NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Killer Academy - สถาบันนักฆ่าล่าเดือด (ปิดรับสมัครตัวละคร)

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 3 : ความลับของชาร์ลี

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ค. 66


    “อืม..”

    ในเช้าวันต่อมา ในตอนนี้ตัวของเนชินก็ตื่นขึ้นมาโดยไม่รู้เรื่องอะไรมากนัก รวมถึงปวดหัวนิดหน่อยด้วย และเมื่อเขามองไปในห้อง ก็พบว่าบรรดาเพื่อนๆของเขาในตอนนี้ต่างก็ยังไม่ฟื้นเลย เขาเอะใจเล็กน้อย เขาเลยไปปลุกอุโมจาในทันที อุโมจาเองก็ตื่นขึ้นมาในสภาพงัวเงีย

    “เฮ้ ว่าไง วันนี้ไม่ได้เรียนซะหน่อย??” อุโมจาถามไป

    “เออ เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นอ่ะ??” เนชินถามไป และในตอนนั้น คนอื่นๆก็เริ่มตื่นขึ้นบ้าง และเมื่อทุกคนตื่นขึ้นมาหมดแล้ว ตอนนั้นอัลลันเองก็เดินมาแตะไหล่เนชินในทันที

    “เฮ้ เมื่อคืนโคตรมันส์เลยพวก!!”

    “หือ อะไรกันเหรอ??” เนชินถามไป

    “คือว่า เมื่อคืนนายกับแม่สาวน้อยคนนั้น แบบว่าเต้นรำกัน แล้วก็พากันไปดื่มต่อหน่ะ พวกเราตามหานายแทบแย่ แต่ตอนนั้นโคตรมันส์เลยเนอะ” คริสโตเฟอร์พูดขึ้น

    “เฮ้ย อย่าบอกว่าพวกนายรู้แล้วหล่ะ??” เนชินถามไป

    “เขารู้กันหมดเลยหว่ะ พี่มอร์ตี้ด้วย ฮ่าๆๆๆๆ” คิมยูจินพูดไป

    “เออ แม่สาวน้อยของนายนี่น่ารักดีหว่ะ เนอะ” โจพูดขึ้น ในตอนนั้นเนชินเองก็ตบกบาลเขาไปหนึ่งที

    “เฮ้อ ไม่รู้จะทำอะไรต่อเลยหว่ะวันนี้” ฟิลิปพูดขึ้น

    “เราไปอาบน้ำก่อนดีกว่ามั้ง แล้วค่อยว่ากัน” เขตแดนพูดไป ทุกคนเองก็เห็นตรงกัน พวกเขาเลยพากันเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำกัน และเมื่อทำกิจวัตรของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็พากันออกมาจากห้องพัก และลงไปที่ล็อบบี้ชั้นล่าง แต่ในตอนนั้น พวกเขาก็เจอกับกลุ่มของอินเฟอร์โน่ที่ตื่นมาก่อนและเตรียมจะออกไปข้างนอก อินเฟอร์โน่พากลุ่มของเขาไปเผชิญหน้ากับกลุ่มของเนชินในทันที

    “ว่าไงพวก ได้ข่าวว่าดังใหญ่แล้วนี่??” อินเฟอร์โน่พูดขึ้น

    “ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก เราแค่ปกป้องตัวเองหน่ะ” เนชินตอบไป

    “แล้วพวกนายต้องการอะไรหล่ะ??” โจถามพวกนั้นไป

    “ไม่มีอะไรหรอก พวกฉันแค่อยากมาทักทายเฉยๆ ถึงยังไงเราก็ต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนาน” จอห์นพูดขึ้น

    “อืม ก็ขอบใจพวกนายแล้วกันนะ” อุโมจาพูดไป

    “ก็นะ แต่นายรู้หรือเปล่าว่าเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้หน่ะ??” วาดีนถามกลุ่มของเนชินไป

    “ก็ใช่นะ เว้นแต่จะเตะเสืออีกกลุ่มออกไป” ฟิลิปพูดด้วยท่าทางเอาเรื่อง

    “เฮ้อ พวกเราไม่ได้เหมือนกับไอ้พวกที่นายเพิ่งไปเล่นมาเมื่อคืนหรอกนะ” แม็กซ์พูดขึ้น

    “ใช่ไม่ใช่ยังบอกไม่ได้หว่ะพวก” คิมยูจินบอกไป

    “เอาเถอะ ยังไงก็ยินดีที่ได้รู้จักพวกนายนะ” ลาเกียครูซบอกกับกลุ่มของเนชินไป

    “อืม เหมือนกัน ถ้าอย่างงั้นเราจะรับเอาไว้” เขตแดนตอบไป

    “กะแล้วว่าต้องพูดแบบนี้” เรนาวอสพูดขึ้น

    “แล้วพวกนายจะไปไหนต่อหล่ะ??” คริสโตเฟอร์ถามไป

    “พวกเรากะจะไปลับฝีมือหน่อย เผื่อต้องรับมือเรื่องแบบที่พวกนายต้องเจอ” นากะตะพูดไป ท่ามกลางบรรยากาศที่เริ่มจะกดดันมากขึ้น

    “โอค ถ้าไม่มีธุระอะไรพวกเราก็ขอตัวก่อนนะ” อัลลันรีบพูดตัดบทไป

    “อืม เจอกันอีกทีอาจจะเป็นสถานการณ์อื่นก็ได้” เอ็ดวาร์ดพูดไป

    “ส่วนนาย ฉันเล็งนายอยู่นะเว้ย” อินเฟอร์โน่บอกกับเนชินและเอานิ้วชี้นิ้วกลางเล็งเข้าที่ตาเขาและหันไปใส่เนชินเป็นสัญญาณมือ ก่อนที่พวกนั้นจะรีบเดินออกไปจากหอไปในทันที กลุ่มของเนชินเองก็เดินตามออกไปบ้าง ในระหว่างที่พวกเขากำลังจะเดินไปที่โรงอาหาร ในตอนนั้นพวกเขาก็เจอชายร่างยักษ์กำยำสองคนกำลังรอพวกเขาอยู่ ซึ่งนั่นก็คืออาจารย์เดธกับดู๊ดนั่นเอง

    “เฮ้ เป้นยังไงกันบ้างพวกนาย เมื่อคืนคงสนุกสินะ??” อาจารย์เดธพูดทักทายพวกเขา

    “อ่า อาจารย์เดธ อาจารย์ดู๊ด ใช่หรือเปล่าครับ??” เนชินถามไป

    “ใช่แล้วไอ้น้องชาย พวกนายด้วย ถ้ากินอะไรเสร็จแล้วมาหาฉันที่โรงฝึกด้วยหล่ะ” ดู๊ดบอกไป จากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็รีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้พวกเขาทั้งกลุ่มยืนงงๆแถวนั้น แต่พวกนั้นก็เดินกันต่อไปยังโรงอาหารเพื่อหาอะไรกิน และหลังจากที่พวกเขารับอาหารกันแล้ว ในตอนนั้น พวกเขาก็เจอกับกลุ่มของนานะที่มารอก่อนอยู่แล้ว พวกเธอรีบทักทายกลุ่มของเนชินในทันที

    “เฮ้ ทางนี้!!” กลุ่มของเนชินเองรีบเดินไปหาพวกเธออย่างรวดเร็ว จากนั้นพวกเขาก็ไปนั่งรวมกับพวกเธอที่โต๊ะเดียวกัน

    “เฮ้ ตื่นเช้ากว่าพวกเราอีกนะเนี่ย” เนชินพูดขึ้น

    “ก็พวกเราไม่ได้ดื่มหนักแบบพวกนายนี่หน่า เลยตื่นเช้าได้หน่ะ” นานะพูดไป 

    “เออ แต่จะว่าไป พี่มอร์ตี้แกเมาหนักกว่าเราอีกนะ” เอลซ่าพูดขึ้น

    “เออ นั่นสิ เจ๊แกสุดเหวี่ยงจริงๆ” อัลลันตอบต่อ

    “อืม ว่าแต่พวกนายมีแผนจะทำอะไรต่อหล่ะ??” มาเรียน่าถามไป

    “คือมีอาจารย์สองคนช่วยพวกเราไปเรียนหน่ะ พวกเราเลยจะไปดู” อุโมจาตอบไป

    “อ้อ ต้องเป็นอาจารย์เดธกับดู๊ดแน่ๆ ดูเหมือนเขาจะชอบพวกนายนะ” มาเรียพูดขึ้น

    “ก็หวังว่าจะชอบจริงๆเถอะ” ฟิลิปพูดและตักอะไรเข้าปากไป

    “เอาน่า ฉันว่าอาจารย์สองคนแกก็น่าจะมีดีนะ เห็นพี่มอร์ตี้บอกอยู่” อดาเน็คพูดขึ้น

    “เออ แต่ฉันว่าฉันได้ลางสังหรณ์แปลกๆอ่ะ” เขตแดนพูดขึ้น

    “หือ ลางสังหรณ์เลยเหรอ เชื่อเรื่องนี้ด้วยเหรอ??” คามาคุริถามไป

    “แหม่ ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้นะ” โจตอบไป

    “เอาเถอะ ว่าแต่พวกเธอจะทำอะไรกันต่อหล่ะวันนี้??” คิมยูจินถามไป

    “พวกเรากะว่าจะลับฝีมือเลยหน่ะ” สเตลล่าบอกไป

    “เอาไว้ถ้าเลิกฝึกกันแล้วเรามาเจอกันหน่อยดีมั้ยหล่ะ??” คริสโตเฟอร์ถามไป

    “ที่นี่มีห้างให้เที่ยวที่ไหนหล่ะ แต่เอาเถอะ เอาไว้มาเจอกันก็ได้” เมอร์ลิน่าตอบไป และในตอนนั้น ตัวของเอลซ่าเองก็เอาผงพิเศษอะไรบางอย่างใส่อาหารให้กลุ่มเด็กผู้ชายกินต่อ

     

    และที่ห้องพยาบาลของโรงเรียน ในตอนนี้ตัวของไฮน์ริชและทีมของเขาถูกพามารักษาที่ด้านใน ถึงแม้ว่าคนอื่นๆจะไม่เป็นอะไรมาก แต่ไฮน์ริชที่เจ็บทั้งตัวและใจก็ได้แต่นอนเจ็บใจบนเตียง ในขณะที่ริคกี้กับมินโฮที่อยู่แถวนั้นก็ได้แต่ดูเขา

    “เออ มินโฮ หมอนั่นจะเป็นไรมั้ยอ่ะ??” ริคกี้กระซิบถามมินโฮไป

    “ไม่หนักหรอก ไม่กี่วันคงลุกขึ้นได้” มินโฮบอกไป ก่อนที่ในตอนนั้น ไฮน์ริชจะตะโกนออกมาลั่นห้องพยาบาล ทำเอาทั้งริคกี้และมินโฮถึงกับตกใจ

    “ระยำเอ้ย กูจะฆ่าพวกมึง โดยเฉพาะไอ้มืดนั่น ไอ้ระยำเอ้ย!!” ไฮน์ริชตะโกนออกมา ทำเอาคนทั้งโรงพยาบาลถึงกับสะดุ้ง แต่พวกเขาไม่กล้าพูดอะไรกับพวกนั้น เพราะทั้งไฮน์ริชและริคกี้เป็นผู้คุมกฎ

    “เอาน่า ยังไม่ตายก็ไปแก้แค้นพวกมันได้” ริคกี้พูดไป

    “นายไม่รู้อะไรอย่าพูดดีกว่า มันหนักหน้าฉัน หักหน้าฉัน!!” ไฮน์ริชตะโกนออกมา และในตอนนั้นเอง นาตาลีที่เป็นครูพยาบาลก็เดินเข้ามาหาพวกเขา และต่อว่าพวกเขาชุดใหญ่

    “นี่ ออกไปข้างนอกถ้าจะมาบ่นอะไรแบบนี้ รำคาญคนอื่นเขา แล้วก็พรุ่งนี้นายก็หายแล้ว คนอื่นเขาจะใช้เตียงต่อ” นาตาลีพูดจบก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว 

    “ขอโทษด้วยนะ” มินโฮพูดไล่หลังไป

    “เฮ้อ แล้วนี่เราจะเอายังไงต่อหล่ะ??” ริคกี้ถามไป

    “ถ้าฉันเจอหน้าพวกมัน ฉันจะเล่นพวกมันให้ยับเลย” ไฮน์ริชพูดขึ้น

    “ใจเย็น ตอนนี้พวกมันมีโควต้าทำผิดอยู่ 10 ครั้ง หมายความว่ามันจะสามารถทำผิดอะไรก็ได้ 10 ครั้งโดยไม่โดนลงโทษนะ” มินโฮพูดขึ้น

    “เอาเถอะ แต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องติดคุกหล่ะนะ” ริคกี้พูดปลอบเพื่อนของเขาไป

     

    ณ บริเวณทางเดินโรงเรียน ซึ่งบรรดาเหล่านักเรียนมากมายต่างพากันเดินไปเดินมา และเมื่อพวกนักเรียนเห็นผู้คุมกฎ พวกเด็กๆต้องก้มหัวให้พวกเขาเล็กน้อย และในตอนนั้นเอง พวกเขาก็เห็นมอร์ตี้กำลังเดินมาทางพวกเขา มอร์ตี้เห็นกลุ่มผู้คุมกฎพวกนั้นก็เดินไปหาในทันที

    “เฮ้ ว่าไงทุกคน??”

    “มอร์ตี้ คิดถึงจังเลย เป็นยังไงบ้าง??” อารีแอคเน่ถามมอร์ตี้ไป

    “อ้อ ฉันสบายดีสิ สบายอยู่แล้ว” มอร์ตี้บอกไป

    “ก็ต้องสบายอยู่แล้วหล่ะ ได้ยินว่าเธอได้ยกเว้นความผิดตั้ง 10 ครั้งเลยนี่” ออร์ฟิอุสพูดขึ้น

    “เฮ้อ แบบนี้อาจจะไม่ต้องไปอยู่ในคุกซักพักหล่ะนะ” เอาส์ติสพูดขึ้น

    “ถ้าอย่างงั้น ฉันฝากเธอไปกระทืบไอไฮน์ริชอีกซักทีก็ดี” ซองชวาจินพูดขึ้น ก่อนที่ในตอนนั้นเอง ตัวของนาตาลีก็เดินผ่านมาพอดี เธอเลยไปคุยกับทุกคน

    “อ้าว พวกเธอ จะไปไหนกันอ่ะ??”

    “คุณนาตาลี พวกเรากำลังไปเดินเล่นแถวนี้หน่ะค่ะ” โทโมเอะถามไป

    “เออ ว่าแต่พวกนั้นเป็นยังไงบ้างคะ??” มอร์ตี้ถามนาตาลีไป

    “อ้อ ตอนนี้ริคกี้กับมินโฮไม่เป็นไรแล้ว แต่ไฮน์ริชมันดิ้นเป็นเจ้าเข้าเลย” นาตาลีตอบไป

    “เฮ้อ น่าเศร้าจังเลยนะคะ” ลิลิธพูดและหันไปทางโทโมเอะ โทโมเอะก็พยักหน้าตาม

    “สมน้ำหน้าแม่ง” ซองชวาจินสบถออกมา

    “เฮ้อ เสียดายที่มันไม่นอนโรงบาลนานๆกว่านี้นะ” เอาส์ติสพูดขึ้น

    “อย่าเลย แค่นี้ฉันก็ปวดหัวจะตายอยู่แล้ว เอาไว้เดี๋ยวเจอกันนะ ฉันต้องไปรับยาชุดใหม่หน่ะ” นาตาลีพูดจบก็เดินออกไปในทันที 

    “ฉันว่าหลังจากนี้ มันต้องทำอะไรบางอย่างแน่ๆ” มอร์ตี้พูดขึ้น

    “หมายถึงพวกไฮน์ริชเหรอ??” โทโมเอะถามไป

    “ฉันว่าเป็นไปได้ ไปหักหน้าไฮน์ริชซะขนาดนั้นหน่ะ” ออร์ฟิอุสพูดขึ้น

    “นั่นดิ แถวมันยังมีไอ้แก่คาร์ลหนุนหลังด้วย มันจะกร่างยังไงก็ได้” อารีแอคเน่พูดไป

    “ฉันว่า พวกนั้นคงโดนเล่นงานแน่ๆ” ลิลิธพูดอย่างเป็นกังวล

    “ฉันจะคอยดูพวกเด็กใหม่นั่นเอง ส่วนพวกนาย ถ้าเกิดว่าไอ้ไฮน์ริชมันออกมาแล้วมีอะไรแปลกๆ ช่วยบอกฉันด้วยหล่ะ” มอร์ตี้บอกไป

    “โอเค ครั้งนี้ฉันจะยอมทำงานกับเธอก็ได้” ซองชวาจินบอกไป

    “อืม ฉันเองก็ไม่ไว้ใจมันหรอก” เอาส์ติสพูดขึ้น

    “เธอเองก็ช่วยดูพวกนั้นหน่อยแล้วกัน” ลิลิธบอกกับมอร์ตี้ไป

    “แต่ถ้าอาจารย์คาร์ลยังอยู่ เราอาจจะทำอะไรลำบาก” ออร์ฟิอุสพูดขึ้น

    “เออ จะว่าไป พวกนายได้ยินที่เขาคุยกันเรื่องคุณเฮนรี่ที่โดนฆาตกรรมหรือเปล่า??” อารีแอคเน่ถามไป

    “แอบได้ยินมาเหมือนกันนะ แต่ไม่เป็นไร เอาไว้มาหาเวลาคุยกันต่อแล้วกัน” โทโมเอะบอกไป

     

    กลับมายังที่พักของกลุ่มสังหารและเก็บกวาด ในตอนนั้นพวกเขาก็มานั่งคุยกันถึงเรื่องนั่นนี่ที่เกิดขึ้นไปด้วย

    “เออ พวกนาย ตอนนี้มินโฮเป็นยังไงบ้างหล่ะ??” เบลลาทริกซ์ถามทุกคนไป

    “เมื่อเช้าฉันไปดูมาแล้ว ตอนนี้เขากับริคกี้ไม่เป็นไร แต่ไฮน์ริชน่าจะหนักเลย” ฮิลด้าตอบไป

    “ก็นะ เจ็บตัวไม่เท่าไหร่ แต่เจ็บใจนี่สิ” โรแลนด์พูดขึ้น

    “ก็นะ ถ้าฉันเป็นหมอนั่นก็งทำใจไม่ได้เหมือนกัน” ลุดวิกพูดขึ้น

    “ฉันว่าพวกเด็กใหม่นี่ก็ร้ายเหมือนกันนะ” มาทิลด้าพูดขึ้น

    “ใช่ แต่ฉันว่ายัยมอร์ตี้นั่นอันตรายสุด เล่นมินโฮซะจั๋งหนับเลย เนอะ??” บาลอร์พูดและสะกิดเว่ยเฟยหลงไป

    “นายไม่รู้เหรอ มินโฮสู้ได้ไม่เต็มที่ ก็เพราะห่วงหน้าพะวงหลังหน่ะ??” เว่ยเฟยหลงถามกลับไป

    “แต่ก็นะ ถึงยังไงยัยนั่นก็อันตรายอยู่ดี” เบลลาทริกซ์พูดขึ้น

    “เอาเถอะ อย่าให้มันมามีปัญหากับเราแล้วกัน” ลุดวิกพูดขึ้น

    “ฉันว่าพวกเด็กใหม่คงไม่ทำแบบนั้นหรอก” มาทิลด้าพูดขึ้น

    “ไม่รู้ว่าหลังจากนี้มินดฮจะเฉียบขาดเหมือนเดิมหรือเปล่านะ??” เว่ยเฟยหลงพูดขึ้น

    “เอาน่า ยังไงก็ต้องให้โอกาสกันหน่อยสิ” บาลอร์บอกเขาไป

    “เฮ้อ หวังว่าเขาจะกลับมาไวๆนะ” ฮิลด้าพูดขึ้น

    “เอาน่า หมอนั่นยังไม่ตายซะหน่อย” โรแลนด์พูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก มินดฮก็จะเข้ามาในห้องพร้อมกับเจอทุกคนจริงๆ ในตอนนั้นทุกคนก็ไปทักทายมินโฮในทันที

    “เฮ้ เป็นยังไงบ้างนายอ่ะ??” โรแลนด์ถามไป

    “เออ ไม่เป็นไรแล้วหล่ะ ฉันขอไปพักหน่อยแล้วกัน” มินโฮพูดจบก็รีบเดินผ่านไปในทันที

    “เอ๊ะ เป็นอะไรไปวะ??” ลุดวิกถามไป

    “เอาน่า ให้หมอนั่นได้พักเถอะ” ฮิลด้าบอกไป

    “เออ ฉันขอไปเดินเล่นข้างนอกหน่อยแล้วกัน” บาลอว์พูดจบก็เดินออกไปพร้อมกับยิ้มกริ้มตลอดทาง

    “เออ ฉันไปหาไรกินก่อนแล้วกัน” เว่ยเฟยหลงบอกกับคนอื่นๆไป

    “ฉันไปดูหมอนั่นเอง” มาทิลด้าพูดขึ้น

    “อืม ฝากด้วยแล้วกัน” เบลลาทริกซ์ตอบไป

     

    ณ ห้องผู้บริหาร ซึ่งตัวของเอ็ดมันด์กำลังนั่งทำงานอยู่บนโต๊ะ โดยที่โกเมซเองก้ทำอาหารมาเสิร์ฟให้กับเขา ส่วนตัวของซินเองก็ทำความสะอาดช่วยด้วย

    “หอมน่ากินจริงๆเลย” เอ็ดมันด์พูดขึ้น

    “ครับ ผมลองปรับสูตรใหม่ดู น่าจะถูกปากคุณนะครับ” โกเมซพูดขึ้น และในตอนนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ในตอนนั้นซินจะเดินไปเปิด แต่เขาก็ดันประตูเข้ามาจนได้และเกือบโดนซิน แต่ซินกระโดดหลบและใช้มือกันเอาไว้

    “คุณคาร์ล” ซินพูดขึ้น

    “อ้าว คุณจะมาเปิดประตูให้ผมเหรอ ผมขอโทษด้วย” คาร์ลพูดจบก็เดินไปนั่งที่นั่งตรงข้ามกับเอ็ดมันด์ในทันที

    “ท่านครับ ผมอยากจะบอกให้ท่านพิจารณาเรื่องโทษของเด็กพวกนั้นอีกรอบครับ”

    “คุณคาร์ลครับ เราก็คุยไปแล้วนี่ครับ ผมให้คำไปแล้ว จะกลับได้ยังไง??” เอ็ดมันด์ถามไป

    “กลับก็กลับไปสิครับ เราเป็นคนคุมกฎนี่ครับ??” คาร์ลถามไป

    “นี่ คุณคาร์ล คนเสียหน้าไม่ใช่คุณ แต่เป็นผมหน่ะสิ ทุกวันนี้คนก็แทบจะไม่เคารพผมกันแล้ว คุณรู้หรือเปล่า??” เอ็ดมันด์ถามไป

    “ใครหน้าไหนมันไม่เคารพ เราก็จับพวกมันขังสิครับ” คาร์ลบอกไป

    “ผมว่า มันจะเสียมากกว่าได้หน่ะสิคร้าบ จำตอนที่ชาร์ลียังอยู่ที่นี่ไม่ได้เหรอคร้าบ??” โกเมซที่อยู่ในห้องพูดไป คาร์ลเองหันขวับไปทางเขาอย่างรวดเร็ว

    “นี่คุณว่าไงนะ??” 

    “ผมพูดจริงนี่ครับ ถ้าเกิดพวกนักเรียนรวมตัวกันก่อความวุ่นวายขึ้นมา ไม่พังกันหมดเหรอครับ แล้วคุณคิดว่าจะคุมอยู่เหรอครับ ครูใหญ่??” โกเมซถามไป

    “ผมเห็นด้วย เรื่องนี้มันใหญ่กว่าที่คุณคิดไว้นัก ผมว่าคุณกลับไปดีกว่า” เอ็ดมันด์บอกไป ก่อนที่ตัวของคาร์ลจะเดินออกจากห้องไปอย่างหัวเสีย

    “เออ ผมขอพูดอะไรหน่อยได้หรือเปล่าครับ ผมว่าช่วงนี้ครูใหญ่แกดูแปลกๆนะครับ??” โกเมซถามไป

    “อืม ก็พอเข้าใจได้ ศิษย์รักโดนขนาดนั้น แต่เอาเถอะ ซิน ฉันฝากเสื้อผ้าไปซักด้วยนะ” 

    “รับทราบค่ะ” ซินตอบไป

     

    ณ ห้องฝึกซ้อมมือสำหรับอาจารย์ ในตอนนั้นอาจารย์บางส่วนก็ฝีกฝนตามปกติแบบที่เคยฝึก หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็มานั่งคุยกันเพื่อพักเหนื่อย

    “โว้ะ เรียกเหงื่อได้ดีเลย” เชเพิร์ดพูดขึ้น

    “นั่นสิ โคตรชอบเลยแหะ” อิซาเบลล่าพูดขึ้น และในขณะเดียวกัน โอเด็ตก็เดินเข้ามาในโรงฝึกด้วย เธอเดินเข้ามาหาคนอื่นๆอย่างรวดเร็ว

    “อ้าว โอเด็ต ว่าไงหล่ะ??” เก็นโซถามไป

    “อ้อ ไม่มีอะไรหรอก อาจารย์คาร์ลเอาอีกแล้วเมื่อเช้า” โอเด็ตพูดไป

    “เฮ้อ อีกหล่ะ คราวนี้เรื่องอะไรอีกหล่ะ??” เชเพิร์ดถามไป

    “เขาจะไปบอกให้คุณเอ็ดมันด์ยกเลิกที่ละเว้นกฎให้พวกเด็กใหม่หน่ะ” โอเด็ตพูดไป

    “เฮ้อ ตกลงใครบริหารโรงเรียนนี้กันแน่นะ??” เก็นโซถามไป

    “เอาเถอะ ว่าแต่เดธกับดู๊ดไปไหนหล่ะ??” อิซาเบลล่าถามไป

    “อ้อ เห็นไปที่โรงอาหารเมื่อเช้าหน่ะ จะว่าไป เมื่อเช้าเห็นาตาลีเล่าให้ฟังว่า ไฮน์ริชดิ้นพล่านทั้งเช้าเลย” โอเด็ตตอบไป

    “เฮ้อ อยากเห็นจริงๆเลย” เก็นโซพูดขึ้น

    “เอาจริงๆก็สมน้ำหน้าเหมือนกัน เหมือนหล่อไอ้เวร” เชเพิร์ดพูดขึ้น

    “ก็นะ ยังไงก็รอดูกันต่อแล้วกัน” อิซาเบลล่าตอบไป ก่อนที่ตัวของเธอจะหยิบปืนขึ้นมาและยิงซ้อมมือต่อ

     

    ทางด้านของนักเรียนคนอื่นๆ หลังจากที่พวกเขาทานอาหารเช้ากันเสรฦจเรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้พวกเขาก็แยกกันไปฝึกตามวิชาที่พวกเขาถนัด เริ่มจากกลุ่มของอินเฟอร์โน่ อินเฟอร์โน่เรียนรู้การผสมเชื้อเพลิงเพื่อนำมาใช้กับระเบิดเพลิงของเขา 

    “อืม ต้องผสมนี่สินะ” อินเฟอร์โน่พูดขึ้น

    “เอาหล่ะ ไหนลองดูสิ??” คนสอนอินเฟอร์โน่พูดขึ้น ในตอนนั้นอินเฟอร์โน่ก็ลองปาระเบิดเพลิงดู ดูเหมือนว่ามันยังไม่ได้ผลตามที่เขาคิดไว้นัก

    “บ้าเอ้ย คงต้องเพิ่มอะไรนิดหน่อยหล่ะ!!” อินเฟอร์โน่โวยวายออกมา 

    “เอาน่า ใจเย็น เดี๋ยวก็ดีเองหล่ะ”

    “เออ ผมรู้แล้วน่า!!” อินเฟอร์โน่ตอบกลับไป

     

    ทางด้านของจอห์น ในตอนนั้นตัวของจอห์นลองฝึกฝีมือตัวเองโดยการให้วาดีน แม็กซ์และนากะตะเข้ามาซ้อมมือกับเขา ทั้งสามคนเข้ามาล้อมตัวของจอห์นเอาไว้ จากนั้นพวกนั้นก็บุกเข้าหาจอห์นในทันที

    “ย้าก!!”

    พวกนั้นรุมกันต่อยและเตะจอห์น แต่ตัวของจอห์นเองก็สกัดเอาไว้ได้ จากนั้นเขาก็ต่อยและเตะพวกนั้นกลับไปจนกระเด็นไปคนละทาง

    “ตุ๊บ!!”

    “โอ๊ย บ้าเอ้ย!!”

    “เฮ้อ เยี่ยมเลย!!” จอห์นตะโกนออกมา และในตอนนั้น ทั้งสามคนก็ลุกขึ้นมาและเดินมาหาต่อ

    “เฮ้อ โคตรเก่งเลยหว่ะนาย” วาดีนพูดขึ้น

    “เอาน่า ถ้านายฝึกเยอะกว่านี้อาจจะชนะฉันก็ได้” จอห์นพูดไป

    “เออ แล้วคนอื่นๆจะฝึกอะไรกันต่อหล่ะ??” นากะตะถามต่อ

    “ฉันก็ไม่รู้ แต่เอาเถอะ ยังไงก็ต้องลองดูกันก่อน” จอห์นตอบไป 

    “แล้วนายจะเอายังไงต่อหล่ะ??” แม็กซ์ถามต่อ

    “ไม่รู้สิ อย่าเพิ่งไปคิดถึงอนาคตดีกว่า มาต่อเลย” จอห์นบอกกับทั้งสามคน ทั้งสามคนเองก็ถึงกับปวดหัวเพราะไม่อยากจะสู้อะไรแล้ว

     

    ทางด้านของลาเกียครูซ ในตอนนั้นตัวของเขาก็ไปที่ห้องดัดแปลงอาวุธเพื่อทดลองทำอาวุธตามความถนัดของเขา และเมื่อเห็นอุปกรณ์ปืนมากมาย เขาเลยลองเอาอุปกรณ์พวกนั้นมาทดลองกับสไนเปอร์ไรเฟิลของเขา

    “โอเค ปรับระยะเพิ่มหน่อยดีกว่า” ลาเกียครูซพูดขึ้นจากนั้นก็ลองถอดปืนมาใส่นั่นใส่นี่เล็กน้อย

    “เออ จะเวิร์คหรือเปล่าวะ??” ลาเกียครูซทำเองก็ยังงงเอง และเมื่อทดลองแล้ว เขาก็ลองเล็งไปที่เป้าแล้วพยายามจะยิง แต่ดูเหมือนว่ามันยังยิงไม่ออก

    “แชะ!!”

    “เฮ้อ ลองใหม่ก็ได้วะ” ลาเกียครูซพูดไป

     

    ทางด้านของเรนาวอส ในตอนนั้นเรนาวอสเองทำการฝึกวิ่งรวมถึงวิธีการจู่โจมแบบสายฟ้าแล่บ โดยที่ตอนนั้นเอ็ดวาร์ดเองก็ช่วยจับเวลาให้ เรนาวอสวิ่งไปและจัดการกับเป้าหมายไปเรื่อยๆทั้งวิธียิงและใช้มีดเล่นระยะประชิด และไม่นานนัก ตัวของเขาก็วิ่งมาถึงเอ็ดวาร์ด จากนั้นเอ็ดวาร์ดก็กดนาฬิกาจับเวลา

    “แชะ!!”

    “1 นาที 3 วินาที” เอ็ดวาร์ดบอกกับเรนาวอส

    “เฮ้อ มือตกไปนิดแหะ” เรนาวอสพูดขึ้น

    “เฮ้ ยังมือตกอีกเหรอ??” เอ็ดวาร์ดถามไป

    “ฉันเคยทำได้ 52 วินาทีหน่ะ” เรนาวอสตอบไป

    “เอ้า ถ้างั้นก็ลองอีกทีแล้วกัน” เอ็ดวาร์ดพูดขึ้น

    “แล้วนี่นายจะไม่ลองซ้อมหน่อยเหรอ??” เรนาวอสถามเขาไป

    “เฮ้อ ฉันมีวิธีชองฉันน่า” เอ็ดวาร์ดตอบเขาไป

     

    ทางด้านของโครี่ ในวันนี้ตัวของโครี่ได้ทำการฝึกยิงปืนกับเอเลนอร์ รวมถึงมีนักเรียนคนอื่นๆด้วย ในตอนนั้นโครี่เองก็ยิงได้เข้าเป้าแทบจะทุกนัด ไม่ว่าจะเป็นปืนพกหรือปืนไรเฟิลแบบต่างๆ และไม่นานนักเธอก็มาพักกันต่อ

    “ยิงได้ดีมากเลยนี่” เอเลนอร์พูดขึ้น

    “ก็นิดหน่อยหน่ะ ความจริงฉันคงต้องฝึกหนักกว่านี้หน่ะ” โครี่ตอบไป

    “เฮ้อ อยากลองยิงคนจริงๆมั้งจัง” เอเลนอร์พูดขึ้น

    “เอาน่า เรียบจบแล้วค่อยไปยิงแล้วกัน” โครี่บอกไป

    “อ่ะนะ จะให้ฉันรอเท่าไหร่ก็เอาเลย” เอเลนอร์พูดจบในตอนนั้นก็หยิบปืนพกขึ้นมายิงต่อ

    “ฉันอยากออกไปข้างนอกบ้างจัง” โครี่บ่นกับเอเลนอร์ด้วย

     

    ทางด้านของแมรี่ ตัวของแมรี่เองเดินเข้าไปที่ห้องสารสนเทศของโรงเรียน พร้อมกันนั้นก็เอาโน๊ตบุ๊คของเธอไปด้วยเพื่อเขียนโปรแกรมอะไรบางอย่าง

    “อืม ไม่มีใครเห็นสินะ” แมรี่พูดขึ้นและมองซ้ายมองขวาไป ก่อนที่ไม่นานนัก เธอจะทดลองอะไรบางอย่าง ซึ่งนั่นก็คือการเชื่อมต่อระบบออกไปที่โลกภายนอก

    “ไหนลองดูสิ??” แมรี่พูดขึ้น แต่ในตอนนั้น ตัวของเธอก็พบกับระบบเครือข่ายที่โยงกันจนเละเทะไปหมด

    “โห งานนี้สงสัยคงต้องใช้เวลานานเลยแหะ” แมรี่พูดขึ้น จากนั้นเธอก็กดคอมของเธอไปเรื่อยๆ

     

    ที่โรงฝึกสำหรับการต่อสู้ระยะประชิด ซึ่งมีนักเรียนมากมายไปทดสอบฝีมือกับหุ่นทดลอง ด้านหนึ่งคือหลิวซิงหยิน เธอหยิบเอาร่มที่ติดใบมีดของเธอและควงมันไปมา ในขณะที่หุ่นฝึก AI ก็พยายามจะมาล้อมตัวเธอ

    “เข้ามาเลย!!” หลิวตะโกนออกมา จากนั้นเธอก็ควงร่มฟาดใส่หุ่นรบไปเรื่อยๆ หุ่นตัวหนึ่งเข้ามาใกล้เธอ เธอก็กางร่มและดันมันออกไป

    “พรึ่บ!!”

    “ใช้ได้นี่หว่า” หลิวพูดขึ้น ก่อนที่ตัวของเธอจะโชว์ลีลาควงนั่นควงนี่ต่อ และไม่นานนัก เธอก็ฟาดฟันหุ่นพวกนั้นจนพวกมันถึงกับล้มลงหมด

    “เยี่ยมเลย!!” หลิวตะโกนออกมา แต่ในตอนนั้น เธอก็เดินไปดูหุ่นตัวหนึ่งที่ล้มลง ซึ่งตอนนี้มันถูกปรับระดับอยู่ที่แค่ง่ายสุดเท่านั้น

    “โห อะไรกันวะเนี่ย??” หลิวสบถออกมา

     

    ทางด้านของคามิลล่า คามิลล่าเองก็ฝึกการต่อสู้ระยะประชิดทุกรูปแบบ เธอทั้งเตะและต่อยหุ่นฝึกพวกนั้นอย่างดุเดือด แต่คราวนี้มีหุ่นถึง 5 ตัวเข้ามาล้อมเธอ แต่เธอก็ไม่หวั่น

    “มาเลย!!” คามิลล่าตะโกนออกมา จากนั้นเธอก็เตะมันไปทีละตัวจนล้ม มันตัวหนึ่งจับขาเธอ แต่เธอก็ใช้อีกขาหนึ่งกระโดดเตะหน้ามัน

    “ตุ๊บ!!”

    “ใช้ได้นี่หว่า” คามิลล่าพูดขึ้น จากนั้นตัวของเธอก็ค่อยๆไล่ต่อยและเตะมันไปเรื่อยๆ จนในตอนนี้หุ่นซ้อมของเธอก็ล้มลงไปทีละตัว

    “เฮ้อ มีดีแค่นี้เองเหรอ??” คามิลล่าสบถออกมา

     

    และอีกด้านหนึ่ง ในตอนนี้ซาชินและริวโซเองก็ได้ประลองมีดกัน โดยที่ซาชินใช้มีดประจำตัวของเธอ ส่วนริวโซก็ใช้มีดทำครัวธรรมดา โดยมีคนรอบๆช่วยเป็นกรรมการด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้มีการบาดเจ็บ

    “ย้าก!!”

    ริวโซจ้วงมีดเข้าใส่ซาชิน แต่ในตอนนั้นซาชินกันเอาไว้ได้และจ้วงแทงกลับไป ทำเอาริวโซต้องกระโดดกลับมาอย่างรวดเร็ว

    “เฮ้ ใช้ได้นี่” ริวโซพูดขึ้น

    “แน่นอน จะใช้ได้กว่านี้อีก” ซาชินตอบไป จากนั้นพวกเธอก็คุมเชิงกันต่อซักพัก ไม่นานนักก็เข้าฟัดกันต่อ 

    “ย้าก!!” ซาชินจ้วงเข้าใส่ริวโซ แต่ริวโซเองก็จับแขนเธอไว้และแทงกลับ แต่ซาชินเองก็จับมือของริวโซไว้ได้เหมือนกัน

    “ย้าก!!” ทั้งคู่ถีบใส่กันจนกระเด็นออกไปทั้งคู่

    “เฮ้อ เป็นลูกมือที่ดีนี่” ริวโซพูดขึ้น

    “พูดอะไรหล่ะ ฉันไม่ใช่ลูกมือใครหรอก” ซาชินบอกไป

    “หวังว่าเราจะสู้กันได้อีกเยอะๆนะ” ริวโซพูดขึ้น

    “ได้เลย แล้วฉันจะรอ” ซาชินตอบไป

     

    และอีกด้านหนึ่ง ในตอนนั้นตัวของฮอร์ตุสก็กำลังฝึกฝนเรื่องการลอบเร้น ฮอร์ตุสค่อยๆย่องผ่านเครื่องเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว จากนั้นเธอก็ค่อยๆลองปิดเครื่องไปทีละเครื่อง

    “คลิ๊ก!!”

    “โอเค เหลืออีกสอง” เธอคิดในใจ จากนั้นก็ค่อยๆย่องไปตามจุดต่างๆต่อ แต่เมื่อเธอมาถึงจุดหนึ่ง มันมีเครื่องตรวจจับสัญญาณติดไว้เต็มไปหมด เธอเห็นตอนแรกก็ถึงกับอึ้ง

    “อะไรกันวะเนี่ย??” ฮอร์ตุสสบถออกมา จากนั้นเธอก็ทดลองปลดชนวนเครื่องไปทีละเครื่องอย่างเบามือ แต่ในตอนนั้น ตัวของเธอก็เผลอไปโดนอีกเครื่อง ทำเอาสัญญาณเตือนดัง

    “หวอ!!”

    “บ้าเอ้ย” ฮอร์ตุสสบถออกมาเล็กน้อย เพราะเธอต้องกลับไปเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น

     

    และที่ห้องทดลองวิทยาศาสตร์ของโรงเรียน ห้องนี้เป็นห้องทดลองสำหรับสร้างยาชนิดต่างๆ รวมถึงการปลอมตัวในรูปแบบต่างๆด้วย ซึ่งห้องนี้อยู่ภายใต้การดูแลของอาจารย์และผู้คุม เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องอันตรายมาก ในห้องนี้แคทเทอรีนได้เรียนการแต่งหน้าปกปิดตัวเอง ส่วนโรสเองก็ทำสารพิษชนิดใหม่

    “อืม แบบนี้พอได้นะ” แคทเทอรีนที่เพิ่งจะแต่งหน้าปลอมตัวก็รีบลุกขึ้นและเดินไปที่เครื่องตรวจสแกนหน้าระดับสูง ซึ่งมันสามารถมองได้ว่าใบหน้ามีการปลอมแปลงหรือเปล่า เธอลองเอาหน้าไปแนบกับเครื่องนั้นอย่างรวดเร็ว

    “ติ๊ด!!”

    “กำลังประมวลผล..”

    “คำเตือน ยังมีความผิดพลาด 10 เปอร์เซนต์” เจ้าเครื่องนั้นขึ้นเตือนแคทเทอรีนไป

    “เฮ้อ อีกแล้วเหรอ??” แคทเทอรีนเดินกลับไปที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งเพื่อไปเติมนั่นเติมนี่เพิ่มในทันที

    “หวังว่าจะได้นะ” แคทเทอรีนพูดไป และทางด้านของโรส ในตอนนั้นตัวของโรสเองก็ผสมสารนั่นสารนี่ตามที่เธอได้เรียนมา เธอทดลองเอาสารพิษที่โรงเรียนมาผสมด้วย

    “มีที่ไหนทดลองมั้ยน่า??” โรสพูดขึ้น และไม่นานนัก ตัวของเธอก็พบว่ากล่องใบหนึ่ง ซึ่งในนั้นมีหนูทดลองอยู่มากมาย เธอลองเอายานั้นหย่อนลงไปในกล่องอย่างรวดเร็ว 

    “ไหนดูสิ??” โรสเองมองที่กล่องเพื่อดูผลการทดลอง ไม่นานนักหนูในกล่องก็ทยอยตายไปเรื่อย ไม่นานนักพวกมันก็ตายกันหมดกล่อง

    “อืม คงต้องเพิ่มยาอีกหน่อยแล้วหล่ะ” โรสพูดขึ้น

     

    ณ ห้องฝึกซ้อมที่ไหนซักแห่ง ซึ่งห้องนี้เป็นห้องที่เดธและดู๊ดกำลังเตรียมพร้อมเอาไว้เพื่อฝึกซ้อมนักเรียน ในตอนนั้นกลุ่มของเนชินก็เข้ามาในห้องฝึกนั้น และเมื่อพวกเขาเข้ามา อาจารย์ทั้งสองก็เดินเข้ามาหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว

    “เฮ้ ว่าไงพวกเด็กระยำทั้งหลาย ขอต้อนรับสู่ห้องที่จะช่วยให้พวกนายเป็นลูกผู้ชาย” ดู๊ดพูดขึ้น

    “เออ นี่พวกเราต้องฝึกอะไรบ้างครับเนี่ย??” เนชินถามอย่างสงสัย

    “เดี๋ยวพวกนายก็รู้เอง” อาจารย์เดธพูดขึ้น 

    การฝึกของกลุ่มเนชินเป็นไปอย่างยากลำบาก ทั้งอาจารย์เดธและดู๊ดได้ฝึกฝนทั้งการต่อสู้ระยะประชิด การฟิตร่างกายเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง ยกน้ำหนัก ปีนป่าย ไปทางนั้นไปทางนี้ทุกสถานการณ์ กลุ่มของเนชินตอนนี้เหนื่อยแทยจะสาหัส แม้แต่อุโมจาที่เคยผ่านการฝึกเรื่องแบบนี้มาก่อนยังถึงกับเหนื่อยหอบ พวกเขาฝึกฝนกันแบบนี้ทั้งวัน และพอถึงเวลา 4 โมงเย็น การฝึกก็จบลง แต่ในตอนนั้นทุกคนแม้กระทั่งอุโมจาก็ถึงกับลงไปนอนหอบกับพื้น

    “แม่งเอ้ย กูอยากตาย!!” ฟิลิปตะโกนออกมาพร้อมกับนอนแผ่ตัวเองบนพื้น

    “เฮ้ย ไอ้น้องชาย ถ้านายไม่ฝึก เจอของจริงนายได้ตายจริงๆแน่ๆ” อาจารย์เดธตอบไป

    “เออ แล้วเราต้องฝึกแบบนี้ตลอดเลยเหรอจารย์??” อัลลันที่นอนหอบด้านหนึ่งถามต่อ

    “ก็ประมาณนั้น แต่เดี๋ยวฉันจะพาไปฝึกเรื่องความถนักดของพวกนายด้วย” อาจารย์เดธตอบไป แต่ในตอนนั้น ตัวของเนชินเองก็แทบนิ่งไม่ไหวติงอะไร โจตอนนั้นเลยสะกิดเขา

    “เฮ้ย เนชิน ยังอยู่หรือเปล่า??”

    “เอาน่า อย่าไปกวนหมอนั่นเลย” คิมยูจินตอบไป

    “เฮ้ย พูดตรงๆนะ พวกแกทุกคนมันมีแววหว่ะ ไม่แปลกใจที่สู้กับพวกไอ้ไฮนืริชมันได้” เดธพูดขึ้น

    “เอาน่าจารย์ ถ้าไม่สู้ก็โดนมันหยามแบบนั้นตลอดดิ” คริสโตเฟอร์ตอบไป

    “แน่นอนเด็กๆ พวกแกยังต้องเรียนรู้การรับมือคนด้วย แต่ไม่ต้องห่วง ถ้าอยู่กับพวกฉันพวกแกไม่ตายหรอก” ดู๊ดตอบไป

    “ตั้งแต่ที่ฝึกมา ยังไม่เคยเจอหนักขนาดนี้เลย” อุโมจาพูดขึ้น

    “นั่นดิ แค่วิ่งไปวิ่งมาฉันก็แทบจอดแล้ว” เขตแดนตอบไป และไม่นานนัก ตัวของเนชินเองก็ลืมตาขึ้นมาได้ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นมา

    “ขอบคุณมากนะครับ” เนชินบอกกับอาจารย์ทั้งสอง

    “เออ ไม่ต้องห่วง เอาไว้พรุ่งนี้เจอกันอีกแล้วกัน” เดธพูดขึ้น จากนั้นตัวของเขาก็เดินออกไปด้านนอกในทันที

    “พรุ่งนี้เตรียมตัวให้พร้อมนะเว้ย” ดู๊ดบอกกับเด็กๆพวกนั้น ก่อนที่กลุ่มของเนชินเองจะช่วยกันลากสังขารลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

    “เฮ้ เราจะมานอนตรงนี้ทั้งคืนไม่ได้นะ ไปเถอะ” เนชินพูดขึ้นและพยายามจะดึงอุโมจาขึ้นมา อุโมจาเองก็ค่อยๆลุกขึ้น

    “เฮ้อ นี่พรุ่งนี้เราต้องเจอแบบนี้อีกเหรอ??” คริสโตเฟอร์ถามไป

    “เอาน่า อย่างน้อยดูแกก็น่าจะเอ็นดูพวกเรานะ” เขตแดนบอกไป

    “เฮ้อ กลับไปถึงห้องฉันจะไปนอน แล้วไม่ต้องมากวนฉันนะ” ฟิลิปพูดขึ้น

    “เหมือนกัน อย่ามากวนฉันเหมือนกัน” คิมยูจินบอกแบบเซงๆ

    “เออ ใจเย็น เราก็เหนื่อยมามากพอหล่ะ” โจพูดขึ้น

    “นั่นดิ เราไปหาไรกินดีกว่า” อัลลันพูดขึ้น

    “อืม อยากรู้เหมือนกันเย้นนี้จะมีอะไรกิน” อุโมจาพูดขึ้น จากนั้นไม่นานนัก พวกเขาก็พากันลากสังขารออกจากโรงฝึก เพื่อเดินทางไปยังโรงอาหารต่อ 

     

    กลุ่มของเนชินเดินไปตามทางเรื่อยๆ และไม่นานนัก พวกเขาก็เจอกับกลุ่มของนานะอีกครั้ง ดูเหมือนว่าพวกเธอจะมาดักรอพวกเขาอยู่นานแล้ว เมื่อทั้งสองกลุ่มเจอกัน พวกเขาก็พากันไปโรงอาหารในทันทีเพื่อรับแจกอาหาร และเมื่อทุกคนได้รับอาหารมาแล้ว พวกเขาก็มานั่งทานข้าวด้วยกันในทันที

    “เฮ้ วันนี้พวกนายเป็นยังไงกันบ้างอ่ะ ดูเหมือนจะเหนื่อยๆนะ??” นานะถามไป

    “ก็แน่หล่ะ อาจารย์เดธกับดู๊ดแกโหดชิบเป๋ง วิญญาณจะออกจากร่างหล่ะ” เนชินพูดขึ้น

    “นั่นดิ สอนโหดเหมือนโกรธใครมาอ่ะ” คริสโตเฟอร์พูดจบก็ตักอาหารเข้าปาก

    “ก็นะ พวกนายคงต้องพักกันเยอะเลยหล่ะ” คามาคุริพูดขึ้น

    “วันนี้พวกเราก็ฝึกเยอะเหมือนกัน ฝึกที่นี่แล้วลับฝีมือได้เยอะขึ้นเลย” อดาเน็คพูดขึ้น

    “ไม่รู้ว่าเราจะสอบตอนไหนอ่ะนะ เพราะฉะนั้นลับฝีมือเอาไว้ตลอดดีกว่า” อุโมจาพูดขึ้น

    “แต่จะว่าไป พรุ่งนี้ก็เริ่มเรียนเต็มรูปแบบแล้วนี่??” อัลลันถามไป

    “แต่เราเลือกวิชาเรียนได้นี่ เหมือนเรียนมหาลัยเลยนี่ แค่เราต้องไปเอาตัวรอดตอนสอบเองหน่ะ” มาเรียน่าพูดขึ้น

    “นั่นสิ ถ้าพวกเราสอบตก พวกเราม้วนเสื่อเลยนะ” ฟิลิปพูดขึ้น

    “เอาน่า พวกนายสอบผ่านได้สบายอยู่แล้วหล่ะ” สเตลล่าพูดไป

    “สาธุจ้ะ ก็หวังไว้แบบนั้น ไม่รู้ว่าจะต้องสอบอะไรบ้าง” โจพูดขึ้น

    “โรงเรียนนักฆ่าแบบนี้ ก็คงจะให้ฆ่าคนนั่นหล่ะนะ” มาเรียพูดไป

    “แค่นั้นสบายอยู่แล้ว จะให้ไปฆ่าใครก็เอาเถอะ” เขตแดนพูดขึ้น

    “แต่มันก็ไม่ง่ายนะ ถ้าเกิดยิ่งไปฆ่าคนข้างนอก ถ้างานพลาดนี่เรามีสิทธิได้นอนคุกด้วยนะ” เมอร์ลิน่าพูดขึ้น  

    “แล้วถ้าสมมติว่าเราโดนไล่ออกหล่ะ จะเป็นยังไง??” คิมยูจินถามไป

    “ฉันว่าไปถามรุ่นพี่พวกนายที่ชื่อพี่มอร์ตี้ดีกว่า” เอลซ่าบอกไป และในตอนนั้นเอง จู่ๆ มอร์ตี้ก็เดินเข้ามาที่โต๊ะของพวกเด็กๆ จากนั้นก็นั่งอยู่หัวโต๊ะเพื่อทักทายทุกคน

    “เป็นยังไงบ้างวันนี้เด็กๆ โดยเฉพาะพวกนาย สองหน่อนั่นคงเล่นหนักเลยสินะ??” มอร์ตี้ถามไป

    “ก็หนักเลยครับ พวกเราเกือบตายแหนะ” เนชินตอบไป

    “เออนี่ คือว่า เย็นนี้ฉันจะนัดคุยอะไรกับพวกเธอหน่อย ซักทุ่มนึง มาเจอฉันที่โรงยิมเก่านะ มาเงียบๆหล่ะ” มอร์ตี้พูดขึ้น ท่ามกลางทุกคนที่เหนื่อยเต็มที่และไม่ค่อยอยากจะไป แต่ก็ต้องไปตามที่มอร์ตี้บอก

     

    กลับมายังหอพักชาย ซึ่งในตอนนี้บรรดาเหล่านักเรียนชายต่างก็พากันกลับมาที่หอพัก กลุ่มของอินเฟอร์โน่เองก็เหมือนกัน พวกเขามารวมตัวกันที่มุมโซฟาที่ใช้สำหรับพักผ่อนด้านนอก พวกของอินเฟอร์โน่กำลังนั่งพักผ่อนอยู่แถวนั้นดีๆ ในตอนนั้นเอง พวกเขาก็เห็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือกลุ่มที่เข้าประลองกับเนชินเมื่อวาน พวกนั้นเห็นพวกของอินเฟอร์โน่นั่งที่ประจำพวกเขาอยู่ พวกนั้นก็เข้ามาหาอินเฟอร์โน่และพูดขึ้น

    “เฮ้ย ที่นี่ที่ของพวกฉันเว้ย” พวกของอินเฟอร์โน่ที่ได้ยินในตอนนั้นก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว

    “อะไรของมึงวะ มีป้ายแขวนไว้ตอนไหนวะ??” อินเฟอร์โน่ถามด้วยอาการเอาเรื่อง

    “เอ้ย พวกมึงคุ้นๆนะ ใช้พวกที่แพ้เด็กใหม่เมื่อวานใช่ปะ??” นากะตะถามไปแบบกวนๆ ในตอนนั้นพวกมันก็ถึงกับของขึ้น

    “อะไร ห่ะ??” มันคนหนึ่งจะต่อยเข้ามา แต่เรนาวอสเองจับหมัดของมันเอาไว้ ในตอนนั้นทั้งสองฝ่ายก็เริ่มจะเอาเรื่องกันแล้ว

    “เฮ้ยพวก ใจเย็น อยากเข้าคุกทั้งคู่ไง??” ลาเกียครูซถามไป

    “พวกกูไม่กลัวเว้ย ไฮน์ริชลูกพี่กูจะช่วยพวกกูเอง!!” มันตอบกลับไป

    “ไฮน์ริช อ้อ ไอ้นาซีนั่นเหรอมันออกจากห้องพยาบาลยังวะ??” วาดีนถามไป

    “นั่นดิ ป่านนี้คงนอนหยอดน้ำข้าวต้มแล้วม้าง??” แม็กซ์พูดอย่างกวนๆ พวกนั้นจะเข้าเล่นกับพวกของอินเฟอร์โน่ แต่จู่ๆ สัญญาณเตือนบริเวณนั้นก็ดังขึ้น

    “หวอ!!”

    “เตือนครั้งที่ 1 แยกกันซะ ไม่งั้นเราจะส่งคนไปจับพวกแกทั้งคู่!!” ในตอนนั้นทั้งสองฝ่ายที่ได้ยินก็รีบแยกออกจากกันในทันที

    “เฮ้ย กลับไปดีกว่า ตอนที่พวกกูยังอารมณ์ดีเนี่ย” จอห์นบอกกับพวกมันไป

    “นั่นดิ เอางี้ ฉันจ้างพวกแกคนละล้าน ให้พวกแกไปดีๆ เอามั้ย??” เอ็ดวาร์ดขิงพวกมันไป

    “เฮ้อ ระยำเอ้ย กูจะจำหน้าพวกมึงเอาไว้ แล้วพวกมึงจะรู้สึก ฝากไว้ก่อนเถอะ” มันพูดจบก็เดินออกไปในทันที

    “เฮ้ย รีบมาเอาคืนด้วยนะเว้ย!!” เรนาวอสตะโกนไล่หลังมัน พร้อมกันนั้นก็ชูมือสัญลักษณ์แบบนาซีเป็นการล้อเลียนพวกมันไปด้วย

     

    ที่ห้อง 305 ห้องของกลุ่มนับถือศาสนาคริสต์ หลังจากที่พวกเธอทำการฝึกเรียบร้อยแล้ว พวกเธอก็กลับมาพักผ่อนกันที่ห้อง หลังจากที่พวกเธอสวดมนต์กันแล้ว พวกเธอก็คุยนั่นคุยนี่กันไปด้วย

    “วันนี้ฝึกกันเป็นยังไงบ้าง ทุกคน??” อีชีเตถามคนในห้องไป

    “ฝึกยิงปืนกันหน่ะ โครี่ยิงปืนโคตรแม่นเลย” เอเลนอร์พูดขึ้น

    “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ความจริงฉันว่าฉันเริ่มขึ้นสนิมหล่ะ” โครี่บอกไป

    “เสียดาย ฉันประลองกับหุ่นฝึก แต่หุ่นฝึกมันตั้งระดับง่ายมากไว้อ่ะ” หลินบอกไป

    “ดีแล้วหล่ะ ทำจากเล็กไปใหญ่ไง” ฮอร์ตุสพูดไป

    “เฮ้อ พรุ่งนี้ก็เริ่มเรียนแล้วสินะ” บาตาพูดขึ้น

    “นั่นสิ ยังไม่อยากจะไปเรียนเลย วันนี้ก็เหนื่อยมากหล่ะ” เจน่าพูดขึ้น

    “มันเรียนแบบมหาลัยนี่ เลือกวิชาได้ ชิลๆดี” แคทเทอรีนพูดขึ้น

    “ใช่ แต่ถ้าเราสอบตก เราม้วนเสื่อเลยนะ” บาตาพูดขึ้น

    “เออ ว่าแต่การสอบนี่มันจะเป็นยังไงหล่ะ??” เจน่าถามไป

    “เท่าที่ฉันได้ยินมานะ เหมือนว่าพวกเขาจะให้เราไปทำงานนอกหน่ะ ถ้าทำสำเร็จก็สอบผ่าน” ฮอร์ตุสบอกไป

    “งั้นฉันคงผ่านสบายๆแล้วหล่ะ” โครี่พูดขึ้น

    “พูดแบบนี้แปลว่าเคยรับงานนอกสินะ??” เอเลนอร์ถามไป

    “เอ๊ะ แล้วถ้าเราไปรับงานนอกหล่ะ??” หลินถามไป

    “โดนไล่ออกสิ เรื่องนี้ร้ายแรงมากเลยนะสำหรับโรงเรียนนี้” อีชีเตบอกไป

    “เอาเถอะ ยังไงก็รอดูกันไป” แคทเทอรีนพูดจบก็เอนหลังนอนในทันที

     

    และที่ห้อง 402 กลุ่มเด็กหญิงในห้องนั้นก็กลับมาพักผ่อนกันหลังจากที่พวกเธอทำการฝึกฝนฝีมือกันแล้ว

    “เฮ้อ เหนื่อยจริงวันนี้” เอสการ์พูดขึ้น

    “เอาน่า เดี๋ยวไปเรียนจริงอาจจะเหนื่อยกว่านี้” จินนี่พูดขึ้น

    “เฮ้ ได้ข่าวว่าพวกเธอสองคนดวลมีดกันด้วยนี่??” คามิลล่าพูดขึ้นและหันไปหาริวโซและซาชิน

    “ใช่ แต่ฉันชนะเธอนะ” ซาชินพูดขึ้น

    “ไม่ ฉันต่างหากที่ชนะ” ริวโซไม่ยอมเลยบอกไปบ้าง

    “เอาน่า ก็ต้องรอดูกันยาวๆ ตอนนี้เถียงกันไม่จบหรอก” โดโรธีพูดขึ้น

    “โอ้ย ฉันอยากจะตายอยู่แล้ว อยากไปหอชายจัง” โรสพูดขึ้น

    “นี่ อยากโดนหรือไงจ๊ะ เข้าเขตหอพักชายนี่ติดคุกยาวนะ” แมรี่บอกโรสไป

    “เออ จะว่าไป ฉันไปได้ยินเรื่องนึงมา พวกเธอเห็นโกดังเล็กที่อยู่หลังโรงเรียนหรือเปล่า ได้ยินว่าที่นั่นเป็นที่ที่พวกเด็กไปจู๋จี๋กันอ่ะ??” เอสการ์ถามไป

    “โห ไปรู้มาจากไหนเนี่ย??” จินนี่ถามอย่างตื่นเต้น

    “สงสัยคงต้องไปเซอร์เวย์ดูหน่อยแล้วหล่ะ” โรสพูดขึ้น

    “แหม่ กระสันขนาดนั้นเลยหรือไงจ๊ะ??” โดโรธีถามไป

    “เมื่อไหร่จะได้ถลกหนังคนจริงๆซะทีนะ??” ซาชินถามไป

    “เฮ้ย อย่าแย่งคิวฉันสิ!!” ริวโซตอบกลับไป

    “เฮ้อ อยากทำอะไรก็ทำเถอะ ฉันนอนก่อนแล้วกัน” แมรี่บอกไปและเอนหลังนอน

    “เออ นั่นดิ นอนด้วยคนแล้วกัน” คามิลล่าพูดจบและนอนตาม

     

    ณ โรงยิมเก่าแห่งหนึ่งของโรงเรียน ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาประมาณ 7 ทุ่มหน่อยๆ ซึ่งอีกไม่ถึงชั่วโมงก็จะถึงเวลาเคอร์ฟิวที่ห้ามนักเรียนออกจากห้องพักแล้ว แต่กลุ่มของเนชินที่ลากสังขารออกมาจากห้องพักแล้วแอบมาที่โรงยิม พวกเขาก็มาพบกับกลุ่มของนานะที่กำลังรออยู่แถวนั้นก่อนแล้วเนื่องจากหอพักหญิงอยู่ใกล้โรงยิมกว่าด้วย

    “เฮ้ มาแล้วเหรอ??”

    “ใช่ แล้วพี่มอร์ตี้ยังไม่มาเหรอ??” เนชินถามไป และในตอนนั้นเอง ตัวของมอร์ตี้ก็แอบกระซิบเรียกพวกเขาจากด้านข้างโรงยิม

    “เฮ้ ทางนี้”

    กลุ่มของเนชินและนานะรีบตามมอร์ตี้ไปในทันที ซึ่งมอร์ตี้เรียกพวกเขามาที่โซนพุ่มไม้แถวนั้น 

    “เออ พี่เรียกพวกเรามามีอะไรเหรอ??” เนชินถามไป

    “พวกนายฟังนี่ ฉันแอบติดต่อกับชาร์ลีของนาย แล้วนายฟังนี่” มอร์ตี้พูดจบก็เอาโทรศัพท์ของเธอออกมา จากนั้นก็เปิดคลิปเสียงที่เธออัดเอาไว้

    “มอร์ตี้ ฉันไม่รู้จะไว้ใจใครแล้ว เธอฟังฉันให้ดีนะ”

    “อะไรของนายเนี่ย??”

    “ตอนนี้ดูเหมือนฉันกำลังจะโดนหักหลัง นี่อาจจะเป็นการคุยครั้งสุดท้ายของเรา”

    “เฮ้ย อะไรของนายวะ ติสต์แตกเหรอ??”

    “ไม่ ฉันอยากจะบอกว่า ถ้าฉันเป็นอะไรไป ฉันฝากเจ้าเด็กใหม่ด้วย ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วหล่ะว่าทำไมคุณเฮนรี่โดนเก็บ ตอนนี้โรงเรียนเรากำลังมีปัญหาภายใน อีกไม่นานทุกอย่างจะวุ่นวาย แล้วก็อย่าไว้ใจอาจารย์คาร์ลด้วยหล่ะ ฉันพูดแค่นี้เลย เอาไว้ถ้าฉันรอด ฉันจะไปหาเธอแล้วกัน..” ในตอนนั้นเมื่อทุกคนได้ยินต่างก็พากันงงเป็นไก่ตาแตก

    “เออ มันเกิดอะไรขึ้นครับเนี่ย??” คริสโตเฟอร์ถามไป

    “จะว่าไป อาจารย์คาร์ลก็น่าสงสัยจริงๆนะครับ” คิมยูจินออกความเห็น

    “เออ มีสิทธิ์นะ ตอนนี้แกแทบจะแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของโรงเรียนแล้ว” มาเรียพูดขึ้น

    “ถ้าอย่างงั้น พวกเราเป้นศัตรูกับแก จะไม่เป็นไรเหรอ??” คามาคุริถามไป

    “ไม่น่าจะถึงขนาดนั้นหรอก ทั้งโรงเรียนมีใครชอบแกบ้างหล่ะ??” ฟิลิปถามไป

    “ตอนนี้เราคงยังทำอะไรไม่ได้ นอกจากต้องสืบเรื่องนี้หน่ะ” อดาเน็คตอบไป

    “อืม ถ้าอย่างงั้น เราคงต้องติดตามดูว่าไอ้คาร์ลกับไฮน์ริชกำลังทำอะไรอยู่หน่ะ” อุโมจาพูดขึ้น

    “แต่เราจะสืบยังไงหล่ะ เราคงเดินเข้าไปในห้องบอกให้มันพูดไม่ได้หรอกนะ??” สเตลล่าถามไป

    “ฉันจะหาแนวร่วมเพื่อช่วยเรื่องนี้เอง” มอร์ตี้พูดขึ้น

    “โอ้ ว่าไงว่าตามกันเลยพี่” เอลซ่าพูดขึ้น

    “แต่ฉันว่านะ พวกไอ้อาจารย์คาร์ลมันคงเพ็งเล็งพวกเราแล้วหล่ะ” โจพูดไป

    “เออ แล้วพวกเธอจะเป็นอะไรหรือเปล่าหล่ะ??” อัลลันถามไป

    “โอ้ย ไม่ต้องห่วงหรอก พวกเราเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว” เมอร์ลิน่าพูดไป

    “ตอนนี้เราคงต้องเรียนไปตามปกติก่อน ถ้ามีข่าวอะไรก็ส่งให้กันดีกว่านะครับ” เขตแดนพูดขึ้น

    “ได้เลย พวกเราจะช่วยอีกแรง” มาเรียน่าบอกไป 

    “ถ้าเราอัดเสียงสอดแนมในห้องที่มันคุยกันได้ ก้น่าจะดีนะครับ” เนชินพูดขึ้น

    “จริงด้วย ตอนนี้เราคงต้องมีเครื่องดักฟังซักเครื่อง คอยสืบความลับมัน ตอนนี้พวกนายก็เรียนไปตามปกติก่อนแล้วกัน เอาไว้ถ้าฉันมีอะไรฉันจะส่งข่าวอีกที รีบกลับกันก่อนดีกว่า เดี๋ยวโควต้าทำผิดหมด” มอร์ตี้บอกกับเด็กๆไป จากนั้นพวกเขาก็รีบแยกย้ายกันในทันที

    =====================================================================

    ดูเหมือนว่ากลุ่มของเนชินจะเจอเรื่องที่มีเงื่อนงำเข้าแล้ว และเหตุการณ์จะเป็นยังไงต่อไป อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า 

    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ แหะๆ

    https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig ซับแนลหนูด้วย 

    ให้ของขวัญเป็นกำลังใจกันได้ครัช ไหว้หล่ะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×