ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Descendant War - สมรภูมิปิตุฆาต

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 4 : ค่ำคืนการก่อการ

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.ย. 61


    ปืนใหญ่ของนายพลเนโรยิงกดแนวรับของมอร็อคทั้งวันทั้งคืน ทำเอาสนามเพลาะของมอร็อคสั่นสะเทือนไปด้วยเสียงระเบิด ทหารมอร็อคเสียขวัญอย่างมากเนื่องจากด้อยกว่าทั้งกำลังคนและอาวุธ ทหารมอร็อคส่วนใหญ่ยังใช้ปืนแบบบรรจุที่ปากกระบอก ในขณะที่ทหารของเนโรใช้ปืนไรเฟิลลูกเลื่อนกันทั้งทัพ ทหารมอร็อคถูกปืนใหญ่ยิงกดทั้งวันทั้งคืน และในขณะเดียวกัน คูเปอร์ก็เตรียมกำลังพลเพื่อเข้าจู่โจมทันที

    ท่านครับ พวกมันเริ่มถอยกันแล้วครับ

    คูเปอร์ : สั่งทหารราบให้บุกเข้าไป พวกเรา บุก!! // คูเปอร์ชักดาบออกมา จากนั้นก็นำทหารม้าและทหารราบของตัวเองบุกเข้าไปยังแนวรบของข้าศึก ทำเอาทหารของมอร็อคต้องถอยกลับเข้าไปในป่า

    ฟีนด์ : ทหาร รีบถอยเข้าไปในป่า เร็ว // แต่ในตอนนั้นเอง คูเปอร์ควบม้ามาประจันหน้ากับฟีนด์ ฟีนด์คว้าปืนแถวนั้นแทงเข้าไปที่ขาม้า จนคูเปอร์ร่วงลงมาจากม้า จากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็ประลองดาบกัน

    คูเปอร์ : เฮ้อ ไอ้หนุ่ม แกเป็นทหารมาได้กี่ปีวะ

    ฟีนด์ : หุบปาก พวกแกมารุกรานแผ่นดินของฉัน ฉันไม่เอาแกไว้แน่

    พวกเขาประดาบกันไปมา ผลัดกันได้เปรียบเสียเปรียบ แต่ในตอนนั้นเอง สัญญาณธงของมอร็อคก็สั่งให้พวกเขาถอยทัพ ฟีนด์จึงจำเป็นต้องถอยกลับไป

    คูเปอร์ : เฮ้อ พวกมอร็อคมีดีแค่นี้เองเหรอวะ // และในตอนนั้นเอง นายพลเนโรกับน้องชายก็ควบม้ามาพอดี

    เนโร : ทำได้ดีมากคูเปอร์ แล้วก็ทหารสองคนนั้นหน่ะ // เนโรชี้ไปยังทหารใหม่สองคนที่ทำการรบได้ยอดเยี่ยม หลังจากที่นายพลเนโรเรียกตัว เขาทั้งสองคนก็เดินเข้ามาทันทีและทำความเคารพ

    ครับท่านนายพลครับ

    เนโร : พวกนายสองคนชื่ออะไร

    ผมสกาย ปาร์กเกอร์ หน่วยทหารเดินเท้าที่ 32 ครับ

    ผมเอ็ดเวิร์ด อ่า.. เอ็ดเวิร์ด โจส จากหน่วยจู่โจมที่ 22 ครับ

    เนโร : ต่อไปนี้ ขอแต่งตั้งให้พวกนายสองคนเป็นจ่าบังคับการหมวดตั้งแต่วันนี้

    สกาย : ขอบคุณครับท่าน

    โซรอน : เอ้า นี่คือเพื่อนใหม่ของพวกนาย ออกมานี่สิ // นายทหารคนหนึ่งขี่ม้ามาทางโซรอน

    โซรอน : คนนี้เป็นทหารจากรูดิว ชื่ออะไรนะเรา

    อาร์มเมอร์ สโตร ครับท่าน

    โซรอน : ต่อไปนี้พวกนายสามคนต้องทำงานด้วยกัน เพื่อกำจัดศัตรูให้สิ้นซาก

    ครับผม

    เนโร : พวกมันหนีเข้าไปในป่าหล่ะ ยึดอาวุธพวกมันให้หมด จับเชลยเก็บเอาไว้

    และในตอนนั้นเอง นายพลนอร์ทก็นำทัพจากบาส์กที่เกณฑ์ได้ มาสมทบกับนายพลเนโรที่กำลังยกทัพบุกมอร็อคอยู่

    เนโร : อ้าว นอร์ท เป็นยังไงบ้าง ที่แคว้นบาส์กหน่ะ

    นอร์ก : เราเกณฑ์คนจากบาส์กมาได้ราวสามหมื่นคนครับ

    สการ์เล็ต : ชาวเมืองบางส่วนอพยพหนีไปฟิลล์บอนแล้วค่ะ

    โซรอน : ผมว่า เราควรจะตามพวกนั้นไปนะครับพี่

    สการ์เล็ต : แต่พื้นที่แถวนั้น มีแต่ทะเลทราย ไม่ได้ไม่คุ้มเสียนะคะท่าน

    โซรอน : ไม่ต้องกลัวหรอก ทหารเรามีนับแสน ส่งเข้าไปซักครึ่งนึงก็ยึดได้หล่ะ

    เนโร : พี่ว่า อย่าไปสนใจดินแดนแถบนั้นเลยดีกว่า เหมืองทองที่เรามีก็ทำเงินให้เรามาแล้ว

    สการ์เล็ต : ท่านคะ เราจะเอายังไงกับพวกเชลยพวกนี้หล่ะคะ

    เนโร : เอาพวกมันไปรวมตัวกันที่เมือง เก็บเอาไว้ก่อน

     

    ที่แคว้นรูดิว ภายใต้การปกครองของนายพลเนโร ดูผิวเผินอาจจะถูกปกครองแบบเบ็ดเสร็จ แต่ยังมีชาวบ้านแคว้นรูดิวที่ไม่ยอมก้มหัวให้นายพลเนโรนับพัน แอบซ่อนตัวอยู่ในป่าเขา และเช่นเดียวกันกับที่ป่าชายแดนรูดิว มอร็อค ในตอนนั้นเอง ทหารกลุ่มหนึ่งของโซราบอลกำลังนำกองร้อยของเขาเองลาดตระเวนแถวนั้น เพื่อทำการกวาดล้างกลุ่มโจรป่าแถวนั้น

    เจออะไรมั้ยจ่า

    ไม่เลยครับผู้กอง ผู้กองว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ เรื่องโจรป่าหน่ะ

    ก็แค่พวกโจรกระจอกที่หนีเข้าป่าหน่ะ

    แต่ระหว่างที่คุยกัน ลูกดอกธนูนับร้อยก็บินใส่พวกเขา ทำเอาทหารโซราบอลแตกกระเจิง พวกเขาพยายามยิงสวนแต่มองไม่เห็นตัวคนที่ยิงธนูใส่พวกเขา

    พวกเรา ถอยทัพก่อน เร็ว

    พวกเขาโดนลูกธนูยิงกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง และในขณะเดียวกัน กลุ่มโจรปิดหน้าก็กรูกันเข้ามาโจมตีพวกเขาพร้อมอาวุธดาบในมือ พวกเขาพยายามยิงสกัดแต่ก็ไม่ทันแล้ว กลุ่มโจรได้โจมตีอย่างรวดเร็ว ทหารโซราบอลแตกพ่ายหนีลงเขาไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นคนอื่นๆก็เข้ามาควบคุมสถานการณ์เอาไว้ มีแต่ทหารโซราบอลนอนตายกันเกลื่อน ส่วนที่บาดเจ็บก็พยายามร้องขอชีวิตจากพวกโจร ในตอนนั้นเอง ชายหัวหน้ากลุ่มคนหนึ่งก็เดินมาดูสภาพทหารของโซราบอลที่กำลังนอนบาดเจ็บอยู่
    ท่านครับ พวกเราจัดการพวกมันได้หมดแล้วครับ จะให้จับพวกมันเลยมั้ยครับ

    ไม่ต้อง ฆ่าพวกมันให้หมด เอาศพพวกมันแขวนประจานที่ชายป่าทุกคน

    แต่ท่านครับ ผมว่าทำแบบนี้มันจะดูรุนแรงเกินไปนะครับชายคนหนึ่งท่าทางดูสง่าเดินออกมาจากป่า ก่อนที่จะค้านหัวหน้ากลุ่มอย่างใจเย็น

    อราช นายต้องทำให้เป็นแบบอย่าง ไม่งั้นพวกมันก็จะมาเรื่อยๆหน่ะ

    อราช : ผมแค่ไม่อยากให้ท่านเป็นเหมือนพวกมัน แต่ก็แล้วแต่ท่านเถอะครับ ผมคงพูดอะไรไม่ได้หรอก

    ไม่ใช่ว่าฉันใจร้ายนะอราช แต่พ่อนายคงเสียใจนะ ที่นายไม่เด็ดขาดทำแบบนี้

    อราช : พ่อผมตายไปแล้ว แต่ช่างเถอะครับ // ในตอนนั้นเอง ทหารโซราบอลคนหนึ่งยังไม่ตายสนิท มันหยิบปืนพกขึ้นมาหวังจะสังหารหัวหน้ากลุ่ม แต่อราชเห็นจึงใช้ธนูปลิดชีวิตมันได้ก่อน

    ทีนี้เข้าใจหรือยัง ถ้าไม่ฆ่า ก็ถูกฆ่าหล่ะหัวหน้ากลุ่มแตะไหล่ของอราช ก่อนที่โจรคนอื่นจะเชือดคอทหารโวราบอลทุกนายทิ้งอย่างเลือดเย็น

     

    เมื่อข่าวการรบของเนโรจบลง ก็มีการส่งโทรเลขไปยังริงก้า เพื่อรายงานเรื่องนี้กับอาร์เธอร์ที่กำลังคุมกำลังทหารที่เมืองซอร์ม เมืองหลวงของริงก้า

    นายพลเนโรยึดชายแดนมอร็อคแล้ว ผมจะส่งข่าวมาอีกทีคครับ

    อาร์เธอร์ : ห่ะ ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะมาได้เร็วขนาดนี้

    เซเลนส์ : จะให้ผมนำทหารของเราไปช่วยเลยดีมั้ยครับ

    อาร์เธอร์ : อย่าเพิ่งเลย ตอนนี้คนของเรายังมีไม่พอจะต่อกรกับเขาหรอก

    และในตอนนั้นเอง เนม่าก็ขี่ม้ามาจากวังหลวง มายังบ้านพักของอาร์เธอร์ทันทีหลังจากที่ได้ทราบข่าว

    เนม่า : นี่ พี่อาร์เธอร์ ได้ข่าวจากมอร็อคหรือยังคะ

    อาร์เธอร์ : พี่รู้แล้วหล่ะ ตอนนี้พี่กำลังติดต่อกับกลุ่มสมาคมลับอยู่

    เซเลนส์ : ห่ะ จริงเหรอครับ ถ้านายพลเนโรรู้ พวกเราหัวขาดแน่

    เนม่า : ไม่ต้องห่วง เราเป็นคนริงก้าก็รอวันหัวขาดอยู่แล้ว ถ้าพวกมันมาที่นี่หน่ะ

     

    และกลับมายังเมืองโมโรวิน หลังจากที่พวกของนอร์ดิกรวบรวมเสบียงเพื่อเดินทางได้ ในขณะที่พวกเขากำลังจะเข้าไปยังที่พัก ในตอนนั้นเอง ก็มีลูกปืนเฉียดแขนนอร์ดิกไปนิดเดียว เคจาเห็นพวกมันข้างบนยิงปืนจึงใช้วินเชสเตอร์ยิงสวนจนมาร่วงลงมา

    อาบาตู : ห่ะ นี่มันพวกมือสังหารนี่ครับ

    ไซโซ : นอร์ดิก มาหลบข้างหลังพี่ เร็ว

    นอร์ดิก : ฝันเถอะพี่ เอาปืนมาให้ผมหน่อยสิ // เคจาโยนลูกโม่ให้กับนอร์ดิก จากนั้นนอร์ดิกก็ยิงสวนกับพวกมัน พวกเขาหาที่หลบในตลาดแห่งหนึ่ง ซึ่งพวกมันก็บุกเข้าฆ่านอร์ดิกอย่างต่อเนื่อง

    เคจา : ต้องเป็นนายพลเนโรจ้างมาแน่ๆ เอาไงดี

    นอร์ดิก : ก็สู้กับพวกมันเลยสิครับ

    พวกเขายิงสกัดพวกมันเอาไว้ แต่พวกมันก็มีเยอะเกินไป มันระดมยิงจนพวกเขาโงหัวไม่ขึ้น ในขณะที่กระสุนของพวกนอร์ดิกกำลังจะหมดไปทุกที

    อาบาตู : กระสุนของผมกำลังจะหมดแล้วครับ

    เคจา : นี่ไซโซ เหลือกระสุนอีกกี่นัดหล่ะ

    ไซโซ : เหลือสามนัด ไม่พอยิงมันแน่ๆ

    นอร์ดิก : ผมเหลือนัดเดียว ยังไงก็ต้องลองหน่อยหล่ะ // นอร์ดิกโผล่ออกไปยิงมัน แต่ในตอนนั้นเอง พวกมันก็ค่อยๆโดนยิงตายไปทีละคน ทำเอาพวกของนอร์ดิกงงกันเป้นแถว และในตอนนั้นเอง ปรากฏร่างของกลุ่มชายและหญิงกลุ่มหนึ่งกำลังเดินมาหาพวกเขา ซึ่งกลุ่มนั้นคือกลุ่มสมาคมลับนั้นเอง ที่นำโดยเอลิซ่า เอลิซ่าเห็นนอร์ดิกเธอจึงจำเขาได้ทันที

    เอลิซ่า : คุณนอร์ดิกใช่หรือเปล่าคะ จำฉันได้มั้ยคะ คนที่คุณช่วยฉันวันนั้นไง

    นอร์ดิก : อ้อครับ จำแทบไม่ได้เลยนะครับเนี่ย

    อาบาตู : คุณชายครับ ไอ้หมอนี่มันยังไม่ตายครับ // มือสังหารคนหนึ่งที่ถูกยิงกำลังลากตัวเองหนีจากพวกเขา แต่อาบาตูตามไปได้ทัน

    ใครใช้พวกแกมาวะอาบาตูพูดเป็นภาษาพื้นเมือง // แต่ไม่ทันไร มันก็เอามีดกรีดคอตัวเอง จากนั้นก็สิ้นลมไปดื้อ

    เมเทอร์ : พวกมือสังหารพวกนี้มันเป็นชนพื้นเมืองนี่หน่า

    เลออน : ว่าแต่ พวกคุณทำไมถึงถูกพวกมันตามล่างั้นเหรอ

    ไซโซ : พวกเราหนีจากนายพลเนโรที่ตามล่าพวกเรามาหน่ะ

    แมทธิว : ห่ะ ทำไมนายพลเนโรต้องฆ่าพวกนายด้วยหล่ะ ไปทำอะไรมาเหรอ

    นอร์ดิก : ฉันเป็นลูกของนายพลเตเวียส ฉันโดนเนโรจับเป็นเชลย แต่หนีออกมาได้หน่ะ

    เอเทอร์ : ว้าว แต่หน้านายไม่ค่อยเหมือนกับท่านเตเวียสเท่าไหร่นะ

    มาร์ธิว : แต่ช่างมันเถอะ ว่าแต่พวกนายกำลังจะไปไหนงั้นเหรอ

    เคจา : เรากำลังจะไปริงก้า ตามคำสั่งเสียของพ่อนอร์ดิกเขาหน่ะ

    โอลลี่ : โห ต้องเดินทางไกลเลยนะ คงจะหลายวันเลยหล่ะ

    เอลิซ่า : ถ้าพวกคุณยังไม่มีที่พัก พวกคุณมากับเราก่อนก็ได้นะคะ แล้วคุณก็บาดเจ็บอยู่ด้วย

    นอร์ดิก : ขอบคุณมากๆนะครับ ไปกันเถอะพวกเรา // นอร์ดิกจูงรถม้าของเขาไปยังที่พักที่เอลิซ่าจัดเตรียมไว้ให้ทันที

     

    กลับมาที่คฤหาสน์ของมาร์ธ่า ในขณะที่เธอกำลังรักษาตัว ซิลเวียร์ก็คอยเป็นพยาบาลให้เธอและค่อยๆรักษาเธอให้

    มาร์ธ่า : ป่านนี้ไม่รู้ว่านอร์ดิกเขาจะเป็นยังไงบ้างนะ

    ซิลเวียร์ : นั่นสิคะ ความจริงท่านนายพลไม่น่าทำแบบนั้นกับเขาเลยนะคะ

    มาร์ธ่า : เฮ็อ ในฐานะแม่ แม่ล้มเหลวอย่างมากในการอบรมลูก

    ซาร่า : อย่าโทษตัวเองเลยนะคะคุณแม่ คุณแม่ไม่ผิดหรอก เนโรแค่ไม่รู้หน่ะ

    ซิลเวียร์ : เรื่องอะไรเหรอคะ บอกหนูได้หรือเปล่าคะ

    มาร์ธ่า : ความจริงหนูยังไม่ต้องรู้ตอนนี้ก็ได้นะ รอจนกว่าจะได้เจอเขาอีกครั้งก็แล้วกัน

    ซิลเวียร์ : หวังว่าเขาจะปลอดภัยนะคะ หนูเป็นห่วงเขา

     

    ณ สถานทูตเยอรมันในแคว้นเดลล์ แอนตาร์กติกไปรายงานตัวกับทูตเยอรมันท่านหนึ่ง ซึ่งกำลังรอกองเรือของเธอให้มาถึง เมื่อท่านทูตเจอเธอ เธอก็ทำความเคารพทันที

    แอนตาร์กติก : ท่านทูตค่ะ ปลอดภัยดีนะคะ

    ตอนนี้ผมสบายดี ผมดีใจมากที่ได้เจอคุณนะ

    แอนตาร์กติก : ว่าแต่ ดิฉันมาช้าเกินไปหรือเปล่าคะ

    ความจริงคุณมาทันเวลาพอดีเลยหล่ะ แต่คุณคงไม่เหนื่อยคนเดียว คุณต้องร่วมมือกับพวกรัสเซียจัดการเรื่องนี้นะ ตอนนี้สงครามกำลังจะเกิดขึ้นที่นี่ อังกฤษกับฝรั่งเศสดูท่านจะให้ความร่วมมือกับโซราบอลเต็มที่ แถมตอนนี้อเมริกาก็มาร่วมเกมส์นี้ด้วย

    แอนตาร์กติก : ว่าแต่ งานนี้เราจะทำอะไรได้คะ

    อยากมากแค่ป้องกันไม่ให้ชาติอื่นทำอะไรรุนแรงมากกว่านี้หน่ะ

    แอนตาร์กติก : ดิฉันจะจัดการเรื่องนี้เองค่ะ ความจริงไม่ต้องพึ่งพวกรัสเซียก็ได้

    ผมเข้าใจ แต่งานนี้ประเทศชาติต้องมาก่อน คุณคงเข้าใจนะ

    แอนตาร์กติก : เข้าใจค่ะท่าน

    และอีกด้านหนึ่งที่สถานทูตรัสเซียในแคว้นเดลล์ โทมารอฟก็เพิ่งจะไปรับคำสั่งจากผู้บังคับการคนหนึ่งที่ประจำการที่แคว้นเดลล์อยู่ก่อนแล้ว เมื่อโทมารอฟมาถึง ผู้การเรือก็ต้อนรับเขาทันที

    อ้าว โทมารอฟ ทหารเอกของฉันมาแล้ว

    โทมารอฟ : ท่านครับ สถานการณ์ที่นี่เป็นยังไงบ้างครับ

    ตอนนี้ที่นี่กำลังจะมีสงครามหน่ะ ไม่นานทัพของโซราบอลคงจะมาถึงที่นี่

    โทมารอฟ : นี่เราจะต้องทำสงครามกับพวกเขางั้นเหรอครับ

    สิ่งที่เราทำได้ ก็แค่ปกป้องชีวิตและผู้คนของเรานะ

    โทมารอฟ : แต่ผมเอาชนะกองเรืออังกฤษ ฝรั่งเศสให้ได้นะครับ

    ผมรู้ แต่งานนี้มันไม่ธรรมดา กองเรือที่มาที่นี่ยิ่งใหญ่กว่าแต่ก่อนมาก แล้วงานนี้ ผมต้องการให้คุณร่วมมือกับแม่ทัพเรือเยอรมันด้วย

    โทมารอฟ : ทำไมท่านไม่เห็นบอกผมเลยครับ

    ก็ผมกำลังจะบอกอยู่นี่ไง เอาหล่ะ คุณมาเหนื่อยๆ ไปพักผ่อนให้สบายใจก่อนดีกว่านะ

    โทมารอฟ : ได้ครับท่าน

     

    กลับมายังฟิลล์บอน โคน่าเก็บตัวอย่างน้ำมันมาทำการวิจัยเพื่อหาว่ามันมีค่าพอจะลงทุนกับดินแดนแห่งนี้หรือเปล่า เธอหยอดสารตัวนั้นทีตัวนี้ที และในตอนนั้นเอง คาเนสและโคลิมบ่าก็เอาของกินมาให้กับโคน่า เนื่องจากเห็นว่าเธอทำงานหนักทั้งคืน ห่วงว่าเธอจะเป็นอะไรไปซะก่อน

    คาเนส : นี่ โคน่า กินอะไรหน่อยสิ ไม่ได้กินอะไรมาทั้งคืนแล้วนะ

    โคลิมบ่า : นั้นสิ ตัวอย่างที่เราเก็บมาได้ก็เยอะอยู่ ไม่ต้องห่วงหรอก

    โคน่า : ก็มันอยากรู้นี่หน่า ว่าแต่พวกพี่สองคนเป็นยังไงบ้างหล่ะ

    คาเนส : ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากจะมาบอกว่า ตอนนี้โซราบอลเริ่มจะตีมอร็อคแตกแล้วนะ

    โคน่า : จริงเหรอคะพี่ แล้วพวกมันจะมาที่นี่หรือเปล่าคะ

    อาเรีย  : ซิกน่า ถ้าเราต้องรบกับโซราบอลนี่เราจะต้านพวกมันไหวหรือเปล่า

    ซิกนัส : ทหารของเรามีแค่ 6 หมื่นกว่าๆ แต่เราได้เปรียบที่ทำเลหน่ะครับ

    โคลิมบ่า : นั่นสิ ใครอยากจะเดินทางมาเมืองทะเลทรายที่ร้องชิบแบบนี้หล่ะ

    ซิกนัส : แต่ก็ไม่แน่นะครับ เหมืองทองคำที่นี่ยังพอดึงดูดพวกเขามาได้บ้าง

    คาเนส : ใช่ แล้วยิ่งถ้ามีน้ำมันอีก งานนี้แผ่นดินนี้ไม่สงบแน่ๆ

    โคน่า : อืม หนูว่า หนูขอทำงานของหนูต่อดีกว่านะ // โคน่าตั้งใจวิจัยน้ำมันของเธอต่อไป

    โคลิมบ่า : นี่ ฉันขอแจมด้วยสิ // โคลิมบ่าเข้าไปตรวจสอบสภาพของน้ำมันที่นั้นด้วย

    อาเรีย : นี่ ฉันว่าจะกลับไปที่สำนักพิมพ์ของฉันหน่ะ

    ซิกนัส : งั้นฉันไปส่งเธอก็แล้วกันนะ ฉันเอารถม้ามาด้วยหน่ะ

     

    กลับมายังแคว้นเดลล์ ตอนนั้นเองนิโคลัสกำลังขนถ่ายสินค้าล็อตหนึ่ง ซึ่งเป็นอาวุธปืนเถื่อนที่นิโคลัสซื้อมาจากกลุ่มโจรสลัด ตอนนั้นเองนิโคลัสนำมันมาเก็บไว้ที่โกดังแห่งหนึ่ง ชายแดนแคว้นริงก้า เพื่อนำไปขายต่อให้กับผู้ปกครองของริงก้า

    เอ็น : นี่ นายว่างานนี้เราจะได้กำไรซักเท่าไหร่หล่ะ

    นิโคลัส : กำไรงามเลยหล่ะ แคว้นริงก้าคงไม่มีอาวุธอะไรแบบนี้แน่ๆ

    เอ็น : นั้นสิ ปืนเล็กยาวแบบลูกเลื่อน แถมยังปืนกลแก๊ตลิ่งอีก

    นิโคลัส : นี่ ถ้าไม่ติดว่ากองเรือต่างชาติล้อมอยู่ ฉันอาจจะเอาปืนกลแบบใหม่เข้ามาด้วยนะ

    เอ็น : ว่าแต่ ปืนใหญ่หล่ะ พวกเขากำลังขาดปืนใหญ่อยู่นี่หน่า

    นิโคลัส : เอใช่ เดี๋ยวฉันจะลองไปซื้อจากเยอรมันมาดูก่อนนะ

    เอ็น : ว่าแต่ พวกนั้นจะยอมขายให้เรางั้นเหรอ

    นิโคลัส : เราก็ไปซื้อกับพวกพ่อค้าอาวุธเถื่อนสิ

    เอ็น : ว่าแต่ นายรู้จักพ่อค้าอาวุธงั้นเหรอ

    นิโคลัส : ฉันพอจะมีเพื่อนอยู่หน่ะ เขาหาปืนใหญ่ให้พวกเราได้

    เอ็น : เอาเลย ฉันว่าหลังจากนี้กำไรงามแน่นอน

     

    ในระหว่างที่แคว้นเดลล์กำลังวุ่นวาย อีกฝากหนึ่ง อาร์เทมิสเรียกประชุมคณะผู้บริหารแคว้นมาคุยกัน เพื่อรับมือกับสงครามที่กำลังจะมาถึง เมื่อองค์คณะมาถึงที่ประชุมกันแล้ว พวกเขาก็เริ่มถกกันถึงเรื่องสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นทันที

    อาร์เทมิส : สวัสดีทุกท่าน พวกท่านคงจะได้ข่าวที่มอร็อคแล้วสินะ

    ครับ ว่าแต่ ซารานิสไปไหนของมันหล่ะเนี่ย

    เฮ้อ ขี้เกียจทั้งปี น่าจะลงโทษมันหน่อยนะ

    อาร์เทมิส : ช่างมันก่อนเถอะ ว่าแต่ พวกท่านมีแผนเกี่ยวกับการป้องกันแคว้นของเราหรือเปล่า

    ตอนนี้ทหารของเรามีแค่ 4 หมื่นเองนะครับ ที่ทำสงครามได้

    แต่ถ้ารวมกับมอร็อค กับริงก้า ก็น่าจะต้านทานได้นะครับ

    อาร์เทมิส : พูดถึงริงก้า ความจริงฉันน่าจะไปดูใจท่านนายพลครั้งสุดท้ายนะ

    นั่นสิครับ มีแต่นายพลเตเวียสเท่านั้นที่สยบโอหังเนโรได้หน่ะ

    อาร์เทมิส : เราจะต้องสานต่อแผนของท่านนายพล เราจะทำสงครามกับพวกมัน ใครจะสนับสนุนฉันบ้าง // ทุกคนในห้องต่างยกมือร่วมกัน เพื่อเป็นการสนับสนุนการทำสงครามของเธอ

    อาร์เทมิส : เอาหล่ะ ก่อนอื่น เราควรจะติดต่อกับกลุ่มสมาคมลับที่มอร็อคและเลดี้เนม่านะ

    เห็นด้วยครับ พวกเขาน่าจะช่วยได้ แต่ท่านไม่ขอกำลังจากฟิลล์บอนหน่อยเหรอครับ

    อาร์เทมิส : ไม่มีทางหรอก พวกเขาคงไม่เข้าร่วมสงครามหรอก ลำพังพื้นดินของพวกเขาก็เป็นอาวุธฉันดีหล่ะ

    ครับ ถ้างั้นผมจะส่งจดหมายไปยังสองคนนั้นนะครับ

     

    และที่หมู่เกาะแห่งหนึ่งที่ไม่ห่างจากแคว้นบาส์กนัก เรือของโรสพาแพทและเมดมาถึงเกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งในตอนนั้นเองเธอปลูกบ้านเอาไว้ เพื่อเอาไว้เป็นที่หลบภัยเวลาที่เกิดอะไรขึ้นกับแคว้นของเธอ ซึ่งเธอก็เดาถูกจริงๆถึงได้มาที่นี่ เมื่อพวกเขามาถึงที่นี่ พวกเขาก็ลงจากเรือมาสัมผัสถึงบรรยากาศดีๆริมชายหาดทันที

    แพท : ว้าว ที่นี่สวยจังเลย อยากอยู่ที่นี่นานๆจังเลย

    เมด : นั่นสิ ไม่มีต้องกังวลเรื่องสงครามที่กำลังจะมาถึงเลยนะ

    โรส : ทำตัวตามสบายเลยนะ ฉันมีบ้านอยู่ตรงนั้นหน่ะ

    เมด : ยังไงก็ขอบใจเธอมากเลยนะ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกเราได้เลยนะ

    แพท : ใช่ หรือถ้ามีใครกล้ามาแหยม บอกพวกเราได้นะ // แพทพูดพลางชักปืนของเธอออกมา

    โรส : ใจเย็นจ้า ที่นี่ไม่มีใครทำอะไรเธอหรอก เออนี่ เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปหาพ่อกับแม่ของฉันก่อนนะ // โรสพาทั้งคุ่ไปยังกระท่อมของพ่อและแม่ของเธอ ซึ่งเขาทั้งคู่ก็กำลังรอเธออยู่พอดี

    อ้าว โรส นึกว่าลูกจะออกมาไม่ทันซะแล้ว

    โรส : หนูไม่เป็นไรหรอกค่ะพ่อ พ่อคะ นี่เพื่อนหนู เมดกับแพท เขาจะมาอยู่กับหนูค่ะ

    อ้าว มาจากไหนกันหล่ะจ๊ะพวกหนู

    เมด : หนูมาจากเกาะวอลล์พี ชนเผ่าไทย่าค่ะ

    แพท : ส่วนหนูก็มาจากเผ่าเคโมสค่ะ หนูหลบภัยการค้ามนุษย์ที่นั่นมาค่ะ

    น่าสงสารจังลูก ยังไงพวกหนูก็อยู่กันซะที่นี่ก่อนได้นะจ๊ะ

    โรส : นี่ พวกเธอหาปลากันได้หรือเปล่า ฉันจะพาออกทะเลหน่ะ

    แพท : ได้สิ อยากหาปลากินอยู่เหมือนกันหน่ะ

     

    กลับมายังเมืองโมโรวิน ที่คฤหาสน์หลังหนึ่ง ซึ่งพวกของนอร์ดิกใช้เป็นที่หลบภัย ตอนนั้นเองเอลิซ่าก็ให้เสบียงกับกระสุนส่วนหนึ่งให้พวกเขาเพื่อใช้ในการเดินทาง พวกเขาดูจะต้อนรับนอร์ดิกเป็นอย่างมาก ตกดึก นอร์ดิกมานั่งมองท้องฟ้าริมหน้าต่าง พลางมองดูฟ้าในยามค่ำคืน แถมนอร์ดิกดันมาคิดถึงซิลเวียร์ หญิงสาวที่เขารักอีก ไหนจะพ่อของเขา นายพลเตเวียส ยิ่งทำให้เขาอยากจะไปริงก้าใจจะขาด แต่ระหว่างที่กำลังฝันหวาน มีคนมาเคาะประตูห้องเขา ซึ่งนั่นก็คือเอลิซ่านั้นเอง ซึ่งวันนี้เธอแต่งตัวดูสวยผิดปกติ

    เอลิซ่า : หวัดดีจ้านอร์ดิก แผลหายดีหรือยังจ๊ะ

    นอร์ดิก : ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วครับ ขอบคุณมากนะครับสำหรับทุกอย่าง

    เอลิซ่า : ไม่เป็นไรจ้ะ ว่าแต่ ขอเขาไปคุยด้วยด้านในหน่อยสิ // นอร์ดิกเชิญเอลิซ่าเข้ามาด้านใน จากนั้นพวกเขาก็เริ่มคุยกันสองต่อสอง

    เอลิซ่า : ว่าแต่ เธอจะไปริงก้าทำไมงั้นเหรอ

    นอร์ดิก : พ่อของผม ทิ้งจดหมายฉบับนี้ไว้ให้ ให้ผมไปริงก้าตามคำสั่งเสียของท่าน

    เอลิซ่า : พ่อของเธอ เป็นใครกันเหรอ

    นอร์ดิก : พ่อผมชื่อเตเวียสครับ จดหมายฉบับนี้ ท่านให้ผมเปิดอ่านเมื่อผมไปถึงเมืองครับ

    เอลิซ่า : คืนนี้บรรยากาศดีนะ เธอว่าหรือเปล่า อยากอยู่แบบนี้นานๆจังเลยนะ

    แต่ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงคนเคาะประตูอีกครั้ง คราวนี้เป็นคนของเอลิซ่าที่มาเคาะประตูหาเธอ ทำเอาเธอหัวเสียมากๆ

    เอลิซ่า : นี่ มีอะไร ทำไมมาเรียกฉันดึกๆดื่นๆแบบนี้

    แย่แล้วครับ เมืองนาร์โด้ก่อกบฏ ตอนนี้กำลังก่อความวุ่นวาย บางส่วนกำลังบุกมาคฤหาสน์เราด้วยครับ

    นอร์ดิก : แย่หล่ะ ไม่ได้การแล้ว ผมจะไปปลุกทุกคนก่อน พวกคุณหลบอยู่ในนี้ก่อนนะครับ

    เอลิซ่า : อยู่เฉยๆทำไมหล่ะ รีบไปเตรียมคนของเรามาสิ

    คนในกลุ่มสมาคมลับเตรียมอาวุธพร้อมรับมือกับกลุ่มกบฏที่กำลังจะมาถึง

    ======================================================================

    พวกของนอร์ดิกและกลุ่มสมาคมลับกำลังตกที่นั่งลำบาก พวกเขาจะผ่านค่ำคืนนี้ไปได้หรือไม่ ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า

    ขอคนละเม้นท์ด้วยนะครัช


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×