง่ายขนาดนี้” แจ็กเก็ตพูดขึ้น
“นั่นสิลูกพี่ ป่านนี้พวกมันคงเสียหน้าแย่” ลูกน้องของเขาพูดขึ้น
“ตอนนี้บอสใหญ่ของพวกมันคงกำลังตามเรื่องนี้อยู่แน่ แต่ฉันไม่กลัวพวกมันหรอก” แจ็กเก็ตพูดขึ้น
“ลูกพี่ แต่เราได้ยินมาว่า พวกนี้มันมีสภาเงาหนุนหลังด้วยนะครับ”
“เออ ฉันรู้ แต่แล้วยังไงหล่ะ??” แจ็กเก็ตถามไป
“ครับ เราอาจจะต้องหาคนหาอาวุธเพิ่มนะครับ”
“แน่นอน เดี๋ยวเราก็หาได้เองหล่ะ” แจ็กเก็ตพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น แจ็กเก็ตรีบรับสายในทันที
“ฮัลโหล??”
“ลูกพี่ ตอนนี้บอสของพวกที่พี่ไปมีเรื่องด้วยมันรู้เรื่องแล้วนะพี่ พวกมันกำลังตามล่าหัวพี่อยู่ พี่ต้องระวังด้วยนะพี่!!”
“เออ ให้พวกมันมาเถอะ” แจ๊กเก็ตตอบกลับไป
กลับมายังแหล่งกบดานของคิม ตัวของคิมเองกลับมาเตรียมระเบิดเพื่อวางระเบิดตึกของธนาคารมืด ตัวของเธอเลือกถึง 30 ลูก ดัดแปลงมันให้สามารถผ่านเครื่องตรวจสอบอาวุธได้ ในระหว่างที่เธอกำลังเตรียมของอยู่นั้น โทรศัพท์สายหนึ่งก็เข้ามา เธอรีบรับสายในทันที
“ฮัลโหล ว่าไง??”
“เฮ้ คิม เป็นยังไงบ้าง??”
“อ้อ กำลังเตรียมของอยู่ งานนี้จัดชุดใหญ่เลย” คิมตอบไป
“อืม มีข่าวมาว่าจะมีการรักษาความปลอดภัย เพราะ VIP ของพวกมันจะไปที่นั่น ถ้าเกิดว่ามันตาย เธอจะได้เงินเพิ่ม 5 แสนจากเดิมนะ”
“ห่ะ จริงเหรอ แบบนี้ก็เยี่ยมเลยสิ” คิมพูดขึ้น
“อืม แต่งานนี้พวกมันอาจจะตรวจสอบเยอะนะ”
“ไม่ต้องห่วง ฉันเตรียมพร้อมไว้แล้ว” คิมพูดขึ้น
“เอาเถอะ ยังไงก็จัดการแล้วกัน”
“ได้เลย อย่าลืมเงินที่ตกลงไว้ด้วยหล่ะ” คิมตอบกลับไป จากนั้นก็วางสายโทรศัพท์ในทันที
กลับมายังเขตภูเขาอุทยานซึ่งเป็นแหล่งกบดานของลีฟา หลังจากที่พวกเขาจัดการกลุ่มโจรที่ตามมาเล่นงานพวกเขาได้เรียบร้อยแล้ว พวกเขารีบเก็บอาวุธรวมถึงของของพวกมันที่สามารถใช้ประโยชน์ได้มาในทันที และในตอนนั้นเอง ลูกน้องของลีฟาเองก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง เขารีบเอาโทรศัพท์ไปให้กับลีฟาในทันที
“โทรศัพท์ครับพี่” ลีฟารีบเอาโทรศัพท์มาในทันที
“ฮัลโหลครับ”
“คุณลีฟา ผมมีงานใหม่”
“อ้อ งานใหม่เหรอครับ ที่ไหนหล่ะ??” ลีฟาถามไป
“เทกซัส งานของนายคือไปชิงของอย่างหนึ่งซึ่งจะมีการขนส่งไปยังไร่แคสซิตี้”
“ของงั้นเหรอ มันคืออะไรกันครับ??” ลีฟาถามไป
“มันเป็นกระเป๋าถือใบหนึ่งหน่ะ ข้างในมีของสำคัญมาก ทางผมก็ไม่รู้หรอกว่าข้างในมีอะไร”
“พอจะบอกรายละเอียดให้ผมมากกว่านี้ได้หรือเปล่า??” ลีฟาถามไป
“การขนส่งจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่วันหน่ะ เส้นทางเราจะส่งไปอีกที”
“เฮ้อ ช่วยได้มากเลย” ลีฟาพูดขึ้น
“เอาน่า ผมกำลังให้สายข่าวของผมตามอยู่ไง”
“เอาเถอะครับ ยังไงก็ขอให้มันเป้นประโยชน์หน่อยแล้วกัน” ลีฟาพูดขึ้น
“ไม่ต้องห่วง เอาไว้ฉันจะรีบส่งข้อมูลไปก็แล้วกัน”
“โอเคครับ เลิกกัน” ลีฟาตอบไปก่อนที่เขาจะวางสายอย่างรวดเร็ว
กลับมายังบ่อนของมิคาสุกิ หลังจากที่งานของเธอที่ให้ซัลและทอมมี่ระแวงกันสำเร็จไปได้ครึ่งหนึ่ง ในวันนั้นตัวของเธอก็กลับมานั่งนับเงินและผลประโยชน์ที่เธอได้มาเพิ่มขึ้น ซึ่งตัวของเธอพอใจกับผลประโยชน์ครั้งนี้ที่เธอได้มาก
“อืม กำไรของเราเพิ่มขึ้นมากเลยนะเนี่ย” มิคาสุกิพูดขึ้น
“ใช่ครับ เราได้จากนักเล่นมากมาย รวมถึงเงินที่เราฟอกมาได้ด้วยครับ”
“ดี ถ้าเกิดซัลกับทอมมี่มันตีกันขึ้นมา เราจะได้ประโยชน์มากกว่านี้อีก” มิคาสุกิพูดขึ้น
“ครับ ผมเข้าใจครับ”
“เมื่อไหร่พวกมันจะยิงกันให้ตายกันซะทีนะ??” มิคาสุกิถามไป และในขณะเดียวกันนั้นเอง ชายคนหนึ่งก็พาเด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งดูเหมือนว่าอายุจะไม่เกิน 15 มาให้กับมิคาสุกิ มิคาสุกิแปลกใจเล็กน้อย
“นี่ พาเด็กนี่มาทำไมกัน??” มิคาสุกิถามไป
“พ่อแม่ยัยนี่พาเด็กนี่มาขัดดอกบ่อนของเราครับ”
“เฮ้ย อะไรเนี่ย ฉันแค่มาหาเงินนะ??” เด็กคนนั้นถามไป ตอนนั้นมิคาสุกิก็เดินเข้าไปใกล้เธอ จากนั้นก็ลองดมตัวของเธอไปด้วย
“อืม เนื้อตัวสะอาดดีแหะ”
“นี่น้า จะให้ทำอะไรก็ทำเถอะ หนูต้องไปหาลูกค้าต่อนะ”
“หาลูกค้า นี่เธอขายด้วยเหรอ??” มิคาสุกิถามไป
“ถ้าไม่ขายแล้วจะเอาอะไรกินหล่ะป้า??”
“งั้นเหรอ เธอลองไปนอนกับท่านซัลดูสิ เขาชอบเด็กมากเลยนะ เขาจ่ายไม่อั้นเลย ยิ่งตัวหอมๆแบบเธอด้วย” มิคาสุกิพูดขึ้น
“งั้นเหรอ เอาไงก็เอาเถอะ”
“ฉันรับรองเลยว่าเธอไม่ขัดใจเขา พ่อแม่เธอปลอดหนี้บ่อนของฉันได้แน่นอน เฮ้ยพวกนาย เอาเด็กนี่ไปให้คคุณซัล บอกว่าฉันส่งของขวัญให้” มิคาสุกิสั่งลูกน้องของเธอไป
กลับมายังห้องพักของโจชัว หลังจากที่ตัวของเขาได้เงินจากโจอี้เรียบร้อยแล้ว ตัวของขาก็กลับมาพักที่ห้อง พร้อมกันนั้นก็นอนพักไปบนเตียงด้วยความเหนื่อย แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆก็มีคนมาเคาะประตูที่หน้าห้องเขา ตัวของโจชัวสงสัยอะไรเล็กน้อย เขารีบเดินไปดูที่หน้าประตูและมองลอดผ่านช่อง พบว่าเป้นกลุ่มผิวสีกลุ่มเดิมที่วิ่งไล่ตามพวกเขา โจชัวตกใจมากแต่ยังนิ่งและไม่ส่งเสียง เขารับขึ้นไปซ่อนที่เพดานในทันที และไม่นานนัก พวกมันก็พังประตูเข้ามา จากนั้นก็เข้าไปค้นห้องทุกซอกทุกมุม
“เฮ้ย มันอยู่ที่นี่แน่เหรอ??”
“แน่สิ ไอ้โจอี้มันบอกมานี่ เงินทุกแดงอยู่กับไอ้บ้านี่”
“สงสัยมันคงหนีไปแล้วมั้ง เห็นหน้าต่างเปิดนี่”
“เวรเอ้ย ก็ตามมันไปสิ!!” มันพูดขึ้นจากนั้นก็รีบวิ่งออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว ตัวของโจชัวรีบจากเพดาน จากนั้นเขาก็พูดขึ้น
“เวรเอ้ย คงอยู่นี่ไม่ได้แล้วหล่ะ” โจชัวพูดขึ้น ก่อนที่ตัวของเขาจะรีบเก็บของใส่กระเป๋าอย่างลวกๆ ไม่นานนักก็เก็บของมาได้พอสมควร เขารีบวิ่งออกจากห้อง แต่ในตอนนั้น ชายผิวสีคนหนึ่งก็ดันมาเจอเขาเข้า
“เฮ้ย มันอยู่นั่น!!”
โจชัวตกใจมากรีบวิ่งออกไปด้านนอกในทันที ตัวของเขารีบวิ่งลงตึก จากนั้นก็รีบออกไปนอกตึกในทันที พร้อมกันนั้น พวกมันที่เหลือก็มาเจอเข้า จากนั้นก็รีบวิ่งไล่ตามโจชัวต่อ
“เฮ้ย หยุดนะเว้ย!!”
“หยุดให้โง่เหรอวะ??” โจชัวตะโกนออกมา
ณ ไร่ข้าวสาลีแห่งหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนจะเป็นไร่ที่สงบสุข แต่ในตอนนี้ เสียปืนและกลิ่นคาวเลือดกระจายอยู่เต็มพื้นที่ไปหมด นั่นเป็นเพราะกลุ่มของแคสซิดี้ได้บุกเข้ามาที่ฟาร์มนี้ พร้อมกับฆ่าทุกชีวิตที่อยู่ในนั้น ไม่นานนัก ลูกน้องของเธอก็จับตัวชายคนหนึ่งมาหาเธอได้ ชายคนนั้นเมื่อได้เห็นแคสซิดี้ก็พูดขึ้น
“นี่แก!!”
“เจ๊ เราจับมันมาได้ ตอนมันกำลังจะหนีเลย” ลูกน้องของเธอพูดขึ้น
“ว่ายังไงคุณโจนาธาน ดูเหมือนว่าครั้งนี้พวกมันจะมาช่วยคุณไม่ได้นะค” แคสซิดี้พูดขึ้น
“อีระยำ ถ้าคุณจอห์นรู้ว่าแกทำแบบนี้ แกตายแน่!!”
“เฮ้อๆๆ ไม่ต้องห่วง มันจะเป็นคนต่อไป แต่ถ้าคุณมาทำงานให้ฉัน ฉันอาจจะให้คุณมีชีวิตอยู่อีกซักวันสองวันก้ได้นะ” แคสซิดี้พูดขึ้น
“ฝันไปเถอะอีบ้า คิดเหรอว่าแกจะเทียบชั้นคุณจอห์นได้ นังเด็กเมื่อวานซืน เธอมันก็แค่อีตัวของไอ้พวกนั้น ไปดูดไข่กูในนรกเถอะ!!” แคสซิดี้ทนฟังไม่ไหวเลยใช้ปืนของเธอฟาดเข้าไปที่หน้าของมัน จนมันสลบไป
“มันด่าเจ็บนะเจ๊” ลูกน้องของเธอพูดขึ้น
“เอามันไปเป็นอาหารหมูซะ” แคสซิดี้พูดขึ้น
“แล้วเรื่องฟาร์มจะเอายังไงหล่ะครับ??”
“ก็ส่งคนของเรามาคุมที่นี่สิ เรื่องคนและอาวุธเรามีพออยู่แล้ว” แคสซิดี้พูดขึ้น
“ครับๆ ได้เลยครับ”
“คอยดู ต่อไปจะเป็นตาของไอ้จอห์นแน่ๆ แล้วเรื่องการส่งของจะยังไงต่อหล่ะ??” แคสซิดี้ถามไป
“เราจัดคนไว้เรียบร้อยแล้วครับ”
“เออ ดี งานนี้อย่าให้มีปัญหาหล่ะ” แคสซิดี้บอกไป
ณ เมืองแห่งหนึ่งยูท่าร์ ซีลเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์เข้ามาพักในเมืองแห่งหนึ่ง เขาขี่รถไปจอดที่โรงแรมแห่งหนึ่ง จากนั้นไม่นาน เขาก็ลงจากรถ แล้วมองไปที่ตึกหลังหนึ่งซึ่งอยู่ตรงข้ามโรงแรม ตึกนั้นมียามสองคนกำลังยืนเฝ้าอยู่ด้วย
“ตึกนี้สินะ” ซีคพูดขึ้น ก่อนที่ในตอนนั้น ยามสองคนที่สังเกตเห็นว่าซีคกำลังมองพวกเขา เลยเดินมาหาในทันที ซีคในตอนนั้นไม่อยากมีปัญหาเลยเดินออกห่างไป จากนั้นก็เข้าไปหลบในซอยแห่งหนึ่ง
“เข้มกันจังเลยนะพวกมึง” ซีคพูดขึ้น และในตอนนั้น ตัวของเขาเองก็รออยู่ไม่นานนัก ก็เดินกลับออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เดินไปที่โรงแรมเดิม เขาเดินไปที่ห้องรับแขกสำหรับเช็กอิน พนักงานเห็นเขาเลยทักทายเขาในทันที
“ว่าไงลุง หาห้องเหรอลุง??”
“ใช่ ห้องสุดท้ายว่างหรือเปล่า??” ซีคถามไป
“ว่างพอดีพี่” พนักงานพูดขึ้นก่อนที่จะยื่นกุญแจให้ซีค ซีคเองก็หยิบมาในทันที
“ลุง เมื่อกี้ไอ้พวกนั้นมันทำอะไรลุงหรือเปล่า??”
“อะไร ไอ้พวกที่มันไล่ตามฉันเหรอ??” ซีคถามไป
“ก็ใช่หน่ะสิลุง ได้ยินว่าไอ้พวกนั้นเป็นขาใหญ่จากต่างถิ่น ยังไงก็ระวังด้วยนะลุง”
“เออๆ ขอบใจ” ซีคตอบกลับไป ก่อนที่เขาจะเดินไปที่ห้องที่เขาจองเอาไว้ในทันที
ณ สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ในตอนนั้นกลุ่มตำรวจของฟิลิปเองก็เตรียมความพร้อมสำหรับการจับกุมฆาตกรต่อเนื่องที่กำลังเป็นข่าว พวกเขาล้อมอยู่ไม่นาน พวกเขาก็ได้รับความเคลื่อนไหวจากชายปริศนาคนหนึ่ง
“ท่านครับ ผู้ต้องสงสัยกำลังจะเดินตามคนของเราครับ” ตำรวจคนหนึ่งรายงานฟิลิป ในตอนนั้น มันก็ชักมีดออกมาอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ย จับกุมเลย!!” ฟิลิปที่ได้เห็นก็ตะโกนออกมา จากนั้นกลุ่มตำรวจเองก็รีบบุกเข้าไปจับพวกนั้นในทันที โยเฉพาะคาร์ล เขารีบวิ่งไปตามจับมันในทันที
“เฮ้ย หยุดนะเว้ย!!” คาร์ลตะโกนออกมา มันรีบวิ่งหนีเข้าไปซ่อนตัวในสวน คาร์ลรีบวิ่งไล่ตามไป เขากระโดดตะครุบตัวชายคนนั้นอย่างรวดเร็ว แต่ชายคนนั้นก็ขัดขืนได้แล้วถีบหน้าคาร์ลออกไป
“ตุ๊บ!!” มันรีบวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว คาร์ลเองไม่ละความพยายามแล้ววิ่งไล่ตามมันไป ในตอนนั้นเอง มันวิ่งหนีเข้าไปในใต้สะพานแห่งหนึ่ง คาร์ลวิ่งไล่ตามมันไป แต่ยังไม่ทันไร ตัวของคาร์ลก็ตกใจมากกับภาพที่เกิดขึ้น
“เฮ้ย!!” คาร์ลเห็นชายคนนั้นนอนแน่นิ่ง ในสภาพที่จมกองเลือด คาร์ลรีบวิ่งไปดูร่างของเขา จากนั้นก็ตรวจสอบดูว่าชายคนนั้นตายหรือยัง จนแล้วจนรอดก็พบว่าชายคนนั้นตายจริง และในตอนนั้นเอง จู่ๆก็มีคนมาสะกิดเขา คาร์ลเองตกใจมากรีบหันไปดู
“อ้าว พี่แอนนา เฮ้ย พี่เป็นอะไรเนี่ย ตัวเปียกหมดเลย??”
“อ้อ ตอนไล่จับกับมัน มันผลักฉันลงน้ำหน่ะ” แอนนาพูดขึ้น และไม่นานนัก ฟิลิปและตำรวจที่เหลือเองก็รีบมายังจุดเกิดเหตุ และเมื่อมาถึง เขาก็พบกับเหตุการณ์ที่เหลือเชื่อ
“เฮ้ย เกิดอะไรขึ้นเนี่ย??”
“คนร้ายโดนฆ่าตายปริศนาครับ พี่แอนนาโดนมันผลักลงน้ำ ช่วยหาผ้าเช็ดตัวด้วยให้ด้วยครับ” คาร์ลพูดขึ้น จากนั้นตำรวจคนอื่นก็รีบหาผ้าเช็ดตัวมาให้กับแอนนาอย่างรวดเร็ว
“เฮ้อ เสียดายที่ฉันจับมันไม่ได้” แอนนาพูดขึ้น
“เอาเถอะ ปลอดภัยก็ดีแล้วหล่ะ นี่ไม่ใช่คนร้ายตัวจริง น่าจะเป็นพวกชอบเลียนแบบ เอาศพมันไปชันสูตรด้วย” ฟิลิปพูดขึ้น
“เฮ้อ ดีจริงๆที่พี่ปลอดภัย” คาร์ลพูดขึ้น ก่อนที่ตำรวจคนหนึ่งจะเอาผ้าเช็ดตัวให้กับแอนนาอย่างรวดเร็ว
“โอเค ฉันขอตัวไปที่รถนะ” แอนนาพูดขึ้นจากนั้นก็รีบผละตัวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ตัวคาร์ลเองก็ยังสงสัยอะไรเล็กน้อย
กลับมายังบ่อนของเอ็นโซ ตัวของเขาสั่งให้ลูกน้องเค้นความลับของ XT เพื่อหาข้อมูลว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังการปล่อยยาในครั้งนี้ ไม่นานนัก ตัวของ XT ก็ยอมเปิดปากอย่างรวดเร็ว
“แกจะยอมบอกแล้วใช่ไหม??” เอ็นโซถามไป
“บอกแล้วครับๆ ผมทำงานให้คุณทอมมี่ครับ”
“ทอมมี่ ใครกันวะ??” เอ็นโซถามไป
“ผมรู้จักชื่อนี้ มันคือลูกน้องมือขวาของเจ้าพ่อซัล ใช่หรือเปล่าครับ??” ลูกน้องของเอ็นโซถามไป
“ใช่ๆ ช่วงนี้พวกเขากำลังหาเงินทุนเพื่อสะสมกำลังอาวุธและคนเพิ่มเติมครับ”
“อ้อ ดูเหมือนว่าพวกมึงจะมีปัญหาเรื่องการปกครองสินะ แล้วจะยังไงต่อหล่ะ??” เอ็นโซถามไป
“ไม่มีครับ อย่าทำอะไรผมเลย ผมจะยอมบอกคุณทุกอย่าง”
“เออ เอาเถอะ นี่ พวกเรา ติดต่ออลอนโซ่ให้ที” เอ็นโซสั่งลูกน้องไป
และที่อลอนโซ่ หลังจากที่ตัวของเขาได้นัดพบกับลูกค้าทางธุรกิจเรียบร้อยแล้ว และเมื่อเอ็นโซติดต่อมาคุยกับพวกเขา พวกเขาก็สนทนากันจนจบในไม่นาน อลอนโซ่ก็มาคุยกับเบลเพื่อปรึกษาเรื่องนี้
“เบล เรารู้ตัวคนที่อยู่เบื้องหลังการปล่อยยาเสพติดแล้ว มันคือทอมมี่ มือขวาของเจ้าพ่อซัล”
“ห่ะ จริงเหรอคะ แต่ว่าพวก Balls มันร่วมมือกับเจ้าพ่อซัลตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย??” เบลถามไป
“เรื่องนี้ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน ดูเหมือนว่าพวกมันคงจะหาอิทธิพลเพื่อเล่นงานแก๊ง Balls ในชิคาโก้แน่ๆ”
“ดูเหมือนว่าพวกมันจะเริ่มสงครามแล้วสินะคะ” เบลพูดขึ้น
“เอาเถอะ เราเองก็อาจจะต้องรับมือกับสงครามนี้ อีกไม่นานสินะ”
“ค่ะ ฉันจะจัดการเรื่องการคุ้มกันเองค่ะ” เบลพูดขึ้น
“ดี คงต้องพึ่งเธอหน่อยแล้วหล่ะ”
กลับมายังสถานบันเทิงเนฟเรนโซ อาเรียน่าซึ่งกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ในห้องของเธอ ลูกน้องของเธอคนหนึ่งก็รีบเดินมารายงานอะไรบางอย่างกับเธอ
“เจ๊ครับ มีข่าวจากสวิสมาครับ”
“หือ มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ??” อาเรียน่าถามไป
“ตอนนี้พวก Vipernox กำลังไปตามล่ามาคารอฟในสวิสครับ อีกไม่นานพวกมันคงหาที่อยู่ไอ้มาคารอฟเจอครับ”
“จริงเหรอ ตอนนี้คงต้องย้ายหมอนั่นไปที่อื่นแล้วหล่ะ ติดต่ออดัมได้หรือเปล่า??” อาเรียน่าถามไป
“ครับ ผมจะลองติดต่อเขาดูครับ”
“อืม ถ้าพวกมันจับมาคารอฟได้ พวกเราซวยกันหมดแน่” อาเรียน่าพูดขึ้น
“ผมว่า เขาคงต้องหนีไปที่อื่นแล้วหล่ะครับ อย่างอังกฤษอะไรแบบนี้”
“นั่นสิ ที่ที่พวก Vipernox จะตามเขาไม่เจอ ต้องเป็นที่อังกฤษนี่หล่ะนะ” อาเรียน่าพูดขึ้น
“ตอนนี้พวก Vipernox เองก็เริ่มจะจับตาเราด้วยนะครับ”
“ปล่อยไปเถอะ ถึงยังไง พวกมันก็ทำอะไรเราไม่ได้หรอก” อาเรียน่าพูดขึ้น
“ครับ ถ้าอย่างงั้นผมจะไปติดต่อพรรคพวกของเราเองครับ”
“ดี ยังไงก็จัดการด้วยหล่ะ” อาเรียน่าพูดขึ้น ก่อนที่ในตอนนั้นเอง อาเรียน่าเองก็หยิบโทรศัพท์ของเธอออกมา จากนั้นก็รีบติดต่อกับอดัมอย่างรวดเร็ว
“กรุณาฝากข้อความไว้ด้วยค่ะ” เสียงปลายสายตอบกลับมา
“นี่ รีบติดต่อกลับฉันเลย เรามีปัญหาแล้ว” อาเรียน่าตอบไป
ณ ย่านชนบทที่ในซักแห่งในเยอรมัน พื้นที่ในเขตป่าซึ่งดูจะสงบสุข รถบรรทุกคันหนึ่งได้ขับไปตามถนน แต่ในตอนนั้นเอง พวกเขาก็พบกับท่อนซุงท่อนหนึ่งซึ่งล้มขวางถนน รถบรรทุกคันนั้นหยุดในทันที ก่อนที่จะรีบถอยรถกลับไป แต่ในตอนนั้นเอง
“ปิ้ว!!”
เสียงปืนเก็บเสียงซึ่งปล่อยกระสุนพุ่งออกมาจากปากกระบอกของมันพุ่งเข้าใส่หัวของคนขับรถ ไม่นานนักหญิงสาวคนหนึ่งในชุดรัดรูปก็วิ่งออกมาจากป่า เธอรีบวิ่งไปที่ท้ายรถ พร้อมกันนั้นก็ใช้อุปกรณ์ตัดกุญแจเปิดท้ายรถออกมา และไม่นานนัก เธอก็พบกับของอะไรบางอย่างซึ่งอยู่ด้านใน มันเป็นกล่องเหล็กใบเล็ก หญิงสาวคนนั้นรีบหยิบกล่องมา จากนั้นก็รีบวิ่งหนีออกจากพื้นที่ในทันที พร้อมกันนั้นก็โทรศัพท์หาใครบางคน
“ฮัลโหล นี่ฉันฟรานด์ ส่งรถมารับฉันที”
กลับมายังมหาวิทยาลัย ในวันนี้ฮิคาริเองก็กลับมาเรียนต่อ ซึ่งเอโลอีสเองก็กำลังรอเธออยู่ พวกเธอทั้งคู่คุยกันในโรงอาหารของมหาลัยกันไปด้วย
“เฮ้ ได้ข่าวไปเที่ยวกับแฟน เป็นยังไงบ้าง??” เอโลอีสถามไป
“อ้อ ก็ดีหน่ะ ช่วงนี้เขากำลังทำงานอยู่ กับเพื่อนใหม่ของเขา” ฮิคาริพูดขึ้น
“เพื่อนใหม่ ที่อเมริกานี่เหรอ อยากรู้จริงว่าใคร” เอโลอีสพูดขึ้น
“เขาบอกว่าวันหนึ่งเราจะได้รู้แน่” ฮิคาริพูดขึ้น
“เอาเถอะ ที่บ้านฉันบอกว่า ช่วงนี้ฉันต้องระวังตัวหน่อย”
“ห่ะ จริงเหรอ เกิดอะไรขึ้นหล่ะ??” ฮิคาริถามไป
“มีพวกระยำบางคนมันต้องการเก็บฉันหน่ะ” เอโลอีสพูดขึ้น
“เอ้ย ถ้าอย่างงั้นเธอก็ต้องเก็บตัวหน่อยหล่ะ” ฮิคาริพูดขึ้น
“นั่นสิ ฉันอาจจะไม่ออกไปไหนซักพัก หรือไม่ก็ต้องออกจากมหาลัยชั่วคราวหล่ะ”
“โห ต้องถึงขั้นนั้นเลยเหรอ??” ฮิคาริถามไป
“ศัตรูฉันมันทำได้ทุกอย่าง แต่ช่างมันเถอะ ให้มันมาฉันจะเล่นมันให้” เอโลอีสพูดขึ้น แต่ในตอนนั้นสิ่งที่พวกเธอไม่รู้ตัวก็คือ มีมือปืนคนหนึ่งกำลังเล็งปืนซุ่มยิงใส่เธอมาจากตึกมหาลัยแห่งหนึ่ง มันหามันพยายามหามุมยิง รวมถึงรอจังหวะที่เอโลอีสเดินออกมา และในตอนนั้นเอง พวกเธอทั้งสองคนก็เดินออกมาจากมหาลัย ตัวของมันก็เหนี่ยวไกในทันที
“ฉึก!!”
กระสุนปืนยังไม่ทันจะได้ยิงออกไป มือปืนคนนั้นก็มือดีคนหนึ่งเชือดคอจนตายคาที่ จากนั้นก็ทิ้งศพเอาไว้ตรงนั้น แล้วเดินออกจากตึกไปอย่างรวดเร็ว
กลับมายังฐานทัพลับกองกำลังใต้ดินในภาคตะวันออกชองประเทศไทย เคย์โอะเองก็ยังคงมาชมการต่อสู้ระหว่างคนของนายทุนสองคนซึ่งเคย์โอะให้พวกเขาสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่ง ในขณะเดียวกันนั้นเอง ลูกน้องของเขาคนหนึ่งรีบมารายงานอะไรบางอย่างกับเขาอย่างรวดเร็ว
“ท่านครับ เราส่งคนไปตามกระกบไอ้แจ็คกี้แล้วครับ”
“อืม งั้นเหรอ พวกมันจะทำอะไรต่อหล่ะ??” เคย์โอะถามไป
“ดูเหมือนว่าพวกมันจะเดินทางไปที่สึชิมะก่อน จากนั้นก็เข้าท่าเรือในฮิโรชิมะครับ”
“อืม เขตนั้นเป็นเขตของพวกจีนด้วยสิ ดูเหมือนว่าพวกมันจะไปขอความช่วยเหลือจากแก๊งจีนสินะ” เคย์โอะพูดขึ้น
“ผมว่า มันคงรู้ตัวว่าเรากำลังตามล่ามันอยู่ มันเลยคิดจะขอความช่วยเหลือจากพวกนั้นครับ”
“เอาเถอะ ยังไงก็ตามมันไปก่อน สบโอกาสเมื่อไหร่ จับมันมาได้เลย” เคย์โอะพูดขึ้น
“รับทราบครับ” ลูกน้องของเขาพูดขึ้น ก่อนที่จะเดินออกไป และไม่นานนัก คนของนายทุนในสนามคนหนึ่งก็โดนฆ่าตายกลางสนาม ท่ามกลางเสียงเชียร์ของทั้งสองฝ่าย
ณ ถนนเส้นหนึ่งซึ่งเดินทางไปยังฝั่งจะวันตกของสหรัฐอเมริกา พวกเขาเดินหน้าไปยังเทกซัสเพื่อทำภารกิจของพวกเขา ซึ่งในวันนี้พวกเขาเดินทางโดยเครื่องบินที่เจ๊การณ์เตรียมไว้ พวกเขามารวมตัวกันที่สนามฝึกบินแห่งหนึ่ง ในตอนนั้นเจ๊การณ์พากลุ่มของเน็ตโต้ไปยังเครื่องบินลำหนึ่ง ซึ่งเป็นเครื่องบินบัดพัดที่สามารถจุคนได้ 10 กว่าคน ทุกคนตื่นเต้นมากเมื่อได้เห็นเครื่องนั้น
“โห นี่เจ๊มีเครื่องบินด้วยเหรอเนี่ย??” โกสต์ถามไป
“อืม เครื่องบินใบพัดที่ฉันดัดแปลงใหม่ บินได้ไกล 1000 ไมล์ต่อการเติมน้ำมัน 1 ครั้ง ฉันสร้างห้องน้ำในตัวไว้ด้วย เราถึงเทกซัสในไม่กี่ชั่วโมงแน่นอน” เจ๊การณ์พูดขึ้น
“โอเค แล้วใครจะขับกันหล่ะ??” แคทเทอรีนถามไป
“ฉันเอง ฉันขับเครื่องบินได้เหมือนกัน” ลีโอน่าพูดขึ้น
“เอาเถอะ ดูแล้วน่าจะขนอุปกรณ์ของผมไปได้” เคทาโร่พูดขึ้น
“เออนี่ แล้วเราจะไปลงที่สนามบินไหนกันหล่ะ??” อาร์เทมถามไป
“มีสนามฝึกบินที่เทกซัส รับรองว่าปลอดจากพวกทางการ” เคทพูดขึ้น
“เอาเถอะ เรารีบขึ้นเครื่องดีกว่า” ฮาสน่าพูดขึ้น
“โอเค ตอนนี้อากาศกำลังดี ต้องรีบไปกันแล้วหล่ะ” อีสครินน่าพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก ทุกคนจะพากันขนของขึ้นเครื่องบินอย่างรวดเร็ว เพื่อเตรียมออกเดินทางไปทำงานของพวกเขา
“โอเค ขนของกันหมดแล้ว รีบไปกันเถอะ” มารินะพูดขึ้น
“ใช่แล้ว เรารีบไปกันเถอะ ฉันเองก็อยากไปที่นั่นแล้ว” เน็ตโต้บอกกับทุกคนไป
===================================================================
การเดินทางของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อ อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ แหะๆ
https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig ซับแนลหนูด้วย
ความคิดเห็น