คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : EP 4 : วันแห่งโกลาหล
ยูจีนถอดเสื้อแจ๊คเก็ตของเธอไปชุบน้ำแถวนั้น
จากนั้นก็นำมาเช็ดตัวให้กับซิลเวีย จากนั้นก็คอยเช็ดตัวเธอและเฝ้าเธออยู่ไม่ห่าง
ระหว่างนั้นเอง โทนี่ก็เอาอาหารของมิสซึมาให้กับทั้งคู่ จะได้มีแรงต่อ
โทนี่ : กินหน่อยนะพี่
เอาให้พี่ซิลเวียเขาด้วยหล่ะ
ยูจีน : ฉันยังไม่หิวหน่ะ
รอซิลเวียเขาตื่นมาก่อนดีกว่า
โทนี่ : พี่ว่า
พี่ซิลเวียเป็นอะไรไปครับ
ยูจีน : ก็คงจะเป็นไข้นั่นแหละ
อากาศที่นี่ก็ค่อนข้างหนาวด้วยนี่
โทนี่ : งั้นพี่ก็ดูแลพี่ซิลเวียเขาด้วยแล้วกันนะ
// โทนี่พูดจากนั้นก็เดินจากไป เขาเดินกลับไปยังห้องโถง
ซึ่งในตอนนั้นเองเขาก็พบว่าคนอื่นๆกำลังรอเขาอยู่
นอร์รีน : ซิลเวียเขาเป็นยังไงบ้างหล่ะตอนนี้
โทนี่ : ยังไม่ได้สติเลยครับ
มิเชล : แบบนี้ก็แย่หน่ะสิ
เราต้องการยาด่วนเลยนะ
ระหว่างนั้นเอง
พวกเขาก็ทานอาหารที่มิสซึทำด้วย เมื่อทุกคนทานเขาก็เอ่ยปากชมมิสซึในทันที เนื่องจากรสชาติถูกใจพวกเขามาก
อลิซ : อร่อยมากเลย
มิสซึ นายทำได้ยังไงหล่ะเนี่ย
มิสซึ : ความจริงต้องให้พ่อฉันทำให้หน่ะ
อร่อยกว่านี้อีกนะ
ไลฟ์ : ถ้าได้กินแบบนี้ทุกมื้อก็น่าจะดีนะเนี่ย
เอสเทอร์ : ว่าแต่ ซีโร่ ที่พวกนายออกไปหาของเนี่ย เจออะไรที่ใช้ได้บ้างหล่ะ
ซีโร่ : ก็ไม่มีอะไรเท่าไหร่นะครับ
มีแค่วัสดุ อาหารกับยารักษาแผลหน่ะครับ
บารีร่า : เธอดูท่าทางจะเหนื่อยนะ เดี๋ยวไปพักก่อนก็ได้นะ
ตะวัน : ผมขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะครับที่ช่วยผมไว้
นอร์รีน : ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ไม่เป็นไร
ในขณะนั้นเอง
มีเสียงเคาะประตูมาจากด้านนอก ตะวันเตรียมปืนพกของเขาเพื่อป้องกันตัว
พวกเขาทุกคนหยุดกินจากนั้นก็ไปดูที่หน้าประตูว่ามีอะไรเกิดขึ้น ในตอนนั้นก็พบว่า
มีชายคนหนึ่งแบกเป้ใบใหญ่มาเคาะหน้าประตูพวกเขา
“สวัสดีครับทุกคน ผมมาร์ค
ผมมีอะไรดีๆมาแลกเปลี่ยนกับพวกคุณครับ”
เสียงของเขาทำเอาได้ยินไปทั่วทั้งตึก
ในตอนนั้นเอง ยูจีนก็วิ่งลงมาจากตึกเพื่อที่จะมาดูว่าใครเอาของมาแลก
ซึ่งไม่แน่ว่าอาจจะมียาสำหรับซิลเวียก็ได้
ยูจีน : นายบอกมาแลกของงั้นเหรอ
นายมียาแก้ไขหรือเปล่า
มาร์ค : มีแน่นอน
ว่าแต่พวกนายจะมีอย่างอื่นแลกอีกหรือเปล่า
นอร์รีน : เราต้องการวัสดุเพิ่มเติมหน่ะครับ แล้วก็น้ำสะอาดหน่ะครับ
ความจริงเราขาดหลายอย่างเลยหน่ะ
มาร์ค : ถ้างั้น
เรามาดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
พวกเขาแลกเปลี่ยนสิ่งของระหว่างกัน
โดยที่พวกของนอร์รีนนำของมีค่าแทบจะทุกอย่างมาแลกเปลี่ยน
มาร์คก็นำของใช้ที่จำเป็นมาแลกให้บางส่วน เหลือแต่ยาที่ซิลเวียต้องการ
ยูจีน : แล้วไหนยาที่ฉันขอหล่ะ
ไลฟ์ : นั่นสิ
ไม่เห็นนายจะให้ยามาเลย
มาร์ค : แบบว่า
ของมันไม่คุ้มพอที่จะมาแลกหน่ะ
ยูจีน : แต่ของที่ฉันให้ไปมันมีค่ามากนะ
แล้วเราก็ตกลงกันแล้วนี่
เอสเทอร์ : อย่าบอกนะ ว่านายจะเบี้ยวพวกเราเนี่ยห่ะ
มาร์ค : แบบว่า
ถ้าเป็นแบบนี้ก็ได้แค่เม็ดเดียวอ่ะนะ
ยูจีน : อะไรนะ
ไอ้ระยำ // ยูจีนโกรธจัดจะต่อยหน้านายมาร์ค
ทำเอาคนอื่นๆต้องมาห้ามกันยกใหญ่
ตะวัน : ทำแบบนี้มันเกินไปนะครับ
นี่มันเอาเปรียบกันชัดๆ
มิเชล : ใช่
ทำแบบนี้มันหน้าเลือดชัดๆเลยนะ
มาร์ค : อะไรกัน
ผมเป็นพ่อค้าไม่ใช่นักบุญซะหน่อย แล้วถ้าทำแบบนี้อีก ผมจะไม่มาแลกของที่นี่อีกแล้ว
ในตอนนั้นเอง
นอร์รีนปลดนาฬิกาข้อมือของเขาออกมา จากนั้นก็ยื่นให้กับมาร์ค
นอร์รีน : นี่นาฬิกาโรเล็กซ์ แพงมาก ผมขอแลกกับยานั่นทั้งหมด // มาร์คหยิบนาฬิกานั้นขึ้นมาดู ดูซ้ายทีขวาที จากนั้นก็ให้ยามาทั้งกระปุก
ยูจีนรีบหยิบเอามาในทันที
อลิซ : ที่นี่คุณคงจะพอใจแล้วนะคะ
มาร์ค : เยี่ยม
ยินดีที่ได้ทำธุรกิจด้วย โชคดีนะ
มาร์คเดินออกไปพร้อมกับทรัพย์สินที่แลกมาได้
ส่วนพวกของนอร์รีนในตอนนั้นก็แทบอยากจะยำตีนนายมาร์คคนนั้นให้ตาย
ยูจีนหลังจากที่ได้ยามาก็รีบวิ่งไปหาซิลเวียทันที
มิสซึ : ขอให้ไอ้บ้านั่นออกไปโดยยิงตายซะ
โทนี่ : ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยพี่ผมหน่ะ
นอร์รีน : ไม่เป็นไรหรอกครับ สำหรับผมมันก็แค่ของนอกกายหน่ะ
ซีโร่ : ถ้าไม่มีอะไรผมขอไปนอนก่อนนะครับ
บารีร่า : เดี๋ยว รอฉันด้วยสิ // บารีร่ารีบตามซีโร่ไป
ในขณะที่คนอื่นๆก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของแต่ละคนทันที
และอีกด้านหนึ่งของเมือง
หน่วยดอว์นซอร์ดก็เตรียมออกจากที่พักเพื่อทำภารกิจจัดการกลุ่มกบฏในตึกแห่งหนึ่ง
ซึ่งพวกเขได้รับคำสั่งให้กวาดล้างไม่ให้เหลือซาก ในตอนนั้นเองพวกเขาก็ทวนคำสั่งและแผนการในทันทีเมื่อพวกเขาทำธุระส่วนตัวกันเสร็จแล้ว
อเล็กซานเดอร์ : เอาหล่ะทุกคน นี่คือแผนผังของตึกที่เราต้องบุกเข้าไปนะ
ดูเผินๆอาจจะไม่มีอะไร แต่พวกกบฏมันอยู่ทุกที่ คุ้มกันอย่างหนาแน่น
คาสเตอร์ : เรื่องนั้นผมไม่กลัวหรอก ก็แค่ฆ่ามันให้หมด แล้วอย่าตายซะเองแค่นั้นหล่ะ
ซิสเวสเตอร์ : อย่าเพิ่งได้ใจไป เราต้องทำงานให้เป็นทีม ฉันแบ่งหน้าที่ไว้แล้ว อีริค
นายซุ่มยิงอยู่ด้านนอกเผื่อใครคิดจะหนี
อีริค : ได้เลยครับ
รับรองว่าไม่มีใครผ่านผมมาได้แน่ๆ
อเล็กซานเดอร์ : เควิน นายอยู่ด้านนอก คอยจัดการกับการสื่อสารของพวกมัน
แล้วคอยเป็นกำลังเสริมตอนฉันเรียกด้วย
เควิน : แต่ว่า
การสื่อสารของพวกมันจะดีแค่ไหนเชียวครับ
อเล็กซ่า : อย่าประมาทพวกมันสิ งานนี้ไม่ได้มีแค่พวกชาวบ้านธรรมดานะ
ซิลเวสเตอร์ : ใช่แล้ว ยังมีทหารรับจ้างอีก เข้าใจนะ
คาสเตอร์ : แล้วหน้าที่ของผมให้ทำอะไรหล่ะครับท่าน
อเล็กซานเดอร์ : นายบุกเข้าไปกับฉัน
อีริค : รีบไปกันเถอะ
ฉันรีบอยากไปนอนต่อ เมื่อคืนยังไม่เต็มที่เลยเนี่ย
เควิน : เฮ้อ
วันๆเอาแต่นอนนะเนี่ยนาย ไม่ไหวจริงๆ
อเล็กซ่า : อย่ามัวแต่พูดมากเลย รีบทำงานของเราดีกว่า
พวกเขารีบเตรียมของ
ก่อนที่จะทำภารกิจของเขาต่อไป
อีกด้านหนึ่งของเมือง เขตที่ 15 หลังจากที่อนูวาตื่นขึ้นมา
หลังจากที่เธอทำภารกิจส่วนตัวของเธอเรียบร้อยแล้ว
เธอก็เตรียมออกเดินทางเพื่อติดต่อกลุ่มกบฏในพื้นที่ทันที
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ออกเดินทาง ก็มีเสียงยิงปืนปะทะกันอย่างสนั่นหวั่นไหว
เธอหาที่หลบแล้วชักปืนพกของเธอขึ้นมา เธอลองแอบมองไปด้านนอก
ก็พบว่ากลุ่มกบฏกำลังถูกกองกำลังทหารบดขยี้อย่างหนัก
โดยที่กลุ่มกบฏกลุ่มนี้มีแค่ปืนประจำกายธรรมดา
ส่วนฝ่ายทหารมีทั้งรถถังและรถหุ้มเกราะ พวกกบฏถูกตีจนแตกกระเจิง แต่ในระหว่างนั้นเอง
ชายคนหนึ่งท่าทางบาดเจ็บก็เข้ามาหลบในห้องของอนูวา
เมื่อเธอเจอเขาเธอก็ไปดูอาการของเขาทันที
อนูวา : นี่นาย
นายอยู่ในกลุ่มกบฏใช่หรือเปล่า
“นี่เธอ เธอไม่ใช่พวกทหารงั้นเหรอ”
อนูวา : ฉันเป็นสายลับหน่ะ
นายพอจะรู้จักใครในกลุ่มอีกหรือเปล่า
“ตอนนี้พวกเรากำลังแย่
หัวหน้าของเราก็ย้ายไปอยู่ในตัวเมือง ส่วนพวกผมก็โดนพวกมันเล่นงานจนแย่”
อนูวา : ไม่ต้องห่วงนะ
เอ้านี่ดื่มน้ำซะก่อน // อนูวาให้น้ำดื่มกับชายคนนั้น
ในขณะเดียวกันก็มีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้พวกเขา พวกเขาทั้งคู่ดูตกใจกันมากที่ได้ยินเสียงนั้น
“ท่าทางพวกทหารจะมา คุณรีบหนีไป
ผมจะสกัดพวกมัน ส่งเรื่องนี้ไปให้โลกภายนอกได้รู้ด้วยนะครับ”
อนูวารีบออกจากห้อง
ในขณะที่ทหารก็บุกเข้ามา ชายคนนั้นยิงสกัดพวกมันจนนาทีสุดท้าย
จากนั้นพวกมันก็ยิงเขาตายคาที่ ส่วนอนูวาก็แอบออกไปทางหลังตึก ในตอนนั้นเอง
“อย่าขยับนะเว้ย” ทหารคนหนึ่งเอาปืนจ่อหัวของอนูวา
แต่เธอเอาแขนไปปัดจากนั้นก็หักคอเขาจนตายคาที่
“รู้จักฉันน้อยไปซะแล้ว”
อนูวาเช็คของที่จำเป็นของทหาร
จากนั้นก็หยิบไปบางส่วน แล้วออกเดินทางต่อไป
ในขณะที่เขต 15 กำลังรบกันดุเดือด ในเขตที่เร็นอยู่ กลุ่มทหารก็เริ่มจะขอคืนพื้นที่บางส่วน
ในตอนนั้นเองเร็นถือปืนกลมองดูเหตุการณ์อยู่ริมหน้าต่าง
ซึ่งเหตารณ์นั้นคือกกลุ่มกบฏกำลังยิงปะทะกับกลุ่มทหาร
ทั้งสองฝ่ายยึดพื้นที่ของตนเอาไว้อย่างไม่ลดละ
แต่กลุ่มกบฏก็ค่อนข้างเสียเปรียบเนื่องจากกำลังที่น้อยกว่า เร็นพยายามฝ่าออกไปด้านนอก
ยิงกับกลุ่มทหารเพื่อที่จะกลับเข้าไปในเมือง
แต่กลุ่มทหารก็ยิงกดเอาไว้ทำเอากลุ่มกบฏต้องล่าถอย
เร็นยิงสู้ไม่ไหวต้องหลบเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง ในตอนนั้นเอง
เขาเจอชายคนหนึ่งสะกิดเขา
“นาย มีกระสุนให้ฉันหรือเปล่า”
เร็น : ของฉันแทบจะไม่เหลือแล้ว
นายนี่พูดอะไรบ้าๆ
“นายมาจากไหนงั้นเหรอ
ดูจากสำเนียงไม่ใช่คนพื้นที่แน่ๆ”
เร็น : ฉันมาจากอังกฤษ
นายรู้ดีจังนะ
“ฉันก็คนอังกฤษเหมือนกันหว่ะ”
เร็น : เหรอ
แล้วนายเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่วะ
“ฉันเอ็ดเวิร์ด นายรู้แค่นั้นก็พอ ว่าแต่นายมาทำอะไรที่นี่หล่ะ”
เร็น : ไม่ใช่ธุระอะไรของนายซะหน่อยนี่หว่า
เอ็ดเวิร์ด : ช่างเหอะ
รีบออกไปจากที่นี่ก่อนดีกว่าหว่ะ
เร็น : เออ
แต่ถ้าไม่ได้กระสุนเพิ่ม เราตายกันหมดแน่
เอ็ดเวิร์ด : นายเห็นตึกตรงนั้นหรือเปล่า
// เอ็ดเวิร์ดชี้ไปยังตึกสูงแห่งหนึ่ง
เอ็ดเวิร์ด : ที่นั่นเราจะปลอดภัย
กลุ่มกบฏไปรวมตัวกันที่นั่น
เร็น : นายแน่ใจได้ยังไง
เอ็ดเวิร์ด : เชื่อฉันเถอะ
ฉันรู้พื้นที่แถบนี้มากกว่านาย นายจะไปด้วยหรือเปล่า
ทั้งคู่รีบวิ่งฝ่ากระสุนออกไปยังตึกเป้าหมาย
ในขณะที่กลุ่มกบฏกำลังถูกบดขยี้จากทุกทาง
และที่เขตชุมชนแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ห่างจากจุดปะทะเท่าไหร่
พวกของเทเรซ่าหลังจากที่หนีมาได้ พวกเธอมาไปหลบอยู่ข้างถนน
ในขณะที่เดม่อนกำลังจูนคลื่นสัญญาณอยู่ข้างถนน ไม่นานซักพักสัญญาณก็มาในทันที
เดม่อน : นี่เดม่อนเรียกหัวหน้า
เดม่อนเรียกหัวหน้า เปลี่ยน
“นี่หัวหน้าพูด สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง เปลี่ยน”
เทเรซ่า : แพททริคตายแล้ว
ตอนนี้ทหารกำลังคืนพื้นที่รอบนอกเมืองค่ะ
“ผมเข้าใจหล่ะ ตอนนี้หน่วยเรากำลังย้ายที่อยู่ไปในเมืองหน่ะ”
ลูลู่ : ตอนนี้จะให้เราทำยังไงต่อคะหัวหน้า
“พวกคุณรีบกลับมาให้ได้ อย่าโดนจับได้หล่ะ หัวหน้าเลิกกัน” จากนั้นสัญญาณก็ดับไป
เทเรซ่า : ดูท่าเราต้องรีบหน่อยแล้วหล่ะ
เดม่อน : ตอนนี้เราคงต้องใช้เส้นทางของเขต
12 เพราะทางอื่นมีการปะทะกันหนักเลย
ลูลู่ : ฉันพอรู้ทาง
งั้นฉันจะนำทางไปเอง
พวกเขารีบออกเดินทางก่อนที่กลุ่มทหารจะบุกเข้ามาถึงตัวพวกเขา
อีกด้านหนึ่งของเมือง เอจิกับหมาของเขาเดินเท้าต่อไปตามถนนเพื่อที่จะหาที่พักของเขา
ในตอนนั้นเองเขามานั่งพักที่สวนของอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนจะปลอดภัยดี
เขากับฮาจิก็นั่งอยู่ด้วยกัน
เอจิหยิบอาหารกระป๋องขึ้นมาจากนั้นก็แบ่งให้ฮาจิกินด้วย
เอจิ : อร่อยหรือเปล่า
กินให้เยอะๆนะ
ฮาจิกินอย่างเอร็ดอร่อย โดยที่เขาก็นั่งกินกับมันไปด้วย
บรรยากาศรอบข้างค่อนข้างดี ถ้าไม่ติดว่ามีสงครามนะ
แต่ในระหว่างที่พวกเขากำลังนั่งอยู่ด้วยกัน
พวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้
พวกเขาหาที่ซ่อนกับฮาจิแถวนั้นจากนั้นก็ดูว่าเดินมาแถวนั้น เขาพบว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์นับสิบถืออาวุธเดินตามหาคนอยู่
แต่เอจิก็ยังอยู่แถวนั้นโดยที่เฝ้าดูอยู่ห่างๆ
“ไอ้บ้านั่นมันไปไหนแล้ววะ”
“นั่นดิ แม่งหนีไปเร็วชิบหาย” มันพูดพลางหยิบบุหรี่มาดูด
“อย่าดูดเยอะดิวะ ยิ่งเปลืองๆอยู่ ตอนนี้ต้องตามหามันกับหมามันให้ได้เลย”
เอจิฟังแล้วนึกในใจว่าพวกมันต้องมาตามล่าเขาแน่ๆ
ในตอนนั้นเองเขาเลือกที่จะเข้าไปแอบในอพาร์ทเม้นท์
โดยที่เขาย่องเข้าไปด้านในอย่างเงียบๆ ส่วนฮาจิก็คอยตามหลังเขาไป
แต่ในระหว่างที่กำลังเดินไป
พวกมันคนหนึ่งเกิดสงสัยขึ้นมาว่าเอจิจะอยู่ในอพาร์ทเม้นท์หรือเปล่า
“เฮ้ย มันอยู่ในอพาร์ทเม้นท์หรือเปล่าวะ”
“ทำไมมึงคิดแบบนั้นหล่ะ”
“เออ ลองดูหน่อยดีกว่านะเว้ย”
เอจิหยิบปืนขึ้นมาเตรียมจะบวกกับพวกมัน
พวกมันเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆโดยที่แทบจะหายใจรดต้นคอกับเขาแล้ว แต่ทว่า
“ปังๆๆๆๆ”
มีเสียงปืนดังมาแต่ไกล ทำเอาพวกมันต้องถอยออกไปก่อนเพราะกลัวว่าจะมีใครมาปล้นพวกเขาหรือเปล่า
เอจิถึงขั้นถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เราปลอดภัยแล้วนะ” เขาพูดพลางลูบหัวฮาจิอย่างเบามือ
และอีกด้านหนึ่งของเมือง
อลันกับนกคู่ใจของเขาก็เดินทางหนีกลุ่มทหารต่อ
โดยที่เขาพยายามเดินเข้าไปในตัวเมืองเรื่อยๆเพื่อติดต่อกับกลุ่มกบฏที่ยังปักหลักสู้อยู่ ในตอนนั้นเอง
อลันปล่อยนกของตัวเองให้ออกสำรวจรอบๆด้านของเขาเผื่อว่าจะมีอะไรที่เป็นประโยชน์ให้เขาได้
ในขณะนั้นอลันเห็นอพาร์ทเม้นท์หลังหนึ่ง เขาไม่รอช้ารีบเข้าไปซ่อนตัวในนั้น
จากนั้นก็เก็บตัวเงียบเอาไว้ ไม่ให้ทหารตามตัวเขาเจอ
“มันหายไปไหนอีกแล้ววะ”
“นั่นดิ แม่งไวอย่างกับลิงเลยไอ้กบฏพวกนี้”
พวกมันเดินทัพผ่านไป
ปล่อยให้อลันถอนหายใจเฮือกใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง
ก็มีเสียงๆหนึ่งมาใกล้ประตูห้องของเขา จากนั้นมันก็เปิดประตูมาหาอลัน
อลันเตรียมปืนพร้อมเพื่อใช้ในการป้องกันตัว ไม่ว่าใครผ่านมาเขาจะยิงให้หมดเลย
อีกฝากหนึ่งของเมือง
ซึ่งกำลังทหารหน่วยหนึ่งกำลังไล่บดขยี้กลุ่มกบฏอย่างไม่รามือ
กลุ่มกบฏเข้าไปยันทหารไว้ในลานจอดรถแห่งหนึ่ง
พวกเขาตั้งปืนกลหนักจากนั้นก็ยิงกดกลุ่มทหารเอาไว้ไม่ให้พวกนั้นเข้ามา ในระหว่างที่สถานการณ์กำลังย่ำแย่
ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาหัวหน้าของเขา
ซึ่งดูท่าทางเขากำลังต้องการให้ชายคนนั้นช่วยพอดี
“สตอร์ม คุณมาพอดีเลยนะ” หัวหน้าของเขาได้พูดขึ้น
สตอร์ม : ครับหัวหน้า
มีอะไรหรือเปล่า
“คุณต้องรีบติดต่อกับกลุ่มต่อต้านที่เหลือในเมือง ตอนนี้เราคงต้านพวกมันไม่ได้อีกแล้ว”
สตอร์ม : แต่ท่านครับ
ผมจะไม่ยอมหนีไปไหนแน่ๆ
ในระหว่างที่พูดคุยกันนั้นเอง
กองทัพได้ใช้เฮลิคอปเตอร์จู่โจมยิงใส่ปืนกลเหล่านั้นจนย่อยยับ
ส่วนกลุ่มกบฏก็ถูกตีจนแตกกระเจิง
“ไม่มีเวลาแล้ว คุณต้องทำงานนี้ ถ้าอยากให้งานเราสำเร็จ”
สตอร์ม : แล้วท่านหล่ะครับ
ไม่ไปเหรอครับ
“ไม่ต้องห่วง ผมจะช่วยพาคนอื่นหนีเอง”
สตอร์ม : แล้วเจอกันใหม่นะครับท่าน
สตอร์มบอกกับหัวหน้าของเขา
ก่อนที่จะรีบร้อนออกไปจากลานจอดรถนั้น โดยที่กลุ่มกบฏก็ถูกทำลายจนย่อยยับ
คนที่เหลือก็หนีตายกันอลหม่าน สตอร์มตั้งใจว่าจะกลับมาแก้แค้นให้กับพวกเขาทุกคนให้ได้
อีกด้านหนึ่งของเมือง
ซึ่งไม่ห่างจากเขตชานเมืองมากนัก ในตอนนั้นเองอันนาขับรถมาจอดที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง
เพื่อทำการตรวจเช็คสภาพรถของเธอก่อนที่จะขับรถออกตามหาลูกของเธอ
เธอเปิดกระโปรงรถเพื่อเช็คอาการว่าพอจะไปต่อได้หรือเปล่า ในขณะนั้นเอง
มีชายกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาหาเธอ จากนั้นก็จับทั้งมือทั้งแขนของเธอเอาไว้
“พวกคุณจะทำอะไรฉัน”
“ก็แค่หาอะไรสนุกๆทำหน่ะ”
พวกมันพยายามจะอุ้มเธอเข้าไปด้านใน
เธอพยายามขัดขืนสุดชีวิต แต่พวกมันก็มีแรงมากกว่า
อันนาเผลอคว้าของแถวนั้นฟาดหัวมัน มันต่อยท้องอันนาจนเธอทำอะไรไม่ได้
“ขอหน่อยนะจ๊ะ พี่อดมานานแล้ว”
ในขณะที่พวกมันกำลังจะถอดเสื้อเธอ
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงปืนดังขึ้นมา พวกมันตกใจกันยกใหญ่
จากนั้นไม่นานก็มีกลุ่มทหารกลุ่มหนึ่งเข้ามาไล่ยิงพวกมันจนแตกกระเจิง
และมีทหารคนหนึ่งเดินเข้ามาหาอันนาที่กำลังตกใจ
“คุณผู้หญิงครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
“ดิฉันไม่เป็นไรค่ะ พวกคุณมาทำอะไรที่นี่คะ”
“อ้อ ผู้กองสั่งให้ผมตามมาดูคุณหน่ะครับ ตอนนี้พวกกบฎมันทำอะไรคุณไม่ได้แล้วครับ”
ระหว่างนั้นเอง ทหารคนหนึ่งจับตัวเชลยมาได้หนึ่งคน
เอามาส่งให้จ่าเพื่อทำการลงโทษ
“ท่านครับ จับตัวมันได้คนหนึ่งครับ”
“ดีมาก เอามันไปขังไว้ก่อน เออนี่คุณอันนาครับ เราเช็ครถให้คุณแล้ว
รถคุณแบตร้อนมากเราเลยเติมน้ำให้ครับ”
“ขอบคุณมากๆนะคะ ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ”
อันนารีบขึ้นรถออกไปจากจุดเกิดเหตุ ครั้งนี้เธอรอดมาได้
แต่ไม่รู้ว่าครั้งต่อไปจะโชคดีแบบนี้หรือเปล่า
กลับมายังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังทำงานของตัวเอง ตะวันก็เดินสำรวจรอบๆอาคาร แต่ในระหว่างนั้นเอง
เขาก็ได้ยินกุกกักมาจากด้านใน เขาจึงหยิบปืนพกของเขาออกมา
จากนั้นก็จับกลอนประตูแล้วเปิดเข้าไป
“พลัก!!”
ตะวันเห็นชายคนหนึ่งกำลังถือปืนอาก้าจ่อเขาอยู่
จากนั้นทั้งคู่ก็เล็งปืนใส่กันโดยที่ไม่มีใครยอมใครกันเลย
“วางปืนลงเดี๋ยวนี้”
“แกนั้นแหละวางก่อนสิ”
ตะวันอาศัยจังหวะที่มันเผลอจับกระบอกปืนของมัน
มันก็เตะปืนของตะวันทิ้ง จากนั้นทั้งคู่ก็ตะลุมบอนกันยกใหญ่ แต่ระหว่างที่สู้กัน
ก็มีหมาตัวหนึ่งมาเห่าใส่ทั้งคู่ ทุกอย่างดูจะชุลมุนไปหมด แต่ในขณะเดียวกันไลฟ์กับเอสเทอร์ก็วิ่งเข้ามาดูในห้องว่าเกิดอะไรขึ้น
“พี่อลัน”
ไลฟ์ตะโกนเรียกชื่อเขา
จากนั้นเธอก็รีบวิ่งไปกอดเขาในทันที
“ไลฟ์ นึกว่าเธอตายไปแล้วนะเนี่ย”
ตะวัน : อะไรเนี่ย
นี่รู้จักกันงั้นเหรอ
เอสเทอร์ : ดูท่าจะเป็นอย่างงั้น
ว่าแต่หมาตัวนี้ของใครเนี่ย
และในขณะเดียวกัน ชายเจ้าของหมาก็เดินออกมาชักปืนใส่ทุกคน
ก่อนที่ทุกคนจะยกมือขึ้น
“อย่าทำอะไรหมาของฉันนะเฟ้ย”
ตะวัน : หมานาย
แล้วนายเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่เนี่ย
เอจิ : ฉันเอจิ
ฉันหนีมาจากด้านนอกหน่ะ
ไลฟ์ : นี่
สรุปว่าเราเจอแต่คนรู้จักใช่หรือเปล่าเนี่ย
อลัน : เดี๋ยวนะ
พี่ไม่รู้จักไอ้หมอนี่เลยนะ
เอจิ : ไม่มีใครรู้จักฉันหรอก
ฉันแค่บังเอิญหาที่หลบหน่ะ
เอสเทอร์ : ว่าแต่นี่
จะเอายังไงต่อหล่ะ
เอจิ : ถ้าไม่รังเกียจ
ฉันขออยู่ที่นี่ชั่วคราวไปก่อนนะ ฉันไม่เป็นตัวถ่วงหรอก
ไลฟ์ : นี่นายเอาจริงเหรอ
ก็แล้วแต่นายนะ
ตะวัน : ผมว่านะ
เราควรจะซ่อมแซมรอบๆตึกนี้ซะที แบบนี้สบายโจรเลยนะ
อลัน : เห็นด้วย
แต่นายมีของที่จะซ่อมแล้วงั้นเหรอ
ไลฟ์ : ไม่ต้องห่วงพี่
เพื่อนหนูพี่วิธีหน่ะ ตอนนี้เรากลับเข้าไปด้านในกันดีกว่านะคะ
อีกด้านหนึ่งของบ้าน
อลิซซึ่งได้วิทยุที่พังแล้วจากซีโร่มา เธอไม่รอช้ารีบซ่อมแซมมันในทันที
แต่ว่าชิ้นส่วนอะไหล่ของเธอต้องใช้อย่างจำกัดเนื่องจากอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์นั้นหายาก
ในระหว่างที่อลิซกำลังนั่งซ่อมอยู่ มิสซึก็เดินเข้ามาเอาน้ำให้เธอดื่ม
มิสซึ : เอ้านี่
ดื่มหน่อยนะ ว่าแต่เธอทำอะไรอยู่หน่ะ
อลิซ : ฉันซ่อมวิทยุอยู่หน่ะ
นายอยากมาร่วมด้วยหรือเปล่าหล่ะ
มิสซึเดินเข้าไปนั่งบ้างๆอลิซ จากนั้นอลิซก็สอนให้มิสซึรู้จักชิ้นส่วนวิทยุ
แล้วก็ค่อยๆประกอบเขาดู มิสซึลองทำดูบ้างแต่ก็ไม่ดีเท่ากับอลิซเท่าไหร่
อลิซ : นี่นาย
ตั้งใจหน่อยสิ
อลิซจับมือมิสซึให้ต่อชิ้นส่วนตามที่เธอบอก
จนกระทั่งมิสซึหยุดนิ่งแล้วจ้องหน้าเธออยู่นานมาก
อลิซ : นี่นาย
ฟังฉันอยู่หรือเปล่าเนี่ย
มิสซึ : เอิ่ม
ไม่มีอะไรหรอก // เขาพยายามปล่อยมือที่กุมอลิซไว้ด้วย จากนั้นทั้งคู่ก็ช่วยกันซ่อมวิทยุต่อไป
และอีกห้องหนึ่ง ซีโร่ที่กำลังนอนหลับอยู่สบาย
บารีร่าก็เดินเข้ามาในห้องของเขา แต่เสียงเปิดประตูทำเอาซีโร่ตื่นพอดี
บารีร่า : ขอโทษนะซีโร่
ฉันปลุกเธอหรือเปล่า
ซีโร่ : ไม่หรอก
ฉันนอนไม่ค่อยหลับเท่าไหร่หน่ะ
บารีร่า : เอ้า
ทำไมเหรอ??
ซีโร่ : คือไม่มีหมอนดีๆหน่ะ
นอนไม่ค่อยได้เลยเนี่ย // จากนั้นบารีร่าก็ไปนั่งใกล้ๆกับซีโร่
บารีร่า : เธอนอนตักฉันก็ได้นะ
ซีโร่ : ห่ะ
เอาจริงเหรอ มันจะไม่รบกวนเธอเหรอ
บารีร่า : ไม่เป็นไรหรอก
ฉันทำเธอตื่นเองนี่หน่า
ซีโร่ค่อนข้างเกรงๆจากนั้นก็นอนหนุนตักของบารีร่า
จากนั้นไม่นานเขาก็หลับปุ๋ยเลย
ที่ห้องของซิลเวีย หลังจากที่ยูจีนให้ยากับซิลเวียเรียบร้อยแล้ว
เธอก็นอนอยู่ข้างๆกับซิลเวียไม่ยอมไปไหน และในขณะเดียวกันโทนี่ก็เดินเข้ามาดูอาการของพวกเขาในห้องด้วยความเป็นห่วง
ยูจีน : เอ้านี่
โทนี่ ยังไม่นอนอีกเหรอ
โทนี่ : ว่าจะนอนอยู่หน่ะพี่
แต่ว่าผมนอนไม่ค่อยหลับ
ยูจีน : นายมานอนที่ห้องพี่ก็ได้นะถ้าอยากนอน
โทนี่ : แล้วพี่หล่ะ
ยังไม่นอนอีกเหรอครับเนี่ย
ยูจีน : พี่ต้องดูพี่ซิลเวียเขาด้วยหน่ะ
เพิ่งจะได้กินยาไปเอง
โทนี่ : ครับพี่
ถ้างั้นผมนอนด้วยก็แล้วกันนะ ฝันดีครับพี่ // โทนี่ไม่พูดอะไรไปนอนที่ด้านหนึ่งของห้อง
ปล่อยให้ยูจีนคอยอยู่ดูแลซิลเวียไป
และที่ห้องของนอร์รีน
ในตอนนั้นเองนอร์รีนกำลังจัดแจงของเพื่อเตรียมใช้งาน
ในขณะเดียวกันมิเชลก็เดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับน้ำดื่มที่อยู่ในมือของเธอ
มิเชล : นอร์รีน
ดื่มน้ำนี่หน่อยสิ เห็นเธอทำงานมาเยอะแล้ว
นอร์รีน : ขอบใจมากนะ
// นอร์รีนคว้าแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม
มิเชล : ที่เธอทำในวันนี้กล้าหาญมากเลยนะ
นอร์รีน : ก็แค่นาฬิกาหน่ะครับ
ผมหาซื้อใหม่ได้
มิเชล : เมื่อไหร่จะผ่านพ้นเรื่องร้ายๆนี้ไปซะทีนะ
นอร์รีน : นั่นสิ
ว่าแต่ เธอไปคุยกับคุณตะวันหรือยัง เรื่องข้อมูลที่เธอจะให้เขาดูหน่ะ
มิเชล : เขาไม่มีที่ส่งข้อมูลหน่ะสิ
แต่ป่านนี้ทาง UN คงกำลังตามหาตัวเขาอยู่หน่ะ
นอร์รีน : ก็หวังว่ามันจะจบลงซะทีนึงนะ
พวกเขาทั้งคู่ก็อยู่ด้วยกันสองต่อสอง
รอจนกว่าเวลาจะผ่านพ้นเลยไป พวกเขาหวังว่าสงครามบ้าๆนี่มันจะจบลงโดยเร็วซะที
แต่มันจะเมื่อไหร่กันหล่ะ
===============================================================
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ
ส่วนเรื่อง Descendent ตอนนี้กำลังปั่น ช่วงนี้ยุ่งจ้า กำลังจะสอบ กทม.กับศาลยุติธรรมแล้ว
ติดตามกันเรื่อยๆเน้อ
ความคิดเห็น