คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 4 : ค่ำคืนการก่อการ
ปืนใหญ่ของนายพลเนโรยิงกดแนวรับของมอร็อคทั้งวันทั้งคืน
ทำเอาสนามเพลาะของมอร็อคสั่นสะเทือนไปด้วยเสียงระเบิด
ทหารมอร็อคเสียขวัญอย่างมากเนื่องจากด้อยกว่าทั้งกำลังคนและอาวุธ
ทหารมอร็อคส่วนใหญ่ยังใช้ปืนแบบบรรจุที่ปากกระบอก ในขณะที่ทหารของเนโรใช้ปืนไรเฟิลลูกเลื่อนกันทั้งทัพ
ทหารมอร็อคถูกปืนใหญ่ยิงกดทั้งวันทั้งคืน และในขณะเดียวกัน
คูเปอร์ก็เตรียมกำลังพลเพื่อเข้าจู่โจมทันที
“ท่านครับ พวกมันเริ่มถอยกันแล้วครับ”
คูเปอร์ : สั่งทหารราบให้บุกเข้าไป
พวกเรา บุก!! // คูเปอร์ชักดาบออกมา
จากนั้นก็นำทหารม้าและทหารราบของตัวเองบุกเข้าไปยังแนวรบของข้าศึก
ทำเอาทหารของมอร็อคต้องถอยกลับเข้าไปในป่า
ฟีนด์ : ทหาร
รีบถอยเข้าไปในป่า เร็ว //
แต่ในตอนนั้นเอง
คูเปอร์ควบม้ามาประจันหน้ากับฟีนด์ ฟีนด์คว้าปืนแถวนั้นแทงเข้าไปที่ขาม้า
จนคูเปอร์ร่วงลงมาจากม้า จากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็ประลองดาบกัน
คูเปอร์ : เฮ้อ
ไอ้หนุ่ม แกเป็นทหารมาได้กี่ปีวะ
ฟีนด์ : หุบปาก
พวกแกมารุกรานแผ่นดินของฉัน ฉันไม่เอาแกไว้แน่
พวกเขาประดาบกันไปมา ผลัดกันได้เปรียบเสียเปรียบ
แต่ในตอนนั้นเอง สัญญาณธงของมอร็อคก็สั่งให้พวกเขาถอยทัพ
ฟีนด์จึงจำเป็นต้องถอยกลับไป
คูเปอร์ : เฮ้อ
พวกมอร็อคมีดีแค่นี้เองเหรอวะ // และในตอนนั้นเอง
นายพลเนโรกับน้องชายก็ควบม้ามาพอดี
เนโร : ทำได้ดีมากคูเปอร์
แล้วก็ทหารสองคนนั้นหน่ะ //
เนโรชี้ไปยังทหารใหม่สองคนที่ทำการรบได้ยอดเยี่ยม
หลังจากที่นายพลเนโรเรียกตัว เขาทั้งสองคนก็เดินเข้ามาทันทีและทำความเคารพ
“ครับท่านนายพลครับ”
เนโร : พวกนายสองคนชื่ออะไร
“ผมสกาย ปาร์กเกอร์ หน่วยทหารเดินเท้าที่ 32 ครับ”
“ผมเอ็ดเวิร์ด อ่า.. เอ็ดเวิร์ด โจส จากหน่วยจู่โจมที่ 22 ครับ”
เนโร : ต่อไปนี้
ขอแต่งตั้งให้พวกนายสองคนเป็นจ่าบังคับการหมวดตั้งแต่วันนี้
สกาย : ขอบคุณครับท่าน
โซรอน : เอ้า
นี่คือเพื่อนใหม่ของพวกนาย ออกมานี่สิ // นายทหารคนหนึ่งขี่ม้ามาทางโซรอน
โซรอน : คนนี้เป็นทหารจากรูดิว
ชื่ออะไรนะเรา
“อาร์มเมอร์ สโตร ครับท่าน”
โซรอน : ต่อไปนี้พวกนายสามคนต้องทำงานด้วยกัน
เพื่อกำจัดศัตรูให้สิ้นซาก
“ครับผม”
เนโร : พวกมันหนีเข้าไปในป่าหล่ะ
ยึดอาวุธพวกมันให้หมด จับเชลยเก็บเอาไว้
และในตอนนั้นเอง
นายพลนอร์ทก็นำทัพจากบาส์กที่เกณฑ์ได้ มาสมทบกับนายพลเนโรที่กำลังยกทัพบุกมอร็อคอยู่
เนโร : อ้าว
นอร์ท เป็นยังไงบ้าง ที่แคว้นบาส์กหน่ะ
นอร์ก : เราเกณฑ์คนจากบาส์กมาได้ราวสามหมื่นคนครับ
สการ์เล็ต : ชาวเมืองบางส่วนอพยพหนีไปฟิลล์บอนแล้วค่ะ
โซรอน : ผมว่า
เราควรจะตามพวกนั้นไปนะครับพี่
สการ์เล็ต : แต่พื้นที่แถวนั้น
มีแต่ทะเลทราย ไม่ได้ไม่คุ้มเสียนะคะท่าน
โซรอน : ไม่ต้องกลัวหรอก
ทหารเรามีนับแสน ส่งเข้าไปซักครึ่งนึงก็ยึดได้หล่ะ
เนโร : พี่ว่า
อย่าไปสนใจดินแดนแถบนั้นเลยดีกว่า เหมืองทองที่เรามีก็ทำเงินให้เรามาแล้ว
สการ์เล็ต : ท่านคะ
เราจะเอายังไงกับพวกเชลยพวกนี้หล่ะคะ
เนโร : เอาพวกมันไปรวมตัวกันที่เมือง
เก็บเอาไว้ก่อน
ที่แคว้นรูดิว ภายใต้การปกครองของนายพลเนโร
ดูผิวเผินอาจจะถูกปกครองแบบเบ็ดเสร็จ แต่ยังมีชาวบ้านแคว้นรูดิวที่ไม่ยอมก้มหัวให้นายพลเนโรนับพัน
แอบซ่อนตัวอยู่ในป่าเขา และเช่นเดียวกันกับที่ป่าชายแดนรูดิว มอร็อค ในตอนนั้นเอง
ทหารกลุ่มหนึ่งของโซราบอลกำลังนำกองร้อยของเขาเองลาดตระเวนแถวนั้น
เพื่อทำการกวาดล้างกลุ่มโจรป่าแถวนั้น
“เจออะไรมั้ยจ่า”
“ไม่เลยครับผู้กอง
ผู้กองว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ เรื่องโจรป่าหน่ะ”
“ก็แค่พวกโจรกระจอกที่หนีเข้าป่าหน่ะ”
แต่ระหว่างที่คุยกัน
ลูกดอกธนูนับร้อยก็บินใส่พวกเขา ทำเอาทหารโซราบอลแตกกระเจิง
พวกเขาพยายามยิงสวนแต่มองไม่เห็นตัวคนที่ยิงธนูใส่พวกเขา
“พวกเรา ถอยทัพก่อน เร็ว”
พวกเขาโดนลูกธนูยิงกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง
และในขณะเดียวกัน กลุ่มโจรปิดหน้าก็กรูกันเข้ามาโจมตีพวกเขาพร้อมอาวุธดาบในมือ
พวกเขาพยายามยิงสกัดแต่ก็ไม่ทันแล้ว กลุ่มโจรได้โจมตีอย่างรวดเร็ว ทหารโซราบอลแตกพ่ายหนีลงเขาไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นคนอื่นๆก็เข้ามาควบคุมสถานการณ์เอาไว้
มีแต่ทหารโซราบอลนอนตายกันเกลื่อน ส่วนที่บาดเจ็บก็พยายามร้องขอชีวิตจากพวกโจร
ในตอนนั้นเอง
ชายหัวหน้ากลุ่มคนหนึ่งก็เดินมาดูสภาพทหารของโซราบอลที่กำลังนอนบาดเจ็บอยู่
“ท่านครับ พวกเราจัดการพวกมันได้หมดแล้วครับ
จะให้จับพวกมันเลยมั้ยครับ”
“ไม่ต้อง ฆ่าพวกมันให้หมด
เอาศพพวกมันแขวนประจานที่ชายป่าทุกคน”
“แต่ท่านครับ
ผมว่าทำแบบนี้มันจะดูรุนแรงเกินไปนะครับ” ชายคนหนึ่งท่าทางดูสง่าเดินออกมาจากป่า
ก่อนที่จะค้านหัวหน้ากลุ่มอย่างใจเย็น
“อราช นายต้องทำให้เป็นแบบอย่าง ไม่งั้นพวกมันก็จะมาเรื่อยๆหน่ะ”
อราช : ผมแค่ไม่อยากให้ท่านเป็นเหมือนพวกมัน
แต่ก็แล้วแต่ท่านเถอะครับ ผมคงพูดอะไรไม่ได้หรอก
“ไม่ใช่ว่าฉันใจร้ายนะอราช แต่พ่อนายคงเสียใจนะ
ที่นายไม่เด็ดขาดทำแบบนี้”
อราช : พ่อผมตายไปแล้ว
แต่ช่างเถอะครับ // ในตอนนั้นเอง ทหารโซราบอลคนหนึ่งยังไม่ตายสนิท
มันหยิบปืนพกขึ้นมาหวังจะสังหารหัวหน้ากลุ่ม
แต่อราชเห็นจึงใช้ธนูปลิดชีวิตมันได้ก่อน
“ทีนี้เข้าใจหรือยัง ถ้าไม่ฆ่า ก็ถูกฆ่าหล่ะ” หัวหน้ากลุ่มแตะไหล่ของอราช
ก่อนที่โจรคนอื่นจะเชือดคอทหารโวราบอลทุกนายทิ้งอย่างเลือดเย็น
เมื่อข่าวการรบของเนโรจบลง ก็มีการส่งโทรเลขไปยังริงก้า
เพื่อรายงานเรื่องนี้กับอาร์เธอร์ที่กำลังคุมกำลังทหารที่เมืองซอร์ม
เมืองหลวงของริงก้า
“นายพลเนโรยึดชายแดนมอร็อคแล้ว
ผมจะส่งข่าวมาอีกทีคครับ”
อาร์เธอร์ : ห่ะ
ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะมาได้เร็วขนาดนี้
เซเลนส์ : จะให้ผมนำทหารของเราไปช่วยเลยดีมั้ยครับ
อาร์เธอร์ : อย่าเพิ่งเลย
ตอนนี้คนของเรายังมีไม่พอจะต่อกรกับเขาหรอก
และในตอนนั้นเอง เนม่าก็ขี่ม้ามาจากวังหลวง
มายังบ้านพักของอาร์เธอร์ทันทีหลังจากที่ได้ทราบข่าว
เนม่า : นี่
พี่อาร์เธอร์ ได้ข่าวจากมอร็อคหรือยังคะ
อาร์เธอร์ : พี่รู้แล้วหล่ะ
ตอนนี้พี่กำลังติดต่อกับกลุ่มสมาคมลับอยู่
เซเลนส์ : ห่ะ
จริงเหรอครับ ถ้านายพลเนโรรู้ พวกเราหัวขาดแน่
เนม่า : ไม่ต้องห่วง
เราเป็นคนริงก้าก็รอวันหัวขาดอยู่แล้ว ถ้าพวกมันมาที่นี่หน่ะ
และกลับมายังเมืองโมโรวิน
หลังจากที่พวกของนอร์ดิกรวบรวมเสบียงเพื่อเดินทางได้ ในขณะที่พวกเขากำลังจะเข้าไปยังที่พัก
ในตอนนั้นเอง ก็มีลูกปืนเฉียดแขนนอร์ดิกไปนิดเดียว
เคจาเห็นพวกมันข้างบนยิงปืนจึงใช้วินเชสเตอร์ยิงสวนจนมาร่วงลงมา
อาบาตู : ห่ะ
นี่มันพวกมือสังหารนี่ครับ
ไซโซ : นอร์ดิก
มาหลบข้างหลังพี่ เร็ว
นอร์ดิก : ฝันเถอะพี่
เอาปืนมาให้ผมหน่อยสิ // เคจาโยนลูกโม่ให้กับนอร์ดิก
จากนั้นนอร์ดิกก็ยิงสวนกับพวกมัน พวกเขาหาที่หลบในตลาดแห่งหนึ่ง
ซึ่งพวกมันก็บุกเข้าฆ่านอร์ดิกอย่างต่อเนื่อง
เคจา : ต้องเป็นนายพลเนโรจ้างมาแน่ๆ
เอาไงดี
นอร์ดิก : ก็สู้กับพวกมันเลยสิครับ
พวกเขายิงสกัดพวกมันเอาไว้ แต่พวกมันก็มีเยอะเกินไป
มันระดมยิงจนพวกเขาโงหัวไม่ขึ้น ในขณะที่กระสุนของพวกนอร์ดิกกำลังจะหมดไปทุกที
อาบาตู : กระสุนของผมกำลังจะหมดแล้วครับ
เคจา : นี่ไซโซ
เหลือกระสุนอีกกี่นัดหล่ะ
ไซโซ : เหลือสามนัด
ไม่พอยิงมันแน่ๆ
นอร์ดิก : ผมเหลือนัดเดียว
ยังไงก็ต้องลองหน่อยหล่ะ //
นอร์ดิกโผล่ออกไปยิงมัน แต่ในตอนนั้นเอง
พวกมันก็ค่อยๆโดนยิงตายไปทีละคน ทำเอาพวกของนอร์ดิกงงกันเป้นแถว และในตอนนั้นเอง
ปรากฏร่างของกลุ่มชายและหญิงกลุ่มหนึ่งกำลังเดินมาหาพวกเขา
ซึ่งกลุ่มนั้นคือกลุ่มสมาคมลับนั้นเอง ที่นำโดยเอลิซ่า เอลิซ่าเห็นนอร์ดิกเธอจึงจำเขาได้ทันที
เอลิซ่า : คุณนอร์ดิกใช่หรือเปล่าคะ
จำฉันได้มั้ยคะ คนที่คุณช่วยฉันวันนั้นไง
นอร์ดิก : อ้อครับ
จำแทบไม่ได้เลยนะครับเนี่ย
อาบาตู : คุณชายครับ
ไอ้หมอนี่มันยังไม่ตายครับ // มือสังหารคนหนึ่งที่ถูกยิงกำลังลากตัวเองหนีจากพวกเขา
แต่อาบาตูตามไปได้ทัน
“ใครใช้พวกแกมาวะ” อาบาตูพูดเป็นภาษาพื้นเมือง // แต่ไม่ทันไร
มันก็เอามีดกรีดคอตัวเอง จากนั้นก็สิ้นลมไปดื้อ
เมเทอร์ : พวกมือสังหารพวกนี้มันเป็นชนพื้นเมืองนี่หน่า
เลออน : ว่าแต่
พวกคุณทำไมถึงถูกพวกมันตามล่างั้นเหรอ
ไซโซ : พวกเราหนีจากนายพลเนโรที่ตามล่าพวกเรามาหน่ะ
แมทธิว : ห่ะ
ทำไมนายพลเนโรต้องฆ่าพวกนายด้วยหล่ะ ไปทำอะไรมาเหรอ
นอร์ดิก : ฉันเป็นลูกของนายพลเตเวียส
ฉันโดนเนโรจับเป็นเชลย แต่หนีออกมาได้หน่ะ
เอเทอร์ : ว้าว
แต่หน้านายไม่ค่อยเหมือนกับท่านเตเวียสเท่าไหร่นะ
มาร์ธิว : แต่ช่างมันเถอะ
ว่าแต่พวกนายกำลังจะไปไหนงั้นเหรอ
เคจา : เรากำลังจะไปริงก้า
ตามคำสั่งเสียของพ่อนอร์ดิกเขาหน่ะ
โอลลี่ : โห
ต้องเดินทางไกลเลยนะ คงจะหลายวันเลยหล่ะ
เอลิซ่า : ถ้าพวกคุณยังไม่มีที่พัก
พวกคุณมากับเราก่อนก็ได้นะคะ แล้วคุณก็บาดเจ็บอยู่ด้วย
นอร์ดิก : ขอบคุณมากๆนะครับ
ไปกันเถอะพวกเรา // นอร์ดิกจูงรถม้าของเขาไปยังที่พักที่เอลิซ่าจัดเตรียมไว้ให้ทันที
กลับมาที่คฤหาสน์ของมาร์ธ่า
ในขณะที่เธอกำลังรักษาตัว ซิลเวียร์ก็คอยเป็นพยาบาลให้เธอและค่อยๆรักษาเธอให้
มาร์ธ่า : ป่านนี้ไม่รู้ว่านอร์ดิกเขาจะเป็นยังไงบ้างนะ
ซิลเวียร์ : นั่นสิคะ
ความจริงท่านนายพลไม่น่าทำแบบนั้นกับเขาเลยนะคะ
มาร์ธ่า : เฮ็อ
ในฐานะแม่ แม่ล้มเหลวอย่างมากในการอบรมลูก
ซาร่า : อย่าโทษตัวเองเลยนะคะคุณแม่
คุณแม่ไม่ผิดหรอก เนโรแค่ไม่รู้หน่ะ
ซิลเวียร์ : เรื่องอะไรเหรอคะ
บอกหนูได้หรือเปล่าคะ
มาร์ธ่า : ความจริงหนูยังไม่ต้องรู้ตอนนี้ก็ได้นะ
รอจนกว่าจะได้เจอเขาอีกครั้งก็แล้วกัน
ซิลเวียร์ : หวังว่าเขาจะปลอดภัยนะคะ
หนูเป็นห่วงเขา
ณ สถานทูตเยอรมันในแคว้นเดลล์ แอนตาร์กติกไปรายงานตัวกับทูตเยอรมันท่านหนึ่ง
ซึ่งกำลังรอกองเรือของเธอให้มาถึง เมื่อท่านทูตเจอเธอ เธอก็ทำความเคารพทันที
แอนตาร์กติก : ท่านทูตค่ะ
ปลอดภัยดีนะคะ
“ตอนนี้ผมสบายดี ผมดีใจมากที่ได้เจอคุณนะ”
แอนตาร์กติก : ว่าแต่
ดิฉันมาช้าเกินไปหรือเปล่าคะ
“ความจริงคุณมาทันเวลาพอดีเลยหล่ะ
แต่คุณคงไม่เหนื่อยคนเดียว คุณต้องร่วมมือกับพวกรัสเซียจัดการเรื่องนี้นะ ตอนนี้สงครามกำลังจะเกิดขึ้นที่นี่
อังกฤษกับฝรั่งเศสดูท่านจะให้ความร่วมมือกับโซราบอลเต็มที่
แถมตอนนี้อเมริกาก็มาร่วมเกมส์นี้ด้วย”
แอนตาร์กติก : ว่าแต่
งานนี้เราจะทำอะไรได้คะ
“อยากมากแค่ป้องกันไม่ให้ชาติอื่นทำอะไรรุนแรงมากกว่านี้หน่ะ”
แอนตาร์กติก : ดิฉันจะจัดการเรื่องนี้เองค่ะ
ความจริงไม่ต้องพึ่งพวกรัสเซียก็ได้
“ผมเข้าใจ แต่งานนี้ประเทศชาติต้องมาก่อน
คุณคงเข้าใจนะ”
แอนตาร์กติก : เข้าใจค่ะท่าน
และอีกด้านหนึ่งที่สถานทูตรัสเซียในแคว้นเดลล์
โทมารอฟก็เพิ่งจะไปรับคำสั่งจากผู้บังคับการคนหนึ่งที่ประจำการที่แคว้นเดลล์อยู่ก่อนแล้ว
เมื่อโทมารอฟมาถึง ผู้การเรือก็ต้อนรับเขาทันที
“อ้าว โทมารอฟ ทหารเอกของฉันมาแล้ว”
โทมารอฟ : ท่านครับ
สถานการณ์ที่นี่เป็นยังไงบ้างครับ
“ตอนนี้ที่นี่กำลังจะมีสงครามหน่ะ
ไม่นานทัพของโซราบอลคงจะมาถึงที่นี่”
โทมารอฟ : นี่เราจะต้องทำสงครามกับพวกเขางั้นเหรอครับ
“สิ่งที่เราทำได้
ก็แค่ปกป้องชีวิตและผู้คนของเรานะ”
โทมารอฟ : แต่ผมเอาชนะกองเรืออังกฤษ
ฝรั่งเศสให้ได้นะครับ
“ผมรู้ แต่งานนี้มันไม่ธรรมดา
กองเรือที่มาที่นี่ยิ่งใหญ่กว่าแต่ก่อนมาก แล้วงานนี้
ผมต้องการให้คุณร่วมมือกับแม่ทัพเรือเยอรมันด้วย”
โทมารอฟ : ทำไมท่านไม่เห็นบอกผมเลยครับ
“ก็ผมกำลังจะบอกอยู่นี่ไง เอาหล่ะ คุณมาเหนื่อยๆ
ไปพักผ่อนให้สบายใจก่อนดีกว่านะ”
โทมารอฟ : ได้ครับท่าน
กลับมายังฟิลล์บอน
โคน่าเก็บตัวอย่างน้ำมันมาทำการวิจัยเพื่อหาว่ามันมีค่าพอจะลงทุนกับดินแดนแห่งนี้หรือเปล่า
เธอหยอดสารตัวนั้นทีตัวนี้ที และในตอนนั้นเอง
คาเนสและโคลิมบ่าก็เอาของกินมาให้กับโคน่า เนื่องจากเห็นว่าเธอทำงานหนักทั้งคืน
ห่วงว่าเธอจะเป็นอะไรไปซะก่อน
คาเนส : นี่
โคน่า กินอะไรหน่อยสิ ไม่ได้กินอะไรมาทั้งคืนแล้วนะ
โคลิมบ่า : นั้นสิ
ตัวอย่างที่เราเก็บมาได้ก็เยอะอยู่ ไม่ต้องห่วงหรอก
โคน่า : ก็มันอยากรู้นี่หน่า
ว่าแต่พวกพี่สองคนเป็นยังไงบ้างหล่ะ
คาเนส : ก็ไม่มีอะไรหรอก
แค่อยากจะมาบอกว่า ตอนนี้โซราบอลเริ่มจะตีมอร็อคแตกแล้วนะ
โคน่า : จริงเหรอคะพี่
แล้วพวกมันจะมาที่นี่หรือเปล่าคะ
อาเรีย : ซิกน่า ถ้าเราต้องรบกับโซราบอลนี่เราจะต้านพวกมันไหวหรือเปล่า
ซิกนัส : ทหารของเรามีแค่
6 หมื่นกว่าๆ แต่เราได้เปรียบที่ทำเลหน่ะครับ
โคลิมบ่า : นั่นสิ
ใครอยากจะเดินทางมาเมืองทะเลทรายที่ร้องชิบแบบนี้หล่ะ
ซิกนัส : แต่ก็ไม่แน่นะครับ
เหมืองทองคำที่นี่ยังพอดึงดูดพวกเขามาได้บ้าง
คาเนส : ใช่
แล้วยิ่งถ้ามีน้ำมันอีก งานนี้แผ่นดินนี้ไม่สงบแน่ๆ
โคน่า : อืม
หนูว่า หนูขอทำงานของหนูต่อดีกว่านะ // โคน่าตั้งใจวิจัยน้ำมันของเธอต่อไป
โคลิมบ่า : นี่
ฉันขอแจมด้วยสิ // โคลิมบ่าเข้าไปตรวจสอบสภาพของน้ำมันที่นั้นด้วย
อาเรีย : นี่
ฉันว่าจะกลับไปที่สำนักพิมพ์ของฉันหน่ะ
ซิกนัส : งั้นฉันไปส่งเธอก็แล้วกันนะ
ฉันเอารถม้ามาด้วยหน่ะ
กลับมายังแคว้นเดลล์
ตอนนั้นเองนิโคลัสกำลังขนถ่ายสินค้าล็อตหนึ่ง
ซึ่งเป็นอาวุธปืนเถื่อนที่นิโคลัสซื้อมาจากกลุ่มโจรสลัด
ตอนนั้นเองนิโคลัสนำมันมาเก็บไว้ที่โกดังแห่งหนึ่ง ชายแดนแคว้นริงก้า
เพื่อนำไปขายต่อให้กับผู้ปกครองของริงก้า
เอ็น : นี่
นายว่างานนี้เราจะได้กำไรซักเท่าไหร่หล่ะ
นิโคลัส : กำไรงามเลยหล่ะ
แคว้นริงก้าคงไม่มีอาวุธอะไรแบบนี้แน่ๆ
เอ็น : นั้นสิ
ปืนเล็กยาวแบบลูกเลื่อน แถมยังปืนกลแก๊ตลิ่งอีก
นิโคลัส : นี่
ถ้าไม่ติดว่ากองเรือต่างชาติล้อมอยู่ ฉันอาจจะเอาปืนกลแบบใหม่เข้ามาด้วยนะ
เอ็น : ว่าแต่
ปืนใหญ่หล่ะ พวกเขากำลังขาดปืนใหญ่อยู่นี่หน่า
นิโคลัส : เอใช่
เดี๋ยวฉันจะลองไปซื้อจากเยอรมันมาดูก่อนนะ
เอ็น : ว่าแต่
พวกนั้นจะยอมขายให้เรางั้นเหรอ
นิโคลัส : เราก็ไปซื้อกับพวกพ่อค้าอาวุธเถื่อนสิ
เอ็น : ว่าแต่
นายรู้จักพ่อค้าอาวุธงั้นเหรอ
นิโคลัส : ฉันพอจะมีเพื่อนอยู่หน่ะ
เขาหาปืนใหญ่ให้พวกเราได้
เอ็น : เอาเลย
ฉันว่าหลังจากนี้กำไรงามแน่นอน
ในระหว่างที่แคว้นเดลล์กำลังวุ่นวาย อีกฝากหนึ่ง
อาร์เทมิสเรียกประชุมคณะผู้บริหารแคว้นมาคุยกัน
เพื่อรับมือกับสงครามที่กำลังจะมาถึง เมื่อองค์คณะมาถึงที่ประชุมกันแล้ว
พวกเขาก็เริ่มถกกันถึงเรื่องสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นทันที
อาร์เทมิส : สวัสดีทุกท่าน
พวกท่านคงจะได้ข่าวที่มอร็อคแล้วสินะ
“ครับ ว่าแต่ ซารานิสไปไหนของมันหล่ะเนี่ย”
“เฮ้อ ขี้เกียจทั้งปี น่าจะลงโทษมันหน่อยนะ”
อาร์เทมิส : ช่างมันก่อนเถอะ
ว่าแต่ พวกท่านมีแผนเกี่ยวกับการป้องกันแคว้นของเราหรือเปล่า
“ตอนนี้ทหารของเรามีแค่ 4 หมื่นเองนะครับ ที่ทำสงครามได้”
“แต่ถ้ารวมกับมอร็อค กับริงก้า
ก็น่าจะต้านทานได้นะครับ”
อาร์เทมิส : พูดถึงริงก้า
ความจริงฉันน่าจะไปดูใจท่านนายพลครั้งสุดท้ายนะ
“นั่นสิครับ
มีแต่นายพลเตเวียสเท่านั้นที่สยบโอหังเนโรได้หน่ะ”
อาร์เทมิส : เราจะต้องสานต่อแผนของท่านนายพล
เราจะทำสงครามกับพวกมัน ใครจะสนับสนุนฉันบ้าง // ทุกคนในห้องต่างยกมือร่วมกัน
เพื่อเป็นการสนับสนุนการทำสงครามของเธอ
อาร์เทมิส : เอาหล่ะ
ก่อนอื่น เราควรจะติดต่อกับกลุ่มสมาคมลับที่มอร็อคและเลดี้เนม่านะ
“เห็นด้วยครับ พวกเขาน่าจะช่วยได้
แต่ท่านไม่ขอกำลังจากฟิลล์บอนหน่อยเหรอครับ”
อาร์เทมิส : ไม่มีทางหรอก
พวกเขาคงไม่เข้าร่วมสงครามหรอก ลำพังพื้นดินของพวกเขาก็เป็นอาวุธฉันดีหล่ะ
“ครับ ถ้างั้นผมจะส่งจดหมายไปยังสองคนนั้นนะครับ”
และที่หมู่เกาะแห่งหนึ่งที่ไม่ห่างจากแคว้นบาส์กนัก
เรือของโรสพาแพทและเมดมาถึงเกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งในตอนนั้นเองเธอปลูกบ้านเอาไว้
เพื่อเอาไว้เป็นที่หลบภัยเวลาที่เกิดอะไรขึ้นกับแคว้นของเธอ ซึ่งเธอก็เดาถูกจริงๆถึงได้มาที่นี่
เมื่อพวกเขามาถึงที่นี่ พวกเขาก็ลงจากเรือมาสัมผัสถึงบรรยากาศดีๆริมชายหาดทันที
แพท : ว้าว
ที่นี่สวยจังเลย อยากอยู่ที่นี่นานๆจังเลย
เมด : นั่นสิ
ไม่มีต้องกังวลเรื่องสงครามที่กำลังจะมาถึงเลยนะ
โรส : ทำตัวตามสบายเลยนะ
ฉันมีบ้านอยู่ตรงนั้นหน่ะ
เมด : ยังไงก็ขอบใจเธอมากเลยนะ
ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกเราได้เลยนะ
แพท : ใช่
หรือถ้ามีใครกล้ามาแหยม บอกพวกเราได้นะ // แพทพูดพลางชักปืนของเธอออกมา
โรส : ใจเย็นจ้า
ที่นี่ไม่มีใครทำอะไรเธอหรอก เออนี่ เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปหาพ่อกับแม่ของฉันก่อนนะ // โรสพาทั้งคุ่ไปยังกระท่อมของพ่อและแม่ของเธอ
ซึ่งเขาทั้งคู่ก็กำลังรอเธออยู่พอดี
“อ้าว โรส นึกว่าลูกจะออกมาไม่ทันซะแล้ว”
โรส : หนูไม่เป็นไรหรอกค่ะพ่อ
พ่อคะ นี่เพื่อนหนู เมดกับแพท เขาจะมาอยู่กับหนูค่ะ
“อ้าว มาจากไหนกันหล่ะจ๊ะพวกหนู”
เมด : หนูมาจากเกาะวอลล์พี
ชนเผ่าไทย่าค่ะ
แพท : ส่วนหนูก็มาจากเผ่าเคโมสค่ะ
หนูหลบภัยการค้ามนุษย์ที่นั่นมาค่ะ
“น่าสงสารจังลูก
ยังไงพวกหนูก็อยู่กันซะที่นี่ก่อนได้นะจ๊ะ”
โรส : นี่
พวกเธอหาปลากันได้หรือเปล่า ฉันจะพาออกทะเลหน่ะ
แพท : ได้สิ
อยากหาปลากินอยู่เหมือนกันหน่ะ
กลับมายังเมืองโมโรวิน ที่คฤหาสน์หลังหนึ่ง
ซึ่งพวกของนอร์ดิกใช้เป็นที่หลบภัย ตอนนั้นเองเอลิซ่าก็ให้เสบียงกับกระสุนส่วนหนึ่งให้พวกเขาเพื่อใช้ในการเดินทาง
พวกเขาดูจะต้อนรับนอร์ดิกเป็นอย่างมาก ตกดึก นอร์ดิกมานั่งมองท้องฟ้าริมหน้าต่าง
พลางมองดูฟ้าในยามค่ำคืน แถมนอร์ดิกดันมาคิดถึงซิลเวียร์ หญิงสาวที่เขารักอีก
ไหนจะพ่อของเขา นายพลเตเวียส ยิ่งทำให้เขาอยากจะไปริงก้าใจจะขาด
แต่ระหว่างที่กำลังฝันหวาน มีคนมาเคาะประตูห้องเขา ซึ่งนั่นก็คือเอลิซ่านั้นเอง ซึ่งวันนี้เธอแต่งตัวดูสวยผิดปกติ
เอลิซ่า : หวัดดีจ้านอร์ดิก
แผลหายดีหรือยังจ๊ะ
นอร์ดิก : ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วครับ
ขอบคุณมากนะครับสำหรับทุกอย่าง
เอลิซ่า : ไม่เป็นไรจ้ะ
ว่าแต่ ขอเขาไปคุยด้วยด้านในหน่อยสิ // นอร์ดิกเชิญเอลิซ่าเข้ามาด้านใน
จากนั้นพวกเขาก็เริ่มคุยกันสองต่อสอง
เอลิซ่า : ว่าแต่
เธอจะไปริงก้าทำไมงั้นเหรอ
นอร์ดิก : พ่อของผม
ทิ้งจดหมายฉบับนี้ไว้ให้ ให้ผมไปริงก้าตามคำสั่งเสียของท่าน
เอลิซ่า : พ่อของเธอ
เป็นใครกันเหรอ
นอร์ดิก : พ่อผมชื่อเตเวียสครับ
จดหมายฉบับนี้ ท่านให้ผมเปิดอ่านเมื่อผมไปถึงเมืองครับ
เอลิซ่า : คืนนี้บรรยากาศดีนะ
เธอว่าหรือเปล่า อยากอยู่แบบนี้นานๆจังเลยนะ
แต่ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงคนเคาะประตูอีกครั้ง
คราวนี้เป็นคนของเอลิซ่าที่มาเคาะประตูหาเธอ ทำเอาเธอหัวเสียมากๆ
เอลิซ่า : นี่
มีอะไร ทำไมมาเรียกฉันดึกๆดื่นๆแบบนี้
“แย่แล้วครับ เมืองนาร์โด้ก่อกบฏ ตอนนี้กำลังก่อความวุ่นวาย
บางส่วนกำลังบุกมาคฤหาสน์เราด้วยครับ”
นอร์ดิก : แย่หล่ะ
ไม่ได้การแล้ว ผมจะไปปลุกทุกคนก่อน พวกคุณหลบอยู่ในนี้ก่อนนะครับ
เอลิซ่า : อยู่เฉยๆทำไมหล่ะ
รีบไปเตรียมคนของเรามาสิ
คนในกลุ่มสมาคมลับเตรียมอาวุธพร้อมรับมือกับกลุ่มกบฏที่กำลังจะมาถึง
======================================================================
พวกของนอร์ดิกและกลุ่มสมาคมลับกำลังตกที่นั่งลำบาก พวกเขาจะผ่านค่ำคืนนี้ไปได้หรือไม่ ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยนะครัช
ความคิดเห็น